คลังเก็บป้ายกำกับ: UYGHUR

Kodak ลบภาพที่พูดถึงค่ายกักกันในซินเจียงบน Instagram หลังโดนชาวเน็ตจีนวิจารณ์

Kodak บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการถ่ายภาพจากอเมริกาลบภาพถ่ายชุดหนึ่งซึ่งถ่ายในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากชาวเน็ตจีน

ภาพที่เป็นประเด็นถูกโพสต์ลงในบัญชี Instagram ของ Kodak พร้อมคำบรรยายภาพที่พูดถึงระบบการกักขังที่เป็นประเด็นในภูมิภาคนี้และบอกว่าเป็นภาพหลักฐานของดินแดนเลวร้าย (Orwellian dystopia)

ภาพนี้ถูกถ่ายโดย Patrick Wack ช่างภาพชาวฝรั่งเศส รูปแบบการถ่ายภาพซินเจียงของเขาจะเป็นภาพภูเขา แม่น้ำ และภาพวิถีชีวิตที่สงบสุขของคนในพื้นที่ 

แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของชาวเน็ตก็คือคำบรรยายภาพที่ดูขัดแย้งกับภาพถ่ายชีวิตประจำวันทั่วไปเพราะเมื่อดูแค่ภาพถ่ายก็จะเห็นความสวยงามของภาพวิวและไม่มีใครคิดไปถึงการกดขี่ชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในพื้นที่

Kodak ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาพที่เป็นประเด็น

หลังจากลบรูปออกจากบัญชีแล้ว Kodak ก็ได้ออกมาชี้แจงทาง Instagram ว่าเป็นเพียงพื้นที่เผยแพร่ภาพถ่ายจากบรรดาช่างภาพพร้อมปฏิเสธการเป็นพื้นที่สำหรับวิจารณ์การเมือง และบอกปัดความเกี่ยวข้องกับภาพที่เป็นประเด็นว่าเป็นผลงานจากช่างภาพแต่เพียงผู้เดียว

แม้ว่า Godak จะปิดการแสดงความคิดเห็นในภาพล่าสุด แต่ก็ได้มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้าไปคอมเมนต์ในภาพอื่นๆ บน Instagram ของ Godak โดยวิพากษ์วิจารณ์การกระทำเช่นนี้ว่าเป็นการเอาใจจีนและละเลยประเด็นสิทธิมนุษยชน

ที่มา: Global Times

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post Kodak ลบภาพที่พูดถึงค่ายกักกันในซินเจียงบน Instagram หลังโดนชาวเน็ตจีนวิจารณ์ first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/kodak-deletes-photos-of-xinjiang-on-its-instagram/

อเมริกาผ่านกฎหมายห้ามนำเข้าสินค้าซินเจียง ยืนยันชาวอเมริกันต้องไม่มีส่วนสนับสนุนแรงงานทาส

ผ่านร่างกฎหมายด้วยมติเอกฉันท์

ล่าสุด วุฒิสภาสหรัฐผ่านกฎหมายแบนการนำเข้าสินค้าจากมณฑลซินเจียงของจีนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เป็นความพยายามของสหรัฐในการลงโทษจีน จากประเด็นที่เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในพื้นที่ดังกล่าว

ร่างกฎหมายนี้มีมติผ่านโดยเอกฉันท์ และระบุให้ผู้นำเข้าเป็นเป็นผู้ตรวจสอบต้นทางของสินค้า แต่ก่อนอื่นจะต้องนำร่างกฎหมายผ่านสภาผู้แทนราษฎรก่อน จากนั้นจึงส่งให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนาม ซึ่งกระบวนการนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะเริ่มดำเนินการเมื่อใด

ไม่นานมานี้ทางการสหรัฐพึ่งออกมาเตือนถึงความเสี่ยงของบริษัทอเมริกันที่อาจละเมิดกฎหมายภายในประเทศ หากการทำธุรกิจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียงทั้งทางตรงและทางอ้อม

ต้องไม่มีใครในอเมริกาเกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานทาส

Macro Rubio ส.ว.จากรีพับลิกัน กล่าวในแถลงการณ์ว่า “เราจะไม่ปิดหูปิดตากับการกระทำละเมิดสิทธิมนุษยชนของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และจะไม่อนุญาตให้บริษัททั้งหลายได้ประโยชน์จากการจากการกดขี่ที่เลวร้ายเหล่านั้น”

“ไม่ควรมีบริษัทอเมริกันเจ้าไหนได้ประโยชน์จากการกดขี่เหล่านี้ และไม่ควรมีผู้บริโภคชาวอเมริกันรายใดเผลอซื้อสินค้าที่มาจากการใช้แรงงานทาส” Jeff Markley จากพรรคเดโมแครตกล่าว

ก่อนหน้านี้ในอเมริกาก็ได้มีกฎหมายในลักษณะเดียวกันที่พยายามแบนการนำเข้าสินค้าจากซินเจียง ในขณะที่ร่างกฎหมายนี้พยายามจะไปไกลกว่าในประเด็นการทำให้ห่วงโซ่อุปทานของอเมริกาออกจากการมีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีน รวมถึงประเด็นการแบนสินค้าจีนบางชนิดในปัจจุบัน

ที่มา: Reuters

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post อเมริกาผ่านกฎหมายห้ามนำเข้าสินค้าซินเจียง ยืนยันชาวอเมริกันต้องไม่มีส่วนสนับสนุนแรงงานทาส first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/us-passes-bill-to-ban-xinjiang-products/

จีนประณามอเมริกา กรณีขึ้นบัญชีดำ 23 บริษัทจีน พร้อมปฏิเสธการละเมิดสิทธิมนุษยชน

Xi Jinping

ทางการจีนกล่าวคัดค้านกรณีสหรัฐเพิ่มบริษัทจีน 23 แห่งลงในแบล็กลิสต์ทางเศรษฐกิจ จากประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการใช้เทคโนโลยีสำหรับควบคุมประชาชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน

จีนโดนแบล็กลิสต์จากกรณีบังคับใช้แรงงาน

กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าบริษัทเหล่านี้มีส่วนกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียงที่มีทั้งการสร้างค่ายกักกัน การใช้เทคโนโลยีสอดส่อง บังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในพื้นที่

มาตรการนี้ส่งผลให้บริษัทในแบล็กลิสต์ที่ต้องการติดต่อกับซัพพลายเออร์ในอเมริกาจะต้องยื่นขอใบอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์และต้องได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดจากสหรัฐ

จีนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

ทางการจีนได้ออกมาปฏิเสธการกล่าวหาในประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่จีนออกมาปฏิเสธตลอด ในขณะเดียวกันก็มีการนำเสนอภาพความสุขของผู้คนในซินเจียง 

อีกทั้งแบรนด์แฟชั่นของจีนที่ใช้ฝ้ายจากซินเจียงก็ออกมายืนยันอีกเสียงว่าไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวอุยกูร์

ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ของจีนได้กล่าวในแถลงการณ์ว่าการกระทำของสหรัฐเป็นการละเมิดกฎการค้าและการดำเนินเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ทั้งยังเป็นกฎที่ทำเกินกว่าเหตุต่อบริษัทจีน พร้อมบอกว่าจีนจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของประเทศ

สรุป

ต้องติดตามกันต่อไปว่าในอนาคตจีนจะมีมาตรการอะไรออกมาตอบโต้สหรัฐอีกบ้าง แต่ไม่ว่าจีนและสหรัฐจะมีมาตรการอย่างไรผู้รับผลกระทบโดยตรงก็คือบริษัทในจีนที่ต้องรับแรงต้านจากความตึงเครียดของทั้งสองประเทศ

ที่มา: Reuters (1), (2)

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post จีนประณามอเมริกา กรณีขึ้นบัญชีดำ 23 บริษัทจีน พร้อมปฏิเสธการละเมิดสิทธิมนุษยชน first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/china-condemn-us-for-adding-chinese-entities-to-economic-blacklist/

ใครแบนฝ้ายซินเจียง ชาวจีนก็พร้อมเท Nike เริ่มเสียเปรียบคู่แข่งจากจีน

Nike

ผู้บริโภคชาวจีนร่วมใจกันตอบโต้

ความขัดแย้งในประเด็นซินเจียงได้จุดกระแสความรักชาติทำให้ผู้บริโภคในจีนหันมาซื้อสินค้าจากแบรนด์ในประเทศมากขึ้น ทำให้รายได้ของผู้ผลิตชุดกีฬาจากจีนสามารถเอาชนะคู่แข่งระดับโลกอย่าง Nike

ผู้บริโภคชาวจีนให้การสนับสนุนเพื่อเป็นการตอบโต้ในประเด็นที่จีนถูกกล่าวหาว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายผู้ผลิตรองเท้ากีฬาในประเทศโต 250% ตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม ในขณะที่ยอดขาย Nike เพิ่มขึ้นเพียง 20% ในปลายเดือนมีนาคม 

แบรนด์ในประเทศได้ประโยชน์จากประเด็นขัดแย้ง 

บริษัทผู้ผลิตสินค้ากีฬาจากจีนอย่าง Anta Sports Products Ltd. และ Li Ning Co. ซึ่งสนับสนุนการใช้วัสดุที่มาจากซินเจียงได้รับส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นจากการที่ชาวจีนบางส่วนเลิกสนับสนุนแบรนด์ต่างประเทศจากกรณีดังกล่าว 

Anta ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ Fila ในจีนได้แตะสถิติสูงสุดด้วยมูลค่าทางการตลาดกว่าเกือบ 2 ล้านล้านบาท ส่วนบริษัท Li Ning ที่ก่อตั้งโดยนักกีฬาชาวจีนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 84% ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม

ความตึงเครียดเกี่ยวกับข้อกล่าวหาการบังคับใช้แรงงานในซินเจียงกลายเป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับบริษัทระดับโลกหลายเจ้าที่พยายามจะมีบทบาทในตลาดจีน ขณะเดียวกันยอดขายของแบรนด์ตะวันตกหลายแบรนด์ก็ลดน้อยลงเช่นเดียวกัน

สรุป

ประเด็นฝ้ายซินเจียงถือว่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับ Nike หลังจากแบรนด์ออกมาต่อต้านการใช้ฝ้ายที่มาจากการบังคับใช้แรงงานก็เจอกับผลกระทบ เช่น การโดนดาราชาวจีนยกเลิกสัญญาพรีเซนเตอร์กับทางแบรนด์ และยอดขายจากผู้บริโภคชาวจีนลดลง 

ผลกระทบในตลาดจีนจากประเด็นซินเจียงทำให้ทางผู้บริหารเคยออกมาเอาใจผู้บริโภคชาวจีนด้วยการประกาศว่า “Nike is a brand that is of China and for China” (Nike เป็นแบรนด์ของจีนและสำหรับจีน)

ที่มา: Bloomberg

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ใครแบนฝ้ายซินเจียง ชาวจีนก็พร้อมเท Nike เริ่มเสียเปรียบคู่แข่งจากจีน first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/nike-shares-lose-to-chinese-rivals-after-xinjiang-conflict/

H&M โดนอีกแล้ว! ยอดขายในจีนตก หลังประกาศแบนฝ้ายจากซินเจียง

H&M

จากการเปิดผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ H&M พบว่ายอดขายในจีนได้รับผลกระทบหลังทางแบรนด์ออกมาปฏิเสธการใช้ฝ้ายที่ผลิตในซินเจียง

ยอดขาย H&M ในจีนที่เคยเป็นสิบอันดับแรกของแบรนด์ปัจจุบันร่วงลงมา 28% ในไตรมาสที่สองของปีก่อนจากรายงานผลประกอบการรายไตรมาส

สำหรับสาขาของ H&M ในจีนมีทั้งหมด 489 สาขา ณ วันที่ 31พฤษภาคม แต่ในไตรมาสที่ 2 จำนวนสาขาใหม่มีจำนวนลดลง 13 แห่ง

ไม่ใช่แค่ H&M ที่ออกมาต่อต้านการใช้ฝ้ายจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวอุยกูร์ แต่ยังมีอีกหลายบริษัทพร้อมกับรัฐบาลในหลายประเทศที่ต่อต้าน แม้จีนจะออกมาปฏิเสธว่าไม่มีการบังคับใช้แรงงาน

ใครประกาศไม่ใช้ฝ้ายซินเจียงก็ต้องถูกชาวจีนแบน

การที่ H&M ปฏิเสธการใช้ฝ้ายซินเจียงที่มาจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคพร้อมใจกันงดซื้อสินค้า ซึ่งก็เคยเห็นกันมาแล้วกับแบรนด์อื่นที่เคยประกาศงดใช้ฝ้ายจากซินเจียง

แบรนด์กีฬายักษ์ใหญ่อย่าง Nike และ Adidas ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เคยเป็นที่นิยมแต่ปัจจุบันกลับไม่เป็นที่ต้องการของลูกค้าชาวจีน จนผู้บริหารระดับสูงของ Nike ต้องออกมาบอกว่า Nike เป็นแบรนด์ของจีนและสำหรับจีนเพื่อดึงฐานลูกค้ากลับมา

ที่มา: Global Times

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post H&M โดนอีกแล้ว! ยอดขายในจีนตก หลังประกาศแบนฝ้ายจากซินเจียง first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/hm-china-sales-drop-after-ban-xinjiang-cotton/

ฝรั่งเศสเคลื่อนไหวเรื่องอุยกูร์ สั่งสอบบริษัทแฟชั่น ปกปิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์

Uniqlo

อัยการในฝรั่งเศสทำการสอบสวนกิจการแฟชั่น 4 แบรนด์ที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการปกปิดการใช้แรงงานทาสในซินเจียง หลังมี NGOs ยื่นฟ้อง รายชื่อบริษัทที่ถูกฟ้องร้อง ได้แก่ 

  • Uniqlo (ฝรั่งเศส)
  • Zara 
  • SMCP 
  • Skechers

ผู้เชี่ยวชาญและกลุ่มสิทธิมนุษยชนของ UN ประเมินว่ามีคนกว่าล้านถูกขังอยู่ในค่ายกักกันที่มณฑลซินเจียงของจีนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิม

ทางแบรนด์ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน 

ทาง Inditex บริษัทแม่ของ Zara ปฏิเสธข้อกล่าวหา พร้อมเสริมว่าจะจัดการตรวจสอบและยินดีจะให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของทางการฝรั่งเศส และบอกว่า Inditex จะไม่ทนต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน 

ซึ่งก่อนหน้านี้ Zara ก็เคยออกแถลงการณ์ต่อต้านการบังคับใช้แรงงานในซินเจียงและโดนชาวจีนกดดันจนต้องลบแถลงการณ์จากเว็บไซต์

SMCP ก็ได้ออกมาบอกว่าจะให้ความร่วมมือเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และบอกว่าทางบริษัททำงานกับซัพพลายเออร์ทั่วโลกและยืนยันว่าไม่มีการติดต่อกับซัพพลายเออร์ในซินเจียง

ในส่วนของ Uniqlo ยังไม่ออกมาแสดงท่าที และ Skecher ก็ยังไม่ได้ให้ความคิดเห็นเนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนการฟ้องร้องแต่ก็ได้บอกว่าทางแบรนด์ยังคงรักษาจรรยาบรรณของซัพพลายเออร์อย่างเข้มงวด

สรุป

ทั้งนี้ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าแต่ละแบรนด์ไม่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนจริงหรือไม่ เพราะด้วยห่วงโซ่การผลิตที่ซับซ้อนและยากจะพิสูจน์ไปยังต้นทางที่เกี่ยวข้องกับซินเจียง 

นอกจากนี้แบรนด์อื่นๆ ที่เคยออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับการบังคับใช้แรงงานในซินเจียง อย่าง H&M Burberry และ Nike ก็ได้รับผลกระทบด้วยการถูกผู้บริโภคในจีนแบนเช่นกัน

ที่มา: Reuters

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ฝรั่งเศสเคลื่อนไหวเรื่องอุยกูร์ สั่งสอบบริษัทแฟชั่น ปกปิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/france-investigates-fashion-retailers-uyghur/

ปัญหาแรงงานอุยกูร์เริ่มพ่นพิษ Nike ก็โดนซุป’ตาร์ดังของจีนเตรียมยกเลิกสัญญา

ใครจะไปคิดว่าการยืนหยัดตามหลักการสากล ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนจะสร้างปัญหาได้ นอกจาก H&M จะเป็นธุรกิจรายล่าสุดที่ประกาศกร้าวว่าไม่ขอข้องเกี่ยวกับการใช้แรงงานผิดกฎหมายชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ในจีน จนโดนชาวจีนกำลังโบยตีเพราะเห็นว่าการประกาศแบบนี้เป็นการป้ายสี ใส่ร้ายจีน Nike คือรายล่าสุดตามมาติดๆ ที่ประกาศกร้าวไม่เอาการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการใช้แรงงานเยี่ยงทาสของชาวอุยกูร์เหมือนกัน 

Boycott Nike in China

ล่าสุด Wang Yibo (หวัง อี้ป๋อ) ซุปเปอร์สตาร์ชาวจีนที่กำลังดังสุดๆ ตอนนี้ กับ Tan Song Yun (ถาน ซงอวิ้น) เปิดเผยว่า เตรียมยกเลิกแผนโปรโมตทั้งหมดที่เป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ Nike อยู่ หลังจากที่ Nike ออกมาเผยแพร่ประกาศบนโซเชียลมีเดียว่ามีความกังวลมากต่อการบังคับใช้แรงงานผิดกฎหมาย

เรื่องนี้ ผู้จัดการของถาน ซงอวิ้น ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับข่าวลือที่ทำให้จีนแปดเปื้อน ด่างพร้อย ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่นาน H&M ก็เพิ่งจะอันตราธานไปจากอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มของจีน หลังตัดสินใจไม่ใช้ฝ้ายที่มาจากซินเจียง

ซินเจียงคือหนึ่งในแหล่งผลิตฝ้ายที่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก และยังผลิตฝ้ายให้กับแบรนด์สิ่งทอของตะวันตกหลายแห่งด้วยกัน ทั้ง Nike และ H&M ต่างถูกโต้กลับผ่านสงครามคว่ำบาตรจากจีนและหลายประเทศในยุโรปที่เดินหน้าแบนด้าย ฝ้ายที่มาจากการใช้แรงงานทาสในซินเจียง จีน

เรื่องนี้ Hua Chunying โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนก็ออกมาทวีตข้อความว่าฝ้ายในซินเจียงถูกเก็บเกี่ยวโดยเครื่องจักร

จีนผลิตฝ้ายเป็นอันดับห้าของโลก ซินเจียงผลิตมากถึง 87% ผู้ใช้งานทางอินเทอร์เน็ตหรือชาวเน็ตรายหนึ่งระบุว่า ถ้าคุณบอยคอตต์ด้ายจากซินเจียง เราจะบอยคอตต์คุณ หรือไม่อย่างงั้นก็ออกจาก BCI เสีย หรือไม่ก็ออกจากจีนไปเสียเลย (BCI: Better Cotton Initiative: เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร เป็นโครงการผลิตฝ้ายเพื่อความยั่งยืนของโลก เพื่อให้ผลิตฝ้ายได้ดีขึ้นทั้งต่อคนผลิต ต่อสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปด้วยกันได้ดีขึ้น)

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็น Nike, Adidas หรือ BCI ยังไม่ได้ตอบสนองหรือให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

ที่มา – Aljazeera, BCI

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ปัญหาแรงงานอุยกูร์เริ่มพ่นพิษ Nike ก็โดนซุป’ตาร์ดังของจีนเตรียมยกเลิกสัญญา first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/chinese-consumer-in-china-will-boycott-nike/