คลังเก็บป้ายกำกับ: GALAXY_A71

Samsung ทยอยปล่อยอัปเดต Galaxy A71 4G เป็น One UI 3.1 บน Android 11 แล้ววันนี้ในบางประเทศ

ถือว่าเป็นข่าวดีสุด ๆ กับผู้ใช้งาน Samsung Galaxy A71 รุ่น 4G ที่วันนี้ทาง Samsung ก็ได้ปล่อยให้ได้อัปเดต One UI เป็นเวอร์ชั่น 3.1 แล้ว โดยจะเริ่มปล่อยให้ผู้ใช้งานในประเทศโซนยุปโรปได้อัปเดตกันก่อนครับ

ซึ่งการอัปเดตครั้งนี้ถือว่าเป็นการข้ามเวอร์ชั่นครั้งใหญ่จาก One UI 2.5 (Andoird 10) มาเป็น One UI 3.1 (Android 11) เลยทีเดียว โดยเป็นเฟิร์มแวร์หมายเลข A715FXXU3BUB5 ที่มาในขนาด 2.7GB พร้อมแพตช์ความปลอดภัยเดือนกุมภาพันธ์ 2564

การอัปเดตดังกล่าวนั้นก็มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น Nearby Share ที่เป็นระบบส่งข้อมูลระยะใกล้แบบรวดเร็ว, Samsung Free แอปข่าวสารจากทางซัมซุง, ฟีเจอร์ Double tap to sleep แตะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อล็อกอัตโนมัติ และยังมีฟีเจอร์ อื่น ๆ อีกมากมาย

ส่วนใครที่ใช้สมาร์ทโฟน Galaxy รุ่นอื่นอยู่ก็ไม่ต้องเสียใจเพราะเมื่อเดือนที่ผ่านมาทาง Samsung ก็ได้ออกมาประกาศแล้วว่ารุ่นไหนจะได้อัปเดต One UI 3.1 นี้บ้าง

อย่างไรก็ตาม คาดว่าทาง Samsung ประเทศไทย ก็คงจะปล่อยอัปเดต One UI 3.1 ให้กับผู้ใช้งาน Samsung Galaxy A71 ในบ้านเราได้อัปเดตกันเร็ว ๆ นี้แน่นอนครับ

ที่มา : Sammobile

from:https://droidsans.com/samsung-galaxy-a71-4g-one-ui-3-1-update/

เปรียบเทียบ Galaxy A71 กับ OPPO Reno 4 ราคาไล่ๆ กัน สเปคคล้ายๆ กัน ซื้อรุ่นไหนดี?

ทั้ง Galaxy A71 และ OPPO Reno 4 ถือเป็นสองสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มาพร้อมกับสเปคคุ้มๆ จัดเต็มกันทั้งคู่ ว่าแต่หากนำมือถือสองรุ่นนี้มาเปรียบเทียบสเปคกันแบบตัวต่อตัวหมัดต่อหมัด รุ่นไหนจะคุ้มกว่ากัน? ซื้อรุ่นไหนดีกว่า มาหาคำตอบได้ในบทความนี้ครับ

ขนาดตัวเครื่อง

มาเริ่มกันที่ขนาดตัวเครื่องกันก่อนเลยดีกว่า โดยสัดส่วนของ Galaxy A71 จะอยู่ที่ 163.6 x 76 x 7.7 มม. น้ำหนัก 179 กรัม ส่วน OPPO Reno 4 จะมีขนาดที่เล็กกว่านิดหน่อยที่ 160.3 x 73.9 x 7.7 มม. น้ำหนัก 165 กรัม แต่เมื่อลองเอาไปถือใช้งานจริงๆ ก็ต้องบอกว่าแทบจะไม่ได้รู้สึกถึงความต่างของน้ำหนักเลย เบาทั้งคู่ งานประกอบก็ค่อนข้างที่จะโอเค อันนี้ส่วนตัวมองว่าต้องไปลองถือเครื่องจริงก่อน แล้วแต่ความชอบของส่วนบุคคล

Galaxy A71

OPPO Reno 4

หน้าจอ

Galaxy A71 และ OPPO Reno 4 จะมากับหน้าจอ OLED ด้วยกันทั้งคู่ ต่างที่ Galaxy A71 จะอัปเกรดนิดหน่อยใช้เป็นจอ Super AMOLED+ จอแสดงผลสีสดกว่าเล็กน้อย โดยขนาดจอ Galaxy A71 จะใส่มาให้ที่ 6.7 นิ้ว แต่ถ้าใครชอบแบบจอเล็กๆ พกพาง่ายๆ OPPO น่าจะตอบโจทย์มากกว่าเพราะจอขนาด 6.4 นิ้ว ทั้งคู่มีความละเอียดจอเท่ากันที่ Full HD+ บนสัดส่วน 20:9

ด้วยความที่หน้าจอเล็กกว่า ทำให้จอของ OPPO Reno 4 มีค่าความหนาแน่นพิกเซลถึง 411 ppi มากกว่า Galaxy A71 ที่ใส่มาให้ที่ 393 ppi แต่ถ้าไม่ได้ไปเพ่งจอใกล้ๆ จับผิด ตรงนี้ก็เชื่อว่าทั้งคู่แทบจะไม่มีอะไรแตกต่างกันมากนัก

เมื่อทดลองนำ Galaxy A71 และ OPPO Reno 4 ไปใช้กลางแดดจัดๆ ของประเทศไทย ก็พบว่าสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นสามารถทนต่อแสงแดดจัดๆ ของบ้านเราได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องใช้สายตา พยายามจ้องเยอะๆ

ชิปเซ็ตหน่วยประมวลผล

ในส่วนของหน่วยประมวล Galaxy A71 จะขับเคลื่อนด้วยชิปที่เหนือกว่า OPPO Reno 4 เล็กน้อย โดยจะใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 730 ที่มีพื้นฐานการผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 8 นาโนเมตร ค่า Clock-Speed อยู่ที่ 2.2 GHz ขณะที่ OPPO Reno 4 แม้ว่าจะมากับชิปรุ่นใหม่กว่าอย่าง Snapdragon 720G สถาปัตยกรรมขนาด 8 นาโนเมตรเท่ากัน แถม Clock-Speed ก็สูงกว่าที่ 2.3 GHz

แต่ถ้าลงลึกไปในเรื่องของสเปคยิบย่อย จะเห็นว่าชิป Snapdragon 730 บน Galaxy A71 นั้น ใช้ CPU ตัวแรงกว่าอย่าง Kryo 470 (Snapdragon 720G ใช้เป็น Kryo 465) แน่นอนว่าถ้าเอาไปใช้งานทั่วไป หรือเล่นเกม ย่อมเห็นความแตกต่างชัดเจน โดยทั้งคู่ใช้ GPU เป็น Adreno 618 เหมือนกัน

ตารางเปรียบเทียบสเปค Galaxy A71 กับ OPPO Reno 4

Galaxy A71 OPPO Reno 4
หน้าจอ Super AMOLED+ 6.7″ OLED 6.4″
ความละเอียด Full HD+
ชิปเซ็ต Snapdragon 730
Snapdragon 720G
GPU Adreno 618
RAM 8GB
ความจุ
128GB ใส่ microSD Card เพิ่มได้
กล้องหลัง 4 ตัว

Wide: 64MP f/1.8 PDAF

Ultra-Wide: 12MP f/2.2 มุมกว้าง 123 องศา

Macro: 5MP f/2.4

Depth: 2MP f/2.2

4 ตัว

Wide: 48MP f/1.7 PDAF

Ultra-Wide: 8MP f/2.2 มุมกว้าง 119 องศา

Macro: 2MP f/2.4

Depth: 2MP f/2.4

กล้องหน้า 32MP f/2.2 32MP f/2.4 + Smart Sensor
เซ็นเซอร์
accelerometer, gyro, proximity, compass
การเชื่อมต่อ
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, BT 5.0
สแกนลายนิ้วมือ ใต้หน้าจอ
ลำโพง โมโน
รูหูฟัง มี
แบตเตอรี่ 4,500 mAh 4,015 mAh
ระบบชาร์จไว 25W 30W
ราคา 13,990 บาท 11,990 บาท

 

ทั้ง Galaxy A71 และ OPPO Reno 4 มากับ RAM และ ROM ที่ความจุ 8GB และ 128GB (ใช้หน่วยความจำแบบ UFS 2.1) ตามลำดับ อีกทั้งยังสามารถใส่ microSD Card สำหรับเพิ่มความจำได้อีกด้วย

และเมื่อเอาไปเล่นเกม จะเห็นว่า Galaxy A71 นั้นเหนือกว่าพอสมควร เพราะมีฟีเจอร์ Game Booster Plus ปรับประสิทธิภาพของเกมให้ตรงกับความต้องการของเรา ส่วน OPPO Reno 4 นั้น ไม่มีฟีเจอร์นี้ใส่มาให้ แน่นอนว่าถ้าเอาไปเล่นเกม Galaxy A71 จะทำผลงานออกมาได้ดีกว่าอย่างแน่นอน เพราะตัว Samsung เองก็เคลมว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้นั้นเป็น “สเปคเทพของเกมเมอร์” ซึ่งพอเอาไปใช้งานจริงๆ ก็เป็นอย่างที่พูดเอาไว้จริงๆ ปรับกราฟิกได้จนถึง “สูง” อีกทั้งเฟรมเรทก็จะอยู่ที่ราวๆ 58 – 61 fps ระบบสัมผัสหน้าจอแม่นยำ ไม่เจอทัชหลุด หรือเพี้ยนแต่อย่างใด

กล้องถ่ายรูป

สมาร์ทโฟนที่เรานำมาเปรียบเทียบสเปคในครั้งนี้ มาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัวด้วยกันทั้งคู่ แต่สเปคกระดาษจะแตกต่างกันเล็กน้อยดังนี้

Galaxy A71 OPPO Reno 4
จำนวนกล้องหลัง 4 ตัว
เซ็นเซอร์หลัก 64MP f/1.8 รองรับการโฟกัสแบบ PDAF 48MP f/1.7 รองรับการโฟกัสแบบ PDAF
กล้อง Ultra-Wide 12MP f/2.2 มุมกว้าง 123 องศา 8MP f/2.2 มุมกว้าง 119 องศา
กล้อง Macro 5MP f/2.4 2MP f/2.4
กล้อง Depth 5MP f/2.2 2MP f/2.4
จำนวนกล้องหน้า 1 ตัว 1 ตัว + Smart Sensor
เซ็นเซอร์หลัก 32MP f/2.2 32MP f/2.4

 

เปรียบเทียบตัวอย่างภาพของ Galaxy A71 กับ OPPO Reno 4


 

จะเห็นว่าภาพที่ได้จาก Galaxy A71 จะมีสีสันที่ตรงกว่าของ OPPO Reno 4 อยู่พอสมควร แถมไม่ติดเหลืองอีกด้วย


 

ขณะที่การถ่ายภาพในที่ร่ม Galaxy A71 ก็ทำผลงานออกมาได้ค่อนข้างดีกว่า OPPO Reno 4 เช่นเคย รายละเอียดมาครบ และสีไม่ over-exposed


 

การตัดขอบของ Galaxy A71 ก็เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งสีสันของภาพก็ให้มาตรงกว่า OPPO Reno 4 อยู่พอสมควร

Galaxy A71 สามารถเลือกปรับเอฟเฟ็กต์ได้ภายหลัง ส่วน OPPO Reno 4 ไม่มี


 

มาถึงกล้อง Ultra-Wide ที่เป็นจุดเด่นของสมาร์ทโฟน Samsung มาโดยตลอด ซึ่งก็ตามมาตรฐานเลย ภาพที่ได้จาก Galaxy A71 จะได้มุมที่กว้างกว่าพอสมควร อีกทั้งภาพที่ได้จาก OPPO Reno 4 นั้นติดเหลืองนิดๆ อีกด้วย


 

เลนส์ Macro ของ Galaxy A71 จะสามารถยิงโฟกัสได้ใกล้กว่าของ OPPO Reno 4 อยู่เล็กน้อย แต่ถ้ามองในเรื่องของดีเทลภาพ อันนี้ส่วนตัวผมให้ไปทาง OPPO Reno 4 มากกว่านะ


 

ในเรื่องของกล้องหน้า อันนี้บอกเลยว่าแล้วแต่ความชอบของส่วนบุคคลจริงๆ เพราะภาพที่ได้จากทั้ง Galaxy A71 และ OPPO Reno 4 ถือว่าออกมาโอเคด้วยกันทั้งคู่ แต่ถ้าพูดถึงในเรื่องความกว้างของภาพที่ได้ ตรงนี้ทาง OPPO จะเอาชนะไปครับ

แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการถ่ายวิดีโอ ตรงนี้ Galaxy A71 จะได้เปรียบกว่าชัดเจนมากๆ เพราะสามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลยทีเดียว ขณะที่ OPPO Reno 4 นั้นถ่าย 4K ได้แค่เฉพาะกล้องหลังเท่านั้น

แบตเตอรี่

ในด้านแบตเตอรี่ Galaxy A71 ใส่แบตมาให้ 4,500 มิลลิแอมป์ ซึ่งจากที่เราเคยรีวิวมาก่อนหน้านี้ จะเห็นว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้สามารถใช้งานแบบ 1 วันแบบเต็มๆ อันนี้แบบดู YouTube/Netflix เปิด Data เปิดต่างๆ เอาไว้ทั้งวัน กลับมาบ้านแบตก็ยังเหลืออยู่ พอใช้งานต่ออีก 1 – 2 ชั่วโมง แถมยังมีระบบชาร์จไว Fast Charging 25W แถมมาให้ในกล่องอีกด้วย

ส่วน OPPO Reno 4 นั้น ให้แบตมาไม่น้อยเหมือนกันที่ 4,015 มิลลิแอมป์ ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่าหากใครใช้งานหนักๆ ดู YouTube/Netflix หรือเล่นเกมเยอะๆ แบตของมือถือรุ่นนี้อาจจะอยู่ไม่เต็มวันเอาได้ แต่ไม่เป็นไร เนื่องจาก OPPO Reno 4 รองรับระบบชาร์จไว VOOC Flash Charge 4.0 30W ชาร์จไว้ 20 นาที ได้แบต 50% แม้ว่าแบตจะน้อยกว่า แต่ถ้าพูดถึงระบบชาร์จไว ตรงนี้ OPPO ชนะ

สรุปซื้อรุ่นไหนคุ้มกว่ากัน?

สรุปแล้วทั้ง Galaxy A71 และ OPPO Reno 4 ต่างมีสเปคและฟีเจอร์ที่ค่อนข้างใกล้ๆ กัน ได้จอ OLED สีสันสวยสดทั้งคู่ แต่ถ้าใครที่ชอบถ่ายรูป หรือชอบเล่นเกม ยังไงตรงนี้ Galaxy A71 ก็เหนือกว่าเห็นๆ เพราะชิปเซ็ต Snapdragon 730 แม้ว่าจะผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาดเท่ากับ Snapdragon 720G ที่ 8 นาโนเมตร แต่ถ้ากางสเปคแบบเจาะลึกดูจะเห็นว่าตัว 730 นั้น อัดมาให้แบบจัดเต็มกว่ามาก

อีกทั้งเรื่องการถ่ายภาพ แม้ว่าจะมีกล้องหลังเท่ากันที่ 4 ตัว แต่คุณภาพของรูปถ่ายที่ได้จาก Galaxy A71 อันนี้ก็ต้องบอกตามตรงว่าดีกว่าของ OPPO Reno 4 อยู่เล็กน้อย สีที่ได้ค่อนข้างจะตรงกับความเป็นจริง ภาพมุมกว้างกว่า ไม่ติดเหลือง

ปิดท้ายกันที่เรื่องแบต อันนี้เหมือนจะกินกันไม่ค่อยลง เพราะ Galaxy A71 ให้แบตมาเยอะกว่าที่ 4,500 mAh ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานกว่า OPPO Reno 4 ที่ใส่แบตมาให้ที่ 4,015 mAh แต่…เรื่องระบบชาร์จไว ยังไงก็ต้องยอมฝั่ง OPPO ไป เพราะ VOOC Flash Charge 4.0 นั้นเร็วแรงจริง ชาร์จแป๊บๆ แบตก็เกือบเต็มแล้ว

from:https://droidsans.com/samsung-galaxy-a71-oppo-reno-4-compare-specs/

Samsung เริ่มปล่อยอัปเดตให้ Galaxy A51 / A71 เพิ่มฟีเจอร์กล้องใหม่ๆ Single Take, My Filters และ Night Hyperlapse

มือถือระดับกลางอย่าง Galaxy A51 และ A71 นับว่าเป็นมือถือที่ค่อนข้างได้รับความนิยมพอสมควร แถมยังเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ขายดีที่สุดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020 อีกต่างหาก ด้วยสเปคเครื่อง, หน้าจอ, การใช้งาน และประสิทธิภาพกล้องหลังที่ค่อนข้างดี โดยล่าสุดทาง Samsung ก็ได้ปล่อยตัวอัปเดตเวอร์ชั่นใหม่มาให้มือถือทั้ง 2 รุ่นแล้ว ซึ่งนอกจากจะมีการปรับปรุงความปลอดภัย และประสิทธิภาพต่างๆ แล้ว ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์กล้องสนุกๆ จากซีรีส์เรือธง S20 เข้ามาให้อีกด้วย

สำหรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์ใหม่ของมือถือรุ่น Galaxy A51 และ A71 ได้เพิ่มโหมดการถ่ายรูปใหม่ๆ ที่มีอยู่ในซีรีส์เรือธง Galaxy S20 ไม่ว่าจะเป็น Single Take, My Filters และ Night Hyperlapse

  • Single Take : เก็บภาพนิ่ง และคลิปวิดีโอเป็นเวลา 10 วินาที แล้วเอามารวมๆ ไว้ให้เลือกดูว่าที่ถ่ายไป 10 วินาทีนั้น เก็บภาพเก๋ๆ อะไรมาได้บ้าง
  • My Filters : สร้างฟิลเตอร์กล้องตามสไตล์ของของตัวเอง
  • Night Hyperlapse : ถ่ายภาพ Hyperlapse ตอนกลางคืน
  • Pro Mode : ตั้งค่ากล้องได้หลากหลายกว่าเดิม ทั้ง Manual Focus, Shutter Speed ฯลฯ

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ให้มาอีก เช่น Quick Share ฟีเจอร์สำหรับรับ – ส่งไฟล์ ให้กับมือถือ Galaxy รุ่นอื่นๆ ที่รองรับ และฟีเจอร์ Music Share ที่ทำให้มือถือ 2 เครื่องสามารถเล่นเพลงผ่านลำโพงบลูทูธตัวเดียวกันได้

ตัวอัปเดตล่าสุดของ Galaxy A51 และ A71 ดังกล่าว เริ่มปล่อยแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่อาจจะใช้เวลาซักพักกว่าจะมาถึงเครื่องในประเทศเรา หรือถ้าใครได้รับอัปเดตแล้วก็อย่าลืมมาคอมเม้นท์บอกกันด้วยนะครับ

ที่มา : XDA-Developers

from:https://droidsans.com/galaxy-a51-a71-update-camera-features-from-s20-series/

เปลี่ยนรูกล้องเซลฟี่บนหน้าจอ Samsung Galaxy ให้กลายเป็นตัวบอกระดับแบตเตอรี่เท่ๆ ด้วยแอป Energy Ring

ผู้ใช้งานมือถือ Samsung Galaxy ทั้งซีรีส์ S และซีรีส์ A หลายๆ รุ่น รวมถึงมือถือจอพับ Galaxy Z Flip ที่บนหน้าจอจะมีรูกล้องเซลฟี่อยู่ ซึ่งบางคนก็ไม่ได้คิดอะไรมาก (อาจจะชอบมากกว่าการมี Notch ด้วยก็ได้) หรือบางคนก็คิดว่ามันขวางหูขวางตาเหมือนมีไฝอยู่ตรงหน้าจอก็ได้…แต่ถ้าใครอยากจะเพิ่มความเท่ให้กับรูกล้องดังกล่าว ก็สามารถลงแอป Energy Ring เพิ่มความเท่ด้วยการเปลี่ยนรูกล้องเป็นตัวบอกระดับแบตเตอรี่ได้ด้วย

แอป Energy Ring จะเป็นการเพิ่มลูกเล่น เป็นตัวบอกระดับแบตเตอรี่ของมือถือ เป็นวงแหวนอยู่ที่รอบๆ รูกล้องเซลฟี่ ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนได้ทั้งสี และความหนาของวงแหวนดังกล่าว รวมถึงทิศทางของวงแหวนด้วย ว่าเวลาแบตหายไปส่วนนึงแล้ว ไฟที่วงแหวนจะหดไปทางซ้าย หรือทางขวา

ส่วนการติดตั้งก็ไม่ได้ยากอะไรเลย แค่เข้าไปดาวน์โหลดแอป Energy Ring มาติดตั้งลงบนมือถือรุ่นที่รองรับ โดยไม่จำเป็นต้อง Root เครื่องด้วย เมื่อติดตั้งเสร็จก็กดเข้าแอปไปเปิดใช้งาน และกดอนุญาตแอปใน Accessibility เท่านี้ก็เรียบร้อย

แต่มีข้อแม้อยู่นิดนึงคือแอป Energy Ring จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 เวอร์ชั่นด้วยกัน ซึ่งแต่ละเวอร์ชั่นจะตั้งค่าการใช้งานเฉพาะสำหรับมือถือ Galaxy ในแต่ละรุ่น โดย Galaxy A51, A71, S10 Lite และ Z Flip จะต้องดาวน์โหลดเวอร์ชั่นนี้ครับ

Energy Ring – A51, A71, S10 Lite, Z Flip edition! (Free, Google Play) →

 

Energy Ring สำหรับ Galaxy S10 / S10e / S10 5G / S10+ จะต้องดาวน์โหลดเวอร์ชั่นนี้

Energy Ring – Galaxy S10/e/5G/+ battery indicator! (Free, Google Play) →

 

และสุดท้ายสำหรับรุ่น Galaxy Note 10 / Note 10 5G / Note 10 Lite / Note 10+ จะใช้เวอร์ชั่นนี้ครับ

Energy Ring – Note 10/5G/Lite/+ battery indicator! (Free, Google Play) →

 

การที่ผู้พัฒนาแอปดังกล่าวต้องแยกเวอร์ชั่นออกแบบนี้ เนื่องจากรูกล้องเซลฟี่ของแต่ละรุ่น จะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ตรงกันนั่นเองครับ…แต่สำหรับคนที่ใช้มือถือรุ่นอื่นๆ ที่ไม่ได้เจาะรูกล้องหน้า ก็สามารถติดตั้งแอปนี้ได้เหมือนกันนะ (แต่ไม่รู้จะติดไปทำไมเหมือนกัน 555) เพราะจากที่ทดสอบกับ ROG Phone II ก็พบว่ามันมีวงแหวนบอกแบตเตอรี่ขึ้นมาด้วยเหมือนกัน ทั้งๆ ที่บนจอไม่มีรูกล้องเซลฟี่

แอป Energy Ring สามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งได้แบบฟรีๆ โดยไม่ต้องหลัวว่าจะมีโฆษณาเด้งขึ้นมาบนจอนะครับ เพราะจะมีโฆษณาโชว์เวลาเราเข้าไปปรับแต่งวงแหวนในแอปเท่านั้น นอกจากนี้มันยังไม่กินแบตอีกด้วย เพราะทางผู้พัฒนาได้บอกเอาไว้ว่ามันจะทำงานเฉพาะตอนที่หน้าจอติดอยู่ และใช้ CPU แค่เกือบๆ 0% เท่านั้นเองครับ

from:https://droidsans.com/customize-punch-hole-selfie-camera-energy-ring/

รีวิวเจาะลึกด้านการเล่นเกม Samsung Galaxy A71 กับฟังก์ชั่นโหดๆ ของเกมโหมดในเครื่อง

Samsung Galaxy A71 สมาร์ทโฟนระดับกลางหน้าจอใหญ่ของทาง Samsung ที่มีจุดขายอยู่ที่หน้าจอใหญ่ๆ ของมันนี้แหละครับ ขนาด 6.7 นิ้วแบบ Infinity-O Display หน้าจอเจาะรูวางกล้องหน้าขนาดเล็กเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวรสายตาเวลาใช้งาน และเน้นสีสันด้วยเทคโนโลยีจอ SuperAMOLED+ ที่เหนือกว่าหน้าจอ SuperAMOLED โดยทั่วไปครับ

ทาง Samsunf ชุดจุดเด่นของรุ่นนั้ด้วยการเป็นสมาร์ทโฟนสำหรับใช้งานในด้านเกมมิ่งเป็นพิเศษ ก็ด้วยหน้าจอใหญ่ๆ สีสวยๆ และมีความแรงจากหน่วยประมวลผล Snapdragon 730 ถือว่าแรงเกินพอจะใช้งานในด้านการเล่นเกม รวมทั้งขนาดแบตเตอรี่ภายในขนาด 4,300 mAh แต่ตัวเครื่องบางเบานิดเดียวเท่านั้นเองครับ ถือใช้งานได้ถนัดมือเลย และปิดท้ายด้วยระบบชาร์จเร็วระดับ 25W จากตัวชาร์จที่แถมมาให้ภายในกล่อง

เมื่อดูจากคุณสมบัติต่างๆ แล้ว เจ้า Galaxy A71 ก็เหมาะจะใช้ในด้านความบันเทิงจริงๆ นะครับ แบตใหญ่ เครื่องเบา จอยักษ์ ประมวลผลเร็ว และชาร์จไฟได้ไวในระหว่างวัน แต่มันมีความพิเศษที่มากกว่าคำว่าสเปคอยู่ข้างในเครื่องด้วยนะครับ นั้นคือซอฟท์แวร์ของทาง Samsung ที่มีการใส่ AI Game Booster และระบบ Game Launcher ที่เชื่อว่าหลายๆ คนยังไม่รู้ว่า มันมีความสามารถในการทำสิ่งเหล่านี้ได้ครับ ซึ่งทาง Appdisqus Channel ได้รีวิวฟังก์ชั่นด้านการเล่นเกมของ Samsung Galaxy A71 มาให้ดูกันในคลิปวีดีโอด้านล่างนี้ทั้งหมดแล้วครับ

 

ข่าว: รีวิวเจาะลึกด้านการเล่นเกม Samsung Galaxy A71 กับฟังก์ชั่นโหดๆ ของเกมโหมดในเครื่อง มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2020/03/24/review-game-function-samsung-galaxy-a71.html

Review | รีวิว Samsung Galaxy A71 จอแจ่ม แบตจุ กล้องและเกมดีงาม

Samsung Galaxy A71 มาพร้อมกับจุดเด่นมากมาย ทั้งสเปคที่แรง เหมาะสำหรับเหล่าเกมเมอร์ด้วยชิป Snapdragon 730 และ RAM ขนาด 8GB ซึ่งจริงๆ หน้าจอก็ยังใหญ่ แบตอึด ชาร์จไว แต่นั่นยังไม่หมดเพราะกล้องพี่เค้าก็มาเต็มเหมือนกัน เรียกว่าเป็นรุ่นจัดเต็มสเปคครบของ Galaxy A เลยก็ว่าได้

แกะกล่อง

ในกล่องของ Galaxy A71 เมื่อเปิดออกมาก็จะเจอกับตัวมือถือ, เคสซิลิโคนใส, คู่มือ, เข็มจิ้มซิม, หูฟัง In-Ear แบบแจ๊ค 3.5 มม., สาย USB-C > USB-C และที่ชาร์จไว 25W

ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอ

Galaxy A71 ที่เราได้มารีวิวเป็นสีดำ Prism Crush Black ตัวเครื่องด้านหลังมีวัสดุเป็นพลาสติก แต่ก็มาพร้อมกับลวดลายและสีสันที่ดูหรูหรา เล่นลวดลายแบบเรขาคณิต และมีความวิบวับเวลากระทบกับแสงในมุมต่างๆ แต่เนื่องจากตัวเครื่องมีพื้นผิวแบบมันวาวทำให้มันเป็นรอยนิ้วมือง่ายไป (ใส่เคสที่เค้าแถมมาให้ก็แล้วกัน)

กล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว อยู่บนโมดูลสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มุมซ้ายบนของเครื่อง เรียงเป็นรูปตัว L

หน้าจอ Galaxy A71 ขนาด 6.7 นิ้ว เจาะรูตรงกลางจอด้านบนสำหรับวางกล้องเซลฟี่ มีขอบจอบางทั้ง 4 ด้าน ซึ่งการใช้งานหน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว ถ้าสำหรับผู้ชายแล้วอาจจะใช้งานมือเดียวได้อยู่ (แต่ก็จะกวาดนิ้วไม่ทั่วจอ) แต่สำหรับผู้หญิงตัวเล็ก มือเล็ก น่าจะใช้มือเดียวไม่ถนัดเพราะจอใหญ่เกินไป อาจจะพยายามเอื้อมนิ้วโป้งกดจนพลาดทำเครื่องตกเอาได้นะจ๊ะ แต่เชื่อว่าหลายๆ คนชอบที่ชอบจอใหญ่ก็คงชินกับการใช้งาน 2 มืออยู่แล้ว

ขอบเครื่องด้านซ้ายมีปุ่มปรับเสียง และปุ่ม Power, ขอบขวามีช่องใส่ซิมและ MicroSD Card อยู่ค่อนไปทางด้านบนเครื่อง

ด้านล่างเครื่องมีรูหูฟัง 3.5 มม., พอร์ท USB-C ไมค์ และลำโพง 1 ตัว

ตัวเครื่องมีขนาดที่ถือได้แบบถนัดมือ และน้ำหนักเครื่องก็ไม่ได้มากมายอะไร เอาจริงๆ รู้สุกเบากว่าที่คิดไว้ซะอีก

สเปค GALAXY A71

  • หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+
  • CPU : Snapdragon 730
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 128GB ใส่เมมเพิ่มได้ 512GB
  • กล้องหลัง 4 ตัว
    • เซนเซอร์หลักความละเอียด 64MP ค่ารูรับแสง f/1.8
    • กล้อง Ultrawide 12MP มุมกว้าง 123 องศา ค่ารูรับแสง f/2.2
    • กล้อง Depth 5MP ค่ารูรับแสง f/2.4
    • กล้อง Macro 5MP ค่ารูรับแสง f/2.2
  • กล้องหน้า : 32MP ค่ารูรับแสง f/2.2
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
  • แบตเตอรี่ 4,500 มิลลิแอมป์ รองรับการชาร์จไว 25 วัตต์
  • ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย One UI 2.0

ประสิทธิภาพและการใช้งาน

สเปคของ Galaxy A71 เรียกว่าสามารถใช้งานทั่วไปได้แบบลื่นๆ ด้วยชิป Snapdragon 730 ที่งแรงพอตัว บวกกับ RAM อีก 8GB ทำให้การใช้งานทั้งเข้าเว็บ เล่นโซเชียล ดูหนัง ดูคลิป ฯลฯ สามารถทำได้แบบสบายๆ และจากการทดสอบประสิทธิภาพด้วย AnTuTu ก็ออกมาได้ 2 แสนกว่าคะแนนเลยจ๊ะ

ทดสอบความเร็วในการอ่านเขียนของหน่วยความจำในตัวเครื่องก็ออกมาได้ตามภาพด้านล่าง ก็เป็นความเร็วตามปกติของหน่วยความจำแบบ UFS 2.1 ซึ่งก็เพียงพอกับการใช้งานต่างๆ ทั้งย้ายไฟล์ ก๊อปปี้ไฟล์ หรือโหลดแอปต่างๆ

ทาง Samsung เคลมว่ามือถือรุ่นนี้มี “สเปคเทพของเกมเมอร์” จากที่ลองเล่นเกมยอดฮิตในปัจจุบันทั้ง ROV ก็สามารถปรับกราฟฟิคได้เกือบสุด (ปรับได้จนถึง “สูง”) และตอนเล่นเกมก็ไม่เจออาการกระตุกให้หงุดหงิดอะไรเลย เฟรมเรทแกว่งๆ อยู่ที่ราว 61 – 58 fps และระบบสัมผัสหน้าจอก็แม่นยำดี ไม่มีอาการทัชหลุด ทัชหลอนแต่อย่างใด

สำหรับ PUBG ตอนเข้าเล่นครั้งแรก เกมจะปรับกราฟฟิคให้ที่ความละเอียดสูง

จะเล่นเกมอื่นๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย เล่นได้สบายๆ ลื่นๆ

กล้องหลัง

Galaxy A71 ให้กล้องหลังมาทั้งหมด 4 ตัว ประกอบด้วย เซนเซอร์หลักความละเอียด 64MP (f/1.8) + กล้อง Ultra Wide 12MP มุมกว้าง 123 องศา (f/2.2) + กล้อง Depth 5MP (f/2.4) + กล้อง Macro 5MP (f/2.2) โดยโหมดหลักๆ จะมีการถ่ายรูปปกติ, วิดีโอ, ไลฟ์โฟกัส (หน้าชัดหลังเบลอ), มาโคร, กลางคืน ฯลฯ

ถึงแม้ว่าตามสเปคแล้วกล้องหลักจะมีความละเอียดที่ 64MP แต่ภาพที่ได้มาไม่ใช่ขนาดเต็มๆ 64MP นะครับ แต่มันจะใช้ระบบ Pixel Binning รวมเอาเม็ดพิกเซล 4 เม็ด เข้าเป็น 1 เม็ดพิกเซลใหญ่ ทำให้เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น เก็บภาพในที่มืดได้ดีขึ้น และจัดการกับ Noise ได้ดีกว่า แต่ภาพที่ออกมาจะมีขนาดอยู่ที่ 16MP















ตัวอย่างภาพแสงปกติ






ตัวอย่างภาพถ่ายที่แสงน้อย



ภาพโหมดมาโคร

กล้องหน้า

กล้องหน้าของ Galaxy A71 ให้ความละเอียดมาสูงถึง 32MP ซึ่งภาพที่ออกมาจะให้ลายละเอียดที่คมชัด และสามารถเลือกปรับได้ 2 ระยะ คือระยะปกติ และมุมกว้างออกมานิดนึงสำหรับถ่ายเซลฟี่แบบเป็นกลุ่ม ส่วนโหมดบิวตี้ก็จะมีให้ปรับได้ตั้งแต่ 0 – 3 ระดับ




วิดีโอ

การถ่ายวิดีโอของ Galaxy A71 สามารถปรับความละเอียดไปได้ถึงระดับ 4K แต่ถ้าจะใช้โหมดกันสั่นจะสามารถเปิดได้ใช้ได้เฉพาะกับความละเอียด FHD เท่านั้น แต่จากการทดสอบแล้ว ถ่ายวิดีโอ FHD ถึงจะไม่เปิดโหมดกันสั่นก็ยังถือว่าค่อนข้างนิ่งใช้ได้เลยทีเดียว

เปิดโหมดกันสั่น

ปิดโหมดกันสั่น

นอกจากนี้ยังมีโหมด AR Doodle ให้ใส่เอฟเฟ็คท์เก๋ๆ วาดเส้นใส่หน้าจอแบบ 3 มิติ โดยเส้นที่วาดจะตรึงอยู่กับที่ หรือจะเคลื่อนที่ตามวัตถุก็ได้

AR Doodle

มาตรฐาน Widevine L1 ดูหนัง Netflix แบบ HD

Galaxy A71 ได้รับมาตรฐาน Widevine L1 ทำให้มันสามารถดูหนังจากแอป Netflix ได้แบบ HD โดยไม่มีปัญหาใดๆ

แบตเตอรี่

Galaxy A71 ให้แบตเตอรี่มาที่ 4500 mAh ซึ่งเรียกว่าพอใช้ใน 1 วันแบบเหลือๆ เพราะจากการทดลองใช้กับซิม 4G เปิด Data เอาไว้ตลอดเวลา เอาไปใช้นอกบ้านบ้าง ใช้ WiFi ในบ้านบ้าง ดูคลิป FHD จาก YouTube แบบเปิดแสงสว่างหน้าจอประมาณ 60% ลำโพง 60% ราวๆ ชั่วโมงครึ่ง ดูหนัง HD จาก Netflix ไป 1 เรื่อง ราวๆ ชม. ครึ่ง เล่นเกมไปอีก ชม. ครึ่ง เล่นเน็ตอีกครึ่งชม. ก็พบว่าแบตเตอรี่ยังเหลืออยู่ประมาณ 50% เลยทีเดียว คือถ้าใช้งานทั่วไปไม่ได้เล่นเกมนานขนาดนี้ หรือไม่ได้ดูคลิปดูหนังยาวๆ น่าจะใช้ได้ 2 วันเต็มๆ

 

สรุปผลการใช้งาน Galaxy A71

ข้อดี

  • หน้าจอ Super AMOLED สีสันสวยสด คมชัดดี
  • ใช้งานได้ลื่นๆ ทั้งการใช้ทั่วไป และการเล่นเกมกราฟฟิคโหดๆ (แต่บางเกมต้องปรับกราฟฟิคระดับกลาง)
  • เล่นเกมไม่มีปัญหากับระบบสัมผัส
  • กล้องหลังถ่ายภาพได้ค่อนข้างดี
  • ถ่ายวิดีโอได้ค่อนข้างนิ่งแม้ปิดระบบกันสั่น
  • แบตเตอรี่อึดใช้งานปกติได้ข้ามวัน
  • ราคาสมเหตุสมผล

ข้อติ

  • ฝาหลังเป็นรอยนิ้วมือง่าย (แก้โดยการใส่เคส)
  • ไม่กันน้ำ
  • ลำโพงเสียงเบา

 

Galaxy A71 นับว่าเป็นมือถือซีรีส์ Galaxy A ที่เรียกว่าพัฒนาขึ้นมาจากรุ่นก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสเปคโดยรวม, กล้องหลังที่ถ่ายได้สวยขึ้น, แบตเตอรี่ที่อึดหายห่วง แถมราคายังถูกลงกว่าเดิมอีกด้วย ทำให้ Galaxy A71 เป็นมือถือที่น่าสนใจมากๆ ในระดับราคานี้ ไม่ว่าจะเป็นคนชอบเล่นเกม หรือคนชอบถ่ายรูปก็น่าจะถูกใจมือถือรุ่นนี้กันได้ไม่ยากครับ

from:https://droidsans.com/review-samsung-galaxy-a71/

Samsung Galaxy A71 5G โผล่บน Geekbench มาพร้อมชิปเซ็ต Exynos 980 และ RAM 8GB

ก่อนหน้านี้ Samsung เพิ่งจะเปิดตัวและวางขายมือถือรุ่น Galaxy A71 ไปหยกๆ และหลังจากนั้นไม่นานก็มีข่าวหลุดว่าพวกเขาเตรียมปล่อย Galaxy A70e รุ่นเล็กตามออกมา และ..ล่าสุดก็มีสมาร์ทโฟนรุ่น Galaxy A71 5G โผล่ออกมาบนเว็บไซต์ Geekbench อีกแล้ว โดยคาดว่าอาจจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ซะด้วย

จากผลคะแนน Geekbench ของมือถือลึกลับที่มีโค้ดเนมว่า “SM-A7160” ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นมือถือรุ่น Galaxy A71 รุ่นอัพเกรดสเปค เพราะเปลี่ยนจากชิป Snapdragon 730 มาใช้ชิป Exynos 980 ที่มีโมเดม 5G ในตัว ที่ Samsung เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ส่วนสเปคคร่าวๆ ของชิปตัวนี้คือเป็นชิประดับกลาง มี CPU 8 แกน ประกอบไปด้วย 2x Cortex-A77 @2.2GHz และ 6x Cortex-A55 @1.80GHz

สำหรับประสิทธิภาพความแรง Galaxy A71 5G ก็ทำคะแนนไปได้ในหัวข้อ Single-Core ทั้งหมด 3,078 คะแนน และหัวข้อ Multi-Core 7,346 คะแนน ส่วนสเปคในด้านอื่นๆ นอกจากจะใช้ชิป Exynos 980 แล้ว Galaxy A71 5G ยังมาพร้อมกับ RAM 8GB, รองรับ Wi-Fi 6 และใช้ระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่คาดว่าจะครอบทับด้วย One UI 2.0

สเปค GALAXY A71 5G (คาดการณ์)

  • หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+
  • ชิปเซ็ต Exynos 980
  • RAM 8GB
  • ความจุ 128GB ใส่เมมเพิ่มได้ 512GB
  • กล้องหลัง 4 ตัว (64MP + 12MP + 5MP + 5MP)
  • กล้องหน้า 1 ตัว 32MP
  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
  • แบตเตอรี่ 4,500 mAh รองรับการชาร์จไว 25 วัตต์
  • ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย One UI 2.0

เชื่อว่าในปีนี้ เราน่าจะได้เห็นมือถือระดับกลางจากทั้ง Samsung และค่ายอื่นๆ ที่รองรับการใช้งาน 5G เปิดตัว และวางจำหน่ายกันมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ

 

ที่มา: sammobile

from:https://droidsans.com/samsung-galaxy-a71-5g-geekbench-test/

เทียบสเปค Galaxy A51 และ A71 ราคาต่างกัน 3,500 บาท มีสเปค และฟีเจอร์ไม่เหมือนกันตรงไหนบ้าง

Galaxy A51 และ Galaxy A71 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราไปเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา ด้วยราคาที่ค่อนข้างเป็นมิตรมากกว่ามือถือซีรีส์ Galaxy A รุ่นก่อนๆ โดยรุ่นน้องเล็ก A51 เปิดราคามาที่ 10,490 บาท ส่วน A71 เปิดมาที่ 13,990 บาท ซึ่งมีราคาห่างกันอยู่ 3,500 บาท ทำให้หลายๆ คนอาจจะตัดสินใจไม่ถูกว่าจะซื้อตัวท็อป A71 ไปเลย หรือว่าจะเอาแค่ A51 ก็พอ…เราก็เลยขอมาเทียบสเปค + ฟีเจอร์ทั้ง 2 รุ่น ให้เห็นกันชัดๆ ไปเลยครับ

ก่อนอื่นเรามาดูสเปคของทั้ง 2 รุ่นกันก่อนนะครับว่ามีอะไรต่างกันตรงไหนบ้าง ซึ่งเราทำเป็นตารางมาเทียบให้ได้ดูกันง่ายๆ ครับ

สเปค Galaxy A51 และ A71

สเปค Galaxy A51 Galaxy A71
หน้าจอ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ ขนาด 6.5 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด FHD+ ขนาด 6.7 นิ้ว
CPU Exynos 9611 Snapdragon 730
GPU Mali-G72 MP3 Adreno 618
RAM 6GB 8GB
ความจุ 128GB รองรับ MicroSD 512GB (ช่องแยก) 128GB รองรับ MicroSD 512GB (ช่องแยก)
กล้องหลัง กล้องหลัก 48MP + กล้อง Ultrawide 12MP + กล้องจับความลึก 5MP + กล้อง Macro 5MP กล้องหลัก 64MP + กล้อง Ultrawide 12MP + กล้องจับความลึก 5MP + กล้อง Macro 5MP
กล้องหน้า 32MP 32MP
เซ็นเซอร์ Fingerprint (optical ใต้หน้าจอ), accelerometer, gyro, proximity, compass Fingerprint (optical ใต้หน้าจอ), accelerometer, gyro, proximity, compass
การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, BT 5.0 Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, BT 5.0
รูหูฟัง มี มี
แบตเตอรี่ 4000 mAh 4500 mAh
ระบบชาร์จ 15W 25W
ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบด้วย One UI 2 Android 10 ครอบด้วย One UI 2
ขนาด / น้ำหนัก 158.5 x 73.6 x 7.9 มม. / 172 กรัม 163.6 x 76 x 7.7 มม. / 179 กรัม
ราคา 10,490 บาท 13,990 บาท

ของในกล่อง

ของในกล่อง Galaxy A51 และ A71 ก็มีความแตกต่างกันพอสมควรนะครับ โดยในกล่องของ A51 จะมีหูฟังแบบ Earbuds, สายชาร์จแบบ USB-A > C และที่ชาร์จ 15W

ส่วนกล่องของ Galaxy A71 จะมีหูฟังแบบ In-Ear, สายชาร์จแบบ USB-C > C และที่ชาร์จ 25W

ตัวเครื่อง และหน้าจอ

รูปร่างหน้าตาของ Galaxy A51 และ A71 เรียกว่าถอดแบบกันมาเลย ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ Super AMOLED แบบ Infinity-O ความละเอียด FHD+

Galaxy A51 / A71

ตัวเครื่องด้านหลังของทั้ง 2 รุ่น เป็นพลาสติกแบบมันวาว และมีการเล่นลวดลายแบบปริซึมที่ดูๆ ไปแล้วก็สวยหรูดูดีอยู่เหมือนกัน แม้จะไม่ได้ใช้วัสดุเป็นกระจกเหมือนรุ่นพี่เรือธงซีรีส์ S และ Note

ตำแหน่งและการวางกล้องหลังของทั้งคู่ก็เหมือนกันอีก ด้วยการวางกล้องทั้ง 4 ตัว เรียงเป็นตัว L เอาไว้บนโมดูลสี่เหลี่ยมผืนผ้าตรงมุมซ้ายบนของตัวเครื่อง

Galaxy A51 / A71

จะต่างกันก็แค่ขนาดของหน้าจอและตัวเครื่องเท่านั้น โดยรุ่นน้อง A51 มีขนาดจออยู่ที่ 6.5 นิ้ว ส่วน A71 ใหญ่ขึ้นมานิดนึงเป็น 6.7 นิ้ว

Galaxy A51 / A71

ส่วนขนาดตัวเครื่องของ A51 คือ 158.5 x 73.6 x 7.9 มม. ส่วน A71 อยู่ที่ 163.6 x 76 x 7.7 มม. ซึ่งจริงๆ ตอนถือก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันจะต่างกันเท่าไหร่นัก

Galaxy A51 / A71

สีตัวเครื่องที่วางจำหน่ายในบ้านเราก็จะแตกต่างกันนิดนึง โดย A51 มีให้เลือก 3 สี คือ สีชมพู Prism Crush Pink, สีน้ำเงิน Pism Crush Blue, สีดำ Prism Crush Black ส่วนรุ่นพี่ A71 ก็มี 3 สีเช่นกัน แต่จะเปลี่ยนจากสีชมพู เป็นสีดำ Prism Crush Black แทน

ประสิทธิภาพเครื่อง

Galaxy A51 มากับชิป Exynos 9611 และ RAM 6GB ทดสอบวัดประสิทธิภาพจาก AnTuTu แล้วได้คะแนนของมาที่  189,032 คะแนน ส่วนรุ่น A71 ที่ใช้ชิป Snapdragon 730 และ RAM 8GB ทำคะแนนออกมาได้ที่ 275,108 ซึ่งทาง Samsung ก็ได้ชูว่ารุ่นท็อปดังกล่าวเป็นมือถือที่มี “สเปคเทพของเกมเมอร์” เลยทีเดียว

Galaxy A51 / A71

ทั้ง Galaxy A51 และ A71 รุ่นที่ขายในบ้านเรามีตัวเลือก RAM มาให้อย่างละรุ่นเท่านั้นนะครับ โดย Galaxy A51 ให้ RAM มาที่ 64GB ส่วน A71 ให้มาที่ 8GB

กล้องหลัง / หน้า

กล้องหลังของ Galaxy A51 และ A71 มีจำนวนเท่ากันที่ 4 ตัว ประกอบไปด้วยกล้องหลัก + กล้อง Ultrawide + กล้อง Macro + กล้องจับความลึก เหมือนกันทั้งคู่ แต่จะแตกต่างกันตรงเซ็นเซอร์หลักของ A51 มีความละเอียดอยู่ที่ 48MP ในขณะที่ A71 อัพเกรดขึ้นมาเป็น 64MP

ส่วนกล้องเซลฟี่ของทั้งคู่มีความละเอียดเท่ากันที่ 32MP

แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ

แบตเตอรี่ของ Galaxy A51 มีความจุอยู่ที่ 4000 mAh และให้ระบบชาร์จไวมาที่ 15W

ที่ชาร์จ 15W ของ Galaxy A51

ส่วนรุ่นท็อป Galaxy A71 ให้แบตเตอรี่มามากกว่าที่ 4500 mAh และรองรับระบบชาร์จไวที่ไวกว่า เป็น 25W

ที่ชาร์จ 25W ของ Galaxy A71

สรุปใครเหมาะกับรุ่นไหนมากกว่า?

Galaxy A71

ด้วยราคาของ Galaxy A51 และ a71 ที่ห่างกันอยู่ 3,500 บาท คนที่เล็งๆ อยากจะเปลี่ยนมือถืออยู่ก็จะเกิดอาการลังเลว่า…เราควรจะซื้อรุ่นไหนดี เพราะดูเผินๆ เหมือนจะต่างกันที่ขนาดหน้าจอและสเปคอื่นๆ ไม่มากมายนัก แต่ถ้าใครเป็นผู้ใช้มือถือที่ชอบเล่นเกมกราฟฟิคหนักๆ ประเภท ROV, PUBG, Free Fire, Asphalt 9 ฯลฯ มือถือรุ่นท็อปอย่าง Galaxy A71 ก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่ใหญ่เต็มตากว่า, สเปคที่แรงกว่าด้วย Snapdragon 730 + RAM 8GB ที่ทำคะแนน AnTuTu ไปได้ถึง 275,108 คะแนน ทำให้การเล่นเกมต่างๆ ลื่นไหลกว่า

ส่วนกล้องหลังเซ็นเซอร์หลักของ Galaxy A71 ก็ให้ความละเอียดมามากกว่าที่ 64MP แต่ไม่ใช่ว่าจะถ่ายภาพออกมาได้ที่ขนาด 64MP เลยนะครับ เพราะมันใช้เทคโนโลยี Pixel Binning รวมเอาเม็ดพิกเซล 4 เม็ดเข้าเป็นพิกเซลเม็ดใหญ่เม็ดเดียว ทำให้เก็บแสง + รายละเอียดได้ดีกว่า ซึ่งภาพจริงก็จะออกมามีขนาดอยู่ที่ราวๆ 16MP นั่นเอง

Galaxy A71

Galaxy A51

ส่วน Galaxy A51 ซึ่งราคาถูกกว่าอยู่ที่ 10,490 บาท ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่ได้เน้นเล่นเกมกราฟฟิคหนักๆ ซึ่งจริงๆ แล้วชิป Exynos 9611 + RAM 6GB ก็สามารถใช้งานต่างๆ รวมถึงเล่นเกมในปัจจุบันได้สบายอยู่แล้ว แต่บางเกมถ้าปรับกราฟฟิคสุด ก็มีอาการกระตุกให้เห็นบ้างเหมือนกัน (อย่างเช่นเกม ROV และ PUBG) ถ้าปรับกราฟฟิคระดับกลางก็จะเล่นได้ลื่นปรื๊ดๆ ไม่มีปัญหาอะไรเลย

สำหรับกล้องหลังของ A51 จะถูกลดความละเอียดลงมาเป็น 48MP ซึ่งก็ใช้เทคโนโลยี Pixel Binning รวม 4 พิกเซล เป็น 1 เหมือนกัน โดยภาพออกมามีขนาดอยู่ที่ประมาณ 12MP ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่ได้แย่เลยในสภาพแสงปกติ แต่การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยจะด้อยกว่า A71 อยู่บ้าง จากรายละเอียดที่เก็บได้ไม่ครบ รวมถึงการจัดการ Noise ที่ทำได้ไม่ดีเท่า

อีกหนึ่งข้อแตกต่างชัดๆ ก็คือระบบชาร์จไวของ Galaxy A51 ที่ยังให้มาแค่ 15W ส่วน A71 ให้มาถึง 25W เอาจริงๆ ถ้าใครที่ไม่ได้รีบร้อนต้องการความรวดเร็วมากมาย 15W ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว สำหรับการชาร์จไฟในแต่ละวัน เพราะคนส่วนมากก็มักจะชาร์จมือถือก่อนนอนซึ่งก็ต้องชาร์จทิ้งไว้ทั้งคืนนั่นเอง

Galaxy A51

สรุปว่าใครที่ต้องการมือถือสเปคแรงสำหรับเล่นเกม, ต้องการมือถือที่มีกล้องหลังความละเอียดโหดๆ และมีระบบชาร์จไวเร็วๆ ก็ลงทุนซื้อ Galaxy A71 ไปเลยครับ แต่ถ้าใครที่ไม่ใช่คอเกม และกล้องความละเอียด 48MP ก็เพียงพอต่อการถ่ายรูปงามๆ แล้ว…การหันมาเลือก Galaxy A51 ก็นับเป็นทางเลือกที่ดี และประหยัดเงินไปได้อีกหลายบาทครับ

from:https://droidsans.com/galaxy-a51-a71-specs-comparison/

พรีวิวสัมผัสแรก Samsung Galaxy A51 และ Galaxy A71 ชูจุดเด่นจอใหญ่กล้องสวยแบตอึดเริ่มต้นแค่ 10,490 บาท

Samsung พร้อมส่งสมาร์ทโฟน Galaxy A series รุ่นใหม่และรุ่นแรกของปี 2020 เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแล้ว โดยเปิดตัวพร้อมกัน 2 รุ่น ได้แก่ Galaxy A51 และ Galaxy A71 ซึ่งทั้งคู่ถือเป็นการเริ่มต้นของดีไซน์ใหม่ที่ Samsung จะนำมาใช้กับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่จะออกตามมาในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น Galaxy S10 Lite และ Galaxy Note 10 Lite รวมถึง Galaxy S20 series 

Galaxy A51 และ Galaxy A71 มีการออกแบบที่คล้ายกัน แต่ Galaxy A71 มีขนาดใหญ่กว่า โดยมีมิติตัวเครื่อง 163.6 x 76 x 7.7 มิลลิเมตร ขณะที่ Galaxy A51 มีมิติ 158.5 x 73.6 x 7.9 มิลลิเมตร นั่นทำให้ Galaxy A51 มีน้ำหนักเบากว่า อยู่ที่ 172 กรัม อีกรุ่น 179 กรัม

Galaxy A51 และ Galaxy A71 มาพร้อมจอแสดงผล Infinity-O Display ที่มีการเจาะรูตรงกึ่งกลางสำหรับวางกล้องเซลฟี่ โดยมีความละเอียดเท่ากัน 1080 x 2400 พิกเซล และติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล 

ส่วนที่แตกต่างกันก็คือ Galaxy A51 ใช้จอ Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ส่วน Galaxy A71 ใช้จอ Super AMOLED Plus ขนาด 6.7 นิ้ว 

ทั้งคู่มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ที่ใช้ดีไซน์เดียวกัน โดยจัดวางเลนส์กล้องทั้ง 4 ตัว เป็นรูปตัว L ภายในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่มีความละเอียดแตกต่างกัน

กล้องหลังของ Galaxy A51 ประกอบด้วย กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล (F2.0) + กล้องอัลตร้าไวด์ 12 ล้านพิกเซล (F2.2) + กล้องมาโคร 5 ล้านพิกเซล (F2.4) + กล้องจับระยะชัดลึก 5 ล้านพิกเซล (F2.2)

กล้องหลังของ Galaxy A71 ประกอบด้วย กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล (F1.8) + กล้องอัลตร้าไวด์ 12 ล้านพิกเซล (F2.2) + กล้องมาโคร 5 ล้านพิกเซล (F2.4) + กล้องจับระยะชัดลึก 5 ล้านพิกเซล (F2.2)

จะเห็นว่ากล้องหลังของทั้งคู่ มีความแตกต่างกันที่กล้องหลักเท่านั้น ขณะที่กล้องเซลฟี่ก็ใช้สเปกเดียวกัน 32 ล้านพิกเซล (F2.2) และสามารถใช้สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคได้

Galaxy A51 และ Galaxy A71 ยังได้รับการออกแบบด้านหลังที่คล้ายกันมาก โดยเฉพาะเอฟเฟกต์สะท้อนแสงออกมาเป็นสีรุ้ง คล้ายสี Aura Glow ของ Galaxy Note 10 และยังมีเทคนิคไล่ระดับสี บนลวดลายรูปตัว X ซึ่งทาง Samsung เรียกว่า Prism Crush 

ด้านสเปก Galaxy A51 ใช้ชิปประมวลผล Octa Core (Quad 2.3GHz + Quad 1.7GHz) ความจำ RAM 4GB / 6GB / 8GB จับคู่กับ ROM 64GB / 128GB รองรับการ์ด Micro SD สูงสุด 512GB ความจุแบตเตอรี่ 4,000mAh ชาร์จเร็ว 15 วัตต์

สำหรับ Galaxy A71 มาพร้อมชิปประมวลผล Octa Core (Dual 2.2GHz + Hexa 1.8GHz) ความจำ RAM 6GB / 8GB จับคู่กับ ROM 128GB รองรับการ์ด Micro SD สูงสุด 512GB ความจุแบตเตอรี่ 4,500mAh ชาร์จเร็ว 25 วัตต์

Samsung Galaxy A51 และ Galaxy A71 ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานรอบด้าน จอแสดงผลขนาดใหญ่รองรับทั้งการดูคอนเท้นต์วีดีโอ ท่องเว็บ เล่นเกม อัพเดทโลกโซเชี่ยล กล้องดิจิตอลถ่ายภาพได้คมชัดหลายมิติ กล้องเซลฟี่มีความละเอียดสูง และยังได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงาม ด้วยดีไซน์ที่คล้ายกัน ทำให้ตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก เลือกตามงบประมาณในกระเป๋าเงินได้เลย

ราคาและกำหนดการวางจำหน่าย

Galaxy A51 ราคา 10,490 บาท (RAM 6GB + ROM 128GB) มีให้เลือก 3 สี Prism Crush Black, Prism Crush Blue และ Prism Crush Pink

Galaxy A71 ราคา 13,990 บาท (RAM 8GB + ROM 128GB) มีให้เลือก 3 สี Prism Crush Black, Prism Crush Blue และ Prism Crush Silver

พิเศษ!! เมื่อซื้อ Galaxy A51 และ Galaxy A71 ในระหว่างวันที่ 25 มกราคม – 10 กุมภาพันธ์ 2563 รับส่วนลดทันที 500 บาทสำหรับแลกซื้ออุปกรณ์เสริมหรืออุปกรณ์สวมใส่ของ Samsung

from:https://www.flashfly.net/wp/282613

Samsung ส่งสมาร์ทโฟนสุดเจ๋ง ‘Galaxy A51 และ Galaxy A71’ ประเดิมต้นปี พร้อมจัดเต็มฟีเจอร์ กล้อง-จอ-แบต สุดทุกเรื่องในเครื่องเดียว

ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก เผยโฉมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล เอ ซีรีส์ประจำปี 2563 นำทัพโดย กาแลคซี่ เอ 51 สมาร์ทโฟนรูปสวย เลนส์ครบจบในเครื่องเดียว และกาแลคซี่ เอ 71 สมาร์ทโฟนสเปคเทพของเกมเมอร์ สุดยอดนวัตกรรมที่ซัมซุงตั้งใจพัฒนาขึ้นมาเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนที่ครบสุดทุกเรื่องสำหรับทุกคน (Awesome is for Everyone) ด้วยฟีเจอร์ที่โดดเด่นและจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายภาพอัจฉริยะที่มาพร้อมเลนส์ที่ครบครัน พร้อมให้ผู้ใช้งานเก็บภาพได้ทุกแบบ ทุกสไตล์ และในทุกระยะ ไม่ว่าใกล้หรือไกลก็ได้ภาพละเอียด คมชัด เก็บครบดั่งตาเห็น พร้อมด้วยหน้าจอแบบ Infinity-O Display ที่จะมอบที่สุดของประสบการณ์การรับชมคอนเทนต์บนจอได้แบบสุดขอบ รวมถึงความจุแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวันช่วยจัดการไลฟ์สไตล์ที่ยุ่งเหยิงให้ลงตัวกว่าที่เคย

“ซัมซุงรู้สึกตื่นเต้นที่ได้นำ กาแลคซี่ เอ 51 และ เอ 71 มาเติมเต็มสมาร์ทโฟนตระกูล กาแลคซี่ เอ ซีรีส์ ที่ประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา จนกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่ผู้ใช้งานชื่นชอบมากที่สุด โดย กาแลคซี่ เอ 51 และ เอ 71 เป็นสมาร์ทโฟนเจเนอเรชั่นใหม่ที่ต่อยอดนวัตกรรมและส่งต่อเทคโนโลยีที่ผู้ใช้งานหลงรัก ตอบทุกโจทย์ของวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นสายกล้อง หรือสายเกม เราก็มีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะทำให้ใช้ชีวิตได้แบบสุดๆ ไปด้วยกัน” วิทยา สินทราพรรณทร ผู้อำนวยฝ่ายการตลาด ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที กล่าว

ซัมซุง กาแลคซี่ เอ 51 และ เอ 71 เป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับการออกแบบเพื่อสะท้อนความเป็นตัวตนของกลุ่มผู้ใช้งาน Gen Z ซึ่งมีความหลงใหลในการเสพและสร้างสรรค์คอนเทนต์สุดแหวกแนว เป็นตัวของตัวเอง โดดเด่นและไม่ซ้ำใคร พร้อมปลุกกระแสความฮิตบนโลกออนไลน์ผ่านอุปกรณ์สุดล้ำที่รวมเอาทุกฟีเจอร์ไว้อย่างครบครัน โดยซัมซุง กาแลคซี่ เอ 51 นั้นจะชูจุดเด่นในการใช้งานเรื่องกล้อง ภายใต้แนวคิด “รูปสวย เลนส์ครบ จบในเครื่องเดียว” ในขณะที่ซัมซุง กาแลคซี่ เอ 71 ยังคงตอกย้ำจุดแข็งทางการตลาดในเรื่องเกมที่เป็นสมาร์ทโฟนสเปคเทพของเกมเมอร์ ต่อเนื่องจากโมเดลก่อนหน้า ซัมซุง กาแลคซี่ เอ ทั้ง 2 รุ่น

รูปสวย เลนส์ครบ จบในเครื่องเดียว

ซัมซุง กาแลคซี่ เอ 51 มาพร้อมกับเลนส์กล้องหลังอัจฉริยะที่ตอบโจทย์ครบทุกสไตล์การถ่ายภาพ พร้อมกับนวัตกรรมกล้องใหม่ล่าสุด โหมดมาโคร (Macro) 5 ล้านพิกเซล ช่วยให้เก็บรายละเอียดมุมใกล้ได้ชัดกว่าที่เคย โฟกัสระยะใกล้ชัดสุดได้ถึง 4 เซนติเมตร นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมกล้องหลักที่โดดเด่น ประกอบไปด้วย โหมดอัลตร้าไวด์ (Ultra-Wide) 12 ล้านพิกเซล เก็บภาพมุมกว้างถึง 123 องศา ให้คุณเก็บภาพได้ครบกว่าที่เคย โหมดไลฟ์ โฟกัส(Depth Camera) 5 ล้านพิกเซล ที่ไม่ใช่แค่ถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลาย แต่ยังสามารถเพิ่มเอฟเฟกต์ให้รูปแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร รวมถึง กล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล และ กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ที่ไม่ว่าจะในที่แสงมากหรือแสงน้อยก็ถ่ายเซลฟี่ได้สวยกว่าเดิม ด้วยบิวตี้โหมด นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถเก็บทุกโมเมนต์สุดประทับใจได้นิ่งระดับแอคชั่นแคม กับ โหมดถ่ายวีดีโอกันสั่น (Super Steady Video) เพื่อให้ได้วีดีโอที่คมชัด ภาพลื่นไหลไม่สั่นสะเทือน ไม่ว่าคุณจะอยากทำคอนเทนต์แนวไหน กาแลคซี่ เอ 51 ก็ตอบทุกโจทย์ได้จบในเครื่องเดียว

ซัมซุง กาแลคซี่ เอ 51 และ เอ 71 ยังมาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ให้ภาพสีสวยสดคมชัดในทุกสภาพแสงและด้วยดีไซน์ จอรูปแบบใหม่Infinity-O Display ขนาด 6.5 นิ้ว ยังให้คุณได้สนุกกับการดูได้เต็มจอกว่าที่เคย พร้อมใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น ด้วยแบตเ

สเปคเทพของเกมเมอร์

ซัมซุง กาแลคซี่ เอ 71 ถูกออกแบบมาเพื่อเอาใจคอเกมโดยเฉพาะ ด้วยหน่วยประมวลผลชิปเซ็ตสุดเทพ Snapdragon 730 และ RAM 8 Rom 128 ที่ทำให้เล่นลื่น เร็ว แรง เพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมด้วย AI Game Booster ตัวช่วยอัจฉริยะที่จะช่วยทำให้การเล่นเกมเสถียรมากยิ่งขึ้น ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีจอรุ่นใหม่ Super AMOLED Plus จอใหญ่ สีสวย ภาพสมจริง บางและเบากว่าเดิม ทำให้จับถนัดมือ พร้อมให้ผู้ใช้งานสตรีม เล่นเกม และใช้งานสมาร์ทโฟนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา

นอกจากนี้ ซัมซุง กาแลคซี่ เอ 51 และ เอ 71 ยังมอบประสบการณ์สุดล้ำให้ผู้ใช้งานได้เชื่อมต่อกับอีโคซิสเต็มอันชาญฉลาดของซัมซุงผ่านแอปพลิเคชันและบริการสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น ผู้ช่วยคำสั่งเสียง Bixby ที่รองรับทั้งฟีเจอร์ Vision, Lens Mode และ Routines รวมทั้งแพลตฟอร์มการชำระเงินผ่าน Samsung Pay และแอปพลิเคชันด้านสุขภาพอย่าง Samsung Health พร้อมเสริมความมั่นใจให้ผู้ใช้งานด้วยแพลตฟอร์มระบบรักษาความปลอดภัยระดับทางการทหาร Samsung Knox เพื่อช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย

ซัมซุง กาแลคซี่ เอ 51 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่Prism Crush Pink, Prism Crush Blue และPrism Crush Black วางจำหน่ายในราคา 10,490 บาท กาแลคซี่ เอ 71 มีให้เลือก 3 สี คือPrism Crush Black, Prism Crush Blue และ Prism Crush Silver ราคา 13,990 บาท พร้อมวางจำหน่ายแล้ว 25 มกราคม นี้

พิเศษ โปรโมชันเปิดตัว เมื่อซื้อ กาแลคซี่ เอ 51 หรือ เอ 71 รับฟรี! ส่วนลด 500 บาท สำหรับซื้ออุปกรณ์สวมใส่ หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ระหว่างวันที่ 25 มกราคม – 10 กุมภาพันธ์ 2563

from:https://www.flashfly.net/wp/282358