แคนนอน ประกาศอันดับ 1 ตลาดพรินเตอร์ไทย รุกธุรกิจทุกขนาดเน้น B2B พร้อมเปิด 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่

บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด (Canon) ประกาศครองตำแหน่งพรินเตอร์อันดับ 1 ของเมืองไทยมาตั้งแต่ปี 2020 รวมถึงปี 2022 ที่ผ่านมา และเปิดแผนกลยุทธ์ปี 2023 เจาะกลุ่มลูกค้าในทุกเซกเมนต์ เน้นกลุ่ม B2B พร้อมประกาศแคมเปญการตลาดแห่งปี “แคนเซิลทุกเรื่องยากด้วยแคนนอนพรินเตอร์”

พร้อมเปิดตัวพรินเตอร์ซีรีย์ใหม่ ได้แก่ อิงค์เจ็ทพรินเตอร์รุ่น G Series แบบ ‘มินิอิงค์’ (G-Series – Mini Ink), อิงค์เจ็ทพรินเตอร์แบบหมึกแทงค์เพื่อธุรกิจ (Business Ink Tank), เลเซอร์พรินเตอร์ (Laser Printers) และพรินเตอร์หน้ากว้างแบบตั้งโต๊ะ (Desktop Large Format)

ฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า แคนนอนพร้อมกลับมาครองแชมป์ส่วนแบ่งการตลาดผลิตภัณฑ์พรินเตอร์อีกครั้งตั้งแต่ปี 2020 รวมถึงปี 2022 มีส่วนแบ่งตลาด 32% และสำหรับในปี 2023 นี้ จะเน้นใน 4 ด้าน ได้แก่ ความเข้าใจใน Demand (อุปสงค์) ของลูกค้าทุกกลุ่ม การยกระดับ Supply (อุปทาน) ให้เพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน ซึ่งก็คือ Product (ผลิตภัณฑ์) คุณภาพสูงที่ใช้ง่าย ไม่มีสะดุด รวมไปถึงการมี Service Partner (พันธมิตรผู้ให้บริการ) มีสาขาให้บริการ 164 แห่งครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มให้ได้ถึง 180 แห่งภายในปีนี้

ตลาด B2B กลับมาคึกคัก ตลาด B2C เริ่มคงที่

เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2023 ผู้คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงาน เริ่มกลับมาใช้ชีวิตนอกบ้านและออกไปทำงานกันตามปกติมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของลูกค้ากลุ่มธุรกิจ (B2B) อย่างชัดเจน ในขณะที่ลูกค้ารายบุคคล (B2C) เริ่มมีอัตราเติบโตคงที่ ประกอบกับข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ประจำปี 2022 แสดงให้เห็นว่าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของไทยมีการเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังผ่านพ้นวิกฤติการแพร่ระบาด โดยจำนวนผู้ประกอบการ SMEs เพิ่มจาก 58,058 รายในปี 2021 เป็น 72,480 ราย ในปี 2022 ซึ่งในจำนวนนี้คิดเป็นธุรกิจก่อสร้างทั่วไป 9% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 6% และธุรกิจอาหาร 4%

อย่างไรก็ดี เนื่องจากแนวคิดความยืดหยุ่นของสถานที่ปฏิบัติงานและการทำงานที่บ้าน (Work from Home) ยังคงเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทำให้เรายังเห็นถึงความสำคัญของลูกค้ากลุ่ม B2C ซึ่งแคนนอนเป็นแบรนด์ที่แข็งแรงมากในตลาด B2C มาอย่างยาวนาน และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อลูกค้ากลุ่มนี้มาอย่างต่อเนื่อง แคนนอนจึงนำเสนอพรินเตอร์ทั้ง INKJET Printer ได้แก่ TS Series, G Series, E Series, GX Series และ LASER Printer ทั้งสีและขาวดำ ที่สามารถตอบทุกความต้องการตั้งแต่การใช้งานในครัวเรือน ไปจนถึงองค์กรธุรกิจทุกขนาดและหน่วยงานภาครัฐได้อย่างครบครัน

เปิดตัวแคมเปญการตลาดแห่งปี “แคนเซิลทุกเรื่องยากด้วยแคนนอนพรินเตอร์”

แคนนอน คำนึงถึงพฤติกรรมผู้ใช้งาน (Consumer behavior basis) ในการพัฒนาสินค้าและแก้ไข Pain point ของการใช้พรินเตอร์ในแต่ละกลุ่ม เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงและคุ้มค่ามากที่สุด ผ่านการพิจารณาผู้ใช้งาน 5 กลุ่มหลัก เพื่อส่งมอบมูลค่า (Value) ที่แตกต่างกันตามลักษณะการใช้งาน ซึ่งได้แก่

1. นักเรียนนักศึกษา >> งบประมาณน้อย >> Value: ลงทุนครั้งเดียว ประหยัดตลอดไป
2. ผู้ใช้งานในครัวเรือน >> การใช้งานมากน้อยต่างกันในแต่ละวัน >> Value: ใช้ง่ายได้ทุกคน ยังไงก็คุ้ม
3. พนักงานบริษัทหรือสตาร์ตอัป >> ใช้ไม่เป็น ซ่อมเองไม่ได้ ปัญหาเยอะ >> Value: ใช้ง่าย ซ่อมก็ยังง่าย
4. ธุรกิจขนาดเล็ก SMEs >> งานพิมพ์ซับซ้อนหลายประเภท >> Value: ประหยัดเวลา ทำให้ธุรกิจง่ายขึ้น
5. มืออาชีพขั้นสูง >> ต้องการงานพิมพ์คุณภาพสูง >> Value: งานโปรแค่ไหนก็ง่าย

และเพื่อตอบโจทย์ด้านการใช้งานที่ง่ายสำหรับผู้ใช้ทุกกลุ่ม ภายในงาน แคนนอนจึงได้เปิดตัวสินค้าใหม่ใน 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่

• MINI INK (รุ่น G1730, G2730 และ G3730) รองรับผู้ใช้งานกลุ่ม B2C โดยเฉพาะ รวมถึงกลุ่ม B2B ระดับต้น เช่น ร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็ก ชูจุดเด่นการลดต้นทุนค่าหมึก ผู้ใช้งานยังสามารถเปลี่ยนหัวพิมพ์และแผ่นซับหมึกเองได้ โดยที่ยังคงได้งานพิมพ์คุณภาพดีที่คุ้มค่าสุงสุด
• BUSINESS INK TANK (รุ่น GX3070 และ GX4070) จับกลุ่ม B2B ที่เป็นธุรกิจ SMEs หรือ Home Office ที่มีการใช้งานมากกว่าในครัวเรือน โดยมอบงานพิมพ์คุณภาพสูงขึ้น แต่ยังคงความคุ้มค่า ใช้งานและดูแลรักษาง่าย
• LASER FULL RANGE ในครึ่งปีแรกนี้แคนนอนเปิดตัวเครื่องพิมพ์เลเซอร์รุ่นใหม่พร้อมกันถึง 13 รุ่น
  – เลเซอร์พรินเตอร์ 6 รุ่น ได้แก่ LBP121dn / LBP122dw / LBP361dw / LBP456w / LBP458x / LBP 722cx
  – เลเซอร์มัลติฟังก์ชัน 7 รุ่น ได้แก่ MF271dn / MF272dw / MF274dn / MF275dw / MF264dwII / MF266dnII / MF269dwII

พร้อมตอบโจทย์ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงระดับเอ็นเตอร์ไพรส์ โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล หรือแม้แต่หน่วยงานรัฐบาลขนาดใหญ่

• DESKTOP LARGE FORMAT (รุ่น TC-20M) ตอบโจทย์งานพิมพ์หน้ากว้างที่จัดวางได้ในสำนักงานทุกขนาด พร้อมมอบประสิทธิภาพและความคุ้มค่าเหนือแบรนด์คู่แข่ง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post แคนนอน ประกาศอันดับ 1 ตลาดพรินเตอร์ไทย รุกธุรกิจทุกขนาดเน้น B2B พร้อมเปิด 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/canon-annouce-no1-thailand-printer-market/

Canon เปิดบริการเช่ากล้อง-เลนส์ เริ่มต้นวันละ 200 บาท

แคนนอน ประเทศไทยเริ่มให้บริการเช่ากล้อง เลนส์ และอุปกรณ์เสริมแก่ผู้ที่สนใจทั้งช่างภาพมืออาชีพและมือสมัครเล่น ในราคาเช่ากล้องเริ่มต้นวันละ 300 บาท เลนส์เริ่มต้นวันละ 200 บาท

แคนนอน ประเทศไทย เอาใจผู้สนใจการถ่ายภาพ-ช่างภาพอาชีพ ด้วยบริการให้เช่ากล้อง เลนส์ และอุปกรณ์เสริมครบครัน รองรับตั้งแต่การออกทริปท่องเที่ยว ไปจนถึงถ่ายงานเฉพาะกิจ โดยไม่ต้องจ่ายเงินก้อนซื้อกล้อง เลนส์ และอุปกรณ์ในราคาเต็ม

โดยวางระดับอัตราค่าเช่ารายวันที่เน้นความคุ้มค่า พร้อมบริการจากศูนย์ แคนนอน สำนักงานใหญ่ และระบบการจอง-รับ-คืนสินค้าที่สามารถทำผ่านทางอีเมล์ได้อีกด้วย โดยรายละเอียดค่าเช่าและอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นดังนี้

• กล้องเริ่มต้นที่วันละ 300-2,500 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
• เลนส์เริ่มต้นที่วันละ 200-3,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
• อุปกรณ์เสริมเริ่มต้นที่วันละ 200-300 บาท (ขึ้นอยู่กับชนิด)

อย่างไรก็ตาม ผู้เช่าจะต้องวางมัดจำเป็นเงินสดจำนวน 50% ของราคาสินค้าที่เลือกรับ โดยจะได้รับเงินค่ามัดจำคืนทั้งหมดเมื่อตรวจสอบแล้วว่าสินค้าที่เช่าไม่ได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการเช่าสามารถจองรายการอุปกรณ์ที่ต้องการและแจ้งระยะเวลาเช่าผ่านทางอีเมล์ (ค่าเช่านับรวมวันหยุด) เมื่อได้รับการยืนยันจากทีมงานสามารถรับและคืนสินค้าได้ที่ศูนย์บริการแคนนอน สำนักงานใหญ่ ชั้น 24 อาคาร สาทรสแควร์ กรุงเทพฯ โดยต้องติดต่อขอเช่าสินค้าล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 1 วันทำการ เนื่องจากไม่มีบริการ walk in

สามารถตรวจสอบรายการกล้อง เลนส์ และอุปกรณ์เสริมทั้งหมด และราคาเช่าของแต่ละรุ่น ตลอดจนเงื่อนไขในการเช่าได้ที่ลิงก์ : http://bit.ly/3G193LV หรือ โทร.สอบถาม Canon Call Center โทร. 0-2344-9999 หรือที่ Line Official @CanonThailand

from:https://www.thumbsup.in.th/canon-rent-equipment?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=canon-rent-equipment

Canon UK ผสานร่วมกับทีม AdEPT บุกบริการไอทีบนเกาะอังกฤษ

Canon UK ประกาศความร่วมมือกับผู้ให้บริการแบบจัดการให้เบ็ดเสร็จ (Managed Service) อย่าง AdEPT เพื่อร่วมกันเปิดช่องทางให้บริการด้านไอทีต่างๆ แก่ธุรกิจในสหราชอาณาจักร

เป็นการผนวกรวมกลุ่มโซลูชั่นเด่นๆ ของ Canonไม่ว่าจะเป็นงานพิมพ์ งานประมวลผลภาพ และโซลูชั่นซอฟต์แวร์ต่างๆ ซึ่งทาง AdEPT จะนำเครือข่ายการให้บริการจัดการไอทีและความรู้ทางเทคนิค เปิดให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการจากผู้เชี่ยวชาญที่ครอบคลุมงานด้านดิจิทัลมากมายมีทั้งการวางกลยุทธ์ทางดิจิทัล การวางระบบสื่อสารแบบยูนิฟายด์ และการจัดการโครงสร้างพื้นฐานไอที เป็นต้น

คุณ Craig Leverington ผู้อำนวยการด้านบริการระดับธุรกิจของ Canon ประจำประเทศอังกฤษและไอร์แลนด์กล่าวย้ำว่า Canon เร่งเพิ่มการสนับสนันลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วทั้งกระบวนการที่เกี่ยวข้อง ในยุคที่ต่างคนก็เข้าถึงระบบคลาวด์และเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้เป็นดิจิตอลมากขึ้นเรื่อยๆ นี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ลูกค้าต้องได้รับการซัพพอร์ตตลอดเส้นทางการปรับเปลี่ยนทางดิจิตอลนี้ให้ราบรื่น

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – ITPro

from:https://www.enterpriseitpro.net/canon-uk-teams-up-with-adept/

แคนนอน เปิดตัว Canon EOS R7 และ EOS R10 ลุยกล้องมิเรอร์เลสเต็มสูบ

• Canon EOS R7 ตอบโจทย์ผู้ใช้งานอย่างจริงจัง เน้นประสิทธิภาพ สปีดเร็ว แม่นยำ และทนทานไม่แพ้กล้องระดับมืออาชีพ ครอบคลุมทั้งการถ่ายภาพกีฬา ยานยนต์ นกและสัตว์ป่า พร้อมประสิทธิภาพด้านงานวิดีโอระดับ 4K60P (7K Oversampling)
• Canon EOS R10 ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างอิสระ มาพร้อมฟังก์ชันการถ่ายภาพที่ช่วยให้ผู้ใช้งานทำงานได้ง่ายขึ้น โดนใจนักสร้างวิดีโอคอนเทนต์ในปัจจุบันด้วยฟังก์ชันการถ่ายวิดีโอแนวตั้ง
• Canon RF-S 18-45mm f/4.5-6.3 IS STM และ RF-S 18-150mm f/3.5-6.3 IS STM เลนส์รุ่นเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ในระบบ EOS R และยังคงเอกลักษณ์ด้านการใช้งานวงแหวนควบคุมในแบบฉบับเลนส์ RF ซีรีย์ ด้วยขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา สะดวกต่อการพกพาสำหรับเก็บภาพในชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องตัว

แผนการพัฒนาธุรกิจในปี 2565 นี้ แคนนอนก้าวไปอีกขั้นด้วยการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ในระบบ EOS R โดยเฉพาะกล้องมิเรอร์เลสที่ใช้เซ็นเซอร์ APS-C ที่มอบประสิทธิภาพทั้งในเรื่องของความเร็ว การถ่ายภาพต่อเนื่อง และการบันทึกภาพเคลื่อนไหวคุณภาพสูง เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานที่แตกต่างกันได้อย่างครอบคลุม

ในการเปิดตัวครั้งนี้นำทัพโดยกล้อง Canon EOS R7 ซึ่งเป็นพระเอกของงาน ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานกล้องแบบจริงจังซึ่งต้องการกล้องประสิทธิภาพสูง สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงและมีระบบออโต้โฟกัสที่รวดเร็วแม่นยำ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวทั้งกีฬา ยานยนต์ นกและสัตว์ป่า สามารถถ่ายภาพที่ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซลได้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 30 เฟรมต่อวินาที และนอกจากนี้ ตัว R ของ Raptor ก็ยังสอดคล้องกับความเป็นกล้องในตระกูล EOS R Series ของแคนนอนอีกด้วย

ส่วนกล้อง Canon EOS R10 เน้นกลุ่มผู้ใช้งานกล้องมือใหม่ที่ต้องการภาพถ่ายคุณภาพสูง น้ำหนักเบา และมีฟีเจอร์อัตโนมัติที่ช่วยในการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ด้วยโหมด SCN แบบใหม่ ทั้งโหมดการถ่ายภาพแบบพาโนรามา, โหมด Focus bracketing ในตัวกล้อง และโหมดแพนนิ่งเพื่อให้ผู้ใช้สามารถแพนภาพได้สวยงามดุจมืออาชีพ และยังมีฟังก์ชันการถ่ายวิดีโอแนวตั้ง เพิ่มความสะดวกสบายให้กับ นักสร้างวิดีโอคอนเทนต์บนโซเชียลเน็ตเวิร์คอีกด้วย

เลนส์ทั้งสองรุ่นถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเลนส์รุ่นเริ่มต้นสำหรับผู้ใชกล้องในระบบ EOS R ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเลนส์ Canon RF-S 18-45mm F/4.5-6.3 IS STM เป็นเลนส์ซูมมาตรฐานที่ให้มุมมองกว้าง เหมาะสำหรับการเก็บภาพประทับใจในชีวิตประจำวัน ในขณะที่เลนส์ Canon RF-S 18-150mm F/3.5-6.3 IS STM เป็นเลนส์เพื่อการเดินทางแบบอเนกประสงค์  ครอบคลุมทั้งการถ่ายภาพในชีวิตประจำวัน และถ่ายภาพในระยะไกล เช่น การภาพวิวทิวทัศน์ เกมกีฬา นก และภาพสัตว์ป่า

ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย

• Canon EOS R7 เฉพาะตัวกล้อง 49,900 บาท
• Canon EOS R7 ชุดพร้อมเลนส์ RF-S18-150mm f/3.5-6.3 IS STM 64,900 บาท
• Canon RF-S18-45mm f/4.5-6.3 IS STM 11,990 บาท
• Canon RF-S18-150mm f/3.5-6.3 IS STM 19,390 บาท
• สำหรับกล้อง Canon EOS R10 จะประกาศราคาและเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยประมาณปลายเดือนกรกฎาคม 2565

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post แคนนอน เปิดตัว Canon EOS R7 และ EOS R10 ลุยกล้องมิเรอร์เลสเต็มสูบ first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/canon-eos-r7-and-eos-r10/

แคนนอน ส่งอิงค์เจ็ทซีรีส์ใหม่ ต้นทุนต่ำ คุ้มค่าทุกฟังก์ชั่นและเซฟค่าไฟกว่า 90%

แคนนอน ส่งอิงค์เจ็ทซีรีส์ใหม่ “PIXMA BUSINESS INKJET PRINTER – GX SERIES” รับกระแส SMEs ฟื้นตัว ตอบโจทย์การพิมพ์ต้นทุนต่ำ คุ้มค่าทุกฟังก์ชั่นและเซฟค่าไฟกว่า 90% มุ่งมั่นตอบสนองความต้องการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในเมืองไทย เปิดตัวเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทซีรีส์ใหม่ พร้อมกัน 3 รุ่น PIXMA GX5070, PIXMA GX6070 และ PIXMA GX7070 เสริมประสิทธิภาพให้บริษัทขนาดเล็กด้วยโซลูชั่นการพิมพ์ที่คุ้มค่าสูงสุด ขจัดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งค่าหมึกและค่าไฟด้วยฟังก์ชั่นงานพิมพ์ที่ครอบคลุม ทั้งการพิมพ์สีและขาวดำปริมาณมากด้วยความเร็วสูง การโหลดกระดาษที่มีความยืดหยุ่น และคุณภาพงานพิมพ์ที่คมชัดสวยงามใกล้เคียงระบบเลเซอร์ ช่วยให้บริษัทเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานไปพร้อมการควบคุมต้นทุน เพิ่มผลกำไรและเสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างมั่นคง

 

นางสาวเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการ – กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “ในช่วงที่สถานการณ์แพร่ระบาดCovid-19 เริ่มคลี่คลายและเศรษฐกิจกำลังกำลังฟื้นตัว ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องพยายามรัดเข็มขัดเพื่อให้สามารถก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปได้อย่างราบรื่น และหนึ่งในหัวใจสำคัญของการอยู่รอดและเติบโตของบริษัทก็คือ ‘การควบคุมค่าใช้จ่าย’ ในช่วงที่รายได้ยังไม่มีความแน่นอนเช่นทุกวันนี้ แคนนอน ในฐานะพันธมิตรธุรกิจขององค์กรทุกระดับและผู้นำด้านเทคโนโลยีอิมเมจจิ้ง จึงได้ออกแคมเปญ ‘Canon Printer Simple…Just Like That’ เมื่อเดือนที่ผ่านมา เพื่อให้ลูกค้าทุกกลุ่มได้ค้นพบโซลูชั่นการพิมพ์ที่เหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุด วันนี้ เราได้เปิดตัวเครื่องพิมพ์ PIXMA BUSINESS INKJET – GX Series รุ่นใหม่ซึ่งมุ่งเจาะกลุ่มธุรกิจ SMEs เป็นหลัก โดยเน้นเรื่องความประหยัดคุ้มค่าและฟังก์ชั่นการพิมพ์ที่ครบจบในเครื่องเดียวโดยไม่ต้องซื้อเครื่องพิมพ์เฉพาะด้านเพิ่ม ช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจของลูกค้าในเมืองไทยได้อย่างคุ้มค่าง่ายดาย”

Canon PIXMA GX Series ชูคุณสมบัติเด่นมากมายที่ช่วยลดต้นทุนทั้งด้านค่าใช้จ่าย แรงงาน และเวลา เพื่อเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงานและสร้างความเติบโตแก่ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก

• หมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า

เมื่อเลือกพิมพ์งานในโหมด Economy สามารถพิมพ์งานได้เพิ่มขึ้น 1.5 เท่า หรือคิดเป็นเอกสารสีกว่า 21,000 แผ่น และขาวดำ  9,000 แผ่น ทั้งยังกินไฟต่ำ หมดปัญหาเครื่องค่าไฟ นอกจากนี้ ยังมีดีไซน์สวยงามกะทัดรัด ช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดวางและเพิ่มเนื้อที่ใช้สอยในสำนักงานให้มากขึ้น

• เครื่องเดียวจบ ครบทุกฟังก์ชั่น คุ้มค่าการลงทุน

รองรับงานพิมพ์ได้หลากหลายทั้งการพิมพ์เอกสารขนาด A4 ทั่วไปและจดหมายแบบต่าง ๆ จึงไม่ต้องซื้อเครื่องพิมพ์หลายเครื่องสำหรับงานเฉพาะทาง คุ้มค่าต่อการลงทุน พร้อมช่องใส่กระดาษขนาดใหญ่ที่จุได้มากกว่า ประหยัดแรงงานและเวลาในการเติม เพิ่มประสิทธิภาพการพิมพ์งานปริมาณมากได้อย่างดีเยี่ยม

• ออกแบบให้ใช้งานและดูแลรักษาง่ายด้วยตนเอง

ใช้แทงก์หมึกขนาดใหญ่จึงไม่ต้องเติมบ่อย เพียงใส่เข้าล็อกง่าย ๆ ก็พร้อมงานได้ทันที ผลการทดสอบของแคนนอนพบว่าบริษัทขนาดเล็กที่พิมพ์งานเพียงเดือนละประมาณ 1,000 แผ่น ภายในระยะเวลา 5 ปี จะเติมหมึกสีดำเพียง 10 ครั้ง และหมึกสี สีละ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งจะสามารถพิมพ์เอกสารรวมได้กว่า 6,000 แผ่นเลยทีเดียว พร้อมความง่ายขั้นสุดที่ให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนชุดฟองน้ำซับหมึก (Ink Maintenance Cartridge) ได้เองอย่างง่าย ๆ จึงไม่เสียเวลาในการส่งเครื่องเข้าศูนย์บริการเหมือนในอดีต ทำให้สามารถพิมพ์งานได้ต่อเนื่องและรวดเร็วกว่า

• เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมขั้นสุดทั้งด้านพลังงานและมลภาวะ

ด้วยประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานสูงสุดถึง 90% ในโหมด Stand by พร้อมระบบเปิด-ปิดเครื่องอัตโนมัติ ช่วยลดการสูญเสียพลังงาน และด้วยกระบวนการพิมพ์ที่ไม่ก่อให้เกิดฝุ่น จึงมีความปลอดภัยแม้นำไปใช้งานในพื้นที่ควบคุม เช่น สถานพยาบาล สถานศึกษา หรือแม้แต่ในห้องสำนักงานขนาดเล็ก อีกทั้งการใช้แทงก์หมึกขนาดใหญ่ ยังช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกได้อีกทางหนึ่ง

“การดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพในปัจจุบัน เราจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้งานให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าต่อการลงทุนสูงสุด รวมถึงการพิมพ์เอกสารต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของสำนักงานแทบทุกแห่ง แคนนอนยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านเทคโนโลยีอิมเมจจิ้งอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมธุรกิจทุกระดับให้สามารถยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน ผ่านพ้นทุกช่วงเวลาอันท้าทาย และก้าวสู่สู่ความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน” เนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข  กล่าว

PIXMA BUSINESS INKJET GX5070

ราคาและการจำหน่าย

• PIXMA BUSINESS INKJET GX5070 จำหน่ายราคา 12,990 บาท
• PIXMA BUSINESS INKJET GX6070 จำหน่ายราคา 14,990 บา
• PIXMA BUSINESS INKJET GX7070 จำหน่ายราคา 16,990 บาท

จัดจำหน่ายผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของแคนนอน / ไอทีซิตี้ / ออฟฟิศเมท และพาวเวอร์บาย

ข่าว: แคนนอน ส่งอิงค์เจ็ทซีรีส์ใหม่ ต้นทุนต่ำ คุ้มค่าทุกฟังก์ชั่นและเซฟค่าไฟกว่า 90% มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/canon-launches-new-inkjet-series-low-cost-worth-every-function-and-save-more-than-90-electricity-bill/

แคนนอน คว้า 2 รางวัลจาก BLI Awards 2022 ด้วยซอฟต์แวร์อัจฉริยะและการออกแบบสุดล้ำสำหรับเครื่องถ่ายเอกสาร

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลอิมเมจจิ้งและไอทีโซลูชั่นระดับโลก คว้า 2 รางวัลจาก BLI Awards 2022 ประกอบด้วย รางวัลความเป็นเลิศด้านโซลูชั่นการจัดการบนคลาวด์ที่โดดเด่น (BLI 2022 Pick Outstanding Cloud Output Management Solution) ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ชูความอัจริยะของ uniFLOW Online โซลูชั่นจัดการงานพิมพ์บนคลาวด์ที่ทำให้การทำงานแบบดิจิทัลรวดเร็วขึ้น

ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่มาพร้อมกับเครื่องถ่ายเอกสารของแคนนอนหลากหลายรุ่น อาทิ imageRUNNER ADVANCE DX 6800i imageRUNNER ADVANCE DX C5800i และ imageRUNNER ADVANCE DX C3800i เป็นต้น

ที่ถูกพัฒนามาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้สามารถติดตามและควบคุมกิจกรรมการพิมพ์ สแกน คัดลอก และส่งแฟกซ์ได้ทุกสภาพแวดล้อม ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานในรูปแบบดิจิทัลได้รวดเร็วและราบรื่นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้รางวัลสุดยอดในกลุ่มเครื่องถ่ายเอกสารขนาด A3 แห่งปี (BLI 2022 A3 Line of the Year Award) ด้วยการดีไซน์หน้าจอเครื่องถ่ายเอกสารที่ใช้งานได้สะดวก

พร้อมฟังก์ชั่นการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถทำงานได้รวดเร็วและยังช่วยลดต้นทุนให้กับธุรกิจ ซึ่งรางวัลดังกล่าวเกิดจากการทำการทดสอบและจัดอันดับโดย Keypoint Intelligence หน่วยงานทดสอบอิสระชั้นนำระดับโลกและนำเสนอข้อมูลการวิเคราะห์ที่น่าเชื่อถือแก่อุตสาหกรรมการพิมพ์

 

ข่าว: แคนนอน คว้า 2 รางวัลจาก BLI Awards 2022 ด้วยซอฟต์แวร์อัจฉริยะและการออกแบบสุดล้ำสำหรับเครื่องถ่ายเอกสาร มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/canon-wins-2-bli-awards-2022-for-its-smart-software-and-best-for-presses/

Canon ถูกฟ้อง!! กรณีปิดฟังก์ชั่นไม่ให้สแกนถ้าเครื่องพิมพ์หมึกหมด

Canon USA กำลังถูกฟ้องร้องจากกรณีที่ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นบางรุ่นที่ขึ้นฟ้องหมึกหมดไปใช้งานอย่างอื่น เช่นสแกนหรือส่งแฟ็กส์ โดยผู้ยื่นฟ้องเมื่อต้นสัปดาห์ก่อนนั้นเป็นลูกค้า Canon เองชื่อ David Leacraft

ความผิดที่ฟ้องกันนี้ได้แก่การทำตลาดแบบหลอกลวง และการกีดกันการให้บริการอย่างไม่ยุติธรรม โดย David ระบุว่าระหว่างใช้เครื่องพิมพ์ Pixma MG6320 ที่เป็นแบบ All-in-one นี้ปฏิเสธการเปิดสแกนหรือส่งโทรสารถ้าเครื่องพิมพ์พบว่าหมึกหมด

ซึ่งมองแล้วมันตลก หมึกพิมพ์ไม่ได้จำเป็นกับการสแกนหรือส่งแฟกส์เลย ทำไมเครื่องถึงไม่ยอมให้ใช้งานต่อถ้าไม่มีหมึกเหลือในเครื่อง ถ้าเขาเองรู้ล่วงหน้าว่าเป็นแบบนี้ก็จะไม่ยอมซื้อเครื่องพิมพ์ หรือจ่ายเงินราคาแพงเพื่อลงทุนกับ All-in-one เครื่องนี้เลย

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา ก็มีลูกค้ารายอื่นๆ นอกจาก David ที่เคยติดต่อ Canon ในปัญหาเดียวกันนี้แล้ว และโดนตอกหน้ากลับว่ายังไงก็ตามก็ต้องมีตลับหมึกที่มีหมึกเหลือใส่อยู่ในเครื่องพิมพ์เท่านั้น จงไปซื้อตลับหมึกใหม่มาเปลี่ยนซะ ทั้งๆ ไม่มีประโยคนี้เขียนอยู่บนหน้ากล่องให้คนซื้อเห็นก่อนเลย

ที่มา : Bleepingcomputer

 

from:https://www.enterpriseitpro.net/canon-sued-for-disabling-scanner/

แคนนอน เปิดตัวทัพเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นรุ่นใหม่

แคนนอน เปิดตัว imageRUNNER ADVANCE DX C3800i เครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นเลเซอร์สีขนาด A3 ประสิทธิภาพสูง 4 รุ่น ประกอบไปด้วย C3835i C3830i C3826i C3822i พร้อมเปิดตัว imageRUNNER C3226i เครื่องถ่ายเอกสารเลเซอร์สี A3 สำหรับรุ่นเริ่มต้น และ iR1643i II และ iR1643iF II เครื่องถ่ายเอกสารเลเซอร์ขาว-ดำขนาด A4 โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ทั้งหมดมีฟังก์ชั่นที่ครอบคลุมการใช้งานสำหรับธุรกิจทุกขนาด ในขณะเดียวกันก็มีประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการอันหลากหลายของการทำงานรูปแบบไฮบริด รวมไปถึงสามารถผลิตผลงานออกมาด้วยคุณภาพสูงเพื่อรองรับการใช้ชีวิตแบบ New Normal

มร. อุย ชิก โฮ รองประธานบริษัท ส่วนงานบิสซิเนสอิมเมจจิ้งโซลูชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) กล่าวว่า สำหรับการทำงานรูปแบบไฮบริดของธุรกิจต่าง ๆ ในปัจจุบัน อุปกรณ์สำนักงานถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การทำงานราบรื่น ซึ่งนอกจากจะต้องสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกแล้วยังต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานด้วย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานจากระยะไกลทั้งในสำนักงานและระหว่างเดินทางได้อย่างยืดหยุ่น โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องถ่ายเอกสารรุ่นล่าสุดของแคนนอนสามารถเชื่อมต่อมือถือได้ง่ายดาย และรองรับโซลูชั่นการพิมพ์ผ่าน
มือถือที่หลากหลาย อาทิ Canon PRINT Business Apple® AirPrint และ Mopria® Print Service นอกจากนี้ ยังมาพร้อมคุณสมบัติด้านความปลอดภัยมากมายที่สามารถป้องกันการเข้าถึงอุปกรณ์โดยไม่ได้รับอนุญาต การปรับปรุงความปลอดภัยเครือข่าย และป้องกันการปลอมแปลงอุปกรณ์และมัลแวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

from:https://www.enterpriseitpro.net/imagerunner-advance-dx-c3800i-canon/

แคนนอน เปิดตัว Canon EOS R3 ที่สุดแห่งมิเรอร์เลสฟูลเฟรม พร้อมเลนส์ RF ใหม่

แคนนอน ประกาศเปิดตัว Canon EOS R3 กล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมสุดล้ำ ด้วยประสิทธิภาพและเทคโนโลยีภายใต้กล้องในตระกูล Canon EOS R โดยใช้เซนเซอร์ Stacked CMOS ใหม่  ทำงานแบบการสะท้อนแสงกลับที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ มาพร้อมฟังก์ชันใหม่ อาทิ ระบบออโต้โฟกัสควบคุมด้วยดวงตา (Eye Control AF) และการบันทึกภาพเคลื่อนไหวความคมชัดสูงระดับ 6K 60p RAW หรือ 4K 120p 10-บิตได้ พร้อมทั้งเปิดตัวเลนส์ RF100-400mm f/5.6-8 IS USM และ RF16mm f/2.8 STM เพื่อเพิ่มทางเลือกในการสร้างสรรค์ให้ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพในระบบ EOS R System ในราคาที่เป็นมิตร

อิมาซากะ ไดโดะ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดระดับภูมิภาค กลุ่มผลิตภัณฑ์ ICP แคนนอน สิงคโปร์ กล่าวว่า Canon EOS R3 นับเป็นสุดยอดกล้องในระบบ EOS R System ที่มีเทคโนโลยีก้าวล้ำที่สุดของแคนนอน ซึ่งถูกพัฒนาเพื่อเป็นกล้องสำหรับช่างภาพมืออาชีพและและผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพระดับจริงจัง ด้วยประสิทธิภาพในการถ่ายภาพด้วยความเร็วสูง การจับภาพวัตถุในที่แสงน้อย ความสามารถในการติดตามและจดจำขั้นสูงสำหรับการถ่ายภาพที่หลากหลาย เช่น การถ่ายภาพกีฬาและสัตว์ป่า นอกจากนี้ แคนนอนยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เลนส์ RF อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตอบโจทย์ช่างภาพได้มีทางเลือกเพิ่มขึ้น ประกอบด้วย เลนส์ RF100-400mm f/5.6-8 IS USM และ RF16mm f/2.8 STM ถูกรังสรรมาให้มีราคาที่ผู้ใช้เข้าถึงได้และใช้งานได้จริง โดยไม่ลดทอนคุณภาพในการถ่ายภาพ

Canon EOS R3 นับเป็นกล้องดิจิทัลตัวแรกของแคนนอนที่มีฟังก์ชันการควบคุมออโต้โฟกัสด้วยดวงตา (Eye Control AF) หลังจากกล้อง Canon EOS 7s เปิดตัวในปี 2004 ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จะทำการเลือกกรอบออโต้โฟกัสโดยการตรวจจับการเคลื่อนไหวของม่านตาของผู้ใช้ขณะถ่ายภาพนิ่ง มาพร้อม LED และเซนเซอร์หลายตัวภายในช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ที่พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อทำให้สามารถโฟกัสภาพได้อย่างรวดเร็วเมื่อต้องการเปลี่ยนโฟกัสไปยังวัตถุใหม่โดยไม่จำเป็นต้องกดปุ่มและใช้ปุ่มควบคุม โดยเฉพาะการถ่ายภาพกีฬาแข่งรถและวัตถุที่เคลื่อนที่เร็ว

สำหรับระบบออโต้โฟกัสติดตามดวงตา (Eye Detection AF) ในกล้องรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก โดยกล้องสามารถโฟกัสที่ดวงตาได้แม้ใบหน้าจะถูกบดบังบางส่วน นอกจากนี้ในระบบออโต้โฟกัสติดตามศีรษะ (Head Detection AF) ยังมีการพัฒนาให้ดีขึ้นเช่นกัน เมื่อนักกีฬาสวมหมวกนิรภัยหรือแว่นตาก็ยังคงสามารถโฟกัสได้อย่างมั่นใจในการถ่ายภาพกีฬาความเร็วสูง

สำหรับ RF100-400mm f/5.6-8 IS USM เป็นเลนส์เทเลโฟโต้ที่มีช่วงซูมสูงสุด 400 มม. มาพร้อมความกะทัดรัดของกระบอกเลนส์ที่มีความยาวน้อยกว่า 170 มม. ทำให้ผู้ใช้สามารถพกพาได้สะดวก ด้วยน้ำหนักประมาณ 635 กรัม ถือเป็นเลนส์เทเลโฟโต้ที่มีราคาเป็นมิตรอีกหนึ่งตัวเลือกให้กับลูกค้า

from:https://www.enterpriseitpro.net/canon-eos-r3/

แคนนอน เผยทัพผลิตภัณฑ์ “กล้องวงจรปิด” โซลูชั่นแห่งโลกยุคใหม่ พร้อมเปิดตัวบริการ “One Stop Service Solution” ให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ

 ฮีโร่ตัวจริง! แคนนอน เผยทัพไลน์อัพผลิตภัณฑ์ “กล้องวงจรปิด” โซลูชั่นอัจฉริยะแห่งโลกยุคใหม่ พร้อมเปิดตัวบริการ “One Stop Service Solution” ให้คำปรึกษาโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ 

แคนนอน ชูศักยภาพกล้องวงจรปิด (Network Camera) สะท้อนโซลูชั่นอัจฉริยะช่วยต่อยอดทุกธุรกิจในยุคดิจิทัลให้เติบโตไปอีกขั้น

ผลิตภัณฑ์กล้องวงจรปิดภายใต้แคนนอนกรุ๊ปหลากหลายแบรนด์ สามารถออกแบบการใช้งานเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในธุรกิจทุกประเภท

แคนนอน ยกทัพไลน์อัพผลิตภัณฑ์กล้องวงจรปิดหลากหลายประเภทเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในองค์กรและธุรกิจที่แตกต่างกัน โดยปัจจุบันมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์กล้องวงจรปิดที่อยู่ภายใต้แคนนอนกรุ๊ปมากมาย อาทิ แคนนอน (Canon) แอ็กซิส (AXIS) ไมล์สโตน (Milestone) และ บรีฟแคม (Briefcam) ซึ่งแคนนอนได้รวบรวมจุดเด่นและประสิทธิภาพอันแตกต่างของแต่ละแบรนด์มาเพื่อรองรับความต้องการของธุรกิจต่าง ๆ ที่นอกจากจะให้ความสำคัญกับการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อการรักษาความปลอดภัยแล้ว ยังมองหานวัตกรรมและโซลูชั่นอัจฉริยะที่จะมาช่วยวิเคราะห์และวางแผน เพื่อพัฒนาต่อยอดธุรกิจในยุคดิจิทัลให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์กล้องวงจรปิด 5 ประเภท ได้แก่ กล้องวงจรปิด (Network Camera) ระบบบันทึกและจัดการวิดีโอ (Recording & Video Management System) กล้องวงจรปิดพร้อมระบบวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Basic Video Analytics) ระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Advanced Video Content Analytics (VCA)) และ ระบบสรุปข้อมูลเชิงลึกจากภาพวิดีโอ (Video Synopsis)  ครบคลุมกล้องวงจรปิดทุกประเภท ตอบโจทย์การบริการแบบ One Stop Service Solution เพื่อธุรกิจ องค์กร ที่แตกต่างกัน

               หากพูดถึงกล้องวงจรปิด หรือ Network Camera บางคนอาจเข้าใจว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับจับภาพและวิดีโอเพื่อความปลอดภัยเท่านั้น แท้จริงแล้วกล้องวงจรปิดในยุคดิจิทัลนี้ถูกพัฒนาให้มีเทคโนโลยีล้ำสมัยและมาพร้อมโซลูชั่นอัจฉริยะมากมายที่ตอบโจทย์การใช้งานในภาคธุรกิจให้ครบรอบด้านมากขึ้น โดยกล้องวงจรปิดในปัจจุบันมีการใช้นวัตกรรมใหม่ที่พัฒนาไปพร้อมกับระบบแอพลิเคชั่น (Application) และโซลูชั่น (Solution)  ซึ่งสามารถออกแบบการใช้งานแบบคัสตอมเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของธุรกิจ  องค์กรและสำนักงานต่าง ๆ ที่ดำเนินงานแตกต่างกันได้”

“ดังนั้นเทคนิคการเลือกกล้องวงจรปิดสำหรับองค์กรต่าง ๆ จึงต้องเริ่มจากการกำหนดเป้าหมายในการใช้งานให้ชัดเจนและทำความรู้จักกับฟังก์ชันของกล้องวงจรปิดแต่ละประเภท ซึ่งแคนนอนได้รวบรวมประเภทกล้องวงจรปิดมาเพื่อให้ผู้ประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เริ่มกันที่ กล้องวงจรปิด (Network Camera) นับว่าเป็นกลุ่มตลาดที่ใหญ่และนิยมใช้งานมากที่สุด ทั้งในบ้านพักอาศัย สำนักงาน และปัจจุบันมีการพัฒนาเป็นกล้องเพื่อใช้งานเฉพาะทาง ไปจนถึงกล้องเพื่อใช้ในเมืองใหญ่แบบ Smart City ระบบบันทึกและจัดการวิดีโอ (Recording & Video Management System) เป็นระบบที่ใช้ในการบันทึกไฟล์ภาพวิดีโอลงในเครื่องบันทึกสำเร็จรูปหรือในระบบเซิฟเวอร์ (Server) กล้องวงจรปิดพร้อมระบบวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน(Basic Video Analytics) มีระบบการวิเคราะห์วิดีโอภายในตัวกล้อง ซึ่งผู้ใช้สามารถตรวจสอบข้อมูลโดยตรงได้จากตัวกล้อง เช่น ตรวจจับว่ามีบุคคลเข้ามาในพื้นที่หรือไม่ หรือตรวจสอบว่ามีสิ่งของถูกเคลื่อนย้ายหรือไม่ ระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก(Advanced Video Content Analytics (VCA)) เป็นระบบซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเซิฟเวอร์ เพื่อใช้ในการบันทึกภาพ และสามารถประมวลผล พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้ เช่น การตรวจจับและจดจำใบหน้า การจดจำป้ายทะเบียนรถ ฯลฯ และสุดท้ายกับ ระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Video Synopsis) มาพร้อมความสามารถขั้นสูงในการตรวจสอบ ตรวจจับ และวิเคราะห์ อัตลักษณ์ของบุคคล พฤติกรรม วัตถุ สิ่งของ หรือสัตว์เลี้ยง จากภาพวิดีโอที่บันทึกไว้ และยังสามารถสรุปเป็นไฟล์วิดีโอแบบย่อ เพื่อสืบค้นเฉพาะวัตถุหรือบุคคลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว พร้อมแสดงข้อมูลโดยละเอียดได้อย่างครบถ้วน” 

           ·     เทคโนโลยีด้าน Network Camera : แบรนด์ AXIS  มีกล้องวงจรปิดครบทุกรูปแบบและยังมีเทคโนโลยีทางด้านภาพ เช่น Lightfinder ที่สามารถปรับภาพในที่แสดงน้อยให้สามารถเห็นรายละเอียดของภาพได้ รวมถึง Axis Forensic WDR ที่สามารถปรับภาพในกรณีที่ย้อนแสดงให้สามารถเห็นรายละเอียดของภาพได้

·        เทคโนโลยีด้าน Recording & Video Management System (VMS): แบรนด์ Milestone  รองรับการทำงานทั้งแบบ NVR (Network Video Recorder) ในรุ่น Milestone Husky ซึ่งมาพร้อมเครื่องบันทึกข้อมูลสำเร็จรูปที่ง่ายต่อการติดตั้งและใช้งาน และการทำงานแบบ Server Based ในรุ่น Milestone Xprotect ที่เป็น Software VMS (Video Management Solution) สามารถติดตั้งบนเครื่องเซิฟเวอร์ เพื่อบริหารจัดการกล้องและบันทึกภาพ เพียงแค่ขยายเซิฟเวอร์ก็สามารถขยายระบบได้ตามต้องการ

·     เทคโนโลยีด้าน Basic Video Analytics: แบรนด์ Canon มาพร้อมเทคโนโลยีการถ่ายภาพความละเอียดสูงของแคนนอนในการประมวลผลบนตัวกล้องได้โดยตรง อาทิ ตรวจจับผู้ที่ผ่านเข้าพื้นที่ที่มีการตีเส้นที่สนใจ (Passing Detection) ตรวจจับการเคลื่อนไหวในบริเวณที่สนใจ (Object Moving Detection) ตรวจจับหากมีการบดบังหน้ากล้อง (Camera Tampering Detection) ตรวจจับเสียงที่ไม่พึงประสงค์ เช่น เสียงกระจกแตก (Volume Detection) ฯลฯ

·        เทคโนโลยีด้าน Advanced Video Content Analytics: แบรนด์ Canon การนำเทคโนโลยีการถ่ายภาพความละเอียดสูงของแคนนอน มาพัฒนาร่วมกับซอฟต์แวร์เพื่อช่วยประมวลผลวิดีโอระดับสูง อาทิ การนำเทคโนโลยี Face Recognition (FR) หรือ การจดจำใบหน้ามาประยุกต์ใช้ในสำนักงาน ระบบตรวจจับใบหน้าที่นำมาทดแทนการใช้บัตรพนักงานเพื่อสั่งเปิดปิดประตูและการบันทึกเวลาเข้าออกงาน ระบบนับคนในพื้นที่และนับจำนวนคนเดินเข้าและเดินออก ระบบวิเคราะห์และรูปแบบคนเช่น ช่วงอายุ เพศ เหมาะแก่การใช่งานด้านการตลาดที่สามารถดูกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาในพื้นที่ การตรวจจับป้ายทะเบียนรถที่มีการบันทึกข้อมูลไว้ ฯลฯ

·        เทคโนโลยีด้าน Video Synopsis: แบรนด์ Briefcam ซอฟต์แวร์ของแบรนด์นี้สามารสรุปวิดีโอ ดึงข้อมูลและวิเคราะห์ขั้นสูงได้ เช่น การบันทึกวิดีโอพร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของวัตถุ คน หรือสิ่งของต่าง ๆ ที่อยู่ในวิดีโอนั้น เช่น สี คน ยานพาหนะ ความเร็ว ทิศทาง พร้อมเวลาที่สิ่งเหล่านั้นปรากฏ เพื่อนำมาใช้สำหรับค้นหา หรือวิเคราะห์เพิ่มเติม ตัวอย่างการใช้งาน เช่น การตรวจจับรถที่ U-turn ในพื้นที่ผิดกฎจราจร และการตรวจวัดระยะห่างระหว่างคน (Proximity)

ซึ่งนอกจากแคนนอนจะมาพร้อมผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงให้เลือกตามความต้องการแล้ว ยังมีบริการแบบ One Stop Service Solution ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญที่คอยช่วยเหลือและให้บริการในทุกขั้นตอน ตั้งแต่บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเลือกผลิตภัณฑ์ การวางแผนและออกแบบการใช้งาน ตลอดจนจัดหาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับการใช้งาน โดยลูกค้าสามารถมั่นใจกับคุณภาพของทุกผลิตภัณฑ์และการบริการที่ดีเยี่ยมได้อย่างแน่นอน

ข่าว: แคนนอน เผยทัพผลิตภัณฑ์ “กล้องวงจรปิด” โซลูชั่นแห่งโลกยุคใหม่ พร้อมเปิดตัวบริการ “One Stop Service Solution” ให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/the-real-hero-canon-revealed/