ส่งซ่อมสมาร์ทโฟน OnePlus ผ่านศูนย์บริการ OPPO ได้แล้ววันนี้!

OnePlus ประกาศข่าวดีสำหรับแฟนๆ และผู้ใช้งาน OnePlus ในประเทศไทย อัพเดตเรื่องบริการหลังการขายให้สะดวกสบายมายิ่งขึ้น โดยเปิดให้สามารถส่งซ่อมสมาร์ทโฟน OnePlus ผ่านศูนย์ส่งซ่อมสมาร์ทโฟน OPPO Service Center ได้แล้วทั่วประเทศ

โดยปกติลูกค้า OnePlus จะสามารถ walk-in มาใช้บริการที่ศูนย์บริการหลังการขาย OnePlus Service Center พร้อมทั้งรับบริการปรึกษาด้านการใช้งาน ซ่อมบำรุงและเปลี่ยนอะไหล่ตัวเครื่องสำหรับสมาร์ตโฟน OnePlus ทุกรุ่นที่จำหน่ายผ่านตัวแทนอย่างเป็นทางการในไทย ที่ศูนย์บริการหลังการขายที่มีทั้งหมด 5 สาขา ดังนี้

• OnePlus Service Center ศูนย์การค้ามาบุญครอง (MBK Center) ชั้น 5
• ศูนย์บริการออปโป้สาขาพระราม 9 ตึกชำนาญเพ็ญชาติ
• ศูนย์บริการออปโป้สาขาเซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ท
• ศูนย์บริการออปโป้สาขาเซ็นทรัลหาดใหญ่
• ศูนย์บริการออปโป้สาขาเซ็นทรัลอุบลราชธานี

โดยการให้บริการของศูนย์บริการ OnePlus จะใช้ระยะเวลาในการซ่อมที่สามารถรอรับกลับได้ภายใน 2 ชั่วโมง (*ทั้งนี้ระยะเวลาในการส่งซ่อมขึ้นอยู่กับอาการของตัวเครื่อง) ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ OnePlus Call Center ที่เบอร์ 02-793-3818, 02-123-2323

และเพื่อเป็นการการันตีความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน OnePlus มากขึ้น สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางเข้ารับบริการที่ OnePlus Service Center ทั้ง 5 สาขาดังกล่าว ก็สามารถใช้บริการ Drop-off service ผ่ายจุดบริการรับ-ส่งเครื่องซ่อมได้ที่ศูนย์บริการออปโป้ (OPPO Service Center) อีก 35 สาขา ซึ่งครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศ

โดยสามารถเช็กรายละเอียดและสาขาที่ให้บริการ Drop-off service ได้ดังนี้

1. ศูนย์บริการออปโป้สาขาสุราษฎ์ธานี
2. ศูนย์บริการออปโป้สาขาเซ็นทรัลภูเก็ต
3. ศูนย์บริการออปโป้สาขานครศรีธรรมราช
4. ศูนย์บริการออปโป้สาขาชุมพร
5. ศูนย์บริการออปโป้สาขาปัตตานี
6. ศูนย์บริการออปโป้สาขาเซ็นทรัลขอนแก่น
7. ศูนย์บริการออปโป้สาขาสกลนคร
8. ศูนย์บริการออปโป้สาขาร้อยเอ็ด
9. ศูนย์บริการออปโป้สาขาโรบินสันบุรีรัมย์
10. ศูนย์บริการออปโป้สาขาโรบินสันสระบุรี
11. ศูนย์บริการออปโป้สาขาเซ็นทรัลนครราชสีมา
12. ศูนย์บริการออปโป้สาขาเซ็นทรัลพิษณุโลก
13. ศูนย์บริการออปโป้สาขาเชียงราย
14. ศูนย์บริการออปโป้สาขานครสวรรค์
15. ศูนย์บริการออปโป้สาขาลำปาง
16. ศูนย์บริการออปโป้สาขากาญจนบุรี
17. ศูนย์บริการออปโป้สาขาอยุธยาซิตี้พาร์ค
18. ศูนย์บริการออปโป้สาขาลพบุรี
19. ศูนย์บริการออปโป้สาขาระยอง
20. ศูนย์บริการออปโป้สาขานครปฐม
21. ศูนย์บริการออปโป้สาขาโรบินสันปราจีนบุรี
22. ศูนย์บริการออปโป้สาขาพัทยา
23. ศูนย์บริการออปโป้สาขาชลบุรี
24. ศูนย์บริการออปโป้สาขาเซ็นทรัลพระราม2
25. ศูนย์บริการออปโป้สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
26. ศูนย์บริการออปโป้สาขาซีคอนฯ ศรีนครินทร์
27. ศูนย์บริการออปโป้สาขาเซ็นทรัลบางนา
28. ศูนย์บริการออปโป้สาขาเดอะมอลล์บางแค
29. ศูนย์บริการออปโป้สาขาอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง
30. ศูนย์บริการออปโป้สาขาเซ็นทรัลเวสเกต
31. ศูนย์บริการออปโป้สาขาเดอะมอลล์ท่าพระ
32. ศูนย์บริการออปโป้สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์
33. ศูนย์บริการออปโป้สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า
34. ศูนย์บริการออปโป้สาขาเซ็นทรัลเวิลด์
35. ศูนย์บริการออปโป้สาขาพระราม9

ข่าว: ส่งซ่อมสมาร์ทโฟน OnePlus ผ่านศูนย์บริการ OPPO ได้แล้ววันนี้! มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/service-center-oneplus-oppo-list/

รวมศูนย์โน๊ตบุ๊คนอกห้างใช้บริการสะดวก อัพเดท 2021

คอมพังไม่ต้องกลุ้ม ศูนย์โน๊ตบุ๊คนอกห้างก็มีให้บริการเหมือนกันนะ

เพราะสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ยังรุนแรงอย่างต่อเนื่องจนศูนย์โน๊ตบุ๊คในห้างสรรพสินค้าหลายแห่งยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ หรือให้บริการได้แค่ส่วนหนึ่งและมีกฏข้อกำหนดเพื่อความปลอดภัยและอนามัยต่างๆ มากมาย และเพราะเชื้อสายพันธุ์นี้แพร่ได้เร็วและอาการเจ็บป่วยรุนแรงเลยทำให้หลายคนยิ่งไม่สะดวกใจจะหิ้วคอมเข้าห้างไปซ่อมแล้วเจอกับคนเยอะๆ อย่างแน่นอน

อันที่จริง ถ้าคอมพิวเตอร์ของใครยังสดใหม่มีประกันตัวเครื่องอยู่ก็ยังพอโทรเข้าหาศูนย์บริการแล้วใช้บริการ Onsite service ให้ช่างมาซ่อมคอมให้เราก็ได้ แต่แบรนด์คอมพิวเตอร์ชั้นนำหลายๆ เจ้าก็มีศูนย์บริการนอกห้างสรรพสินค้าทั้งศูนย์โดยตรงของแบรนด์เลยหรือว่าตัวแทนจำหน่ายที่มีอาคารหรือหน้าร้านของตัวเองก็ช่วยให้ผู้ใช้อย่างเราสามารถยกเครื่องเข้าซ่อมได้สะดวกขึ้นมากทีเดียว

รวมศูนย์โน๊ตบุ๊คและบริการซ่อมนอกห้าง ใช้บริการง่ายไม่ต้องกลุ้มเมื่อคอมพัง

สำหรับโน๊ตบุ๊คหลายๆ แบรนด์ในปัจจุบันนั้น จะมีผู้นำเข้าและให้บริการหลังการขายรวมๆ กันหลายแบรนด์ หรือบางแบรนด์ที่ติดตลาดและเป็นแบรนด์ใหญ่แล้ว ก็จะมีศูนย์บริการของตัวเองโดยเฉพาะอีกด้วย ซึ่งศูนย์บริการที่แบรนด์หลักใช้ร่วมกันจะมีอยู่ 3 รายใหญ่ และจะมีแบรนด์ที่ดูแลกระบวนการซ่อมด้วยตัวเองก็มีเช่นกัน ได้แก่

ศูนย์โน๊ตบุ๊คแบบดูแลรวมหลายแบรนด์

1. vServePlus
2. Synnex
3. SVOA

ศูนย์โน๊ตบุ๊คที่แบรนด์ดูแลด้วยตัวเอง

1. Apple
2. Acer
3. Fujitsu
4. HUAWEI

1. vServePlus

ศูนย์ที่ให้บริการซ่อมโน๊ตบุ๊คหลากหลายแบรนด์ 1 ใน 3 เจ้าใหญ่ในประเทศไทยตอนนี้รายแรกคือ vServePlus ที่มีให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยแบรนด์ที่ทาง vServePlus ดูแลให้บริการหลังการขายอยู่มีทั้งโน๊ตบุ๊คและสินค้าสายไอทีชิ้นอื่นด้วย ได้แก่

• แบรนด์โน๊ตบุ๊คที่ให้บริการหลังการขาย – ASUS, HP, Lenovo, Avita, Vaio
• แบรนด์สินค้าไอทีที่ให้บริการหลังการขาย – Brother, DJI, HIKVISION, Intermec, Nexstgo

สำหรับศูนย์และสถานที่ตั้งที่มีให้บริการนอกห้างสรรพสินค้าจะมีในกรุงเทพมหานครและหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัด รวมแล้ว 9 แห่ง แยกเป็นศูนย์ของ vServePlus 7 แห่ง และศูนย์บริการของแบรนด์ Lenovo ที่ทางบริษัทดูแลอยู่ 2 แห่ง ได้แก่

• สาขาร่มเกล้า, กรุงเทพฯ : 88/1 ถนนพัฒนาชนบท 3 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520, โทร. +66 2666 9600
• สาขาเชียงใหม่, จังหวัดเชียงใหม่ : 2/1, 2/2 หมู่ 3 ถนนเชียงใหม่-ลำปาง ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50300 ประเทศไทย, โทร. +66 5340 9482-3
• สาขาพิษณุโลก, จังหวัดพิษณุโลก : 117/7 ถนนพระองค์ดำ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก 65000 ประเทศไทย, โทร. +66 5521 2323-4
• สาขานครราชสีมา, จังหวัดนครราชสีมา : 1630/10 ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 30000 ประเทศไทย, โทร. +66 4426 2520-1
• สาขาขอนแก่น, จังหวัดขอนแก่น : 126/54 หมู่ 16 ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น 40000 ประเทศไทย, โทร. +66 4324 7291-2
• สาขาสุราษฎร์ธานี, จังหวัดสุราษฎร์ธานี : 225/58 หมู่ 1 ถนนเสม็ดเรียง ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000 ประเทศไทย, โทร. +66 7721 7908-9
• สาขาหาดใหญ่, เทศบาลนครหาดใหญ่ : 85 ซอย10 (เพชรเกษม) ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110 ประเทศไทย, โทร. +66 7434 4551-2

ซึ่งทั้ง 7 สาขานี้จะเป็นสาขาที่มีให้บริการนอกศูนย์การค้า ซึ่งถ้าใครใช้โน๊ตบุ๊คที่ vServePlus เป็นผู้ดูแลบริการหลังการขายอยู่ก็สามารถไปใช้บริการได้ตามสาขาที่กำหนดไว้ได้เลย แต่ส่วนตัวผู้เขียนแนะนำว่าโทรสอบถามทางสาขาที่สนใจเอาเครื่องเข้ารับบริการก่อนว่าทางผู้ให้บริการเปิดให้บริการหรือไม่ค่อยเข้าไปติดต่อขอรับบริการต่อไป จะได้ไม่เสียเที่ยวด้วย

กรณีของโน๊ตบุ๊ค ASUS นอกจากเข้าศูนย์ของทาง vServePlus ได้แล้ว ยังสามารถไปใช้บริการของทาง Synnex ได้ และสามารถค้นหาสาขาใกล้บ้านได้ด้วยระบบค้นหาศูนย์บริการในเครือ ASUS ทั่วประเทศได้ที่นี่ หรือถ้ามีพีซีหรือโน๊ตบุ๊คเครื่องสำรองเอาไว้ใช้งานอยู่แล้ว ก็สามารถใช้บริการส่งซ่อมผ่านทาง 7-Eleven ที่สาขาใกล้บ้านได้ด้วย

2. Synnex

ด้าน Synnex เองก็เป็นผู้ให้บริการหลังการขายกับสินค้าไอทีเจ้าใหญ่อีกเจ้าหนึ่ง มีศูนย์บริการหลังการขายทุกภาคในประเทศไทยโดยเป็นของ Synnex และร่วมกับห้างร้านผู้จัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ชื่อดังประจำท้องที่นั้นๆ ด้วย โดยศูนย์โน๊ตบุ๊คและสินค้าไอทีที่ทาง Synnex ให้บริการหลังการขายได้แก่

• แบรนด์โน๊ตบุ๊คที่ให้บริการหลังการขาย – Acer, ASUS, HP, HUAWEI, Lenovo, Microsoft, MSI, Gigabyte
• แบรนด์สินค้าไอทีที่ให้บริการหลังการขาย – AMD, Intel, Apple, ASRock, Brother, Cisco, Corsair, DELL, D-Link, Gigabyte, Kingston, Klevv, Leica, LG, Logitech, Philips, PowerColor, Rapoo, Razer, realme, Samsung, SanDisk, Tp-Link, ViewSonic, Thermaltake, Western Digital, Zircon, Zyxel ฯลฯ

นอกจากแบรนด์ที่นำมายกตัวอย่างแล้ว ทาง Synnex ก็ให้บริการหลังการขายกับสินค้าอีกหลากหลายแบรนด์ด้วย ซึ่งสามารถเช็คดูได้ที่นี่ ส่วนสาขาของ Synnex ที่พร้อมให้บริการนอกห้างสรรพสินค้าที่ทางบริษัทเป็นผู้ดูแลเองและร่วมให้บริการกับร้านค้าสินค้าไอทีชั้นนำในท้องที่ที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำจะมีดังนี้

• สาขาสำนักงานใหญ่, กรุงเทพฯ : 433 ถนนสุคนธสวัสดิ์ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230, โทร. +66(0) 2553-8888
• สาขาขอนแก่น, จังหวัดขอนแก่น : 672/42-44 ถ.กลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น 40000, โทร. +66(0) 4332-2750-1
• สาขาพิษณุโลก, จังหวัดพิษณุโลก : 234/2-3 ถนนบรมราชชนนี 2 ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก, จ.พิษณุโลก 65000, โทร 055-248-999
• สาขานครราชสีมา, จังหวัดนครราชสีมา : 179/31 ซ.มิตรภาพ 4 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา 30000, โทร. +66(0) 4427-1365 , +66(0) 4492-2808-9 , 090-980-5302
• สาขาสุราษฎร์ธานี, จังหวัดสุราษฎร์ธานี : 141/119 ถนนกาญจนวิถี ตำบลบางกุ้ง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000, โทร. +66(0) 7721-2932-3,+66(0) 7728 3955
• บริษัท ชิชางคอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด : 410/18 หมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ ถ.ช้างคลาน ต.ช้างคลาน อ.เมื่อง จ.เชียงใหม่ 50100, โทร. 053-142-700
• หจก. ตราด อินเตอร์เนต : 253 ม.2 ตำบลวังกระแจะ อำเภอเมืองตราด จ.ตราด 23000, โทร. 039-523090

ส่วนสาขาอื่นๆ ที่ไม่ได้นำมาแนะนำในบทความนี้สามารถคลิกดูข้อมูลได้ที่นี่ ส่วนเวลาให้บริการนั้นจะอยู่ช่วง 8:30-18:00 น. และวันเสาร์เฉพาะเสาร์ที่ 2 ของเดือน จะเปิดเวลา 9:00-15:30 น. แต่สำหรับวันเสาร์บางครั้งอาจจะไม่ได้ให้บริการ ดังนั้นแนะนำให้โทรติดต่อทาง Synnex ก่อนนำเครื่องเข้าไปใช้บริการจะดีที่สุด

3. SVOA

ส่วนของ SVOA เองก็เป็นผู้ให้บริการสินค้าไอทีและโน๊ตบุ๊คเจ้าใหญ่อีกเจ้าในประเทศไทยเช่นกัน แต่จะหนักไปทางสินค้าไอทีเสียมากกว่าและมีแบรนด์โน๊ตบุ๊คที่ให้บริการหลังการขายอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยแบรนด์ที่ทาง SVOA ให้บริการหลังการขายได้แก่

• แบรนด์โน๊ตบุ๊คที่ให้บริการหลังการขาย – HUAWEI, Gigabyte, MSI, DELL, Alienware
• แบรนด์สินค้าไอทีที่ให้บริการหลังการขาย – EPSON, AMD, ASRock, Zotac, Plextor, Liteon, Alienware, Leadtek, Delta, Apacer, Roland, ViewSonic, Cooler Master, PowerColor, Gigabyte ฯลฯ

ส่วนของศูนย์บริการของ SVOA นั้น จะมีอยู่ทั้งหมด 8 สาขารวมสาขาสำนักงานใหญ่ด้วย โดยมีในกรุงเทพฯ 1 แห่งและเป็นต่างจังหวัดทั้งหมด โดยมีที่อยู่และเบอร์โทรติดต่อดังนี้

• สาขาสำนักงานใหญ่, กรุงเทพฯ : 131 ถนนราษฎร์บูรณะ แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ 10140, โทร. 0-2849-2777
• สาขาพิษณุโลก, จังหวัดพิษณุโลก : 49/48 ถนนชาญเวชกิจ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก 65000, โทร. 0-5530-3576-8
• สาขาเชียงใหม่, จังหวัดเชียงใหม่ : 188 หมู่ที่ 7 ถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ตำบล ไชยสถาน อำเภอสารภี จ.เชียงใหม่ 50140, โทร. 053-242-151-3
• สาขานครราชสีมา, จังหวัดนครราชสีมา : 28 ถนนชุมพล ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 30000, โทร. 0-4424-3333
• สาขาอุบลราชธานี, จังหวัดอุบลราชธานี : 310/3 ถ.พลแพน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 34000, โทร. 0-4531-6849
• สาขาสุราษฎร์ธานี, จังหวัดสุราษฎร์ธานี : 108/102 ม.3 ถ.เลี่ยงเมือง ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฏร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี 84000, โทร. 0-7728-1235
• สาขาหาดใหญ่, เทศบาลนครหาดใหญ่ : 20 ถนนสยามซิตี้เซ็นเตอร์ 2 ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110, โทร. 0-7426-2101-3

จะเห็นว่าทาง SVOA เองก็มีหน้าร้านสาขาให้บริการตามหัวเมืองใหญ่ ซึ่งถ้าโน๊ตบุ๊คหรือชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ของใครมีปัญหา ก็สามารถส่งเคลมสินค้าได้ตามศูนย์บริการสาขาทั้งหมดนี้ได้เลย แต่อย่างไรก็ตามผู้เขียนก็แนะนำให้โทรติดต่อศูนย์โน๊ตบุ๊คของ SVOA ที่ต้องการเข้ารับบริการก่อนสักหน่อย จะได้ไม่เสียเวลาฟรีนั่นเอง

4. Apple

 

ด้านของคนที่ใช้ MacBook หรือ iPhone แล้วสินค้ามีปัญหาแล้วต้องการเอาเข้าศูนย์โน๊ตบุ๊คของ Apple เอง ถ้าเป็น Apple Store ทั้งสองสาขาปัจจุบันนี้ยังไม่เปิดให้ทำการเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 แต่ถ้าเป็นร้านสาขาที่อยู่ตาม Community Mall ที่ตัวแทนจำหน่ายสินค้าของทาง Apple ได้รับสิทธิ์เปิดให้บริการนั้น ยังมีเปิดให้บริการอยู่พอสมควร ซึ่งผู้เขียนแนะนำว่าถ้าใครต้องการนำ MacBook เข้าไปซ่อมเครื่องก็สามารถใช้คำค้นหาว่า “Apple shop ซ่อมเครื่อง” แล้วค้นหาร้านที่ขึ้นว่า Open แล้วเลือกร้านเข้ารับบริการได้เลย

ส่วนวิธีการสังเกตว่าร้านไหนเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ให้บริการเครื่องที่ยังมีประกันการใช้งานอยู่ แนะนำให้ดูจากคีย์เวิร์ดร้านว่าเป็น iStudio, iServe, iCare, iCenter ได้เลย

 

นอกจากนี้ ทาง iServe ก็มีบริการ Drop Point ที่นำ iPad เข้ามาเช็คและรับบริการได้ด้วยที่ตึก Beautrium ชั้น 3 สยามสแควร์ ซอย 7 โดยจองเข้ารับบริการล่วงหน้าได้ทาง Line : @iserve.cpw และทาง iCare ก็มีบริการ iCare delivery ที่เข้าไปรับสินค้า Apple มาซ่อมแล้วส่งกลับให้ผู้ใช้ได้ด้วย ซึ่งสามารถจองใช้บริการได้ทาง Line : @icarethailand หรือหน้าเพจ Facebook ของทาง iCare ได้โดยตรงเช่นกัน ช่วยให้ลูกค้าที่ไม่ต้องการออกไปเสี่ยงได้รับบริการซ่อมแซมเครื่องได้เลย

5. Acer

ด้าน Acer นอกจากจะส่งซ่อมและเคลมกับทาง Synnex ได้แล้ว ก็มีศูนย์โน๊ตบุ๊คที่อยู่นอกห้างและทาง Acer เป็นผู้ดูแลพร้อมให้นำเครื่องเข้าไปซ่อมบำรุงได้เช่นกัน โดยปัจจุบันนี้จะมีอยู่ทั้งหมด 10 แห่ง แต่สาขาหลักๆ ที่เลือกมาแนะนำได้แก่

• สาขาสำนักงานใหญ่, กรุงเทพฯ : 493/7-8 ถนนนางลิ้นจี แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพ 10120, โทร. 0-2153-9600
• สาขาชลบุรี, จังหวัดชลบุรี : 170/125 หมู่ที 3 ถนนพระยาสัจจา ตําบลเสม็ด อําเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี 20000, โทร. 0-2153-9600
• สาขาเชียงใหม่, จังหวัดเชียงใหม่ : 161/38-39 หมู่ที 4 ต.หนองป่ าครั ง อ.เมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200, โทร. 0-2153-9600
• สาขานครราชสีมา, จังหวัดนครราชสีมา : 531/18 ถ.มิตรภาพ-หนองคาย ต.ในเมือง อ.เมือง . จ.นครราชสีมา 30000, โทร. 0-2153-9600
• สาขาหาดใหญ่, เทศบาลนครหาดใหญ่ : 536 ถนนปุณณกัณฑ์ ตําบลคอหงส์ อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110, โทร. 0-2153-9600

ส่วนผู้ใช้ที่ต้องการเช็คศูนย์โน๊ตบุ๊คที่ Acer ดูแลสาขาอื่นๆ สามารถดูรายชื่อศูนย์บริการทั้งหมดในประเทศไทยได้ที่นี่ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนคิดว่าถ้าต้องการเคลมหรือส่งโน๊ตบุ๊คของ Acer เข้าซ่อมบำรุงก็ใช้บริการของทาง Synnex แทนก็ได้เช่นกันและสะดวกเพราะว่ามีสาขาและหน้าร้านหลายแห่งด้วย

6. Fujitsu

บางคนที่เลือกใช้โน๊ตบุ๊คแบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง Fujitsu นอกจากนำเครื่องไปเคลมกับหน้าร้านที่ซื้อเครื่องมาจะเอาไปใช้บริการที่ไหนได้อีกบ้าง? โดยตอนนี้เจ้าของโน๊ตบุ๊คสามารถนำเครื่องเข้าศูนย์โน๊ตบุ๊คของทาง Fujitsu ได้โดยมีศูนย์บริการทั้งหมด 5 แห่งดังนี้

• สาขากรุงเทพฯ ศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คเซ็นเตอร์ : ชั้น 2 เลขที่ 444 อาคารโอลิมเปียไทยทาวเวอร์ รัชดาภิเษก แขวง สามเสนนอก เขต ห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310, โทร. +66 (0)2-512- 6066, +66 (0)2-302-1500
• สาขากรุงเทพฯ บริษัท ดาต้า เอ็กซ์ทรีม : 2 เลขที่ 1373 ซอยลาดพร้าว (ปัญจมิตร) แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310, โทร. +66 (0)2 957 -5770 – 4, Hotline : +66(0)87 536 5151
• สาขาชลบุรี, จังหวัดชลบุรี : ชั้นที่ 4 เลขที่ 700/2 หมู่ 1 ถ.บางนา ตราด กิโลเมตร ที่ 57 ตำบลคลองตำหรุ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี 20000, โทร. +66 (0) 3845-7047-50
• สาขาชลบุรี, บริษัทดาต้า เอ็กซ์ทรีม : เลขที่ 1. 2-4 ศรีราชา นคร 5 ถนนศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 20110, โทร. 038-770-700
• สาขาศรีราชา-ชลบุรี, จังหวัดชลบุรี : ชั้น 6 ห้อง 6เอ04 อาคารฮาร์เบอร์มอลล์ 4/222 หมู่10 ถนนสุขุมวิท ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 20230, โทร. +66 (0) 3833-0345-7

7. HUAWEI

ด้านบริษัทสมาร์ทโฟนที่หันมาทำตลาดพีซีจริงจังอย่าง HUAWEI เอง นอกจากจะใช้ศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คของ Synnex และ SVOA ได้แล้ว ทางบริษัทเองก็มีศูนย์โน๊ตบุ๊คให้เข้าใช้บริการตามหัวเมืองใหญ่ๆ หลายแห่งทั้งในและนอกห้าง แต่ถ้าผู้ใช้คนไหนที่จะนำโน๊ตบุ๊คหรือพีซีเข้าซ่อมบำรุงควรโทรเข้าศูนย์บริการที่ต้องการนำเครื่องเข้าซ่อมเพื่อเช็คและยืนยันวันและเวลาเข้ารับบริการให้เรียบร้อยก่อน โดยเบอร์โทรศูนย์โน๊ตบุ๊คสาขาต่างๆ ของ HUAWEI จะมีดังนี้

• สาขาพิษณุโลก โทร. 064-2547865
• สาขาอาคารศรีเฟื่องฟุ้ง โทร. 085-4812966
• สาขานครศรีธรรมราช โทร. 098-3476999
• สาขาอุบลราชธานี โทร. 090-9805807
• สาขาเชียงใหม่ โทร. 090-9805938

และนอกจากสาขาหัวเมืองใหญ่ที่เลือกมาแนะนำแล้ว ทาง HUAWEI ก็รวมเบอร์โทรศูนย์โน๊ตบุ๊คสาขาต่างๆ ของทางบริษัทเอาไว้ให้เลือกเข้าใช้บริการได้ตามสะดวกด้วย ซึ่งเราสามารถไล่หาสาขาใกล้บ้านได้ที่นี่

จะเห็นว่าต่อให้ห้างสรรพสินค้าที่รวมศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คจะไม่พร้อมเปิดให้บริการก็ตาม แต่แบรนด์ต่างๆ ก็มีศูนย์ของตัวเองรวมทั้งศูนย์ของบริษัทที่ให้บริการหลังการขายรอให้บริการลูกค้าอยู่อีกมากมายตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งถ้าโน๊ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์ของใครพังก็ยังนำเครื่องเข้าใช้บริการซ่อมและดูแลเครื่องหลังการขายได้เหมือนเดิม ส่วนถ้าใครยังมีประกัน Onsite service อยู่ ก็ยิ่งดีเพราะเราสามารถเรียกช่างให้เข้ามาให้บริการได้สะดวกขึ้นอีกด้วย

---

บทความที่เกี่ยวข้อง

• รวมศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คทุกยี่ห้อในไทย ฉบับอัพเดทปี 2021

• 7 วิธีเช็คสเปคโน๊ตบุ๊คด้วยตัวเองทำได้ง่าย ๆ ฉบับอัพเดท 2021

• 11 วิธีแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คค้าง ฉบับอัพเดท 2021

from:https://notebookspec.com/web/609425-laptop-service-center-outside-store

รวมศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คทุกยี่ห้อในไทย ฉบับอัพเดทปี 2021

ก่อนจะซื้อโน๊ตบุ๊คมาใช้งานสักเครื่องหนึ่ง นอกจากสเปคแล้วหลายคนก็ต้องหาข้อมูลว่าศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คแบรนด์นั้น ๆ ให้บริการดีหรือเปล่าและรอเคลมสินค้านานหรือทำงานเร็วตามเว็บบอร์ดหรือโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างแน่นอน จะได้รับรู้ประสบการณ์ตรงจากผู้ใช้ด้วยกันว่าแบรนด์นั้น ๆ ให้บริการดีและรวดเร็วหรือไม่อย่างไร

ปัจจุบันนี้หลายแบรนด์ก็มีวิธีการดูแลหลังการขายและการส่งซ่อมที่ง่ายขึ้นเรื่อย ๆ ช่วยให้ลูกค้าที่อุดหนุนสินค้าของทางบริษัทสามารถรับบริการดูแลเครื่องได้สะดวกขึ้นเรื่อย ๆ โดยในบทความนี้รวมวิธีการส่งเคลมโน๊ตบุ๊คแบรนด์ต่าง ๆ ฉบับง่ายและรวดเร็วให้เพื่อน ๆ ได้ใช้บริการกัน

มีปัญหาก็ยกเข้าศูนย์ให้เขาดูแลกันไป

ก่อนยกเครื่องไปศูนย์บริการโน๊ตบุ๊ค เตรียมของให้พร้อมด้วย

อุดหนุนใครมาก็กลับไปร้านนั้นเลยก็ได้ ง่ายดีเหมือนกันก็แค่นานหน่อย

อันที่จริงการเคลมโน๊ตบุ๊คแต่ละแบรนด์นั้นเราสามารถนำเครื่องของเราไปส่งเคลมหน้าร้านที่เราซื้อเครื่องมาเลยก็ได้ แต่ก็จะเสียเวลาเนื่องจากทางหน้าร้านต้องทำตามขั้นตอนการรับเคลมสินค้าตามขั้นตอนและนโยบายของทางบริษัท ซึ่งอาจต้องผ่านไปตามขั้นตอนกว่าจะถึงศูนย์รับซ่อมของแบรนด์นั้น ๆ ซึ่งก็จะกินเวลาพอควรทีเดียว แต่ถ้ามีประกันแบบ Onsite Service ก็จะช่วยลดขั้นตอนและความยุ่งยากส่วนนี้ไปได้มาก

สำหรับการส่งเคลมหรือซ่อมโน๊ตบุ๊คของแบรนด์ต่าง ๆ ด้วยตัวเองนั้น นอกจากจะไปศูนย์บริการสาขาหลักแล้ว เราก็สามารถส่งเคลมกับผู้ให้บริการรายอื่นที่ได้รับสิทธิ์ให้บริการอย่างเป็นทางการในประเทศไทยได้ด้วย ซึ่งสิ่งของสำคัญห้ามลืมทุกครั้งเวลาจะนำเครื่องไปเคลม คือ

1. โน๊ตบุ๊คเครื่องที่มีปัญหา – เพื่อส่งเครื่องให้ช่างนำไปซ่อมและแก้ปัญหาที่เราเจอ
2. ปลั๊กของโน๊ตบุ๊ค – สำหรับปลั๊กให้เตรียมเอาไปในกรณีที่เครื่องมีปัญหากับการชาร์จแบตเตอรี่เข้าเครื่อง เพื่อให้ช่างเช็คได้ว่าปัญหาที่เกิดนั้นมาจากตัวปลั๊กหรือช่องเสียบปลั๊กของตัวเครื่องนั้น ๆ กันแน่
3. ใบเสร็จที่ซื้อสินค้า – เพื่อยืนยันว่าเราเป็นเจ้าของโน๊ตบุ๊คเครื่องนั้นจริง และเป็นเครื่องที่ขายในประเทศไทย แต่บางครั้งผู้ให้บริการก็เช็คจาก Serial Number ของโน๊ตบุ๊คเครื่องนั้น ๆ ได้เช่นกัน

รวมศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คทุกแบรนด์ในไทย

สำหรับศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คที่รวบรวมมาในบทความนี้จะเน้นเป็นแบรนด์หลักที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย โดยมีเบอร์โทรศัพท์, เว็บไซต์ และวิธีเคลมที่ง่ายสุดที่แนะนำให้ทำ เพื่อช่วยประหยัดเวลาการนำเครื่องไปเคลมด้วย โดยแต่ละแบรนด์ คือ

1. Apple
2. ASUS
3. Acer
4. Dell
5. HP
6. Huawei
7. Lenovo
8. MSI

Apple

สำหรับสินค้าของ Apple นั้นจะมีแบ่งหน้าร้านเป็น 3 กลุ่ม ตามผู้จำหน่ายสินค้า 3 เจ้าหลัก คือ iCare ของ Studio 7 เจ้าของเดียวกับ Banana IT, iServe ของ Copperwired เจ้าของ iStudio by copperwired กับ U-Store บางสาขา, iCenter ของ SPVi เจ้าของ iStudio ที่เราติดปากกัน ซึ่งเราสามารถนำ MacBook, iPhone, iPad เข้าไปใช้บริการได้ นอกจากนี้ Apple ยังมีหน้าเว็บไซต์สำหรับให้บริการช่วยดูแลปัญหาการใช้งานและเบอร์โทรติดต่อศูนย์ด้วย

โดยทั้งสามเจ้าหลักนี้เป็นผู้ให้บริการซ่อมสินค้าที่ Apple ให้การรับรองเป็น Authorised Service Provider หรือผู้ให้บริการซ่อมอย่างเป็นทางการ โดยเราสามารถนำสินค้าเข้าไปเคลมซ่อมได้ถ้ายังมีประกัน AppleCare อยู่ โดยมีศูนย์หลักให้บริการดังนี้

iCare สาขากรุงเทพฯ

สำหรับ iCare เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 11:00-20:00 น. ทุกสาขา โดยสาขากรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ จะมีแนะนำตามรายชื่อด้านล่างนี้ ส่วนผู้ใช้ที่อยู่จังหวัดอื่นสามารถคลิกดูจังหวัดของตัวเองได้ที่ลิ้งค์นี้

 

• iCare สาขา ศูนย์การค้าเทสโก้โลตัส ปิ่นเกล้า โทร. 0643022878 
• iCare สาขา ศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค ศรีนครินทร์ โทร. 0819091115
• iCare สาขา ศูนย์การค้าเซ็นทรัล สุราษฏร์ธานี โทร. 0643022878
• iCare สาขา ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ชลบุรี โทร. 038053931, 0953727488

iServe

ด้าน iServe จะมีให้บริการตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ โดยมีเวลาเปิดช่วง 10:00-11:00 น. และปิดให้บริการเวลา 21:00-20:00 น. ซึ่งสามารถเช็คสาขาที่ให้บริการทั้งหมดได้ที่นี่ และในลิ้งค์สามารถแจ้งนัดหมายเข้ารับบริการได้ด้วย

• iServe สาขา Amarin Plaza ชั้น 3 เปิด 10:00-21:00 น. โทร. 026522324-5
• iServe สาขา Sena Fest ชั้น G เปิด 11:00-21:00 น. โทร. 020872070
• iServe สาขา Park Ventures Ecoplex ชั้น 2 เปิด 10:00-20:00 น. โทร. 021082252
• iServe สาขา The Circle Ratchapruk เปิด 10:00-22:00 น. โทร. 028638700-1

icenter

สำหรับ iCenter ที่หน้าเว็บไซต์จะมีรายการค่าซ่อมแซมสินค้าทั้งหมดให้ผู้ใช้สามารถเช็คเพื่อเตรียมค่าใช้จ่ายเข้ารับบริการก่อนได้ พร้อมข้อมูลโปรโมชั่นบัตรเครดิตและรายชื่อศูนย์บริการทั้งหมดของทางบริษัทให้เลือกดูได้ และมีสาขาให้บริการอยู่หลายแห่ง ซึ่งสาขาหลัก ๆ ได้แก่

• iCenter สาขาแจ้งวัฒนะ เปิด 11:00-20:00 น. โทร. 0953725592, 028353993-4
• iCenter สาขาจีทาวเวอร์ ถ.พระราม 9 เปิด 10:00-20:00 น. ถ้าเป็นวันศุกร์-อาทิตย์ ปิด 21:00 น. โทร. 0953725558, 021174903-4
• iCenter สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ชั้น 1 เปิด 11:00-20:00 น. โทร. 0953725557, 052020866
• iCenter สาขาศูนย์การค้า Passione (แหลมทองพลาซ่า) ชั้น 2 โทร. 0953725530, 038010909

ASUS

ศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คของ ASUS นั้นจะมีอยู่ทั่วประเทศและเข้ารับบริการได้ง่ายมากแบรนด์หนึ่ง ซึ่งเราสามารถค้นหาศูนย์บริการของ ASUS ใกล้บ้านเราได้จากหน้าเว็บไซต์โดยตรง โดยแยกเป็น ASUS Royal Club ซึ่งทาง ASUS เป็นผู้ให้บริการโดยตัวเองและ Authorized Service Center หรือผู้ให้บริการรายย่อยที่ได้รับการรับรองจาก ASUS เอง

• ASUS Royal Club ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ (ชั้น 2) เลขที่ห้อง 004-005 เปิด 10:00-19:00 น. 
• ซินเน็ค นครราชสีมา 1135/7-8 ถ.สุรนารายณ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เปิด 08:30-17:30 น. โทร. 044271365
• ศูนย์บริการเอซุส ฟิวเจอร์อิเล็คโทรนิคส์ เซอร์วิส 68/104 (อาคารพาณิชย์เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์) ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี โทร. 099-2874457-59
• ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไฮเทค คอมพิวเตอร์ แอนด์ เน็ตเวอร์ค 144/1 ถ.กรมหลวงชุมพร ต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร โทร. 077507172

นอกจากนี้ยังสามารถส่งเคลมได้ตามร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศไทยอีกด้วย โดยอ่านรายละเอียดการส่งเคลมสินค้าได้ที่นี่ นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการศูนย์บริการของวีเซิร์ฟพลัสเพื่อเคลมสินค้าได้ด้วยเช่นกัน โดยเช็คสาขาใกล้บ้านได้ที่นี่

Acer

ศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คของ Acer จะมีอยู่ 10 แห่งทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็นศูนย์ในกรุงเทพฯ 3 แห่ง คือ สาขาพระราม 3, เซียร์ รังสิต, ฟอร์จูนทาวน์ และ 7 แห่งอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัด ซึ่งสาขาต่างจังหวัดจะอยู่ที่ชลบุรี, เชียงใหม่, พิษณุโลก, ขอนแก่น, นครราชสีมา, สงขลา และภูเก็ต โดยมีสาขาหลัก ๆ ดังนี้ ส่วนรายละเอียดแต่ละสาขาอ่านได้ที่นี่

สำหรับเบอร์โทรศัพท์ใช้เบอร์ร่วมกันคือ โทร. 021539655 เป็นเบอร์โทรขอคำปรึกษาด้านเทคนิคและขอรับบริการนอกสถานที่ ส่วนเช็คสถานะการซ่อมเคลมหรือข้อมูลทั่วไป โทร. 021539600

• สำนักงานใหญ่ สาขาพระราม 3 ถนนนางลิ้นจี่ เปิดจันทร์-ศุกร์ เวลา 08:30-18:00 น. 
• สาขาเซียร์ รังสิต เปิดทุกวัน เวลา 10:30-19:00 น. 
• สาขาเชียงใหม่ 161/38-39 ม.4 ต. หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เปิดจันทร์-ศุกร์ เวลา 08:30-18:00 น.
• สาขาหาดใหญ่ ถ.ปุณณกัณฑ์ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดจันทร์-ศุกร์ เวลา 08:30-18:00 น.

Dell

สำหรับศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คอย่างเป็นทางการของ DELL จะใช้บริการดูแลของ Synnex ซึ่งเราสามารถใช้เช็คข้อมูลรับประกันได้ด้วย ส่วนการส่งซ่อมเครื่องสามารถใช้วิธีการจองคิวออนไลน์ได้ด้วยที่ลิ้งค์นี้ แต่จะรองรับเพียงสาขาเซียร์ รังสิต, ซีคอนสแควร์, IT Mall ฟอร์จูนทาวน์ และ สนง.ใหญ่ ถ.สุคนธสวัสดิ์ เท่านั้น โดยสาขาทั้งหมดของ Synnex สามารถเช็คได้ที่ลิ้งค์นี้ ส่วนสาขาหลักตามหัวเมืองใหญ่จะมีดังนี้

• สนง.ใหญ่ SYNNEX 433 ถ.สุคนธสวัสดิ์ แขวง/เขตลาดพร้าว กทม. เปิดให้บริการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08:30-18:00 น. ส่วนวันเสาร์ให้บริการเฉพาะวันเสารที่ 2 ของเดือนเท่านั้น ตั้งแต่เวลา 09:00-15:30 น. โทร. 025538888
• SYNNEX สาขาเชียงใหม่ ที่ K Park Business Center เปิดให้บริการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08:30-18:00 น. ส่วนวันเสาร์ให้บริการเฉพาะวันเสารที่ 2 ของเดือนเท่านั้น ตั้งแต่เวลา 09:00-15:30 น. โทร. 053284023, 0909805317
• SYNNEX สาขานครราชสีมา 179/31 ซ.มิตรภาพ 4 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เปิดให้บริการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08:30-18:00 น. ส่วนวันเสาร์ให้บริการเฉพาะวันเสารที่ 2 ของเดือนเท่านั้น ตั้งแต่เวลา 09:00-15:30 น. โทร. 044271365, 044922808-9
• SYNNEX สาขาหาดใหญ่ 119 ซ.10 ถ.เพชรเกษม ตำบล/อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดให้บริการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08:30-18:00 น. ส่วนวันเสาร์ให้บริการเฉพาะวันเสารที่ 2 ของเดือนเท่านั้น ตั้งแต่เวลา 09:00-15:30 น. โทร. 074895039,  0909805305

นอกจากนี้ Dell ยังมีบริการ Dell Premium Support ที่รองรับซีรี่ส์ Inspiron, XPS, G Series และ Alienware อีกด้วย โดยจะมีเจ้าหน้าที่มาให้บริการถึงที่แบบ On-site Service ในอีก 1 วันทำการถัดไป โดยสามารถอ่านรายละเอียดในบทความนี้ของทาง Notebookspec ได้

HP

ศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คของ HP จะสามารถเช็คได้ที่หน้าเว็บไซต์ของ HP โดยจะรวมโน๊ตบุ๊คสำหรับผู้ใช้ทั่วไป (Consumer PC) กับโน๊ตบุ๊คธุรกิจ (Business PC) และปริ้นเตอร์ (DesignJet) เอาไว้ด้วยกัน ซึ่งสามารถหาได้โดยกรอกรหัสไปรษณีย์และกำหนดรัศมีที่เราต้องการ ซึ่งระบบจะกำหนดขั้นต่ำเอาไว้ที่ 50 กม. และเราสามารถตั้งค่าเพิ่มได้ตามต้องการอีกด้วย โดยสาขากรุงเทพและหัวเมืองใหญ่จะมีดังนี้

• HP Repair Center สาขาพระราม 3 เลขที่ 905 พระราม 3 ซอย 49 โทร. 0628753470
• HP Service Center สาขาระยอง 267/87-88 ถ.สุขุมวิท ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง โทร 038608736
• HP Service Center สาขาเชียงใหม่ 184/2-3 ถ.ช้างคลาน ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โทร.053281175
• HP Service Center สาขาหาดใหญ่ 4 ซอย 15/1 ถ.เพชรเกษม ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โทร.074234205

นอกจากนี้เจ้าของโน๊ตบุ๊ค HP ยังเข้าศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คของวีเซิร์ฟพลัส สาขาต่าง ๆ ได้เช่นกัน โดยคลิกอ่านสาขาทั้งหมดได้ที่นี่

Huawei

สำหรับผู้ใช้ที่เป็นเจ้าของ Huawei MateBook รุ่นต่าง ๆ ก็มีศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คของ Huawei ที่ใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนในค่าย ซึ่งครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่หลายแห่งทีเดียว โดยเราสามารถเลือกดูศูนย์บริการที่อยู่ใกล้บ้านเราได้ที่ลิ้งค์นี้

• สาขาไอทีมอลล์ ฟอร์จูน ทาวน์ ชั้น 2 เปิดให้บริการเวลา 11:00-20:00 น. โทร. 0956203011
• สาขาเอ็มบีเคเซ็นเตอร์ ชั้น 5 เปิดให้บริการเวลา 10:30-19:30 น. โทร. 020644000
• สาขาเชียงใหม่ 300/3 ถ.มณีนพรัตน์ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ. เชียงใหม่ โทร. 0909805938, 0909036093
• สาขาสุราษฎร์ธานี 141/119 ถ.กาญจนวิถี ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี โทร. 077212932-3, 0909805173

Lenovo

ศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คของ Lenovo นั้น หลัก ๆ แล้วจะใช้วิธีการส่งเคลมกับร้านที่ขายสินค้าให้กับเราโดยตรง หรือจะส่งไปเคลมที่ศูนย์บริการเลอโนโว โดย วีเซิร์ฟพลัสก็ได้ ซึ่งมีให้บริการครอบคลุมตามหัวเมืองใหญ่เช่นกัน ได้แก่

• ศูนย์บริการ Lenovo โดยวีเซิร์ฟพลัส อาคารฟอร์จูนทาวน์
  • ชั้น 3 โทร. 026410154-55 ต่อ 301
  • ชั้น 4 โทร. 026410154-55 ต่อ 401-407
• สาขาพันธุ์ทิพย์พลาซ่า โทร. 026566054, 026566037
• สาขาร่มเกล้า โทร. 026669600

สำหรับสาขาต่างจังหวัดมีสาขาหาดใหญ่, สุราษฎร์ธานี, ขอนแก่น, นครราชสีมา, ระยอง, พิษณุโลก, เชียงใหม่ ทั้งหมดสามารถคลิกอ่านได้ที่นี่ ส่วนเจ้าของเครื่อง Lenovo ที่เครื่องมีปัญหาและต้องการส่งเคลมเครื่องและไม่แน่ใจว่าเครื่องของเราเข้าเงื่อนไชการเคลมหรือไม่สามารถอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้

MSI

ศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คของ MSI จะมีอยู่ 2 สาขาในประเทศไทยด้วยกัน คือ สาขาราษฎร์บูรณะที่ทาง SVOA ให้บริการ กับสาขาของไอที ซิตี้ ที่ตึกพันธุ์ทิพย์พลาซา ประตูน้ำ ซึ่งถ้าต้องการเคลมซ่อมโน๊ตบุ๊คของ MSI ถ้าอยู่ในกรุงเทพฯ แนะนำให้ไปพันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำจะสะดวกกว่า โดยที่อยู่และเบอร์โทรของทั้งสองสาขานี้ คือ

• สาขา SVOA 131 ถนนราษฎร์บูรณะ แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ เปิดให้บริการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8:30-17:30 น. โทร. 028492777
• สาขา อาคารพันธุ์ทิพย์พลาซา ชั้น 5-6 (ไอที ซิตี้) เปิดให้บริการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10:30-20:00 น. โทร. 026565030

นอกจากนี้ผู้ใช้โน๊ตบุ๊คของ MSI สามารถเลือกหาศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คของ MSI ได้ที่ลิ้งค์นี้ด้วย

จะเห็นได้ว่าแต่ละแบรนด์จะมีสาขาและวิธีการเช็คศูนย์ให้บริการของตนเองแตกต่างกันไป แต่อย่างไรก็ตามก่อนจะนำโน๊ตบุ๊คของเราเข้าศูนย์บริการโน๊ตบุ๊คเพื่อซ่อมหรือเคลม ขอแนะนำให้โทรติดต่อศูนย์ที่เราต้องการเข้าใช้บริการเสมอเพื่อเช็คว่าทางศูนย์พร้อมให้บริการเราหรือไม่ เพื่อประหยัดเวลาและไม่ต้องไปเสียเที่ยวเปล่าอีกด้วย

from:https://notebookspec.com/web/578745-all-laptop-service-center-in-thailand

ศูนย์บริการซัมซุงเปิดให้บริการแล้วทั่วประเทศ! พร้อมมาตรการ “สะอาด สบายใจ ยกให้เราดูแลคุณ”

กลับมาเปิดให้บริการแล้ว หลังเจอพิษ Coronavirus ทำให้ร้านค้าและร้านรับบริการต่างๆ ปิดชั่วคราว ซัมซุง เซอร์วิส ได้เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าและพนักงานในการบริการทั้งในและนอกสถานที่ ด้วยมาตรการความปลอดภัยที่เข้มข้น ตอกย้ำความ “ตั้งใจ” ในการสร้างมาตรฐานใหม่ด้านบริการหลังการขาย เพื่อส่งมอบประสบการณ์ด้านบริการที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภค ตามนโยบายด้านการบริการในปี 2563 โดยมีมาตราการความปลอดภัย ดังนี้

ตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานทุกคน ก่อนเริ่มปฏิบัติงาน โดยต้องมีอุณหภูมิร่างกายไม่เกิน 37.5 องศา

พนักงานทุกคนต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันขณะให้บริการ เพื่อให้ลูกค้าและพนักงานทุกคนมั่นใจในความปลอดภัย

ขอความร่วมมือลูกค้าสวมใส่หน้ากากอนามัย และให้ความสำคัญในการเว้นระยะห่าง ขณะให้บริการทั้งในและนอกศูนย์บริการ นอกจากนี้ยังได้เพิ่มขั้นตอนการคัดกรอง โดยการวัดอุณหภูมิร่างกายของลูกค้าก่อนเข้ารับบริการอีกด้วย

จำกัดปริมาณลูกค้าภายในร้านและจัดการพื้นที่เพื่อเว้นระยะห่าง โดยได้จัดพื้นที่สำหรับลูกค้าที่รอเข้ารับบริการบริเวณหน้าศูนย์บริการ

รักษาความสะอาดในทุกกระบวนการ พนักงานของซัมซุงจะใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือทุกครั้งที่ปฎิบัติงาน ทำความสะอาดพื้นที่ศูนย์บริการโดยเฉพาะจุดสัมผัสต่างๆ ด้วยสเปรย์และน้ำยาฆ่าเชื้อโรค อย่างต่อเนื่อง และช่วยทำความสะอาดอุปกรณ์ของลูกค้าหลังซ่อมเสร็จ ด้วยบริการ Galaxy Sanitizing Service ที่ซัมซุงจัดเตรียมเครื่องอบทำความสะอาดด้วยรังสียูวี-ซี ในทุกศูนย์บริการ รวมถึงซัมซุง
เอ็กซ์พีเรียนซ์ สโตร์ ให้ลูกค้าได้ใช้บริการ

บริการแก้ไขปัญหาผ่านช่องทางออนไลน์ สำหรับลูกค้าในกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในช่วงเฝ้าระวังและกักตัว ซัมซุงมีบริการให้ความช่วยเหลือผ่านช่องทางออนไลน์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Live chat บริการ Remote service ซึ่งเป็นบริการช่วยเหลือในการตั้งค่าและอัพเดทซอฟต์แวร์ผ่านการควบคุมระยะไกล หรือบริการ Visual Support บริการวีดีโอคอลที่ช่วยให้พนักงานช่างสามารถมองเห็นอุปกรณ์ของลูกค้า จึงสามารถนำเสนอวิธีแก้ไขได้ตรงจุด

ลูกค้าซัมซุงสามารถเข้ารับบริการจากศูนย์บริการซัมซุงด้วยความมั่นใจได้แล้ววันนี้ ทั้ง 38 แห่ง ทั่วประเทศ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทางคอลเซ็นเตอร์ของซัมซุงเบอร์ 1282 หรือผ่านทาง Live chat ที่ https://www.samsung.com/th/support/ และแอปพลิเคชัน Samsung Members เพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญซึ่งผ่านการอบรมจากซัมซุงแล้วเป็นอย่างดีได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

ข่าว: ศูนย์บริการซัมซุงเปิดให้บริการแล้วทั่วประเทศ! พร้อมมาตรการ “สะอาด สบายใจ ยกให้เราดูแลคุณ” มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2020/05/23/samsung-service-centers-are-open-nationwide.html

ศึกษากลยุทธ์ ALIVE SPACE ของ Toyota ที่ยกระดับประสบการณ์ซื้อรถยนต์ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

ปฏิเสธไม่ได้ว่า “รถยนต์” ยังเป็นยานพาหนะที่สำคัญ โดยเฉพาะกับวัยรุ่น และ First Jobber ที่ต่างมองหารถยนต์คู่ใจสักคันไว้ขับขี่ ทำให้ Toyota มองมุมใหม่ พร้อมยกระดับประสบการณ์ซื้อรถยนต์ของคนกลุ่มนี้แบบเต็มขั้น

รู้จัก ALIVE SPACE กับเกมรุกตลาดวัยรุ่น

ปัจจุบันโลกหมุนเร็วกว่าในอดีตมาก ผ่านเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ถาโถมเข้ามา ทำให้การใช้ชีวิตของผู้บริโภค โดยเฉพาะกับกลุ่มวัยรุ่น และวัยเริ่มทำงาน (First Jobber) นั้นแตกต่างจากเดิมเช่นกัน ซึ่งเมื่อแตกต่าง การทำการตลาดกับลูกค้ากลุ่มนี้ก็คงจะเหมือนเดิมไม่ได้อีกต่อไป

เหตุนี้เอง Toyota จึงตัดสินใจปรับกลยุทธ์ในการทำตลาดกับลูกค้ากลุ่มดังกล่าวใหม่ ผ่านการสร้าง ALIVE SPACE หรือโชว์รูมที่มีความทันสมัย และนำเสนอข้อมูลต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงการนำเสนอข้อมูลของรถยนต์รุ่นต่างๆ อย่างที่ไม่เคยมีการทำมาก่อน

เช่นการปรับรูปลักษณ์ภายนอกของโชว์รูมให้ต่างจากเดิม, การออกแบบภายในที่ใกล้เคียงกับ Co-Working Space และการสร้างบรรยากาศใหม่ เพื่อยกระดับตั้งแต่รูป, รส, กลิ่น, เสียง และสัมผัส ให้ตอบโจทย์การเข้ามาใช้บริการ หรือซื้อรถยนต์สักคันหนึ่งของกลุ่มคนรุ่นใหม่

พบกันได้ที่ 8 สาขาทั่วกรุงเทพมหานคร

สำหรับ ALIVE SPACE นั้นปัจจุบัน Toyota ได้ให้บริการทั้งหมด 8 แห่งในกรุงเทพฯ ประกอบด้วย โตโยต้า บัสส์ สาขารามอินทรา, โตโยต้า ที บี เอ็น สาขาบางนา, โตโยต้า กรุงไทย สาขารามอินทรา, โตโยต้า เจริญไทยมอเตอร์ เซลล์ สาขาศรีนครินทร์, โตโยต้านครธน สาขาเทพารักษ์, โตโยต้า เมืองนนท์ สาขาติวานนท์, โตโยต้า เค มอเตอร์ส สาขารามคำแหง และโตโยต้า ธนบุรี สาขาเพชรบุรีตัดใหม่

ขณะเดียวกันทาง Toyota ยังเดินเกมกลยุทธ์ LIVE ALIVE ที่เน้นการเปิดประสบการณ์ และสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนออกไปใช้ชีวิตในรูปแบบของตัวเอง เพื่อล้อไปกับโชว์รูม ALIVE SPACE อีกด้วย แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการรุกตลากลุ่มวัยรุ่นอย่างจริงจัง

ซึ่งตัวกลยุทธ์ LIVE ALIVE นั้น Toyota ได้พาร์ทเนอร์ศิลปิน วง Getsunova สร้างเพลง “ชีวิตที่มีชีวิต” ถ่ายทอดแรงบันดาลใจในการออกไปใช้ชีวิต และเข้าไปสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางการท่องเที่ยว กีฬา
รวมถึงการสนับสนุนรายการแข่งขัน E-Sport ซึ่งสะท้อนความตั้งใจของแบรนด์ที่จะสนับสนุนการออกไปใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในหลากหลายรูปแบบ

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่

ALIVE SPACE website: https://www.toyota.co.th/alivespace/index.html
LIVE ALIVE HUB: https://www.toyota.co.th/livealive/

ตลาดรถยนต์ที่ไม่ง่ายเหมือนในอดีต

ก่อนหน้านี้การจะจำหน่ายรถยนต์สักคันหนึ่งอาจเน้นที่ข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติรถยนต์ เช่นขนาดเครื่อง และแรงม้าเท่าไร หรือห้องโดยสารสะดวกสบายหรือไม่ เพราะผู้บริโภคสามารถเลือกได้แค่นี้จริงๆ แต่ปัจจุบันการแข่งขันของอุตสาหกรรมนี้สูงขึ้น การทำตลาดแบบเดิมคงไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

ยิ่งรถยนต์กลายเป็นอีกสิ่งในการแสดงตัวตนของผู้ใช้งาน ก็ทำให้ผู้บริโภคนั้นตัดสินใจซื้อรถยนต์มากกว่าแค่เรื่องคุณสมบัติ จึงไม่แปลกที่จะเห็นแบรนด์รถยนต์ต่างๆ รวมถึง Toyota พยายามเดินเกมสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับแบรนด์ตัวเอง เพื่อยกระดับการทำตลาดไปอีกขั้น

จึงเชื่อว่าเกมการแข่งขันของตลาดรถยนต์ในด้านการสร้าง Branding ให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้วัยรุ่น และ First Jobber จะยังดุเดือด และใครที่สามารถทำตลาดออกมาตอบโจทย์ผู้ซื้อกลุ่มดังกล่าวได้ ก็น่าจะเป็นผู้ที่ยืนอยู่ในตำแหน่งของผู้นำในตลาดนี้ได้อย่างยั่งยืน

สรุป

การทำตลาดของ Toyota ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการรุกตลาดกลุ่มผู้ซื้อวัยรุ่น และ First Jobber เพราะกลุ่มดังกล่าวจะกลายเป็นผู้มีกำลังซื้อสำคัญในอนาคต ดังนั้นหากสร้าง Branding ให้กับกลุ่มผู้ซื้อดังกล่าวเชื่อถือ และเชื่อใจ การเติบโตของยอดขายในระยะยาวก็ไม่ใช่เรื่องยาก

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/toyota-live-alive-marketing/

ไขปัญหา.. ซื้อมือถือ honor มาแล้ว จะไปส่งซ่อมได้ที่ไหน มีศูนย์บริการหรือเปล่า

ในช่วงประมาณเดือน 2 เดือนที่ผ่านมานี้ เราจะเห็นว่ามือถือแบรนด์จีนอย่าง Honor เริ่มเข้ามาทำตลาดในบ้านเราเต็มตัวแล้ว ซึ่งแต่ละรุ่นที่ออกมาก็มีสเปคและราคาที่ถูกใจหลายๆ คน และก็น่าจะมียังมีอีกหลายๆ คนที่ยังไม่ค่อยมั่นใจกับแบรนด์นี้เท่าไหร่นัก ทั้งไม่รู้จักชื่อ แถมในตอนนี้ Honor ยังไม่มีหน้าร้านแบบเป็นตัวเป็นตน และเน้นขายแบบออนไลน์อย่างเดียว ก็เลยมีคำถามเกิดขึ้นว่า มือถือ Honor ที่ซื้อในประเทศไทยมีศูนย์ซ่อมหรือเปล่า?

ซึ่งถ้าพูดถึงในประเทศจีนบ้านเกิด Honor นั้นเป็นแบรนด์ลูกของ Huawei ที่เน้นการทำตลาดแบบ online ขายตามหน้าเวบไซต์เท่านั้น เหมือนกับที่มาทำตลาดในประเทศไทยนี่แหละ และจากการสอบถามในงานเปิดตัว honor 10 เราก็ได้ข้อมูลมาว่ามือถือทุกรุ่นของ honor ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งตอนนี้มี

• Honor 10
• Honor 7C
• Honor 9 Lite
• Honor View 10
• Honor 7X

สามารถส่งซ่อมกับ Huawei ได้เลย.. อืมก็น่าสนใจเหมือนกัน

และหลังจากเราลองถามไปยัง Huawei ก็เกิดอาการงงๆ ขึ้นมาว่าอะไรนะ จะเอามือถือรุ่นไหมมาซ่อม.. อ้าว พี่คุยกันหรือยัง?

หลังจากเจ้าหน้าที่ของ Huawei ไปค้นหาข้อมูลมาให้เราเรียบร้อย ก็สรุปออกมาเป็นแบบนี้ครับ

มือถือ honor จะส่งซ่อมได้กับศูนย์ Huawei อย่างเป็นทางการที่มีทั้งหมด 14 สาขาทั่วประเทศเท่านั้น ได้แก่

 

• ศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย MBK Center
• ศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย เซียร์ รังสิต
• ศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย อาคารศรีเฟื่องฟุ้ง
• ศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย ซีคอน ศรีนครินทร์
• ศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย ซีคอน บางแค
• ศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย เชียงใหม่
• ศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย พิษณุโลก
• ศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย พัทยา
• ศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย ขอนแก่น
• ศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย นครราชสีมา
• ศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย อุบลราชธานี
• ศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย สุราษฎร์ธานี
• ศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย นครศรีธรรมราช
• ศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย หาดใหญ่

ทีนี้ก็สบายใจกันได้แล้วนะครับ สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของ หรือผู้ที่กำลังเล็งๆ อยู่ว่าจะซื้อมือถือ Honor ดีรึเปล่า เพราะถ้าเกิดเครื่องมีปัญหาอะไรขึ้นมาก็สามารถเอาเข้าศูนย์บริการ Huawei กันได้เลยจ้า

from:https://droidsans.com/honor-service-centers-in-thailand/

nubia ประเทศไทย ย้ายศูนย์บริการใหม่ ไปอยู่คอนโดพิกุลเพลส

เรื่องมันมีอยู่ว่ามีสมาชิกในกลุ่ม nubia ประเทศไทย โทรไปตามงานซ่อมเครื่องที่ศูนย์บริการแล้วก็แปลกใจที่ไม่มีคนรับสายสักที เรียกว่าหัวร้อนจนโทรไปต่อว่าทาง nubia ซึ่งก็ได้คำตอบมาว่าตอนนี้กำลังย้ายศูนย์บริการจากอาคารสำนักงานสีลม ไปอยู่ที่คอนโดมิเนียมแทน

สำหรับรายละเอียดตอนนี้ก็มีแจ้งผ่านทางหน้าเพจของ nubia Smartphone Thailand แล้วนะครับ

สำหรับลูกค้าที่ยังมีเครื่องซ่อมอยู่กับทาง nubia ก็ต้องไปตามต่อกันเองที่ คอนโดพิกุลเพลส ชั้น 8 เลขที่ 29/10 นะครับ โดยเบอร์ติดต่อก็จะเป็นเบอร์เดิม 02-634-5880-82 และหากไปไม่ถูกก็ลองกด Google Maps ข้างล่างนี้ได้

ว่าแต่.. ยังไหวใช่ไหมนาย

 

source : nubia

from:https://droidsans.com/nubia-thailand-move-service-center-to-condiminium/

“คนไทยให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์” B-Quick ยังรุ่งเรืองต่อไป ขยายสาขาเพิ่มทั่วประเทศไทยไม่หยุด

รถยนต์สำหรับคนไทยไม่ใช่แค่ยานพาหนะ แต่เป็นสถานะทางสังคม แถมตลาดก็ไม่ใช่เล็กๆ B-Quick ประเมินว่ามีประมาณ 8 – 10 ล้านคันที่วิ่งอยู่บนถนน แล้วถ้าต้องเปลี่ยนยางสักครั้ง สินค้า High-end ก็เป็นทางเลือกแรกๆ

Facebook : B-Quik เต็มที่เพื่อรถ เต็มร้อยเพื่อคุณ

ภาพลักษณ์คือสิ่งสำคัญของคนไทย ยางรถต้องมีแบรนด์

ประเทศไทยตลาดขนาดใหญ่อันดับ 2 ของรถยนต์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Nikkei Asian Review มองว่า เจ้าของรถยนต์ชาวไทยมีความยินดีที่จะใช้จ่ายกับการตกแต่งอุปกรณ์ราคาสูง โดยเฉพาะล้อยางรถยนต์

Ichiro Tsuzuku ประธานของ B-Quick บอกว่า “คนไทยให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ สินค้ากลุ่ม High-end แม้ว่าจะแพงกว่า แต่ก็ขายดีกว่า” 

• อย่างเช่นยาง Michelin ที่มีราคา 4,890 บาท เทียบกับยางประเภทเดียวกันที่เป็นแบรนด์โนเนมราคาประมาณ 2,690 บาท แม้จะถูกกว่า 40% แต่ความนิยมของบางที่มีแบรนด์โด่งดังก็ไม่ได้รับความนิยมน้อยลงไปกว่าแบรนด์โนเนมแต่อย่างใด

B-Quick ครองแชร์ในตลาดยางรถยนต์ไทยที่ 20% ตลาดไปได้สวย โดยเฉพาะรุ่นที่มีราคาสูง ปัจจุบัน B-Quick มีสาขาอยู่ในไทย 140 แห่งทั่วประเทศ และมีพนักงานประมาณ 400 คน โดยให้บริการทั้งเรื่อง ยาง การซ่อมบำรุงระบบเบรก แบตเตอรี่ โช้คอัพ ช่วงล่าง ระบบแอร์รถยนต์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และซ่อมรอยแตกกระจกรถยนต์

B-Quick ประมาณการณ์ว่ารถยนต์ในไทยมีประมาณ 8 – 10 ล้านคันที่ใช้งานจริง นอกจากตลาดในกรุงเทพแล้ว ต่างจังหวัดก็มีการขยายตัวของรถยนต์สูงมาก ทำให้ B-Quick วางแผนที่จะขยายออกไปมากขึ้น

Facebook : B-Quik เต็มที่เพื่อรถ เต็มร้อยเพื่อคุณ

ขยายต่างจังหวัด ใช้โมเดลเกาะ Hypermarket

หนึ่งในทางลัดที่ B-Quick ทำได้คือการไปเปิดสาขาใน Hypermarket ต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นของ เครือ Central หรือ Tesco Lotus ที่กำลังแข่งกันเปิดสาขาไปทั่วประเทศ B-Quick กำลังใช้โอกาสนี้ในการขยายธุรกิจเช่นกัน ลูกค้ามาช้อปปิ้งก็เอารถยนต์มาเข้าศูนย์บริการไปพร้อมกันเลย

ปีนี้ B-Quick วางแผนไว้ว่าจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 10 – 12 แห่งในประเทศไทย

ความท้าทายของ B-Quick

ตลาดไปได้สวยบวกกับตลาดรถยนต์ที่โตขึ้นมาในปี 2016 (หลังจากที่ไม่ได้โตมา 5 ปีแล้ว) แต่ก็มีคู่แข่งใหม่ที่น่ากลัวคือ Autobacs Seven จากญี่ปุ่นที่ไปจับมือกับ PTG Energy โดยประกาศไว้ว่า ภายใน 5 ปีนี้จะขยายสาขาให่ได้ 140 แห่งทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 7 แห่งที่มีอยู่ตอนนี้ ถือเป็นการประกาศศึกผู้ให้บริการศูนย์รถยนต์ที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม Marubeni จากญี่ปุ่น คือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน B-Quick ถึง 90%

Facebook : B-Quik เต็มที่เพื่อรถ เต็มร้อยเพื่อคุณ

ที่มา – Nikkei Asian Review

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/b-quick-thailand-tires-car/

“คนไทยให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์” B-Quik ยังรุ่งเรืองต่อไป ขยายสาขาเพิ่มทั่วประเทศไทยไม่หยุด

รถยนต์สำหรับคนไทยไม่ใช่แค่ยานพาหนะ แต่เป็นสถานะทางสังคม แถมตลาดก็ไม่ใช่เล็กๆ B-Quik ประเมินว่ามีประมาณ 8 – 10 ล้านคันที่วิ่งอยู่บนถนน แล้วถ้าต้องเปลี่ยนยางสักครั้ง สินค้า High-end ก็เป็นทางเลือกแรกๆ

Facebook : B-Quik เต็มที่เพื่อรถ เต็มร้อยเพื่อคุณ

ภาพลักษณ์คือสิ่งสำคัญของคนไทย ยางรถต้องมีแบรนด์

ประเทศไทยตลาดขนาดใหญ่อันดับ 2 ของรถยนต์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Nikkei Asian Review มองว่า เจ้าของรถยนต์ชาวไทยมีความยินดีที่จะใช้จ่ายกับการตกแต่งอุปกรณ์ราคาสูง โดยเฉพาะล้อยางรถยนต์

Ichiro Tsuzuku ประธานของ B-Quik บอกว่า “คนไทยให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ สินค้ากลุ่ม High-end แม้ว่าจะแพงกว่า แต่ก็ขายดีกว่า” 

• อย่างเช่นยาง Michelin ที่มีราคา 4,890 บาท เทียบกับยางประเภทเดียวกันที่เป็นแบรนด์โนเนมราคาประมาณ 2,690 บาท แม้จะถูกกว่า 40% แต่ความนิยมของบางที่มีแบรนด์โด่งดังก็ไม่ได้รับความนิยมน้อยลงไปกว่าแบรนด์โนเนมแต่อย่างใด

B-Quik ครองแชร์ในตลาดยางรถยนต์ไทยที่ 20% ตลาดไปได้สวย โดยเฉพาะรุ่นที่มีราคาสูง ปัจจุบัน B-Quick มีสาขาอยู่ในไทย 140 แห่งทั่วประเทศ และมีพนักงานประมาณ 400 คน โดยให้บริการทั้งเรื่อง ยาง การซ่อมบำรุงระบบเบรก แบตเตอรี่ โช้คอัพ ช่วงล่าง ระบบแอร์รถยนต์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และซ่อมรอยแตกกระจกรถยนต์

B-Quik ประมาณการณ์ว่ารถยนต์ในไทยมีประมาณ 8 – 10 ล้านคันที่ใช้งานจริง นอกจากตลาดในกรุงเทพแล้ว ต่างจังหวัดก็มีการขยายตัวของรถยนต์สูงมาก ทำให้ B-Quik วางแผนที่จะขยายออกไปมากขึ้น

Facebook : B-Quik เต็มที่เพื่อรถ เต็มร้อยเพื่อคุณ

ขยายต่างจังหวัด ใช้โมเดลเกาะ Hypermarket

หนึ่งในทางลัดที่ B-Quik ทำได้คือการไปเปิดสาขาใน Hypermarket ต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นของ เครือ Central หรือ Tesco Lotus ที่กำลังแข่งกันเปิดสาขาไปทั่วประเทศ B-Quik กำลังใช้โอกาสนี้ในการขยายธุรกิจเช่นกัน ลูกค้ามาช้อปปิ้งก็เอารถยนต์มาเข้าศูนย์บริการไปพร้อมกันเลย

ปีนี้ B-Quik วางแผนไว้ว่าจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 10 – 12 แห่งในประเทศไทย

ความท้าทายของ B-Quik

ตลาดไปได้สวยบวกกับตลาดรถยนต์ที่โตขึ้นมาในปี 2016 (หลังจากที่ไม่ได้โตมา 5 ปีแล้ว) แต่ก็มีคู่แข่งใหม่ที่น่ากลัวคือ Autobacs Seven จากญี่ปุ่นที่ไปจับมือกับ PTG Energy โดยประกาศไว้ว่า ภายใน 5 ปีนี้จะขยายสาขาให่ได้ 140 แห่งทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 7 แห่งที่มีอยู่ตอนนี้ ถือเป็นการประกาศศึกผู้ให้บริการศูนย์รถยนต์ที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม Marubeni จากญี่ปุ่น คือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน B-Quik ถึง 90%

Facebook : B-Quik เต็มที่เพื่อรถ เต็มร้อยเพื่อคุณ

ที่มา – Nikkei Asian Review

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/b-quik-thailand-tires-car/

แค่ดีไซน์ใหม่ไม่พอ ชวนคุยแนวคิดศูนย์บริการของ dtac ทำอย่างไรให้ลูกค้าอยากแวะมาใช้บริการ

คุณไปศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือเดือนละกี่ครั้ง บางคนอาจจะ 1 ครั้ง บางคนอาจจะไปเมื่อมีปัญหา และการโทรศัพท์ไปหายังไม่สามารถตอบโจทย์ได้ เพราะการรับรู้ของประชาชนทั่วไปคือ การไปศูนย์บริการก็เพื่อไปชำระค่าบริการ หรือไปทำธุระ

เท่ากับว่าศูนย์บริการมีความสัมพันธ์กับผู้ใช้บริการคือ เป็นภาระที่ต้องไปทำเดือนละครั้ง (หรือเมื่อมีปัญหา)

แต่ dtac มองในมุมที่แตกต่าง และเห็นว่านี่คือ โอกาสในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้ใช้บริการ

ดูแลลูกค้ากว่า 2 ล้านราย ศูนย์บริการต้องดีขึ้น

ปัญญา เวชบรรยงรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานขาย ของ dtac บอกว่า dtac มีลูกค้าระบบโพสต์เพด หรือ จ่ายรายเดือนกว่า 5 ล้านราย ในจำนวนนี้มีกว่าครึ่งหนึ่ง หรือกว่า 2 ล้านรายที่มาศูนย์บริการของ dtac เป็นประจำ และพบว่า ส่วนใหญ่มาเพื่อ ชำระค่าบริการ, ใช้บริการอื่นๆ หรือ ซื้ออุปกรณ์โทรศัพท์มือถือและเปิดบริการใหม่

dtac ต้องการดูแลลูกค้ากว่า 2 ล้านรายนี้ให้ดีขึ้นกว่าเดิม และทำให้ทุกคนรู้สึกว่า การมาที่ศูนย์บริการ dtac Hall ไม่ใช่ภาระ แต่มาได้ทุกครั้งที่ต้องการ และอาจจะดึงดูดใจให้ลูกค้าคนอื่นๆ อยากมาสัมผัสบริการที่ dtac Hall เพิ่มขึ้น

ดังนั้นที่ผ่านมา dtac จึงลงทุนดีไซน์ใหม่ เปลี่ยนบรรยากาศในศูนย์บริการ dtac Hall ใหม่ แต่แค่เปลี่ยนดีไซน์ยังไม่เพียงพอ ต้องสร้าง Smart Service

ปัญญา เวชบรรยงรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานขาย ของ dtac

สร้างบริการดิจิทัลด้วย Smart Service ดูแลลูกค้าอย่างเข้าใจ

หัวใจของการบริการในยุคดิจิทัล คือการใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์ ถ้าลูกค้าใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น ระบบจะมีข้อมูลและเข้าใจพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าทันที สามารถนำเสนอบริการต่างๆ ได้ตรงกับความต้องการ

การมาที่ศูนย์บริการก็ต้องทำได้เช่นเดียวกัน

การบอกหมายเลขโทรศัพท์ ที่จุดเริ่มต้นบริการ ทำให้ระบบรู้จักและเข้าใจลูกค้ามากขึ้น พนักงานจะสามารถนำเสนอบริการได้อย่างถูกต้อง มีการใช้แท็บเล็ตเพื่อความเป็นกันเอง มีมุมส่วนตัวให้ลูกค้ารับคำปรึกษาต่างๆ และสามารถจองคิวผ่านแอปพลิเคชั่นก่อนมาใช้บริการ รวมถึงมีบริการ Kiosk สำหรับลูกค้าที่สะดวกจะดำเนินการด้วยตัวเอง

จุดเด่นของ Kiosk ที่น่าสนใจ เช่น บริการแพ็ครู้ใจ เพียงกดหมายเลขโทรศัพท์ และยืนยันความเป็นเจ้าของ ระบบจะคำนวณได้ว่า แพ็คเกจปัจจุบันเหมาะสมกับการใช้งานหรือไม่ หรือว่าควรสมัครแพ็คเสริมเพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานมากขึ้น ช่วยให้ลูกค้าประหยัดมากขึ้น

หรือบริการ Lucky Number ที่ให้ลูกค้าเลือกหมายเลขโทรศัพท์ที่เหมาะสมกับตัวเอง จะเลือกเป็นรูปแบบการเรียงเลข หรือผลรวมของเลข หรือหมายเลขที่เหมาะกับปีเกิด ระบบสามารถทำได้ทันที

dtac มั่นใจศูนย์บริการจะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต

ปัญญา บอกว่า การพัฒนาศูนย์บริการให้มีบรรยากาศที่ดีขึ้น ต้องมาพร้อมกับระบบ และการให้บริการที่ดีขึ้น ทำให้ลูกค้ารู้สึกดีที่มาใช้บริการ และต้องเข้าใจเรื่องดิจิทัลมากขึ้น สิ่งที่ dtac Hall พัฒนาจะทำให้ศูนย์บริการมีบทบาทมากขึ้น ในการเชื่อมผู้ใช้บริการในโลกจริงและโลกดิจิทัล

ในเขตเมืองต่างๆ ผู้ใช้บริการอาจต้องการความเป็นส่วนตัว เลือกบริการผ่านแอปพลิเคชั่น และใช้ศูนย์บริการมาเติมเต็ม แต่ในต่างจังหวัดศูนย์บริการจำเป็นมาก และมีผลต่อการตัดสินใจของผู้ใช้บริการ

เพราะผู้ใช้ต้องการคำอธิบายที่เข้าใจง่าย และเห็นประโยชน์ที่จะได้รับ หน้าที่ของศูนย์บริการจึงเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับลูกค้า มากกว่าเป็นแค่จุดจ่ายเงิน ดังนั้นพนักงานต้องรู้และเข้าใจเพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าได้ตลอดเวลา

สรุป

ทั้งแอปพลิเคชั่นที่เป็นบริการออนไลน์ และศูนย์บริการที่เป็นบริการบนโลกจริง ต้องพัฒนาควบคู่กันไป และเชื่อมประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้ให้เป็นเนื้อเดียวกัน ดังนั้นทั้งเรื่องการบริการและการขาย จึงเป็นเรื่องเดียวกันอย่างแยกไม่ออก ถ้านำเสนอบริการที่ดีและจริงใจ จะนำไปสู่การขายได้เอง ที่สำคัญ dtac ยังเพิ่มแนวคิดที่ต้องการให้ ศูนย์บริการ ไม่ใช่จุดที่เป็นภาระ แต่ต้องทำให้ลูกค้าอยากแวะมา

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/smart-service-in-dtac-hall/