คลังเก็บป้ายกำกับ: ไปรษณีย์ไทย

ไปรษณีย์ไทยเปิดบ้านต้อนรับน้อง ๆ หนู ๆ ในวันเด็กแห่งชาติ อัดกิจกรรม “สนุก สร้างสรรค์ สะสม” 14 – 15 ม.ค.นี้ ที่พิพิธภัณฑ์แสตมป์สามเสนใน

วันเด็กแห่งชาติปีนี้บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด โดยพิพิธภัณฑ์แสตมป์สามเสนใน ชวนน้อง ๆ หนู ๆ มาร่วม “สนุก สร้างสรรค์ สะสม” กับพิพิธภัณฑ์แสตมป์

ฟรี! กิจกรรมสำหรับน้อง ๆ อายุไม่เกิน 14 ปี ไม่ว่าจะเป็นการเพ้นท์ถุงผ้า แสนสนุกตามจินตนาการ กิจกรรม DIY สร้างสรรค์โปสการ์ดส่งตู้ไปรษณีย์ใบแรกของไทย

พร้อมรับโปสการ์ดและชุดลอกล้างแสตมป์ไปสะสม พบปะกับนักออกแบบแสตมป์ “พี่ตู๋ ธเนศ พลไชยวงศ์” ที่จะมามอบลายเซ็น ตั้งแต่เวลา 10:00-14:00 และน้อง ๆ ยังสามารถทำ iStamp รูปตัวเอง เพียงใบละ 60 บาท รอรับได้เลยทันทีที่หน้างาน

ไปรษณีย์ไทย

พิเศษ!! ภายในงานยังมีกิจกรรมสำหรับ “ผู้ใหญ่ young เด็ก” เพียงซื้อแสตมป์/ซองวันแรกจำหน่ายชุดวันเด็กแห่งชาติครบทุก 100 บาท ฟรี! โปสต์การ์ด 1 ใบ ซื้อสินค้า 300 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์เพ้นท์กระเป๋าผ้า     (1 คน/สิทธิ์/วัน)

โดยกิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 มกราคม 2566 ตั้งแต่ เวลา  8:30 – 16:30 น. ณ พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรสามเสนใน (ติด BTS สะพานควาย) หรือติดตามรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/Thaistampmuseum

นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังเปิดตัวแสตมป์วันเด็กปี 2566 ชุด “อีสปอร์ต” เอาใจสายเกมเมอร์ด้วยคอนเซ็ปต์กีฬา E-Sport ซึ่งได้รับความนิยมจากเด็กรุ่นใหม่ ที่ยกระดับการเล่นเกมออนไลน์สู่กีฬาสากล

โดยแสตมป์ชุดนี้จัดพิมพ์ด้วยเทคนิคพิเศษที่มาพร้อมกับหมึกเรืองแสง  ซึ่งจะวางจำหน่ายพร้อมกันในวันที่ 14 มกราคม 2566 ณไปรษณีย์ทั่วประเทศ และทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ www.thailandpostmart.com

            ติดตามข่าวสารไปรษณีย์ไทย เพิ่มเติมได้ที่

            เว็บไซต์ : www.thailandpost.co.th

            เฟซบุ๊ก : บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด

            ทวิตเตอร์ : @Thailand_Post

            ไลน์ออฟฟิเชียล : @Thailand Post
            ติ๊กต็อก : @thailandpostchannel

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/thailand-post-opens-its-home-to-welcome-children-on-national-childrens-day/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=thailand-post-opens-its-home-to-welcome-children-on-national-childrens-day

ไปรษณีย์ไทย เพิ่มทางเลือกสำหรับคนยุคใหม่ สามารถจ่าหน้าซองในรูปแบบ ”ดิจิทัลโพสต์ไอดี” แถมหมดกังวลเรื่องมิจฉาชีพ

ใครหลายคน คงคุ้นเคยกับการจ่าหน้าซองจดหมายด้วยลายมือ แถมบางทีเราอาจจะเผลอเขียนชื่อ ที่อยู่แบบผิด ๆ โดยไม่ได้ตั้งใจ จนอาจเป็นเหตุให้สินค้า หรือจดหมายได้รับความผิดพลาดในการจัดส่ง ไหนจะต้องมากังวลเรื่องมิจฉาชีพอีก ทั้งนี้ทางไปรษณีย์ไทยจึงเพิ่มทางเลือกใหม่ให้คนไทยสามารถจ่าหน้าซองได้แบบ “ดิจิทัลโพสต์ไอดี” ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลของเราไว้อย่างครบในรูปแบบ QR Code ติดหน้าซอง พร้อมป้องกันการสูญหายของข้อมูล

ไปรษณีย์ไทยแบบใหม่

ปกติแล้วเวลาเราส่งจดหมาย น่าจะคุ้นชินกับการเขียนจ่าหน้าซอง และบนกล่องพัสดุด้วยลายมือกันเป็นอย่างดี แต่ล่าสุดทางไปรษณีย์ไทยได้เปลี่ยนรูปแบบใหม่ เรียกอีกชื่อว่า ดิจิทัลโพสต์ไอดี (Digital Post ID) ที่จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเก็บไว้ในรหัสดิจิทัลโพสต์ไอดี และเมื่อจะฝากส่งสิ่งของข้อมูลจะปริ้นออกมาในรูปแบบ QR Code แปะอยู่ที่หน้าซองกับพัสดุแทนโดยประกอบไปด้วยข้อมูลดังนี้

  • ชื่อ-นามสกุล
  • เบอร์โทรศัพท์
  • การระบุพิกัด ตำแหน่ง สถานที่
  • เป็น QR Code ติดหน้าซอง

จุดเด่นของ Digital Post ID

  • มีความแม่นยำเรื่องข้อมูล
  • แม้จะอยู่บนอาคารชั้นสูงก็สามารถส่งของถึงมือได้
  • เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไทยเท่านั้นที่สามารถสแกนเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก เพื่อจัดส่งได้
  • สามารถป้องกันข้อมูลได้อย่างดี มีความปลอดภัยสูงด้านข้อมูลส่วนตัว จึงหมดกังวลเรื่องมิจฉาชีพมาสแกนขโมยข้อมูล
  • ช่วยให้อุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์บริหารการทำงานบริหารง่ายขึ้น
  • ยกตัวอย่างทริปเที่ยวเชียงใหม่ แล้วเพิ่งสั่งซื้อกระเป๋าไป สามารถเปลี่ยนที่อยู่ในระบบดิจิทัลโพสต์ไอดีให้พัสดุไปส่งที่เชียงใหม่ได้ทันที ซึ่งผู้ขนส่งจะเปลี่ยนเส้นทางตามข้อมูลบน QR Code ของเรานั่นเองค่ะ
  • กระตุ้นรายได้แก่อุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น การท่องเที่ยวในต่างจังหวัด
  • รองรับการช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤต เช่น เกิดเหตุอุทกภัย หรืออุบัติเหตุบนท้องถนน เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

สรุป

สำหรับประโยชน์ของดิจิทัลโพสต์ไอดี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการจัดส่งสินค้าได้คลอบคลุม และปลอดภัยมากขึ้น แถมยังเอื้อประโยนช์ต่อด้านอื่น ๆ ตามไปด้วย และที่สำคัญโลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในเรื่องของเทคโนโลยี จึงต้องปรับเปลี่ยนไปให้มีความทันสมัยขึ้น ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคนี้ 

ถือว่าเป็นการจ่าหน้าซองแบบใหม่ที่น่าใช้งานมากเลยค่ะ  ถ้ามองถึงปัญหาในการส่งพัสดุต่าง ๆ จะลดลงไปได้เยอะ อีกทั้งยังประหยัดเวลาไปในตัว ไม่ว่าที่อยู่จะคลาดเคลื่อน หรือข้อมูลส่งผิด รวมถึงบางคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในเรื่องของข้อมูลก็ป้องกันจากมิจฉาชีพได้ทันดี และสะดวก รวดเร็วสำหรับ แม้ค้า พ่อค้า หรือนักช็อปออนไลน์อย่างพวกเรา 

 

 

ที่มา : thailandpost

from:https://droidsans.com/digital-post-id-an-alternative-address-for-the-digital-age/

ไปรษณีย์ไทย พัฒนาระบบ QR Code แทนการเขียนชื่อ-ที่อยู่

ปัจจุบันข้อมูลส่วนตัวของบุคคลถูกแฮกมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วข้อมูลที่ถูกเปิดเผยและพบง่ายที่สุด คือ บนกล่องพัสดุ ซึ่งผู้รับจะต้องกรอกข้อมูลรายละเอีดต่างๆ ทำให้ตรงน้กลายเป็นช่องว่างให้มิจฉาชีพล่วงข้อมูลได้ 

ไปรษณีย์ไทยจะนำเทคโนโลยีมาพัฒนาระบบ ที่เรียกว่า “ดิจิทัลโพสต์ไอดี” ซึ่งนำมาเป็นทางเลือกใหม่ในการระบุชื่อ-ที่อยู่บนจ่าหน้า โดยจะเปิดให้บริการลงทะเบียนในปี 2566 

โดย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานในสังกัดได้เร่งขับเคลื่อนเทคโนโลยีเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง ของเศรษฐกิจ สังคม และวิถีชีวิตที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว 

โดยเฉพาะในปี 2566 ที่คาดว่าการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆของคนทั่วโลกจะต้องพึ่งพาระบบดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการเงิน การดำเนินธุรกิจ การลดช่องว่าง

ทางด้านความปลอดภัย การจัดการข้อมูล การขนส่ง และอื่น ๆ อีกหลายประเภท ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้กำหนด ยุทธศาสตร์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับนวัตกรรมดิจิทัล ตามแผนแม่บทการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล  ปี (พ.ศ. 2561 – 2565) 

มีแนวคิดในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการระบุข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ให้เป็นที่อยู่ดิจิทัล หรือเรียกว่า“ดิจิทัลโพสต์ไอดี : Digital Post ID” โดยมอบหมายให้ไปรษณีย์ไทย ในฐานะหน่วยงานในการกำกับดูแล ดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาต่อยอดจากรหัสไปรษณีย์ที่ใช้ตัวเลขห้าหลัก โดยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่งให้มีความสามารถระบุตำแหน่งด้วยรหัสดิจิทัลโพสต์ไอดี ที่สามารถ ถูกแปลงเป็นพิกัดที่อยู่ของประชาชนภายในประเทศไทยได้ถึงระดับครัวเรือน พร้อมกันนี้ ยังสามารถรักษา ความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว ของข้อมูลส่วนบุคคลของภาคประชาชน

นอกจากนี้ ดิจิทัลโพสต์ไอดีไม่เพียงแค่สร้างประโยชน์ในภาคการขนส่ง หรือการทําธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังสามารถเชื่อมโยงไปสู่ภาคส่วนและกิจกรรมอื่น ๆ ได้อีกหลากหลาย เช่น การสนับสนุนสิ่งของช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติ ในกรณีที่ทราบพื้นที่ประสบภัย การสนับสนุนนโยบายด้านสุขภาพ อาทิ ช่วยเหลือผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน จัดเก็บข้อมูลผู้สูงอายุในแต่ละพื้นที่ส่งเสริมการแพทย์ทางไกลเพื่อลดความแออัดในการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาล การหาพิกัดสถานที่ท่องเที่ยว วางแผนบริหารจัดการพื้นที่การเกษตร วางผังเมืองและบริหาร ทรัพยากรธรรมชาติ กำหนดเขตเลือกตั้ง ข้อมูลผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง หรือแม้กระทั่งด้านการเงินและการธนาคาร การ

ด้านนายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ไปรษณีย์ไทย ได้เตรียมปรับเปลี่ยนรูปแบบการระบุข้อมูลตำแหน่งที่อยู่เดิมให้เป็นที่อยู่ดิจิทัล หรือดิจิทัลโพสต์ไอดี ด้วยหลักการทำงานเดียวกับระบบการหาตำแหน่งบนพื้นผิวโลก หรือ GPS โดย 1 คน สามารถมีได้หลายที่อยู่ และสามารถเปลี่ยนแปลงที่อยู่ชั่วคราวในระบบได้เมื่อจำเป็น เช่น ต้องเดินทางไปต่างพื้นที่ 

ทั้งนี้ แต่เดิมรหัสไปรษณีย์ 5 หลักจะบอกได้ถึงเขตพื้นที่เท่านั้น แต่ดิจิทัลโพสต์ไอดีจะระบุได้ ถึงพิกัดตำแหน่งด้วยการปักหมุด บอกพิกัดแนวดิ่งได้ทำให้สามารถระบุที่อยู่สำหรับผู้ที่อยู่ในอาคารสูงได้แม่นยำยิ่งขึ้น

อีกทั้งยังช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลบนจ่าหน้า ป้องกันการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง ที่ถูกต้อง แม่นยำ 

โดยภายในปี 2567 คาดว่าประชาชนจะมีรหัสดิจิทัลโพสต์ไอดีของตนเองที่จำได้ง่ายมาแทน การเขียนจ่าหน้าแบบเดิมพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อรองรับการมีดิจิทัลโพสต์ไอดี ในอนาคตที่ทําการไปรษณีย์หรือผู้ให้บริการโลจิสติกส์จะมี เครื่องพิมพ์ฉลากในรูปแบบ QR Code ที่เป็นดิจิทัลโพสต์ไอดีแปะบนกล่องพัสดุ หรือซองเอกสาร โดยผู้รับและผู้ส่ง มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่หลุด เนื่องจากบนจ่าหน้ากล่อง ซอง จะไม่ปรากฏข้อมูลส่วนบุคคล ต้องใช้ แอปพลิเคชันบนอุปกรณ์อ่าน QR Code เท่านั้น ถึงจะโชว์ข้อมูลผู้รับ ผู้ส่ง และ QR Code จะเป็นแบบใช้งานได้ ครั้งเดียวเท่านั้น 

อีกทั้งยังมีการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ตามหลักการของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ไปรษณีย์ไทย พัฒนาระบบ QR Code แทนการเขียนชื่อ-ที่อยู่ first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/thailand-post-develops-qr-code-system/

สมรภูมิแย่งชิงลูกค้า! แฟลช เอ็กซ์เพรส-เคอร์รี่แข่งกันลดราคา แต่ไปรษณีย์ไทยขึ้นราคา

งานเดลิเวอรี่มีเดือด เมื่อสองแบรนด์ใหญ่หันมาอัดโปรโมชั่น พร้อมลดราคาในการให้บริการลูกค้าแล้ว

Flash-Kerry

โควิดทำให้กระแสซื้อสินค้าออนไลน์ถล่มแบรนด์เดลิเวอรี่ทั้งเล็กและใหญ่ในตลาด ทุกแบรนด์ต้องแข่งขันกันส่งสินค้าถึงมือลูกค้าให้ตรงเวลา จนเกิดกระแสดราม่าสินค้าล้นคลังส่งของ พนักงานขับรถส่งของต้องวิ่งรอกถี่ไปพร้อมๆ กับแบกความหวังของลูกค้าที่ต้องส่งสินค้าให้เร็ว แบกเป้าหมายของบริษัทที่ต้องส่งสินค้าให้มากและทันเวลา ล่าสุด เข้าสู่ยุคแข่งขันราคากันแล้ว มาดู Flash กับ Kerry ว่ามีอะไรใหม่ๆ บ้าง

แฟลช เอ็กซ์เพรส

Flash Express ลดราคา 10%

ผู้ให้บริการขนส่งสัญชาติไทยลดราคาเอาใจตลาด ด้วยการลดค่าส่งลง 10% สำหรับพัสดุขนาด 1 กิโลกรัม ความยาว x กว้าง x สูง ไม่เกิน 40 เซ็นติเมตร ผ่าน Flash Home ทั่วประเทศกว่า 10,000 แห่ง

ไม่ใช่แค่นี้ ลูกค้ายังสามารถสะสมคะแนนจาก Flash Familyได้ด้วย เพื่อนำคะแนนมาแลกสินค้าในภายหลัง และยังฟรีค่าบริการเสริม Speed Guarantee คือการันตีเวลาส่ง ส่งช้า ส่งฟรี สำหรับลูกค้าที่พัสดุขนาดไม่เกิน 1 กิโลกรัม

บริษัทจะไม่เก็บค่าบริการเพิ่มเมื่อส่งพัสดุผ่าน Flash Shop และ Flash Home หากพัสดุถึงปลายทางไม่ตรงตามเวลา ลูกค้าจะได้รับคืนเงินค่าบริการขนส่งเต็มจำนวน เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทกำหนด สามารถใช้บริการได้ตั้งแต่ 16 กรกฎาคมถึง 5 สิงหาคม 2565 นี้

kerry express

Kerry Express เริ่มต้นค่าส่งที่ 15 บาท

เปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ พร้อมบริการจัดส่งที่รวดเร็ว ส่งวันนี้ถึงพรุ่งนี้! เฉพาะ Seal Bag A (32 ซม. x 23 ซม.)​ น้ำหนักไม่เกิน 500 กรัม จำกัดจำนวนการส่ง 1 ชิ้น/ คน/ ใบเสร็จ/ วัน

ขอสงวนสิทธิ์เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการเท่านั้น ราคานี้ไม่รวมค่าบริการน้ำมันส่วนเพิ่ม ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป (การปรับราคา ระยะเวลา และค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม เป็นไปตามดุลยพินิจของบริษัทฯ แต่เพียงผู้เดียว

จังหวัดที่ร่วมรายการ และสามารถส่งปลายทางได้ทุกจังหวัด: กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, ชลบุรี, กาญจนบุรี, ขอนแก่น, นครราชสีมา, นครสวรรค์, นครศรีธรรมราช, สระบุรี, สงขลา, สุพรรณบุรี และอุบลราชธานี

จังหวัดที่ร่วมรายการ และสามารถส่งปลายทางได้เฉพาะในจังหวัดเท่านั้น เชียงใหม่, เชียงราย, ลำปาง, ลำพูน, ลพบุรี, นครปฐม, พะเยา, พิษณุโลก, ภูเก็ต, ราชบุรี, ระยอง, ร้อยเอ็ด, สุราษฎร์ธานี และอุดรธานี

ไปรษณีย์
ภาพจาก Facebook ของไปรษณีย์ไทย

ขณะที่ไปรษณีย์ไทยดันหันมาขึ้นราคา ส่งสินค้าน้ำหนักไม่ถึง 500 กรัม จะคิดค่าบริการ 30 บาท จากเดิม ไม่รวมลงทะเบียนอยู่ที่ 3-15 บาท (อ่านเพิ่มได้ที่นี่ ไปรษณีย์ไทย ขึ้นราคา ส่งพัสดุใดๆ เริ่มต้น 30 บาท เลิกใช้มาตรฐานเดียวกับส่งซองจดหมาย)

ที่มา – Flash, Kerry

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post สมรภูมิแย่งชิงลูกค้า! แฟลช เอ็กซ์เพรส-เคอร์รี่แข่งกันลดราคา แต่ไปรษณีย์ไทยขึ้นราคา first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/flash-versus-kerry-express-on-price-war-but-thailand-post/

ไปรษณีย์ไทย ปรับอัตราค่าบริการครั้งแรกในรอบ 18 ปี พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษวันอาทิตย์ค่าส่งเริ่มต้น 19 บาท

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ชี้แจงการปรับอัตราค่าบริการส่งจดหมาย ซึ่งเป็นการปรับอัตราค่าบริการครั้งแรกในรอบ 18 ปี โดยเป็นการปรับราคาเฉพาะบริการจดหมายในประเทศเท่านั้น คือ จดหมายประเภทซอง และจดหมายประเภทหีบห่อ 

การส่งจดหมายประเภทซองพิกัดแรก น้ำหนักไม่เกิน 10 กรัม ยังคงไว้ที่ 3 บาทเช่นเดิม ส่วนจดหมายประเภทซองที่น้ำหนักเกิน 10 กรัม และประเภทหีบห่อ จำเป็นต้องปรับราคาให้สอดรับกับสภาวะเศรษฐกิจและต้นทุน เริ่มตั้งแต่วันที่  6 กรกฎาคม 2565 ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการไปรษณีย์ลงทะเบียน 

อย่างไรก็ตาม ไปรษณีย์ไทยมีโปรโมชั่นบริการ EMS ที่ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ใช้บริการและต้นทุนผู้ประกอบการ โดยส่ง EMS วันจันทร์ –  วันเสาร์ค่าส่งเริ่มต้น 25 บาท และพิเศษวันอาทิตย์ค่าส่งเริ่มต้น 19 บาท สามารถเช็คสถานะได้ตลอดเส้นทางเหมือนเดิม

นอกจากนี้ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ภาคธุรกิจซึ่งฝากส่งเอกสารและจดหมายกับไปรษณีย์ไทยมาอย่างต่อเนื่อง หรือส่งในปริมาณมากๆ จะมีการมอบส่วนลดในอัตราพิเศษ สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ www.thailandpost.co.th และที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ

from:https://www.thumbsup.in.th/thai-post-rise-price?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=thai-post-rise-price

ผู้ประกอบการธุรกิจ e-Commerce ต้องมี! Thailand Post Prepaid Card จัดเต็มสิทธิประโยชน์ รับ Cash Back ฟรีค่าธรรมเนียม รับส่วนลดกิน ช้อป เที่ยว จาก Mastercard

เดี๋ยวนี้อะไรก็ใช้ระบบไร้สัมผัส หรือ Contactless ทั้งเพื่อความสะดวกสบาย และความปลอดภัยของทุกคน มีหลากหลายสินค้าและบริการที่เพิ่มระบบรับชำระเงินแบบ Contactless และกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นนอกจากการรองรับระบบออนไลน์แล้ว ระบบ Contactless เป็นอีกส่วนที่มีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นเป็นเทรนด์ที่ทำให้หลายคนลืมการใช้เงินสดไปเลย

และจากการเติบโตของการใช้ระบบ Contactless นี่เอง ทำให้ ไปรษณีย์ไทย ร่วมมือกับ มาสเตอร์การ์ด และ ทูซีทูพี พลัส (ประเทศไทย) ผู้นำด้านระบบ Payment ของไทย เปิดตัวบัตร Thailand Post Prepaid Card บัตรทอง เพื่อธุรกิจใบแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เข้ามาตอบโจทย์ขั้นสุดด้วยบัตรแบบ Virtual Card ใช้จ่ายได้แบบไร้เงินสด หรือถ้าใครที่อยากจะถือในรูปแบบบัตรแข็งก็สามารถทำได้เช่นกัน

ไปรษณีย์ไทย

Thailand Post Prepaid Card บัตรเดียวตอบโจทย์คนทำธุรกิจ

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของไปรษณีย์ไทย บอกว่า ความร่วมมือกับ มาสเตอร์การ์ด และ ทูซีทูพี พลัส (ประเทศไทย) เปิดตัวบัตร Thailand Post Prepaid Card หรือ Business Card บัตรทอง คือ การขยายความสะดวกสบายในการใช้จ่ายอย่างไร้ขีดจำกัดให้กับลูกค้า COD ของไปรษณีย์ไทย

ผู้ประกอบการ e-Commerce ที่ถือบัตร Thailand Post Prepaid Card บัตรทอง เมื่อขายสินค้าและได้รับเงินค่าบริการเก็บเงินปลายทาง หรือ COD เข้ามาในแอปพลิเคชั่น Wallet@POST จะได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น จากเดิมสามารถใช้เงินจำนวนนี้ในการชำระค่าสาธารณูปโภค คือ ค่าน้ำประปา, ค่าไฟฟ้า และค่าภาษีศุลกากรได้ หรือเลือกโอนเงินไปยังบัญชีธนาคาร

Thailand Post Prepaid Card บัตรทอง ได้เข้ามาเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้จ่ายให้มากขึ้น โดยสามารถชำระค่าฝากส่งสิ่งของ ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งออนไลน์ – ออฟไลน์ได้ทุกที่ ที่มีสัญลักษณ์ Mastercard เป็นการเพิ่มอิสระในการใช้จ่ายผ่านบัตร

และนอกจากนี้ ผู้ประกอบการ e-Commerce ยังสามารถใช้เป็นส่วนลดในการซื้อเครื่องมือบริหารร้านค้าได้อย่างมืออาชีพ ไม่ว่าจะโปรแกรมทำบัญชี หรือโปรแกรมจัดการใบแจ้งหนี้แบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่มาสเตอร์การ์ดเตรียมคัดสรรไว้เพื่อลูกค้าไปรษณีย์ไทยโดยเฉพาะ

สิทธิประโยชน์ทั้งหมดไม่ใช่ใครก็ใช้ได้ แต่ต้องเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เจ้าของธุรกิจ e-Commerce เท่านั้น

คุ้มยิ่งขึ้นด้วยโปรโมชันพิเศษและสิทธิประโยชน์เหนือระดับ

โปรพิเศษส่งท้ายปี! … รับ Cash Back เงินคืนเข้า Wallet@POST จัดเต็ม 2 ต่อ

  • ต่อที่ 1 รับ 200 บาท เมื่อสมัครเปิดบัตรและมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 5,000 รายแรก
  • ต่อที่ 2 รับเพิ่มอีก 100 บาท เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรครบทุกๆ 10,000 บาท (สูงสุดไม่เกิน 1000 บาท/คน) ตั้งแต่วันนี้ – 31 ม.ค. 2565

ยังไม่จบ โดยยังมีส่วนลดค่าโรงแรม ค่าอาหารและร้านค้าชั้นนำ ลุ้นรับ e-Voucher อีกมากมาย เรียกว่า ผู้ประกอบการ e-Commerce ที่มีบัตร Thailand Post Prepaid Card ติดตัวไว้ มีโอกาสได้รับ Cash Back เงินคืน, ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี และรับส่วนลดโปรโมชั่น ทุกที่ที่มีสัญลักษณ์ Mastercard บัตรเดียวคุ้ม
สนใจสมัครบัตร Thailand Post Prepaid Card ง่ายกว่าที่คิด

ดาวน์โหลดแอป Wallet@POST และทำการยืนยันตัวตนเพื่อความปลอดภัยในการเปิดใช้แอป จากนั้นทำการสมัครเปิดบัตร Thailand Post Prepaid Card ได้เลย โดยสามารถเลือกซื้อบัตรแข็ง ได้ในราคา 150 บาท หรือสร้างบัตรเสมือนจริงไว้ใช้กับร้านค้าออนไลน์ที่มีสัญลักษณ์ Mastercard ได้ทันที

สำหรับบัตร Thailand Post Prepaid Card จะมี 2 ประเภท

  1. บัตรสีชมพู – สำหรับผู้ใช้บริการแอป Wallet@POST ทั่วไป ที่ไม่ได้ใช้บริการเก็บเงินปลายทาง COD
  2. บัตรสีทอง Business Card – สำหรับเจ้าของธุรกิจ e-Commerce ที่ใช้บริการเก็บเงินปลายทาง COD

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://postfamily.thailandpost.com/walletpost-cod-thp-card/thailand-post-prepaid-card/

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ผู้ประกอบการธุรกิจ e-Commerce ต้องมี! Thailand Post Prepaid Card จัดเต็มสิทธิประโยชน์ รับ Cash Back ฟรีค่าธรรมเนียม รับส่วนลดกิน ช้อป เที่ยว จาก Mastercard first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/thailand-post-prepaid-card/

AIS ชวนรักษ์โลก…เปิดบริการฝากทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์กับบุรุษไปรษณีย์ ฟรี ๆ จากหน้าบ้าน

คาดว่าหลาย ๆ คนน่าจะมีขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Waste อยู่ในบ้านกันบ้างอย่างน้อย ๆ ก็ 2 – 3 ชิ้น แต่ไม่รู้ว่าจะเอาไปทิ้งที่ไหนดี ทิ้งในถังขยะทั่วไปก้กลัวจะไปเกิดอันตรายกับพนักงานกำจัดขยะเข้า หรือถ้าคิดไกลหน่อยก็กลัวว่าอาจจะไปทำลายสิ่งแวดล้อมเข้า แล้วยิ่งสถานการณ์ COVID-19 แบบนี้ การจะออกไปหาที่สำหรับทิ้ง E-Waste ยิ่งไม่ใช่เรื่องเลย… AIS เห็นแบบนี้ก็เลยขอเปิดตัวโครงการเก็บตัวได้…แต่อย่าเก็บ Waste” ซึ่งเป็นบริการฝากทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์กับบุรุษไปรษณีย์ที่ขี่รถผ่านหน้าบ้านได้แบบฟรี ๆ 

เป็นเรื่องที่น่าจะรู้กันดีว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์เนี่ย เป็นขยะที่ไม่สามารถกำจัดได้เหมือนกับขยะทั่วไป เพราะมันเป็นขยะอันตรายที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ถ้าเอาไปทิ้ง หรือกำจัดไม่ถูกวิธี (อย่างเช่นเผา หรือฝังดิน) ก็จะเป็นการปล่อยสารพิษที่เป็นอันตรายต่อตัวเองและสิ่งแวดล้อมได้

ก่อนหน้านี้ทาง AIS เคยจับมือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดโครงการ “คนไทยไร้ E-Waste” มาแล้ว โดยให้เอาเหล่า E-Waste ไปทิ้งได้ที่จุดวางถังรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ ตามสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ทั่วประเทศ หรือจุดรับทิ้ง E-Waste ตาม AIS Shop ทั่วประเทศก็ได้ แต่เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันทำให้การเดินทางออกนอกบ้านเพื่อทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ ดูจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แถมยังเสี่ยงเชื้อโรคอีกต่างหาก

คราวนี้ทาง AIS ก็เลยไปจับมือกับไปรษณีย์ไทย จัดโครงการใหม่ขึ้นมาเป็น เก็บตัวได้…แต่อย่าเก็บ Waste” เพื่ออำนวยความสะดวกและลดความเสี่ยงลงไป เพราะสามารถฝากทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้กับบุรุษไปรษณีย์ที่ขี่ผ่านหน้าบ้านของเราได้โดยไม่มีค่าบริการใด ๆ ทั้งสิ้น

วิธีการฝากทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์กับบุรุษไปรษณีย์ก็ง่าย ๆ แค่นำเอาขยะดังกล่าวใส่กล่องและเอากระดาษปะพร้อมเขียนหน้ากล่องว่า “ฝากทิ้ง ขยะอิเล็กทรอนิกส์” จากนั้นก็เอาไปฝากกับบุรุษไปรษณีย์ที่หน้าบ้านเราได้เลย



 

สำหรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Waste ที่จะฝากไปรษณีย์ไปกำจัดได้จะมีทั้งหมด 5 ประเภทคือ

  1. มือถือ หรือแท็บเล็ต
  2. สายชาร์จ
  3. หูฟัง
  4. พาวเวอร์แบงก์
  5. แบตเตอรี่มือถือ

แค่นี้เราก็สามารถกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่วางหลบ ๆ ซ่อน ๆ เอาไว้ตามส่วนต่าง ๆ ของบ้านได้แบบถูกวิธีกันแล้วล่ะครับ (บางคนอยากทิ้งให้ถูกวิธี…แต่ก็ไม่รู้จะเอาไปทิ้งที่ไหน ผมด้วยคนนึงล่ะ 555)

 

ที่มา : อีเมลประชาสัมพันธ์

from:https://droidsans.com/ais-e-waste-disposal-service/

ฟิ้วซ์​​ โพสต์ บริการขนส่งควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน ความร่วมมือจาก ไปรษณีย์ไทย-JWD-Flash Express

มูลค่าธุรกิจขนส่งควบคุมอุณหภูมิในประเทศไทย มีมูลค่าตลาดในปี 2564 ประมาณ 34,000 ล้านบาท เติบโตปีละ 8% หรือคิดเป็นสัดส่วน 5% ของตลาดโลจิสติกส์ทั้งหมด และคาดการณ์ว่าการเติบโตของธุรกิจขนส่งรูปแบบนี้จะมีการเติบโตถึง 8-10% ในปี 2565

fuze post

ดังนั้น บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด, บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ร่วมมือกันปั้น ฟิ้วซ์ โพสต์ (FUZE POST) ธุรกิจขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน (Cold Chain Express) ลุยให้บริการ Cold Chain Logistics ประเทศไทย พร้อมให้บริการ 1 กันยายน 2564

สำหรับระยะแรก FUZE POST จะเน้นให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และ 6 เส้นทางภูมิภาค คือ หนองคาย เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ตราด และบางละมุงเป็นหลักก่อน สำหรับลูกค้ารูปแบบ B2B B2C และ C2C ที่เป็นกลุ่มลูกค้าเดิมของ ไปรษณีย์ไทย และ JWD สำหรับลูกค้าใหม่จะเน้นการให้บริการแบบ Direct Pick-up เป็นหลัก โดยเรียกใช้บริการผ่าน www.fuzepost.co.th และมีแผนจะเปิดให้บริการจุดรับฝาก (Drop off) ขยายเส้นทางขนส่งระหว่างภูมิภาคในเดือนมกราคม 2564

ปัจจุบันการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยจากความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงความต้องการในการขนส่งสินค้าทางการเกษตร ธุรกิจแฟรนไชส์อาหารสด ยาและเวชภัณฑ์ ฯลฯ ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

fuze post

ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด บอกว่า ฟิ้วซ์ โพสต์ เกิดขึ้นจากการดึงจุดแข็งของทั้ง ไปรษณีย์ไทย JWD และ Flash Express มาขับเคลื่อนการให้บริการที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น โดยไปรษณีย์ไทยมีศักยภาพในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งแบบ Door to Door ที่มีเครือข่ายที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะบุรุษไปรษณีย์กว่า 20,000 คน ที่รู้จักทุกพื้นที่ใกล้ชิดกับชุมชน เมื่อผนวกกับความเชี่ยวชาญด้านการขนส่งควบคุมอุณหภูมิของ JWD และเทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารจัดการที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดีของ Flash Express จะทำให้ “ฟิ้วซ์ โพสต์” สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิที่แข็งแกร่งในธุรกิจ Cold Chain Express ได้

ชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า JWD เป็นผู้นำตลาดและดำเนินธุรกิจด้าน Cold Chain Logistics & Supply Chain มากว่า 25 ปี มีองค์ความรู้และความชำนาญครบทั้งในด้านคลังจัดเก็บและบริหารจัดการสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ศูนย์กระจายสินค้าควบคุมอุณหภูมิ  การขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ รวมไปถึงการบริหารจัดการซัพพลายเชนของธุรกิจอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการผลิตหรือแปรรูปอาหาร ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญทางด้านระบบควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า เทคโนโลยีในการบริหารจัดการอุณหภูมิตลอดทั้งซัพพลายเชน ตลอดจนเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม

ที่ผ่านมาทาง JWD ได้ให้บริการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิให้กับกลุ่มลูกค้า B2B มากว่า 15 ปี และได้เปิดบริการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน หรือ Cold Chain Express ให้กลุ่มลูกค้า B2C และ C2C มาเป็นระยะเวลา 2 ปี ภายใต้ชื่อ JWD Express ดังนั้น การผนึกกำลังร่วมกับไปรษณีย์ไทย และ Flash Express ในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวที่สำคัญที่สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดในธุรกิจ Cold Chain Express และเป็นการขับเคลื่อนการเติบโตธุรกิจทางด้าน e-Commerce ตามแผนธุรกิจ 5 ปีที่ได้วางไว้ JWD เชื่อมั่นว่าการเอาจุดแข็งของพันธมิตรแต่ละฝ่าย มารวมกันในครั้งนี้ ภายใต้ชื่อ “ฟิ้วซ์ โพสต์” จะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการส่งมอบบริการที่มีคุณภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายในอนาคต

คมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด บอกว่า Flash Express เล็งเห็นถึงโอกาสในการเข้ามาทำตลาดในกลุ่มธุรกิจ Cold Chain จึงจับมือร่วมทุนกับผู้นำในตลาดอีก 2 บริษัท ในการรุกตลาด Cold Chain Logistics โดยตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย และในอาเซียนต่อไป โดยทีมงาน IT ของ Flash Express กว่า 100 คนได้เตรียมวางระบบขนส่งในรูปแบบ Cold Chain Management System ทั้งในส่วนของ Fast optimization and tech adaption (การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมาปรับปรุงระบบให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน และแก้ไขปัญหาอย่างท่วงทัน ท่วงที), Cloud computing (การคำนวณด้วยเทคโนโลยี), System infrastructure ตลอดจนการวางระบบเชื่อมการทำงานเข้ากับระบบปฏิบัติการ (Application Programming Interface: API),ระบบจัดการคำสั่งซื้อ (Order Management System: OMS)

ทั้งนี้ ฟิ้วซ์ โพสต์ เป็นการขนส่งและกระจายสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน ที่เปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจจาก “คู่แข่งขันมาเป็นคู่ค้า” เพื่อพัฒนาระบบการจัดการขนส่งให้แข็งแกร่ง ผู้ใช้บริการจะได้สัมผัสถึงความเชี่ยวชาญด้านการเข้าถึงลูกค้าทุกพื้นที่ของไปรษณีย์ไทย ที่พร้อมส่งมอบความสดใหม่ให้ถึงกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ จุดแข็งในด้านการเป็นผู้นำตลาดของ JWD ที่เข้าถึงและตอบสนองทุกความต้องการกลุ่มลูกค้า รวมทั้งเทคโนโลยีสุดล้ำด้านอีคอมเมิร์ซของ Flash Express ที่จะพลิกโฉมภาคการค้าวิถีใหม่ให้ก้าวกระโดดในทุกโซลูชัน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ฟิ้วซ์​​ โพสต์ บริการขนส่งควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน ความร่วมมือจาก ไปรษณีย์ไทย-JWD-Flash Express first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/fuze-post/

AIS และไปรษณีย์ไทย เปิดบริการเติมเงินมือถือกับบุรุษไปรษณีย์ถึงหน้าบ้าน เริ่มต้นแค่ 10 บาท ไม่มีค่าธรรมเนียม

ปกติแล้วเหล่าลูกค้าบริการมือถือแบบเติมเงินถ้าจะเอาแบบสะดวกสุด ๆ ก็มีทั้งบริการเติมเงินผ่านระบบออนไลน์หรือหักจากบัตรเครดิตได้เลย แต่สำหรับคนที่ไม่มีบัตรเครดิต, ไม่มี E-Banking หรือยังใช้บริการเติมเงินมือถือผ่านระบบออนไลน์ไม่ค่อยคล่อง ก็มักจะออกไปซื้อบัตรเติมเงินมาใช้ หรือออกไปกดเติมเงินตามตู้แทน…ซึ่งในสถานการณ์ COIVD-19 แบบนี้ ทำให้หลาย ๆ คนไม่ค่อยอยากออกจากบ้านเท่าไหร่นัก AIS ก็เลยไปจับมือกับไปรษณีย์ไทย เปิดบริการรับเติมเงินมือถือกับบุรุษไปรษณีย์ให้ถึงหน้าบ้านซะเลย!

เรียกว่าเป็นบริการที่เปิดขึ้นมาเพื่อเอาใจผู้ใช้งานมือถือระบบเติมเงินที่ไม่ชอบวุ่นวายกับระบบออนไลน์เติมเงินผ่านแอปซึ่งต้องมีการผูกบัญชีกับแอป E-Banking หรือบัตรเครดิตต่าง ๆ โดยเฉพาะเหล่าญาติผู้ใหญ่ที่ไม่ค่อยจะถนัดกับเรื่องแบบนี้นัก และมักจะใช้บริการตู้เติมเงินหรือเดินไปซื้อบัตรเติมเงินจากร้านค้ามากกว่า แต่อย่างที่รู้ ๆ กันว่าช่วงนี้สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจให้ออกจากบ้านไปกดตู้เติมเงิน หรือออกไปร้านค้าใกล้บ้าน เพราะมีความเสี่ยงที่จะเจอกับผู้คนมากมายให้เสี่ยงกับเชื้อโรค

ทาง AIS ก็เลยขอเอาใจลูกค้าระบบเติมเงินด้วยการร่วมมือกับไปรษณีย์ไทยเปิดบริการให้ลูกค้า AIS สามารถเติมเงินมือถือจากเหล่าบุรุษไปรษณีย์ที่ปกติจะแวะเวียนผ่านหน้าบ้านกันทุกวันอยู่แล้ว โดยสามารถเรียกเพื่อขอใช้บริการเติมเงินมือถือระบบ AIS One-2-Call จากหน้าบ้านได้เลย จะเติมเริ่มต้นขั้นต่ำแค่ 10 บาทก็ได้ ไม่มีค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น

นอกจากนี้ยังมีบริการซื้อซิมมือถือกับบุรุษไปรษณีย์ได้เลย หรือว่าใครต้องการสมัครเน็ตบ้าน AIS Fibre แต่ไม่สะดวกเดินทางไปที่ศูนย์บริการ ก็ยังสามารถเข้ามาสมัครกับไปรษณีย์ไทย (ปณ.) 58 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาคได้อีกด้วยนะ

สำหรับการเติมเงินมือถือ AIS กับบุรุษไปรษณีย์ดังกล่าว เริ่มเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้ ทั่วประเทศไทยครับ ก็เรียกว่าเป็นบริการดี ๆ จาก AIS ที่น่าจะถูกใจหลาย ๆ คนที่ไม่ถนัดการเติมเงินผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงไม่อยากจะออกไปเสี่ยงเชื้อโรคนอกบ้านในสถานการณ์แบบนี้จริง ๆ ครับ

 

ที่มา : อีเมลประชาสัมพันธ์

from:https://droidsans.com/ais-x-thailand-post-topup-with-postmen/

AIS จับมือ ไปรษณีย์ไทย ผุดช่องทางใหม่ เติมเงินกับพี่ไปรฯ สะดวกถึงหน้าบ้านทั่วไทย ปลอดภัย ห่างไกลโควิด

AIS จับมือ ไปรษณีย์ไทย ผุดช่องทางใหม่ เติมเงินกับพี่ไปรฯ สะดวกถึงหน้าบ้านทั่วไทย ปลอดภัย ห่างไกลโควิด -19

AIS ผู้นำเครือข่าย 5G ชั้นนำระดับภูมิภาคไทยที่มีคลื่นมากที่สุด ครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัล สานต่อความร่วมมือกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ผู้นำด้านการขนส่งโลจิสติกส์ของไทย ที่มีเครือข่ายครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย ส่งแคมเปญ “สะดวก ง่าย พี่ไปรฯ มาเติมเงินให้ถึงบ้าน” ผุดช่องทางใหม่ อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าถึงหน้าบ้าน เป็นทางเลือกที่สามารถเลี่ยงการสัมผัสหรือออกไปในพื้นที่ชุมชนได้ โดยลูกค้า AIS 1 2 call สามารถเติมเงินโทรศัพท์กับพี่ไปรฯ ได้แล้ววันนี้ ทั่วประเทศ เริ่มต้นเพียง 10 บาท และไม่มีค่าธรรมเนียม

AIS มีความมุ่งมั่นที่ต้องการสร้างความสะดวกให้กับลูกค้าของเราอย่างเต็มที่ด้วยบริการที่ครอบคลุม โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สิ่งแรกที่ลูกค้าของเราต้องได้รับคือความสะดวกและปลอดภัย ซึ่งเราได้ร่วมมือ ทรานส์ฟอร์มกับไปรษณีย์ไทยมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ และวันนี้เราและไปรษณีย์ไทยได้ทรานส์ฟอร์มพี่ไปรฯ ไปอีกขั้น ผ่านแคมเปญ “สะดวก ง่าย พี่ไปรฯ มาเติมเงินให้ถึงบ้าน นับเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยสร้างความสะดวกและปลอดภัยให้กับลูกค้าในช่วงวิกฤติโควิด-19 นี้ เพื่อให้ลูกค้าของ AIS   ทั่วประเทศที่ต้องการเติมเงิน ลดการสัมผัสอุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกับผู้อื่น โดยสามารถเติมเงินโทรศัพท์กับพี่ไปรฯ ได้ที่หน้าบ้าน  ซึ่งพี่ไปรฯ ถือเป็นหนึ่งในตัวแทน เอ็มเปย์ สเตชั่น การเติมเงินในรูปแบบออนไลน์ เมื่อเติมเสร็จลูกค้าสามารถใช้งานได้ทันที ไม่จำเป็นต้องออกจากบ้านไปในพื้นที่ต่างๆ ที่มีความเสี่ยง

ไปรษณีย์ไทยพร้อมตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีความต้องการที่หลากหลาย รวมถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ทำให้ผู้คนปรับตัว มีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ต้องการอะไรที่สะดวกสบายและทำได้ง่ายที่บ้าน โดยพี่ไปรฯ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญการนำจ่ายสิ่งของในทุกพื้นที่และใกล้ชิดคนไทยเป็นผู้เสิร์ฟความสะดวกนี้ ให้บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือ AIS 1 2 call ถึงหน้าบ้าน ทั่วไทย เริ่มต้นเพียง 10 บาท ก็สามารถเติมเงินได้ เชื่อว่าบริการนี้จะช่วยอำนวยความสะดวก ให้ประชาชนไม่ต้องเดินทางออกจากบ้านในช่วงนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัดและพื้นที่ห่างไกล และช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ให้แก่ผู้ใช้บริการได้อย่างแน่นนอน

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกันขยายการให้บริการผ่านพี่ไปรฯ ส่งมอบสินค้าและบริการดิจิทัล สุดพิเศษทั้งซิมระบบเติมเงินรายเดือน มือถือ และเน็ตบ้าน ในราคาสุดคุ้ม โดยพี่ไปรฯ ส่งตรงถึงหน้าบ้าน หรือหาซื้อได้ที่ ปณ. 58 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค ซึ่งจะครอบคลุมทั่วประเทศในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่าง AIS และไปรษณีย์ไทยในครั้งนี้ นับเป็นการสานต่อพลังความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของทั้งสองฝ่าย โดย AIS ผู้นำเครือข่ายคุณภาพที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และความกว้างไกลของไปรษณีย์ ที่มุ่งหวังอยากให้คนไทยได้รับความสะดวกสบาย ง่าย และคุ้มค่า กับสินค้าและบริการที่คัดสรรพิเศษมาโดยเฉพาะ เพื่อส่งมอบความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19

ข่าว: AIS จับมือ ไปรษณีย์ไทย ผุดช่องทางใหม่ เติมเงินกับพี่ไปรฯ สะดวกถึงหน้าบ้านทั่วไทย ปลอดภัย ห่างไกลโควิด มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/ais-shake-hands-thailandpost-prepaid/