คลังเก็บป้ายกำกับ: GOOGLE_DOC

Help Me Write ผู้ช่วยงานเขียนจาก Google AI

Help Me Write

Help Me Write ฟีเจอร์ใหม่สำหรับผู้ใช้งาน Google Workspace ช่วยให้งานเขียนต่างๆ ของผู้ใช้งานง่ายขึ้น เพียงแค่พิมพ์คำอธิบายสั้นๆ จากนั้นให้ Bard AI ทำหน้าที่เขียนให้สมชื่อ “Help Me Write” และสามารถปรับแต่งและแก้ไขได้ตามความเหมาะสมอีกด้วย

Avram Pilc นักข่าวของเว็บไซต์ Tom’s Hardware ได้ผ่านการรอคิวใช้งานจาก Google เป็นที่เรียบร้อยจึงเริ่มทำการใช้งานโดยเข้าไปที่ Google Docs จากนั้นพิมพ์ข้อความอธิบายสั้นๆ ว่าขอเขียนจดหมายลาออกกับจดหมายสมัครงานให้ AI ก็ทำการเขียนมาให้เรียบร้อย เป็นรูปแบบการเขียนที่เห้นได้ตามเว็บไซต์แนะนำทั่วไป แต่ช่วยลดระยะเวลาการพิมพ์ลงไปมาก และยังสามารถแก้ไขให้เหมาะสมได้อีกด้วย

Advertisementavw
Help Me Write
ให้ช่วยเขียนจดหมายลาออก
8YBwvZuk3abYBvpMegoTx9 970 80
ฟีเจอร์ Help Me Write ทำการเขียนให้ตามต้องการและสามารถแก้ไขได้ตามความเหมาะสม
Help Me Write

หรือแม้แต่การช่วยเขียนการบ้านที่เหมาะสมตามวัยก็ยังทำได้ ดั่งในตัวอย่างที่ให้เขียนการบ้าน “A Wrinkle in Time” ด้วยความรู้ระดับ ป.5 ก็สามารถทำได้ หรือถ้าเพิ่มเลเวลเป็น ม.1 เนื้อหาก็จะยาวขึ้นนิดหน่อย

Help Me Write

Avram Pilc ได้พบข้อจำกัดเมื่อได้ทำการให้เขียนข้อความที่ยาวขึ้นเป็นจำนวน 5000 คำ แต่กลับส่งผลรับมาแค่ 397 คำเท่านั้นและให้เป็นรายการหัวข้อย่อยๆ ให้แทน หรือแม้แต่ให้เราเขียนวิทยานิพนธ์ในหัวข้อที่ค่อนข้างยากก็จะให้คำมาเพียง 245 คำเท่านั้นโดยไม่มีงานวิจัยหรืองานทางการมาเกี่ยวข้องเลย

โดยสรุปแล้วทาง Avram Pilc ได้ให้คำแนะนำว่าฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับเด็กๆ เท่านั้น เพราะรูปแบบการเขียนมีแพทเทิร์นตายตัว ไม่มีการปรับแต่งใดๆ แต่ก็พอช่วยเหลือได้บ้างสำหรับงานเขียนที่ใช้แพทเทิร์นเช่น การเขียนจดหมาย แต่ถ้าหากนำมาใช้ทำงานอย่างจริงจังมองว่ายังคงไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก

หากใครสนใจอยากจะลองใช้ฟีเจอร์นี้สามารถลงทะเบียนเพื่อรอรับคิวได้ที่ Google Labs

ที่มา: Tom’s Hardware, Google

from:https://notebookspec.com/web/701533-googles-ai-help-me-write

Software Tips – สั่งพิมพ์ด้วยเสียง ไม่ต้องนั่งพิมพ์ ด้วย Google Doc

ใครที่กำลังพิมพ์ เพื่อนๆคงไม่ต้องมานั่งพิมพ์ด้วยมือกันอีกแล้ว เพียงแค่เราสั่งการด้วยเสียงอย่างง่ายๆ ด้วย Google Doc โดยสามารถใช้ได้ทั้ง ภาษาอังกฤษ และ ภาษาไทย เหมาะสำหรับเอกสารที่เราต้องพิมพ์ที่ละเยอะๆ หรือ รายงานต่างๆ

Google

สั่งพิมพ์ด้วยเสียง อย่างง่ายด้วย Google

ก่อนอื่นให้เข้าไปที่ Google.co.th

ไปที่ Apps เลือกไปที่ เอกสาร ถ้าหาไม่เจอให้คลิกที่อื่นๆ หรือ More

คลิก เอกสารใหม่ หรือ New (จำเป็นต้องใช้ Gmail เพื่อเข้าใช้งานด้วยนะ)

เลือกไปที่ เครื่องมือ จากนั้นเลือก พิมพ์ด้วยเสียง ตามภาพ

เปลี่ยนภาษาเป็น ภาษาไทย หรือ ภาษาอังกฤษ ตามที่เราอยากจะพูดและกด Allow เพื่อเป็นการอนุญาติในการใช้ไมโครโฟน โดยจะกดเพียงแค่ครั้งแรกเท่านั้นกับคอมพิวเตอร์ของเรา

ตอนจะพูดให้กดไมค์ จากนั้นทำการพูดไปที่ไมค์

อีกทั้งยังสามารถดาวน์โหลดไฟล์ออกมาเป็น Word ได้อีกด้วย

ถือว่าสะดวกมากๆครับ สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังใช้วิธีพิมพ์เอกสารอยู่ สามารถใช้วิธีนี้พูดแล้วก็พิมพ์ออกมาได้เลย แต่ทีมงานแนะนำว่า หากต้องการใช้งานขอให้อยู่ในห้องที่เงียบๆ ที่ได้ยินเสียงเราได้ชัด เพื่อให้เวลาระบบพิมพ์ออกมา ถูกต้อง และ ครบถ้วนชัดเจน

from:https://notebookspec.com/google-doc-print/461680/

แนะนำโปรแกรมพิมพ์งานเอกสารบน Mac จะใช้แอปอะไรดี iMod มีคำตอบ

Document App On Mac

สำหรับมือใหม่ที่ใช้งาน Mac หลายคนจะเจอปัญหาว่าถ้าหากต้องการพิมพ์งานเอกสารแต่ไม่รู้ว่าจะใช้แอปอะไร ซึ่งแน่นอนว่าหลายๆ คนคุ้นชินกับ Microsoft Office อย่าง Word, Excel, Power Point มาก่อน แล้วทีนี้พอเปลี่ยนมาใช้ Mac จะต้องใช้แอปอะไรทำงานแทนหละ มีทางเลือกอะไรบ้างเราไปชมกันครับ

พิมพ์งานเอกสารบน Mac จะใช้แอปอะไรดี

iWork

iWork

โปรแกรมสำหรับพิมพ์งานที่พัฒนาโดย Apple ตั้งแต่ปี 2005 และเวอร์ชันล่าสุดคือ iWork 2016 เปิดให้ดาวน์โหลดและใช้งานฟรีทั้งบน macOS และ iOS สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไรรอยต่อ และสวยงามในทุกมิติ นอกจากนี้ยังได้มีการอัปเดตคุณสมบัติ iWork for iCloud ที่สามารถใช้งาน (แบบย่อ) บนเว็บไซต์ได้อีกด้วย

  • Pages ใช้พิมพ์เอกสาร และจัดหน้ากระดาษ
  • Numbers สเปรดชีต สำหรับใส่แผนภูมิ ตาราง
  • Keynote โปรแกรมนำเสนอ Apple ใช้ทุกครั้งตอนเปิดตัวผลิตภัณฑ์

จุดเด่นของ iWork คือเรื่องความเข้ากันได้ดีกับ macOS รวมถึงการใช้งานจัดรูปแบบที่สวยงาม แต่หลายคนมองว่าใช้ยากเนื่องจากมีพื้นฐานการใช้งานผ่าน Microsoft Office มาก่อนนั่นเอง และข้อเสียอีกประการที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากไม่มีโปรแกรมบน Windows จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เวลาที่จะส่งไฟล์ไปยังระบบอื่น

Google Docs

Google Docs
Google Docs

คู่แข่งที่ Microsoft กลัวยิ่งกว่า Apple สำหรับ Google Docs เป็นชุดโปรแกรมที่ทำงานผ่าน Web Browser โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องติดตั้งใดๆ เพียงแค่เปิดหน้าเว็บไซต์ก็ใช้งานได้เลย และจะสมบูรณ์แบบที่สุดหากใช้งานผ่าน Google Chrome ปัจจุบันเป็นที่นิยมหลากหลาย เพราะสามารถใช้งานบนระบบใดก็ได้ (รวมถึง macOS) และไม่มีปัญหาเรื่องความต่างกันของระบบ

  • Docs ใช้สำหรับทำเอกสาร
  • Sheets ใช้สำหรับสร้างตาราง
  • Slides ใช้สำหรับโปรแกรมนำเสนอ

จุดเด่นของ Google Docs คือสามารถใช้งานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างไม่ติดขัด มีการเชื่อมต่อ Add-ons ไปยังหลายบริการของทาง Google ซึ่งถึงแม้ว่าความสามารถจะไม่อาจเทียบเท่าโปรแกรมแบบติดตั้งลงเครื่อง แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน การใช้งานจำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

Microsoft Office For Mac

Microsoft Office For Mac
Microsoft Office For Mac

โปรแกรมที่ทุกคนต่างคุ้นเคยกันดีที่สุด เพราะแทบจะมีการใช้งานกันอยู่ในเกือบทุกองค์กร สำนักงาน หรือหน่วยงานราชการ ถึงแม้ว่าเวอร์ชั่นบน Windows ทาง Microsoft ได้พัฒนาเวอร์ชั่นสำหรับลูกค้าที่ใช้งาน  macOS โดยเฉพาะ ข้อดีของการใช้งาน Microsoft Office for Mac คือ การทำงานรวมกับคนที่ใช้ Windows PC ราบรื่น และเหมาะมากกับคนที่ต้องใช้ Excel เป็นหลักในการทำงานหรือเรียนหนังสือ เพราะมันดีที่สุดและ ทาง Microsoft มีทางเลือกให้ลูกค้าซื้อใช้งานสองแบบ คือ

  1. Office 365 บริการสมาชิก ที่มีสิทธิพิเศษหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Office บนเครื่อง Mac, iPad, iPhone ก็สามารถใช้ได้หมด รวมถึงพื้นที่ในการเก็บข้อมูลเอกสาร รูปภาพถึง 1TB (OneDrive) โทรฟรี Skype 60 นาทีทุกเดือน
  2. Microsoft Office for Mac 2016 แบบซื้อขาด ซื้อแล้วใช้ได้ตลอดไป ซึ่งการออกแบบใน Office for Mac เวอร์ชั่นนี้ ได้ใช้การพัฒนาโปรแกรม codebase แบบเดียวกับบน Windows จึงทำให้ความต่างกันนั้นน้อยลงกว่าสมัยก่อนครับ

 

OpenOffice

OpenOffice
OpenOffice

โครงการ Apache OpenOffice ที่เปิดให้ทุกคนดาวน์โหลดไปใช้งานได้ฟรี และด้วยความเก่าแก่ที่สั่งสมมารวมแล้วมียอดดาวน์โหลดไปกว่า 1.6 ล้านครั้ง หากคุณเข้าไปหน้าเว็บอาจคิดว่ามันเจ๊งไปแล้ว (แต่แค่สลบยังไม่ตาย) ผู้สร้างยังยืนยันที่จะพัฒนาต่อ เพียงแต่ว่าจะช้าหน่อยถึงช้ามาก (ของฟรีจะเอาไรมาก) โดยรวมแล้วปล่อยปีละครั้งเพื่อแก้ Bug และเวอร์ชันล่าสุดอยู่ที่ 4.1.5 เนื่องจากประสบปัญหาด้านการขาดแคลนนักพัฒนา

LibreOffice

Libreoffice

พี่น้องร่วมสายเลือดที่แยกวงออกมาจาก OpenOffice อีกทีหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงความโบราณของดีไซน์ไม่แตกต่างกัน (บอกว่าของฟรีอย่าบ่น!) ปัจจุบันโปรแกรม LibreOffice อยู่ที่เวอร์ชัน 5.4.4 ซึ่งก็ดูดีขึ้นมานิดนึง และด้วยหน้าตาคล้ายกับ Microsoft Office จึงทำให้เรียนรู้การใช้งานได้ไม่ยาก

สรุป

หากคุณใช้งานแค่คนเดียวหรือเพื่อนร่วมงานใช้ macOS ด้วยกัน แนะนำให้เรียนรู้ iWork เพื่อใช้งานจะดีที่สุด แต่หากคุณจำเป็นต้องทำงานร่วมกับ Windows และวิธีดีที่สุดก็คือ Microsoft Office For Mac (เสียเงินแต่ไม่แพง แนะนำให้มีติดเครื่อง) ส่วนอีกช่องทางหนึ่งก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กันคือ Google Docs เนื่องจากมันฟรีและแชร์สะดวก

แต่หากใครอยากซื้อ Microsoft Office Mac แบบขายขาด คือ ซื้อครั้งเดียวใช้ได้ตลอดโดยไม่ต้องจ่ายรายเดือน สามารถหากซื้อกันได้ที่ Studio 7 และ BaNANA ที่นั่นก็มีจำหน่ายเช่นเดียวกันครับ

  • Office 2016 Home and Business 8,990 บาท
  • Office 2016 Home and Student 3,990 บาท

Microsoft Office Mac At Studio7

ส่วนช่องทางรองอย่าง OpenOffice และ LibreOffice แนะนำให้ทดลองใช้งานด้วยตัวเองครับ ซึ่งส่วนตัวผมใช้งานแล้วไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ (ความเห็นส่วนตัว) เพราะว่าเช่ารายปี Office 365 มันก็ไม่ได้แพงอะไรมากนัก ส่วนคนที่ใช้งานเต็มระบบคงหนีไม่พ้นลง Windows และติดตั้ง Microsoft Office ตัวเต็มไปเลยดีที่สุด

from:https://www.iphonemod.net/document-work-on-mac.html