คลังเก็บป้ายกำกับ: BASEUS

Baseus ตั้ง YAS ขึ้นเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายหลัก ยกทัพสินค้า ลงโมเดิร์นเทรด พร้อม รีเทล ช้อปออนไลน์ เจาะกลุ่มลูกค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์

Baseus ชี้ตลาดไทยมีศักยภาพเติบโต ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ตั้ง YAS ในกลุ่มเบญจจินดา เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายหลัก คาดปี 2566 ชิงส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์ดิจิทัล ไลฟ์สไตล์ในไทย 20 เปอร์เซ็นต์ และเติบโตเป็น 35 เปอร์เซ็นต์ในปี 2569 

พร้อมส่ง 2 แคมเปญส่วนลดสูงสุด 30- 40 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงเปิดตัว และ Mega Campaigne  12:12 เจาะลูกค้ากลุ่มเป้าหมายตลอดธันวาคมนี้ 

YAS

นาย ปาร์คเกอร์ กง  ผู้จัดการ เบซีอุส ประจำประเทศไทย  กล่าวว่า  Baseus (เบซุส)  เป็นบริษัทที่สินค้า ดิจิทัล ไลฟ์สไตล์  อยู่ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก  โดย Baseus ให้ความสนใจตลาดประเทศไทย เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ซี่งได้แต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายหลัก  บริษัท วายเอ เซลส์ แอนส์ เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ YAS ทำตลาดได้ทุกช่องทาง

เนื่องจาก YAS มีความเข้าใจตลาด เข้าใจพฤติกรรมการใช้งานของกลุ่มลูกค้า ทุกเพศ ทุกวัยรวมทั้งสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วประเทศ  โดย Baseus คาดว่า YAS จะสามารถขยายตลาดอุปกรณ์เสริมของ  Baseus  ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง   

โดยเราตั้งเป้ามีส่วนแบ่งรายได้ 20 เปอร์เซ็นต์ในปี 2566 และ เพิ่มเป็น 35 เปอร์เซ็นต์ในปี 2569  ของตลาดรวมสินค้าสมาร์ท แก็ดเจ็ต ดิจิทัล ไลฟ์สไตล์  ซี่งเป็นสินค้าที่อยู่ในกลุ่ม  IOT มีมูลค่าตลาดรวมระหว่าง 12,000 – 15,000 ล้านบาท ด้วยศักยภาพการสร้างแบรนด์ Baseus ให้แข็งแกร่งได้ในผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย   

“Baseus เป็นสินค้าคุณภาพ ราคาจับต้องได้ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายที่มีประสบการณ์ยาวนานในกลุ่มสินค้าอุปกรณ์เสริม และ Smart Gadget โดยเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญที่จะช่วยตอบโจทย์หรือเติมเต็มดิจิทัล ไลฟ์สไตล์ของทุกคน” นาย ปาร์คเกอร์  กล่าว   

นาย ธนพนธ์ เบญจรงคกุล  ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารคู่ค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่  บริษัท วายเอ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด (YAS)  กล่าวว่า YAS มี Vision เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านการกระจายสินค้าและ B2B , B2C ดิสทริบิวเตอร์ และFulfillment  ชั้นนำของประเทศไทย   ล่าสุดได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น  ตามเป้าหมาย เป็น Top   Distributor  ในตลาด IT และ IoT (Internet of Things) เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค Digital Lifestyle ในยุค , Smart Life ในยุคเทคโนโลยีขับเคลื่อน  

โดยได้ร่วมมือและเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายหลักของ Baseus ด้วยจุดเด่นของสินค้า Baseus แบรนด์สินค้าคุณภาพ ดีไซน์สวยงามทันสมัย เหมาะกับการใช้งานของผู้บริโภคซึ่ง YAS มีเป้าหมายหลักที่กลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษา นักศึกษามหาวิทยาลัย วัยทำงาน คนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญอุปกรณ์เสริม หรือ Smart Gadget ดีไซน์สวย คุณภาพดีได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ  

โดยได้เริ่มทำตลาดในเดือนธันวาคมนี้ เป็นผลิตภัณฑ์รุ่น  Baseus Bowie WM02 หูฟังบลูทูธไร้สาย เล็ก น้ำหนักเบา และ  Baseus GaN3 Pro Fast Charger พกพาสะดวก รองรับการใช้งานได้พร้อมกันได้หลายอุปกรณ์ เหมาะกับผู้บริโภคที่เดินทางเป็นประจำ   

YAS มีแนวทางการทำตลาดเพื่อตอบโจทย์ ดิจิทัล และสมาร์ทไลฟ์สไตล์  เราให้ความสำคัญกับงานบริการหลังการขายที่ดี หากลูกค้าซื้อผลิตภัณฑ์ Baseus เสียเปลี่ยนตัวใหม่จากศูนย์ในไทย และรับประกันยาวถึง ปี ซึ่ง YAS ได้นำเข้าสินค้าลงโมเดิร์นเทรด พร้อม รีเทล ช้อปออนไลน์  เจาะกลุ่มลูกค้า ดิจิทัลไลฟ์ สไตล์ ” นายธนพนธ์ กล่าว 

ทั้งนี้ YAS  ได้เลือกสรรสินค้าในรุ่นที่เหมาะกับตลาดไทย ในปลายปี 2565 นี้ คาดว่าในปี 2566 ผลิตภัณฑ์อุปกรณ์เสริมจะเป็นเจ้าแรกที่ผู้บริโภคเลือกซื้อ ด้วยความเหมาะสมกับรูปแบบตลาดอุปกรณ์เสริมที่ปรับตัว เช่นการซื้ออุปกรณ์เสริมตัวชาร์จแบตเตอรี่มือถือที่ทันสมัย คุ้มค่าในการใช้งาน เข้ากับมือถือรุ่นใหม่ๆ รองรับทั้งระบบ IOS และ Android ซึ่งปัจจุบันบางรุ่นไม่มีหัว อะแอปเตอร์ และอุปกรณ์ชาร์จให้ จึงเป็นโอกาสที่ YAS และ Baseus จะเข้าเสริมตลาดนี้ได้    

โดย YAS จัดรายการพิเศษเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ในช่วง1-11 ธันวาคม และ 16-31  ธันวาคมนี้ ให้ส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง  30%  และจัด  12.12 Mega Campaign ระหว่างวันที่ 12-15 ธันวาคม ลดสูงสุด  40% ผ่านรูปแบบการทำตลาดช่องทางจัดจำหน่าย ออนไลน์ รีเทลช้อป ได้แก่ 

Shopee : Baseus Lifestlye Mall : https://shopee.co.th/baseus.thailand 

Lazada : Baseus Lifestlye Mall : https://www.lazada.co.th/shop/baseus-official-store-thailand   

Facebook Baseus Thailand  : //  https://www.facebook.com/baseus.th/  

Tiktok Baseuslifestylemall  :  https://www.tiktok.com/ 

IG :   https://www.instagram.com/baseus.th/ 

YAS Official Store  ได้ที่     

Shopee : https://shopee.co.th/yas.online   

Lazada : https://www.lazada.co.th/shop/yas-online 

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/baseus-sets-up-yas-as-main-distributor/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=baseus-sets-up-yas-as-main-distributor

Baseus ตั้ง YAS ขึ้นเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายหลักยกทัพสินค้า ลงโมเดิร์นเทรด พร้อม รีเทล ช้อปออนไลน์

Baseus 1 1

Baseus ชี้ตลาดไทยมีศักยภาพเติบโต ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ตั้ง YAS ในกลุ่มเบญจจินดา เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายหลัก คาดปี 2566 ชิงส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์ดิจิทัล ไลฟ์สไตล์ในไทย 20 เปอร์เซ็นต์ และเติบโตเป็น 35 เปอร์เซ็นต์ในปี 2569 พร้อมส่ง 2 แคมเปญส่วนลดสูงสุด 30- 40 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงเปิดตัว และ Mega Campaigne  12:12 เจาะลูกค้ากลุ่มเป้าหมายตลอดธันวาคมนี้

YAS5

นาย ปาร์คเกอร์ กง  ผู้จัดการ เบซีอุส ประจำประเทศไทย  กล่าวว่า  Baseus (เบซุส)  เป็นบริษัทที่สินค้า ดิจิทัล ไลฟ์สไตล์  อยู่ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก  โดย Baseus ให้ความสนใจตลาดประเทศไทย เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ซี่งได้แต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายหลัก  บริษัท วายเอ เซลส์ แอนส์ เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ YAS   ทำตลาดได้ทุกช่องทาง เนื่องจาก YAS มีความเข้าใจตลาด เข้าใจพฤติกรรมการใช้งานของกลุ่มลูกค้า ทุกเพศ ทุกวัยรวมทั้งสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วประเทศ  โดย Baseus คาดว่า YAS จะสามารถขยายตลาดอุปกรณ์เสริมของ  Baseus  ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง 

Advertisementavw

โดยเราตั้งเป้ามีส่วนแบ่งรายได้ 20 เปอร์เซ็นต์ในปี 2566 และ เพิ่มเป็น 35 เปอร์เซ็นต์ในปี 2569  ของตลาดรวมสินค้าสมาร์ท แก็ดเจ็ต ดิจิทัล ไลฟ์สไตล์  ซี่งเป็นสินค้าที่อยู่ในกลุ่ม  IOT มีมูลค่าตลาดรวมระหว่าง 12,000 – 15,000 ล้านบาท ด้วยศักยภาพการสร้างแบรนด์ Baseus ให้แข็งแกร่งได้ในผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย 

Baseus 2

“Baseus เป็นสินค้าคุณภาพ ราคาจับต้องได้ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายที่มีประสบการณ์ยาวนานในกลุ่มสินค้าอุปกรณ์เสริม และ Smart Gadget โดยเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญที่จะช่วยตอบโจทย์หรือเติมเต็มดิจิทัล ไลฟ์สไตล์ของทุกคน” นาย ปาร์คเกอร์  กล่าว 

YAS2 1

นาย ธนพนธ์ เบญจรงคกุล  ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารคู่ค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่  บริษัท วายเอ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด (YAS)  กล่าวว่า YAS มี Vision เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านการกระจายสินค้าและ B2B , B2C ดิสทริบิวเตอร์ และFulfillment  ชั้นนำของประเทศไทย   ล่าสุดได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น  ตามเป้าหมาย เป็น Top   Distributor  ในตลาด IT และ IoT (Internet of Things) เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค Digital Lifestyle ในยุค , Smart Life ในยุคเทคโนโลยีขับเคลื่อน  โดยได้ร่วมมือและเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายหลักของ Baseus ด้วยจุดเด่นของสินค้า Baseus แบรนด์สินค้าคุณภาพ ดีไซน์สวยงามทันสมัย เหมาะกับการใช้งานของผู้บริโภคซึ่ง YAS มีเป้าหมายหลักที่กลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษา นักศึกษามหาวิทยาลัย วัยทำงาน คนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญอุปกรณ์เสริม หรือ Smart Gadget ดีไซน์สวย คุณภาพดีได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ  โดยได้เริ่มทำตลาดในเดือนธันวาคมนี้ เป็นผลิตภัณฑ์รุ่น  Baseus Bowie WM02 หูฟังบลูทูธไร้สาย เล็ก น้ำหนักเบา และ  Baseus GaN3 Pro Fast Charger พกพาสะดวก รองรับการใช้งานได้พร้อมกันได้หลายอุปกรณ์ เหมาะกับผู้บริโภคที่เดินทางเป็นประจำ  

“YAS มีแนวทางการทำตลาดเพื่อตอบโจทย์ ดิจิทัล และสมาร์ทไลฟ์สไตล์  เราให้ความสำคัญกับงานบริการหลังการขายที่ดี หากลูกค้าซื้อผลิตภัณฑ์ Baseus เสียเปลี่ยนตัวใหม่จากศูนย์ในไทย และรับประกันยาวถึง 2 ปี ซึ่ง YAS ได้นำเข้าสินค้าลงโมเดิร์นเทรด พร้อม รีเทล ช้อปออนไลน์  เจาะกลุ่มลูกค้า ดิจิทัลไลฟ์ สไตล์ ” นายธนพนธ์ กล่าว

ทั้งนี้ YAS  ได้เลือกสรรสินค้าในรุ่นที่เหมาะกับตลาดไทย ในปลายปี 2565 นี้ คาดว่าในปี 2566 ผลิตภัณฑ์อุปกรณ์เสริมจะเป็นเจ้าแรกที่ผู้บริโภคเลือกซื้อ ด้วยความเหมาะสมกับรูปแบบตลาดอุปกรณ์เสริมที่ปรับตัว เช่นการซื้ออุปกรณ์เสริมตัวชาร์จแบตเตอรี่มือถือที่ทันสมัย คุ้มค่าในการใช้งาน เข้ากับมือถือรุ่นใหม่ๆ รองรับทั้งระบบ IOS และ Android ซึ่งปัจจุบันบางรุ่นไม่มีหัว อะแอปเตอร์ และอุปกรณ์ชาร์จให้ จึงเป็นโอกาสที่ YAS และ Baseus จะเข้าเสริมตลาดนี้ได้   

โดย YAS จัดรายการพิเศษเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ในช่วง1-11 ธันวาคม และ 16-31  ธันวาคมนี้ ให้ส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง  30%  และจัด  12.12 Mega Campaign ระหว่างวันที่ 12-15 ธันวาคม ลดสูงสุด  40% ผ่านรูปแบบการทำตลาดช่องทางจัดจำหน่าย ออนไลน์ รีเทลช้อป ได้แก่

Shopee : Baseus Lifestlye Mall : https://shopee.co.th/baseus.thailand

Lazada : Baseus Lifestlye Mall : https://www.lazada.co.th/shop/baseus-official-store-thailand 

Facebook Baseus Thailand  : //  https://www.facebook.com/baseus.th/

Tiktok Baseuslifestylemall  :  https://www.tiktok.com/

IG :   https://www.instagram.com/baseus.th/

YAS Official Store  ได้ที่   

Shopee : https://shopee.co.th/yas.online 

Lazada : https://www.lazada.co.th/shop/yas-online

เกี่ยวกับ YAS  บริษัท วายเอ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด (YAS) ตัวแทนจัดจำหน่าย โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์เสริมต่างๆ และนำเข้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำจากต่างประเทศสู่ตลาดประเทศไทย โดยจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั้งออฟไลน์   และ ออน์ไลน์ทั่วประเทศ รวมทั้งยังให้บริการ Smart and Modernized Warehousing & Fulfillment Solutions ให้แก่ลูกค้า ด้วยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญภายใต้แนวคิด “Your Trustworthy Distribution & Fulfillment Partner”

เกี่ยวกับ  Baseus   นิยามหลักของเรา “Based on User” เรามีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่ายด้วยการออกแบบที่ใช้งานง่ายและ ผลิตจากวัสดุระดับไฮเอนด์ ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้ ด้วยการมุ่งเน้นที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคมากว่าทศวรรษ นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ทำให้ Baseus มาถึงจุดนี้ด้วยสิทธิบัตรมากมาย รางวัลการออกแบบระดับนานาชาติ และผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย

from:https://notebookspec.com/web/678899-baseus-yasmega-campaign

6 ที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C ชาร์จแรงสะใจ 200 วัตต์ ใช้สะดวกสุดๆ อัพเดทปลายปี 2022

ที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C ยุคนี้มีรุ่นน่าใช้กำลังชาร์จสูงให้เลือกเพียบ!

Share image Edit Name 2gan 1

ที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C เป็นอุปกรณ์ไอทีอีกชิ้นที่ควรมีติดตัวไว้ใช้งานสักชิ้น เนื่องจากในปัจจุบันนี้ อุปกรณ์ต่างๆ ของเราไม่ว่าจะสมาร์ทโฟนหรือแม้แต่โน๊ตบุ๊คก็ชาร์จผ่านสาย USB-C ได้หมดแล้ว ดังนั้นแทนที่จะใช้อแดปเตอร์แยกของอุปกรณ์แต่ละชิ้นให้รกเต็มรางปลั๊ก ก็ใช้อแดปเตอร์ใหญ่อันเดียวชาร์จทั้งสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ตและโน๊ตบุ๊คไปทีเดียวเลยจะสะดวกกว่าและจัดระเบียบโต๊ะทำงานให้สะอาดไม่มีข้าวของรกเกะกะเกินไปได้อีกด้วย

Advertisementavw

อย่างไรก็ตาม ที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C บางรุ่นนอกจากใช้ชาร์จโน๊ตบุ๊คหรือสมาร์ทโฟนได้แล้ว ผู้ผลิตยังความแตกต่างโดยออกแบบให้มันเป็น Multiport Adapter ติดพอร์ตต่างๆ เอาไว้ที่ตัวอแดปเตอร์ให้มีความอเนกประสงค์ยิ่งขึ้นหรือบางตัวก็มีช่องเสียบปลั๊กติดไว้ที่ตัวปลั๊กด้วย เรียกว่าได้ช่องคืนกลับมาต่ออุปกรณ์อื่นๆ ได้อีกสบายๆ อีกด้วย

ที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้เขียนขอเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C นั่นคือ ตัวที่ชาร์จนั้นจะแสดงกำลังการชาร์จเป็นวัตต์ (W หรือ Wattage) โดยรวมทั้งหมด ว่ามันจ่ายไฟได้ทั้งหมดเท่าไหร่ และแต่ละช่องจะจ่ายกระแสได้มากสุดเท่าไหร่นั่นเอง ตัวอย่างเช่น

wattage all

  1. Type-C 1, Type-C 2 65W (Max) : ถ้าต่อชาร์จอุปกรณ์ใดก็ตามที่สองช่องนี้ หากต่อเพียงช่องเดียวจะจ่ายกระแสได้เต็มที่ 65 วัตต์ แต่ถ้าชาร์จ 2 ช่องพร้อมกัน จะหารกระแสกันตามที่ผู้ผลิตกำหนดเอาไว้ในหน้าสเปค
  2. USB1 output 5W : ช่อง USB1 สามารถชาร์จไฟได้ด้วยกระแส 5 วัตต์
  3. USB2 output 60W (Max) : ช่อง USB2 สามารถชาร์จไฟได้ด้วยกระแสสูงสุด 60 วัตต์ แต่มีเงื่อนไขตามที่ผู้ผลิตกำหนดเอาไว้ ซึ่งอาจจะหักลบกับช่อง USB1 หรือหักลบกำลังรวมทั้งระบบชาร์จนี้เลยก็ได้

สรุปสเปคที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C ดีๆ ทั้ง 6 รุ่น มีติดโต๊ะหรือใส่กระเป๋าไว้เวิร์คแน่นอน

สเปคที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C Total Charging Power

Special Features

Charging Power Charging Protocol ราคา
(บาท)
Baseus GaN3 Pro 100 วัตต์ Type-C1
สูงสุด 65 วัตต์

Type-C2
สูงสุด 30 วัตต์

USB-A
15~18 วัตต์

Power Delivery 3.0

Quick Charge 3.0 และ 4.0

AFC

FCP

SCP

1,861
Baseus GaN2 Pro 100W 100 วัตต์ Type-C1
สูงสุด 60 วัตต์

Type-C2
สูงสุด 20 วัตต์

USB-A แชร์กำลังรวม 15 วัตต์

Power Delivery 3.0

Quick Charge 4+

PPS

FCP

AFC

APPLE2.4

BC1.2

PE+

1,310
HyperJuice GaN 100W USB-C Charger 100 วัตต์

มีหัวแปลงขาปลั๊กแถมมาให้ 2 แบบ

USB-C
ช่องละ 100 วัตต์

USB-A
ช่องละ 18 วัตต์

Power Delivery 3.0

Quick Charge 3.0

3,090
UGREEN Nexode 7 in 1 100 วัตต์

มีช่องเสียบปลั๊กสองขา x 3 ช่อง

USB-C 1
อยู่ที่ 45 วัตต์

USB-C 2
อยู่ที่ 30 วัตต์

USB-C 3
5V 2.1A

USB-A
5V 2.1A

Power Delivery 3.0

Quick Charge 4+

PPS

FCP

AFC

SCP

BC1.2

4,170
UGREEN Nexode 200W 40913 200 วัตต์ USB-C 1
65 วัตต์

USB-C 2
45 วัตต์

USB-C 3
45 วัตต์

USB-C 4
20 วัตต์

USB-A ทั้ง 2 ช่องแชร์กำลังไฟที่ 5V4A

Power Delivery

PPS

7,419
INVZI GaNHub
9-in-1 100W
100 วัตต์

มีพอร์ต
HDMI (4K 60Hz)

LAN RJ45

SD/MicroSD
Card Reader

Audio combo

USB-C 1, C 2
ช่องละ 100 วัตต์

USB-C 3
30 วัตต์

USB-A
7.5 วัตต์

5,490

6 ที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C ดีๆ จะมีติดโต๊ะหรือพกใส่กระเป๋าไปไหนก็เวิร์ค

ผู้ใช้ที่กำลังมองหาที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C ดีๆ มาติดโต๊ะทำงานหรือใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนล่ะก็ ณ ตอนนี้ ก็มีผู้ผลิตอุปกรณ์ชาร์จทั้งหน้าเก่าและใหม่พากันเปิดตัวที่ชาร์จ เหล่านี้ออกมามากมาย มีกำลังชาร์จหลากหลายตั้งแต่ 100~200 วัตต์ให้เลือกเลย โดยผู้เขียนเลือกมาแนะนำทั้งหมด 6 รุ่นดังนี้

  1. Baseus GaN3 Pro 100W (1,861 บาท)
  2. Baseus GaN2 Pro 100W (1,310 บาท)
  3. HyperJuice GaN 100W USB-C Charger (3,090 บาท)
  4. UGREEN Nexode 7 in 1 (4,170 บาท)
  5. UGREEN Nexode 200W 40913 (7,419 บาท)
  6. INVZI GaNHub 9-in-1 100W (5,490 บาท)
1. Baseus GaN3 Pro 100W (1,861 บาท)

2f26082ea486fa3e6bca32242383d2c0

 

Baseus GaN3 Pro เป็นที่ชาร์จโน๊ตบุ๊คแบบตั้งโต๊ะ (Desktop Charger) ที่น่าใช้รุ่นหนึ่ง ดีไซน์เรียบร้อยและมีช่องเสียบปลั๊กหัว US ซึ่งใช้ในประเทศไทยอยู่แล้วติดมา 2 ช่อง ส่วนพอร์ตแบบ USB-C มี Type-C 1, Type-C 2 ซึ่งทั้งสองช่องนี้มีกำลังชาร์จรวม 65 วัตต์เมื่อเสียบชาร์จช่องใดช่องหนึ่ง แต่ถ้าใช้พร้อมกันจะแยกเป็นช่อง 1 ได้ 65 วัตต์ และช่อง 2 ได้ 30 วัตต์ และ USB-A อีก 2 ช่อง หากใช้ช่องเดียวจะได้กำลังชาร์จ 18 วัตต์ ถ้าใช้สองช่องพร้อมกันจะมีกำลังรวม 15 วัตต์ โดยกำลังชาร์จรวมทั้งระบบ 100 วัตต์ รองรับโปรโตคอล Power Delivery 3.0, Quick Charge 3.0 และ 4.0, AFC, FCP, SCP ซึ่งเป็นอแดปเตอร์ที่ดีและราคาไม่แพงมาก เหมาะจะซื้อมาติดโต๊ะทำงานเอาไว้สักชิ้นเพื่อชาร์จอุปกรณ์ส่วนตัวเป็นอย่างมาก

สเปคของ Baseus GaN3 Pro
  • Total Charging Power : 100 วัตต์
  • Charging Power : Type-C1 สูงสุด 65 วัตต์, Type-C2 สูงสุด 30 วัตต์, USB-A 15~18 วัตต์
  • Charging Protocol : Power Delivery 3.0, Quick Charge 3.0 และ 4.0, AFC, FCP, SCP
  • Price : 1,861 บาท (Baseus Shopee Mall)
2. Baseus GaN2 Pro 100W (1,310 บาท)

575b53f199f7e7cc143b216996bfe8a6

Baseus GaN2 Pro 100W ตัวนี้จะเป็นอแดปเตอร์ชาร์จแบบพกพา ขนาดไม่ใหญ่มากและพับขากปลั๊กได้ด้วย โดยตัวอแดปเตอร์มีช่อง USB-A, USB-C อย่างละ 2 ช่อง รองรับกำลังชาร์จรวม 100 วัตต์ ซึ่งช่อง Type-C 1, Type-C 2 หากใช้เพียงช่องใดช่องหนึ่งจะได้กำลังชาร์จ 100 วัตต์ทั้งคู่ ในขณะที่ USB1, USB2 จะได้ช่องละ 60 วัตต์เท่ากัน แต่เมื่อชาร์จพร้อมกันหลายชิ้น ช่อง Type-C1 จะมีกำลังชาร์จสูงสุดอย่างน้อย 60 วัตต์, Type-C2 อยู่ที่ 20 วัตต์ ส่วน USB1, USB2 แชร์กำลังชาร์จรวม 15 วัตต์ รองรับโปรโตคอลการชาร์จได้แก่ Power Delivery 3.0, Quick Charge 4+, PPS, FCP, AFC, APPLE2.4, BC1.2, PE+ จัดเป็นที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C ที่ดี มีกำลังชาร์จสูงและมีระบบนิรภัยทางไฟฟ้าติดมาให้ครบถ้วนอีกด้วย

สเปคของ Baseus GaN 100W
  • Total Charging Power : 100 วัตต์
  • Charging Power : Type-C1 สูงสุด 60 วัตต์, Type-C2 สูงสุด 20 วัตต์, USB-A แชร์กำลังรวม 15 วัตต์
  • Charging Protocol : Power Delivery 3.0, Quick Charge 4+, PPS, FCP, AFC, APPLE2.4, BC1.2, PE+
  • Price : 1,310 บาท (Baseus Shopee Mall)
3. HyperJuice GaN 100W USB-C Charger (3,090 บาท)

a34e9489249e6fa682d32f8bb13a162c

HyperJuice GaN 100W USB-C Charger ก็เป็นที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C น่าใช้อีกรุ่น ขาปลั๊กพับเก็บได้แต่มีลูกเล่นตรงที่ผู้ผลิตให้อแดปเตอร์แปลงหัวชาร์จเป็นปลั๊กขากลมหรือสามขาให้ใช้เสียบปลั๊กไฟได้ทุกที่ในโลกนี้ ที่ตัวอแดปเตอร์มีพอร์ต USB-C, USB-A อย่างละ 2 ช่อง โดยช่อง USB-C มีกำลังชาร์จสูงสุดช่องละ 100 วัตต์ ส่วน USB-A มีกำลังชาร์จช่องละ 18 วัตต์ เมื่อชาร์จพร้อมกันจะแชร์กำลังชาร์จไป โดยมีกำลังชาร์จรวมทั้งระบบ 100 วัตต์ รองรับโปรโตคอลการชาร์จได้แก่ Power Delivery 3.0 และ Quick Charge 3.0 ซึ่งถ้าใครต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ล่ะก็ ผู้เขียนคิดว่า HyperJuice นั้นน่าใช้ เพราะมีอแดปเตอร์แปลงหัวชาร์จให้แปลงต่อกับปลั๊กของแต่ละประเทศได้ง่ายๆ 

สเปคของ HyperJuice GaN 100W USB-C Charger
  • Total Charging Power : 100 วัตต์ มีหัวแปลงขาปลั๊กแถมมาให้ 2 แบบ
  • Charging Power : USB-C ช่องละ 100 วัตต์, USB-A ช่องละ 18 วัตต์
  • Charging Protocol : Power Delivery 3.0, Quick Charge 3.0
  • Price : 3,090 บาท (Hyper Thailand Shopee Mall)
4. UGREEN Nexode 7 in 1 (4,170 บาท)

a63a22fce7bb5ab5dd427555a6490780

UGREEN Nexode 7 in 1 เป็นที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C กำลังชาร์จรวม 100 วัตต์แบบ Desktop Charger ที่ได้ช่องเสียบปลั๊กสองขาทั้งหมด 3 ช่อง โดยอยู่ด้านบนเหนือตัวกล่องชาร์จ 1 ช่อง และด้านหลังอีก 2 ช่อง ไว้ใช้ต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นอื่นบนโต๊ะทำงานได้ด้วย ที่ตัวมีช่อง USB-C ทั้งหมด 3 ช่อง และ USB-A อีก 1 ช่อง โดยกำลังชาร์จเมื่อใช้ทุกช่องพร้อมกัน จะได้เป็น USB-C 1 อยู่ที่ 45 วัตต์, USB-C 2 อยู่ที่ 30 วัตต์ ส่วน USB-C 3 และ USB-A จะได้กำลังชาร์จ 5V 2.1A เท่ากันทั้งสองช่อง รองรับโปรโตคอลการชาร์จได้แก่ Power Delivery 3.0, Quick Charge 4+, PPS, FCP, AFC, SCP, BC1.2 ดังนั้นถ้าใครต้องการปลั๊กบนโต๊ะทำงานเพิ่มล่ะก็ ซื้อ UGREEN Nexode ตัวนี้ไปใช้งานได้เลย

สเปคของ UGREEN Nexode 7 in 1
  • Total Charging Power : 100 วัตต์ มีช่องเสียบปลั๊กแบบสองขาที่ตัวอีก 3 ช่อง
  • Charging Power : USB-C 1 อยู่ที่ 45 วัตต์, USB-C 2 อยู่ที่ 30 วัตต์, USB-C 3 ได้ 5V 2.1A, USB-A ได้ 5V 2.1A
  • Charging Protocol : Power Delivery 3.0, Quick Charge 4+, PPS, FCP, AFC, SCP, BC1.2
  • Price : 4,170 บาท (UGREEN Shopee Mall)
5. UGREEN Nexode 200W 40913 (7,419 บาท)

Screenshot 2022 11 12 103540

UGREEN Nexode 200W 40913 ตัวนี้ถือเป็นที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C กรณีไม่ต้องการใช้ช่องเสียบปลั๊กแต่ต้องการ USB เอาไว้ชาร์จอุปกรณ์ไอทีต่างๆ เป็นหลัก ก็เหมาะกับ UGREEN Nexode ตัวนี้มาก เพราะตัว Desktop Charger นี้มีกำลังชาร์จรวม 200 วัตต์ มีช่อง USB-C ถึง 4 ช่อง เสริมด้วย USB-A อีก 2 ช่องด้วยกัน เป็นแท่นชาร์จที่เหมาะจะมีติดโต๊ะทำงานที่บ้านหรือในออฟฟิศก็ดีทั้งนั้น เพราะมีมันตัวเดียวใช้ชาร์จโน๊ตบุ๊คพร้อกมันได้ 3 เครื่องทีเดียว โดยกำลังชาร์จของ USB แต่ละช่องเมื่อใช้ชาร์จพร้อมกัน ได้แก่ USB-C 1 ได้ 65 วัตต์, USB-C 2 ได้ 45 วัตต์, USB-C 3 ได้ 45 วัตต์, USB-C 4 ได้ 20 วัตต์ ส่วน USB-A ทั้งสองช่องจะแชร์กำลังไฟที่ 5V4A หรือรวมแล้ว 20 วัตต์นั่นเอง รองรับโปรโตคอลการชาร์จ Power Delivery, PPS จัดเป็นที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C ที่ดี พอร์ตเยอะกลังชาร์จเหลือเฟือ ช่วยประหยัดช่องสำหรับเสียบปลั๊กและลดความรกรุงรังของโต๊ะทำงานไปได้มาก

สเปคของ UGREEN Nexode 200W 40913
  • Total Charging Power : 200 วัตต์
  • Charging Power : USB-C 1 ได้ 65 วัตต์, USB-C 2 ได้ 45 วัตต์, USB-C 3 ได้ 45 วัตต์, USB-C 4 ได้ 20 วัตต์, USB-A ทั้ง 2 ช่องแชร์กำลังไฟที่ 5V4A
  • Charging Protocol : Power Delivery, PPS
  • Price : 7,419 บาท (UGREEN Shopee Mall)
6. INVZI GaNHub 9-in-1 100W (5,490 บาท)

invzi 9 in 1 100w gan usb c charger power hub

หากใครเปิดเว็บไซต์ Kickstarter ดูโปรเจคล้ำๆ อยู่เป็นระยะๆ น่าจะคุ้นตา INVZI GaNHub 9-in-1 100W ตัวนี้เป็นอย่างมาก เพราะที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C แบบพกพาพับขาปลั๊กได้ตัวนี้รวมเอาคุณสมบัติของ Multiport Adapter มาไว้ในตัวด้วย กำลังชาร์จรวม 100 วัตต์นี้ มีพอร์ต USB-C1 และ C2 กำลังชาร์จช่องละ 100 วัตต์, USB-C3 กำลังชาร์จ 30 วัตต์ ส่วน USB-A ได้ 7.5 วัตต์ โดยช่อง USB-C2, C3, USB-A จะเป็นช่องที่รองรับ Data Transfer ส่วนพอร์ตอื่นที่ติดตั้งมาให้ด้วยจะมี HDMI รองรับ 4K 60Hz, LAN RJ45, SD/MicroSD Card Reader, Audio combo ด้วย จัดเป็น Multiport Adapter ที่ทำตัวเป็นที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C ไปในตัว พกง่ายไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์ใส่กระเป๋าไปหลายชิ้นด้วย

สเปคของ INVZI GaNHub 9-in-1 100W
  • Total Charging Power : 100 วัตต์ มีพอร์ต HDMI (4K 60Hz), LAN RJ45, SD/MicroSD Card Reader, Audio combo ให้ใช้งาน
  • Charging Power : USB-C 1, C 2 ช่องละ 100 วัตต์, USB-C 3 ได้ 30 วัตต์, USB-A ได้ 7.5 วัตต์
  • Charging Protocol : ไม่แจ้งข้อมูล
  • Price : 5,490 บาท (Silicons Shopee Mall)

348e81da 6d79 49e9 8723 8e50f5a66c73. CR0 0 1464 600 PT0 SX1464 V1

จะเห็นว่าที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C ในปัจจุบันนี้มีรุ่นน่าใช้เปิดตัวออกมามากมาย ฟีเจอร์เฉพาะของแต่ละรุ่นก็ต่างกันไป ตั้งแต่รุ่นที่มีพอร์ต USB-C, USB-A ไว้ใช้ชาร์จอย่างเดียวหรือจะรุ่นที่เป็น Multiport Adapter ก็มีให้เลือก รวมถึงรุ่นที่มีช่องปลั๊กไฟบ้านให้ต่ออุปกรณ์สำนักงานชิ้นอื่นๆ ก็ได้เช่นกัน หากที่ชาร์จโน๊ตบุ๊ค Type-C ตัวไหนตอบโจทย์การใช้งานของเราก็ซื้อตัวนั้นไปใช้ได้เลย


บทความที่เกี่ยวข้อง

usb c cover

usb c laptop cover

usb c cover

from:https://notebookspec.com/web/674778-6-recommend-usb-type-c-desktop-hub

รีวิว Baseus Gan Pro 65W เล็กกว่า สีสันสดใสเอาจัยวัยรุ่น

ถ้าเพื่อนๆ คิกว่า Adapter PC Charge แบบไหนก้เหมือนกันหมดเน้นวัตต์ เน้นพอร์ต แต่ไม่ใช่กับ Baseus Gan Pro 65W ที่นอกจากจ่ายไฟได้ถึง 65W แล้ว ยังมาพร้อมสีสันสดใส ขนาดเล็กลง และที่สำคัญคือราคาคุ้มเหมือนเดิม

Baseus Gan Pro 65W

Advertisementavw

Baseus Gan Pro 65W หนึ่งในแบรนด์ Adapter และอุปกรณ์เสริมสุดฮิตในบ้านเราด้วยจุดเด่นในเรื่องของราคา แต่ยังให้สินค้าที่มีคุณภาพ และออปชั่นครบ ที่มาพร้อม Adapter PD Charge รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมสเปคน่าสนใจด้วย เทคโนโลยี Gan ที่รองรับ PD Charge เวอร์ชั่น 4.0 รองรับการชาร์ตโน้ตบุ๊ค สมาร์ทโฟน แท็บแล็ตในตลาดได้หมดด้วยกำลังไฟสูงถึง 65W พร้อมพอร์ตชาร์ตที่มีทั้งแบบ USB-C 2 พอร์ต และยังมี USB-A รองรับ Fast Charge อีก 1 พอร์ต ในขนาดที่เล็กลงกว่ารุ่นก่อนอย่าง Baseus Gan 65W ที่ทีมงานเคยรีวิว ซึ่งจะเล็กกว่าจากยาว 7.5 เหลือ 6.35 เซ็นติเมตร และเบากว่าอย่างเห้นได้ชัดจาก 120 กรัม เหลือ 112 กรัม และที่สำคัญ คือมีสีสันให้เลือกถึง 5 สี ในราคา 899 บาท คุ้มเหมือนเดิม

Baseus Gan Pro 65W

  • ชื่อยี่ห้อ: BASEUS
  • GAN: ใช่
  • แม็กซ์กำลังขับ: 65 W
  • อินเตอร์เฟซเอาท์พุท: USB
  • อินเตอร์เฟซเอาท์พุท: 2 พอร์ต C
  • หมายเลขรุ่น: BASEUS ที่ชาร์จความเร็วสูง
  • ใช้โปรโตคอล FAST CHARGE: USB PD
  • ประเภท: การเดินทาง
  • แหล่งพลังงาน: A.C. แหล่งที่มา
  • อินพุต: 100-240 V/1.2A
  • การรับรองคุณภาพ: CE
  • การรับรองคุณภาพ: ROHS
  • การรับรองคุณภาพ: FCC
  • ขนาด: 75*36*32 มม
  • อินพุต: AC 100-240 V,50/60Hz,1.5A สูงสุด
  • Type-C1 เอาท์พุท: DC 3.3-11 V 3A,5 V 3A,9 V 3A, 12 V 3A,15 V 3A,20 V 3.25A สูงสุด
  • Type-C2 เอาท์พุท: DC 3.3-11 V 2.7A,5 V 3A,9 V 3A, 12 V 2.5A,15 V 2A,20 V 1.5A สูงสุด
  • USB เอาท์พุท: DC 4.5 V 5A,5 V 4.5A,9 V 3A,12 V 2.5A, สูงสุด 20 V 1.5A

เมื่อต่อหลายพอร์ตพร้อมกันกำลังไฟจะถูกหารออกเป็น

  • Type-C1 + Type-C2 เอาท์พุท: 45 W + 18 W
  • Type-C1 + USB เอาท์พุท: 45 W + 18 W
  • Type-C2 + USB เอาท์พุท: 5 V 3A 15 W
  • Type-C1 + Type-C2 + USB เอาท์พุท: 45 W + 15 W

Baseus Gan Pro 65W 01 Baseus Gan Pro 65W 02

Baseus Gan Pro 65W 03 Baseus Gan Pro 65W 04

กล่องของ Baseus Gan Pro 65W โชว์หน้าตา พร้อมสเปคต่างๆอย่างครบครัน กล่องเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เขา Baseus และจะเห็นถึงสีที่เราเลือกซื้อด้วย โดยสีที่ได้มาเป็นสีฟ้าขาว

Baseus Gan Pro 65W 05

ภายในกล่องจะมีตัว Adapter สาย USB-C to USB-C สีเดียวกัน คู่มือ และสติกเกอร์แปะเล่น

Baseus Gan Pro 65W 06 Baseus Gan Pro 65W 07

สายชาร์ตแบบ USB-C ที่ให้มาจะเป็นสีเดียวกับ Adapter เป็นสายยางขึ้นรูปเหมือนสายถัก สวยงามดีทีเดียว

Baseus Gan Pro 65W 09

Baseus Gan Pro 65W 11 Baseus Gan Pro 65W 14

Baseus GaN Pro 65W มาในขนาดที่กะทัดรัดอย่างมากถ้าเทียบกับ Adapter โน๊ตบุ๊ค หรือกระทั่ง Adapter ของสมาร์ทโฟนก็ยังจัดว่าเล็กอยู่fu ออกแนวยาวๆตั้งๆ และที่สำคัญคือเล้กกว่ารุ่นก่อน รวมไปถึงเรื่องของสีสันที่ดูสดใส เป็นโทนฟ้าขาว เอาใจคนรุ่นใหม่ที่เบื่อกับสีเดิมๆอย่างขาวหรือดำ

ตัววัสดุหลักเป็นพลาสติก ดูแข็งแรงและกันไฟฟ้าสถิตได้ดี มีสกรีน สเปค 65W พร้อมออปชั่นครบครันประมาณหนึ่ง

Baseus Gan Pro 65W 12

โดยตรงมุมจะมีไฟแสดงสถานะด้วย

Baseus Gan Pro 65W 13

พร้อมพอร์ตเชื่อมต่อถึง 3 พอร์ต โดยแบ่งเป็น USB-C 2 พอร์ต และ USB-A อีกหนึ่งพอร์ต โดยชาร์ตพร้อมกันได้สูงสุดถึง 3 พอร์ต พร้อมกัน

Baseus Gan Pro 65W 15 Baseus Gan Pro 65W 16

ขาปลั๊กเป็นแบบแบนคู่สามารถพับเก็บได้ เพิ่มความสะดวกในการพกพา

Baseus Gan Pro 65W 18

ขนาดเล็กกว่าฝ่ามืออีก พกพาสะดวกแน่นอน

Baseus Gan Pro 65W 19

มีไฟแสดงสถานะอยู่โชว์ด้วย ต่างจากหลายตัวในตลาดที่ไม่ค่อยมีไฟแสดงสถานะ

Baseus Gan Pro 65W 21

ทดสอบใช้งานกับ ThinkPad Z13 ที่ชาร์ตผ่าน USB-C แบบพอร์ตเดียว สามารถใช้งานได้ ชาร์ตได้เร็วเทียบเท่ากับ Adapter ที่แถมมากับตัวเครื่อง ตัวเครื่องไม่ฟ้องว่าจ่ายไฟช้าเหมือน Adapter ที่จ่ายไฟได้น้อย ชาร์ตแบตเตอรี่จาก 50% ให้เต็มได้ในเวลาครึ่งชั่วโมง หรือจะต่อกับ HUB เพื่อต่อ adapter เสริมก็ยังจ่ายไฟได้อย่างไม่มีปัญหา ชาร์ตไปใช้ไปได้เลย

จากนั้นทดลองชาร์ต Samsung Galaxy S22 Ultra ก็ยังสามารถชาร์ตได้ไว จากแบตไม่ถึง 50% เต็มได้ในไม่กี่นาที หรือจะชาร์ต Power Bank ความจุระดับ 10,000 mAh ก็ชาร์ตได้เต็ม

หรือถ้ามีความจำเป็นต้องชาร์ต 2 พอร์ตพร้อมกันตัว Adapter จะปรับพอรืตหลักอย่าง USB-C เหลือ 45 W และอีกพอร์ตที่ 15 W ซึ่งยังคงชาร์ต ThinkPad Z13 พร้อมไปใช้ไปได้ แต่จะชาร์ตช้าลง หรือถ้าทำงานหนักอาจจะแทบชาร์ตไม่ได้ ส่วนอีกพอร์ตทีมงานชาร์ต Samsung Galaxy S22 Ultra ผ่าน USB-C และ USB-A แบบ 15W ก้ยังชาร์ตได้ไวเพียงแค่ไม่ถึง 20 นาที ก็สามารถชาร์ตจาก 40% จนเต้ม 100% ได้เลย

Baseus Gan Pro 65W 25

Baseus Gan Pro 65W เหมาะจะเป็น Adapter อันที่ 2 ที่เอาติดไว้พกพา เดินทางไปทำงานนอกบ้าน เพราะสามารถชาร์ตได้ทั้งโน้ตบุ๊ค แท็บแล็ตหรือกระทั่งสมาร์ทโฟนได้ อีกทั้งยังมีขนาดที่กะทัดรัด และสวยงาม พร้อมแถมสายชาร์ตให้มาด้วย ซื้อไปจบพร้อมใช้ ยิ่งถ้าโน้ตบุ๊คบางเบาหรือ Macbook Air ชาร์ตได้สบายๆเหลือๆ แต่ถ้าเป็นโน้ตบุ๊คที่มีการ์ดจอแยกอาจจะแค่พอร์ตแต่ใช้งานหนักๆ ได้ไม่สะดวกนัก แต่ด้วยราคาค่าตัวแค่ 899 บาท คุ้ม ซื้อติดกระเปาไว้อุ่นใจกว่า Power Bank ชาร์ตไว น้ำหนักเบากว่าด้วย

จุดเด่น

  • รองรับ Power Delivery สูงถึง 65W
  • พอร์ตชาร์ตได้ถึง 3 พอร์ต
  • ขนาดเล็กกะทัดรัดมาก
  • สีสันสดใสเอาใจคนรุ่นใหม่

ข้อสังเกต

  • เลอะ เป็นรอยได้ง่าย

from:https://notebookspec.com/web/664058-review-baseus-gan-pro-65w

Baseus Blade 100W พาวเวอร์สเปคแรงฉีกความคุ้นเคยทุกสิ่งที่เคยมีมา

Baseus Blade 100W พาวเวอร์แบงค์รุ่นใหม่จากแบรนด์ดังอย่าง Baseus เปิดตัวอย่างเป็นทางการ มาพร้อมกับสเปคสุดแจ่มที่บอกได้คำเดียวว่าเหมาะเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่มี Gadgets ติดตัวหลายอย่าง

Baseus Blade 100W
Baseus Blade 100W

ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าในปัจจุบันนั้นพาวเวอร์แบงค์หรือ Powerbank กลายเป็นอุปกรณ์ติดตามตัวสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนหรือ Gadgets หลายๆ อย่างไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งหากจะว่าไปแล้วนั้น Powerbank ในยุคที่ผ่านๆ มานั้นเรามักจะมองว่ามันจะถูกเอาใช้งานเมื่อสมาร์ทดีไวซ์ของเราใกล้หมดลมหายใจ(แบตหมดนั่นเอง) โดยในอดีตที่ผ่านมานั้นในการใช้งาน Powerbank เพื่อชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ จะใช้เวลาค่อนข้างที่จะนานเนื่องจากว่าความสามารถในการจ่ายพลังงานหรือกำลังไฟฟ้าที่ Powerbank สามารถจ่ายให้กับสมาร์ทดีไวซ์ของเราค่อนข้างที่จะน้อย นั่นเลยทำให้คุณอาจจะต้องใช้เวลามากสักหน่อยในการชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ ของคุณ

อีกปัญหาหนึ่งก็คือ Powerbank ในอดีตนั่นค่อนข้างจะมาพร้อมกับความสามารถในการเก็บพลังงานไฟฟ้าได้ค่อนข้างน้อย ซึ่งนั่นทำให้เวลาที่เราใช้งานในการชาร์ตอุปกรณ์นั้นไม่ทันไรเจ้า Powerbank เองก็หมดลมหายใจไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นเดียวกัน ทาง Baseus หนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมสำหรับสมาร์ทดีไวซ์ชื่อดังเล็งเห็นปัญหาดังกล่าวนั้นเป็นอย่างดี ทางบริษัทจึงได้ทำการวิจัยและพัฒนา Powerbank ดีๆ ออกมาจำหน่ายให้กับเราๆ ท่านๆ ได้ใช้งานมาโดยตลอด และล่าสุดกับ Baseus Blade 100W นั้นบอกได้ว่าน่าสนใจเป็นและน่าเป็นเจ้าของอย่างยิ่ง

Advertisementavw
baseus blade 100w pwbank 6

Baseus Blade 100W นั้นเป็น Powerbank ที่มาพร้อมกับแบตเตอรรีที่มีความสามารถในการเก็บกระแสไฟฟ้าได้มากถึง 20,000 mAh ทว่าขนาดของมันนั้นกลับเล็กเอามากๆ หากเทียบกับ Powerbank ที่มีความจุในการเก็บกระแสไฟฟ้าในระดับที่เท่ากันกับความหนาแค่เพียง 0.7 นิ้ว นอกไปจากนั้นน้ำหนักของ Baseus Blade ก็อยู่ที่เพียง 453 กรัมเท่านั้นซึ่งถือว่าเบาเอามากๆ เลยทีเดียว จุดเด่นอีกหนึ่งจุดเลยนั้นก็คือ Baseus Blade 100W จะมาพร้อมกับหน้าจอ LCD ที่เอาไว้ใช้บอกระดับเปอร์เซ็นต์ของกระแสไฟฟ้าที่ยังคงมีอยู่ภายในตัว Baseus Blade 100W ได้อีกด้วย

หากมีเพียงแค่นี้นั้นก็คงจะไม่น่าสนใจเท่าไร ทว่าในส่วนของสเปคด้านอื่นๆ ของ Baseus Blade 100W นั้นก็เรียกได้ว่าน่าสนใจเป็นอย่างมากอย่างการมาพร้อมกับพอร์ตการเชื่อมต่อจำนวนทั้งหมด 4 พอร์ต โดนจะมี UPB Type-C จำนวน 2 พอร์ต ซึ่งทั้ง 2 พอร์ตนี้นั้นรองรับมาตรฐานเทคโนโลยีการชาร์จไฟสมัยนิยมในปัจจุบันอย่าง PD 3.0 และ QC 4.0 รวมทั้ง PPS, FCP และ SCP อีกด้วยต่างหาก 

พอร์ต USB Type-C ทั้ง 2 นี้หากใช้งานเพียงแค่พอร์ตเดียวแล้ว Baseus Blade 100W จะสามารถที่จะจ่ายไฟได้ที่กำลังไฟฟ้าสูงสุดถึง 100W (ตามชื่อรุ่น) และนอกจากนั้นตัวพอร์ต USB Type-C ที่ใช้งานสำหรับชาร์จตัว Baseus Blade 100W เองนั้นจะสามารถรับไฟเข้าได้ที่กำลังไฟฟ้าสูงสุด 65W ซึ่งนั่นหมายความว่าหากที่ชาร์จของคุณสามารถที่จะจ่ายไฟฟ้าได้ที่กำลังไฟ 65W จะทำให้ Baseus Blade 100W ใช้เวลาในการชาร์ตแบตของตัวเองได้ในระยะเวลา 1.5 ชั่วโมงเท่านั้น

สำหรับอีก 2 พอร์ตที่เหลือนั้นจะเป็นพอร์ฺตแบบ USB Type-A ซึ่งหากใช้งานแบบแยกเดี่ยวแล้วจะสามารถชาร์ตอุปกรณ์ที่กำลังไฟฟ้าสูงสุด 30W (มากน้อยขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่เอาไปทำการชาร์จ) ทั้งนี้ Baseus Blade 100W นั้นได้มีการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว สนนราคานั้นจะอยู่ที่ $99.99 หรือประมาณ 3,315 บาท ซึ่งหากเทียบกับความสามารถของมันแล้วนั้นถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก(แน่นอนว่าด้วยกำลังไฟฟ้าถึง 100W ที่สามารถจ่ายผ่าน USB Type-C นั้นทำให้ Baseus Blade 100W สามารถใช้ในการชาร์จ Nintendo Switch หรือ MacBook ได้ด้วย)

หมายเหตุ – อย่างไรก็ตามด้วยความที่สเปคสุดแสนน่าสนใจและราคาที่ดึงดูดทำให้ในปัจจุบันนี้ Baseus Blade 100W ได้ Out of stock ไปเป็นที่เรียบร้อย โดยทาง Baseus ได้บอกเอาไว้ว่าจะเร่งผลิตออกมาให้พอกับความต้องการในตลาดอย่างเร็วที่สุด

ที่มา : notebookcheck

from:https://notebookspec.com/web/642654-baseus-blade-100w-power-bank-as-a-super-portable-100w-charging-accessory

6 ขาตั้งมือถือน่าใช้ วางมือถือหรือแท็บเล็ตชิล ไม่กลัวหล่นใส่หน้า! เริ่มแค่ 69 บาทก็ได้ใช้แล้ว!

ขาตั้งมือถือดีๆ ยุคนี้จ่ายไม่ต้องแพงก็ได้ของดีเอาไว้นอนดูหนังได้แล้ว ไม่ต้องถือเองให้ลุ้นมือถือร่วงใส่หน้าอีกต่อไป!

standy cover

หลังจากแนะนำที่จับมือถือในรถยนต์ไปแล้ว หลายๆ คนก็คงมองหาขาตั้งมือถือเอาไว้ดูหนังหรือวางหน้าคอมพิวเตอร์หรือโต๊ะเล็กข้างเตียงนอนเพื่อชาร์จแบตเตอรี่หรือดูหนังฟังเพลงกัน จะได้ไม่ต้องถือมือถือนานๆ ให้เมื่อยมือแล้วเกิดอุบัติเหตุมือถือหล่นใส่หน้าจนเจ็บหน้าเจ็บตา จะได้ดูหนังได้นานๆ เต็มอรรถรส

Advertisementavw

ซึ่งขาตั้งมือถือในปัจจุบันนี้มีหลากแบบหลากหลายแบรนด์และดีไซน์ให้เลือกมาใช้งานกัน ตั้งแต่เป็นขาตั้งไม้ราบไปกับพื้นราคาไม่ถึงร้อยบาทไปจนขาตั้งโลหะปรับองศาได้ให้เลือก และหลายๆ รุ่นก็เอามาตั้งแท็บเล็ตเพื่อดูหนังและอ่านหนังสือได้โดยสะดวกอีกด้วย เรียกว่าซื้อของชิ้นเดียวใช้กับอุปกรณ์ได้หลายขนาด จ่ายครั้งเดียวคุ้มค่าไปเลย

ขาตั้งมือถือ

6 ขาตั้งมือถือน่าใช้ ซื้อมาตั้งมือถือหรือแท็บเล็ตก็ได้ ดูหนังไปเพลินๆ

คนที่กำลังหาที่ตั้งมือถือไว้ดูหนังฟังเพลงสักอัน จะได้ไม่ต้องเสี่ยงมือถือหรือแท็บเล็ตตกใส่หน้าตอนนอนดูหรือถือให้เมื่อยแขนเวลาดูหนังล่ะก็ ผู้เขียนมีขาตั้งทั้งหมด 6 รุ่นมาให้เลือกกัน ได้แก่

  1. IKEA BERGENES (69 บาท)
  2. Baseus Metal Mobile Phone Stand Holder (225 บาท)
  3. ขาตั้งสมาร์ทโฟน Llano (236 บาท)
  4. Ulanzi MT-34 (396 บาท)
  5. BASEUS OTAKU LIFE (390 บาท)
  6. Andoer H5 Handheld Gimbal (637 บาท)
1. IKEA BERGENES (69 บาท)

bergenes holder for mobile phone tablet bamboo 0948313 pe798953 s5

ถ้าใครจัดโต๊ะคอมบ่อยๆ น่าจะเห็นที่ตั้งมือถือและแท็บเล็ตทำจากไม้ดีไซน์มินิมอลผ่านตากันมาบ้าง นั่นคือ IKEA BERGENES ที่ตั้งมือถือและแท็บเล็ตได้ในตัว โดยที่ตั้งตัวนี้ทำจากไม้ไผ่เคลือบแล็คเกอร์แบ่ง 2 ช่องเอาไว้ให้วางมือถือและแท็บเล็ตได้ โดยมีความหนา 0.9-1.1 ซม. ซึ่งหนาพอวางอุปกรณ์ที่ต้องการใช้งานได้สบายๆ แต่จุดสังเกตคือ BERGENES จะเป็นที่วางมือถือแบบราบวางกับพื้นโต๊ะ ถ้าวางมือถือหรือแท็บเล็ตแนวตั้งจะปิดช่องชาร์จแบตเตอรี่และลำโพงอีกฟากพอดี แต่ถ้าวางแนวนอนไว้ดูหนังฟังเพลงก็ไม่มีปัญหา

รายละเอียดของ IKEA BERGENES
  • ที่วางมือถือทำจากไม้ไผ่เคลือบแล็กเกอร์แบบวางราบกับพื้น
  • มีช่องวางมือถือ 2 ช่อง ความหนา 0.9-1.1 ซม. วางแท็บเล็ตและมือถือได้หลายไซซ์
  • ราคา 69 บาท (IKEA)
2. Baseus Metal Mobile Phone Stand Holder (225 บาท)

0dcaf63d39db40097acf1543ee3e353e

Baseus Metal Mobile Phone Stand Holder ตัวนี้จะเป็นที่วางมือถือแบบขาตั้งยกสูง รับน้ำหนักของแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนได้ตั้งแต่ 3-10.5 นิ้ว ทำจากอลูมิเนียมแข็งแรงทนทานปรับองศาก้มเงยได้ 35 องศา ติดที่เก็บสายไฟเอาไว้ที่ก้านขาตั้ง ร้อยสายไฟได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนทำให้สายไฟไม่รกเกะกะ ติดซิลิโคนเอาไว้ใต้แท่นป้องกันขาตั้งไถลและวางบนโต๊ะได้อย่างมั่นคง ซึ่งจากขนาดแท็บเล็ตใหญ่สุดที่วางได้อยู่ที่ 10.5 นิ้ว หมายความว่าผู้ใช้ที่มี iPad Pro ไซซ์ 11 นิ้ว ก็สามารถวางบนแท่นวางนี้ได้ แต่ถ้าเป็น iPad Pro ขนาด 12.9 นิ้ว อาจจะทำให้ตัวขาตั้งล้าเร็วหรือตัวก้านเกิดพับก้มหน้าลงได้

รายละเอียดของ Baseus Metal Mobile Phone Stand Holder
  • ที่วางมือถืออลูมิเนียมติดซิลิโคนใต้ขาตั้ง มีที่เก็บสายไฟติดมาด้วย
  • รองรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต 3-10.5 นิ้ว ปรับองศาก้มเงยได้ 35 องศา
  • ราคา 225 บาท (zmo099 Shopee)
3. ขาตั้งสมาร์ทโฟน Llano (236 บาท)

5ddb4c8a6f5ca9470a1c7922a3602d33

ขาตั้งสมาร์ทโฟน Llano ที่เลือกมาแนะนำ จะเป็นแบบมีขาสปริงสไลด์สำหรับคีบล็อคมือถือให้ล็อคแน่นมั่นคงไม่เลื่อนหลุดง่าย ขาตั้งทั้งตัวเป็นอลูมิเนียมพร้อมข้อต่อ 2 จุด หมุนขาตั้งได้ 360 องศา แข็งแรง ส่วนตัวยึดกางได้ 11.8-24.5 ซม. จับมือถือและแท็บเล็ตขนาด 6-12.9 นิ้วได้ ถ้าใครใช้ iPad Pro 12.9″ อยู่ก็เหมาะกับขาตั้งตัวนี้ ด้านใต้ขาตั้งติดซิลิโคนกันลื่นเอาไว้กันลื่นหรือโคลงไว้ ตัวฐานเป็นแม่เหล็กเอาไว้ดูดอุปกรณ์ที่เป็นโลหะให้ติดอยู่กับตัวแท่นไม่ให้หล่นหายไปไหนได้ด้วย ดังนั้นถ้าใครมีแท็บเล็ตตัวใหญ่ก็น่าซื้อขาตั้งตัวนี้ไปใช้งานมาก

รายละเอียดของขาตั้งสมาร์ทโฟน Llano
  • ที่วางมือถืออลูมิเนียมติดซิลิโคนใต้ขาตั้ง ฐานแม่เหล็กดูดข้าวของโลหะได้
  • ดีไซน์ขาตั้งมีข้อต่อ 2 จุด หมุนได้ 360 องศา กางขาตั้งจับมือถือขนาด 6-12.9 นิ้วได้
  • ราคา 236 บาท (Llano Shopee Mall)
4. Ulanzi MT-34 (239 บาท)

9f874abed337ea6fa9718d7db0ea441a

Ulanzi MT-34 ตัวนี้ต้องถือว่าเป็นทั้งขาตั้งมือถือและ Tripod ล็อคกล้องและจับมือถือได้โดยมีน็อตสำหรับขันรูน็อตใต้กล้องและกางขาตั้งเป็นตัวล็อคมือถือได้ด้วย แต่ไม่มีปุ่มควบคุมมือถือติดตั้งมาให้ ตัวก้านของ Ulanzi สามารถยืดได้ต้งแต่ 9-81.5 ซม. เพื่อถ่ายภาพและวิดีโอได้ หัวบอลสามารถหมุนได้ 360 องศา ทำให้ตั้งมือถือทั้งแนวตั้งและแนวนอนได้สะดวก ด้ามจับสามารถกางออกเพื่อวางตั้งถ่าย Vlog ได้อีกด้วย จัดว่าเหมาะกับคนที่ใช้มือถือกับกล้องเป็นหลัก

รายละเอียดของ Ulanzi MT-34
  • ที่วางมือถือแบบเป็น Tripod ในตัว ติดกล้องและสมาร์ทโฟนได้ ฐานบอลหมุนได้ 360 องศาและเป็นแนวตั้งได้
  • ดีไซน์ก้านของ Tripod ให้ยืดได้ 9-81.5 ซม. กางขาตั้งไว้ล็อคมือถือดูหนังได้
  • ราคา 396 บาท (Ulanzi Shopee Mall)
5. BASEUS OTAKU LIFE (390 บาท)

110012999 11

BASEUS OTAKU LIFE เป็นที่ตั้งมือถือแบบคีบเข้ากับขอบโต๊ะหรือหัวเตียงเพื่อนอนดูหนังได้เลย ตัวขาตั้งเป็นอลูมิเนียมดีไซน์เหมือนคันเบ็ดตกปลา ฐานจับเป็นแบบรางสไลด์หมุนได้ 360 องศา ล็อคมือถือและแท็บเล็ตขนาด 4.7-12.9 นิ้วได้ ส่วนหัวคีบเข้ากับหัวเตียงหรือขอบโต๊ะขันได้กว้างสุด 90 มม. ส่วนก้านพลาสติกสีดำสามารถพับงอให้เข้ากับมุมมองของผู้ใช้ได้โดยสะดวก ซึ่งผู้ใช้ค่อนข้างแนะนำขาตั้งตัวนี้สำหรับคนที่ชอบนอนดูหนังข้างเตียงมาก สามารถขันล็อคเข้ากับหัวเตียงแล้วนอนดูหนังไปยาวๆ ในวันหยุดได้เลย

รายละเอียดของ BASEUS OTAKU LIFE
  • ที่วางมือถือแบบก้านคีบขอบโต๊ะหรือหัวเตียง ขาคีบกว้าง 90 มม. ก้านอลูมิเนียมดีไซน์คันเบ็ด
  • ดีไซน์ตัวจับมือถือหมุนได้ 360 องศา กางขาตั้งจับมือถือ, แท็บเล็ต 4.7-12.9 นิ้วได้
  • ราคา 390 บาท (TopValue)
6. Andoer H5 Handheld Gimbal (637 บาท)

18ca489b4a100b51af8469cb4050e110

Andoer H5 Handheld Gimbal อันสุดท้ายเป็นขาตั้งมือถือแบบ Tripod ในตัวสำหรับคนที่อยากนั่งดูหนังตอนอยู่ในบ้านและออกไปถ่ายภาพหรือวิดีโอตอนออกไปเที่ยวได้ด้วย โดยขาตั้งตัวนี้จะเป็นพลาสติกกับขายืดอลูมิเนียมแข็งแรง ปรับความสูงได้ตั้งแต่ 29-59.2 ซม. ถ้าพับเก็บจะยาวแค่ 19.5 ซม. เท่านั้น กางตัวจับมาล็อคมือถือความกว้าง 60-105 มม. ได้ มีรีโมตทั้งหมด 4 ปุ่ม เป็นปุ่มเปิด/ปิด, หมุนขาตั้งเป็นแนวตั้งหรือแนวนอนและปุ่มชัตเตอร์อีกหนึ่งปุ่มและมีกันสั่นในตัว ซึ่งถ้าใครอยากใช้มือถือถ่ายคอนเทนต์ด้วย ก็ซื้อ Tripod ตัวนี้ไปใช้ก็คุ้มค่าเช่นกัน

รายละเอียดของ Andoer H5 Handheld Gimbal
  • ที่วางมือถือแบบเป็น Tripod ในตัวสำหรับสมาร์ทโฟน มีปุ่มหมุนมือถือเป็นแนวตั้งหรือแนวนอน
  • ดีไซน์ก้านของ Tripod ให้ยืดได้ 60-105 มม. ปรับความสูงได้ตั้งแต่ 29-59.2 ซม.
  • มีปุ่มรีโมตที่ก้าน 4 ปุ่ม เป็นปุ่มเปิด/ปิด, หมุนขาตั้งเป็นแนวตั้งหรือแนวนอนและปุ่มชัตเตอร์
  • ราคา 637 บาท (Andoer Shopee Mall)

สรุปสเปคของขาตั้งมือถือทั้ง 6 รุ่นน่าใช้ ไว้ดูหนังหรือตั้งมือถือได้สะดวก

จะเห็นว่าขาตั้งมือถือที่เลือกมาทั้ง 6 รุ่นนั้น จะมีดีไซน์ทั้งเป็นขาตั้งอย่างเดียวและเป็น Tripod ได้ด้วย ซึ่งมีฟีเจอร์และดีไซน์แตกต่างกันไป หากสรุปสเปคแล้วจะได้ดังนี้

สเปคของขาตั้งมือถือ วัสดุ, ดีไซน์ ขนาดมือถือ/แท็บเล็ตที่รองรับ, ฟีเจอร์ ราคา
IKEA BERGENES ไม้ไผ่เคลือบแล็กเกอร์

ดีไซน์วางราบกับพื้น

รองรับมือถือ, แท็บเล็ต หนาไม่เกิน 0.9-1.1 ซม. 69 บาท
Baseus Metal Mobile Phone Stand Holder ขาตั้งอลูมิเนียม
เสริมซิลิโคนใต้ฐาน

ขาตั้งแนวตั้งติดที่จัดสายไฟมาให้

สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต 3-10.5 นิ้ว

ปรับองศาก้มเงย 35 องศา

225 บาท
ขาตั้งสมาร์ทโฟน Llano ขาตั้งอลูมิเนียม
เสริมซิลิโคนใต้ฐาน

ดีไซน์ขาตั้งข้อต่อ 2 จุด
หมุนได้ 360 องศา

ฐานแม่เหล็กดูดข้าวของที่เป็นโลหะมาติดได้

ขาตั้งจับมือถือ
ขนาด 6-12.9 นิ้วได้

236 บาท
Ulanzi MT-34 ขาตั้ง Tripod
ติดกล้อง, สมาร์ทโฟนได้
ก้านของ Tripod
ยืดได้ 9-81.5 ซม.

กางขาตั้งจับมือถือได้

396 บาท
BASEUS OTAKU LIFE ดีไซน์ก้านอลูมิเนียมแบบคันเบ็ดตกปลา

ขาปลายยาง หักงอให้เข้ากับสายตาผู้ใช้ได้

ขาคีบกว้าง 90 มม.

ขาตั้งจับมือถือ
ขนาด 4.7-12.9 นิ้วได้

รางจับมือถือ
หมุนได้ 360 องศา

390 บาท
Andoer H5
Handheld Gimbal
ขาตั้ง Tripod
ติดสมาร์ทโฟนได้

มีปุ่มรีโมต 4 ปุ่ม

ปรับความสูง
ตั้งแต่ 29-59.2 ซม.

ก้าน Tripod
ยืดได้ 60-105 มม.
637 บาท

จะเห็นว่าขาตั้งมือถือดีๆ ในตอนนี้มีให้เลือกหลากหลายรุ่นและราคาเริ่มแค่หลักสิบไปจนหลักร้อยพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ติดมาให้มากมาย ซึ่งถ้าใครชอบเปิดดูหนังในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตล่ะก็ ผู้เขียนก็แนะนำให้ซื้อเอาไว้ใช้สักอัน จะได้ไม่ต้องถือให้เมื่อยแขนและอาจจะเอาไว้เล่นเกมก็ได้ ซึ่งสะดวกไม่แพ้กันเลย


บทความที่เกี่ยวข้อง

amdlaptop cover

laptop cover

hp aio cover

from:https://notebookspec.com/web/642385-6-budget-smartphone-stand

7 สายชาร์จ Type-C คุณภาพดีน่าใช้ ต่อจอก็ได้ชาร์จไฟก็ดี อัพเดท 2022

สายชาร์จ Type-C ในปัจจุบันนี้หาสายดีๆ คุณภาพสูงหรือสายแบบ Thunderbolt มาใช้งานได้แล้ว ไม่ต้องจ่ายเป็นพันก็ได้!

usb c cover

สายชาร์จ Type-C ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะพอร์ตดังกล่าวได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องให้รองรับทั้งการต่อหน้าจอแยกและชาร์จแบตเตอรี่ให้ด้วย ทำให้สมาร์ทโฟนและโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นหันมาใช้พอร์ตรุ่นนี้มากขึ้นเรื่อยๆ และหากใครตามข่าวอย่างต่อเนื่องน่าจะทราบว่าทางสหภาพยุโรปเองก็ประกาศให้ใช้พอร์ต USB-C เพื่อชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ และมีการตรามาตรฐานการชาร์จไวเพิ่มด้วยเพื่อลดขยะอีเล็กทรอนิกส์ให้น้อยลงด้วย ทำให้สายชาร์จ Type-C ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างจริงจัง

Advertisementavw

แต่เชื่อว่าผู้ใช้หลายคนคิดว่าสายชาร์จ Type-C ยังราคาแพงอยู่บ้าง แต่จริงๆ แล้วตอนนี้ราคาเพียงหลักสิบหรือหลักร้อยก็หาซื้อมาใช้ชาร์จมือถือหรือโน๊ตบุ๊คได้แล้ว และรองรับกระแสไฟได้สูงและคุณภาพการผลิตดีอีกด้วย นอกจากนี้สายบางเส้นยังเป็นสายแบบ Thunderbolt รองรับทั้งการชาร์จ, ต่อหน้าจอแยกและโอนไฟล์ทั้งสามอย่างในตัวเดียวกันอีกด้วย

สายชาร์จ Type-C

7 สายชาร์จ Type-C น่าใช้ มีติดกระเป๋าไว้เวิร์คแน่นอน

ใครที่มีมือถือหรือโน๊ตบุ๊คที่ชาร์จด้วยสาย Type-C ได้ แต่สายชาร์จเก่าจนเปื่อยแล้วหรือสายเริ่มชาร์จไม่ค่อยได้ ณ จุดนี้แนะนำให้หาสายใหม่มาใช้งานได้เลย และสายทั้ง 7 เส้นนี้ที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำจะเป็นสายจากแบรนด์ชั้นนำเจ้าต่างๆ โดยมีรุ่นดังนี้

  1. ORSEN by Eloop S53 USB-C to C (75 บาท)
  2. Kuulaa USB-C to C (99 บาท)
  3. Eloop S6 USB-C to C (99 บาท)
  4. Octave USB-C to C (299 บาท)
  5. AUKEY CB-AKC4 (499 บาท)
  6. Baseus USB-C to C (585 บาท)
  7. AUKEY CB-CD21 (635 บาท)
1. ORSEN by Eloop S53 USB-C to C (75 บาท)

14f260c9534d3df212cc87e6d3dfa840

ถ้าเริ่มหาสายชาร์จ Type-C สักเส้นมาติดกระเป๋าแล้วไม่อยากจ่ายแพงมาก จะมี ORSEN by Eloop S53 USB-C to C ให้เลือกไปชาร์จมือถือหรือโน๊ตบุ๊คกัน โดยตัวสายเป็นสายถักปลอกพลาสติกและหัวอลูมิเนียม ให้ความแข็งแรงทนทานไม่เสียหายง่าย ความยาว 1.2 เมตร รองรับการชาร์จไว รองรับกระแสไฟได้ 3 แอมป์และโปรโตคอลชาร์จ Quick Charge 4.0 เหมาะจะใช้ชาร์จแบตเตอรี่ให้สมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ เป็นอย่างมาก เลือกได้ 3 สีว่าชอบสีดำ, น้ำเงินหรือแดง ซึ่งถ้าใครต้องการสายชาร์จราคาไม่แพงมากมารอเอาไว้ก่อน ก็ดู ORSEN เส้นนี้เอาไว้ได้เลย

สเปคของ ORSEN by Eloop S53 USB-C to C
  • สาย USB-C to C ความยาว 1.2 เมตร เป็นสายถักปลอกพลาสติกและหัวอลูมิเนียม
  • รับกระแสได้ 3 แอมป์และโปรโตคอลชาร์จ Quick Charge 4.0
  • ราคา 75 บาท (ORSEN Official Store Shopee)
2. Kuulaa USB-C to C (99 บาท)

2c65d3da7ab8faf991ccd4af49489b44

Kuulaa USB-C to C เส้นนี้ก็เป็นสาย USB-C ที่น่าซื้อมาใช้งานเช่นกัน ตัวสายเป็นสายถักไนลอน TPE พร้อมหัวปลอกยาง รองรับกระแสสูงสุด 3.25 แอมป์ ชาร์จไวได้ 65 วัตต์ รองรับโปรโตคอลชาร์จไว Quick Charge 4.0, Power Delivery 3.0, HUAWEI FCP, Samsung AFC ครบถ้วน ใช้ต่อโอนข้อมูลระหว่างพีซีและมือถือได้ด้วยความเร็ว 480Mbps เทียบเท่าสาย USB 2.0 เลือกความยาวได้ตั้งแต่ 0.5-3 เมตร โดยราคา 99 บาทที่เลือกมาแนะนำเป็นสายยาว 3 เมตร ให้ลากสายได้ไกล วางชาร์จบนโต๊ะเคาน์เตอร์สูงก็ไม่มีปัญหา จัดเป็นสายราคาไม่แพงแต่น่ามีติดกระเป๋าอีกเส้นหนึ่ง

สเปคของ Kuulaa USB-C to C
  • สาย USB-C to C ยาว 0.5-3 เมตร เป็นสายถักไนลอน TPE พร้อมหัวปลอกยาง
  • รับกระแสสูงสุด 3.25 แอมป์ ชาร์จไวได้ 65 วัตต์ รองรับโปรโตคอลชาร์จไว Quick Charge 4.0, Power Delivery 3.0, HUAWEI FCP, Samsung AFC
  • โอนไฟล์ได้ด้วยความเร็ว 480Mbps เทียบเท่า USB 2.0
  • ราคา 99 บาท (Kuulaa Official Shopee Mall)
3. Eloop S6 USB-C to C (99 บาท)

7c3e63738529fe3bd5058a6c555dd3aa

Eloop S6 USB-C to C เส้นนี้เป็นสายชาร์จ Type-C น่าใช้อีกเส้น โดยสายเป็นสายถักปลอกพลาสติกยาว 1.5 เมตร รับกระแสได้สูงสุด 5 แอมป์ ดังนั้นเอาไปใช้กับปลั๊ก 100 วัตต์ชาร์จเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คได้ รองรับโปรโตคอลชาร์จระดับ Quick Charge 4.0 และ Power Delivery ครบถ้วนและโอนไฟล์ระหว่างมือถือกับพีซีได้ด้วยความเร็ว 480Mbps เท่ามาตรฐาน USB 2.0 แต่ใจความของสายชาร์จเส้นนี้คือเรื่องการรับกระแสได้ 100 วัตต์ทีเดียว ดังนั้นถ้าใครต้องการสายชาร์จดีๆ เอามาติดกระเป๋าไว้ชาร์จโน๊ตบุ๊คหรือมือถือสักเส้น ก็แนะนำให้ดูสายเส้นนี้เอาไว้ได้เลย

สเปคของ Eloop S6 USB-C to C
  • สาย USB-C to C ยาว 1.5 เมตร เป็นสายถักปลอกพลาสติก
  • รับกระแสสูงสุด 5 แอมป์ ชาร์จไวได้ 100 วัตต์ รองรับโปรโตคอลชาร์จไว Quick Charge 4.0, Power Delivery
  • โอนไฟล์ได้ด้วยความเร็ว 480Mbps เทียบเท่า USB 2.0
  • ราคา 99 บาท (atmmobile Shopee)
4. Octave USB-C to C (299 บาท)

b6da421b03b3f4455bb44d547d2c215b

Octave USB-C to C เส้นนี้ก็เป็นสายชาร์จ Type-C ที่น่าใช้เช่นกัน โดยตัวสายเป็นสายถักหัวอลูมิเนียมหุ้มปลอกป้องกันสายพลาสติกเอาไว้ด้วย ความยาวสาย 150 ซม. เลือกกำลังชาร์จได้ว่าต้องการสายกำลังชาร์จ 60 หรือ 100 วัตต์ รองรับโปรโตคอลชาร์จไวหลากหลายแบบรวมไปถึง VOOC และ HUAWEI Supercharge ตัวสายรองรับการรับส่งข้อมูลอย่างรวดเร็วตามมาตรฐาน USB 3.1 สูงสุด 10Gbps อีกด้วย เรียกว่าเป็นสายที่รองรับกระแสสูงและยังโอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วอีกด้วย มีติดกระเป๋าเอาไว้สักเส้นก็ได้ใช้ประโยชน์เช่นกัน

สเปคของ Octave USB-C to C
  • สาย USB-C to C ยาว 150 เซนติเมตร เป็นสายถักหัวอลูมิเนียมหุ้มปลอกป้องกันสายพลาสติก
  • ชาร์จไวได้ 60-100 วัตต์ รองรับโปรโตคอลชาร์จไวหลากหลายแบบรวมถึง VOOC, HUAWEI Supercharge ด้วย
  • โอนไฟล์ได้ด้วยความเร็ว 10Gbps เทียบเท่า USB 3.1
  • ราคา 299 บาท (egadgetthailand Shopee)
5. AUKEY CB-AKC4 (499 บาท)

03e4bdb021a637b13d8f7b5df5983396

AUKEY CB-AKC4 เส้นนี้เรียกว่าเป็นแบรนด์ที่หลายคนเชื่อถือไว้ใจความแข็งแรงทนทานและคุณภาพงานประกอบอย่างแน่นอน โดย CB-AKC4 เส้นนี้ยาว 2 เมตร เป็นสายเคฟล่าร์หุ้มไนล่อนถัก 4 ชั้น แข็งแรงทนทานมาก จะหักหรือเลื่อนล้อทับสายก็ไม่มีปัญหา ตัวสายรองรับโปรโตคอลชาร์จ Quick Charge 3.0 และ Power Delivery รับกระแสชาร์จได้สูงสุด 60 วัตต์ และโอนไฟล์ได้รวดเร็ว 480Mbps เทียบเท่า USB 2.0 ซึ่งถ้าใครรู้ตัวว่าเคยทำสายชาร์จหักในหรือขั้วแตกไปหลายเส้น จะซื้อสักทีเอาให้คุ้มๆ ทนๆ เลย ก็ซื้อ AUKEY เส้นนี้ไปใช้จะดีที่สุด

สเปคของ AUKEY CB-AKC4
  • สาย USB-C to C ยาว 2 เมตร เป็นสายเคฟล่าร์หุ้มไนล่อนถัก 4 ชั้น
  • ชาร์จไวได้ 60 วัตต์ รองรับโปรโตคอล Quick Charge 3.0 และ Power Delivery
  • โอนไฟล์ได้ด้วยความเร็ว 480Mbps เทียบเท่า USB 2.0
  • ราคา 499 บาท (AUKEY Shopee Mall)
6. Baseus USB-C to C (585 บาท)

c21b565db64d8e6af7d77d52f21ae6e1

Baseus USB-C to C เส้นนี้ต้องถือว่าเป็นสายชาร์จ Type-C ที่เป็นสาย Thunderbolt 3 ในตัวด้วย ถ้าโน๊ตบุ๊คของใครมีพอร์ต USB-C ที่รองรับ Thunderbolt ก็ใช้สายเส้นนี้ต่อกับหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วใช้งานได้เลย โดยตัวสายเป็นสายถักหุ้มไนลอนแข็งแรงทนทาน ยาว 1 เมตร รองรับกำลังชาร์จได้สูงสุด 100 วัตต์ ถ่ายโอนข้อมูลได้เร็ว 40Gbps เป็นมาตรฐาน USB4 ใหม่ล่าสุด รองรับความละเอียดหน้าจอสูงสุดที่ 8K 60Hz ทีเดียว จัดว่าเหมาะกับผู้ใช้ที่หาสาย Thunderbolt ที่ราคาไม่แพงก็ดูเส้นนี้ได้เลย โดยเฉพาะผู้ใช้ที่ใช้อุปกรณ์ Apple แล้วมีหน้าจอ Pro Display XDR ก็ใช้สายเส้นนี้ต่อระหว่างพีซีและหน้าจอก็ใช้งานได้ทันที

สเปคของ Baseus USB-C to C
  • สาย USB-C to C ยาว 1 เมตร เป็นสายถักหุ้มไนลอน
  • ชาร์จไวได้ 100 วัตต์ เป็นสาย Thunderbolt 3 ใช้ต่อจอได้ความละเอียดสูงสุด 8K 60Hz
  • โอนไฟล์ได้ด้วยความเร็ว 40Gbps มาตรฐาน USB4
  • ราคา 585 บาท (Baseus Shopee Mall)
7. AUKEY CB-CD21 (635 บาท)

e69362e8f8ae900e03fe24471061c6ce

AUKEY CB-CD21 เส้นนี้ถ้าใครเห็นว่ากำลังชาร์จของ AUKEY ในข้อที่แล้วไม่สูงพอและต้องการเป็นสาย Thunderbolt ด้วยก็ขยับมาเส้นนี้ได้ โดยตัวสายเป็นสายไนลอนถักปลอกพลาสติกแข็งแรงเหมือนกัน ยาว 1.2 เมตร ฝัง AUKEY Smart Chip E-Marker ที่ผ่านมาตรฐาน USB-IF TID Certified แล้ว ทำให้ปรับการชาร์จแบตเตอรี่ให้อุปกรณ์ต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ รองรับกระแสสูงสุด 5A ชาร์จได้สูงสุด 100 วัตต์ รับส่งข้อมูลได้รวดเร็ว 10Gbps เท่ามาตรฐาน USB 3.1 Gen 2 รองรับการต่อหน้าจอแยกได้ความละเอียดสูงสุด 4K UHD 60Hz อีกด้วย ถ้าเอาไปต่อกับจอคอมพิวเตอร์ที่เป็น USB Hub ในตัวก็ใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องหา USB-C Multiport Adapter มาต่อเพิ่มให้เสียเวลา นับเป็นสายชาร์จ USB-C ที่คุณภาพสูงน่าใช้อีกเส้น ซื้อมาใช้อย่างไรก็คุ้มค่าอย่างแน่นอน

สเปคของ AUKEY CB-CD21
  • สาย USB-C to C ยาว 1.2 เมตร เป็นสายไนลอนถักปลอกพลาสติก 
  • ชาร์จไวได้ 100 วัตต์ ติดตั้งชิป AUKEY Smart Chip E-Marker มาให้ในตัวเพื่อคุมการชาร์จ
  • เป็นสาย Thunderbolt ใช้ต่อจอได้ความละเอียดสูงสุด 4K 60Hz
  • โอนไฟล์ได้ด้วยความเร็ว 10Gbps มาตรฐาน USB 3.1 Gen 2
  • ราคา 635 บาท (AUKEY Shopee Mall)

สรุปสเปคสายชาร์จ Type-C ทั้ง 7 รุ่น ซื้อมาใช้เวิร์คแน่นอน!

ผู้ใช้ที่กำลังมองหาสายชาร์จ Type-C สักเส้นมาใช้งานแล้วได้อ่านบทความนี้แล้ว จะเห็นว่าสายประเภทนี้ในปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ไม่แพงมากแล้ว และถ้าสรุปสเปคจะเป็นดังนี้

สเปคสายชาร์จ Type-C วัสดุ, ความยาว กระแสและโปรโตคอลชาร์จที่รองรับ, การโอนไฟล์และต่อหน้าจอ ราคา
ORSEN by Eloop S53 USB-C to C สายถักปลอกพลาสติกและหัวอลูมิเนียม

1.2 เมตร

3 แอมป์

Quick Charge 4.0

75 บาท
Kuulaa USB-C to C สายถักไนลอน TPE พร้อมหัวปลอกยาง

0.5-3 เมตร
(เส้นที่เลือกมาแนะนำยาว 3 เมตร)

3.25 แอมป์
ชาร์จไวได้ 65 วัตต์

Quick Charge 4.0

Power Delivery 3.0

HUAWEI FCP

Samsung AFC

โอนไฟล์ 480Mbps

99 บาท
Eloop S6 USB-C to C สายถักปลอกพลาสติก

1.5 เมตร

 5 แอมป์
ชาร์จไวได้ 100 วัตต์

Quick Charge 4.0

Power Delivery

โอนไฟล์ 480Mbps

99 บาท
Octave USB-C to C สายถักหัวอลูมิเนียมหุ้มปลอกป้องกันสายพลาสติก

150 เซนติเมตร

60-100 วัตต์

VOOC

HUAWEI Supercharge

10Gbps เทียบเท่า USB 3.1

299 บาท
AUKEY CB-AKC4 สายเคฟล่าร์หุ้มไนล่อนถัก 4 ชั้น

2 เมตร

60 วัตต์

Quick Charge 3.0

Power Delivery

โอนไฟล์ 480Mbps

499 บาท
Baseus USB-C to C สายถักหุ้มไนลอน

1 เมตร

100 วัตต์

Thunderbolt 3 โอนไฟล์ 40Gbps

ต่อจอความละเอียดสูงสุด 8K 60Hz ได้

585 บาท
AUKEY CB-CD21 สายไนลอนถักปลอกพลาสติก

1.2 เมตร

ติดตั้งชิป AUKEY Smart Chip E-Marker

100 วัตต์

รองรับ Thunderbolt โอนไฟล์ 10Gbps

ต่อจอความละเอียดสูงสุด 4K 60Hz ได้

635 บาท

จะเห็นว่าสายชาร์จ Type-C ในตอนนี้มีสายคุณภาพดีราคาเป็นมิตรเปิดตัวออกมาเรื่อยๆ ให้ผู้ใช้เลือกซื้อได้โดยไม่ต้องจ่ายแพงมาก แค่หลักร้อยกลางๆ ก็ได้สาย Thunderbolt มาต่อระหว่างโน๊ตบุ๊คกับหน้าจอแยกแล้ว หากใครหาสายประเภทนี้อยู่ก็เลือกซื้อตามที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำได้เลย หรือจะเอาแนวทางสเปคจากบทความนี้ไปเลือกซื้อเองก็ดีเช่นกัน


บทความที่เกี่ยวข้อง

lan cover

smartphoneholder cover

dp cover

from:https://notebookspec.com/web/640010-7-usb-type-c-cable-you-should-buy

รีวิว Baseus GaN2 Pro 100W พลัง 4 หัว ชาร์ต

ปัญหาชาร์ตช้า พอร์ตไม่พอชาร์ต ไม่ต้องใช้หลาย Adapter ให้เปลืองด้วย Baseus GaN2 Pro 100W Adapter ชาร์ตตัวเดียวที่ชาร์ตได้พร้อมกันถึง 4 หัว ขนาดกะทัดรัดกว่า แถมยังชาร์ตได้แรงสูงสุดถึง 100W ในขนาดที่กะทัดรัด เบา และราคาคุ้ม

Baseus GaN2 Pro 100W

Advertisementavw

ทีมงานเคยแนะนำ Adapter ระดับ 120W ของ Baseus Gan Ultimate 120W Galio ตัวนี้ไปแล้ว และได้กระแสตอบรับดีไม่น้อยเพราะจ่ายไฟได้ถึงระดับ 120W แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่ และพอร์ตชาร์ตพร้อมกัน 3 หัว อาจจะยังไม่สะดวก ไม่จุใจของหลายท่าน วันนี้ทีมงานเลยขอแนะนำ Adapter ที่ไฟแรงน้อยลงมานิด แต่เล้กกว่า และชาร์ตได้ถึง 4 พอร์ตกับ Baseus GaN2 Pro Charger 100W

โดยจุดเด่นของ Baseus GaN2 Pro Charger 100W คือการพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นด้วยเทคโนโลยี GaN เวอร์ชั่น 2 ที่ยังจ่ายไฟได้เยอะระดับ 100W แต่มาในขนาดที่เล็กกะทัดรัดกว่าเดิม และด้วยกำลังไฟที่สามารถจ่ายได้เยอะทำให้ชาร์ตโน๊ตบุ๊คสเปคแรง หรือ Macbook Pro ที่ชาร์ตผ่านพอร์ต USB-C หรือ PC Charge ได้เลย

และอีกหนึ่งจุดเด่นคือพอร์ตชาร์ตที่มากถึง 4 พอรืต ทั้ง USB-C 2 พอร์ต และ USB-A รองรับ Quick Charge 3.0 รองรับชาร์ตเร็วทั้งสมาร์ทโฟน Tablet หรือกระทั่งอุปกรณ์อื่นได้ด้วย โดยถ้าชาร์ตพร้อมกัน กำลังไฟที่จ่ายจ่ายก็จะลดหลั่นกันไปตามสเปค

Baseus GaN2 Pro Charger 100W

  • Upgraded GaN2 Technology
  • 100W Dual Type-C Blind Interpolation
  • Four Fast Charging Ports when Used Seperately
  • Support Multiple Fast Charge Protocols
  • BPSⅡ Charging Technology
  • Foldable Pins

Input

  • AC 100V-240V,50/60Hz,2.5A Max

Output

  • Type C 1 Output: 5V/3A, 9V/3A, 12V/3A, 15V/3A, 20V/5A
  • Type C 2 Output: 5V/3A, 9V/3A, 12V/3A, 15V/3A, 20V/5A
  • USB 1 Output: 5V/3A, 9V/3A, 12V/3A, 20V/3A
  • USB 2 Output: 5V/3A, 9V/3A, 12V/3A, 20V/3A

การชาร์ตพร้อมกันในแต่ละพอร์ต

  • Type C 1 + Type C 2 Output: 65W + 30W
  • USB 1 + USB 2 Output: 5V/3A 15W
  • Type C 1 + USB 1 Output: 65W + 30W
  • Type C 1 + USB 2 Output: 65W + 30W
  • Type C 2 + USB 1 Output: 65W + 30W
  • Type C 2 + USB 2 Output: 65W + 30W
  • Type C 1 + Type C 2 + USB 1 Output: 60W + 20W + 18W
  • Type C 1 + Type C 2 + USB 2 Output: 60W + 20W + 18W

Baseus GaN2 Pro Charger 100W 01

Baseus GaN2 Pro Charger 100W 02 Baseus GaN2 Pro Charger 100W 04

กล่องของ Baseus GaN2 Pro Charger 100W มาเป็นเอกลักษณ์ พร้อมโชว์หน้าตาจุดเด่นชัดเจน

Baseus GaN2 Pro Charger 100W 05

อุปกรณ์ที่แถมมาในกล่อง USB Type-C to C 1 เส้น, วอลชาร์จ คู่มือการใช้งาน และการรับประกัน

Baseus GaN2 Pro Charger 100W 06

Baseus GaN2 Pro Charger 100W 07 Baseus GaN2 Pro Charger 100W 08

Baseus GaN2 Pro Charger 100W 09 Baseus GaN2 Pro Charger 100W 10

Baseus GaN2 Pro Charger 100W มีในขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ยังถือว่าเล็กกว่ารุ่น 120W ที่ทีมงานเคยรีวิวก่อนหน้านี้ แต่ถ้าเทียบกับกำลังไฟที่จ่ายได้ถึง 100W กับ Adapter โน้ตบุ๊คอื่นๆถือว่าเล็กกว่าอยู่ดี โดยมีพอร์ตชาร์ตอยู่ด้านบน และขาปลั๊กแบบแบนที่สามารถพับเก็บได้ ถ้าเทียบขนาดน่าจะประมาณ Adapter ของ Macbook Pro เลยก็ว่าได้ แต่จะเตี้ยกว่า และยาวกว่าเล้กน้อย

Baseus GaN2 Pro Charger 100W 11

สิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากรุ่น 120W คือมีไฟแสดงสถานะอยู่ตรงมุมนี้ด้วย

Baseus GaN2 Pro Charger 100W 12

ขาปลั๊กแบบมาตรฐานแบบแบนที่สามารถพับกางได้เมื่อ ใช้หรือไม่ได้ใช้งาน

Baseus GaN2 Pro Charger 100W 17

พอร์ตชาร์ตของ Baseus GaN2 Pro Charger 100W มี USB-C 2 พอร์ต และ USB-A อีก 2 พอร์ต

Baseus GaN2 Pro Charger 100W 13

ขนาดไม่ใหญ่เกินไป สามารถพกพาจับถือได้สะดวก น้ำหนักก็ไม่มาก

Baseus GaN2 Pro Charger 100W vs 120W 01

Baseus GaN2 Pro Charger 100W vs 120W 02 Baseus GaN2 Pro Charger 100W vs 120W 03

Baseus GaN2 Pro Charger 100W vs 120W 04 Baseus GaN2 Pro Charger 100W vs 120W 07

Baseus GaN2 Pro Charger 100W เทียบกับ Baseus Gan Ultimate 120W Galio ที่ทีมงานเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ แน่นอนว่ารุ่นใหญ่จ่ายไฟได้เยอะกว่า เลยมีขนาดที่ใหญ่กว่าด้วยหลักๆจะยาวกว่า ส่วนความสูง และความหนาไม่ต่างกัน

Baseus GaN2 Pro Charger 100W vs 120W 05

นอกจากขนาด กำลังไฟที่จ่ายได้ ก็ยังมีพอร์ตชาร์ตที่รุ่น Baseus GaN2 Pro Charger 100W ซึ่งเล็กกว่า แต่สามารถเพิ่มพอร์ตชาร์ต USB-A ได้อีก 1 พอร์ต

Baseus GaN2 Pro Charger 100W 21

เมื่อเสียบปลั๊กก็จะมีไฟแสดงสถานะ เพื่อแสดงให้เห็นว่า Adapter พร้อมใช้งานแล้ว

Baseus GaN2 Pro Charger 100W 22

Baseus GaN2 Pro Charger 100W 25 Baseus GaN2 Pro Charger 100W 26

การทดสอบใช้งานเอาจริงๆไม่ต่างจากรุ่น 120W ที่เคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ โดยทดลองชาร์ต Lenovo YOGA 7i พร้อมสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy Note 10 Plus ผ่านพอร์ต USB-C และ PowerBank ผ่านพอร์ต USB-A พร้อมๆกันก็สามารถใช้งานได้ปรกตินะครับ และชาร์ตไฟเข้าโน๊ตบุ๊คได้เหมือน Adapter ปรกติเลย และถ้าต่อชาร์ตแค่พอร์ต USB-C พอร์ตเดียว จะสามารถชาร์ตได้ไวขึ้นไปอีก

ซึ่งถ้าต้องการชาร์ตไวสุด จ่ายไฟเต็มระดับ 100W จำเป็นต้องชาร์ตผ่าน USB-C แค่พอร์ตเดียว ซึ่งสามารถชาร์ตโน๊ตบุ๊คได้ไวมาก ไวกว่า Adapter 65W ที่แถมมาเสียอีก หรือทีมงานลองชาร์ต ThinkPad X1 Extreme ที่เป็นการืดจอแยกระดับ GTX 1650Ti ก็สามารถชาร์ตได้ไวเหมือน Adapter ที่แถมให้มาเลย หรือลองชาร์ตพร้อมกัน 2 พอร์ต ก็ยังอยู่ในระดับที่ชาร์ตโน๊ตบุ๊คเข้าแต่ช้าหน่อย ชาร์ตสมาร์ทโฟนเข้าได้เร็ว ส่วนอุณหภูมิของตัว Adapter มีอุ่นๆบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับร้อนจนน่าเป็นห่วง

Baseus GaN2 Pro Charger 100W 16

Baseus GaN2 Pro Charger 100W จัดให้เป็น Adapter อีกหนึ่งตัวที่ครบจบสำหรับทุกการใช้งาน ด้วยพอร์ตชาร์ตถึง 4 พอร์ต โดยที่ชาร์ตไฟเข้าไปได้จริง แม้จะมีการหารกำลังไฟลงไปบ้าง แต่ก็ดีกว่าพวก 60-65W แบบหลายพอร์ตที่ชาร์ตพร้อมกันแล้วจะโดยหารไปเยอะจนแทบชาร์ตอุปกรณ์อย่างโน๊ตบุ๊คหรือ Tablet ไม่เข้าเลย หรือถ้าเป็นโน้ตบุ๊คสเปคแรงเช่น Macbook Pro ก็สามารถชาร์ตพอร์ตเดียวได้ถึง 100W หรือชาร์ตพร้อมกัน  2 เครื่องก็ยังไหว Adapter ตัวเดียวจบ เหมาะกับท่านที่เดินทางบ่อยๆ หรือต้องชาร์ตหลายอุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน ในขนาดที่ไม่ได้ใหญ่มาก พกพาได้สะดวกทีเดียว

Baseus GaN2 Pro Charger 100W มาในราคาปรกติราว 1,500 บาท ซึ่งจัดว่าราคาดีทีเดียว เมื่อเทียบกับ Adapter ชาร์ตโน้ตบุ๊คของหลายแบรนด์ และยังชาร์ตได้หลากหลายกว่า อีกทั้งยังมีจัดโปรโมชั่นลดราคาเรื่อยๆใน Shopee ,Lazada ซึ่งทีมงานได้มาราว 1,xxx บาท ทำให้มีความคุ้มค่ายิ่งไปอีก

จุดเด่น

  • ชาร์ตได้สูงสุดถึง 100W
  • ชาร์ตพร้อมกันได้ถึง 4 พอร์ต
  • น้ำหนักเบา ขนาดพกพาได้สะดวก
  • ราคาคุ้ม

ข้อสังเกต

  • USB-C ชาร์ตพร้อมกัน 2 พอร์ตไม่แรงเท่ารุ่น 120W

from:https://notebookspec.com/web/595531-review-baseus-gan2-pro-100w

ไฟติดจอคอม 5 รุ่น แต่งโต๊ะคอมสวย เริ่ม 999 บาท ทันสมัย เพิ่มความสว่างหน้าจอและโต๊ะคอม

ไฟติดจอคอม 5 รุ่นน่าใช้ สว่างชัด เพิ่มความเป็นส่วนตัว เริ่ม 999 บาท จัดโต๊ะคอมให้สวยต้องมี

ไฟติดจอคอม
ที่มา: BenQ

ไฟติดจอคอม แทบจะเรียกได้ว่า กลายเป็นของยอดฮิต 1 ใน 10 เวลาจัดโต๊ะคอมใหม่ โดยเฉพาะคนที่ซื้อจอคอมมาใหม่ และอยากจะใช้งานได้ในทุกช่วงโอกาส เพื่อให้แสงสว่างในพื้นที่ทำงานมากขึ้น โดยไม่ต้องเปิดไฟหลักดวงใหญ่ของห้อง ซึ่งเพียงพอต่อการมองเห็นบนโต๊ะทำงานได้ดีพอสมควร ไม่ว่าจะต้องพิมพ์งาน ทำเอกสาร แก้วน้ำ และอุปกรณ์ที่คุณต้องใช้ รวมถึงไม่ต้องเร่งแสงหน้าจอให้สว่างเกินไป จนรบกวนคนที่อยู่ในห้องด้วยกัน โดยที่ไฟแบบนี้ มีให้เลือกมากมาย แต่จะเลือกอย่างไรดี ที่เหมาะกับคุณ และมีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง วันนี้เราไปดูพร้อมๆ กันครับ

ไฟติดจอคอม


ไฟติดจอคอมใช้ทำอะไร

ไฟติดจอคอม ยังไม่มีชื่อที่เรียกอย่างเป็นทางการที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับแต่ละค่าย บางทีก็เป็น Screen Bar บางรุ่นก็ใช้ Hanging Light หรือบางทีก็เป็น Light Bar แต่จะเรีนยกอย่างไรก็ตามแต่ ก็พอจะให้เข้าใจกันได้ว่า เป็นไฟที่ติดอยู่บนหน้าจอหรือบนมอนิเตอร์นั่นเอง อุปกรณ์นี้ได้รับความนิยมมาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ และช่วงปีที่มีการ WFH หรือกลุ่มคนที่ทำงานที่บ้านมากขึ้น ก็มีกระแสในเรื่องของการจัดโต๊ะคอม และพูดถึงอุปกรณ์ชิ้นนี้กันอย่างแพร่หลาย แม้จะดูเหมือนเป็นแฟชั่น แต่ในแง่ของประโยชน์ในการใช้งาน ก็พอมีอยู่ไม่น้อย

Advertisementavw

ว่ากันตั้งแต่เรื่องการลดใช้แสงไฟกลางห้อง เพื่อไม่เป็นการรบกวนคนอื่น หรือคนที่อยู่ในบริเวณพื้นที่แสงน้อย ไม่สามารถมองเห็นได้ถนัด หรือจะเพิ่มความชัดเจนในการมองภาพบนหน้าจอได้ดี โดยไม่ต้องไปเร่งแสงสว่างของจอ ให้รบกวนสายตามากนัก และยังช่วยให้มองเห็นบริเวณโต๊ะทำงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีอุปกรณ์ที่ต้องใช้ เช่น เอกสาร แก้วน้ำ ปากกาหรือจะเป็นสิ่งอื่นๆ ที่ต้องหยิบใช้บ่อยๆ หากลดการใช้แสงไฟในห้อง ก็ยังมีไฟเหล่านี้ ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้นนั่นเอง สนนราคาก็เริ่มกันตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพ ฟังก์ชั่น และลูกเล่นของแต่ละค่ายที่ออกแบบมาให้ใช้งาน


Baseus i-Wok series LED Hanging Light

ไฟติดจอคอม

สำหรับ Baseus จะเป็นเบ-ซี-อุส, เบ-ซี-อัส หรือ เบส-อัส ตามที่แต่ละคนจะเรียก เป็นไฟติดบนหน้าจอที่ออกแบบได้อย่างสวยงาม และยังให้แสงที่ละมุน ฟังก์ชั่นการทำงานน่าใช้ แม้จะไม่ได้เยอะมาก เข้ากันได้กับจอในหลายสไตล์ สามารถ Dimming แสงไฟได้ถึง 3 ระดับ ด้วยการกดที่ด้านข้างของตัวหลอด ให้อุณหภูมิของสีระดับ 2900K – 5000K เพื่อให้เข้ากับการใช้งานในพื้นที่ต่างๆ และให้คุณดูสบายตามากที่สุด เช่น ในช่วงที่ต้องการท่องอินเทอร์เน็ต อาจจะปรับให้โทนดูเคลียร์ นุ่มนวล เพื่อการมองเห็นที่ชัด หรือปรับให้สว่างมากขึ้น เมื่อใช้ดูหนัง ตัวหลอดไฟแบบ LED บอดี้เป็นอะลูมิเนียม ให้ดูพรีเมียมนิดๆ ในโทนสีดำ ทำงานบนแรงดันไฟ 5W ความยาวอยู่ที่ประมาณ 46cm น้ำหนักราว 500 กรัม การติดตั้งค่อนข้างง่าย คล้ายกับกล้องเว็บแคม คือเกี่ยวเข้ากับด้านบนของหน้าจอ ยึดได้แน่นในระดับหนึ่ง ไม่ส่งผลกระทบหรือเป็นรอยบนตัวจอ ขนาดอาจจะไม่เหมาะกับโน๊ตบุ๊คมากนัก เน้นที่จอพีซีขนาดใหญ่ระดับ 24″ ขึ้นไป สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 900 บาท

Description
Brand Baseus
Material Aluminum alloy
Light White, Warm White
Control Dial control
Color temperature 2900K-5000K
Lamp Adjustable 97 Ra
Lamp size 464mm x 100mm x 38mm
For monitor 5W
Price 900 Baht

ข้อมูลเพิ่มเติม Baseus

Xiaomi Mi Light Bar

ไฟติดจอคอม

ในส่วนของ Xiaomi Mi Light Bar รุ่นนี้ มาในสไตล์ที่ดูเรียบง่าย ภายใต้โคมรูปทรงกระบอก เช่นเดียวกับหลายๆ ค่าย ไม่ว่าจะเป็นโคมหรือการติดตั้ง ที่ใช้เป็นขาเกี่ยวกับด้านบนของขอบจอ ค่อนข้างแน่นหนาดี แต่จะต่างจากค่ายอื่นๆ ตรงการคอนโทรลระดับแสงไฟ ใช้เป็นไดอัลที่แยกส่วนออกมาต่างหาก และยังเป็นแบบไร้สาย ซึ่งช่วยให้โต๊ะไม่รกรุงรัง โดยตัวคอนโทรลใช้ถ่านหรือแบตขนาด AAA 2 ก้อน ให้ระยะเวลาในการใช้งานได้นานหลายเดือน แสงไฟของหลอดปรับได้ 2 แบบคือ White และ Warm White เพื่อการใช้งานที่ต่างกัน โดยให้อุณหภูมิสีอยู่ที่ 2700K – 6500K ให้ความสว่างสูงสุดได้ถึง 270 Lumens เท่าที่ได้ลองคือ สว่างเห็นพื้นที่บนโต๊ะทำงานได้กว้างทีเดียว ใช้กำลังไฟ 5W โหมดการใช้งาน เน้นไปที่ตัวควบคุมเป็นหลัก รวมถึงการกดเปิด-ปิดที่ตัวโคม การเชื่อมต่อเป็นแบบ USB-C ใช้ร่วมกับอุปกรณ์ชาร์จแบบต่างๆ ได้เยอะ ไม่ว่าจะเป็น เพาเวอร์แบงก์ พีซี โน๊ตบุ๊คหรือจะเป็นหัวชาร์จก็ตาม ทำให้ใช้งานได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ความยาวของตัวโคมประมาณ 44.8cm ก็จัดว่าใช้กับจอใหญ่ๆ ได้ไม่ยาก เคาะราคาอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาท

Description
Brand Xiaomi
Material Aluminium Alloy
Light White/ Warm White
Control Wireless controller
Color temperature 2700 – 6500K
CRI 270 lm
Lamp size 448mm x 23mm
Power 5W
Price 1,500 Bath

ไปช้อปกันได้ที่ Topvalue

Yeelight Screen Light Bar Pro

ไฟติดจอคอม

แม้ว่า Light Bar จากค่ายนี้ อาจจะราคาสูงไปบ้าง เพราะรุ่นอื่นๆ อยู่ประมาณพันบาท แต่บอกเลยว่าได้ฟังก์ชั่นเพิ่มเติมมาให้ไม่น้อยเลย โดยในรุ่น Pro นี้ ออกแบบมาเพื่อเพิ่มอารมณ์ความสนุกให้กับคอเกม เพราะจุดเด่นอยู่ที่ การปรับแต่งโหมดแสงไฟ เพิ่มเติมจากการใช้งานเป็นไฟ LED ด้วยการเชื่อมต่อเข้ากับแอพฯ อย่าง Mijia หรือ Yeelight ก็ตาม ทำให้ปรับเอฟเฟกต์แสงได้น่าสนุกมากขึ้น นอกจากนี้ยังแบ่งส่วนออกเป็น monitor light หรือไฟส่องหน้าจอกับ RGB ที่ปรับแสง Backlight สนับสนุนการเชื่อมต่อกับ Razer Chroma และอื่นๆ ได้ โดยปรับได้ถึง 4 พรีเซ็ต หลอดไฟ LED ที่จัดมาให้ถึง 40 หลอด เพิ่มความสว่างได้อย่างชัดเจน ให้อุณหภูมิสีตามมาตรฐานคือ 2700K – 6500K และปรับมุมได้ 25 องศา ใช้ไฟที่ รีโมตคอนโทรลเป็นแบบไร้สาย ใช้ถ่านแบบ AAA 2 ก้อน ความยาวของตัวโคม 48.6cm ถือว่าเป็นไซส์ที่ค่อนข้างใหญ่ ใช้งานร่วมกับจอในขนาดต่างๆ ได้ดีทีเดียว ราคาประมาณ 2,700 บาท

Description
Brand Yeelight
Material Metal
Light Dual Light
Control Remote Wireless
Color temperature 2700K – 6500K
CRI 90 Ra
Lamp size 515mm x 155mm x 60mm
Power 10W
Price 2,700 Baht

ข้อมูลเพิ่มเติม: Yeelight

Lymax GJS-D010-1

ไฟติดจอคอม

แต่ถ้าใครที่ใช้จอโค้ง แล้วกลัวว่า Light Bar ไม่โค้งไปด้วย มาด้านนี้ครับ LYMAX เป็นโคมแบบโค้ง ที่ทำให้ดูเข้ากับบรรดา Curved monitor มากขึ้น เหมาะกับจอโค้งระดับ 1000R – 3000R โดยที่มีระดับความสว่างให้ 3 รูปแบบคือ Ra>80 ไปจนถึง Ra>97 เลือกโทนสีให้คุณดูสบายตาได้มากที่สุด รวมถึงตัวโคมที่ยาว 55cm ยาวกว่าในกลุ่มของโคมแบบเดียวกัน ปรับเลื่อนได้ตามความเหมาะสม ใช้พลังงานจากพอร์ต USB-C ที่อยู่ด้านหลังโคม เชื่อมต่อกับอุปกรณ์จ่ายไฟในแบบต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นพีซี โน๊ตบุ๊ค หรือเพาเวอร์แบงก์และอื่นๆ ตัวโคมมาในแบบอะลูมิเนียม ส่วนฐานเป็นแบบอะลูมิเนียมอัลลอย มาในโทนสีดำตลอดทั้งบอดี้ และใช้ไฟ 5W เท่านั้น โดยมี LED 100 ชิ้นมาในโคม ให้อุณหภูมิสีได้ตั้งแต่ 2900K – 6000K ปรับระดับไฟได้ผ่านทางปุ่มบนตัวโคม สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 999 บาท

Description
Brand LYMAX
Material Aluminum Alloy
Light White, Warm White
Control Touch button
Color temperature 2900K – 6000K
CRI 97 Ra
Lamp size 550mm x 250mm x 30mm
Power 5W
Price 999 Baht

ข้อมูลเพิ่มเติม LYMAX

BenQ screen bar

ไฟติดจอคอม

ไฟติดจอคอมอีกหนึ่งค่าย ที่เรียกได้ว่า ดีไซน์สวย ราคาสบายกระเป๋าอีกรุ่นหนึ่ง โดยเค้าใช้คำว่า BenQ Screen Bar เป็นโคมไฟหน้าจอที่วางไว้บนจอภาพนั่นเอง ความยาวโคมระดับ 45cm ให้ความสว่างได้ถึง 320 Lumens กับไฟในแบบ Dual color LED ให้อุณหภูมิสีระหว่าง 2700K – 6500K บอดี้เป็นอะลูมิเนียมกับโพลีคาบอเนต ใช้ไฟ 5W มีพอร์ต USB สำหรับจ่ายไฟ ปุ่มควบคุมอยู่ด้านบน เป็นแบบสัมผัส และมีสัญลักษณ์ไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะปรับความสว่าง อุณหภูมิสี เลือกตามลักษณะแวดล้อมที่ใช้ เน้นโทนเย็นหรือโทนอุ่น และมีปุ่ม Auto Dimmer เพื่อให้ตัวโคมปรับให้อัตโนมัติ รวมถึงเปิด-ปิด โดยตัวโคมนี้ จะมีเซ็นเซอร์วัดแสงในตัว ระบบจะปรับแสงให้พอดีกับการใช้งาน สามารถปรับมุมของหลอดได้ที่ 10 องศา จุดเด่นอยู่ที่การออกแบบบอดี้ ที่เกาะติดกับตัวจอได้แน่นหนา ไม่ทำให้จอเป็นรอยได้ง่ายนั่นเอง ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,690 บาท

Description
Brand BenQ
Material Aluminum Alloy
Light Dual color
Control Touch button
Color temperature 2700K – 6500K
CRI 320 lm
Lamp size 450mm x 90mm x 90mm
Power N/A
Price 3,690 Bath

ข้อมูลเพิ่มเติม BenQ


Conclusion

Brand Baseus Xiaomi Yeelight Lymax BenQ
Material Aluminum alloy Aluminium Alloy Metal Aluminum Alloy Aluminum Alloy
Light White, Warm White White, Warm White Dual Light White, Warm White Dual color
Control Dial control Wireless controller Remote Wireless Touch button Touch button
Color temperature 2900K-5000K 2700K – 6500K 2700K – 6500K 2900K – 6000K 2700K – 6500K
CRI 97 Ra 270 lm 90 Ra 97 Ra 320 lm
Lamp size 464mm x 100mm x 38mm 448mm x 23mm 515mm x 155mm x 60mm 550mm x 250mm x 30mm 450mm x 90mm x 90mm
Power 5W 5W 10W 5W N/A
Price (Baht) 900 1,500 2,700 999 3,690

ไฟติดจอคอม นับว่าเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และมีแบบให้เลือกหลากหลายมากขึ้น การเลือกใช้งาน นอกจากเลือกให้เหมาะกับรูปทรงหรือขนาดของจอที่ใช้แล้ว อาจจะต้องมองที่ฟังก์ชั่นการปรับแต่ง จากตัวอย่างที่เราแนะนำมานี้ มีบางรุ่นสามารถใช้คอนโทรลเลอร์ไร้สาย มาช่วยให้ปรับค่าได้ง่ายขึ้น รวมถึงบางรุ่นก็สามารถซิงก์กับแอพฯ บนมือถือ เพื่อการปรับที่ละเอียด แต่ถ้าใครมองว่าการแตะหรือหมุนเพื่อปรับเปลี่ยนระดับแสง บนตัวโคมก็เพียงพอแล้ว ก็มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ ในราคาที่สบายกระเป๋ามากขึ้น อย่างไรก็ดีในกลุ่มเกมเมอร์ ตัวเลือกที่มีแสงไฟ RGB เพิ่มเติมเข้ามาก็น่าสนใจไม่น้อยเลย แต่ก็อย่าลืมให้ความสำคัญในแง่ของโทนสี และความสว่างของ Light Bar ที่จะช่วยให้คุณใช้งานได้ตามจุดประสงค์ ที่เหลือก็เป็นเรื่องของวัสดุและราคา ให้ลงตัวกับความต้องการของคุณมากที่สุดนั่นเอง

from:https://notebookspec.com/web/622448-5-light-bar-monitor-2021

5 ปากกา iPad ราคาเป็นมิตร เขียนดีไม่แพ้ Apple Pencil เริ่มแค่ 690 บาทเอง!

ปากกา iPad ไม่จำเป็นต้องเป็น Apple Pencil เสมอไป ตอนนี้แบรนด์ทางเลือกมีรุ่นดีๆ ราคาไม่แพงให้เลือกเยอะแยะ!

styluscover

ปากกา iPad นอกจาก Apple Pencil ที่เป็นเหมือนอุปกรณ์พื้นฐานของ Apple iPad ที่หลายคนเลือกซื้อเป็นปกติ แต่ถ้าดูตามขอบเขตการใช้งานบางคนอาจจะเอามาแค่จดเล็คเชอร์, เน้นข้อความหรือแค่เซ็นเอกสารเล็กๆ น้อยๆ ราคา 3,400-4,490 บาท ก็ดูจะแพงเกินจุดประสงค์การใช้งานไปมากจนหลายคนอาจจะรู้สึกเสียดายเงินขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกก็เป็นไปได้

แต่จริงๆ แล้ว ปากกา Stylus ที่เอาไว้เขียนบนหน้าจอ iPad และสมาร์ทโฟนจากผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมรายอื่นๆ ก็มีรุ่นน่าสนใจที่ราคาไม่แพงและใช้งานได้ดีไม่แพ้กัน แต่เด่นที่ราคาของปากกาด้ามนั้นถูกกว่า Apple Pencil อย่างเห็นได้ชัด ระดับที่ถ้าแค่เขียนและเซ็นเอกสารทั่วๆ ไป ไม่ได้เน้นวาดรูปนัก มันก็ทำงานได้ดีตอบโจทย์การทำงานของเราแล้ว

ปากกา iPad

5 ปากกา iPad ราคาเป็นมิตร บอกลา Apple Pencil ได้เลย

ถ้าใครหาปากกา Stylus มาใช้กับ iPad สักด้าม แล้วคิดว่าราคาของ Apple Pencil ดูจะแพงเกินความจำเป็นที่เราใช้งานตามปกติไปนั้น ในบทความนี้ผู้เขียนได้เลือกปากกา Stylus ที่ทำงานได้เหมือนกับ Apple Pencil แต่ว่าราคาที่ได้นั้นถูกกว่า เพียงแค่หลักร้อยก็เลือกซื้อมาใช้งานได้แล้ว โดยผู้เขียนเลือกมาแนะนำทั้งหมด 5 รุ่นด้วยกัน ได้แก่

  1. STYLUS PENCIL USB-C WITH LED LIGHT (690 บาท)
  2. Baseus Capacitive Stylus (813 บาท)
  3. AppleSheep Stylus Pencil (990 บาท)
  4. Adonit Note+ (2,093 บาท)
  5. Logitech Crayon for iPad (2,490 บาท)
1. STYLUS PENCIL USB-C WITH LED LIGHT (690 บาท)

stylus

สำหรับปากกา iPad อันแรกที่เลือกมาแนะนำในบทความนี้ จะเป็นปากการุ่นที่ออกแบบมาคล้ายกับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 มาก และใช้งานร่วมกับ iPad Pro 11″, iPad Pro 12.9″ (2018-2021), iPad Air 4 ได้ทันที ติดแม่เหล็กเอาไว้ในตัวให้ดูดติดเข้ากับด้านข้างของ iPad ได้เหมือนกับ Apple Pencil ไม่มีผิด สามารถเขียนวาดบนหน้าจอ, เอียงปากกาเพื่อแรเงาและมี Palm rejection ที่ไม่ตอบสนองกับมือของเราเวลาใช้ปากกาเขียนบนหน้าจออยู่และไม่มีดีเลย์เวลาทำงานอีกด้วย

แต่จุดที่แตกต่างคือตัวปากกาเวลาชาร์จจะต้องเสียบชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ที่ตัวปากกาและมีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ติดอยู่ที่ตัวด้ามอีก 3 ดวง เพื่อแสดงสถานะแบตเตอรี่ในตัวปากกาอีกด้วย โดยระยะเวลาใช้งานนั้นจะใช้ต่อเนื่องได้นานสุด 9 ชั่วโมง สามารถแตะที่ปลายด้ามเพื่อเปิดหรือปิดการทำงานของตัวปากกาได้เลย ไม่ต้องเชื่อมต่อ Bluetooth ให้ยุ่งยากอีกด้วย เรียกว่าเป็นปากกาสำหรับ iPad รุ่นแรกที่ราคาย่อมเยาว์เข้าถึงง่ายทีเดียว

สเปคของ STYLUS PENCIL USB-C WITH LED LIGHT
  • ปากกาสำหรับ iPad รองรับ iPad Pro 11″, iPad Pro 12.9″ (2018-2021), iPad Air 4
  • มีฟีเจอร์เอียงปากกาเพื่อแรเงา, Palm rejection และไม่ดีเลย์ตอนใช้งาน
  • มีแม่เหล็กสำหรับดูดตัวปากกาติดกับตัว iPad ได้
  • ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 9 ชั่วโมง มีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่และชาร์จผ่าน USB-C
  • ราคา 690 บาท (425 Degree)
2. Baseus Capacitive Stylus (813 บาท)

50161627615085

ถัดมาเป็นปากกา iPad รุ่น Baseus Capacitive Stylus ที่ออกแบบมาแล้วมีแม่เหล็กไว้ดูดติดกับตัว iPad Pro ได้ด้วย นอกจากนี้ตัวปากกายังมีหัวปากกา 2 แบบคือทั้ง Active และ Passive จะเอาไปเขียนบนหน้าจอ iPad หรือว่ากลับด้านเอาไปเขียนบนหน้าจอสมาร์ทโฟนแทนก็ได้ ส่วนสัมผัสการใช้งานนั้น ทาง Baseus เคลมว่าสามารถเขียนได้ลื่นไหลไม่มีอาการดีเลย์ตอนเขียน, มี Palm rejection รวมทั้งมีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ในตัวปากกากับปุ่มทางลัด 2 ปุ่มติดมาให้กดใช้งานได้ด้วย ส่วนการใช้งานสามารถใช้ต่อเนื่องได้นานสุด 8.5 ชั่วโมง แต่ปล่อยทิ้งเอาไว้ไม่ได้ใช้งานจะอยู่ได้นานสุด 12 เดือน ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่จะต้องเสียบชาร์จผ่านทาง USB-C ที่ติดมากับตัวปากกา และตัวปากกาเซนเซอร์จับแรงกด, การเอียงตัวปากกาและความละเอียดอ่อนตอนเขียนอีกด้วย

ส่วน iPad รุ่นที่รองรับมี iPad Pro 11″, iPad Pro 12.9″, iPad Mini 5, iPad Air 3, iPad Air 4 และยังเอาไปใช้เขียนกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต Android ได้อีกด้วย เรียกว่าเป็นสไตลัสด้ามอเนกประสงค์ที่มีด้ามเดียวเขียนได้หลายเครื่องเลย ซึ่งถ้าใครมีมือถือและแท็บเล็ตคนละระบบปฏิบัติการกันจะซื้อปากกาด้ามนี้ไปใช้งานก็น่าสนใจทีเดียว

สเปคของ Baseus Capacitive Stylus
  • ปากกาสำหรับ iPad Pro 11″, iPad Pro 12.9″, iPad Mini 5, iPad Air 3, iPad Air 4 และ Android
  • มีฟีเจอร์เอียงปากกาเพื่อแรเงา, Palm rejection และไม่ดีเลย์ตอนใช้งาน มีหัวปากกาแบบ Active และ Passive ในตัว พร้อมปุ่มทางลัด 2 ปุ่ม
  • มีแม่เหล็กสำหรับดูดตัวปากกาติดกับตัว iPad ได้
  • ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 8.5 ชั่วโมง มีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่และชาร์จผ่าน USB-C
  • ราคา 813 บาท (Audio Beacon)
3. AppleSheep Stylus Pencil (990 บาท)

applesheep stylus pencil ipad 01

ถ้าใครเป็นคนที่มองหาปากกา iPad ที่ไม่ใช่ Apple Pencil มาก่อนหน้านี้ น่าจะคุ้นชื่อกับปากกา AppleSheep อย่างแน่นอน ซึ่งถ้าใครมองหาปากกาสำหรับ iPad แล้วใช้งานได้หลากหลายรุ่นตั้งแต่ iPad Gen 6, iPad Air, iPad Air 3, iPad Air 4, iPad Mini 5, iPad Pro 11″-12.9″ ก็แนะนำให้ดูรุ่นนี้เอาไว้ใช้ได้เลย และมีฟีเจอร์หลักๆ อย่าง Palm rejection, เขียนต่อเนื่องได้ไม่มีดีเลย์และเชื่อมต่อใช้งานได้ง่ายอีกด้วย แต่น่าเสียดายอย่างเดียวคือตัวนี้จะแรเงาเพื่อเขียนไม่ได้เหมือน 2 รุ่นด้านบน ส่วนตัวปากกาจะมีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ในตัวปากกาและชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ส่วนระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่โดยประมาณอยู่ราว 1 วัน

ด้านดีไซน์ตัวปากกา จะเป็นแบบ Apple Pencil รุ่นแรก ดังนั้นจะไม่มีแม่เหล็กยึดเข้ากับตัวแท็บเล็ตและต้องเสียบเก็บเอาไว้กับช่องของ Apple Pencil รุ่นแรกเท่านั้นและใช้งานกับอุปกรณ์อื่นนอกจาก iPad ไม่ได้ แต่ข้อดีคือปากกา iPad ของ AppleSheep จะมี 6 สีทีเดียว ดังนั้นถ้าใครชอบปากกาที่มีสีสันและเข้ากับสีของ iPad เราด้วย ก็แนะนำดูรุ่นนี้เอาไว้ได้เลย

สเปคของ AppleSheep Stylus Pencil
  • ปากกาสำหรับ iPad Gen 6, iPad Air, iPad Air 3, iPad Air 4, iPad Mini 5, iPad Pro 11″-12.9″ 
  • มีฟีเจอร์ Palm rejection และไม่ดีเลย์ตอนใช้งาน เชื่อมต่อได้ง่ายเพียงกดปลายปากกา
  • ต้องเก็บในช่องปากกาของ Apple Pencil รุ่นแรกเท่านั้น เลือกได้ 6 สี
  • ใช้งานต่อเนื่องได้นานราว 1 วัน มีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่และชาร์จผ่าน USB-C
  • ราคา 990 บาท (Mercular)
4. Adonit Note+ (2,093 บาท)

Adonit Note Plus ct3

ถ้าเน้นว่าจะหาปากกา iPad สำหรับวาดภาพเป็นหลัก ฟีเจอร์มาครบๆ ผู้เขียนแนะนำเป็น Adonit Note+ ด้ามนี้ที่เรียกว่ามีทั้งฟีเจอร์ครบเครื่องทั้ง Palm rejection, เอียงปากกาแรเงาได้พร้อม Pressure sensor รับแรงกด 2,048 ระดับ และมีปุ่มทางลัดติดมาบนตัวปากกา 2 ปุ่ม นอกจากนี้ยังมีแอพฯ Adonit One ให้โหลดใน App Store สำหรับใช้ควบคุมตั้งค่าการทำงานต่างๆ ได้อีกด้วย ซึ่งข้อดีของ Adonit Note+ คือตัวปากกาสามารถใช้งานคู่กับแอพฯ วาดเขียนชั้นนำที่อยู่ใน iPad ได้สบายๆ ทั้ง Colored Pencil, Procreate, Zen Brush 2, Animation Desk ฯลฯ เรียกว่าเป็นตัวแทนของ Apple Pencil ไปเลยก็ไม่ผิด แต่ราคาถูกกว่าครึ่งหนึ่ง

ด้านของระยะเวลาใช้งาน แบตเตอรี่ในตัวปากกาใช้งานได้นานสุด 10 ชั่วโมง ชาร์จไว 5 นาทีใช้งานได้อีก 1 ชั่วโมงด้วยพอร์ต USB-C ที่ท้ายด้ามปากกา จัดว่าเป็นปากการุ่นทางเลือกแทน Apple Pencil ได้สบายๆ เหมาะกับนักวาดภาพที่เน้นวาดภาพใน iPad เป็นอย่างมาก

สเปคของ Adonit Note+
  • ปากกาสำหรับ iPad ใช้งานได้หลากหลายรุ่น ตั้งค่าได้ในแอพฯ Adonit One
  • มีฟีเจอร์เอียงปากกาแรเงา, Palm rejection และไม่ดีเลย์ตอนใช้งาน รับแรงกดได้  2,048 ระดับ
  • มีปุ่มลัดติดมาบนตัวปากกา 2 ปุ่ม ตั้งค่าได้ ใช้งานกับแอพฯ สายครีเอเตอร์ได้หลายแอพฯ
  • ใช้งานต่อเนื่องได้นานราว 10 ชั่วโมง ชาร์จไว 5 นาทีใช้ได้ 1 ชั่วโมง ด้วยพอร์ต USB-C
  • ราคา 2,093 บาท (BaNANA)
5. Logitech Crayon for iPad (2,490 บาท)

HMGA2 AV2

ปากกา iPad รุ่นสุดท้ายที่เลือกมาแนะนำในบทความนี้ เป็น Logitech Crayon ที่ทาง Apple เองก็เลือกมาแนะนำเป็นปากกา iPad รุ่นทางเลือกนอกเหนือจาก Apple Pencil รวมทั้งสั่งซื้อผ่านทางหน้าเว็บไซต์และหน้าร้าน Apple Store ประเทศไทยก็ได้เช่นกัน ซึ่งปากกาด้ามนี้จะเด่นเรื่องการเขียนงานและเส้นที่ต่อเนื่องเพราะว่าแชร์เทคโนโลยีร่วมกับ Apple Pencil ด้วย ทำให้การเขียนเส้นลงบนหน้าจอ iPad ต่อเนื่อง รวมทั้งมีเทคโนโลยีหลักๆ อย่าง Palm rejection, เอียงปากกาแล้วเขียนเส้นหนาขึ้นได้ แต่ไม่มีฟังก์ชั่นการแรเงาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น รองรับการใช้งานกับ iPad ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2018 แล้วเป็น iOS 12.2 เป็นต้นมาได้ทุกรุ่นอย่างแน่นอน

ส่วนแบตเตอรี่เวลาชาร์จจนเต็มแล้วจะใช้งานได้ 7.5 ชั่วโมง และชาร์จไว 2 นาทีใช้งานได้ 30 นาทีอีกด้วย และถ้าไม่ได้ใช้เขียนงานบนตัว iPad แล้ว ปากกาจะหยุดการทำงานเองภายใน 30 นาที หรือกดปุ่มเปิดปิดที่ตัวปากกาก็ได้ ชาร์จได้ด้วยพอร์ต Lightning ที่ท้ายปากกา นอกจากนี้ยังใช้งานร่วมกับแอพฯ สายจดโน๊ตและครีเอทีฟต่างๆ ได้อีกด้วย เรียกว่าถ้าใครหาปากกา iPad แต่ไม่ได้เป็น Apple Pencil มาใช้งาน ก็เลือกตัวนี้มาได้เลย

สเปคของ Logitech Crayon
  • ปากกาสำหรับ iPad ใช้งานได้หลากหลายรุ่น ต้องเป็น iOS 12.2 ขึ้นไป
  • มีฟีเจอร์เอียงปากกาให้ได้เส้นหนา, Palm rejection, แชร์เทคโนโลยีร่วมกับ Apple Pencil 
  • ใช้งานกับแอพฯ ทำงานหรือสายครีเอเตอร์ได้หลายแอพฯ 
  • ใช้งานต่อเนื่องได้นานราว 7.5 ชั่วโมง ชาร์จไว 2 นาทีใช้ได้ 30 นาที ด้วยพอร์ต Lightning และหยุดทำงานเองภายใน 30 นาที
  • ราคา 2,490 บาท (Apple Thailand)

สรุปสเปคของปากกา iPad ทั้ง 5 รุ่น ไม่ต้องง้อ Apple Pencil

สำหรับปากกา iPad ในตอนนี้ เราสามารถหาซื้อรุ่นทดแทนมาใช้งานได้หลากหลายรุ่นด้วยกัน ซึ่งสเปคโดยสรุปจะเป็นดังนี้

สเปคปากกา iPad iPad รุ่นที่รองรับ ฟีเจอร์พิเศษ ระยะเวลาใช้งาน ราคา
STYLUS PENCIL USB-C WITH LED LIGHT iPad Pro 11″

iPad Pro 12.9″ (2018-2021)

iPad Air 4

เอียงปากกาแรเงา

Palm rejection

เขียนได้ไม่ดีเลย์

มีแม่เหล็กดูดติดตัว iPad ได้

9 ชั่วโมง

มีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่

ชาร์จผ่าน USB-C

690 บาท
Baseus Capacitive Stylus  iPad Pro 11″

iPad Pro 12.9″

iPad Mini 5

iPad Air 3

iPad Air 4

Android

เอียงปากกาแรเงา

Palm rejection

เขียนได้ไม่ดีเลย์

มีแม่เหล็กดูดติดตัว iPad ได้

มีหัวปากกาแบบ Active และ Passive

ปุ่มทางลัด 2 ปุ่ม

8.5 ชั่วโมง

มีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่

ชาร์จผ่าน USB-C

813 บาท
AppleSheep Stylus Pencil iPad Gen 6

iPad Air

iPad Air 3

iPad Air 4

iPad Mini 5

iPad Pro 11″-12.9″

Palm rejection

เขียนได้ไม่ดีเลย์

เชื่อมต่อได้ง่ายโดยกดที่ปลายปากกา

ราว 1 วัน

มีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่

ชาร์จผ่าน USB-C

990 บาท
Adonit Note+ ใช้กับ iPad ได้หลากหลายรุ่น เอียงปากกาแรเงา

Palm rejection

เขียนได้ไม่ดีเลย์

รับแรงกดได้ 2,048 ระดับ

มีปุ่มทางลัด 2 ปุ่ม

ตั้งค่าด้วยแอพฯ Adonit One

10 ชั่วโมง

ชาร์จไว 5 นาทีใช้ได้ 1 ชั่วโมง

ชาร์จผ่าน USB-C

2,093 บาท
Logitech Crayon iPad ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไป ต้องอัพเดทเป็น iOS 12.2 ขึ้นไป Palm rejection

แชร์เทคโนโลยีร่วมกับ Apple Pencil

เอียงปากกาให้ได้เส้นหนา

7.5 ชั่วโมง

ชาร์จไว 2 นาทีใช้ได้ 30 นาที

ชาร์จผ่านพอร์ต Lightning

2,490 บาท

จะเห็นว่านอกจาก Apple Pencil แล้ว เราก็มีปากกาทางเลือกจากผู้ผลิตรายอื่นๆ ให้เลือกซื้อไปใช้งานกัน และบางเจ้าอาจจะมีฟีเจอร์น่าสนใจอย่างเช่นปุ่มทางลัดบนตัวปากกาให้ใช้งาน ซึ่งเชื่อว่านักวาดหลายๆ คนน่าจะชื่นชอบฟีเจอร์ประเภทนี้เป็นอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าใครเห็นว่าปากกาด้ามไหนคือด้ามที่ใช่และเป็นตัวทดแทนที่น่าสนใจกว่า Apple Pencil ก็อยากให้ลองเลือกซื้อมาใช้งานดู ไม่แน่ว่าอาจจะตอบโจทย์การใช้งานมากกว่าที่คิดก็ได้


บทความที่เกี่ยวข้อง

ipadcover

iPad Mini 6

from:https://notebookspec.com/web/618850-5-apple-pencil-alternate-stylus