คลังเก็บป้ายกำกับ: AVAST

Avast ปล่อยเครื่องมือถอดรหัสแรนซัมแวร์ BianLian

Avast ปล่อยเครื่องมือถอดรหัสแรนซัมแวร์ BianLian สามารถดาวน์โหลดไปถอดรหัสได้ฟรี
 
Credit: Avast

 
Avast ได้ปล่อยเครื่องมือถอดรหัสแรนซัมแวร์ตระกูล BainLian ออกมาให้สามารถดาวน์โหลดไปถอดรหัสกันได้แล้ว หลังจากที่ BianLian มีขยายการโจมตีอย่างหนักในช่วงกลางปีที่แล้ว โดยมีหลายองค์กรถูกแรนซัมแวร์ตัวนี้เข้าโจมตี อย่างไรก็ตามเครื่องมือถอดรหัสตัวนี้สามารถถอดรหัสได้เฉพา BianLian สายพันธุ์ดั้งเดิมเท่านั้น สำหรับสายพันธุ์ใหม่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเครื่องมือถอดรหัส โดยเครื่องมือถอดรหัสตัวนี้สามารถติดตั้งทำงานได้ทันทีแบบ Standalone และผู้ใช้งานสามารถใส่รหัสได้ทันทีถ้าหากทราบรหัส หรือหากไม่ทราบรหัส ระบบจะทำการทดลองถอดรหัสจาก BainLian Password ที่มีแทน
 
BianLian เป็นแรนซัมแวร์ที่พัฒนาบนภาษา Go ตั้งเป้าโจมตีเครื่องเหยื่อที่ใช้งาน Microsoft Windows เป็นหลัก มีการเข้ารหัสแบบ Symmetric AES-256 bit พร้อมใช้เทคนิค Intermittent Encryption เพื่อเร่งความเร็วในการเข้ารหัส หลังจากนั้นจะมีการสร้างไฟล์เข้าที่เข้ารหัสแล้วโดยใช้นามสกุลไฟล์ “.bianlian” พร้อมแจ้งเตือนให้เวลาในการจ่ายค่าไถ่ภายใน 10 วัน หากไม่ทำตามก็จะมีการปล่อยไฟล์บนเว็บไซท์
 

from:https://www.techtalkthai.com/avast-releases-bianlian-ransomware-decryptor/

UK อนุมัติดีล NortonLifeLock เข้าซื้อกิจการ Avast ระบุจะกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ Microsoft Defender

ระยะหลังเห็นข่าวกิจการระดับโลกควบรวมกันบ่อยขึ้น ไม่เว้นแม้แต่บริษัทซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยอย่าง NortonLifeLock กับ Avast ซึ่งได้ประกาศดีลควบรวมกันไว้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2021 ที่ผ่านมา เป็นมูลค่ากว่า 8,100 ล้านเหรียญ

ล่าสุดผ่านมาได้ 1 ปี ทางหน่วยงานกำกับดูแลการค้าของสหราชอาณาจักร หรือ Competition and Markets Authority (CMA) ได้ประกาศอนุมัติการควบรวมดังกล่าวแล้ว โดยให้ข้อสรุปว่าดีลครั้งนี้ไม่กระทบต่อการแข่งขัน เพราะ NortonLifeLock ยังมีคู่แข่งหลักคือ McAfee อยู่

ยิ่งกว่านั้นทาง CMA มองว่าระยะหลังตลาดแอนตี้ไวรัสเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในอดีตเคยแข่งกันที่โซลูชันแบบเสียเงินอย่างเดียว แต่ปัจจุบันมีบริการฟรีอย่าง Microsoft Defender เข้ามาแข่งขันด้วย ซึ่งปัจจุบันแทบจะดีเทียบเท่ากับแบบเสียเงินแล้ว ดังนั้นต่อให้ NortonLifeLock ไม่เจอ McAfee ก็ยังมี Microsoft เป็นคู่แข่งสำคัญอีกเจ้าอยู่ดี

ก่อนหน้านี้ NortonLifeLock เคยเข้าซื้อกิจการร่มแดง Avira สำเร็จแล้วครั้งหนึ่งตอนปี 2020 ขณะที่ฝั่ง Avast ก็ซื้อ AVG ไว้เช่นกันตอนปี 2016 ดังนั้นหากดีลครั้งนี้สำเร็จอีก ทั้งคู่จะกลายเป็นเจ้าแห่งซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยรายใหญ่ที่มีผู้ใช้งานรวมกันถึง 500 ล้านคนเลยทีเดียว

 

 

ที่มา : GOV.UK, TechCrunch

from:https://droidsans.com/nortonlifelock-avast-merger-to-be-approved-by-uk/

อังกฤษอนุมัติดีล NortonLifeLock ซื้อ Avast, บอก Microsoft Defender กลายเป็นคู่แข่งสำคัญ

Competition and Markets Authority (CMA) หน่วยงานกำกับดูแลการค้าของสหราชอาณาจักร อนุมัติดีลการควบกิจการบริษัทซอฟต์แวร์ความปลอดภัย NortonLifeLock กับ Avast มูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์ ที่ประกาศในเดือนสิงหาคม 2021

NortonLifeLock เคยซื้อกิจการ Avira มาก่อนเมื่อปี 2020 และมาซื้อ Avast อีกต่อหนึ่ง หากดีลนี้ผ่านก็จะกลายเป็นอาณาจักรซอฟต์แวร์ความปลอดภัยรายใหญ่ที่มีผู้ใช้รวมกันมากกว่า 500 คน

ประเด็นที่น่าสนใจคือเหตุผลของ CMA ที่ยอมให้ควบรวม มาจากสภาพตลาดซอฟต์แวร์ความปลอดภัยฝั่งคอนซูเมอร์ที่เปลี่ยนไป เดิมที NortonLifeLock มีคู่แข่งรายสำคัญคือ McAfee แต่ช่วงหลังสภาพตลาดเปลี่ยน เพราะ Microsoft Defender กลายมาเป็นโซลูชันฟรีที่มีความสามารถดีทัดเทียมกับโซลูชันแบบเสียเงิน ดังนั้นต่อให้ NortonLifeLock ควบรวมกับ Avast สำเร็จก็ต้องเจอกับการแข่งขันในระดับที่สูงอยู่ดี

ที่มา – CMA

from:https://www.blognone.com/node/129668

นักวิจัยเผยช่องโหว่ที่มีมานานหลายปี ในแอนติไวรัสฟรีชื่อดังทั้ง Avast และ AVG

พบช่องโหว่ด้านความปลอดภัยร้ายแรงสองรายการที่ซ่อนอยู่ในไดรเวอร์ทางการของโซลูชั่นแอนติไวรัสอย่าง Avast และ AVG มานานหลายปี ซึ่งเปิดให้ผู้โจมตียกระดับสิทธิ์การเข้าถึงสำหรับปิดการทำงานของผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยเหล่านี้ได้

ยังไม่พอ ยังสามารถใช้ในการเขียนข้อมูลระบบทับ ใช้ทำลายระบบปฏิบัติการ หรือแม้แต่การโจมตีรูปแบบอื่นที่สร้างความเสียหายหนักได้ โดยทางนักวิจัยของ SentinelOne คุณ Kasif Dekel ระบุในรายงานที่แชร์ให้กับสำนักข่าว The Hacker News

ช่องโหว่ทั้งคู่นี้อยู่ภายใต้รหัส CVE-2022-26522 และ CVE-2022-26523 ฝังอยู่ในไดรเวอร์เคอร์เนลสำหรับแอนติรูทคิตที่มาจากผู้ผลิตโดยตรงชื่อ aswArPot.sys ที่มาพร้อมกับ Avast ตั้งแต่เวอร์ชั่น 12.1 ที่ปล่อยออกมาให้ใช้งานตั้งแต่มิถุนายนปี 2016

จุดอ่อนนี้อยู่ในส่วนที่ดูแลการเชื่อมต่อซ็อกเก็ตของไดรเวอร์เคอร์เนลที่เปิดให้ยกระดับสิทธิ์ได้ด้วยการรันโค้ดในเคอร์เนลจากผู้ใช้ที่ไม่ใช่แอดมิน ส่งผลให้ทำระบบปฏิบัติการล่มจนแสดงหน้าจอสีฟ้ามหาภัยหรือ BSoD ได้ รวมทั้งใช้ต่อยอดการโจมตีหรือหลบหนีจากแซนด์บ็อกซ์ได้ด้วย

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – THN

//////////////////

สมัครสมาชิก Enterprise ITPro เพื่อรับข่าวสารด้านไอที

form#sib_signup_form_4 {
padding: 5px;
-moz-box-sizing:border-box;
-webkit-box-sizing: border-box;
box-sizing: border-box;
}
form#sib_signup_form_4 input[type=text],form#sib_signup_form_4 input[type=email], form#sib_signup_form_4 select {
width: 100%;
border: 1px solid #bbb;
height: auto;
margin: 5px 0 0 0;
}
form#sib_signup_form_4 .sib-default-btn {
margin: 5px 0;
padding: 6px 12px;
color:#fff;
background-color: #333;
border-color: #2E2E2E;
font-size: 14px;
font-weight:400;
line-height: 1.4285;
text-align: center;
cursor: pointer;
vertical-align: middle;
-webkit-user-select:none;
-moz-user-select:none;
-ms-user-select:none;
user-select:none;
white-space: normal;
border:1px solid transparent;
border-radius: 3px;
}
form#sib_signup_form_4 .sib-default-btn:hover {
background-color: #444;
}
form#sib_signup_form_4 p{
margin: 10px 0 0 0;
}form#sib_signup_form_4 p.sib-alert-message {
padding: 6px 12px;
margin-bottom: 20px;
border: 1px solid transparent;
border-radius: 4px;
-webkit-box-sizing: border-box;
-moz-box-sizing: border-box;
box-sizing: border-box;
}
form#sib_signup_form_4 p.sib-alert-message-error {
background-color: #f2dede;
border-color: #ebccd1;
color: #a94442;
}
form#sib_signup_form_4 p.sib-alert-message-success {
background-color: #dff0d8;
border-color: #d6e9c6;
color: #3c763d;
}
form#sib_signup_form_4 p.sib-alert-message-warning {
background-color: #fcf8e3;
border-color: #faebcc;
color: #8a6d3b;
}

from:https://www.enterpriseitpro.net/researchers-disclose-years-old-vulnerabilities-in-avast-and-avg-antivirus/

Avast เตรียมคุมกิจการผู้ให้บริการด้านตัวตน SecureKey

Avast ได้ประกาศว่า ตั้งใจจะซื้อบริษัทผู้ให้บริการด้านข้อมูลตัวตนและการยืนยันดิจิตอล SecureKey Technologies โดยยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลข ซึ่งผลิตภัณฑ์ของ SecureKey ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการบริการการเข้าถึงบริการออนไลน์ต่างๆ โดยคุมไม่ให้มีการเปิดเผยข้อมูลผู้ใช้มากกว่าที่จำเป็น

ตัวอย่างเช่น Verified.Me ที่ใช้เครือข่ายยืนยันตัวตนดิจิตอลแบบกระจายพื้นที่จาก SecureKey เพื่อใช้มาตรการด้านความปลอดภัยระดับสูงเหมือนธนาคารสำหรับป้องกันการโจรกรรมหรือปลอมแปลงตัวตน

ข้อมูลธนาคารของผู้ใช้จะไม่สามารถเข้าถึงได้ผ่าน Verified.Me ซึ่งรวมถึงรหัสผ่านที่ใช้เข้าระบบออนไลน์ของธนาคารด้วย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Government Sign-In by Verified.Me ที่พัฒนาสำหรับแอพพลิเคชั่นของภาครัฐโดยเฉพาะ

โดยสร้างความง่ายในการเข้าถึงทั้งบริการและแอพพลิเคชั่นแบบ E-Government เรียกความสามารถนี้ว่า ‘Triple Blind’ ที่ฝังมาพร้อมกับเครื่องมือที่ใช้เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีใคร แม้แต่สถาบันการเงิน หน่วยงานรัฐบาล หรือผู้ให้บริการเครือข่าย สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลต้นกำเนิดของการลงทะเบียนได้

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – ITPro

//////////////////

สมัครสมาชิก Enterprise ITPro เพื่อรับข่าวสารด้านไอที

form#sib_signup_form_4 {
padding: 5px;
-moz-box-sizing:border-box;
-webkit-box-sizing: border-box;
box-sizing: border-box;
}
form#sib_signup_form_4 input[type=text],form#sib_signup_form_4 input[type=email], form#sib_signup_form_4 select {
width: 100%;
border: 1px solid #bbb;
height: auto;
margin: 5px 0 0 0;
}
form#sib_signup_form_4 .sib-default-btn {
margin: 5px 0;
padding: 6px 12px;
color:#fff;
background-color: #333;
border-color: #2E2E2E;
font-size: 14px;
font-weight:400;
line-height: 1.4285;
text-align: center;
cursor: pointer;
vertical-align: middle;
-webkit-user-select:none;
-moz-user-select:none;
-ms-user-select:none;
user-select:none;
white-space: normal;
border:1px solid transparent;
border-radius: 3px;
}
form#sib_signup_form_4 .sib-default-btn:hover {
background-color: #444;
}
form#sib_signup_form_4 p{
margin: 10px 0 0 0;
}form#sib_signup_form_4 p.sib-alert-message {
padding: 6px 12px;
margin-bottom: 20px;
border: 1px solid transparent;
border-radius: 4px;
-webkit-box-sizing: border-box;
-moz-box-sizing: border-box;
box-sizing: border-box;
}
form#sib_signup_form_4 p.sib-alert-message-error {
background-color: #f2dede;
border-color: #ebccd1;
color: #a94442;
}
form#sib_signup_form_4 p.sib-alert-message-success {
background-color: #dff0d8;
border-color: #d6e9c6;
color: #3c763d;
}
form#sib_signup_form_4 p.sib-alert-message-warning {
background-color: #fcf8e3;
border-color: #faebcc;
color: #8a6d3b;
}

from:https://www.enterpriseitpro.net/avast-to-acquire-identity-services-provider-securekey/

Norton เตรียมควบกิจการ Avast จะทำให้มีมูลค่ารวมสูงกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ฯ

NortonLifeLock เตรียมซื้อกิจการของ Avast ในลักษณะควบรวมบริษัทที่ทำให้ได้มูลค่ากิจการรวมอยู่ในช่วงระหว่าง 8.1 – 8.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นการควบกิจการของผู้ผลิตซอฟต์แวร์แอนติไวรัสที่ดีที่สุดถึงสองแห่ง ดีลนี้ NortonLife จะซื้อหุ้นของ Avast ทั้งหมด

ผลจากการรวมบริษัทกันนี้จะทำให้มีจำนวนลูกค้ามากกว่า 500 ล้านราย นอกจากนี้ทาง NortonLifeLock ยังคาดว่าภายในสิ้นปีที่สองหลังการรวมกิจการครั้งนี้ จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 280 ล้านดอลลาร์ฯ ด้วย โดย Vincent Pilette ซีอีโอของ NortonLifeLock กล่าวว่า

“ดีลนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญมากสำหรับลูกค้าของ Cyber Safety ทำให้เราประสบความสำเร็จตามวิสัยทัศน์ที่จะปกป้องและสนับสนุนให้ผู้คนใช้ชีวิตแบบดิจิตอลได้อย่างปลอดภัย โดยการควบรวมทั้งสองบริษัทนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์ม Cyber Safety ให้ผู้ใช้จำนวนมากกว่า 500 ล้านรายของเรา”

“รวมทั้งยังทำให้ได้ความสามารถในการเร่งการพัฒนานวัตกรรมในการเปลี่ยนโฉม Cyber Safety ใหม่ด้วย” ส่วนทางด้านซีอีโอของ Avast อย่าง Ondřej Vlček ก็ให้ความเห็นด้วยว่า “ขณะที่อันตรายทางไซเบอร์ทั่วโลกเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่การพัฒนาของระบบความปลอดภัยยังเป็นไปอย่างจำกัด การผสานกับ NortonLifeLock จะช่วยให้เราขยายความครอบคลุมด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้อย่างทั่วถึงทั่วโลก”

ที่มา : Windowscentral

from:https://www.enterpriseitpro.net/norton-and-avast-announce-massive-merger/

เหมาๆ Norton ควบรวม Avast ด้วยดีลมูลค่ากว่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

NortonLifeLock เตรียมควบรวมกับ Avast ด้วยดีลมูลค่าประมาณ 8.1-8.6 พันล้านดอลลาร์ (ตามแต่การลงคะแนนของผู้ถือหุ้น Avast) ดีลนี้จะทำให้ NortonLifeLock กลายเป็นเจ้าของหุ้นทั้งหมดของ Avast และผนวกรวมกันกลายเป็นอาณาจักรแอนตี้ไวรัสขนาดยักษ์ที่มีผู้ใช้รวมกันกว่า 500 ล้านคน หลัง Norton ซื้อ Avira ช่วงเดือนธันวาคม 2020

Vincent Pilette ซีอีโอของ NortonLifeLock ระบุว่าการควบรวมครั้งนี้จะเสริมความแข็งแกร่งของบริการให้กับผู้ใช้มากกว่า 500 ล้านคนได้ในอนาคต และทำให้บริษัทสามารถเร่งนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกความปลอดภัยไซเบอร์ได้ดียิ่งขึ้น

NortonLifeLock เป็นบริษัทความปลอดภัยไซเบอร์สำหรับผู้บริโภคทั่วไปที่แยกออกมาจาก Symantec หลัง Broadcom ซื้อกิจการความปลอดภัยฝั่งธุรกิจไปในปี 2019 ส่วน Avast เป็นบริษัทความปลอดภัยที่ก่อตั้งในสาธารณรัฐเช็กในปี 1988 ในรูปแบบ cooperative จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดในปี 2018 และ IPO ในปี 2019 ทั้งในตลาดหุ้นกรุงปราก และตลาดหุ้นลอนดอน

ที่มา – Businesswire

No Description

from:https://www.blognone.com/node/124173

NortonLifeLock ประกาศเข้าซื้อกิจการ Avast ด้วยมูลค่า 2.8 แสนล้านบาท

NortonLifeLock ประกาศเข้าซื้อกิจการ Avast ด้วยมูลค่า 2.8 แสนล้านบาท

ก่อนหน้านี้ในปี 2019 ทาง Broadcom ได้เข้าซื้อธุรกิจ Enterprise Security ของ Symantec และได้เปลี่ยนชื่อเป็น NortonLifeLock ล่าสุด NortonLifeLock ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการ Avast ผู้พัฒนาแอนตี้ไวรัสจากประเทศอังกฤษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยมูลค่าสูงถึง 8.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 2.8 แสนล้านบาท โดยผู้ถือหุ้น Avast สามารถเลือกได้ว่าต้องการผลตอบแทนเป็นเงินสดหรือสัดส่วนหุ้นในบริษัท ซึ่งหลังจากที่รวมเป็นบริษัทเดียวกันแล้ว จะทำให้มีลูกค้ารวมกันทั่วโลกถึง 500 ล้านคน และมีรายได้ต่อปีรวมกันที่ 1.1 แสนล้านบาท โดยจะมีการเสริมผลิตภัณฑ์ทางด้าน Cyber Security ร่วมกันในอนาคต

ที่มา: https://seekingalpha.com/news/3728566-nortonlifelock-acquiring-antivirus-company-avast-for-up-to-86-billion

from:https://www.techtalkthai.com/nortonlifelock-acquires-avast-with-8-6-billion-usd/

ไมโครซอฟท์ ระบุ “CCleaner” เป็นแอพพลิเคชั่นอันตราย !!

ตอนนี้ระบบไมโครซอฟท์ได้ตรวจจับโปรแกรมทำความสะอาดริจิสตรี้และปรับแต่งระบบชื่อดังอย่าง CCleaner ว่าเป็นแอพพลิเคชั่นที่ไม่พึงประสงค์หรือ PUA ในโปรแกรมแอนติไวรัสอย่าง Microsoft Defender แล้ว

ซึ่ง CCleaner นี้เป็นทั้งตัวกำจัดไฟล์ขยะ, ลบรีจิ้สตรี้ที่ไม่เป็นระเบียบ, รวมทั้งคอยปรับการตั้งค่าเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของวินโดวส์ ซึ่งมี Piriform เป็นผู้พัฒนายูทิลิตี้นี้ ซึ่งต่อมาทาง Avast ได้เข้าซื้อกิจการเมื่อปี 2017

ท่ามกลางความกังวลของผู้ใช้จากการที่ Avast ชอบผูกผลิตภัณฑ์เข้ากับโปรโมชั่นส่งเสริมการขายของตัวเอง แบบขายตรง ขายเก่ง แถมยังสงสัยว่าแอบดูดข้อมูลการใช้งานที่ผู้ใช้ตั้งค่าปิดกั้นไม่ได้ แถมยังบังคับให้อัพเดทโปรแกรมอยู่ตลอด

แม้จะพยายามตั้งค่าไม่ให้อัพเดทอัตโนมัติก็ตาม ในปี 2019 ไมโครซอฟท์จึงแบนโปรแกรม CCleaner นี้บนฟอรั่ม Microsoft Community เนื่องจากพยายามแทรกลิงค์ไปดาวน์โหลดโปรแกรมโพสต์ และครั้งนี้ไมโครซอฟท์ก็ตัดสินแล้วว่าโปรแกรมนี้อาจสร้างความเสียหายมากกว่าที่จะเป็นประโยชน์

ที่มา : BleepingComputers

from:https://www.enterpriseitpro.net/microsoft-now-detects-ccleaner-as-a-potentially-unwanted-application/

Avast แก้ปัญหา ประเด็นบล็อกโปรแกรมไม่ให้เปิดใช้งาน ในวินโดวส์ 10 แล้ว

มีการแก้ปัญหาบนแอพพลิเคชั่นด้านความปลอดภัยอย่าง AVG และ Avast ที่ไปตั้งค่าคีย์รีจิสตรี้ให้บล็อกแอพพลิเคชั่นอื่นไม่ให้รันบนวินโดวส์ 10 แล้ว

จากที่ช่วงสัปดาห์ก่อนนั้นมีผู้ใช้วินโดวส์ 10 เริ่มร้องเรียนว่าตัวเองเปิดโปรแกรมไมโครซอฟท์ออฟฟิศและแอพอื่นๆ ไม่ได้ โดยเมื่อพยายามเปิดโปรแกรม จะมีข้อความขึ้นทำนองว่า “Windows cannot find ‘C:\Program Files (x86)\Microsoft Office\root\Office16\WORD.EXE’. Make sure you typed the name correctly, and then try again,”

แม้ช่วงแรกคนจะยังไม่แน่ใจว่าต้นเหตุมาจากการอัพเดทโปรแกรมของวินโดวส์ 10 หรือทาง Avast กันแน่ แต่ล่าสุดก็ยืนยันแล้วว่าเป็นเพราะโปรแกรม Avast และ AVG ที่ติดตั้งอยู่บนคอมพิวเตอร์ โดยมีส่วนของซอฟต์แวร์ความปลอดภัยดังกล่าว

โดยปกติ AVG/Avast จะสร้างรายการรีจิสตรี้ Image File Execution Options ให้ชี้แอพพลิเคชั่นหลายตัวไปที่โปรแกรมตัวกรองอย่าง C:\Program Files (x86)\AVAST Software\Avast Cleanup\autoreactivator.exe แต่การอัพเดทล่าสุดทำให้กลไกนี้มีปัญหา จนทำให้โปรแกรมเปิดขึ้นไม่ได้

ที่มา : BleepingComputers

from:https://www.enterpriseitpro.net/avast-block-program/