คลังเก็บป้ายกำกับ: ปากกา

รีวิว Adonit INK ปากกา Fine Point Stylus สำหรับแท็บเล็ต Windows และอุปกรณ์ 2-in-1 ที่ควรหามาใช้งาน

Adonit บริษัทผู้ผลิตปากกาสำหรับอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคต่างๆ ให้กับเรามาช้านาน ได้ออกตัวผลิตภัณฑ์ปากกาตัวใหม่ Adonit INK ซึ่งเป็น Fine Point Stylus สำหรับอุปกรณ์แท็บเล็ตและอุปกรณ์ 2-in-1 ในระบบ Windows ครับ

นับเป็นปากกาตัวแรกที่ผ่านการรับรองภายใต้มาตรฐานของ Microsoft Pen Protocol (MPP) ทำให้มันสามารถใช้งานกับอุปกรณ์อย่าง Surface และอุปกรณ์ Windows 10 ตัวอื่นๆ ที่รองรับมาตรฐานเดียวกัน เช่น

Adonit Ink ผ่านการทดสอบและสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ดังต่อไปนี้:

MICROSOFT – Microsoft Surface 3, Microsoft Surface Pro 3, Microsoft Surface Pro 4, Microsoft Surface Pro (2017), Microsoft Surface Book, Microsoft Surface Laptop, Microsoft Surface Studio

ASUS – ASUS Transformer Mini (T102HA), ASUS Transformer 3 Pro (T303UA), ASUS Transformer 3 (T305CA), ASUS Transformer Pro (T304UA), ASUS ZenBook Flip S (UX370UA), Vivobook Flip 12 R211NA, Vivobook Flip 14 R211NA

HP – Envy 17-aexxx, Envy x360 15-bp0xx, Envy x360 15-bq0xx, Pavilion x360 11m-ad0xx, Pavilion x360 14m-ba0xx, Pavilion x360 15-br0xx, Spectre x2 12-c0xx, Spectre x360 13-ac0xx, Spectre x360 13-ae000, Spectre x360 15-bl0xx

Acer –  Spin 5,  Nitro 5 Spin

รุ่นอื่นๆ – SONY VAIO Z Flip (VJZ13BX0211B)

รายละเอียดเพิ่มเติม <<<

Adonit INK มีจุดเด่นที่เป็นปากการะบบ Windows ที่ออกแบบหัวปากกามาเหมือนดินสอ มีขนาดแหลมเล็กเพียงแค่ 1มิลลิเมตร และรองรับความแตกต่างของแรงกดได้สมจริงครับ กดเบาลายเส้นบาง กดหนักลายเส้นหนา เหมาะมากสำหรับการนำไปใช้งานในการขีดเขียน จดบันทึก หรือการวาดภาพ เพราะจะให้น้ำหนักของลายเส้นได้แตกต่างกันตามความตั้งใจของผู้ใช้

ตัวมันยังมีปุ่มช็อตคัทสำคัญบนตัวปากกาถึงสองปุ่ม หนึ่งปุ่มที่ใช้แทนการคลิ๊กขวาของเมาส์ อีกหนึ่งปุ่มใช้แทนยางลบ เพื่อลบตัวอักษร, ข้อความ หรือส่วนเกินของภาพในยามใช้งานด้านการวาดเขียน เพื่อให้ผู้ใช้ทำงานได้อย่างสะดวกรวดเร็วครับ รวมทั้งใช้เพื่อการเปิดปิดตัวปากกาด้วย (กดค้างทั้งสองปุ่มเพื่อปิดปากกา (ไฟสีแดง) กดปุ่มล่างเพื่อเปิดปากกา (ไฟสีเขียว))

ฉะนั้นจะเห็นว่ามันถูกออกแบบมาให้เป็นให้เราได้ทั้งเมาส์ปากกาแบบพกพาที่มีปุ่มคลิ๊กขวา และสามารถใช้งานในด้านการขีด, เขียน, วาด เพราะหัวปากกาที่ทำมาเหมือนทรงดินสอ ขนาดเท่าดินสอ และรองรับแรงกดได้เหมือนดินสอจริงๆ

พกเจ้านี้ตัวเดียวก็แทนได้ทั้งปากกาทั้งเมาส์ไปในตัว ซึ่งก็เป็นแนวทางของการพัฒนาระบบ Windows ของ Microsoft นะครับ ที่พัฒนา Windows INK ออกมาเป็นช็อตคัทและหมวดหมู่สำคัญบนทาสค์บาร์ของ Windows 10 ใส่ฟังก์ชั่นเพื่อเน้นการใช้งานร่วมกันกับปากกาลักษณะนี้ได้มากขึ้น

ตัวปากกา Adonit INK ไม่ต้องการการเชื่อมต่อใดๆ ก่อนการใช้งานครับ เพราะเป็นมาตรฐานของ Microsoft Pen Protocol อยู่แล้ว เปิดปากกาขึ้นมาก็พร้อมใช้งานได้ทันที มีตำแหน่งชี้ให้เห็นชัดเจนบนหน้าจอเพราะว่าเจ้านี้เป็น Fine Point Stylus

Adonit INK จะใช้แบตเตอรี่ภายในตัวมันเอง ซึ่งสามารถชาร์จไฟได้กับพอร์ต Micro USB ด้านท้ายปากกา ชาร์จไวมากครับ ถ้าแบตไม่หมดเกลี้ยงจริงๆ ชาร์จแค่ครึ่งชั่วโมงส่วนใหญ่ก็แบตเต็มแล้ว แถมแบตเตอรี่ไม่ใช้เยอะเมื่อชาร์จเต็มจะสามารถใช้งานได้มากกว่า 80 ชั่วโมงเลยทีเดียว ผมเปิดๆ ปิดๆ ใช้งานมาอาทิตย์หนึ่งแบตยังไม่หมดเลย

มีไฟแสดงสถานะระหว่างชาร์จ ไฟสีแดงคือกำลังชาร์จ และไฟสีเขียวคือชาร์จไฟเต็มแล้ว

ตัวปากน้ำหนักเบามาก และใช้วัสดุที่สวยดีครับ ผิวสัมผัสเป็นโลหะ แต่น้ำหนักรวมของปากกาอยู่ที่ 12 กรัมเท่านั้น! แถมมีคลิปหนีบกระเป๋าเสื้อเหมือนปากกาทั่วไป ทำให้พกง่ายมากครับ ที่สำคัญ Adonit เปิดจำหน่ายออกมาราคาไม่แพงครับ 1,990 บาทในเมืองไทย ซึ่งมีการจำหน่ายแล้วหลายสาขาตามร้านค้าไอทีชั้นนำ ก็เป็นหนึ่งอุปกรณ์เสริมสำหรับคนใช้แท็บเล็ตและอุปกรณ์ 2-in-1 ในระบบ Windows ที่น่าหามาใช้งานกันนะครับ

สนใจรายละเอียดของ Adonit Ink ดูเพิ่มเติมได้ที่ adonit และ Facebook Adonit Thailand :

สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ที่  Shopee และ Lazada

from:https://www.appdisqus.com/2018/01/29/review-adonit-ink-fine-point-stylus-windows.html

Samsung กำลังพัฒนาปากกาตัวใหม่ Cross Ballpoint C-Pen stylus ปากกาที่รองรับการเขียนบนทุกหน้าจอ รวมทั้งเป็นปากกาลูกลื่นสำหรับเขียนบนกระดาษ

Samsung กำลังพัฒนาปากกาตัวใหม่ Cross Ballpoint C-Pen stylus ปากกาที่รองรับการเขียนบนทุกหน้าจอ รวมทั้งเป็นปากกาลูกลื่นสำหรับเขียนบนกระดาษ

ข่าวนี้มาพร้อมกับการรายงานเกี่ยวกับ Samsung Galaxy Tab E ตัวใหม่ที่กำลังจะมาครับ รายงานว่าทาง Samsung ได้มีแผนการปล่อยปากกา C-pen ตัวใหม่ Cross Ballpoint C-Pen stylus รหัสโค๊ดเนม BT C Pen – EJ-UW700 ซึ่งเป็นปากกาสไตลัสที่สามารถเขียนลงบนหน้าจออุปกรณ์ทัชสกรีนได้ทุกๆ อุปกรณ์ และสามารถใช้งานเป็นปากกาลูกลื่นสำหรับการเขียนปกติลงบนแผ่นกระดาษได้เช่นกัน

ซึ่งอุปกรณ์ C-pen ตัวนี้จะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยสัญญาณ Bluetooth ตามชื่อของมันครับ อาจจะมีความสามารถในการใช้ร่วมกับแอพพลิเคชั่นบางตัวหรืออาจะใช้งานได้เป็นอุปกรณ์สำหรับการสนทนาโทรศัพท์ได้จากการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน

ตามรายงาน เจ้า Cross Ballpoint C-Pen stylus จะมีการเปิดตัวพร้อมกับแท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab E ที่น่าจะมาในเร็วๆ นี้ครับ

 

from:https://www.appdisqus.com/2015/12/02/samsung-cross-ballpoint-c-pen-stylus.html

พรีวิว Samsung Galaxy Tab A 8.0 การกลับมาสานต่อตำนานปากกา S-Pen บนแท็บเล็ตเขียนได้ภายใต้ชื่อใหม่ที่ไม่ใช่ Note

พรีวิว Samsung Galaxy Tab A การกลับมาอีกครั้งของปากกา S-Pen กับแท็บเล็ตขนาดกลาง

หลังจากปล่อยให้ชาว Galaxy Note 8.0 รอคอยมานานแสนนานแบบข้ามปี ในวันนี้ทาง Samsung ได้ปล่อยทายาทสานต่อตำนานตัวใหม่ ที่เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามว่า Samsung Galaxy Tab A ขนาดหน้าจอ 8 นิ้ว แต่มาพร้อมกับสเปคที่อัพเกรดมากขึ้น ดีไซด์ที่ทันสมัยมากขึ้น และฟังชั่นใหม่ที่มากับ Android 5.0 ครับ

thumb_DSC00171_1024

โดยรุ่นที่นำเข้ามาจำหน่ายในไทยที่เรากำลังพรีวิวอยู่ในขณะนี้คือรุ่นที่รองรับการใส่ซิมรองรับ 4G LTE หน้าจอความละเอียด HD แรม 2GB และ หน่วยความจำภายในเป็นขนาด 16GB เหลือใช้จริงประมาณ 10GB พร้อมช่องเพิ่มหน่วยความจำภายนอก Micro SD card

Samsung Galaxy Tab AScreenshot_2015-04-17-21-38-30

NETWORK Technology GSM / HSPA / LTE
2G bands GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
3G bands HSDPA
4G bands LTE
Speed HSPA, LTE
GPRS Yes
EDGE Yes
LAUNCH Announced 2015, March
Status Coming soon. Exp. release 2015, April
BODY Dimensions 7.5 mm thickness
Weight 320 g (11.29 oz)
SIM Yes
DISPLAY Type TFT capacitive touchscreen, 16M colors
Size 8.0 inches
Resolution 768 x 1024 pixels (~160 ppi pixel density)
Multitouch Yes
PLATFORM OS Android OS, v5.0 (Lollipop)
CPU Quad-core 1.2 GHz
MEMORY Card slot microSD, up to 128 GB
Internal 16 GB (Wi-Fi)/ 32 GB (LTE), 2 GB RAM
CAMERA Primary 5 MP, 2592 х 1944 pixels, autofocus
Features Geo-tagging
Video Yes
Secondary 2 MP
SOUND Alert types Yes
Loudspeaker Yes
3.5mm jack Yes
COMMS WLAN Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, dual-band, WiFi Direct, hotspot
Bluetooth v4.0
GPS Yes, with A-GPS, GLONASS
Radio TBC
USB microUSB v2.0
FEATURES Sensors Accelerometer
Messaging SMS(threaded view), MMS, Email, Push Mail, IM
Browser HTML5
Java No
– MP4/H.264 player
– MP3/WAV/eAAC+ player
– Photo/video editor
– Document viewer
BATTERY Non-removable Li-Ion 4200 mAh battery

จากสเปคด้านบนจะเห็นได้ว่า ตัว Galaxy Tab A 8.0 ตัวนี้จะให้ CPU รุ่นเล็กแต่เป็นตัวใหม่ครับ เทคโนโลยี 64Bit Snapdragon 410 1.2GHz สี่หัวประมวลผล ทดสอบการทำงานเบื้องต้น ลื่นไหลดีครับ

ความละเอียดหน้าจอ 1024×768 pixels อัตราส่วนหน้าจอ 4: 3 เหมือนกับ iPad ของ Apple, กล้องความละเอียด 5MP และกล้องหน้าความละเอียด 2MP, หน่วยความจำภายใน 16GB, ขนาดหน้าจอ 8 นิ้วแบตเตอรี่ความจุ 4,200 mAh ส่วนหน้าจอขนาด 9.7 นิ้วจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย พร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000 mAh ทั้ง 2 รุ่นจะมีความบางเพียง 7.4 มม.

thumb_DSC00169_1024

การดีไซด์เปลี่ยนใหม่ ย้ายที่เก็บปากกามาไว้ด้านบนเครื่อง บางลง และใช้รูปทรงการทำงานแนวตั้งเหมือนโทรศัพท์ เพราะมันเป็นเครื่องแท็บเล็ตที่สามารถทำงานเป็นโทรศัพท์ได้เล่นเคยครับ คุยสายสนทนาแนบหูได้ โทรเข้าออกได้

Samsung Galaxy Tab Athumb_DSC00172_1024
Samsung Galaxy Tab Athumb_DSC00174_1024
Samsung Galaxy Tab Athumb_DSC00176_1024
Samsung Galaxy Tab Athumb_DSC00177_1024

ฝาด้านหลังมีจุดแม่เหล็กเตรียมไว้สำหรับยึดกับเคสฝาพับ ที่น่าจะออกแบบคล้ายๆ ตัว Galaxy Tab S ซึ่งผมว่าหวังความสวยได้เลยเมื่อดูจากงานเคสของแท็บเล็ต Tab S ที่ออกมาก่อนหน้านี้ กล้องหลัง 5 ล้าน กล้องหน้าสองล้าน ดีขึ้นกว่าตัวเก่าในเรื่องของความไว คุณภาพเป็นเช่นไรขอทดสอบให้แน่ใจกันก่อน แต่ที่แน่ๆ ด้านหลังยังคงไร้แฟลชสำหรับการถ่ายภาพกลางคืน

ผลทดสอบด้วย Antutu 

Samsung Galaxy Tab AScreenshot_2015-04-17-21-38-12
Samsung Galaxy Tab AScreenshot_2015-04-17-21-38-06
Samsung Galaxy Tab AScreenshot_2015-04-17-21-38-30

มีฟังชั่นเดิมๆ ที่คุ้นเคยในการทำงานบน Galaxy Note 4 ยกมาให้ใช้งานด้วยครับ เมนูการเรียกใช้ด่วนจากปากกา S-pen มีการบันทึกด่วน การเลือกอัจฉริยะที่สามารถเลือกสิ่งที่แสดงอยู่หน้าจอได้โดยทันที และการตัดภาพหน้าจอโดยอิสระด้วยปากกา และสุดท้ายคือการเขียนลงไปโดยตรงบนหน้าจอ ทั้งสี่คำสั่งเป็นคำสั่งด่วนที่เราเรียกใช้งานได้แล้วบน Galaxy Tab A ครับ

Samsung Galaxy Tab AScreenshot_2015-04-17-21-25-11

อีกหนึ่งฟังชั่นที่น่าสนใจ นั้นคือการใช้ปากกาเขียนข้อความเป็นลายมือในช่องกรอกข้อความได้โดยตรง โดยการนำปากกาไปจ่อที่กรอบกรอกข้อความ จะมีไอคอนแสดงขึ้นมาให้เราเลือกการเขียนด้วยลายมือ เพื่อใส่ข้อมูลได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยครับ ทดสอบการใช้งานแล้ว ต้องบอกว่า สะดวก ไว และแม่นมากๆ

Samsung Galaxy Tab Athumb_DSC00181_1024

การทำงานมัลติทาสกิ้งมีมาในสองรูปแบบเหมือน UI ใหม่ๆ ของ Samsung แบบแบ่งครึ่งหน้าจอ และแบบมินิป๊อบอัพที่ทำงานได้หลายๆ แอพไปพร้อมๆ กันครับ

Samsung Galaxy Tab AScreenshot_2015-04-17-21-27-28
Samsung Galaxy Tab AScreenshot_2015-04-17-21-27-57
Samsung Galaxy Tab AScreenshot_2015-04-17-21-27-43

ทาง Samsung ได้มีการเตรียมแอพพลิเคชั่นสำหรับการทำงานที่เหมาะสมกับเครื่อง Galaxy Tab A เอาไว้ให้ใช้งานได้ฟรีๆ ใน Galaxy Gift อีกด้วย รับรองว่าได้เครื่องมาก็ลองใช้งานกันได้ทุกคนครับ รับสิทธิ์กันได้ทุกเครื่อง

Screenshot_2015-04-17-22-09-27

ราคาตัวเครื่องตัวเครื่องของ Galaxy Tab A เราได้รับทราบมาแล้วทั้งสองขนาดหน้าจอ คือ 12,900 บาทสำหรับหน้าจอ 8.0 นิ้ว และ 14,900 บาท สำหรับรุ่นที่มีขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้ว โดยทั้งสองเครื่องจะเปิดการจำหน่ายในประเทศไทยเร็วๆ นี้

ตามการคาดเดาของทาง Appdisqus คิดว่า การที่ทาง Samsung ได้เปลี่ยนชื่อของตัวซีรีย์แท็บเล็ตที่มาพร้อมกับปากกา จากเดิม Galaxy Note กลายเป็น Galaxy Tab A มีความเป็นไปได้ว่าต่อไปนี้ เครื่องแท็บเล็ตในหลายๆ รุ่นของทาง Samsung จะมาพร้อมกับปากกาเขียนหน้าจอเป็นมาตรฐาน แต่อาจจะยังมีแยกจากชื่อรหัสตัวอักษรตามราคาจำหน่ายในตลาดครับ

ส่วนการรีวิวเต็มๆ สามารถติดตามได้เร็วๆ นี้จาก Appdisqus พร้อมกับการลงลายเส้นจากฝีมือคุณ Cherry Cola เซียน Digital Painting ของเมืองไทย จะเข้ามาทดสอบใช้งานประสิทธิภาพของการขีดๆ เขียนๆ ให้กับพวกเราด้วยตัวเองครับ

FullSizeRender

เทียบขนาดระหว่าง Samsung Galaxy Note 8.0 และ Galaxy Tab A 8.0

from:http://www.appdisqus.com/2015/04/17/preview-samsung-galaxy-tab-a-8-0.html