“ใช้เวลา 10 ปีเพื่อสร้าง แต่พังลงได้ในไม่กี่สัปดาห์” ซีอีโอ Airbnb ให้สัมภาษณ์ถึงก้าวต่อไป

หลังจากมีแผนเลื่อน IPO และปลดพนักงานเพื่อประคองบริษัท ล่าสุดซีอีโอ Airbnb ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ช่วงวิกฤตและฉายภาพก้าวต่อไปของบริษัท

Brian Chesky Photo: Airbnb

โควิดทำให้ซีอีโอ Airbnb เครียดที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา

Brian Chesky ซีอีโอ Airbnb ให้สัมภาษณ์กับ Kara Swisher ในรายการพอดแคสต์ Recode Decode โดยบอกว่า ช่วงวิกฤตโควิด มันเป็น 9 สัปดาห์ที่เครียดมากที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา เพราะนอกจากแผน IPO จะถูกเลื่อนออกไปแล้ว ยังต้องปลดพนักงานออกจากบริษัทกว่า 25% หรือประมาณ 1,900 คน (ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งเขียนจดหมายเลิกจ้างพนักงานไว้ได้น่าประทับใจ ในเนื้อหามีท่อนที่บอกว่าจะช่วยหางานให้กับพนักงานที่ถูกปลดด้วย หลายคนยกย่องให้เป็นหนึ่งในจดหมายที่ดีที่สุด)

ที่จริงแล้วในปี 2020 Airbnb ถือเป็นความหวังของหมู่บ้าน ในการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่ดันมาประสบกับวิกฤตโควิดจนทำให้แผน IPO ต้องพับไปก่อน

ซีอีโอ Airbnb บอกว่า สิ่งที่ต้องเร่งทำในตอนนี้คือการฟื้นฟูบริษัทให้กลับมาอีกครั้ง (Rebuild Business) โดยรูปธรรมมี 4 เรื่องหลักที่ต้องจัดการ ได้แก่

1. ดูแลผู้ถือหุ้น
2. ลดงบประมาณในส่วนที่ไม่จำเป็น
3. ระดมทุน
4. กระจายความเสี่ยงของธุรกิจ 

วิกฤตโควิดทำให้ Airbnb เห็นว่า “คุณค่า” ของเราอยู่ที่ตรงไหน มันทำให้เราต้องกลับมาหารากเหง้าของเราอีกครั้ง ยกตัวอย่างเช่น การดูแลพาร์ทเนอร์ (เจ้าของบ้าน) ที่ Airbnb สัญญาว่าจะช่วยเหลือเงินจำนวน 25% เพื่อ refund ให้กับลูกค้าที่จองห้องพักไว้ก่อนหน้าวิกฤตโควิด ซึ่งการเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาของ Airbnb ทำให้บริษัทต้องกู้เงินเพิ่มมาอีก 1 พันล้านดอลลาร์ (แถวดอกเบี้ยที่สูงลิบลิ่วด้วย)

ก้าวต่อไปของ Airbnb

ซีอีโอ Airbnb เชื่อมั่นว่า ผู้คนยังอยากเดินทางไปท่องเที่ยว เพียงแต่ว่ามันจะไม่ใช่การเดินทางท่องเที่ยวเหมือนเดิมอีกต่อไป ในระยะสั้นนี้ ผู้คนไม่ต้องการเดินทางไกลเพื่อท่องเที่ยว ด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งความปลอดภัยและมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส สิ่งที่ผู้คนอยากทำ (โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา) คือการขับรถเที่ยว เดินทางไปรัฐใกล้ๆ เฉลี่ยใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 5 ชั่วโมง

ดังนั้นสิ่งที่ Airbnb จะทำหลังจากนี้คือ “การสนับสนุนการท่องเที่ยวในเมืองเล็กๆ” เพราะตอบโจทย์ผู้คนในยุคนี้ และใช้งบประมาณถูกกว่าการโปรโมทให้คนท่องเที่ยวในเมืองใหญ่ๆ ที่ต้องใช้งบประมาณสูง

อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนให้ท่องเที่ยวเมืองเล็ก/เมืองรองจะทำให้ผู้คนใช้จ่ายเงินน้อยกว่าเมืองใหญ่และเที่ยวแต่ละครั้งได้นานมากขึ้น ซึ่งนั่นหมายความว่าโอกาสในการใช้บริการ Airbnb ก็มีมากกว่าด้วย

นอกจากนั้น Airbnb จะทำ Royalty Program สำหรับ “Super Guest” (ซึ่งยังไม่รายละเอียด) รวมถึงอาจแตกธุรกิจออกไปเป็น Work From Any Home (ทำงานจากที่บ้าน แต่เป็นบ้านคนอื่น เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ) และ Multirental (เปิดพื้นที่ให้เช่าหลากหลาย เช่น อาจเอาหลายๆ ธุรกิจมาอยู่ร่วมกันในพื้นที่เดียว)

วิกฤตคือบทพิสูจน์สำคัญของบริษัท

“มันใช้เวลาเป็น 10 ปีที่จะสร้างบางอย่างขึ้นมา แต่มันกลับพังลงได้ในแค่ไม่กี่สัปดาห์” นี่คือคำพูดของซีอีโอ Airbnb 

แต่แน่นอนว่า ช่วงเวลาแบบนี้นี่เอง ที่จะพิสูจน์ว่าบริษัทไหนคือบริษัทที่ดีจริงๆ (Great companies are defined by a crisis) 

ซีอีโอบอกว่า เขาถามตัวเองว่า “แล้ว Airbnb นี่…เป็นของจริงหรือไม่?”

9 สัปดาห์ที่ผ่านมาในช่วงโควิด ซีอีโอเล่าให้ฟังว่าเขาทำงานถึงเที่ยงคืนทุกวัน และเนื่องจากมันเป็น 9 สัปดาห์ที่เครียดมากที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา เขาต้องทำงานเพื่อตอบคำถามสำคัญให้ได้ว่า “ทำไมโลกนี้ต้องมีธุรกิจของคุณอยู่ด้วย”

คำตอบของเขาคือ “ถ้าผมไม่ทำ…ก็ไม่มีใครทำ”

• ชวนอ่านบทความ เทคนิคการพัฒนาตัวเองของ Brian Chesky จากหนุ่มถังแตกสู่ซีอีโอ Airbnb

ที่มา – Recode Decode Podcast

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/ceo-airbnb-recode-decode/

นักลงทุนชื่อดังเตือน “เรียนคอมไป ก็ใช่ว่ารอด ถ้าทำได้แค่เขียนโค้ด อีก 20 ปีก็ตกงาน เพราะ AI”

“เพราะการเขียนโค้ด มันก็เป็นแค่คณิตศาสตร์แบบหนึ่ง ซึ่งเรากำลังฝึกให้ AI ทำได้ทั้งหมด” ดังนั้น คนจบสายคอมพิวเตอร์ก็จะตกงาน เพราะทางรอดของงานในอนาคตไม่ใช่แค่เขียนโค้ด แต่ต้องมีสิ่งที่เรียกว่า Domain Knowledge 

computer science Photo: Shutterstock

จบคอมก็ไม่รอด เพราะหุ่นยนต์ AI แย่งงานได้หมด

ในยุคที่วงการไอทีรุ่งเรือง หนึ่งในสาขาวิชายอดฮิตของคนยุคนี้คือ การเรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็น วิศวะคอมพิวเตอร์ (Computer Engineering) หรือวิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science) เพราะเมื่อจบออกไป มีงานในตลาดรองรับอยู่มากมาย แต่ดูเหมือนว่าความรุ่งเรืองนี้อาจอยู่อีกไม่นานนัก เพราะหุ่นยนต์ AI สามารถทำแทนได้หลายอย่าง จนดูเหมือนว่าเรียนจบสายคอมพิวเตอร์ ก็ใช่ว่าจะรอดจากการ disrupt ของเทคโนโลยี

ล่าสุด Mark Cuban นักลงทุนชื่อดังไปร่วมพูดคุยกับ Steve Case ผู้ก่อตั้ง AOL (ซึ่งถือเป็นบุคคลที่บุกเบิกวงการอินเทอร์เน็ตเป็นคนแรกๆ ของโลก) ใน Recode Decode รายการ Podcast ของ Kara Swisher เจ้าแม่แห่งวงการไอที

• หนึ่งในประเด็นที่ Cuban ถกเถียงไว้อย่างดุเดือดคือ ยุคนี้หลายคนบอกว่าเรียนจบสายคอมพิวเตอร์มา จะหางานดีๆ ได้ไม่ยาก จริงอยู่ว่านี่คือความจริงแห่งยุคสมัย แต่ในยุคถัดไปจากนี้สัก 20 ปี อาจไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว
• Cuban บอกว่า “ในอีก 20 ปีหลังจากนี้ ถ้าคุณเป็นนักเขียนโค้ด คุณอาจจะตกงาน เพราะการเขียนโค้ดก็คือคณิตศาสตร์แบบหนึ่ง ซึ่งเรากำลังฝึกให้ AI ทำได้ทั้งหมด”

Mark Cuban Photo: Shutterstock

 

ทางรอดของงานในอนาคต ต้องมีความรู้แบบ Domain Knowledge

การจะอยู่รอดในอนาคตต้องมีสิ่งที่เรียกว่า Domain Knowledge

• คำถามก็คือ Domain Knowledge คืออะไร?

Domain Knowledge คือ ความรู้เชิงลึกในศาสตร์สาขาใดสาขาหนึ่ง แตกต่างจากความรู้แบบทั่วไป (General Knowledge) แต่คำๆ นี้เมื่อใช้ในบริบทของการทำงาน หรือการหาความรู้จะหมายถึง การมีความรู้แบบข้ามสาย-ข้ามศาสตร์ และที่สำคัญคือเมื่อผสมผสานกันออกมาแล้วได้เป็นความรู้สายใหม่

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น ถ้าคุณมีความรู้แบบ General Knowledge เป็นคนเขียนโค้ด-เขียนซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ แถมยังมีความรู้แบบ Domain Knowledge ในสายปรัชญา คุณอาจเป็นนักเขียนโค้ดที่สั่งให้หุ่นยนต์ AI ทดลองโมเดลในการตัดสินใจผ่านกรณีฉุกเฉินต่างๆ และในท้ายที่สุดก็นำไปใช้กับวงการรถยนต์ในอนาคตที่จะเป็นรถยนต์แบบไร้คนขับ ซึ่งหุ่นยนต์ AI จะเป็นคนตัดสินใจแทนมนุษย์ในหลายๆ สถานการณ์นั่นเอง

ที่มา – Vox

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/ai-took-jobs-by-mark-cuban/