คลังเก็บป้ายกำกับ: WATERPROOF

แนะนำ 14 มือถือกันน้ำไว้ใช้ช่วงสงกรานต์ ช่วงราคาตั้งแต่ 5,000 บาท จนถึงระดับเรือธง มีรุ่นไหนน่าใช้บ้าง (ต้นปี 2021)

เข้าสู่ช่วงเดือนเมษายนแบบนี้ นอกจากอากาศที่ร้อนตับแล่บแล้ว หลาย ๆ คนก็ต้องนึกถึงเทศกาลชุ่มฉ่ำอย่างสงกรานต์กันแน่นอน ซึ่งเทศกาลนี้แหละที่ทำเอามือถือพังกันไปหลายเครื่องแล้ว ด้วยความที่อาจจะไม่รู้ว่ามือถือที่ใช้อยู่ไม่มี IP Rating หรือเกิดจากซองกันน้ำรั่วก็ได้ และถึงแม้ว่าปีนี้จะต้องงดกิจกรรมสงกรานต์เด็ดขาด (T-T) เพราะวิกฤติ COVID-19 แต่อย่างน้อยหากมือถือที่เราใช้ ได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นด้วย มันก็ยังอุ่นใจได้บ้างแหละ ว่าอย่างน้อยถ้าเจอฝนตกก็ไม่กลัวพัง…วันนี้เราก็เลยขอแนะนำมือถือกันน้ำรุ่นใหม่ ๆ ที่วางจำหน่ายในบ้านเรามาให้ได้เป็นตัวเลือกกันครับ 

สำหรับมือถือกันน้ำหลาย ๆ รุ่นที่เราจะแนะนำในวันนี้ ก็จะมีตั้งแต่รุ่นที่สามารถกันน้ำตั้งแต่ระดับละอองน้ำ ฝนตก ไปจนถึงระดับสูงสุด IP68 ที่เอาลงน้ำจืดลึก 1.5 เมตร ได้เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ซึ่งก่อนจะตัดสินใจซื้อก็ต้องดูให้ดี ๆ ด้วยนะครับ ว่ารุ่นไหนกันน้ำได้มากน้อยแค่ไหน โดยมือถือกันน้ำตามรายชื่อด้านล่าง เราได้แบ่งออกเป็น 3 ช่วงราคา มีตั้งแต่ช่วง 5,000 – 10,000 บาท, 10,000 – 20,000 บาท และ 20,000 บาทขึ้นไปครับ

มือถือช่วงราคา 5,000 – 9,999 บาท

สำหรับมือถือในช่วงราคานี้ จะมีอยู่ไม่กี่รุ่นที่ได้รับมาตรฐาน IP Rating ซึ่งรุ่นที่รองรับแม้จะเป็น Rating ที่ไม่สูงจนเอาไปแช่น้ำได้ แต่ก็สามารถกันน้ำฉีดใส่ หรือกันฝนตกสบาย ๆ ครับ

Redmi Note 10 / Note 10 Pro (IP53 กันน้ำฉีด, ฝนตก)

Redmi Note 10 และ Note 10 Pro ที่พึ่งวางจำหน่ายในบ้านเราไปได้ไม่นาน นับว่าเป็นมือถือในช่วงราคาเริ่มต้นราว 5,000 จนถึง 9,000 บาท ที่มีสเปคน่าสนใจ และคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+, รีเฟรชเรท 120Hz (รุ่น Pro), กล้องหลังสูงสุดถึง 108MP (รุ่น Pro), ลำโพงสเตอรีโอคู่, แบตอึด ๆ ถึง 5000 mAh และได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP53 เรียกว่าเป็นหนึ่งในมือถือรุ่นที่คุ้มจริง ๆ ครับ

สเปค REDMI NOTE 10

  • หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว แบบ DotDisplay, ความละเอียด FHD+
  • CPU : Snapdragon 678
  • RAM : 4GB / 6GB (LPDDR4X)
  • ความจุ : 64 GB / 128GB (UFS 2.2), รองรับ microSD Card (Triple Slot)
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    – Wide – 48MP (f/1.79)
    – Ultra-wide – 8MP (f/2.2)
    – Macro – 2MP (f/2.4)
    – Depth – 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 13MP (f/2.45)
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้างตัวเครื่อง)
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ
  • การเชื่อมต่อ : 4G, Bluetooth 5.0, WiFi Dual Band (2.4GHz/5GHz)
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP53
  • แบตเตอรี่ : 5,000 mAh, รองรับระบบชาร์จไว 33W
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย MIUI 12

สเปค REDMI NOTE 10 PRO

  • หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว แบบ DotDisplay, ความละเอียด FHD+, รีเฟรชเรท 120 Hz, รองรับ HDR10
  • CPU : Snapdragon 732G
  • RAM : 6GB / 8GB (LPDDR4X)
  • ความจุ : 128GB (UFS 2.2), รองรับ microSD Card (Triple Slot)
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    – Wide – 108MP (f/1.9)
    – Ultra-wide – 8MP (f/2.2)
    – Tele-Macro – 5MP (f/2.4)
    – Depth – 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 16MP (f/2.45)
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้างตัวเครื่อง)
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ
  • การเชื่อมต่อ : 4G, Bluetooth 5.0, WiFi Dual Band (2.4GHz/5GHz)
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP53
  • แบตเตอรี่ : 5,020 mAh, รองรับระบบชาร์จไว 33W
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย MIUI 12

 

POCO X3 Pro (IP53 กันน้ำฉีด, ฝนตก)

POCO X3 Pro เปิดราคาในบ้านเราไปเมื่อไม่นานนี้ เริ่มต้นที่ 6,999 บาท เท่านั้น แต่ได้มือถือสเปคครบ ๆ ด้วยจุดเด่นที่หน้าจอ LCD ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+, รีเฟรชเรท 120Hz, ชิปแรง ๆ อย่าง Snapdragon 860, กล้องหลัง 4 ตัว 48MP, ลำโพงสเตอรีโอคู่ พร้อมแบตเตอรี่ 5160 mAh ที่มากับชาร์จไว 33W และยังกันน้ำกันฝุ่น IP53 อีกด้วย

สเปค POCO X3 PRO

  • หน้าจอ : IPS LCD ขนาด 6.67 นิ้ว, ความละเอียด FHD+, รีเฟรชเรท 120Hz ครอบด้วย Corning Gorilla Glass 6
  • CPU : Snapdragon 860
  • RAM : 6GB / 8GB
  • ความจุ : 128GB / 256GB, รองรับ microSD card สูงสุด 1TB
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    – กล้องหลัก 48MP
    – กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP
    – กล้องมาโคร 2MP
    – กล้องจับความลึก 2MP
  • กล้องหน้า : 20MP
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 5, Bluetooth 5, NFC
  • เซนเซอร์ : Side fingerprint, proximity, ambient light, accelerometer, gyroscope, electronic compass, vibration motor, IR blaster
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP53
  • แบตเตอรี่ : 5160mAh รองรับชาร์จไว 33W
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย MIUI 12

 

moto G30 (IP52 กันฝน)

มือถือรุ่นนี้ก็พึ่งวางจำหน่ายในบ้านเราไปไม่นานด้วยราคาเพียง 5,999 บาท เท่านั้น แต่สเปคต่าง ๆ เรียกได้ว่าใช้งานทั่วไปได้สบาย ทั้งหน้าจอ LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ รีเฟรชเรท 90Hz, กล้องหลัง 4 ตัว 64MP, ชิป Snapdragon 662, แบตเตอรี่ถึก ๆ ถึง 5000 mAh และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP52 ที่แม้จะน้อยกว่ารุ่นบน ๆ แต่ก็สามารถกันละอองน้ำหรือกันฝนได้สบาย

สเปค MOTOROLA MOTO G30

  • จอภาพ : Max Vision ขนาด 6.5 นิ้ว, ความละเอียด HD+, อัตรารีเฟรช 90Hz
  • ชิป : Qualcomm Snapdragon 662
  • หน่วยความจำ : RAM 6GB + ROM 128GB, รองรับ microSD card สูงสุด 512GB
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    – กล้องหลัก 64MP
    – กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP
    – กล้องมาโคร 2MP
    – กล้องจับความลึก 2MP
  • กล้องหน้า : 8MP
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5, NFC
  • เซนเซอร์ :  Fingerprint reader, proximity sensor, accelerometer, ambient light sensor, gyroscope, SAR sensor
  • มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP52
  • แบตเตอรี่ : 5000mAh, รองรับชาร์จไว 15W
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย My UI

 

ช่วงราคา 10,000-19,999 บาท

สำหรับมือถือในช่วงนี้จะเริ่มได้มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นที่ดีขึ้นมาอีกขั้นที่ระดับ IP67 ซึ่งสามารถเอาลงไปจุ่มในน้ำจืดลึก 1 เมตร ส่วน IP68 จะลงได้ 1.5 เมตร เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง (ตามที่มาตรฐานเคลมเอาไว้) แน่นอนว่าจะโดนน้ำสาด น้ำฉีด น้ำหกใส่ ฝนตกหนัก หรือจะทำตกแอ่งน้ำ ก็ไม่ใช่ปัญหาครับ

Sony Xperia 10 II (IP65/68 กันน้ำจืดลึก 1.5 เมตร เวลา 30 นาที)

เอาใจชาวอารยธรรมด้วย Xperia 10 II (เท็น มาร์ค ทู) ที่วางขายในบ้านเราไปเมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว มากับจุดเด่นหน้าจอ Triluminos (แบบเดียวกับทีวี Bravia) OLED ขนาด 6.0 นิ้ว FHD+ อัตราส่วน 21:9 ครอบด้วย Gorilla Glass 6, ชิป Snapdragon 665, กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 12MP และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP65/68 ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของมือถือแล้ว…รวม ๆ สเปคของมือถือรุ่นนี้อาจไม่มีอะไรโดดเด่นมากนัก แต่ถ้าใครที่เคยใช้มือถือตระกูล Xperia มาก่อน จะรู้ว่ามันเป็นมือถือที่มีการใช้งานโดยรวมที่ค่อนข้างเสถียรเลยล่ะ

สเปค XPERIA 10 II

  • จอ Triluminos (แบบเดียวกับทีวี Bravia) OLED ขนาด 6.0 นิ้ว FHD+ อัตราส่วน 21:9, Gorilla Glass 6
  • CPU: Snapdragon 665
  • RAM: 4GB
  • ความจุ: 128GB, รองรับ Micro SD
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    – 8MP Ultrawide 16mm ขนาดเซนเซอร์ 1/4″ f/2.2
    – 12MP Wide 24mm ขนาดเซนเซอร์ 1/2.8″f/2.0
    – 8MP Tele 52mm ขนาดเซนเซอร์ 1/4″ f/2.4
  • กล้องหน้า: 8MP
  • เซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือด้านข้าง
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11ac, Bluetooth 5.0, USB Type C 2.0
  • มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP65/68
  • แบตเตอรี่: 3,600 mAh
  • ระบบ Android 10

 

Galaxy A52 / A52 5G (IP67 กันน้ำจืดลึก 1 เมตร เวลา 30 นาที)

มือถือสุดฮอตที่พึ่งเปิดตัวไปตอนกลางเดือนมีนาคม มากับสเปคครบเครื่องใช้งานได้อีกยาวทั้งหน้าจอ sMOLED, รีเฟรชเรทสูง 90Hz (A52) และ 120Hz (A52 5G), ลำโพงคู่ปรับแต่งเสียงโดย AKG พร้อมระบบ Dolby Atmos และรูหูฟัง 3.5 มม., กล้องหลัง 4 ตัว 64MP ที่มีระบบกันสั่น OIS มาให้ด้วย, แบตเตอรี่ 4500 mAh ที่ Samsung เคลมว่าใช้งานได้ถึง 2 วัน และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP67

สเปค GALAXY A52 / A52 5G

  • หน้าจอ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ ขนาด 6.5 นิ้ว รีเฟรชเรท 90Hz / 120Hz
  • CPU : Snapdragon 720 / Snapdragon 750
  • RAM : 4GB / 6GB / 8GB
  • ความจุ : 128GB / 256GB รองรับ microSD card 1TB (Hybrid)
  • กล้องหลัง 4 ตัว
    – กล้องหลัก 64MP (f/1.8), กันสั่น OIS
    – กล้อง Ultra wide ความละเอียด 12MP (f/2.2)
    – กล้องจับความลึก 5MP (f/2.4)
    – กล้องมาโคร 5MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 32MP (f/2.2)
  • เซ็นเซอร์ : Accelerometer, Fingerprint sensor, Gyro sensor, Geomagnetic sensor, Hall sensor, Light sensor, Virtual Proximity sensor
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4G+5GHz), Bluetooth® v 5.0
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอคู่ AKG, Dolby Atmos, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น : IP67
  • แบตเตอรี่ : 4500 mAh รองรับชาร์จไว 25W
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย One UI 3.1

 

Galaxy A72 (IP67 กันน้ำจืดลึก 1 เมตร เวลา 30 นาที)

ต่อด้วยรุ่นพี่ที่เปิดตัวมาพร้อม ๆ กันอย่าง Galaxy A72 ที่มีสเปคเกือบจะคล้ายกับรุ่น A52 แต่จะได้กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP มาแทนกล้องมาโคร และแบตเตอรี่อึดกว่านิดหน่อยเป็น 5000 mAh แน่นอนว่ามากับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นเท่ากันที่ IP67 ด้วย

สเปค GALAXY A72

  • หน้าจอ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ ขนาด 6.7 นิ้ว รีเฟรชเรท 90Hz
  • CPU : Snapdragon 720
  • RAM : 6GB / 8GB
  • ความจุ : 128GB / 256GB รองรับ microSD card 1TB (Hybrid)
  • กล้องหลัง 4 ตัว
    – กล้องหลัก 64MP (f/1.8), กันสั่น OIS
    – กล้อง Ultra wide ความละเอียด 12MP (f/2.2)
    – กล้องมาโคร 5MP (f/2.4)
    – กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP (f/2.4) ซูม Optical 3x, AF, กันสั่น OIS
  • กล้องหน้า : 32MP (f/2.2)
  • เซ็นเซอร์ : Accelerometer, Fingerprint sensor, Gyro sensor, Geomagnetic sensor, Hall sensor, Light sensor, Virtual Proximity sensor
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4G+5GHz), Bluetooth® v 5.0
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอคู่ AKG, Dolby Atmos, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น : IP67
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 25W
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย One UI 3.1

 

Galaxy S20 FE (IP68 กันน้ำจืดลึก 1.5 เมตร เวลา 30 นาที)

นับว่าเป็นมือถือรุ่นนึงที่น่าสนใจมาก ๆ เลยสำหรับ Galaxy S20 FE ซึ่งตอนนี้สามารถหาได้ในราคาไม่ถึง 20,000 บาทแล้ว ถึงจะเปิดตัวไปเมื่อช่วงก่อนปลายปี 2020 แต่สเปค+ฟีเจอร์ยังใช้งานได้สบายแฮ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ sAMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz, กล้องหลัง 3 ตัว 12MP พร้อมกันสั่น OIS, ซูมสูงสุด 30x และโหมดถ่ายภาพเจ๋ง ๆ อีกตรึม, ลำโพงคู่ แถมยังรองรับโหมด DeX ไร้สายอีกต่างหาก และแน่นอนว่ามากับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นถึง IP68 อีกด้วย

สเปค SAMSUNG GALAXY S20 FE

  • หน้าจอ sAMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+, รีเฟรชเรท 120Hz, Touch Sampling 240Hz
  • กระจกครอบหน้าจอ : Gorilla Glass 3
  • วัสดุฝาหลัง : Reinforced Polycarbonate
  • CPU : Exynos 990 (4G) / Snapdragon 865 (5G)
  • GPU : Mali-G77 MP11 / Adreno 650
  • RAM : (LPDDR5) 8GB
  • ความจุ : (UFS 3.0) 128GB / 256GB รองรับ microSD card 1TB
  • กล้องหลัง :
    – กล้อง Ultrawide ความละเอียด 12MP (f/2.2) มุมมอง 123°, ขนาดพิกเซล 1.12µm
    – กล้อง Wide ความละเอียด 12MP (f/1.8) Dual Pixel, OIS, ขนาดพิกเซล 1.8µm
    – กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP (f/2.4) PDAF, OIS, Optical Zoom 3x, ขนาดพิกเซล 1.0µm
  • กล้องหน้า : 32MP (f/2.2) ขนาดพิกเซล 0.8µm
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, BT 5.0, NFC
  • เซ็นเซอร์ : Optical Fingerprint (ใต้จอ), Accelerometer, Barometer, Gyro sensor, Geomagnetic sensor, Hall sensor, Proximity sensor, Ambient Light Sensor
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่สเตอรีโอ ปรับแต่งเสียงโดย AKG, ระบบเสียง Dolby Atmos
  • มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น : IP68
  • รองรับการใช้งาน DeX ไร้สาย
  • แบตเตอรี่ 4500 mAh รองรับชาร์จไว 25W, ชาร์จไร้สาย Fast Wireless Charging 2.0, Wireless PowerShare
  • ระบบ Android 10 ครอบด้วย One UI 2.5

 

ช่วงราคา 20,000 บาทขึ้นไป

มือถือที่มีราคาระดับ 20,000 บาทขึ้นไป เรียกว่าเป็นมือถือในช่วงราคาระดับไฮเอนด์จนไปถึงระดับเรือธงระดับพรีเมี่ยมแล้ว ซึ่งรุ่นที่มีมาตรฐานกันน้ำก็มักจะให้มาที่ระดับสูงสุด IP68 กันหมดแล้ว…แต่ถึงจะกันน้ำ (จืด) ได้ที่ความลึก 1.5 เมตร แต่ก็ไม่แนะนำให้เอาไปใช้งานใต้น้ำอยู่ดีนะครับ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าตัวกันน้ำเข้าเครื่องจะเสื่อมหรือมีปัญหารึเปล่า

Galaxy S21 Series (IP68 กันน้ำจืดลึก 1.5 เมตร เวลา 30 นาที)

มือถือซีรีส์เรือธงที่พึ่งเปิดตัวไปไม่นานและยังคงจัดหนักจัดเต็มในด้านสเปค+ฟีเจอร์อีกเช่นเคย โดยซีรีส์นี้มาด้วยกัน 3 รุ่น คือ Galaxy S21, S21+ และ S21 Ultra แต่ละรุ่นก็ได้รับมาตรฐาน IP68 กันทั้งนั้นเลยครับ นอกจากนี้ยังมีคนทดสอบเอา Galaxy S21 ไปไว้ในตู้ปลาแล้วเปิดไลฟ์ผ่าน YouTube ได้ยาว ๆ ถึง 12 วัน เลยนะ

สเปค Galaxy S21 Ultra | S21+ | S21

สเปค Galaxy S21 Ultra Galaxy S21+ Galaxy S21
หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว, ความละเอียด 3K, อัตรารีเฟรช 10 – 120Hz Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด Full HD+, อัตรารีเฟรช 48 – 120Hz Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.2 นิ้ว, ความละเอียด Full HD+, อัตรารีเฟรช 48 – 120Hz
CPU Exynos 2100
RAM (LPDDR5) 12GB / 16GB 8GB
ความจุ 128GB / 256GB / 512GB 128GB / 256GB
กล้องหลัง
  • กล้องหลักความละเอียด 108MP (f/1.8), ขนาดพิกเซล 0.8µm, PDAF, OIS
  • กล้อง Ultra Wide มุมกว้าง 120° ความละเอียด 12MP (f/2.2), ขนาดพิกเซล 1.4µm
  • กล้อง Telephoto 10x ความละเอียด 10MP (f/4.9), Dual Pixel AF,  ขนาดพิกเซล 1.22µm, OIS
  • กล้อง Telephoto 3x ความละเอียด 10MP (f/2.4), Dual Pixel AF, ขนาดพิกเซล 1.22µm, OIS
  • เซ็นเซอร์ Laser AF
  • กล้องหลัก 12MP (f/1.8), ขนาดพิกเซล 1.8µm, OIS
  • กล้อง Ultra Wide มุมกว้าง 120° ความละเอียด 12MP (f/2.2), ขนาดพิกเซล 1.4µm
  • กล้อง Telephoto เลนส์ Hybrid Optic 64MP, ขนาดพิกเซล 0.8µm, ซูม Optical 3X, OIS

 

กล้องหน้า 40MP, AF 10MP
การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e, dual-band, Wi-Fi Direct, NFC, BT 5.2 Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, NFC, BT 5.0
เซ็นเซอร์ Fingerprint (ใต้หน้าจอแบบ Ultrasonic), accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer
มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น IP68
ระบบเสียง ลำโพงสเตอรีโอคู่, ปรับแต่งเสียงโดย AKG, ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.
ปากกา S Pen รองรับ ไม่รองรับ ไม่รองรับ
แบตเตอรี่ 5000 mAh 4800 mAh 4000 mAh
ระบบชาร์จ มีสาย 25W, ไร้สาย 15W, Reverse wireless charging 4.5W
ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบด้วย One UI 3.1
ขนาด / น้ำหนัก 165.1 x 75.6 x 8.9 มม. / 227 กรัม 161.5 x 75.6 x 7.8 มม. / 200 กรัม 151.7 x 71.2 x 7.9 มม. / 169 กรัม

 

iPhone 12 Series (IP68 กันน้ำจืดลึก 6 เมตร)

มือถือซีรีส์ยอดฮิตที่มีถึง 4 รุ่น พร้อมสเปคแรง ๆ และ OS ลื่น ๆ กับกล้องงาม ๆ เรียกว่าครบเครื่องเลยล่ะ แถมยังมากับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ที่ Apple เคลมว่าสามารถเอาลงน้ำจืดได้ลึกถึง 6 เมตร 

สเปค iPhone 12 mini | iPhone 12 | iPhone 12 Pro | iPhone 12 Pro max

iPhone 12 Mini iPhone 12 iPhone 12 Pro
iPhone 12 Pro Max
ไอโฟน 12
ไอโฟน 12 ไอโฟน 12
ไอโฟน 12
หน้าจอ OLED 5.4″ OLED 6.1″ OLED 6.1″ OLED 6.7″
ความละเอียด 2340 x 1080 / 476 ppi 2532 x 1170 / 460 ppi 2532 x 1170 / 460 ppi
2778 x 1284 / 458 ppi
ชิปเซ็ต A14 Bionic
ความจุ
64GB / 128GB / 256GB
128GB / 256GB / 512GB
กล้องหลัง
  • Dual Camera กระจกเลนส์ครอบทับด้วย Sapphire Crystal
  • Wide: 12MP f/1.6 เลนส์ 7 ชิ้น รองรับ OIS, 100% Focus Pixel
  • Ultra-Wide: 12MP f/2.4 มุมกว้าง 120 องศา
Pro Camera กระจกเลนส์ครอบทับด้วย Sapphire Crystal

  • Wide: 12MP f/1.6 เลนส์ 7 ชิ้น รองรับ OIS, 100% Focus Pixel, 1.4 µm
  • Ultra-Wide: 12MP f/2.4 มุมกว้าง 120 องศา
  • Telephoto: 12MP f/2.0
Pro Camera กระจกเลนส์ครอบทับด้วย Sapphire Crystal

  • Wide: 12MP f/1.6 เลนส์ 7 ชิ้น รองรับ OIS แบบ Sensor-Shift, 100% Focus Pixel, 1.7 µm
  • Ultra-Wide: 12MP f/2.4 มุมกว้าง 120 องศา
  • Telephoto: 12MP f/2.2
Deep Fusion ได้ทุกเลนส์
ประสิทธิภาพการซูม Digital Zoom 5x

Optical Zoom 2x

Digital Zoom 10x

Optical Zoom 2.5x

Digital Zoom 12x

กล้องหน้า
TrueDepth 12MP f/2.2 ถ่ายวิดีโอ 4K @60fps รองรับการถ่ายวิดีโอ HDR แบบ Dolby Vision
ถ่ายวิดีโอ 4K @60fps / HDR แบบ HDR Dolby Vision 60fps (บน 12 Mini และ 12 ได้ 30fps)
5G
รองรับ sub-6 GHz และ mmWave
การเชื่อมต่อ WiFi 6, BT 5.0
สแกนลายนิ้วมือ ไม่มี
Face ID รองรับ
ระบบชาร์จไว 20W
ชาร์จไร้สาย รองรับ
พอร์ตชาร์จ Lightning
ลำโพง คู่สเตอริโอ
มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68
ขนาด 131.5 x 64.2 x 7.4 มม. 146.7 x 71.5 x 7.4 มม. 146.7 x 71.5 x 7.4 มม.
160.8 x 78.1 x 7.4 มม.
น้ำหนัก 135 กรัม 164 กรัม 189 กรัม 228 กรัม

 

Sony Xperia 1 II (IP65/68 กันน้ำจืดลึก 1.5 เมตร เวลา 30 นาที)

เปิดตัวไปตั้งแต่ต้นปี 2020 แต่พึ่งวางขายบ้านเราเมื่อเดือนกันยายน 2020 มาพร้อมจุดเด่นกล้องหลังที่พัฒนาร่วมกับ ZEISS และฟีเจอร์ Eye Autofocus สุดล้ำสำหรับจับโฟกัสที่ดวงตาของทั้งคนและสัตว์ได้ แถมยังล้ำสุด ๆ ด้วยฟีเจอร์ที่เปลี่ยนร่างมือถือรุ่นนี้ให้กลายเป็นมอนิเตอร์สำหรับกล้องตระกูล Alpha ได้อีก

สเปคของ XPERIA 1 II

  • หน้าจอ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว 4K HDR อัตราส่วน 21:9
  • เทคโนโลยีภาพ Motion Blur Reduction ให้ความลื่นเทียบเท่าจอ 90Hz
  • CPU: Snapdragon 865
  • RAM: 8GB
  • ความจุ: 256GB แบบ UFS, รองรับ Micro SD (ช่อง hybrid)
  • กล้องหลัง 4 ตัว
    – 12MP Ultrawide 16mm Dual Photodiode (Dual Pixel) ขนาดเซนเซอร์ 1/2.6″ f/2.2
    – 12MP Wide 24mm Dual Photodiode ขนาดเซนเซอร์ 1/1.7″ (ขนาดพิกเซล 1.8 ไมครอน) f/1.7
    – 12MP Tele 70mm ขนาดเซนเซอร์ 1/3.4″ f/2.4
    – 3D iToF สำหรับช่วยโฟกัส (ระยะ 5 เมตร / ใช้งานได้กับกล้อง Tele)
  • กล้องหน้า: 8MP
  • เซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือบนปุ่ม Power
  • การเชื่อมต่อ: 5G sub 6GHz (ไม่รองรับ mmWave), Wi-Fi 802.11ax, Bluetooth 5.1
  • พอร์ตเชื่อมต่อ: USB Type C 3.1, รองรับช่องหูฟัง 3.5mm
  • ระบบเสียง: Dolby Atmos, DSEE Ultimate, 360 Reality Audio
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP65/68
  • แบตเตอรี่: 4,000 mAh รองรับชาร์จไวแบบมีสายเทคโนโลยี Power Deliver, รองรับชาร์จไร้สาย
  • ระบบ Android 10

 

OPPO Find X3 Pro (IP68 กันน้ำจืดลึก 1.5 เมตร เวลา 30 นาที)

มือถือเรือธงกล้องหลังระดับเทพที่มากับเซนเซอร์ IMX766 คู่ความละเอียด 50MP และฟีเจอร์เด่นไม่เหมือนใครด้วยกล้องไมโครเลนส์กำลังขยาย 60x ใช้ถ่ายภาพแบบกล้องจุลทัศน์เห็นชัดไปยังฝุ่นเลยทีเดียว

สเปค OPPO FIND X3 PRO

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด Quad HD+, อัตรารีเฟรช 120Hz แบบไดนามิก, รองรับการแสดงผล HDR10+
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 888
  • RAM : 12GB
  • ความจุ : 256GB
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    – กล้องหลัก 50MP (ƒ/1.8), เซนเซอร์ภาพ Sony IMX766, All Pixel Omni-Directional PDAF, EIS
    – กล้องอัลตร้าไวด์ 50MP (ƒ/2.2), มุมกว้าง 110.3 องศา, เซนเซอร์ภาพ Sony IMX766, All Pixel Omni-Directional PDAF, EIS
    – กล้องเทเลโฟโต้ 13MP (ƒ/2.4)
    – กล้องไมโครเลนส์ 3MP (ƒ/3.0)
  • กล้องหน้า : 32MP (ƒ/2.4)
  • เครือข่าย : 5G
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, Bluetooth 5.2, NFC, USB Type-C
  • เซนเซอร์ : Fingerprint, accelerometer, gyro, proximity, compass
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP65/68
  • แบตเตอรี่ : 4500mAh, รองรับชาร์จไว 65W
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย Color OS 11.2

 

OnePlus 9 Pro (IP68 กันน้ำจืดลึก 1.5 เมตร เวลา 30 นาที)

ถึงแม้ว่า OnePlus 9 Pro จะเข้ามาขายไม่ทันช่วงสงกรานต์ แต่อย่างน้อยมันก็ผ่านการรับรองจาก กสทช. เรียบร้อยแล้ว สำหรับมือถือเรือธงที่คราวนี้ไปจับมือกับค่าย Hasselblad เพื่อช่วยกันพัฒนากล้องให้เทพไปกว่ารุ่นที่ผ่าน ๆ มา และยังรองรับ IP68 อีกด้วย

สเปค OnePlus 9 PRO

  • หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด Quad HD+, รีเฟรช 1 – 120Hz แบบไดนามิก, รองรับการแสดงผล HDR10+
  • CPU : Snapdragon 888
  • RAM : 12GB
  • ความจุ : 256GB
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    – กล้องหลักความละเอียด 48MP (f/1.8), PDAF, OIS
    – กล้อง Ultra Wide มุมกว้าง ความละเอียด 50MP (f/2.2)
    – กล้อง Telephoto 3x ความละเอียด 8MP (f/2.4), OIS
    – กล้อง Monochrome ความละเอียด 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 16MP (f/2.4)
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, NFC, BT 5.2
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ใต้หน้าจอ), accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP68
  • แบตเตอรี่ : 4500mAh, รองรับชาร์จไว 65W
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย OxygenOS 11

 

Mi 11 Ultra (IP68 กันน้ำจืดลึก 1.5 เมตร เวลา 30 นาที)

อีกหนึ่งเรือธงที่พึ่งเปิดตัวไป และยังไม่วางขายในบ้านเราแต่มีชื่อผ่าน กสทช. เรียบร้อย มากับสเปคแบบจัดหนักจัดเต็มทั้งหน้าจอเล็กด้านหลังใช้สำหรับแสดง Notification หรือใช้เป็นจอไว้ถ่ายเซลฟี่ก็ได้ รวมถึงยังมีกล้องหลังเทพจัด ๆ จนขึ้นไปอยู่อันดับ 1 บนเว็บ DxOMark แถมยังเป็นรุ่นแรกของ Xiaomi ที่ได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 อีกด้วยนะ

สเปค MI 11 ULTRA

  • หน้าจอ OLED ความละเอียด 2K ขนาด 6.81 นิ้ว, รีเฟรชเรท 120Hz, รองรับ Dolby Vision, ครอบด้วย Gorilla Glass Victus
  • หน้าจอด้านหลัง OLED ขนาด 1.1 นิ้ว
  • CPU : Snapdragon 888
  • GPU : Adreno 660
  • RAM (LPDDR5) : 8GB / 12GB
  • ความจุ (UFS 3.1) : 256GB / 512GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    – กล้องหลักความละเอียด 50MP, OIS
    – กล้อง Ultrawide เซ็นเซอร์ IMX586 ความละเอียด 48MP, มุมกว้าง 128°, OIS
    – กล้อง Telephoto แบบ Periscope 5x – 120x เซ็นเซอร์ IMX586 ความละเอียด 48MP, OIS
  • กล้องหน้า : 20MP
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, DLNA, hotspot, BT 5.2
  • เซ็นเซอร์ : Fingerprint (ใต้จอ), accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer
  • ระบบเสียง : ลำโพงปรับแต่งโดย Harman Kardon, ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น : IP68
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไวมีสาย 67W, ไร้สาย 67W
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย MIUI 12.5

 

และทั้งหมดนั่นก็คือมือถือที่ได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP Rating ในระดับที่สามารถพกเอาไปเล่นสงกรานต์ หรือตากฝนได้แบบไม่กลัวพัง แต่สำหรับรุ่นที่ได้รับมาตรฐาน IP67 – 68 ขึ้นไปซึ่งตามสเปคระบุว่าลงน้ำจืดได้ 1 – 1.5 เมตร แนะนำว่ายังไงก็ไม่ควรเสี่ยงเอาลงไปเล่นในน้ำนะครับ เพราะมือถือทุกรุ่นแม้จะเคลมว่ากันน้ำได้เท่านั้นเท่านี้ แต่หากเครื่องมีปัญหาเพราะความชื้นหรือน้ำเข้าเมื่อไหร่ ประกันจะไม่ครอบคลุมถึงส่วนนั้นนะครับ

from:https://droidsans.com/waterproof-smartphone-q1-2021/

iPhone 11 และ iPhone 11 Pro อยู่รอดในน้ำลึก 12 เมตร จากการทดสอบในอ่าวมอนเทอเรย์ แคลิฟอร์เนีย

Apple สร้าง iPhone ให้กันน้ำได้สูงกว่า iPhone ทุกรุ่นเท่าที่เคยมีมา iPhone 11 สามารถทนน้ำถึงระดับความลึก 2 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที และ iPhone 11 Pro ทนน้ำถึงระดับความลึก 4 เมตร ภายในระยะเท่ากัน แต่จะเป็นอย่างไร? เมื่อถูกนำไปทดสอบในแม่น้ำตามธรรมชาติ

CNET ได้นำ iPhone 11 และ iPhone 11 Pro ไปทดสอบคุณสมบัติกันน้ำ โดยนำลงไปแช่ในอ่าวมอนเทอเรย์ ของรัฐแคลิฟอร์เนีย

การทดสอบครั้งแรกได้ปล่อย iPhone ทั้ง 2 รุ่น ลงไปที่ระดับความลึก 4 เมตร และทิ้งไว้นาน 30 นาที หลังจากนำทั้งคู่ขึ้นมาเช็ดให้แห้ง แล้วทดลองใช้งานเบื้องต้น ก็ไม่พบความเสียหายแต่อย่างใด ที่น่าสนใจก็คือ iPhone 11 ยังอยู่รอดแม้จะเป็นความลึกมากกว่า 2 เท่า ตามที่ Apple ระบุไว้

iPhone 11 และ iPhone 11 Pro ยังถูกทดสอบอีก 2 ครั้ง ในลักษณะเดียวกัน แต่เพิ่มความลึกเป็น 8 เมตร และอีกครั้งที่ 12 เมตร โดยแช่ไว้นาน 30 นาที ก่อนนำขึ้นมาตรวจสอบ น่าประทับใจที่ความลึกระดับ 12 เมตร ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับ iPhone รุ่นใหม่ล่าสุดของ Apple ยกเว้นลำโพงที่ดูเหมือนเสียงจะเบาลงไปเล็กน้อย

from:https://www.flashfly.net/wp/272303

Samsung กำลังถูกฟ้องในออสเตรเลีย จากโฆษณาคุณสมบัติ Water Resistance ของสมาร์ทโฟน Galaxy

Samsung กำลังถูกกลุ่มคุ้มครองผู้บริโภคในออสเตรเลียฟ้องร้อง โดยกล่าวหาว่าโฆษณาสมาร์ทโฟน Galaxy ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับมาตรฐานการกันน้ำ เนื่องจากในโฆษณามีการใช้งานสมาร์ทโฟนใต้น้ำ ทั้งในสระว่ายน้ำ และในน้ำทะเล

กลุ่มคุ้มครองผู้บริโภคในออสเตรเลีย บอกว่าโฆษณาดังกล่าวได้สร้างความเข้าใจผิดกับผู้ใช้งาน คิดว่าสมาร์ทโฟน Galaxy สามารถต้านทานน้ำได้ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นน้ำในสระว่ายน้ำหรือน้ำทะเล

ความจริงแล้วสมาร์ทโฟน Galaxy สามารถต้านทานน้ำในระดับ IP68 ซึ่งหมายถึงทนทานต่อน้ำลึก 1.5 เมตร เป็นเวลา 30 นาที แต่มาตรฐาน IP68 ไม่ครอบคลุมน้ำทุกประเภท โดยเฉพาะน้ำทะเลที่เป็นน้ำเค็ม

อย่างไรก็ตาม Samsung ยืนยันว่าโฆษณาที่สร้างขึ้น อยู่ภายใต้กฎหมายของออสเตรเลีย และจะต่อสู้ในคดีนี้

ที่มา – MacRumors
https://www.flashfly.net/wp/258600

from:https://www.flashfly.net/wp/258600

Huawei Mate 10 Pro ยังทำงานได้ปกติ แม้ถูกแช่ในทะเลสาบน้ำแข็ง

เป็นอีกครั้งที่ Huawei Mate 10 Pro ถูกทดสอบในสภาพอากาศที่รุนแรง หลังจากก่อนหน้านี้ ถูกนำไปแช่แข็งนาน 4 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิติด -24 องศาเซลเซียส และล่าสุดยังเจอบททดสอบที่หนักกว่านั้น เพราะถูกฝังในทะเลสาบน้ำแข็ง

การทดสอบครั้งนี้ของ Huawei เหมือนเป็นการท้าทาย Apple ที่เคยมีรายงานว่า iPhone พบปัญหาเมื่อใช้งานในสภาพอากาศหนาวจัด ถึงแม้จะออกแบบมาให้ทำงานได้ดีในอุณหภูมิระหว่าง 0 – 35 องศาเซลเซียสก็ตาม

Huawei Mate 10 Pro ก็ได้รับการออกแบบให้ทำงานได้ดีในสภาพอากาศ 0 – 35 องศาเซลเซียส เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ของ Apple แต่จากการทดสอบก่อนหน้าที่ ที่ถูกนำไปแช่แข็งนาน 4 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิติด -24 องศาเซลเซียส ก็ยังรอดมาได้ รวมถึงการทดสอบครั้งล่าสุด ที่แม้จะถูกฝังไว้ในทะเลสาบน้ำแข็ง แต่ก็ยังสามารถโทรเข้าได้ตามปกติ

ทั้งนี้ Huawei Mate 10 Pro ถูกออกแบบมาให้กันน้ำและฝุ่นในระดับ IP67 ซึ่งหมายถึงกันน้ำได้ที่ความลึกไม่เกิน 1 เมตร นานสูงสุด 30 นาที แต่เชื่อว่าคงไม่มีความจำเป็นอะไรที่เราจะลองนำสมาร์ทโฟนราคาแพงไปแช่แข็ง หรือ ปล่อยทิ้งลงน้ำเพื่อทดสอบด้วยตัวเอง

ที่มา – MyDrivers

from:http://www.flashfly.net/wp/205927

จะรอดหรือไม่? จับ Huawei Mate 10 Pro แช่แข็ง -24 องศา พร้อมเปิดดูวิดีโอไปด้วย

สมาร์ทโฟนกันน้ำได้มีมานานหลายปีแล้ว และทำกันมาหลายยี่ห้อ แต่สำหรับ Huawei Mate 10 Pro ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของค่าย ที่ออกแบบมาให้กันน้ำได้ โดยผ่านการทดสอบในระดับ IP67 ตามมาตรฐาน IEC 60529 ซึ่งหมายถึงกันน้ำได้ที่ความลึกไม่เกิน 1 เมตร นานสูงสุด 30 นาที แต่ถ้าเกิดเป็นน้ำแข็งที่มีอุณหภูมิติดลบถึง 24 องศาเซลเซียส จะสามารถต้านทานได้หรือไม่? มาดูคำตอบไปพร้อมๆ กัน

เว็บไซต์จากประเทศจีน ได้ลองนำ Huawei Mate 10 Pro ไปแช่แข็งพร้อมกับเปิดวีดีโอให้เล่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูว่าเรือธงของ Huawei จะทนทานได้แค่ไหน โดยผู้ทดสอบได้เปิดวีดีโอจาก Youku (คล้าย YouTube) ทิ้งไว้ตลอดเวลา พร้อมปรับระดับเสียงสูงสุด เริ่มจากนำ Mate 10 Pro ลงไปแช่น้ำในกล่องพลาสติกใส แล้วทิ้งไว้ 30 นาที ซึ่งขั้นตอนนี้ Mate 10 Pro สามารถผ่านการทดสอบได้อย่างไม่มีปัญหา

ขั้นตอนต่อมา ผู้ทดสอบได้แช่ Mate 10 Pro ไว้ในกล่องเดิมอีกครั้ง ซึ่งยังมีน้ำท่วมสมาร์ทโฟนอยู่ วีดีโอก็ยังเปิดเล่นต่อไป แต่คราวนี้ได้ยกกล่องเข้าไปแช่ในตู้แช่แข็ง แล้วตั้งอุณหภูมิติดลบถึง 24 องศาเซลเซียส

ผู้ทดสอบจะเข้ามาดูกล่องที่แช่ Mate 10 Pro ทุกๆ ชั่วโมง หลังจากผ่านไป 2 – 3 ชั่วโมง จากน้ำเปล่าก็เริ่มเปลี่ยนสถานะเป็นน้ำแข็ง แต่วีดีโอที่เปิดค้างไว้ก็ยังคงเล่นต่อไป จนกระทั่งผ่านไป 4 ชั่วโมง น้ำในกล่องก็กลายเป็นน้ำแข็งอย่างสมบูรณ์ โดยที่วีดีโอยังคงเล่นต่อไป

ผู้ทดสอบนำ นำน้ำแข็งออกมาจากกล่องแล้วราดด้วยน้ำร้อนเพื่อละลายน้ำแข็งที่เกาะ Mate 10 Pro แล้วนำสมาร์ทโฟนมาตรวจสอบก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ จึงสรุปได้ว่า Mate 10 Pro สามารถอยู่ในน้ำที่อุณหภูมิติดลบถึง 24 องศาเซลเซียส ได้ถึง 4 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติกันน้ำได้ มีไว้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุเท่านั้น เราไม่แนะนำให้เจ้าของสมาร์ทโฟน ไปทดลองด้วยตัวเอง เพราะถ้าได้รับความเสียหายขึ้นมา อาจไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันสินค้า

ที่มา – ZOL

from:http://www.flashfly.net/wp/205786

ซัพพลายเออร์ของ Apple ยืนยัน iPhone รุ่นใหม่ จะรองรับ Wireless Charging และกันน้ำได้

iphone7-waterproof-test

Wistron หนึ่งในโรงงานประกอบ iPhone ยืนยันว่า iPhone รุ่นใหม่ อย่างน้อย 1 รุ่น จะมีคุณสมบัติกันน้ำได้ และสนับสนุน Wireless Charging เทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ไร้สาย โดยเปิดเผยว่ากระบวนการประกอบ iPhone ไม่ได้มีความแตกต่างจากรุ่นก่อนๆ มากนัก ยกเว้นคุณสมบัติทั้ง 2 อย่างที่กล่าวมา จะทำให้กระบวนการทำงานเกิดความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

Jeff Pu นักวิเคราะห์จาก Yuanta Investment Consulting และ Arthur Liao จาก Fubon Securities เชื่อว่า Wistron ได้รับคำสั่งซื้อให้ผลิต iPhone ขนาด 5.5 นิ้ว จึงคาดว่า Wistron กำลังพูดถึงคุณสมบัติของ iPhone 7s Plus

Apple เริ่มนำคุณสมบัติกันน้ำได้มาใช้กับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่เปิดตัวในเดือนกันยายน 2016 โดยกันน้ำได้ในระดับ IP67 (อยู่รอดในน้ำที่ความลึกไม่เกิน 1 เมตร นานสูงสุด 30 นาที) ซึ่งเราหวังว่า iPhone รุ่นใหม่ที่จะออกมาในท้ายปีนี้ จะได้รับมาตรฐาน IP68 เช่นเดียวกับ Samsung Galaxy S8 ซึ่งสามารถกันน้ำได้ลึกสูงสุด 1.5 เมตร นาน 30 นาที

ข่าวลือก่อนหน้านี้ รายงานว่า iPhone รุ่นใหม่ของ Apple ทั้ง iPhone 8, iPhone 7s Plus และ iPhone 7s จะสนับสนุน Wireless Charging ทั้ง 3 รุ่น

ที่มา – MacRumors

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=185475

LG ปล่อยวิดีโอทีเซอร์เผย 4 ฟีเจอร์เด่น LG G6 สมาร์ทโฟนเรือธง ก่อนเปิดตัวในงาน MWC 2017

ก่อนหน้านี้มีข่าวลือ LG เตรียมที่จะเปิดตัว LG G6 ว่าที่สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ในงาน Mobile World Congress หรือ MWC 2017 ที่จัดขึ้นที่เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ในช่วงปลายเดือนเดือนกุมภาพันธ์นี้ ล่าสุดทาง LG Electronics ได้ปล่อยคลิปวิดีโอทีเซอร์เผย 4 ฟีเจอร์เด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่คาดว่าจะเป็นรุ่น LG G6 ออกมาให้ขมกันก่อนที่จะเปิดตัว

สำหรับคลิปวิดีโอทีเซอร์ที่ LG ปล่อยออกมานั้นเริ่มต้นด้วยคำพูดจากผู้คนว่าอยากให้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่มีฟีเจอร์อะไรบ้าง โดยแต่ละคนอยากได้หน้าจอที่ใหญ่ เครื่องเล็กพกพาได้สะดวก กันน้ำได้ และจับภาพได้ง่ายภายในครั้งเดียว ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ก็จะมีอยู่ในสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ของ LG นั่นเอง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งหลังจากที่ LG G5 มีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ไปแต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

LG-G6-Teaser-2

นอกจาก 4 ฟีเจอร์เด่นที่คาดว่าจะมีใน LG G6 แล้ว ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับหน้าจอแสดงผลที่ใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้ โดยคาดว่า LG จะใช้หน้าจอแสดงผลแบบ QHD+ ตัวใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมอัตราส่วน 18 : 9 และความละเอียด 2880 x 1440 พิกเซล ก็ต้องรอดูในงาน MWC 2017 ที่จะเริ่มขึ้นวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ว่าจะเป็น LG G6 หรือไม่ และถ้าใช่รุ่นนี้จริงจะได้รับเสียงตอบรับที่ดีกว่า LG G5 มากน้อยแค่ไหน

ที่มา : playfuldroid

from:http://mobileocta.com/lg-released-a-teaser-video-showing-four-distinctive-features-lg-g6s-flagship-smartphone/

Samsung ปล่อยทีเซอร์เผย “Galaxy A” รุ่นใหม่จะมาพร้อมฟีเจอร์กันน้ำ

ใกล้เข้ามาแล้วล่ะครับสำหรับงาน CES ครั้งใหม่ที่กำลังจะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ซึ่งก็แน่นอนว่าภายในงานดังกล่าวคงหนีไม่พ้นเรื่องการเปิดตัวอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆจากหลายๆแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก โดยบริษัท Samsung เองก็จะเป็นหนึ่งในนั้นด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่าล่าสุดทางบริษัทได้ออกมาเคลื่อนไหวด้วยการปล่อยทีเซอร์ออกมาเรียกน้ำย่อยแฟนๆอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยจะเห็นได้จากโพสต์ของ Samsung Mobile Malaysia ด้านล่างนี้เลยครับว่ามีการบอกใบ้ไว้อย่างชัดเจนว่า “it all begins with A. Hold your breath.” แถมในภาพยังมีน้ำลอยขึ้นมาให้เห็นอีกด้วย จึงเชื่อได้เลยว่าเจ้าอุปกรณ์ Galaxy ในซีรี่ย์ “A” รุ่นต่อไปที่จะเปิดตัวในงาน CES จะต้องมาพร้อมฟีเจอร์การป้องกันน้ำอย่างไม่ต้องสงสัย

Something ‘A’waits you. #A2017liveunplanned

โพสต์โดย Samsung Mobile Malaysia บน 26 ธันวาคม 2016

ซึ่งสำหรับอุปกรณ์ในตระกูล Galaxy A รุ่นที่จะโผล่ออกมาในงานนี้ เชื่อกันว่าน่าจะเป็นเจ้า Galaxy A5 (2017) ที่ล่าสุดมีข่าวลือสเปคและภาพหลุดออกมาไม่หยุดไม่หย่อนนั่นเอง ส่วนเรื่องของการป้องกันน้ำจะเป็นมาตรฐานระดับ IP67 หรือ IP68 ก็คงต้องมารอดูกันอีกที

Render Samsung Galaxy A5 (2017) ที่หลุดออกมา

อย่างไรก็ตามตอนนี้สำหรับใครที่รอดูกันอยู่ก็ไม่ต้องทำอะไรแล้วครับ เพราะอย่างเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือการรอให้บริษัทออกมาเปิดตัวอุปกรณ์เท่านั้น ซึ่งรายละเอียดของอุปกรณ์ทั้งหมดสามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ AppDisqus ของเราได้เลยครับ

from:https://www.appdisqus.com/2016/12/28/samsung-galaxy-a.html