คลังเก็บป้ายกำกับ: BizSpark

โอกาสพิเศษสำหรับ Startup รุ่นใหม่ร่วมชิงรางวัลจาก Microsoft งาน Start it Up, Power it Up#5

Microsoft_BizSpark

โอกาสพิเศษสำหรับเพื่อนๆ Startup กับการได้รับการสนับสนุนจากบริษัท Microsoft ด้วยโปรแกรม BizSpark มูลค่ากว่า 4 ล้านบาทในงาน Start it Up, Power it Up #5Microsoft BizSpark โปรแกรมที่จัดขึ้นทั่วโลก ออกแบบมาเพื่อช่วยสนับสนุน Startup ทั้งในส่วนของการใช้งาน Software ฟรีต่างๆ มากมาย และการเข้าถึงแพลตฟอร์มต่างๆ , การสนับสนุนจากพาร์ทเนอร์ในแง่เทคนิคและการตลาดจากทาง Microsoft รวมถึงทาง thumbsup

วันนี้ทาง Microsoft มอบสิทธิให้กับเพื่อนๆ Startup ที่มีความสนใจในโครงการดังกล่าว โดยเขียนบทความสั้นๆ ส่งเมลมาที่ contact@thumbsup.inth จ่าหัวข้อเมลว่า “Startup Stories with Microsoft Azure” และตอบคำถามว่า 

“ถ้าธุรกิจของคุณต้องขยายสู่ตลาดประเทศอื่นในระยะเวลา 2 อาทิตย์ คิดว่า Window Azure จะช่วยคุณได้อย่างไร?” 

พร้อมแจ้งรายละเอียด Startup ของคุณเข้ามาพร้อมรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • ชื่อ นามสกุล ผู้ติดต่อ
  • ชื่อ Startup
  • รายละเอียดผลิตภัณฑ์ พร้อม Capture Screen ของบริการ
  • Business Model คร่าวๆ
  • เหตุผลที่สนใจเข้าร่วมโครงการ BizSpark

ความยาวของบทความไม่เกิน 2  หน้ากระดาษ (Angsana 14)
Startup ผู้ตอบคำถามโดนใจ 3 รายจะได้รับสิทธิผ่านการอนุมัติเข้าร่วมโปรแกรม BizSpark มูลค่ากว่า 4 ล้านบาทต่อทีม

เกณฑ์ผู้มีสิทธิได้รับการคัดเลือก
1)  Startup ที่มีผลิตภัณฑ์ซอฟแวร์เป็นของตนเอง
2)  มาร่วมงาน Start it Up, Power it Up #5 ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2556

หมดเขตการส่งบทความ : 23.59น. ของวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2556
สำหรับผู้สนใจรายละเอียดโครงการ BizSpark สามารถดูได้ที่ลิงค์นี้

from:http://thumbsup.in.th/2013/10/startup-microsoft-azure-bizspark/

[PR] ไมโครซอฟท์ จับมือ2 พันธมิตรใหญ่ “สสส.-ททท.” เปิดตัวโครงการ “Wheel-go-round”

[PR] ไมโครซอฟท์ จับมือ2 พันธมิตรใหญ่ “สสส. ททท.” เปิดตัวโครงการ “Wheel go round”

เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่อาคารศูนย์เรียนรู้ งานดูพลีบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวเว็บไซด์และแอพพลิเคชั่น “Wheel-go-round” ภายใต้ “โครงการเผยแพร่ข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้รถเข็น” โดยมีน้องๆ จากทีมwheel-go-round ผู้พัฒนาโครงการและทีมMicrosoft Student Partners (MSPs) ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นเข้าร่วมแถลงข่าวในงาน

นางสาวศิริพร พัชรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า“ไมโครซอฟท์ มีความยินดีที่ได้สนับสนุนและเห็นการพัฒนาที่ก้าวไปอีกขั้นของน้องๆ กลุ่ม Wheel-go-round  ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ได้เข้าร่วมโครงการ Innovate For Good ภายใต้ YouthSparkซึ่งเป็นโครงการเพื่อสังคมที่ไมโครซอฟท์จัดขึ้นเพื่อมอบโอกาสและเติมพลังให้เยาวชนคนหนุ่มสาวทั่วโลกเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคม  สำหรับประเทศไทย  โดยไมโครซอฟท์ได้ผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรทั้ง ภาครัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน และภาคธุรกิจ ในการร่วมสร้างโอกาสและความแข็งแกร่งทางด้านการศึกษาและเทคโนโลยีให้แก่เยาวชนไทยที่มีอายุระหว่าง 16-30 ปี”

“โครงการ Innovate For Good เป็นหนึ่งในโครงการภายใต้ YouthSparkที่ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ได้จับมือกับสภาองค์การพัฒนาเด็กและเยาวชนในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (สอ.ดย.)  ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา  โดยมีเยาวชนกว่า 100 คน จากทั่วประเทศเข้าร่วมงาน”

“Innovate For Good เป็นชุมชนที่เปิดให้เยาวชนคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ได้เข้ามาทำงานร่วมกัน  ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการคิดค้นโครงการต่างๆ โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อสร้างความแตกต่างที่ดีขึ้นให้เกิดขึ้นกับชุมชนของตนเอง  นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์ ยังได้เข้ามาช่วยสนับสนุน โดยนำทีมน้องๆ Microsoft Student Partners (MSPs) เข้ามาช่วยพัฒนาแอพพลิเคชั่น Wheel-go-round  ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟน ซึ่งจะพร้อมให้ดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการ ในกลางเดือนตุลาคมนี้ นอกจากนี้ ทีม Microsoft Student Partners ยังได้อัพเดทเว็บไซต์ Wheel-Go- Round เพื่อให้ผู้ใช้รถเข็นสามารถทราบและเข้าถึงข้อมูลการใช้รถเข็นและสามารถเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ ได้สะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น   นับเป็นการรวมพลังสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ มาร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อสังคมไทย

“ตลอดระยะเวลา 20 ปี ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ไมโครซอฟท์ได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนไทยผ่านวิสัยทัศน์ ‘We Make 70 Million Lives Better’ซึ่งที่ผ่านมามีคนไทยกว่า 10 ล้านคน ได้รับประโยชน์จากหลากหลายโครงการเพื่อสังคมของไมโครซอฟท์ อาทิ โครงการPartners in Learning, Imagine Cup, DreamSparkและ BizSpark  รวมถึงโครงการล่าสุดYouthSpark (ยูธสปาร์ค)”

[PR] ไมโครซอฟท์ จับมือ2 พันธมิตรใหญ่ “สสส. ททท.” เปิดตัวโครงการ “Wheel go round”

ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า “ในปัจจุบันสังคมไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต การปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม การให้บริการ รวมทั้งการปรับด้านความเชื่อและทัศนคติ เรื่องความแตกต่างในกลุ่มประชากร สังคมทุกภาคส่วนเริ่มมีแนวคิดเรื่องการเปิดพื้นที่การให้บริการในด้านต่างๆ อย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกันในทุกกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มคนพิการและผู้สูงอายุก็เช่นกัน ทุกคนต้องการความมีอิสระในการเดินทางและการใข้ชีวิตประจำวัน สสส ก็เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ต้องการมีส่วนร่วมในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมเพื่อลดช่องว่างและเสริมสร้างความเป็นธรรมทางด้านสุขภาพและการใช้ชีวิตของคนกลุ่มนี้ เพื่อให้มนุษย์ทุกคนมีสิทธิและสามารถเข้าถึงสิทธิในการดำรงชีวิตได้อย่างเป็นรูปธรรมและเท่าเทียม เข้าใจในความแตกต่างของบุคคล อันจะนำไปสู่สังคมแห่งเท่าเทียม (Inclusive society) ของคนทุกกลุ่ม”

“สำหรับ “โครงการเผยแพร่ข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้รถเข็น(Wheel-go-round) สสส.ได้สนับสนุนโดยเล็งเห็นว่าโครงการนี้จะช่วยจุดประกายให้เกิดการปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกในสถานที่ต่างๆให้เหมาะสมกับผู้ใช้วีลแชร์ รวมถึงสร้างความตระหนักแก่สังคมให้เห็นถึงความสำคัญของ“การมีพื้นที่”ซึ่งทุกคนสามารถเข้าถึงได้โดยปราศจากสภาพแวดล้อมที่เป็นอุปสรรค” ทพ.กฤษดา กล่าว

ด้านนางสาวลิปดา จารุเธียร ตัวแทนเยาวชนกลุ่ม Wheel-go-roundกล่าวถึงที่มาของแอพพลิเคชั่นนี้ว่า ตนมีญาติที่ใช้วีลแชร์ จะพบปัญหาเรื่องการเดินทางอยู่บ่อยครั้ง จนได้มีโอกาสร่วมกับเพื่อน คิดค้นและต่อยอดปัญหาดังกล่าว ซึ่งการออกไปเรียนรู้ ไปสำรวจปัญหาจริงๆ เราได้ไปคุยกับกลุ่มผู้ใช้วีลแชร์ที่อยู่ศูนย์ดำรงชีวิตอิสระ กลุ่มนักกีฬาวีลแชร์ และกลุ่มผู้ใช้วีลแชร์ที่ออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านเป็นประจำ ได้รับฟังและแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นจริง พบว่าส่วนใหญ่เค้าก็มักจะไปแต่ที่เดิมๆ ที่เคยไปมาแล้ว หรือการจะไปที่ใหม่ๆ แต่ละครั้งก็มักจะสอบถามเพื่อนๆ มนุษย์ล้อกันเอง ยังไม่กล้าเสี่ยงที่จะออกไปเจอกับสภาพที่ไม่แน่นอนของสถานที่

“ในส่วนของแอพพลิเคชั่น เราได้มีโอกาสมาเข้าร่วม โครงการ Innovate For Good ของไมโครซอฟท์ในช่วงแรกที่กำลังพัฒนา จุดอ่อนที่เห็นจากการทดลองจากเฟซบุ๊ค(www.fb.com/wheelgoround)คือการหาและส่งต่อข้อมูลการเข้าถึงสถานที่ต่างๆ ยังไม่มีประสิทธิภาพเจนได้มีโอกาสรู้จักกับทีม Microsoft Student Partners โดยน้องๆ กลุ่มนี้ได้ช่วยเปิดมุมมองของเราให้กว้างขึ้น ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน โดยช่วยกันพัฒนาเว็บไซด์และแอพพลิเคชั่น ซึ่งเราได้นำไปให้ผู้ใช้วีลแชร์จริงๆทดลองใช้ เพื่อนำเสียงตอบรับจากผู้ใช้งานจริงมาบอกต่อให้น้องๆได้ปรับปรุงแก้ไข จนได้เป็นแอพพลิเคชั่นอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ที่ดีที่สุด”นางสาวลิปดา กล่าว

[PR] ไมโครซอฟท์ จับมือ2 พันธมิตรใหญ่ “สสส. ททท.” เปิดตัวโครงการ “Wheel go round”

โดยผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซด์  http://www.wheelgoround.in.th ซึ่งเปิดให้บริการแล้ว สำหรับแอพพลิเคชั่น wheel-go-round จะเปิดให้ดาวน์โหลดใช้ผ่าน วินโดวส์ สโตร์ ตั้งแต่กลางเดือน ตุลาคม 2556 เป็นต้นไป  โดยหลังจากการเปิดให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นนี้แล้ว ทางทีม Wheel-go-round มีความตั้งใจที่จะพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนแพลตฟอร์มอื่นๆ และเพิ่มฟังก์ชั่นภาษาไทยเร็วๆ นี้

from:http://mobiledista.com/pr-microsoft-joins-two-allies-to-verify-tat-launch-wheel-go-round/

[PR] ไมโครซอฟท์ เปิดตัวบริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับเอสเอ็มอี’

[PR] ไมโครซอฟท์ เปิดตัวบริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับเอสเอ็มอี’

บริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายบริการ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก (Office 365 Small Business Premium)’และบริการ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดกลาง (Office 365 Midsize Business)’เป็นทางการในประเทศไทยพร้อมตอกย้ำคำมั่นสัญญาในการสนับสนุนเอสเอ็มอี2.65 ล้านรายในไทยในการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ผ่านบริการทั้งสองรุ่นที่ประกอบไปด้วยชุดโปรแกรมออฟฟิศเพิ่มประสิทธิผลรุ่นยอดนิยมที่สามารถใช้งานผ่านระบบคลาวด์ได้

นับตั้งแต่การเปิดตัวทั่วโลกไปแล้วในช่วงกลางปีพ.ศ. 2554 เป็นต้นมา ออฟฟิศ 365 ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของไมโครซอฟท์โดยหนึ่งในห้าของลูกค้าระดับองค์กรของไมโครซอฟท์หันมาใช้บริการนี้ภายในเวลาแค่ 18 เดือนซึ่งเพิ่มจากตัวเลขหนึ่งในเจ็ดของเมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านี้ ในขณะที่ตัวเลขของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่หันมาใช้ ออฟฟิศ 365 เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 150 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันเพื่อรับมือในการก้าวเข้าสู่เออีซี

ปัจจุบันไทยมีเอสเอ็มอีที่จดทะเบียนเปิดดำเนินการ 2.65 ล้านราย คิดเป็นตัวเลขร้อยละ 37 ของจีดีพีของไทย หรือเท่ากับร้อยละ  99 ขององค์กรทั้งหมดในไทยนายฮาเรซ คูบจันดานิกรรมการผู้จัดการบริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า “เอสเอ็มอี ถือเป็นหัวใจสำคัญของโครงสร้างเศรษฐกิจไทยรวมทั้งยังเป็นภาคธุรกิจที่จะนำประเทศไทยไปสู่ความสำเร็จในอนาคตอีกด้วย ดังนั้นไมโครซอฟท์จึงมุ่งมั่นในการการสนับสนุนเอสเอ็มอีไทยผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการบิซสปาร์ค(BizSpark)ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผลักดันสตาร์ทอัพไทยให้ก้าวไกลสู่ความสำเร็จ ด้วยการจัดสรรซอฟต์แวร์ที่มีมูลค่ามากกว่า 4 ล้านบาทเพื่อช่วยให้สตาร์ทอัพสามารถเข้าถึงชุดเครื่องมือพัฒนาเทคโนโลยีแพลตฟอร์มและลิขสิทธิ์การใช้เซิร์ฟเวอร์ของไมโครซอฟท์ที่มีอยู่ในปัจจุบันได้อย่างเต็มรูปแบบ รวดเร็วและง่ายดาย โดยที่ผ่านมาไมโครซอฟท์ได้สนับสนุนสตาร์ทอัพในไทยไปแล้วมากกว่า 200 ราย”

“ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะเป็นเวทีที่จะมอบโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับเอสเอ็มอีไทยในการเติบโตและเปิดทางสู่ตลาดใหม่ๆที่ยังไม่มีใครเข้าถึงมาก่อน อย่างไรก็ตามโอกาสดังกล่าวจะทำให้เอสเอ็มอีของไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันใหม่ๆจากเอสเอ็มอีรายอื่นๆในกลุ่มประเทศอาเซียนเช่นกัน ดังนั้นเอสเอ็มอีไทยจึงต้องเตรียมพร้อมในการเป็นผู้นำในตลาดที่เต็มไปด้วยการแข่งขันนี้ให้ได้

[PR] ไมโครซอฟท์ เปิดตัวบริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับเอสเอ็มอี’

โดยบริการ ออฟฟิศ 365จะเป็นผู้ช่วยให้เอสเอ็มอีไทยเข้าถึงเครื่องมือที่จำเป็นและทันสมัยในการสร้างธุรกิจให้เติบโต และช่วยในการแข่งขันกับเอสเอ็มอีรายอื่นๆและเปิดโอกาสให้ธุรกิจสามารถเพ่งความสนใจไปที่ความเชี่ยวชาญของตน และการให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มที่” นายฮาเรซ เสริม

ไมโครซอฟท์พัฒนาบริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และบริการ ‘ออฟฟิศ365 สำหรับธุรกิจขนาดกลาง’ เพื่อให้เอสเอ็มอีได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเข้าถึงซอฟต์แวร์และบริการระดับเอ็นเตอร์ไพรส์แบบครบวงจรซึ่งเอสเอ็มอีสามารถเชื่อมั่นได้ในความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังอยู่ในราคาที่บริษัทเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้

ที่ผ่านมาไมโครซอฟท์ยังสนับสนุนเอสเอ็มอีอย่างเต็มที่ ด้วยการริเริ่มโครงการระดับโลกที่ชื่อ‘เก็ททูโมเดิร์น(Get2Modern)’ เพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถเปลี่ยนการใช้งานจากระบบปฏิบัติการWindows XP และโปรแกรม ไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ2003 ไปเป็นระบบปฏิบัติการWindows 8 Pro และบริการ ออฟฟิศ 365 รุ่นใหม่ได้อีกด้วย

สำหรับประเทศไทย ไมโครซอฟท์ได้ร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ในการส่งเสริมและสนับสนุนเอสเอ็มอีในประเทศไทย โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ไมโครซอฟท์ได้ร่วมในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนศักยภาพของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ร่วมกับ สสว.และพันธมิตรองค์กรธุรกิจอีก 12 ราย เพื่อให้การสนับสนุนเอสเอ็มอีในการเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าสู่เออีซี

[PR] ไมโครซอฟท์ เปิดตัวบริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับเอสเอ็มอี’

ดร.วิมลกานต์  โกสุมาศ  รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)  กล่าวถึงความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ในครั้งนี้ว่า “การนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการภายในองค์กร  จะเป็นตัวช่วยหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร และช่วยสร้างความได้เปรียบให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทย ให้พร้อมสู่การแข่งขันในระดับโลกได้” ในขณะที่นายสุพันธุ์ มงคลสุธีรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและประธานคณะกรรมการบริหาร สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่ออุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า “ระบบคลาวด์ที่ได้จากการใช้บริการ ออฟฟิศ 365 จะช่วยสร้างความเป็นต่อในการแข่งขัน ซึ่งจะส่งผลทำให้เอสเอ็มอีของไทยมีจุดเด่นที่เหนือกว่าในการแข่งขันและเอาชนะคู่แข่งได้”

นอกจากนี้  ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ยังได้จับมือกับพันธมิตรอย่าง โนเกีย ประเทศไทย จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าเอสเอ็มอีไทยเพื่อให้ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการใช้บริการ ออฟฟิศ 365 บนโนเกียสมาร์ทโฟน โดย นายญาณธน สิมะวานิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด พูดถึงโปรโมชั่นสุดพิเศษนี้ว่า “ที่ผ่านมา ผู้ใช้สมาร์ทโฟนโนเกียได้รับประโยชน์จากการใช้งานสมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โฟน เป็นอย่างดี บริการ ออฟฟิศ 365 จะช่วยยกระดับการใช้งานดังกล่าวไปอีกขั้น เพราะบริการ ออฟฟิศ 365 จะช่วยให้เข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ในทุกครั้งที่ต้องการ และเชื่อมต่อได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งนับเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะลูกค้าในกลุ่มเอสเอ็มอี ซึ่งทางโนเกีย มีความยินดีที่ได้ร่วมเปิดตัวโปรโมชั่นพิเศษเพื่อสนับสนุนเอสเอ็มอีไทยในครั้งนี้”

ความปลอดภัยและการใช้งานที่ดีที่สุด

The new Office มีคุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยที่ไร้ช่องโหว่ ซึ่งประกอบด้วยระบบป้องกันข้อมูลสูญหาย, ระบบอินทิเกรดเต็ดคอมไพลอันซ์(Integrated Compliance), ระบบป้องกันมัลแวร์แบบบิลด์อิน และตัวเลือกติดตั้งใช้งานที่คล่องตัวสำหรับการใช้งานภายในบริษัทและผ่านระบบคลาวด์ ไมโครซอฟท์รับประกันด้วยข้อตกลงระดับการบริการที่รับประกันอัพไทม์ร้อยละ 99.9 (Service Level Agreements -SLAs)พร้อมคืนเงิน

วางแผนใช้งานบริการ ออฟฟิศ 365 ที่เหมาะสำหรับองค์กรของคุณ

บริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก (Office 365 Small Business Premium)’ ประกอบด้วยชุดโปรแกรม ไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ เต็มรูปแบบ ซึ่งสามารถบริหารจัดการบริการต่างๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญด้านไอที บริการนี้เหมาะสำหรับบริษัทที่มีพนักงานไม่เกิน 10 คน

ในขณะที่บริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดกลาง (Office 365 Midsize Business)’ ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดระดับกลาง บริการนี้จึงเหมาะสำหรับองค์กรที่มีพนักงานระหว่าง 11 ถึง 250 คน ซึ่งต้องการศักยภาพในการทำงานระดับเดียวกับบริการ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับเอ็นเตอร์ไพรส์’แต่มีการบริหารจัดการระบบไอทีที่เรียบง่ายกว่าเดิม บริการนี้ประกอบด้วย Office 365 ProPlusที่ช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางมีเครื่องมือสื่อสารสำหรับการทำงานร่วมกัน ซึ่งมีคุณภาพเทียบเท่าในองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ระดับเอ็นเตอร์ไพรส์อย่างที่ต้องการอีกด้วย

ที่สำคัญ ไมโครซอฟท์ เตรียมจัดโร้ดโชว์ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่  5 เดือนสิงหาคมเป็นต้นไปโดยเอสเอ็มอีที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานสัมมนาได้ พร้อมเตรียมให้บริการฮอตไลน์ภาษาไทยสำหรับลูกค้าเอสเอ็มอีเร็วๆนี้

วันเริ่มจำหน่ายและราคา

บริการ ออฟฟิศ 365 พร้อมให้บริการแล้วทั้งเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษและภาษาไทย โดยสามารถซื้อผ่านได้ที่เว็บไซต์http://office.comและผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่าย 2,000 รายทั่วประเทศในเครือของ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท อินแกรม ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัทเดอะ แวลลูซิสเตมส์ จำกัดซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของไมโครซอฟท์

บริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก (Office 365 Small Business Premium)’ในราคา12.50 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อหนึ่งผู้ใช้ต่อเดือน ในขณะที่ บริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดกลาง (Office 365 Midsize Business)’ราคา15 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อหนึ่งผู้ใช้ต่อเดือนโดยบริการ ออฟฟิศ 365ทั้งสองรุ่นนี้ ผู้สนใจ สามารถทดลองใช้ฟรีได้นาน 30 วัน

สองโปรโมชั่นพิเศษสำหรับเอสเอ็มอีจากโนเกีย

ผู้ที่ซื้อบริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก (Office 365 Small Business Premium)’  หรือบริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดกลาง (Office 365 Midsize Business)’ จะได้รับ Mobility Coupon ของไมโครซอฟท์ ที่สามารถนำไปรับของพรีเมียมฟรีจากร้านโนเกียช็อป เมื่อซื้อ Nokia Lumia520/620/720/920 โดยจะได้รับ Nokia Bluetooth BH-217 ฟรี (ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายนนี้ หรือจนกว่าของจะหมด)

สำหรับเอสเอ็มอีที่เป็นสมาชิก สสว. หรือ ส.อ.ท. จำนวน 200 รายแรกที่ซื้อ บริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก (Office 365 Small Business Premium)’  หรือบริการ ‘ออฟฟิศ 365 สำหรับธุรกิจขนาดกลาง (Office 365 Midsize Business)’  ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายนนี้ จะได้รับคูปอง Nokia Fun Gadget มูลค่า 500 บาท เพื่อนำไปซื้อผลิตภัณฑ์ Nokia Fun Gadget ที่มีมูลค่า 1,000 บาทขึ้นไป ณ ร้านโนเกียช็อป

from:http://mobiledista.com/pr-microsoft-launches-%e2%80%8b%e2%80%8boffice-365-for-sm-e/

สัมภาษณ์พิเศษ : ผู้บริหารจากบริษัท Microsoft ถึงทิศทางการสนับสนุน Startup

Screen Shot 2556-04-08 at 6.59.10 PM

thumbsup ได้มีโอกาสพูดคุยกับ Gianugo Rabellino Senior Director of Open Source Communities จากบริษัท Microsoft Open Technologies   เราลองไปดูกันดีกว่าว่าทาง Microsoft มีวิสัยทัศน์และทิศทางการสนับสนุน Startup อย่างไรกันบ้าง

ในแง่ของความท้าทายสำหรับประเทศที่ Startup กำลังพึ่งเริ่มเติบโต Gianugo กล่าวว่าตัวเขาเองก็มาจากประเทศที่ไม่ได้ใหญ่มากก็คือประเทศอิตาลี ซึ่งก็คล้ายๆ ไทยที่ความเคลื่อนไหวของ Startup กำลังได้รับความสนใจ เขามองว่า  Tech  Startup ช่วยในเรื่องของการผลักดันเศรษฐกิจให้ดีขึ้น, สร้างงานใหม่ๆ และทำให้เกิดนวัตกรรม สิ่งหนึ่งที่เขาห็นคือเด็กเก่งหลายคนไฟแรง หลังจากจบการศึกษาเพื่อต้องการการเติบโต ก็หาโอกาสไปทำงานในต่างประเทศ  หนึ่งในสิ่งที่ท้าทายคือ หลังจากที่พวกเขามีประสบการณ์แล้ว การที่จะให้พวกเขากลับมาอยู่ในประเทศที่เขาเกิดและรัก เพื่อแบ่งปันและสร้างให้เศรษฐกิจของบ้านตนเองเติบโตนั้นจะทำได้อย่างไร

สำหรับ Microsoft แล้วสิ่งที่ทางบริษัทให้การสนับสนุนนั้น เข้ามาตอบโจทย์ด้วยกัน 3 ส่วน อันประกอบด้วย

  • ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย – ไอเดียอย่างเดียวนั้นไม่พอ คุณต้องมีทุนในการเริ่มต้นธุรกิจด้วย แต่ก็ต้องถือว่ายุคนี้เป็นช่วงเวลาที่ดี ที่มีเทคโนโลยีและเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยสนับสนุนทำให้ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก และเป็นการประหยัดเวลา ยกตัวเอย่างเช่น Mobile Service for Azure ด้วยบริการนี้ทำให้นักพัฒนาสามารถพัฒนา Mobile Service ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น มีผลวิจัยออกมาว่า 5 ใน 6 ของการเชื่อมต่อกับระบบหลังบ้าน ต้องการ Data Store, ระบบ Notification ซึ่งพวกนี้เป็นฟีเจอร์ที่ Mobile Service for Azure สามารถช่วยสนับสนุนได้ นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่ถ้าเป็นต่อก่อนก็ต้องใช้ Effort มากพอสมควร

Screen Shot 2556-04-08 at 7.03.31 PM

  • ความสามารถในการเข้าสู่ตลาด – ถ้าเป็นอดีตพวกเราคงต้องกังวลว่าจะมีกลยุทธ์ในการเข้าสู่ตลาดอย่างไร ช่องทางการขายนั้นทำได้อย่างไร รวมถึงระบบการชำระเงินต่างๆ แต่ในยุคนี้ Appstore ได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ไปได้มาก อย่างของทาง Microsoft เอง เราแบ่งรายได้ให้กับนักพัฒนาในส่วนแบ่งที่สูงพอสมควร และยังมีทางเลือกให้กับนักพัฒนาหลากหลายรูปแบบ

winazure01

  • รองรับความสามารถในการขยาย  – จากเดิมที่เมื่อเราต้องขยายธุรกิจออกไป ก็ต้องคอยหาเซิร์ฟเวอร์เพิ่มเพื่อรองรับการขยายและใช้เวลาพอสมควร ไม่สามารถทำได้ทันที แต่ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีของ Cloud ก็ทำให้เราหมดห่วงเรื่องพวกนี้ไป และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ใช้เวลาเพียงไม่นาน คุณไม่ต้องเสียเวลากับปัญหาเรื่องพวกนี้ และเอาเวลาไปโฟกัสกับ Product ของคุณให้มากขึ้น

จะเห็นว่านอกจากการสนับสนุนในแง่เทคโนโลยีแล้วเรายังมีโครงการอย่าง Microsoft Bizspark ที่เปิดให้ใช้ซอฟแวร์ต่างๆ ได้, มีการสนับสนุนในแง่การตลาดต่างๆ จากทั้ง Microsoft และพาร์ทเนอร์ของเรา

bizspark

เรามีโครงการอย่าง Imagine Cup สนับสนุนน้องๆ นักพัฒนาที่มีความสามารถจากทั่วทุกมุมโลก และที่สหรัฐฯ เรามี bing fund สำหรับ Startup ที่สนับสนุนเงินทุนในระดับ Early Stage ทั้งในธุรกิจออนไลน์และโมบาย

images

ตัวอย่าง Startup ที่น่าสนใจและที่ผมชื่นชอบก็คือ mural.ly เป็นกรณีศึกษาที่นำ Azure มาใช้ นอกจากนี้ผมยังทราบมาว่ามีบริษัท Startup ในไทยหลายรายที่หันมาใช้  Azure และพึงพอใจในตัวบริการครับ

บทความนี้เป็น Advertorial

from:http://thumbsup.in.th/2013/04/microsoft-exclusive-interview-startup-vision/

[PR] เผยโฉม 5 ทีมนักพัฒนาเลือดใหม่ จากเวที AIS The StartUp Weekends 2013

[PR] เผยโฉม 5 ทีมนักพัฒนาเลือดใหม่ จากเวที AIS The StartUp Weekends 2013

เอไอเอสประกาศผลทีมนักพัฒนาที่ผ่านการคัดเลือกจากเวที AIS The StartUp Weekends 2013 โดยได้รับเกียรติจากปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร คุณไชยยันต์ พึ่งเกียรติไพโรจน์ และคุณฮุย เวง ชอง หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการ เอไอเอส มอบรางวัลให้กับทั้ง 5 ทีม Startup หน้าใหม่ ได้แก่ ทีม Close Tag, Noonswoon, TripPacker, Octogon, Stock Guru โดยแต่ละทีมได้รับเงินรางวัลจากเอไอเอส จำนวน 100,000 บาท, จาก SIPA จำนวน 100,000 บาท รวมทั้งการสนับสนุนด้านต่างๆ อาทิ Bizspark แพ็กเกจจาก Microsoft, WP Workshop จาก NOKIA, บริการที่ปรึกษาด้านธุรกิจจาก EggIdea, Co-working Space จาก Hubba รวมมูลค่ากว่า 25 ล้านบาท หลังจากใช้เวลาร่วมกัน 3 วันเต็ม เพื่อระดมสมอง ประลองไอเดียสร้างโมบายแอพพลิเคชั่น โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา ทีมที่ผ่านเข้ารอบแรก ทั้ง 25 ทีมต่างก็พรีเซนต์ผลงาน Product Prototype ให้กับทางคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากแวดวงไอทีและออนไลน์ได้ตัดสิน

จนในที่สุดก็ได้ 5 ทีมที่ผ่านการคัดเลือก เตรียมเดินหน้าเข้าร่วมอบรบหลักสูตร “AIS The StartUp Boot Camp” เป็นเวลา 3 เดือน ในเดือนพ.ค. – ก.ค. 2556 ซึ่งเอไอเอสจัดขึ้นโดยเฉพาะเพื่อผู้ประกอบการธุรกิจดิจิตอลหน้าใหม่ โดยได้รวมเหล่า “Hero Mentor” กูรูดังจากหลากหลายวงการ เข้าร่วมเป็นพี่เลี้ยงและที่ปรึกษา ให้ความรู้แบ่งปันประสบการณ์ ทั้งในเชิงเทคโนโลยีและเชิงธุรกิจการลงทุน ในรูปแบบ Virtual Lab ที่บ่มเพาะทั้งตัวเจ้าของกิจการเองและผลิตภัณฑ์ไปพร้อมๆ กัน จนกระทั่งพัฒนาแอพพลิเคชั่นออกสู่ตลาดได้ทันทีหลังจบคอร์ส และทีมชนะเลิศ 1 ทีม จาก Boot Camp จะได้รับทุนพัฒนาเป็นเงิน 600,000 บาท พร้อมการสนับสนุนด้านแผนการตลาดและประชาสัมพันธ์จากเอไอเอสต่อไป

[PR] เผยโฉม 5 ทีมนักพัฒนาเลือดใหม่ จากเวที AIS The StartUp Weekends 2013

from:http://www.mobiledista.net/pr-revealed-five-of-the-team-developing-the-new-blood-ais-the-startup-weekends-2013/