คลังเก็บป้ายกำกับ: HUAWEI_GR5_2017

Huawei ตอบรับนโยบาย ‘ช้อป ช่วย ชาติ’ จัดราคาพิเศษสำหรับสมาร์ทโฟน 4 รุ่นยอดนิยม

unnamed

หัวเว่ยตอบรับนโยบาย ‘ช้อป ช่วย ชาติ’ จัดราคาพิเศษสำหรับสมาร์ทโฟน 4 รุ่นยอดนิยมในทุกกลุ่มสินค้า ได้แก่ HUAWEI nova2i, HUAWEI P10 ขนาด 32 GB, HUAWEI GR5 2017 และ HUAWEI Y7 ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น

unnamed

unnamed-3

HUAWEI nova2i ราคาพิเศษ 9,900 บาท
สมาร์ทโฟนรุ่นกลางรุ่นล่าสุดจากหัวเว่ยที่ชูจุเด่นการเป็นสมาร์ทโฟน 4 กล้องรุ่นแรกในประเทศไทย ทำให้การถ่ายภาพสนุกยิ่งขึ้นด้วยกล้องคู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เหมาะสำหรับการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ นอกจากนั้นกล้องหน้าของ HUAWEI nova2i ยังมาพร้อมกับ Selfie Toning Flash ช่วยให้คุณสามารถเซลฟี่ได้ชัด สวยงาม แม้จะอยู่ในที่ที่มีแสงน้อย โดยพร้อมหน้าจอแบบ HUAWEI FullView Display ที่ช่วยเพิ่มมุมมองของคุณได้กว้างขึ้น

unnamed-4

HUAWEI P10 ขนาด 32 GB ราคาพิเศษ 13,900 บาท
สมาร์ทโฟนเรือธงของหัวเว่ยซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีไลก้าในกล้องหน้าเช่นเดียวกับกล้องหลังเลนส์คู่ โดยมีเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าแบบ 3 มิติ ที่สามารถตรวจจับลักษณะต่างๆบนใบหน้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ พร้อมทั้งยังมีฟีเจอร์ปรับแต่งภาพพอร์ทเทรทและฟีเจอร์ถ่ายภาพโบเก้ พร้อมอัลกอริทึ่มในการปรับแต่งภาพให้สวยงามดูเป็นธรรมชาติ และใช้เลนส์เทคโนโลยีไลก้าจึงทำให้ได้ภาพถ่ายที่มีสีโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์

unnamed-2

HUAWEI GR5 2017 ราคาพิเศษ 6,990 บาท
สมาร์ทโฟนกล้องหลังเลนส์คู่ช่วยให้คุณสนุกกับการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ในราคาสบายกระเป๋า

unnamed-5

HUAWEI Y7 ราคาพิเศษ 4,990 บาท
สมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดที่มีขนาดจอใหญ่ 5.5 นิ้ว คมชัดระดับ HD พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หัวเว่ยแบรนด์ช้อปและร้ายตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

from:http://www.flashfly.net/wp/200965

Huawei ปล่อยโปร “ช้อปช่วยชาติ” ลดราคา 4 รุ่น ฮิต P10, nova 2i, GR5 2017 และ Y7

โครงการช้อปช่วยชาติ จาก Huawei กับโปรโมชั่นมือถือ 4 รุ่นยอดนิยม ราคาพิเศษทั้ง Huawei P10 32GB, Nova 2i, GR5 2017 และ Y7 ซึ่งนอกจากจะได้มือถือใหม่กลับบ้านไปแล้ว ยังได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีอีกด้วยนะ

มาดูกันว่าทั้ง 4 รุ่นที่กล่าวมานั้น แต่ละรุ่นจะมีราคาพิเศษแค่ไหนกันบ้าง เริ่มจากน้องเล็กอย่าง Huawei Y7 ที่มาพร้อมกับหน้าจอเต็มตาขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD และแบตเตอรี่สุดอึด 4000 mAh ให้ใช้งานกันได้เต็มที่ 1 – 2 วัน จากการชาร์จครั้งเดียว

ต่อด้วยมือถือกล้องหลังคู่ราคาประหยัดอย่าง Huawei GR5 2017 ที่ถึงจะเป็นมือถือรุ่นเล็กแต่ก็มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ให้ถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้เป็นธรรมชาติ

และสมาร์ทโฟนเรือธงช่วงต้นปีอย่าง Huawei P10 32GB ที่มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ที่ใช้เทคโนโลยีจาก Leica ช่วยให้ภาพถ่ายที่ได้ออกมาสีสันสวยงาม คมชัด แถมโหมดโบเก้ก็ยังออกมาเป็นธรรมชาติไม่แพ้ใคร

สุดท้ายกับสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่พึ่งเปิดตัวได้เดือนกว่าๆ Huawei Nova 2i กับจุดเด่นที่เป็นมือถือ 4 กล้อง รุ่นแรกที่วางจำหน่ายในประเทศไทย แถมด้วยหน้าจอยาวอัตราส่วน 18:9 ความละเอียด Full HD+ พร้อมสเปคที่สามารถใช้งานได้แบบลื่นๆ ในราคาเบาๆ

ผู้ที่สนใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสมาร์ทโฟนหรือการลดหย่อนภาษี ก็เข้าไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หัวเหว่ยแบรนด์ช็อป และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้เลย

from:https://droidsans.com/huawei-shop-chuay-chart-special-promotion/

Huawei ประกาศวางจำหน่าย Huawei GR5 2017 Premium Version (RAM 4GB+ROM 64GB) ราคา 10,900 บาทที่งาน Mobile Expo

หัวเว่ยคาดยอดขายโตขึ้นกว่า 2 เท่า อัดโปรโมชั่นและชูบริการประกันเครื่องนาน 2 ปี พร้อมส่ง Huawei GR5 2017 Premium Version รุกตลาดสมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่อง

vivo

หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) ลุยตลาดสมาร์ทโฟนเต็มสูบ ตั้งเป้ายอดขายโตขึ้นกว่า 2 เท่า อัดงบลงทุนเพิ่มพื้นที่ขายในงาน TME มากกว่า 3 เท่าตัว ประกาศวางจำหน่าย ‘Huawei GR5 2017 Premium Version’ ต่อยอดความสำเร็จของ GR5 Series พร้อมมอบโปรโมชั่นและบริการหลังการขายสุดพิเศษเอาใจลูกค้า

unnamed

มร.ไมเคิล จิ่ง ผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์ ดีไวซ์ของหัวเว่ยเป็นที่ตอบรับและเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดไทยด้วยคุณภาพเหนือระดับและประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยมสำหรับลูกค้า หัวเว่ยพร้อมบุกตลาดต่อเนื่อง โดยประเดิมด้วยงานจำหน่ายมือถือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอย่าง Thailand Mobile Expo ในระหว่างวันที่ 9-12 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ครั้งนี้หัวเว่ยได้เพิ่มพื้นที่การจำหน่ายมากกว่าครั้งก่อนถึง 3 เท่าตัว ซึ่งครอบคลุมโซนเพลนารีฮอล์, โซนฟอร์เย่ และโซนพลาซ่าที่จะจัดสร้างเป็น “Huawei Pavillion” สำหรับการจัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ นอกจากนี้ยังประกาศวางจำหน่าย Huawei GR5 2017 Premium Version ซึ่งเราเชื่อว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกันและเป็นการสานต่อความสำเร็จของ Huawei GR5 2017 สมาร์ทโฟนกล้องคู่ในราคาที่ใครๆก็เข้าถึงได้รุ่นแรกของเรา ซึ่งเราตั้งเป้ายอดขายจากงานครั้งนี้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวจากครั้งที่แล้ว”

vivo

Huawei GR5 2017 Premium Version คือ สมาร์ทโฟนกล้องคู่ ที่มาพร้อม RAM 4 GM และ ROM 64GB ในราคา 10,900 บาท โดยมีให้เลือก 2 สี คือ สีทอง และสีเทา พร้อมของสมมนาคุณ Mini tripod มูลค่า 790 บาท นอกจากนั้น หัวเว่ยยังมอบข้อเสนอสุดพิเศษด้วยบริการหลังการขาย ‘2 Years Warranty’ เงื่อนไขการรับประกัน เมนบอร์ด, หน้าจอ และแบตเตอรี่ โดยบริการฟรีค่าแรงและค่าอะไหล่เป็นระยะเวลา 2 ปี สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้ามือถือหัวเว่ยเฉพาะรุ่น Huawei P9,P9 Plus, MediaPad M3, GR5 2017, และ GR5 2017 Premium Version และเตรียมมอบของสมมนาคุณพิเศษมากมายสำหรับลูกค้าที่ซื้อหัวเว่ยในงาน Thailand Mobile Expo โดยผู้ที่สนใจสามารถเลือกซื้อสินค้าหัวเว่ยได้ที่ โซนเพลนารีฮอล์ บูธ PM6/1, 6/2 และบูธ PM 9/2, โซนฟอร์เย่ ที่บูธ M4, และ โซนพลาซ่า ZL1

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=173470

เตรียมพบ Huawei GR5 2017 Premium Version เพิ่ม RAM 4GB อัพความจุ 64GB คาดเริ่มวางขายในงาน TME

ใกล้งาน Mobile Expo เข้ามาทุกทีแต่ละค่ายก็เตรียมจัดโปรโมชั่นมาซัดกัน รวมถึงการเลือกวางจำหน่ายรุ่นใหม่ๆ ในงานนี้ด้วย โดย Huawei เองก็ก็ดูเหมือนว่าจะมีรุ่นอัพสเปคของ GR5 2017 ที่เพิ่งจะวางจำหน่ายไปไม่นานด้วย นั่นก็คือ GR5 2017 Premium Version ที่มีการอัพ RAM เป็น 4GB และเพิ่มหน่วยความจำให้เป็น 64GB ในราคาที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 10,900 บาท

โดยข่าวนี้มาจากเพจ Huawei Mobile TH ที่มีการโพสต์ภาพของ GR5 2017 Premium version ออกมาพร้อมประกาศราคาเป็นที่เรียบร้อย แต่ไม่ทันไรก็ลบภาพทิ้งไป และทางแอดมินก็ได้บอกว่ายังไม่ทราบกำหนดวางจำหน่าย ซึ่งในใบประกาศนั้นมีรายละเอียดว่าจะวางขายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ แต่ดูเหมือนน่าจะมีการเลื่อนออกไปเพื่อไปเริ่มวางจำหน่ายในงาน Mobile Expo แทน

 

source : huawei

from:http://droidsans.com/huawei-gr5-2017-premium-version-to-come-with-4gb-ram-and-64gb-rom

dtac ออกโปรจับมือกับ Huawei ลดสูงสุด 50% พร้อมรับสิทธิ์ลุ้นฟรี กล้อง Leica D’Lux 109 มูลค่า 39,200 บาท

หลังจากที่ทาง Huawei ได้ทำการจับมือกับ Leica และได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาโดยตลอด มาล่าสุด ทาง dtac ก็ได้ออกโปรโมชั่นใหม่ที่ทำให้ Huawei นั้นดูน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม เพราะถ้าหากว่าซื้อสมาร์ทโฟน Huawei กับ dtac ก็จะได้รับส่วนลดสูงสุด 50% พร้อมกับลุ้นเป็นเจ้าของกล้อง Leica D’Lux 109 มูลค่า 39,200 บาท ทุกสุปดาห์ สัปดาห์ละ 3 รางวัล อีกด้วย

รุ่น ราคาปกติ ราคาพิเศษ ค่าบริการล่วงหน้า แพ็กเกจ ย้ายค่ายเบอร์เดิมลดเพิ่ม อื่นๆ
Huawei Mate 9 Pro 27,900 20,900
3,000
599 ขึ้นไป
1,500
Huawei Mate 9 23,900 16,900 ฟรี microSD 64GB (มีจำนวนจำกัด)
Huawei GR5 2016 8,900 5,900 2,000
Huawei P9 16,990 10,990
3,000
Huawei P9 Plus 21,990 14,990 699 ขึ้นไป

สำหรับสมาร์ทโฟนของ Huawei ที่เข้าร่วมโปรโมชั่นในครั้งนี้มีด้วยกัน 5 รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นนั้นก็เป็นรุ่นที่กำลังได้รับความนิยมในเวลานี้ เพราะเป็นกล้องคู่ dual-camera ทั้งหมด อย่าง Huawei Mate 9 Pro, Mate 9, GR5 2017, P9 และ P9 Plus โดยเงื่อนไขก็คือ ต้องชำระค่าบริการล่วงหน้า 3,000 บาท (ยกเว้น GR5 2017 ที่ต้องชำระแค่ 2,000 บาท)

อีกอย่างคือต้องสมัครแพ็กเกจรายเดือน 599 ขึ้นไป (ยกเว้น P9 Plus ที่ต้องสมัครแพ็กเกจ 699 ขึ้นไป) และถ้าหากว่าเป็นการย้ายค่ายเบอร์เดิม ก็จะได้ลดเพิ่ม 1,500 บาท รวมๆ แล้วจะได้รับส่วนลดสูงสุด 50% เลยทีเดียว ซึ่งแพ็กเกจ 599 ของ dtac จะสามารถใช้งาน 4G ได้ 16GB

นอกจากนี้ dtac ก็ยังพ่วงสิทธิ์สำหรับคนที่ซื้อ Huawei กับทาง dtac อีกด้วย โดยจะได้สิทธิ์ลุ้นรับ กล้อง Leica รุ่น D’Lux 109 มูลค่า 39,200 บาท ให้ได้สัมผัสกับความเป็น Leica แบบขั้นสุด ไปแบบฟรีๆ สัปดาห์ละ 3 เครื่อง รวมแล้ว 21 เครื่อง

โปรโมชั่นนี้สามารถใช้บริการได้ทั้งทางหน้าร้าน dtac และ dtac online store โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม – 12 มีนาคม 2560 ถ้าหากว่าใครสนใจก็สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ dtac หรือจะไปสอบถามที่ศูนย์บริการ dtac ก็ได้ครับ

from:http://droidsans.com/node/211933

dtac ออกโปรจับมือกับ Huawei ลดสูงสุด 50% พร้อมรับสิทธิ์ลุ้นฟรี กล้อง Leica D’Lux 109 มูลค่า 39,200 บาท

หลังจากที่ทาง Huawei ได้ทำการจับมือกับ Leica และได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาโดยตลอด มาล่าสุด ทาง dtac ก็ได้ออกโปรโมชั่นใหม่ที่ทำให้ Huawei นั้นดูน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม เพราะถ้าหากว่าซื้อสมาร์ทโฟน Huawei กับ dtac ก็จะได้รับส่วนลดสูงสุด 50% พร้อมกับลุ้นเป็นเจ้าของกล้อง Leica D’Lux 109 มูลค่า 39,200 บาท ทุกสุปดาห์ สัปดาห์ละ 3 รางวัล อีกด้วย

รุ่น ราคาปกติ ราคาพิเศษ ค่าบริการล่วงหน้า แพ็กเกจ ย้ายค่ายเบอร์เดิมลดเพิ่ม อื่นๆ
Huawei Mate 9 Pro 27,900 20,900
3,000
599 ขึ้นไป
1,500
Huawei Mate 9 23,900 16,900 ฟรี microSD 64GB (มีจำนวนจำกัด)
Huawei GR5 2016 8,900 5,900 2,000
Huawei P9 16,990 10,990
3,000
Huawei P9 Plus 21,990 14,990 699 ขึ้นไป

สำหรับสมาร์ทโฟนของ Huawei ที่เข้าร่วมโปรโมชั่นในครั้งนี้มีด้วยกัน 5 รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นนั้นก็เป็นรุ่นที่กำลังได้รับความนิยมในเวลานี้ เพราะเป็นกล้องคู่ dual-camera ทั้งหมด อย่าง Huawei Mate 9 Pro, Mate 9, GR5 2017, P9 และ P9 Plus โดยเงื่อนไขก็คือ ต้องชำระค่าบริการล่วงหน้า 3,000 บาท (ยกเว้น GR5 2017 ที่ต้องชำระแค่ 2,000 บาท)

อีกอย่างคือต้องสมัครแพ็กเกจรายเดือน 599 ขึ้นไป (ยกเว้น P9 Plus ที่ต้องสมัครแพ็กเกจ 699 ขึ้นไป) และถ้าหากว่าเป็นการย้ายค่ายเบอร์เดิม ก็จะได้ลดเพิ่ม 1,500 บาท รวมๆ แล้วจะได้รับส่วนลดสูงสุด 50% เลยทีเดียว ซึ่งแพ็กเกจ 599 ของ dtac จะสามารถใช้งาน 4G ได้ 16GB

นอกจากนี้ dtac ก็ยังพ่วงสิทธิ์สำหรับคนที่ซื้อ Huawei กับทาง dtac อีกด้วย โดยจะได้สิทธิ์ลุ้นรับ กล้อง Leica รุ่น D’Lux 109 มูลค่า 39,200 บาท ให้ได้สัมผัสกับความเป็น Leica แบบขั้นสุด ไปแบบฟรีๆ สัปดาห์ละ 3 เครื่อง รวมแล้ว 21 เครื่อง

โปรโมชั่นนี้สามารถใช้บริการได้ทั้งทางหน้าร้าน dtac และ dtac online store โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม – 12 มีนาคม 2560 ถ้าหากว่าใครสนใจก็สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ dtac หรือจะไปสอบถามที่ศูนย์บริการ dtac ก็ได้ครับ

from:http://droidsans.com/dtac-huawei-sale-50-percents-promotion

เปรียบเทียบ Oppo F1S vs Moto G4 Plus vs VIVO V5 vs Huawei GR5 2017 และ Moto M ตัวไหนน่าซื้อที่สุด

ตลาดมือถือในช่วงราคา 8,990 บาท เป็นช่วงที่ได้รับความสนใจ และได้รับการถามไถ่เข้ามาทาง Droidsans กันมากมายเหลือเกิน ว่ารุ่นไหนคุ้มที่สุด รุ่นไหนกล้องดี รุ่นไหนแรงกว่า ช่วยฟันธงให้หน่อยว่าตัวไหนน่าซื้อที่สุด วันนี้เราก็เลยจับเอามือถือ 4 รุ่น ที่อยู่ในช่วงราคาดังกล่าว ได้แก่ Oppo F1S, Moto G4 Plus, VIVO V5, Huawei GR5 2017 และ Moto M (รุ่นนี้ราคา 9,990 แต่เราเอามาแถมให้) มาเปรียบเทียบกันให้เห็นๆไปเลย

ก่อนอื่นเรามาดูสเปคคร่าวๆ ของแต่ละรุ่นกันก่อน

Oppo F1S (8,990 บาท)

  • หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD
  • CPU MediaTek 6750
  • GPU Mali T860 
  • ความจุ 32GB
  • RAM 3GB
  • กล้องหลัก 13MP
  • กล้องหน้า 16MP
  • แบตเตอรี่ 3075 mAh

Moto G4 Plus (8,990 บาท)

  • หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD
  • CPU Snapdragon 617
  • GPU Adreno 405
  • ความจุ 32GB
  • RAM 3GB
  • กล้องหลัก 16MP
  • กล้องหน้า 5MP
  • แบตเตอรี่ 3000 mAh

VIVO V5 (8,990 บาท)

  • หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD
  • CPU MediaTek 6750
  • GPU Mali T860
  • ความจุ 32GB
  • RAM 4GB
  • กล้องหลัก 13MP
  • กล้องหน้า 20MP
  • แบตเตอรี่ 3000 mAh

Huawei GR5 (2017) (8,990 บาท)

  • หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD
  • CPU Kirin 655
  • GPU Mali T830
  • ความจุ 32GB
  • RAM 3GB
  • กล้องหลัก 12MP + 2MP
  • กล้องหน้า 8MP
  • แบตเตอรี่ 3340 mAh

Moto M (9,990 บาท)

  • หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD
  • CPU MediaTek Helio P15
  • GPU Mali T860
  • ความจุ 32GB
  • RAM 4GB
  • กล้องหลัก 16MP
  • กล้องหน้า 8MP
  • แบตเตอรี่ 3050 mAh

blog นี้ถอดความออกมาจาก Live Review เปรียบเทียบมือถือทั้ง 5 เครื่อง โดยพี่ Octopatr และพี่ Laruku ก็สามารถรับชมแบบเต็มๆกันได้ข้างล่างนี่เลย

ถ้าใครไม่มีเวลาดู เราก็ได้ทำการสรุปประเด็นสำคัญๆของแต่ละเรื่องที่ได้ทำการเปรียบเทียบมือถือทั้ง 5 เครื่องเอาไว้ให้อ่านกันง่ายๆ โดยแยกเป็น 7 ข้อ ตามนี้เลย

1. ความสว่างหน้าจอ

จากการที่ลองปรับความส่างหน้าจอขึ้นไปที่ 100% เห็นได้ชัดว่า Moto G4 Plus (2), Moto M (5) และ Huawei GR5 (4) ทั้ง 3 รุ่น มีความสว่างของหน้าจอมากที่สุด ตามด้วย Oppo F1S (1)  และ VIVO V5 (3) 

ซึ่งมือถือที่มีความสว่างของหน้าจอยิ่งมาก ก็จะทำให้มือถือรุ่นนั้นสามารถใช้งานกลางแจ้งที่ต้องเจอกับแดดจัดๆ ได้ดียิ่งขึ้น

และจากการลดความสว่างลงมาที่ 0% จะเห็นว่า Moto G4 Plus (2) จะสว่างที่สุด ส่วนอีก 4 รุ่นที่เหลือพบว่าจอมีระดับความมืดพอๆกัน ซึ่งข้อดีของมือถือที่สามารถลดระดับความสว่างของหน้าจอได้มากๆ นั้นก็คือ เวลาใช้มือถือในที่มืด แสงสว่างจากจอจะไม่สว่างเกินไปจนเกิดอาการปวดตานั่นเอง

2. สีของหน้าจอ

เริ่มจากภาพสีขาวดำ จะเห็นว่า OPPO F1S และ Vivo V5 ภาพในส่วนที่เป็นสีขาวจะออกแดงๆ ม่วงๆ ส่วน Huawei GR5 จะออกเขียวนิดๆ

ต่อด้วยการทดสอบภาพสี จากภาพที่ทดสอบทั้งหมดนี้จะเห็นว่า OPPO F1S และ VIVO V5 โทนสีจะคล้ายกัน คือออกแดงๆม่วงๆ ซึ่งจะเห็นได้ชัดมากเมื่อเปิดรูปที่มีโทนสีขาว ส่วน Moto G4 Plus จะออกเหลืองหน่อยๆ Huawei GR5 ก็ออกเขียวหน่อยๆ ส่วน Moto M จะดูเป็นธรรมชาติที่สุด  

3. ประสิทธิภาพเครื่อง

จากการทดสอบด้วย Antutu Benchmark เป็นจำนวนสองรอบ ได้ผลการทดสอบออกมาดังนี้

  1. Huawei GR5 ใช้ CPU Kirin 655 ชนะเลิศไปด้วยคะแนน 5673156544
  2. Moto M ใช้ CPU MediaTek P15 ได้คะแนน 54095, 54513
  3. Moto G4 Plus ใช้ CPU Snapdragon 617 ได้คะแนน 46508, 47484 
  4. Vivo V5 ใช้ CPU MediaTek MT6750 ได้คะแนน 40445, 41359, 
  5. Oppo F1S ใช้ CPU MediaTek MT6750 ได้คะแนน 39607, 39860 

ทดสอบครั้งที่ 1

 ทดสอบครั้งที่ 2

4. ทดสอบการเล่นเกม

จากการทดสอบเล่นเกม พบว่าความเร็วในการเข้าเกม Subway Surfer เรียงลำดับได้ตามนี้

  1. Huawei GR5
  2. Moto M
  3. Vivo V5
  4. Moto G4 Plus
  5. Oppo F1S

และจากการเรียงลำดับจะเห็นได้ว่าคะแนน Benchmark ที่ทดสอบนั้นถือว่าเชื่อถือได้ในระดับนึง เพราะตามที่เห็นว่าคะแนนที่ได้นั้นมีผลกับความเร็วในการโหลดเข้าเกมด้วย คือรุ่นไหนที่ได้คะแนนมากก็จะโหลดเข้าเกมได้เร็วกว่ารุ่นที่ได้คะแนนน้อยกว่า (ยกเว้น Vivo V5 ที่ได้คะแนนน้อยกว่า Moto G4 Plus แต่ดันโหลดเข้าเกมเร็วกว่า)

และจากการทดลองเล่นเกม Temple Run และ Subway Surfers ทั้งหมดสามารถเล่นได้ลื่นๆเหมือนกันทั้ง 5 รุ่น โดยไม่ได้อิงกับคะแนน benchmark แต่อย่างใด ซึ่งในการเล่นเกม 3D ต่างๆนั้น (ถ้าไม่ใช่เกมที่มีกราฟฟิคโหดจัดๆนะ) ส่วนมากจะไม่มีปัญหาในการเล่น เพราะเกมแต่ละเกมจะปรับระดับความละเอียดของกราฟฟิคให้เข้ากับสเปคมือถือที่เราใช้อยู่แล้ว เพื่อให้สามารถเล่นเกมได้แบบลื่นไหล

5. ทดสอบกล้องหน้า

จากผลการทดสอบถ่ายเซลฟี่โดยเปิด Beauty ที่ 50% พบว่า

  • Oppo F1S กล้องหน้าความละเอียด 16MP ให้ภาพที่ออกมาค่อนข้างดี หน้าใสไม่เว่อร์เกินไปและเนื่องจากจอออกโทนสีแดงๆ ม่วงๆ ทำให้ผิวดูสุขภาพดี อมชมพูกันเลยทีเดียว
  • Moto G4 Plus กล้องหน้าความละเอียด 5MP จะมีเลนส์ที่กว้างที่สุด สามารถเก็บภาพมุมกว้างได้โดยไม่ต้องยืดแขนมากเหมาะกับการถ่ายเซลฟี่แบบกลุ่ม แต่ติดตรงที่ไม่มีโหมด Beauty
  • Vivo V5 กล้องหน้าความละเอียด 20MP โหมด Beauty ให้ภาพที่ออกมาดูฟรุ้งฟริ้งเกินจริงไปหน่อย จนทำให้ภาพที่ได้ดูไม่ค่อยคม
  • Huawei GR5 กล้องหน้าความละเอียด 8MP ภาพที่ได้ แม้จะเปิดโหมด Beauty แล้ว แต่น่าจะเป็นที่ Contrast ของจอสูง ทำให้หน้าดูเนียนเป็นธรรมชาติ แต่ดูไม่ขาวผ่องวิบวับมีออร่า
  • Moto M กล้องหน้าความละเอียด 8MP มีเลนส์ที่แคบที่สุด และชัตเตอร์ที่ค่อนข้างช้า ทำให้มือต้องนิ่งนิดนึงเวลาถ่ายในที่แสงน้อย แถมภาพที่ได้ดูเหมือนจะคมชัดสู้ Moto G4 Plus ไม่ได้ด้วย ทั้งๆที่ความละเอียดมากกว่า

6. ทดสอบกล้องหลัง

โทนสีของภาพยังไม่สามารถฟันธงได้เพราะขึ้นอยู่กับหน้าจอของมือถือแต่ละรุ่นด้วย แต่จะมีจุดเด่นๆ ของแต่ละรุ่นดังนี้

  • Oppo F1S กล้องความละเอียด 13MP เลนส์กว้าง มีจุดเด่นที่สามารถถ่ายเป็นไฟล์ RAW ได้ และสามารถปรับ   Shutter Speed ได้ ภาพถ่ายที่ได้ค่อนข้างคมชัด
  • Moto G4 Plus กล้องความละเอียด 16MP Exposure ไม่เป็น Auto ต้องปรับเอง 
  • Vivo V5 กล้องความละเอียด 13MP เลนส์กว้าง และสามารถตั้ง Exposure เป็น Auto หรือปรับเองได้ มีโหมด Beauty ที่สามารถเลือกปรับหน้าเนียน+หน้าใส มากน้อยตามเพศ ช/ญ ได้ แต่ภาพที่ได้จากการทดสอบยังไม่ค่อยคมชัดเท่าไหร่
  • Huawei GR5 กล้องความละเอียด 12MP + 2MP จุดเด่นที่มีโหมดถ่ายรูปเยอะมาก มีโหมด Pro ที่สามารถปรับได้ทั้ง ISO, WB, shutter speed(ลากได้ถึง 8 วินาที), และแน่นอนคือกล้องคู่ที่สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้เป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นจุดขายของ GR5 2017 เลย
  • Moto M กล้องความละเอียด 16MP UI ของกล้องแบบเดียวกับตระกูล Lenovo, โหมดถ่ายภาพมีให้เลือกน้อยมาก 

7. ทดสอบลำโพง

เรียงลำดับเครื่องที่เสียงจากลำโพงดีที่สุด ลงไปน้อยที่สุด

  1. Vivo V5 เปิดดังสุด เสียงไม่แตก และเสียงที่ได้ถือว่าดีเลยทีเดียว
  2. Moto M เสียงดังที่สุดใน 5 เครื่อง เสียงเบส เสียงกลาง และเสียงแหลม ค่อนข้างครบ 
  3. Moto G4 Plus มีเบสนิดๆ เสียงค่อนข้างใช้ได้
  4. Huawei GR5 เบสน้อย และเสียงเครื่องดนตรียังตีกัน  
  5. Oppo F1S เสียงแตกพร่านิดๆ เมื่อเปิดเสียงในระดับดังที่สุด

สรุปผลการให้คะแนนแต่ละรุ่น (เต็ม 10 คะแนน)

  1. Moto G4 Plus – 9 คะแนน การใช้งานโดยรวมถือว่าครบเครื่องที่สุด ไม่มีด้านไหนที่โดดเด่นเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วๆไป ที่ต้องการมือถือราคาไม่แรงแต่สามารถใช้งานได้แบบครบครัน แถมได้รับการอัพเดทเป็น Android 7.0 เรียบร้อยแล้วด้วย
  2. Huawei GR5 2017 – 8 คะแนน เป็นรุ่นเดียวในมือถือกลุ่มราคาระดับนี้ที่ให้กล้องคู่มา ทำให้การถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอสวยและเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้รับการอัพเดทเป็น Android 7.0 ด้วย
  3. Oppo F1S – 7 คะแนน กล้องหน้า-หลัง คุณภาพดีกว่า Vivo V5 ติดตรงที่เป็นรุ่นที่ออกมานานแล้ว CPU ยังไม่แรงเท่าไหร่ และยังใช้ Android 5.1 อยู่ 
  4. Vivo V5 – 7 คะแนน จุดเด่นตรงเสียงจากลำโพง และเสียงจากหูฟัง แต่ติดที่กล้องยังทำออกมาได้ไม่ดีนักโดยเฉพาะการเปิดโหมด Beauty ที่ทำให้ภาพออกมาฟุ้งมากเกินไปจนดูไม่คมชัด

เป็นยังไงบ้างครับ หลังจากดูการเปรียบเทียบมือถือในช่วงราคา 8,990 บาท น่าจะช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นในการซื้อมือถือไม่มากก็น้อยนะ…แต่เพื่อความชัวร์ ถ้าเล็งรุ่นไหนไว้แล้ว และได้ดูการเปรียบเทียบของเราไปแล้ว ก็ไปลองเล่นตัวจริงดูอีกซักรอบก็น่าจะดี เพราะจะได้ฟันธงด้วยตัวเองกันไปเลยว่ารุ่นนี้เหมาะกับเรามั้ย เพราะสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่าไปลองเล่นเอง

 

from:http://droidsans.com/compare-oppo-f1s-vivo-v5-moto-g4plus-huawei-gr5-2017

The Battle : Huawei GR5 2017 สมาร์ทโฟนกล้องคู่ในราคาต่ำหมื่น

รายการ The Battle สัปดาห์นี้เรามีทริคการถ่ายภาพด้วยกล้องมือถือแบบง่ายๆ ถ่ายยังไงให้ได้ภาพสวยทุกสถาณการณ์ พร้อมมีรีวิว Huawei GR5 2017 สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกล้องคู่ในราคาไม่ถึงหมื่นด้วยนะ ส่วนภาพจะโอเคไหม ใช้งานโดยรวมเป็นยังไงเดี๋ยวมาดูกันค่ะ!

1gm87RgE578

from:http://droidsans.com/%20Huawei-GR5-2017-a-budget-dual-camera-phone%20

ใช้ Huawei GR5 2017 ถ่ายภาพโบเก้ (Bokeh) อย่างไรให้สวยเฉียบ

ภาพถ่ายสวย ๆ เปรียบได้กับบทกวีอันไพเราะ และช่างภาพที่มีฝีมือจะรู้ดีว่าทำอย่างไรจึงจะสื่อความหมายในภาพถ่ายแต่ในภาพของตนได้  ไม่ว่าจะด้วยการใช้แสง สีสัน การวางระยะภาพ จนถึงการเลือกเน้นสิ่งที่ต้องการถ่ายและฉากหลัง ซึ่งในแวดวงการถ่ายภาพ มีเครื่องมืออันทรงพลังตัวหนึ่งที่เรามักเห็นนักถ่ายภาพใช้อยู่เป็นประจำ แต่ไม่รู้เรียกว่าอะไร นั่นก็คือเทคนิคโบเก้ (Bokeh)

bokeh_1

โบเก้หมายถึงการทำให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของภาพหลุดโฟกัส หรือเบลอ ซึ่งไม่ใช่การเบลอที่เกิดจากความผิดพลาดของตัวกล้อง แต่เป็นการจงใจทำให้บางส่วนของภาพมัว ขณะที่ส่วนอื่น ๆ ที่เป็นจุดโฟกัสของภาพเกิดความเด่นชัดขึ้นมา ด้วยจุดประสงค์ที่จะดึงดูดสายตา สร้างความรู้สึกให้ชวนค้นหา มีมิติ และน่าประหลาดใจ

โบเก้คือเทคนิคที่เหมาะมากสำหรับการถ่ายภาพกลางคืน  ภายใต้ฉากหลังที่มืด โบเก้จะสร้างจุดแสงที่มีสีสันต่าง ๆ เพื่อให้ภาพถ่ายเมืองหรือวิวในยามค่ำคืนมีความโดดเด่น สะกดสายตา  โบเก้ยังเป็นเทคนิคที่นิยมใช้ในการถ่ายภาพคนหรือพอร์เทรต เพื่อสร้างความรู้สึกร่วมเหมือนกับเราได้ใกล้ชิดกับคนในภาพเมื่อมองดูภาพนั้น

bokeh_2

คำถามก็คือ จะถ่ายภาพโบเก้ให้สวยได้อย่างไร  ปัจจัยสำคัญคือเลนส์กล้องที่ดี ซึ่งช่างภาพมืออาชีพสามารถใช้ปรับเปลี่ยนค่ารูรับแสง(aperture) เพื่อปรับช่วงระยะคมชัดของภาพตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเลือกให้ภาพมีความคมชัดทั้งภาพ หรือเลือกโฟกัสเฉพาะบางส่วนของภาพและเบลอส่วนอื่น ๆ 

แน่นอนว่าในปัจจุบัน เราสามารถถ่ายภาพสวย ๆ ได้โดยไม่ต้องใช้กล้องระดับมืออาชีพกันแล้ว แค่มีสมาร์ทโฟนสักตัว แต่ถ้าเราอยากจะถ่ายภาพโบเก้ล่ะ สมาร์ทโฟนทำได้ไหม คำตอบคือ ทำได้ ถ้าคุณมีสมาร์ทโฟนรุ่นที่ใช่!

GR5-2017_front

สมาร์ทโฟนที่มีกล้องเลนส์คู่คือสิ่งจำเป็นถ้าคุณเป็นคนรักการถ่ายภาพและอยากได้ภาพโบเก้แจ่ม ๆ อย่าง หัวเว่ย GR5 2017 ซึ่งมีกล้องหลังสองตัว ตัวหนึ่งใช้เลนส์ขนาด 12 ล้านพิกเซลสำหรับเก็บรายละเอียดภาพ และอีกตัวขนาด 2 ล้านพิกเซลเพื่อใช้วัดระยะคมชัดของภาพ คำนวณค่าแสงจากจุดโฟกัสของภาพ สมาร์ทโฟนตัวนี้จึงสามารถใช้ถ่ายภาพโบเก้ระดับมืออาชีพได้สบาย ๆ แถมยังปรับค่าโฟกัสและเลือกขยายรูรับแสงเพื่มหลังจากกดชัตเตอร์ไปแล้วได้ด้วย

GR5-2017_camera

ซึ่งถ่ายภาพโบเก้ที่ถ่ายด้วยสมาร์ทโฟนกล้องเลนส์คู่ถือว่าเป็นของแท้ ขณะที่ถ้าใช้สมาร์ทโฟนกล้องเลนส์เดี่ยว เราจะได้เพียงภาพโบเก้หลอก ๆ ซึ่งเป็นการใช้เทคนิคแต่งภาพให้เบลอหลังจากถ่ายไปแล้ว  ฉนั้น ถ้าอยากถ่ายภาพโบเก้สวย ๆ แบบมืออาชีพแท้ ๆ ในมาตรฐานเทียบเท่ากับกล้องดีเอสแอลอาร์ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อกล้องราคาแพง ต้องเลือกใช้สมาร์ทโฟนกล้องเลนส์คู่เท่านั้น  และหัวเว่ย GR5 2017 ก็เป็นสมาร์ทโฟนกล้องเลนส์คู่ระดับพรีเมี่ยมในราคาที่ใคร ๆ ก็เป็นเจ้าของได้ 

gr52017-3

โบเก้จึงเป็นเทคนิคง่าย ๆ ที่สุดโดนใจในการสร้างมาตรฐานใหม่ของการถ่ายภาพให้สวยล้ำด้วยสมาร์ทโฟน ให้ทุกช็อตสวยโดดเด้งเมื่อโพสต์บนหน้า Instagram หรือ Facebook ของคุณ ไม่เชื่อก็ลองดู ไม่ว่าจะเป็นภาพสัตว์บนแบคกราวด์ท้องทะเลหรือท้องฟ้า อาหารจานสวยในร้านสุดชิค หรือภาพโคลสอัพของเพื่อนหรือครอบครัว แค่พกสมาร์ทโฟนกล้องเลนส์คู่ติดตัว ก็ถ่ายภาพโบเก้ระดับช่างกล้องมือโปรได้ทุกที่  ยุคนี้ นาทีนี้ ต้องสมาร์ทโฟนกล้องเลนส์คู่เท่านั้น!  

from:http://mobileocta.com/using-huawei-gr5-2017-shooting-bokeh-bokeh-however-is-pretty-slim/

ถ่ายภาพโบเก้ (Bokeh) อย่างไรให้สวยเฉียบด้วย Huawei GR5 2017

Screen Shot 2560-01-12 at 6.25.17 PM

ภาพถ่ายสวย ๆ เปรียบได้กับบทกวีอันไพเราะ และช่างภาพที่มีฝีมือจะรู้ดีว่าทำอย่างไรจึงจะสื่อความหมายในภาพถ่ายแต่ในภาพของตนได้ ไม่ว่าจะด้วยการใช้แสง สีสัน การวางระยะภาพ จนถึงการเลือกเน้นสิ่งที่ต้องการถ่ายและฉากหลัง ซึ่งในแวดวงการถ่ายภาพ มีเครื่องมืออันทรงพลังตัวหนึ่งที่เรามักเห็นนักถ่ายภาพใช้อยู่เป็นประจำ แต่ไม่รู้เรียกว่าอะไร นั่นก็คือเทคนิคโบเก้ (Bokeh)

unnamed-2

โบเก้หมายถึงการทำให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของภาพหลุดโฟกัส หรือเบลอ ซึ่งไม่ใช่การเบลอที่เกิดจากความผิดพลาดของตัวกล้อง แต่เป็นการจงใจทำให้บางส่วนของภาพมัว ขณะที่ส่วนอื่น ๆ ที่เป็นจุดโฟกัสของภาพเกิดความเด่นชัดขึ้นมา ด้วยจุดประสงค์ที่จะดึงดูดสายตา สร้างความรู้สึกให้ชวนค้นหา มีมิติ และน่าประหลาดใจ

unnamed-1

โบเก้คือเทคนิคที่เหมาะมากสำหรับการถ่ายภาพกลางคืน ภายใต้ฉากหลังที่มืด โบเก้จะสร้างจุดแสงที่มีสีสันต่าง ๆ เพื่อให้ภาพถ่ายเมืองหรือวิวในยามค่ำคืนมีความโดดเด่น สะกดสายตา โบเก้ยังเป็นเทคนิคที่นิยมใช้ในการถ่ายภาพคนหรือพอร์เทรต เพื่อสร้างความรู้สึกร่วมเหมือนกับเราได้ใกล้ชิดกับคนในภาพเมื่อมองดูภาพนั้น

unnamed

คำถามก็คือ จะถ่ายภาพโบเก้ให้สวยได้อย่างไร ปัจจัยสำคัญคือเลนส์กล้องที่ดี ซึ่งช่างภาพมืออาชีพสามารถใช้ปรับเปลี่ยนค่ารูรับแสง (aperture) เพื่อปรับช่วงระยะคมชัดของภาพตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเลือกให้ภาพมีความคมชัดทั้งภาพ หรือเลือกโฟกัสเฉพาะบางส่วนของภาพและเบลอส่วนอื่น ๆ
แน่นอนว่าในปัจจุบัน เราสามารถถ่ายภาพสวย ๆ ได้โดยไม่ต้องใช้กล้องระดับมืออาชีพกันแล้ว แค่มีสมาร์ทโฟนสักตัว แต่ถ้าเราอยากจะถ่ายภาพโบเก้ล่ะ สมาร์ทโฟนทำได้ไหม คำตอบคือ ทำได้ ถ้าคุณมีสมาร์ทโฟนรุ่นที่ใช่!

สมาร์ทโฟนที่มีกล้องเลนส์คู่คือสิ่งจำเป็นถ้าคุณเป็นคนรักการถ่ายภาพและอยากได้ภาพโบเก้แจ่ม ๆ อย่าง หัวเว่ย GR5 2017 ซึ่งมีกล้องหลังสองตัว ตัวหนึ่งใช้เลนส์ขนาด 12 ล้านพิกเซลสำหรับเก็บรายละเอียดภาพ และอีกตัวขนาด 2 ล้านพิกเซลเพื่อใช้วัดระยะคมชัดของภาพ คำนวณค่าแสงจากจุดโฟกัสของภาพ สมาร์ทโฟนตัวนี้จึงสามารถใช้ถ่ายภาพโบเก้ระดับมืออาชีพได้สบาย ๆ แถมยังปรับค่าโฟกัสและเลือกขยายรูรับแสงเพื่มหลังจากกดชัตเตอร์ไปแล้วได้ด้วย

ซึ่งถ่ายภาพโบเก้ที่ถ่ายด้วยสมาร์ทโฟนกล้องเลนส์คู่ถือว่าเป็นของแท้ ขณะที่ถ้าใช้สมาร์ทโฟนกล้องเลนส์เดี่ยว เราจะได้เพียงภาพโบเก้หลอก ๆ ซึ่งเป็นการใช้เทคนิคแต่งภาพให้เบลอหลังจากถ่ายไปแล้ว ฉนั้น ถ้าอยากถ่ายภาพโบเก้สวย ๆ แบบมืออาชีพแท้ ๆ ในมาตรฐานเทียบเท่ากับกล้องดีเอสแอลอาร์ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อกล้องราคาแพง ต้องเลือกใช้สมาร์ทโฟนกล้องเลนส์คู่เท่านั้น และหัวเว่ย GR5 2017 ก็เป็นสมาร์ทโฟนกล้องเลนส์คู่ระดับพรีเมี่ยมในราคาที่ใคร ๆ ก็เป็นเจ้าของได้

โบเก้จึงเป็นเทคนิคง่าย ๆ ที่สุดโดนใจในการสร้างมาตรฐานใหม่ของการถ่ายภาพให้สวยล้ำด้วยสมาร์ทโฟน ให้ทุกช็อตสวยโดดเด้งเมื่อโพสต์บนหน้า Instagram หรือ Facebook ของคุณ ไม่เชื่อก็ลองดู ไม่ว่าจะเป็นภาพสัตว์บนแบคกราวด์ท้องทะเลหรือท้องฟ้า อาหารจานสวยในร้านสุดชิค หรือภาพโคลสอัพของเพื่อนหรือครอบครัว แค่พกสมาร์ทโฟนกล้องเลนส์คู่ติดตัว ก็ถ่ายภาพโบเก้ระดับช่างกล้องมือโปรได้ทุกที่ ยุคนี้ นาทีนี้ ต้องสมาร์ทโฟนกล้องเลนส์คู่เท่านั้น!

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=170432