สำหรับคนที่ถนัดมือซ้าย หลายคนอาจไม่ทราบว่าใน Windows 10 สามารถตั้งค่าสลับปุ่มคลิกซ้าย-คลิกขวา สำหรับคนที่จับเมาส์ด้วยมือข้างซ้ายได้ด้วย โดยสามารถเข้าไปที่หน้า Settings > Devices
จากนั้นคลิกที่เมนู Mouse ด้านข้าง ตรง Primary Button ให้เลือกเป็น Right
เพียงเท่านี้เมาส์ของเราก็จะสลับปุ่มคลิกซ้าย-คลิกขวา ให้เหมาะกับคนถนัดมือซ้ายแล้ว
ที่มา – MSP Thailand
สำหรับคนที่มีปัญหาติดตั้งหรืออัพเดท Windows 10 เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด แล้วพบว่ามีภาษาของแป้นคีย์บอร์ดเพิ่มเข้ามาใหม่ เป็นภาษาอังกฤษของสหราชอาณาจักร (English United Kingdom) ซึ่งทำให้ไปชนกับคีย์บอร์ดภาษาอังกฤษของเดิม หรือถ้ามีภาษาไทยด้วยแล้วก็จะทำให้เรามีภาษาทั้งหมด 3 ภาษา เกิดปัญหาเวลาใช้งานหรือตอนสลับภาษาได้ ซึ่งในตอนนี้ผมมีวิธีแก้มาฝากครับ
ซึ่งตัวเลือกภาษาอังกฤษ United Kingdom ที่แอบเข้ามาใหม่แบบงงๆ นั้น ไม่สามารถทำการลบออกได้ด้วยวิธีปกติ จะต้องซอกแซกพอสมควร เริ่มจากต้องเข้าไปที่ Windows PowerShell โดยการกดสัญลักษณ์แว่นขยายที่ปุ่มทาสก์บาร์ แล้วพิมพ์ค้นหาคำว่า PowerShell แล้วกดเข้าไปครับ
รอสักครูจะมีหน้าต่างคล้ายๆ dos แต่เป็นพื้นหลังสีน้ำเงินปรากฏขึ้นมา
จากนั้นให้พิมพ์คำสั่งว่า $1 = New-WinuserLanguagelist en-us (หากใครกลัวพิมพ์ผิด ก็อปข้อความตัวสีแดงจากบทความนี้ไปวางที่หน้า PowerShell ก็ได้ครับ) จากนั้นกดปุ่ม Enter
แล้วพิมพ์อีกคำสั่งนึงว่า Set-WinuserLanguagelist $1 แล้วกด Enter จากนั้นมันจะถามว่าเราจะทำการล้างค่าภาษาหรือเปล่า ให้พิมพ์ตัวอักษร Y แล้วกด Enter ครับ
จากนั้นทำการ restart เครื่องหนึ่งครั้ง กลับมาอีกทีจะพบว่าสัญลักษณ์ภาษาที่อยู่มุมขวาล่างของจอนั้นได้หายไปแล้วครับ เพราะเราไปทำการเคลียร์การตั้งค่าภาษาทั้งหมดไปแล้วนั่นเอง (เหลือแต่ภาษาอังกฤษหลัก)
ขั้นต่อไปคือการเพิ่มภาษาที่เราต้องการใช้ นั่นก็คือภาษาไทย เข้ามาใหม่ โดยเข้าไปที่ Region & language settings (พิมพ์ค้นหาจากเมนูค้นหาได้เช่นเดียวกัน)
กดปุ่ม Add a language
ค้นหาภาษาไทย
แล้วกด Next
กด Install
รอดาวน์โหลดชุดภาษาสักครู่ (ต้องต่อเน็ตนะครับ)
เพียงเท่านี้คีย์บอร์ดภาษาไทยของเราก็จะกลับมาคู่กับคีย์บอร์ดภาษาอังกฤษตามปกติแล้วครับ หากยังพบว่ามี 4 อันอยู่ให้ทำการรีบูทเครื่องอีกรอบครับ เป็นอันเสร็จ
แต่ยังไม่จบซะทีเดียว สำหรับคนที่ถนัดการเปลี่ยนภาษาคีย์บอร์ดด้วยปุ่ม grave accent หรือที่เรียกกันติดปากคนไทยว่า ปุ่มตัวหนอน ต้องเข้าไปทำการตั้งค่าเพิ่มเติมอีกครับ โดยการเข้าไปที่ Region & language settings อีกครั้ง จากนั้นไปที่เมนู Advance keyboard settings
เลือกเท็บ Advanced Key settings แล้วเลือกไปที่ Between input languages จากนั้นกดที่ Change Key Sequence
เลือกที่ grave accent จากนั้นกด OK เป็นอันเสร็จการตั้งค่า
หากบทความนี้มีประโยชน์ช่วยกดแชร์ให้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับสำหรับการติดตาม
ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ส่งอัพเดทล็อตใหญ่ไปให้ผู้ใช้ PC ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ทุกเครื่องที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Windows Update โดยมีชื่อเรียกการอัพเดทครั้งนี้ว่า April 2018 Update (เวอร์ชั่น 1803) และเนื่องจากเป็นการอัพเดทรอบใหญ่ประจำปี การติดตั้งไฟล์อัพเดทของระบบย่อมใช้เวลานานด้วย ตัวอย่าง 3-5 เครื่องที่ผมใช้ ใช้เวลาอัพเดทประมาณ 40-60 นาทีเลยทีเดียว
เรื่องมันมีอยู่ว่า ในองค์กรที่ผมทำงานอยู่ ได้แจ้งปัญหา Windows 10 เกิดอาการจอฟ้า (blue screen of death) ขึ้นพร้อมๆ กันหลายเครื่องจนผิดปกติ สืบสาวราวเรื่องแล้วจึงพบว่าหลายเครื่องที่เกิดอาการจอฟ้านั้น เกิดจากการไปบังคับปิดเครื่อง (ด้วยการกดปุ่ม power ค้างไว้) ขณะที่ Windows 10 กำลังทำการอัพเดทอยู่ ด้วยความที่ใจร้อน ขี้เกียจรอ หรือผู้ใช้บางคนไม่รู้จริงๆ คิดว่าเครื่องค้างจึงกดปุ่ม restart เพื่อให้ระบบทำการเริ่มต้นใหม่
ผมเลยอยากจะขอมาเตือนทุกๆ ท่านในโพสต์นี้ว่า หาก Windows หรืออุปกรณ์ใดๆ ที่กำลังมีการอัพเดทซอฟท์แวร์อยู่ ห้ามปิดเครื่อง หรือบังคับด้วยวิธีการใดๆ ก็แล้วแต่ให้เครื่องดับเป็นอันขาด เพราะจะทำให้ไฟล์บางไฟล์ของตัวระบบปฏิบัติการเกิดการเสียหายได้ ซึ่งในเคยของ Windows 10 April 2018 Update (เวอร์ชั่น 1803) ครั้งนี้ ร้ายแรงถึงทำให้เกิดอาการจอฟ้าได้เลย ต้องแก้ด้วยการลง Windows ใหม่ ซึ่งทำให้เสียเวลาในการกู้ข้อมูลออกมา ก่อนทำการฟอร์แมตอีกด้วย หรือเคสที่เลวร้ายจริงๆ ก็อาจถึงขั้นข้อมูลภายใน/งานเกิดการเสียหายได้เลยทีเดียวครับ
from:http://www.9tana.com/node/windows-10-update-dont-turn-off/
สำหรับใครที่จะเขียนข้อมูล(ไรท์)ลงแผ่น CD หรือ DVD วันนี้ผมมีเทคนิคการทำงานดังกล่าวบน Windows 7 และ Windows 10 แบบไม่ต้องใช้โปรแกรมใดๆ ช่วย มาฝากครับ ซึ่งวิธีนี้สามารถใช้ในการเขียนไฟล์ข้อมูล (data) ไปไว้ในแผ่นเท่านั้นนะครับ ไม่รวมการคัดลอกจากแผ่นสู่แผ่น
อันดับแรกเริ่มจากนำแผ่นเปล่าใส่เข้าไปในเครื่องอ่าน/เขียนของ PC จากนั้นสังเกตที่ This PC (My Computer) ถ้าแผ่นไหนเป็นแผ่นเปล่าจริง และสามารถไรท์ได้ จะเห็นว่ามีพื้นที่ free เท่ากับพื้นที่ทั้งหมด หรือไม่มีข้อมูลใดๆ อยู่มาก่อนนั่นเอง
จากนั้นให้ดับเบิลคลิกไปที่ไดรว์ของแผ่นที่เราใส่เข้าไป จะมีป็อปอัพ Burn a Disc ขึ้นมา ให้เราตั้งชื่อแผ่น (Disc title) และเลือกว่าต้องการให้การไรท์ข้อมูลครั้งนี้เป็นแบบใด
เมื่อเข้ามาได้แล้วจะเห็นพื้นที่ว่างของแผ่นเรา จากตรงนี้สามารถย้ายหรือคัดลอกไฟล์ที่ต้องการเขียนลงแผ่นเข้ามาในนี้ได้เลย
ระหว่างการคัดลอกจะสังเกตว่าความเร็วในการเขียนข้อมูลจะช้ากว่าปกติ นั่นเพราะเป็นการเขียนข้อมูลลงแผ่นนั่นเอง
…รอจนเสร็จ
เมื่อเขียนข้อมูลเสร็จ ครบจนพอใจแล้ว ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะเอาแผ่นออก ให้ทำการคลิกขวาที่ไดรว์อ่านแผ่น แล้วกด Eject เพื่อทำการสั่งให้นำแผ่นออก ซึ่งขั้นตอนนี้จะกินระยะเวลาชั่วครู่หนึ่ง เพื่อเป็นการตรวจสอบเซสชั่นก่อนนำแผ่นออก
เป็นอันเสร็จขั้นตอนการไรท์แผ่น CD/DVD บน Windows 10 แบบไม่ต้องใช้โปรแกรมช่วยแล้วครับ สำหรับใน Windows 7 ก็ใช้วิธีแบบเดียวกันนี้เลยครับ
ใครใช้ Windows 10 แล้วจู่ๆ ก็พบว่าเล่นเน็ตไม่ได้ ไม่ว่าจะเสียบสายแลน หรือ WiFi หากกด Diagnostics แล้วพบข้อความว่า Ethernet doesn’t have a valid ip วันนี้ผมมีวิธีแก้ไขมานำเสนอครับ
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะ อุปกรณ์หรือไดรเวอร์อุปกรณ์เครื่องข่ายทำงานผิดพลาด การสั่ง netsh int ip reset หมายถึงการเคลียร์ค่าเดิมของระบบนั่นเอง
from:http://www.9tana.com/node/windows-10-ethernet-doesn-valid-ip/
สำหรับใครที่ใช้ Windows 10 แล้วต้องการเพิ่มผู้ใช้งาน (user) ในเครื่องเดียวกัน โดยใน Windows 10 นั้นมีความสามารถในการผสานบัญชีออนไลน์ (Microsoft Account) เข้ากับตัวระบบปฏิบัติการ Windows 10 ด้วย เพื่อนให้สามารถใช้บริการต่างๆ เช่น Outlook, Onedrive ได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่สำหรับคนที่ไม่ต้องการ หรืออยากลดความยุ่งยากในการใช้ Microsoft Account เราสามารถสร้าง User แบบปกติในเครื่องได้เหมือน Windows รุ่นก่อนๆ ครับ ซึ่งตัวเลือกนี้จะแอบอยู่ในเมนูอื่นอีกที วันนี้ผมจะมาแนะนำนำครับ
เริ่มจากการเข้าไปที่หน้าตั้งค่า โดยการกดที่ปุ่ม Start แล้วคลิกที่รูปไอค่อน User ปัจจุบันของเรา เลือกที่ Change account settings
จะมียังหน้าตั้งค่าของระบบ User Account ให้คลิกที่แถบ Family & other people ตรง other people ให้กดที่ Add someone else to this PC
จะมีหน้าต่างขึ้นมาให้กรอกเบอร์โทรหรืออีเมล ให้ข้ามไปเลือกตัวเลือก I don’t have this person’s sign-in infomation
ขั้นต่อไปจะมีการถาม Microsoft Account (Outlook, Hotmail, Office 365 …) ไม่ต้องกรอกครับ ให้กดที่ Add a user without account ตัวเล็กๆ ด้านล่าง
จากนี้ เราสามารถสร้าง User แบบปกติ โดยไม่ต้องผูกกับบริการออนไลน์ของ Microsoft ได้แล้วครับ ใส่ชื่อ รหัสผ่าน และคำใบ้รหัสผ่าน (กันลืม) ได้เลย
user ใหม่ที่เราสร้างก็จะปรากฏอยู่ใน Other people
เราสามารถเปลี่ยนให้ user ใหม่นี้เป็น user ระดับ admin ได้ โดยการกดที่ change account type
เลือกเป็น Administrator
เมื่อเปิดเครื่องครั้งต่อไป ในหน้าจอล็อกอินก็จะมี user ใหม่ที่เราสร้าง มาเป็นตัวเลือกไว้ให้ (มุมซ้ายล่าง)
from:http://www.9tana.com/node/add-windows-10-user-with-out-microsoft-account/
วันนี้ไมโครซอฟท์ได้ปล่อยอัพเดทชุดใหญ่ตัวใหม่ของ Windows 10 ออกมา ในชื่อ Windows 10 Fall Creators Update ซึ่งการอัพเดทครั้งนี้มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย เช่น แอป Photos โฉมใหม่, Mixed Reality Viewer สำหรับ AR, My People, Cortana, Microsoft Edge รวมไปถึงการอัพเดทความปลอดภัยและความสเถียรของระบบ ซึ่งโดยปกติแล้วผู้ใช้ทั่วไปจะได้รับการอัพเดทอัตโนมัติผ่านทาง Windows Update
วิดีโอแนะนำฟีเจอร์ใหม่ของ Windows 10 Fall Creators Update
สำหรับคนที่อยากอัพเดท Windows 10 Fall Creators แต่เข้าไปดูใน Windows Update ของเครื่องแล้วยังไม่พบรายการใหม่ ทางไมโครซอฟท์ก็เตรียมเครื่องมือสำหรับการอัพเดทแบบแมนน่วนมาด้วยครับ นั่นคือเข้าไปดาวน์โหลดตัวช่วยอัพเดทได้เองที่เว็บไซต์ https://www.microsoft.com/en-us/software-download/windows10
ตรงหัวข้อ Windows 10 Fall Creators Update now available ให้กดที่ Update now จะให้เราดาวน์โหลดตัว Windows 10 Update Assistant มา (ขนาดไฟล์ไม่ใหญ่)
จากนั้นทำการเปิดตัว Windows 10 Update Assistant ขึ้นมา กด Update Now
ตัวช่วยอัพเดทจะทำการดาวน์โหลดไฟล์อัพเดทมาจากอินเทอร์เน็ตให้เราเอง (ระหว่างนี้สามารถเปิดโปรแกรมอย่างอื่นไปด้วยได้)
ทันทีที่ดาวน์โหลดเสร็จก็จะทำการติดตั้งให้ตามปกติ เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วจะให้เราทำการรีบูทเครื่องอีกหนึ่งครั้ง เป็นอันเสร็จสิ้นการอัพเดท
from:http://www.9tana.com/node/windows-10-fall-creators-updates/
คนที่ใช้ Windows 10 หลายคนอาจจะเคยเจอปัญหาอยู่ๆ เปิดเครื่องขึ้นมาทำงานพีซีที่ใช้อยู่ก็เกิดอาการช้า/กระตุกไปดื้อๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ใช้งานได้เร็วปกติ ?
จริงๆ แล้วสาเหตุการ “ช้า” ของระบบปฏิบัติการ Windows 10 อาจมาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการติดไวรัส มัลแวร์ หรือโปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์ทำงานอยู่เบื้องหลัง ตลอดจนโปรแกรมต่างๆ ที่เราติดตั้งเข้าไปเพิ่มแล้วเปิดตัวเองขึ้นมาตั้งแต่ก่อน start up
สำหรับคนที่มั่นใจจริงๆ ว่าเครื่องของเราก่อนหน้านี้ก็ทำงานได้ปกติ ไม่ได้ติดไวรัสหรือมัลแวร์แน่ๆ สาเหตุที่ทำให้ Windows 10 อยู่ๆ ก็ช้าลงอาจเป็นเพราะ “Windows Update” หรือกลไกการอัพเดทตัวระบบปฏิบัติการของ Windows เองนั่นแหล่ะครับ เพราะตั้งแต่ Windows 10 เป็นต้นมาจะมีฟีเจอร์อัพเดทตัวเองโดยอัตโนมัติมาให้ตั้งแต่ต้น ถึงแม้จะปิดการทำงานผ่าน Windows Update Settings ไปแล้วการอัพเดทบางรายการ (เช่น รายการที่ร้ายแรง) ก็ยังคงทำการอัพเดทตัวเองได้
วันนี้ผมจึงมาเสนอวิธีแก้ปัญหาอาการ “ช้า” ของ Windows 10 ขณะที่กำลังมีการอัพเดทมาแนะนำครับ
นอกจากขณะการอัพเดทจะทำให้เครื่องช้าแล้ว บางครั้งหลังจากทำการติดตั้งตัวอัพเดทแล้ว Windows 10 อาจรีบูทตัวเองอัตโนมัติด้วย หากใครที่ทำงานอยู่แล้วเจอเหตุการณ์นี้คงหัวเสียไม่น้อย แต่จริงๆ แล้วไมโครซอฟท์ยังสร้างตัวเลือกมาให้เรากำหนด Active hours หรือเวลาที่เราต้องการใช้เครื่องทำงาน (ไม่ต้องการให้ Windows Update มารบกวน) ได้ด้วยครับ …ดูวิธีการตั้งค่าเพิ่มเติมได้ที่ >> วิธีตั้งค่าไม่ให้ Windows 10 restart เอง หลังอัพเดท
วิธีนี้ก็ตรงไปตรงมาครับ ในเมื่อมันช้าเพราะกำลังอัพเดท ดังนั้นควรปล่อยให้มันอัพเดทไปซะให้เสร็จสิ้นในช่วงที่เราไม่ได้กำลังทำงานสำคัญอยู่ วิธีการก็คือเข้าไปที่หน้า Windows Update โดยการคลิกที่ปุ่ม Start แล้วพิมพ์ว่า Windows Update จะมีรายการ Windows Update settings ขึ้นมา กดเข้าไปครับ จากนั้นก็สั่งให้มันทำการหาตัวอัพเดทและทำการดาวน์โหลดไฟล์อัพเดทจากอินเทอร์เน็ตจนเสร็จกระบวนการครับ (ถ้าเป็นการอัพเดทใหญ่ๆ อาจกินเวลานานเป็นชั่วโมง)
วิธีนี้ขอให้เป็นขั้นสุดท้าย สำหรับคนที่ต้องการปิด Windows Update ใน Windows 10 แบบเด็ดขาดหรือพูดง่ายๆ ว่า disable มันไปเลยนั่นเอง ซึ่งหมายความว่าระบบอัพเดทที่ทำงานอยู่เบื้องหลังจากหยุดทำงานไปทันที (อ่านต่อ : วิธีตั้งค่าปิดอัพเดท Windows 10 แบบเด็ดขาด )
แต่ก็จะมีความเสี่ยงว่าหากเราไม่ได้อัพเดท Windows ให้ทันสมัย หากมีการพบช่องโหว่หรือการแพร่ระบาดของมัลแวร์ขึ้นมาเครื่องของเราก็จะตกอยู่ในความเสี่ยงนั่นเองครับ ฉะนั้นการปิดแบบถาวรนี้ควรปิดเปิดช่วงสั้นๆ สำหรับใช้ขณะทำงานสำคัญ (ที่ไม่ต้องการให้ Windows Update รบกวน) เท่านั้น หากทำงานเสร็จควรกลับไปเปิด (enable) แล้วกลับไปอัพเดทให้ทันสมัยตามในข้อ 2 ครับ
from:http://www.9tana.com/node/windows-10-slow-windows-update/
สำหรับผู้ใช้ Windows 10 บางคนอาจเจอปัญหาจู่ๆ เครื่องก็รีสต๊าทเองขณะที่กำลังทำงานอยู่ อันเนื่องมาจากกระบวนการอัพเดทของระบบ Windows Update ซึ่งใน Windows 10 นั้นมักจะทำการรีสต๊าทเครื่องโดยไม่แจ้งให้ผู้ใช้รู้ตัวล่วงหน้าเหมือน Windows 7 วันนี้ผมมีวิธีตั้งค่าไม่ให้ Windows 10 restart เองหลังอัพเดท หรือไม่รีสต๊าทขณะที่เรากำลังทำงานมาแนะนำครับ
อันดับแรก เราสามารถกำหนดได้ครับ ว่าไม่ให้ตัว Windows Update ทำงานในช่วงใด โดยการกำหนดเวลา Active Hours แต่ก่อนอื่นให้เข้าไปที่หน้าตั้งค่าของ Windows Update เสียก่อน โดยการคลิกที่ปุ่ม Start แล้วพิมพ์ว่า Windows Update จะมีรายการ Windows Update settings ขึ้นมา กดเข้าไปครับ
กดที่ Change active hours
เลือกเวลาที่ไม่ต้องการให้ Windows 10 ทำการ update และ restart ยกตัวอย่างเช่น ในเวลาทำงาน 8 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น ก็ใส่ไป 8:00 – 16:00 จากนั้นก็ Save เพื่อบันทึกการตั้งค่า
อีกขั้นตอนนึงคือ ตั้งค่าให้ Windows ขึ้น Notification หรือแจ้งเตือนก่อนว่าจะมีการ restart เพื่อที่เราจะได้รู้ตัว กดยับยั้ง หรือเลื่อนเวลาออกไปก่อนได้ จากหน้า Windows Update settings คลิกที่ restart options
ตรง Show more notifications ให้เลือกเป็น On
เพียงเท่านี้ Windows 10 ก็จะไม่ทำการอัพเดทและ restart ขณะที่เรากำลังทำงานอยู่แล้ว
สำหรับใครใช้ Windows 10 แล้วเจอปัญหาไม่สามารถรันโปรแกรมบางตัว หรือเครื่องมือบางอย่างได้ โดยมีข้อความป๊อปอัพขึ้นมาบอกว่า “Windows protected your PC” วันนี้ผมจะมาอธิบายที่มาที่ไป และวิธีแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาฝากครับ
ข้อความดังกล่าวเป็นหน้าต่างของฟีเจอร์ SmartScreen จาก Windows Defender อีกทีครับ ซึ่งเป็นกลไกด้านความปลอดภัยของ Windows 10 ที่คอยตรวจจับโปรแกรมแปลกปลอม หรือโปรแกรมที่ต้องสงสัยว่าอาจจะไม่ปลอดภัย (อาทิเช่น ไวรัส มัลแวร์ หรือแอดแวร์ ต่างๆ) ไม่ให้รันได้ตามปกติ เหมือนเป็นการแจ้งเตือนให้เราทราบเพื่อยืนยันอีกครั้ง
สำหรับฟีเจอร์ดังกล่าวอาจจะมีปัญหากับโปรแกรมที่เขียนมานานแล้ว ด้วยเทคโนโลยีเก่าๆ หรือเขียนโดยนักพัฒนาอิสระที่ไม่ได้ใช้โค้ดมาตรฐานตามสเปคของไมโครซอฟท์ ก็อาจจะเจอป๊อปอัพนี้ได้เช่นกัน ดังนั้นหากเราจำเป็นที่จะต้องรันโปรแกรมนี้จริงๆ และมั่นใจว่าเป็นโปรแกรมที่ปลอดภัย ก็สามารถบังคับให้เปิดโปรแกรมได้ตามปกติครับ โดยการคลิปที่ปุ่ม More info จากนั้นจะมีปุ่ม Run anyway ขึ้นมาให้เรากดบังคับเปิดโปรแกรม
techfeedthai 