คลังเก็บป้ายกำกับ: REALME_X50_PRO_5G

รีวิว : realme X50 Pro 5G เรือธงความเร็วแห่งอนาคต กับขุมพลัง SD865, รองรับ 5G และชาร์จเร็ว 65W ในราคา 28,990 บาท

เปิดตัวที่ประเทศไทยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ realme X50 Pro 5G สมาร์ตโฟนเรือธงรองรับ 5G รุ่นแรกของ realme ที่วางจำหน่ายในบ้านเรา โดยมาพร้อมสโลแกน “ความเร็วแห่งอนาคต” ตอกย้ำความสำเร็จในตลาด โดยครองตำแหน่งสมาร์ทโฟนอันดับ 7 อย่างต่อเนื่อง รวมถึงขึ้นแท่นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับ 5 ของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในไตรมาสที่ 4 ในประเทศไทย และมีอัตราการเติบโตถึง 116% เมื่อเทียบกับปี 2562

สำหรับจุดเด่นของ realme X50 Pro 5G คือ ใช้ชิปเซ็ทตัวท็อปรุ่นล่าสุดอย่าง Snapdragon 865 พร้อมรองรับเครือข่าย 5G ทั้งแบบ SA และ NSA นอกจากนี้ยังมีหน้าจอแบบ Super AMOLED ที่มีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz, ติดตั้งกล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล พร้อม Hybrid Zoom 20 เท่า ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่คู่ความละเอียด 32+8 ล้านพิกเซล และรองรับการชาร์จเร็ว 65W SuperDart ที่ชาร์จเต็ม 100% ใน 30 นาที

ถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะรู้แล้วว่า realme X50 Pro 5G สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดของ realme จะมีประสิทธิภาพอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราไปชมรีวิวกันเลยครับ

realme X50 Pro 5G

สเปคเบื้องต้น  realme X50 Pro 5G

ขนาด 159 x 74.2 x 8.9 มม.
น้ำหนัก 205 กรัม
หน้าจอ Dual Punch-Hole Display เทคโนโลยี Super AMOLED E3 จากทาง Samsung ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400  พิกเซล ขนาด 6.4 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่ 92% พร้อมค่า Refresh Rate ที่ระดับ 90Hz, รองรับ HDR10+ และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและหลัง
หน่วยประมวล ผล ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.84GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM8250 Snapdragon 865 (7 nm+) และหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 650
RAM 12GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง 256GB
microSD Card
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลัง 4 ตัว Quad Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย  
– กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพ Samsung ISOCELL Bright GW1 ขนาด 1/1.72 นิ้ว , รูรับแสง f/1.8 และมีขนาดของเม็ดพิกเซลใหญ่ถึง 1.6μm
– กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพมุมกว้างได้ 119 องศา, รูรับแสง f/2.3, รอบรับ Autofocus แบบ PDAF ที่โฟกัสได้ดี และเร็วกว่าเดิม นอกจากนี้เลนส์ตัวนี้ยังรองรับการถ่ายภาพแบบ Macro ในระยะใกล้ 3 เซนติเมตรด้วย
– กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5, รองรับ PDAF ที่โฟกัสได้เร็วกว่าเดิม, รองรับการซูมภาพแบบ Optical Zoom 5 เท่า และซูมภาพแบบ Hybrid 20 เท่า
– กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 พร้อมฟิลเตอร์ B&W

กล้องหน้าเซลฟี่คู่ Dual Selfie Camera กล้องหลักความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony มุมมอง wide-angle 80 องศา และกล้องรองความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมอง Super wide-angle สามารถเซลฟี่ได้อย่างกว้างมากขึ้นถึง 105 องศา กว้างกว่าปกติ 2.5 เท่า

ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย realme UI 1.0
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.1, A2DP, LE, aptX HD, USB Type-C, USB On-The-Go, NFC
รองรับเครือข่าย 2G/3G/4G และ 5G ทั้งแบบ SA และ NSA และยังรองรับคลื่นความถี่ 5G อื่นๆ เช่น n1/n3/n41/n78/n79
แบตเตอรี่ 4200mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 65W SuperDart Flash Charge
สี/ ราคา Moss Green, Rust Red ราคา 28,990 บาท

บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง

กล่องบรรจุภํณฑ์ของ realme X50 Pro 5G เป็นกล่องกระดาษแข็งมาในโทนสีเหลือง ด้านหน้ามาพร้อมชื่อรุ่น X50 Pro ขนาดใหญ่ พร้อมโลโก้ realme อยู่ด้านล่าง นอกจากนี้ที่ด้านข้างกล่องทั้ง 2 ด้านยังมีชื่อรุ่น realme X50 Pro 5G ด้วย กล่องโชว์รูปตัวเครื่องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้านบนนอกจากชื่อรุ่นแล้วยังมาพร้อมสเปกเด่นคือใช้ขุมพลังชิปเซ็ท Snapdragon 855+ และกล้องหลัง 4 ตัวความละเอียด 64 ล้านพิกเซล

ส่วนด้านหลังกล่องจะระบุสเปกเด่นคือใช้ขุมพลังชิปเซ็ท Snapdragon 865 5G Dual Mode, รองรับชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge, หน้าจอรีเฟรชเรท 90Hz Super AMOLED In-Display Dual Selfie และกล้องหลัง 4 ตัว 64MP Dual Camera 20X Hybrid Zoom พร้อมด้วยชื่อรหัสรุ่น / สี / หน่วยความจำ RAM/ROM และเครือข่ายที่รองรับ

อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย

1.ตัวเครื่อง realme X50 Pro 5G

2.สาย USB Type-C + อะแดปเตอร์ SuperDart (10V/6.5A)

3.อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด

4.เคสซิลิโคนใส

5.คู่มือการใช้งานฉบับย่อ + ใบรับประกันสินค้า

รูปลักษณ์ดีไซน์

ตัวเครื่อง realme X50 Pro 5G มีรูปลักษณ์ดีไซน์ที่สวยหรูดูพรีเมี่ยม มาพร้อมโทนสีที่กำลังเป็นที่นิยมแบบ Low Saturation (ความอิ่มของสีต่ำ) โดยมีให้เลือก 2 สีคือ สี Moss Green และ Rust Red แรงบันดาลใจจากสสารที่อยู่นอกโลก แฝงด้วยความลึกลับน่าค้นหา อยู่ในส่วนลึกของจักรวาล เปล่งแสงรอวันค้นพบ

หน้าจอแสดงผลเป็นจอไร้ขอบ ไร้รอยบากแบบ E3 Super AMOLED จาก Samsung ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล (408 ppi) ขนาด 6.44 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 สัดส่วนจอต่อเครื่องที่ 92% และมีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz พร้อมกับอัตราสุ่มสัมผัส 180Hz รวมถึงรองรับ HDR10+, ช่วงสี DCI-P3 100% และ NTSC 105% โดยมุมซ้ายเจาะรูสำหรับฝังกล้องเซลฟี่คู่ และเหนือหน้าจอมีช่องลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ ซ่อนอยู่ด้านใน

พลิกมาด้านหลังเครื่องมาพร้อมฝาหลังที่ได้แรงบัยดาลใจมากจากสสารต่างๆ ในจักรวาล โดยใช้กระบวนการผลิตแบบ AG Technology โดยมีค่าความขุ่น 25% และความขรุขระ 0.15 µm และมีค่าความเปล่งแสงน้อยกว่า 1% เพื่อให้ได้ผิวสัมผัสแบบด้านจับถนัดมือ ไม่เกิดเรอยนิ้วมือ ซึ่งสีที่ทาง MobileOcta ได้มารีวิวคือสี Moss Green

โดยมุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้อง 4 ตัว Quad Camera ความละเอียด 64MP+12MP+8MP+2MP วางเรียงกันในแนวตั้ง โดยเลนส์หลักจะมีกรอบสีเหลือง ส่วนไฟแฟลชคู่ Dual LED อยู่ด้านข้าง และมีโลโก้ realme อยู่ถัดลงมาด้านขวา

ด้านซ้ายข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง และมีแถบสีดำซึ่งเป็นตัวรับสัญญาณเครือข่ายมือถือ

ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง และมีแถบสีดำซึ่งเป็นตัวรับสัญญาณเครือข่ายมือถือ

ด้านบนมีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน

ด้านท้ายเครื่องมีช่องใส่ SIM Card ซึ่งรองรับ 2 SIM แบบ nanoSIM Card, ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง

from:https://www.mobileocta.com/review-realme-x50-pro-5g/

รายชื่อมือถือใหม่ผ่าน กสทช. Galaxy Note20 มาแล้วพร้อม OPPO Reno4, realme x50 5G, Huawei nova 7, Redmi 9A [มิ.ย.-ก.ค. 2020]

ช่วงนี้ต้องบอกเลยว่ามือถือเข้าไทยผ่าน กสทช. อาจจะไม่ได้มีเข้ามาเยอะแยะมากมายนัก ซึ่งตามปกติแล้วช่วงเดือน มิถุนายน-กรกฎาคม ถือเป็นช่วงที่มีมือถือเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ กันน้อยที่สุดกันในแต่ละปี ซึ่งล่าสุดก็มี Galaxy Note20, Note 20 Ultra รุ่นเรือธงตัวใหม่เข้ามาแล้ว ตามมาด้วย OPPO Reno4, realme X50 5G, Huawei nova 7, 7SE และอื่นๆ อีกเพียบ รายละเอียดแต่ละรุ่นจะเป็นอย่างไรบ้างไปดูกันครับ

หมายเลข

ตราอักษร

แบบ/รุ่น

B38336-20 HUAWEI nova 7 SE
B38337-20 WIKO W-K380 (SUNNY5)
B38360-20 SAMSUNG Galaxy A71 5G
B38374-20 HUAWEI MatePad Pro 5G
B38375-20 OPPO OPPO Reno4
B38396-20 Xiaomi Redmi 9A
B38389-20 realme realme C11
B38430-20 realme realme X50 5G
B38433-20 HUAWEI JEF-NX9 (nova 7)
B38444-20 SAMSUNG Galaxy A01 Core
B38458-20 SAMSUNG Galaxy Note 20 Ultra
B38463-20 SAMSUNG Galaxy Note 20

Samsung

ในที่สุดมือถือเรือธงตัวใหม่จากแบรนด์ Samsung ก็เข้าผ่าน กสทช. มาแล้วกับ Galaxy Note 20 และ Note 20 Ultra ทั้งสองรุ่น โดยสเปคเบื้องต้นสำหรับเรือธงทั้งสองรุ่นนี้จะยังคงใช้ชิปเซ็ต Exynos 990 (7nm) ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Galaxy S20 Series เหมือนเดิม แต่จะเพิ่มค่า Clock Speed ไปถึง 2.7GHz และจะมีหน่วยความจำจะเลือกใช้เป็นแบบ UFS 3.1 สูงสุด 512GB กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียดสูงสุด 108MP

โดยความแตกต่างหลักๆ ระหว่าง Note 20 และ Note 20 Ultra คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของขนาดหน้าจอ, เรื่องของความละเอียดกล้องที่ไม่เท่ากัน, Ram และความจุเครื่อง อารมณ์คล้ายๆ กับ S20 Plus กับ S20 Ultra นั่นเอง ยังไงก็ต้องรอติดตามสเปคเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกทีวันที่ 5 สิงหาคม 2020 นี้ครับ

ถัดมาดูทางด้าน Galaxy A71 5G กันบ้างที่คราวนี้อัปเกรดชิปจากเดิมเป็น Snapdragon 730 เป็น Exynos 980 โดยเปิดราคามาที่ 19,990 บาทเท่านั้น(ถ้าซื้อติดโปร AIS เหลือ 10,490 บาท) สเปคเบื้องต้นจะใช้หน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว Full HD+, Ram 8GB ความจุ 128GB กล้องหลัง 4 ตัวความละเอียดสูงสุด 64MP แบต 4500 mAh ชาร์จไว 25W เรียกได้เป็นมือถือ 5G อีกรุ่นที่น่าใช้เหมือนกันครับ

อีกรุ่นที่เข้ามาใหม่จะเป็นรุ่นน้องเล็กกับ Samsung Galaxy A01 Core ที่จะใช้ระบบปฏิบัติการเป็น Android 10 (Go edition) สเปคเบื้องต้นตัวเครื่องจะใช้ซิปเป็น Mediatek MT6739WW หน้าจอขนาด 5.1 นิ้ว HD+ พร้อม Ram 1GB ความจุ 8GB แบต 3,000 mAh เปิดฝาหลังเปลี่ยนแบตได้ ซึ่งคาดว่าราคาวางจำหน่ายน่าจะอยู่ราวๆ ไม่เกิน 3,000 บาท ซื้อเป็นมือถือสำรองก็พอใช้ได้อยู่

Huawei

คราวนี้มาดูทางด้านแบรนด์ Huawei กันบ้างกับ nova 7, nova 7SE ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้เข้ามาและวางจำหน่ายตั้งแต่เดือน มิถุนายน ที่ผ่านมาแล้ว โดยสำหรับรุ่น nova 7SE ถือเป็นมือถือที่รองรับ 5G ที่ถูกที่สุดในไทยที่วางจำหน่ายอยู่ ณ เวลานี้เลย ใช้ชิปเช็ต Kirin 820 ในราคาเริ่มต้นเพียง 11,990 บาทเท่านั้น ส่วน nova 7 จะอัปสเปคต่างๆ ให้ดีขึ้น เช่น ใช้ชิปเช็ค Kirin 985 และความจุเครื่องเป็น 256GB ซึ่งราคาอยู่ที่ 16,990 บาท

ในส่วนของ Huawei MatePad Pro 5G เบื้องต้นดีไซน์และสเปคจะยังคงคล้ายกับตัว MatePad Pro 4G เพียงแต่อัปเกรดเป็นให้ใช้ 5G กับเพิ่ม Ram เป็น 8GB และความจุอัปเป็น 256GB แทน โดยชิปเซ็ตตัวเครื่องจะใช้เป็น Kirin 990 ที่รองรับสัญญาณ 5G ซึ่งถ้าหากซื้อช่วงนี้บอกเลยว่าได้ของแถมเพียบ ทั้งคีย์บอร์ดและปากการวมมูค่าเกือบหมื่นบาทกันเลยทีเดียว

OPPO

เป็นมือถืออีกรุ่นที่น่าสนใจมากๆ กับ OPPO Reno4 ที่คราวนี้จัดสเปคมาแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะใช้ชิปเซ็ตเป็น Snapdragon 765G รองรับการใช้งาน 5G หน้าจอ 6.5 นิ้ว Full HD+ 90Hz กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียดสูงสุด 48MP แบต 4000 mAh พร้อมรองรับชาร์จไว 65W ซึ่งทั้งหมดนี้คาดว่าราคาเปิดตัวราวๆ หมื่นต้นๆ เท่านั้น ยังไงเดี๋ยวทีมงานจะมาอัปเดตราคากันอีกทีครับ

realme

ลำดับถัดมาเรามาดูทางด้านแบรนด์ realme กันบ้าง ซึ่งคราวนี้ตัวกลางทุบราคามาโหดเลยทีเดียวกับ realme X50 5G ที่เปิดตัวราคามาเพียง 12,990 บาทเท่านั้น โดยสเปคเบื้องต้นจะใช้เป็นชิปเซ็ต Snapdragon 765G หน้าจอ 6.57 นิ้ว Full HD+ 120Hz ใส่ Ram มา 8GB ความจุ 128GB กล้องหลัง 4 ตัวความละเอียดสูงสุด 48MP แบต 4200 mAh ชาร์จไว 30W ครบเครื่องสุดๆ

หลังจากดูรุ่นเรือธงไปแล้ว ถัดมาดูรุ่นน้องเล็กที่เพิ่งเปิดตัวไม่กี่วันก่อนกันบ้างกับ realme C11 ที่มาเป็นมือถือสายคุ้มราคาประหยัด ใช้ชิปเซ็ตเป็น MediaTek Helio G35 หน้าจอ 6.5 นิ้ว HD+ ใส่ Ram 2GB ความจุ 32GB กล้องให้มาถึง 2 ตัว ความละเอียดสูงสุด 13MP อีกอันจะเป็นกล้อง Depth Sensor แบตก็ให้มา 5000 mAh มีทั้งหมด 2 สีคือ เขียว Mint Green และสีเทา Pepper Gray ในราคาเพียง 3,499 บาทเท่านั้น

Xiaomi

ปิดท้ายด้วยรุ่นน้องเล็กตัวใหม่กับ Xiaomi Redmi 9A ที่เปิดตัวราคามาถูกกว่าใครเพียง 2,799 บาทเท่านั้น สเปคมาพร้อมกับชิป MediaTek Helio G25 หน้าจอขนาด 6.53″ HD+ ใส่ Ram มา 2GB ความจุ 32GB กล้องหลังหนึ่งตัวความละเอียด 13MP พร้อมแบตขนาดใหญ่ถึง 5000 mAh มีเลือก 3 สีคือ สีเทา Granite Gray, เขียว Peacock Green และ น้ำเงิน Sky Blue หาซื้อได้แล้ววันนี้ทั่วประเทศครับ

 

ที่มา :  nbtc

from:https://droidsans.com/nbtc-new-phone-june-july-2020/

#พกเครื่องเที่ยว กินปู ชมวิว กับ realme X50 Pro 5G ที่ธาราจันท์ โฮมสเตย์ จันทบุรี

#พกเครื่องเที่ยว ครั้งนี้ APPDISQUS จะพาไปที่ ธาราจันท์ โฮมสเตย์ จันทบุรี โดยพกเครื่อง realme X50 Pro 5G สมาร์ทโฟน 5G ตัวแรกของทางเรียลมี เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Speed of the Future” “ความเร็วแห่งอนาคต” มาพร้อมกล้องหน้าคู่ ความละเอียด 32MP ทำงานคู่กับกล้องหน้าเลนส์กว้างความละเอียด 8MP Ultra-wide-angle ที่ให้มุมมองกว้าง 105 องศาเพื่อเก็บภาพทิวทัศน์ด้านหลังให้ได้กว้างมากขึ้น  กล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียดสูงสุดเป็น 64MP ทำงานกับเลนส์ Ultra wide-angle อีกหนึ่งตัว ความละเอียด 8MP ซึ่งสามารถถ่ายมุมมองกว้างได้ 119 องศา อ่านรีวิวเพิ่มเต็ม>> realme X50 Pro 5G

จังหวัดจันทบุรี เมืองแห่งสวนผลไม้และโฮมสเตย์ที่มีเป็นร้อยให้เลือก ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศแม่น้ำ ทะเล ภูเขา ป่า วัดและประวัติศาสตร์ ต้องมีจังหวัดจันทบุรีอยู่ในลิสต์ด้วย นอกจากธรรมชาติที่เขียวขจีแล้ว ที่พักแรมโดยเฉพาะโฮมสเตย์ที่จันทบุรีต้องบอกว่าแต่ละที่แข่งขันสุดๆ เลยทีเดียว เลือกกันไม่ถูกจนสุดท้ายหวยมาลงที่ ธาราจันท์ โฮมสเตย์ จ่ายครั้งเดียวแบบเหมาหัว ราคาค่าเข้าพักคนละ 1,800 บาท พร้อมที่พักและกิจกรรมทางน้ำด้วย มีอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ให้ 3 มื้อ โดยมื้อแรกเป็นมื้อกลางวัน มือค่ำ และมื้อเช้าก่อนเช็คเอาท์ ซึ่งที่ธาราจันท์ มีครบ หลังจากเปิดให้เข้าพักหลังจากปิดไปหลายเดือนช่วงโควิด พนักงานถึงกับบ่นว่า “หนูยังไม่ได้หยุดเลยพี่” เพราะผู้เข้าพักที่มีมาอย่างต่อเนื่องเหมือนเก็บกด

บรรยากาศภายในโฮมสเตย์ดูร่มรื่นเป็นธรรมชาติ ต้นไม้เยอะ เป็นการเที่ยวในช่วงฤดูฝนก็จะชื้นแฉะไปหน่อย หยิบเจ้า realme X50 Pro 5G ขึ้นมาถ่ายภาพบรรยากาศห้องพักให้ชมกัน ห้องพักสะอาด ที่นี่จะมีแค่ผ้าเช็ดตัวให้นะคะ ที่เหลือพวกแชมพู สบู่ ไดร์เป่าผมต้องพกมาเอง เตียงนุ่มหอมสะอาด มีตู้เย็น มีน้ำดื่มให้


realme X50 Pro 5G  ถ่ายภาพมาโครระยะโฟกัสวัตถุได้ใกล้ 3 เซนติเมตร

คาเฟ่ของที่นี่สวยน่านั่งมีมุมให้ถ่ายรูปหลายมุม ใครมาที่นี่ต้องมีรูปนั่งในคาเฟ่ด้วย กาแฟ เครื่องดื่มรสชาติดี ราคา 70+ เบเกอรี่ก็ใช้ได้ค่ะ

ที่ธาราจันท์จะมีอาหารให้ 3 มื้อค่ะ เช็คอินปุ๊ปก็กินอาหารเที่ยงกันก่อน โดยอาหารจะเสิร์ฟตอนเที่ยงถึงบ่าย 2 ไม่ต้องรีบไปจองโต๊ะ เพราะทางร้านจะจัดเตรียมที่นั่งไว้ให้ ไม่อิ่มเติมได้เรื่อยๆ ค่ะ

อิ่มแล้วก็เข้าที่พักได้เลย ใครจะว่ายน้ำ หรือทำกิจกรรมทางน้ำก็ตามสะดวกเลย มีเรือคายัคให้พายหรือจะรอบ่าย 3 จะมีกิจกรรมนั่งแพเปียกพาชมธรรมชาติและมีจุดแวะให้เล่นน้ำ แพเปียกนี่เปียกจริงๆ นั่งจมไปเกือบเอว สนุกดีค่ะ ที่นี่มีสไลเดอร์ด้วย ระยะทิ้งดิ่งสูงเวอร์555

บรรยากาศโดยรอบของ ธาราจันท์ โฮมสเตย์ จันทบุรี

6 โมงเย็นถึงเวลาอาหารค่ำ เหมือนมื้อกลางวันค่ะ ตรงที่นั่งที่เดิมที่ทางร้านจัดไว้ให้ เติมได้ไม่อั้น ไม่ว่าจะเป็นกุ้งลายเสือตัวค่อนข้างใหญ่ ปู ปลาทอดน้ำปลาตัวใหญ่มาก หมูมะนาว กุ้งแช่น้ำปลา น้ำจิ้มแซ่บๆ ต้มยำกุ้งน้ำใสใส่พริกแห้งแซ่บมากเติมไปหลายถ้วยเลยค่ะ มื้อนี้จุกมาก เครื่องดื่มก็ขอเติมได้ไม่อั้น

อิ่มแล้วก็มือพอดี ใครยังไม่อยากกลับห้องมีบริการคาราโอเกะที่ห้องอาหารต่อ ใครอยากเดินเล่นชมบรรยากาศค่ำคืนอันเงียบสงบก็แล้วแต่สะดวก แต่ค่ำนี้มีฝนเทลงมาด้วยตอนกำลังกินข้าว พื้นก็จะแฉะๆ หน่อย หยิบ realme X50 Pro 5G มาถ่ายบรรยากาศตอนกลางคืนกันหน่อย

realme X50 Pro 5G ก็เป็นกล้องระดับเรือธงคุณภาพสูงในทุกเลนส์ ถ่ายได้หลายระยะ และมีโหมดการถ่ายภาพที่สำคัญในยุคนี้ก็คือโหมดกลางคืน แม้จะถือมือเปล่าแต่ภาพก็ยังคมโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งช่วย

แถมด้วยแหล่งท่องเที่ยวใกล้ๆ ที่ต้องเช็คอินอย่างอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล นับเป็นหนึ่งในวิหารที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย และเป็นโบสถ์ระดับชั้นอาสนวิหารแห่งเดียวในฝั่งตะวันออกของไทย มีจุดเด่นที่เด่นชัดคือยอดแหลมบนหอระฆัง 2 หลัง

ถ่ายรูปที่อาสนวิหารเสร็จแล้ว เดินข้ามสะพานมายังตลาดเก่าชุมชนจันทบูน จะมีตลาดเล็กๆ และจุดถ่ายรูปอยู่ เสียดายที่เรามาวันธรรมดาของขายน้อย เดินมากลางสะพานก็จะได้จุดถ่ายรูปที่ด้านหลังเป็นอาสนวิหารด้วยค่ะ

แต่งภาพด้วยฟิลเตอร์ในเครื่องเพิ่มเสน่ห์ให้ภาพหน่อย

ข้ามสะพานมาฝั่งตรงข้ามก็มีอีกจุดให้ถ่ายรูป จะเห็นวิวอาสนวิหารกับแม่น้ำด้วยค่ะ จะถ่ายเป็นภาพมุมกว้างหรือเลนส์ปกติ จุดนี้เก็บได้หมดจริงๆ น่าเสียดายอีกแล้วตรงเมฆฝนกำลังมา ฟ้าเลยครึ้มไปหน่อย

เดินข้ามสะพานมายังตลาดเก่าชุมชนจันทบูน จะมีตลาดเล็กๆ และจุดถ่ายรูปอยู่ เสียดายที่เรามาวันธรรมดาของขายน้อย ลุงป้าแถวนั้นแนะนำว่าให้มาวันหยุดจะมีของกินมาขายเพียบเลยหล่ะ

 

 

 

ข่าว: #พกเครื่องเที่ยว กินปู ชมวิว กับ realme X50 Pro 5G ที่ธาราจันท์ โฮมสเตย์ จันทบุรี มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2020/07/03/carry-mobile-realme-x50-pro-5g-at-tarajun.html

รวมโปรโมชั่นมือถือ และอุปกรณ์ IoT จา realme ในงาน TME 2020 วันที่ 2 – 5 กรกฎาคม 2563

ใครที่อัดอั้นอยากถอยมือถือใหม่ก็เตรียมเสียเงินเสียทองกันได้เลย เพราะในงาน TME 2020 วันที่ 2 – 5 กรกฎาคม 2563 ทาง realme เค้าได้มาออกบูธใหญ่พร้อมขนเอามือถือหลายรุ่น หลายระดับ พร้อมอุปกรณ์เสริมล้ำๆ มาให้ได้เลือกไปเป็นเจ้าของกัน แถมยังมีทังโปรโมชั่นราคาพิเศษ และของแถมอีกเพียบ นอกจากนี้ยังมีมือถือเรือธง 5G ที่พึ่งเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ อย่าง realme X50 Pro 5G มาวางจำหน่ายครั้งแรกในงานด้วย

โปรโมชั่น realme X5o Pro 5G

มาเริ่มกันที่มือถือเรือธง 5G อย่าง realme X5o Pro 5G กันก่อนเลย โดยมือถือรุ่นนี้เรียกว่าจัดเต็มสุดๆ ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสเปคระดับไฮเอนด์ชิป Snapdragon 865, RAM 12GB, ความจุ 256GB แบบ UFS 3.0, กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 64MP, กล้องหน้าคู่, แบตอึดๆ 4200 mAh พร้อมระบบชาร์จสุดไว 65W

realme X50 Pro 5G วางจำหน่ายในราคา 28,990 บาท โดยผู้ที่ซื้อภายในงาน TME 2020 ครั้งนี้ จะได้รับของแถมเป็นเครื่องฟอกอากาศ, กระเป๋าเดินทาง และบัตร VIP กลับบ้านไปด้วย

โปรโมชั่น realme X3 SuperZoom

ส่วนใครที่ชอบมือถือกล้องเทพๆ ซูมโหดๆ ก็้องเจอกับ realme X3 SuperZoom ที่มากับจุดเด่นกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 64MP ที่มากับเลนส์ Tele แบบ Periscope ที่มีความสามารถในการซูมได้ไกลสูงสุดถึง 60x เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมี Starry Mode สำหรับเน้นถ่ายภาพดวงดาว หรือทางช้างเผือกได้อย่างสุดยอดโดยไม่ต้องแบกกล้องระดับโปรตัวใหญ่ๆ กันเลยทีเดียว

realme X3 SuperZoom วางขายในงาน TME 2020 ที่ราคา 19,990 บาท โดยจะได้รับของแถมเป็นเครื่องทำความชื้น และจะเลือกรับเครื่องฟอกอากาศ หรือกระเป๋าเดินทางไปอีกชิ้นก็ได้นะ (เลือกรับอย่างใดอย่างหนึ่งนะครับ)

โปรโมชั่น realme 6Pro

ใครอยากได้มือถือสเปคโดนๆ ราคาคุ้มๆ ก็ต้องหันมาทางรุ่น realme 6Pro ที่มากับสเปคงามๆ ทั้ง Snapdragon 720G, RAM 8GB, กล้องหลัง 4 ตัว 64MP,  หน้าจอ 6.6 นิ้ว FHD+ รีเฟรชเรท 90Hz และระบบชาร์จไว 30W

realme 6Pro วางจำหน่ายภายในงาน TME 2020 ที่ราคา 10,990 บาท และยังจะได้รับ Special Gift realme 6 Pro และกระเป๋าเดินทางขนาด 24 นิ้ว กลับไปฟรีๆ อีกด้วย

โปรโมชั่น realme 6

ถ้าใครอยากได้มือถือราคาย่อมเยาลงมาอีก แต่ยังคงมีสเปคที่ใช้งานได้สบายๆ ก็ขยับลงมาเป็นรุ่น realme 6 ได้เลย ด้วยหน้าจอ 6.5 นิ้ว FHD+ รีเฟรชเรท 90Hz, ชิป Helio G90T, กล้องหลัง 4 ตัว 64MP, แบตเตอรี่ 4300 mAh รองรับชาร์จไว 30W

realme 6 วางจำหน่ายในงาน TME 2020 ทั้งหมด 2 รุ่น คือ 4GB / 128GB ราคา 7,999 บาท กับรุ่น 8GB / 128GB ราคา 8,999 บาท และยังจะได้รับของแถมเป็น Special Gift realme 6 และกระเป๋าเดินทาง 24 นิ้ว

 

โปรโมชั่น realme 6i

มาที่รุ่นน้องเล็กของซีรีส์ realme 6 อย่าง realme 6i กันบ้าง ด้วยราคาสบายๆ แต่ได้สเปคคุ้มๆ ทั้งจอขนาด 6.5 นิ้ว HD, ชิป Helio G80, กล้องหลัง 4 ตัว 48MP และแบตเตอรี่อึดๆ 5000 mAh รองรับชาร์จไว 18W

realme 6i วางจำหน่ายที่งาน TME 2020 ในราคาเพียง 6,499 บาท และยังจะได้รับหมอน realme กับหมอนรองคอ realme กลับไปหนุนนอนสบายๆ กันอีกต่างหาก

 

โปรโมชั่น realme 5i

ถัดมาที่รุ่นต้นปีอย่าง realme 5i ที่ราคาสุดเร้าใจ เริ่มต้นไม่ถึงครึ่งหมื่น แต่ได้สเปคมาแบบครบๆ ใช้งานได้ไม่มปัญหา ทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว HD+, ชิป Snapdragon 665, กล้องหลัง 4 ตัว และแบตเตอรี่สุดถึก 5000 mAh ใช้งานได้ข้ามวันข้ามคืน

realme 5i มีวางจำหน่ายในงาน TME 2020 ทั้งหมด 2 รุ่น คือ 4GB / 64GB ราคา 4,999 บาท และรุ่น 4GB / 128GB ราคา 5,499 บาท โดยจะได้รับของแถมเป็นหมอน และหมอนรองคอ realme กลับไปด้วย

 

โปรโมชั่น realme C3

สุดท้ายกับรุ่นน้องเล็กสุด realme C3 ด้วยราคาที่สุดแสนเป็นมิตร แต่ได้หน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว HD, ชิป Helio G70, กล้องหลัง 3 ตัว พลัง AI, เซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือด้านหลัง และแบตเตอรี่มหึมาถึง 5000 mAh อีกด้วย

realme C3 วางจำหน่ายในงาน TME 2020 ที่ราคาเอื้อมถึงง่ายสุดๆ เพียง 3,999 บาท เท่านั้น แถมยังจะได้รับหมอน และหมอนรองคอ realme ติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย

 

 

ยัง…ยังไม่หมดแค่มือถือเท่านั้น เพราะบอกไปแล้วว่างานนี้ realme ยังขนอุปกรณ์เสริมล้ำๆ มาวางจำหน่ายในราคาพิเศษอีกด้วย

realme Buds Q

หูฟังไร้สายแบบ True Wireless ดีไซน์พรีเมี่ยมรุ่นล่าสุดที่มากับไดรเวอร์ขนาดใหญ่ถึง 10 มม., แบตเตอรี่เล่นต่อเนื่อง 4.5 ชม. และชาร์จด้วยเคสได้อีก 20 ชม., Game Mode ความหน่วงต่ำ แถมยังมากับมาตรฐานกันน้ำ IPX4 อีกต่างหาก วางจำหน่ายภายในงาน TME 2020 เป็นครั้งแรก เคาะราคาเบาๆ แค่ 1,199 บาท เท่านั้น

realme Watch

สมาร์ทวอทช์ราคาสุดน่ารัก ที่มากับฟีเจอร์เพียบๆ ทั้งเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, เซ็นเซอร์วัดความหนาแน่นของออกซิเจนในเลือด และรองรับการออกกำลังกายถึง 14 แบบ ทั้งกีฬายอดฮิตอย่างฟุตบอล, บาสเกตบอล, ปิงปอง, ปั่นจักรยาน ฯลฯ นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์อื่นๆ อย่าง Step Tracker นับก้าวที่เดินระหว่างวัน, Idle Alert แจ้งเตือนเวลานั่งหรือนอนนานๆ และ Sleep Monitor ที่จะเข้ามาช่วยวัดคุณภาพในการนอนอีกด้วย…เห็นฟีเจอร์ล้นๆ แบบนี้ แต่มีราคาเบาๆ แค่ 2,499 บาท เท่านั้นเอง

realme Buds Air

หูฟังไร้สาย True Wireless ฟีเจอร์ตรึมมีทั้ง Optical Sensor ที่จะตรวจจับได้ว่าตอนนี้หูฟังกำลังถูกใช้งานอยู่หรือเปล่า, Gaming Mode ลดความหน่วง, ใช้งานแบบต่อเนื่องได้สูงสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 3 ชั่วโมง แถมเคสสามารถชาร์จไฟกลับเข้าให้หูฟังได้อีกหลายรอบ รวมๆ แล้ว realme Buds Air สามารถฟังเพลงได้นานถึง 17 ชั่วโมง ส่วนระบบเสียงก็มีไดรเวอร์เบสขนาด 12 มม. บวกกับระบบ Dynamic Bass Boost ที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเบสให้กระหึ่มถึงใจแต่ยังฟังแล้วสบายหู และมีมิติกว่า โดยหูฟังรุ่นนี้วางจำหน่ายในงาน TME 2020 ที่ราคา 1,999 บาท

realme Buds Air Neo

ต่อด้วยหูฟังรุ่นเล็ก Buds Air Neo ที่ยังอัดฟีเจอร์มาให้ครบๆ อีกเช่นเคยทั้งโหมด Super Low Latency, บสตึ้บสะใจด้วย Bass Boost Driver ขนาด 13 มม., แบตเตอรี่ในตัวหูฟังสามารถใช้ฟังเพลงต่อเนื่องได้ 3 ชม. (ปิดโหมด Super Low Latency) และใช้คุยโทรศัพท์ได้ 1.5 ชม. ส่วนเคสแบตเตอรี่จะชาร์จไฟกลับให้ตัวหูฟังได้อีกราวๆ 17 ชม. และยังได้รับมาตรฐานกันน้ำ IPX4 อีกด้วย โดยหูฟังรุ่นนี้วางจำหน่ายในงาน TME 2020 ที่ราคาเบาๆ แค่ 1,499 บาทเท่านั้น

realme Band

สุดท้ายกับอุปกรณ์ล้ำๆ เอาใจสายสปอร์ตด้วย realme Band ฟิตเนสแทรคเกอร์รุ่นแรกจาก realme ที่พกจุดเด่นมาพร้อมกับเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, แบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานเกือบๆ 10 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และกันน้ำกันฝุ่น IP68 อีกต่างหาก วางจำหน่ายภายในงานด้วยราคาน่าสนใจสุดๆ แค่ 799 บาท 

โปรโมชั่นส่วนลด realme Buds Q

สำหรับผู้ที่ซื้อมือถือแบรนด์ realme ภายในงาน TME 2020 ราคาตั้งแต่ 4,999 บาท ขึ้นไป พร้อมกับหูฟัง realme Buds Q ก็จะได้รับส่วนลดเพิ่มเติมมูลค่า 200 บาท นอกจากนี้ยังได้รับสิทธิ์ผ่อน 0% นานสูงสุดถึง 24 เดือน (บัตรเครดิตที่ร่วมรายการ) อีกด้วย

สินค้าจาก realme นอกจากจะมีขายที่บูธ realme ในงาน TME 2020 แล้ว ก็ยังมีวางจำหน่ายตามบูธตัวแทนจำหน่ายอย่าง Banana, CSC, Jaymart, TG Fone, BKK, KingKongPhone และ IT City อีกด้วย ใครสนใจก็รีบกันหน่อยนะครับ เพราะโปรโมชั่นเด็ดๆ แบบนี้มีเฉพาะในงาน TME 2020 วันที่ 2 – 5 กรกฎาคม 2563 นี้เท่า่นั้น

from:https://droidsans.com/realme-tme-2020-promotion-2/

เปิดตัว realme X50 Pro 5G ในราคา 28,990 บาท พร้อม realme Buds Q ราคาเพียง 1,199 บาท

realme แบรนด์สมาร์ทโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก จัดงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรองรับ 5G อย่าง realme X50 Pro 5G และ realme Buds Q หูฟังไร้สาย ที่ร่วมออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชื่อดังคุณโจเซ่ เลวี่ (José Lévy) จากแบรนด์ระดับโลก Hermès ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมพลังคนรุ่นใหม่สู่ความก้าวหน้าและความสำเร็จในอนาคตผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยี 5G ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Empower The Next Gen’

สมาร์ทโฟนเรือธงรองรับ 5G ทรงพลังเร็วแรงเหนือขั้นด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 865

realme X50 Pro 5G

realme X50 Pro 5G มาพร้อมชิปเซ็ตเรือธง Snapdragon 865 รุ่นใหม่ล่าสุดที่รองรับ 5G ทั้งแบบ SA และ NSA รวมทั้งยังรองรับคลื่นความถี่ 5G อื่นๆ ทั่วโลก อาทิ n1, n3, n5, n41, n77 และ n78 เพื่อการเชื่อมต่อสัญญาณที่มีความเสถียรภาพ realme X50 Pro 5G มาพร้อมการออกแบบ “เสารับสัญญาณรอบทิศทาง 360 องศา” และฟีเจอร์ Smart 5G ที่สามารถสลับการเชื่อมต่อระหว่าง 4G และ 5G โดยอัตโนมัติ ช่วยประหยัดพลังงานยิ่งขึ้นและลดการใช้พลังงานลง 30% นอกจากนี้ยังรองรับ Wi-Fi 6 เพื่อความเร็วในการรับส่งสัญญาณที่กว้างและไกลมากขึ้น

การทำงานของชิปเซ็ต Snapdragon 865 เพิ่มประสิทธิการทำงานโดยรวมเร็วแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 25% พร้อมระบบ AI รุ่นใหม่ล่าสุดที่ทำงานได้ชาญฉลาดกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า นอกจากนี้ realme X50 Pro 5G ยังมาพร้อม RAM12GB รุ่นล่าสุด LPDDR5 และหน่วยความจำ ROM 256GB แบบ UFS 3.0 พร้อมเทคโนโลยี Turbo Write และ HPB ช่วยให้ความเร็วในการเขียนและการอ่านไหลลื่นมากยิ่งขึ้น

รองรับการชาร์จเร็ว 65W SuperDart

realme X50 Pro 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ในเวลาเพียง 35 นาที ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีการชาร์จที่เร็วสุดในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนปัจจุบัน อีกทั้งยังมาพร้อมอะแดปเตอร์แบบ GaN ที่มีขนาดเล็กลงแต่สามารถจ่ายไฟได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นและลดการเกิดความร้อนดียิ่งขึ้น ปลอดภัยด้วยระบบความปลอดภัยในขณะที่ชาร์จแบตเตอรี่มากถึง 5 ชั้น ตั้งแต่หัวชาร์จไปยังแบตเตอรี

ประสบการณ์ที่เหนือกว่าด้วยจอแสดงผลแบบ Super AMOLED อัตรา Refresh Rate 90 Hz

คมชัดด้วยหน้าจอแบบ Super AMOLED ขนาด 6.44นิ้ว โดยมีอัตราส่วนหน้าจอ 20:9 อัตรา Refresh Rate ที่ 90Hz และ Sampling rate ที่ 180Hz ซึ่งเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนทั่วไปมีอัตรา Refresh Rate เพิ่มขึ้นถึง 50% เพื่อการตอบสนองต่อการสัมผัสขณะเล่นเกมอย่างลื่นไหล realme X50 Pro 5G ยังมาพร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่สามารถปลดล็อคด้วยความเร็วเพียง 0.27 วินาที เท่านั้น

กล้องหลังความละเอียด 64 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าคู่แบบเจาะรู

realme X50 Pro 5G5G มาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ โดยเลนส์หลักมาพร้อมความละเอียด 64 ล้านพิกเซล และเลนส์ Ultra-Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีมุมมองกว้างถึง 119 องศา พร้อมเลนส์ Macro ในตัวที่ระยะโฟกัสวัตถุ 3 เซนติเมตร และเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12MP สามารถซูมแบบ optical ได้ถึง 5 เท่า และซูมแบบ Hybrid ได้ 20 เท่า นอกจากนี้ยังมาพร้อมเลนส์ Portrait พร้อมฟิลเตอร์ B&W ช่วยให้การถ่ายภาพของคุณนั้นง่ายและสนุกมากยิ่งขึ้น  อีกทั้งยังรองรับการถ่ายภาพวิดีโอที่มีคุณภาพระดับความคมชัดถึง 4K และระบบกันสั่น UIS และ UIS Max ช่วยให้การถ่ายวิดีโอคมชัดป้องการสั่นไหวของภาพ

สำหรับกล้องหน้ามาพร้อมกล้องหน้าคู่แบบโดยเลนส์หลักมาพร้อมเซ็นเซอร์ Sony IMX616 ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.5 และเลนส์ Ultra-wide-angle ที่ให้มุมมองกล้องกว้างถึง 105 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 รองรับการถ่ายวีดีโอมุมกว้างพร้อมเอฟเฟ็กต์โบเก้แบบเรียลไทม์และระบบกันสั่น UIS

ดีไซน์ทันสมัยเฉพาะตัวด้วยโทนสีแบบ Low-saturation

realme X50 Pro 5G ไม่เพียงแต่ทรงพลังด้วยประสิทธิภาพแต่ยังต้องมาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัย  โดยมาพร้อมโทนสีที่กำลังเป็นที่นิยมอย่าง Low-saturation มีด้วยกัน 2 สี ได้แก่สี Moss Green และ Rust Red ที่ได้แรงบันดาลใจจากสสารที่เปล่งแส่งอยู่นอกโลกในส่วนลึกของจักรวาล แฝงด้วยความลึกลับน่าค้นหา ผ่านกระบวนการผลิตแบบ AG Technology ต่อด้วยกระบวนการเคลือบสี 6 ชั้น และบ่มขัดสีอย่างน้อย 21 วัน ทำให้ได้พื้นผิวแบบด้าน ให้สัมผัสที่ละเอียดอ่อน จับถนัดมือ และไม่เกิดรอยนิ้วมือ

realme Buds Q หูฟังไร้สายออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ระดับโลกอย่างแบรนด์ Hermès

ในฐานะแบรนด์ผู้นำเทรนด์ด้านเทคโนโลยีเพื่อนคนรุ่นใหม่ realme ร่วมมือกับคุณโจเซ่ เลวี่ (Jose Levy) ดีไซน์เนอร์จากแบรนด์ดังระโลกอย่าง Hermès ร่วมออกแบบ realme Buds Q หูฟังไร้สายที่มาพร้อมคุณภาพเสียงและดีไซน์ระดับพรีเมี่ยมในราคาที่คนรุ่นใหม่สามารถที่จะจับต้องได้ โดย realme Buds ได้รับการออกแบบจากสิ่งรอบตัวอย่าง ‘ก้อนหิน’ ที่มีรูปทรงโค้งมนทุกองศาให้ความนุ่มนวลอ่อนโยน มาพร้อมกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่สี Quite Black, Quite White และ Quite Yellow

ในส่วนของคุณภาพเสียง realme Buds Q มาพร้อมไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 10 มิลลิเมตร พร้อม Gaming Mode ที่มีความหน่วงต่ำเพียง 119 มิลลิวินาที เพื่อให้ภาพและเสียงตรงกันในขณะเล่นเกมหรือรับชมภาพยนตร์นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับความสะดวกสบายในการสวมใส่ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 3.6 กรัม และรองรับการใช้งานได้ต่อเนื่อง 20 ชั่วโมง

เสริมพลังขับเคลื่อนคนรุ่นใหม่สู่ความสำเร็จด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยี ภายใต้คอนเซ็ปต์ Empower The Next Gen

realme X50 Pro 5G

                  (ในภาพจากซ้าย คุณแนนซี่ – คุณซิลวี่ – คุณเฟิร์น)

งานเปิดตัวครั้งนี้ realme นำเสนอผลิตภัณฑ์ภายใต้คอนเซ็ปต์ Empower The Next Gen ที่มุ่งมั่นพัฒนานำเสนอผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมและผลักดันคนรุ่นใหม่นำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ความก้าวหน้าที่เร็วกว่า ซึ่งภายในงานได้รับเกียรติจากคุณเฟิร์น ศุภนารี สุทธิวิจิตรวงษ์, คุณแนนซี่ นัยน์ภัค ภูมิภักดิ์ และคุณซิลวี่ ภาวิดา มอริจจิ  ตัวแทนจากคนรุ่นใหม่ที่มาบอกเล่าเรื่องราวสร้างแรงบัลใจ ปลุกพลังคนรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นกระบอกเสียง “ช่วยผลักดันสู่ความสำเร็จ”

realme X50 Pro 5G วางจำหน่ายในราคาเพียง 28,990 บาท พร้อมของแถมเครื่องฟอกอากาศ และ VIP Card ประกันหน้าจอแตก 1 ปี มูลค่ารวม 9,999 บาท วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ realme Brand Shop, Banana, BKK, KingKongPhone, TG FONE, Jaymart, IT City และ CSC

สัมผัส realme X50 Pro 5G ที่แรกก่อนใครในงาน Thailand Mobile Expo ระหว่างวันที่ 2 – 5 กรกฏาคม ในราคาเพียง 28,990 บาท พร้อมของแถมเครื่องฟอกอากาศ และ VIP Card ประกันหน้าจอแตก 1 ปี  พิเศษ! เฉพาะลูกค้าที่ซื้อในงาน Thailand Mobile Expo เท่านั้น รับเพิ่มทันทีกระเป๋าเดินทางมูลค่า 1,590 รวมมูลค่าของแถมทั้งหมด 11,589 บาท

สำหรับช่องทางออนไลน์วางจำหน่ายในวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ realme Official Store ใน Lazada ,Shopee, และ Thisshop ในราคาเพียง 28,990 บาท พร้อมของแถมเครื่องฟอกอากาศ และ VIP Card ประกันหน้าจอแตก 1 ปี มูลค่ารวม 9,999 บาท

ช่องทางการสั่งซื้อ

Lazada: https://bit.ly/rmx50p-green-lzd

Shopee:  https://bit.ly/rmx50p-shpp

พิเศษสุดสำหรับลูกค้า AIS และ TruemoveH สามารถเป็นเจ้าของ realme X50 Pro 5G ในวันที่ 2 กรกฎาคมในราคาเริ่มต้นเพียง 19,990 บาท  พร้อมรับของแถมกับเครื่องฟอกอากาศและ VIP Card มูลค่า ประกันหน้าจอแตก 1 ปี 9,999 บาท

นอกจากนี้ realme ยังมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าสามารถผ่อนชำระ 0% ได้นานสูงสุด 24 เดือน สำหรับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

realme Buds Q วางจำหน่ายในราคาเพียง 1,199 บาท ในวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

สำหรับช่องทางออนไลน์ realme Buds Q วางจำหน่ายที่ realme Official Store ใน Lazada ,Shopee, และ Thisshop พร้อมโปรโมชั่น Flash Sale ในวันที่ 1 กรกฎาคม ตั้งแต่เวลา 18.00 – 23.59 น. ในราคาพิเศษเพียง 999 บาท จากราคาปกติ 1,199 บาท

คลิกช้อปสมาร์ทโฟน realme ได้ที่นี่ >>> http://bit.ly/2Uk8hju

from:https://www.mobileocta.com/realme-x50-pro-5g-launches-with-buds-q-realme-in-thailand-officially/

เข้าไทยแล้ว realme X50 Pro 5G มือถือเรือธง สเปคเทพ รองรับ 5G ตั้งแต่แกะกล่อง ราคา 28,990 บาท

เปิดราคาไทยอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วสำหรับมือถือสเปคเรือธง รองรับ 5G อย่าง realme X50 Pro โดยมือถือรุ่นนี้อัดสเปคมาแบบจัดเต็ม ทั้งชิปเซ็ต Snapdragon 865, RAM แบบ LPDDR5 ขนาด 12GB, หน่วยความจำ UFS 3.0 ความจุ 512GB ไหนจะระบบชาร์จไว SuperDart 65W อีกด้วย

realme X50 Pro 5G มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ค่ารีเฟรชเรท 90Hz และค่า Response ที่สูงถึง 180Hz ทำให้การเล่นเกมต่างๆ มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ realme X50 Pro ยังรองรับการแสดงผลแบบ HDR10+ อีกด้วย

ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 865 แถมยังมากับโมเด็ม X55 ในตัว รองรับการใช้งาน 5G แถมยังมีเสาอากาศแบบ 30 องศา ทำให้ realme X50 Pro 5G สามารถรับสัญญาณ 4G หรือ 5G ได้รอบด้าน ไม่ว่าจะจับถือมือถือด้านไหน สัญญาณก็จะไม่ขาดหาย

RAM แบบ LPDDR5 ที่มีความเร็วมากกว่าเดิม 29% และกินไฟลงถึง 14% ความจุ 12GB นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Turbo Write ที่จะทำให้การเขียน-อ่านข้อมูล หรือเปิดแอปต่างๆ เร็วขึ้นกว่าเดิม

ไม่ต้องกลัวว่าเล่นนานๆ แล้วเครื่องจะร้อน เพราะ realme X50 Pro 5G มากับระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Cooling ร่วมกับฟิล์มแบบ Graphite, เจลระบายความร้อน และขดทองแดง ที่จะเข้ามาช่วยลดอุณหภูมิตัวเครื่องไม่ให้มีความร้อนจนเกินไป

realme X50 Pro 5G มีกล้องหลังให้มา 4 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 64MP + กล้อง Tele 12MP ซูมสูงสุด 20x + กล้อง Ultra-Wide & Macro 8MP + กล้องขาวดำ สามารถซูมแบบ Hybrid ได้ถึง 20x ด้วยกล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Smooth Zoom ที่จะทำให้เราสามารถซูมภาพได้แบบลื่นๆ เหมือนกับกล้องระดับโปรอีกด้วย

กล้องเซลฟี่ของ realme X50 Pro 5G ให้มาถึง 2 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 32MP (IMX616) เลนส์ Wide และกล้องตัวที่สองความละเอียด 8MP เลนส์ Ultra-Wide และด้วยกล้องเซลฟี่คู่ ทำให้มันสามารถถ่ายวิดีโอแบบ Live Focus ด้วยกล้องหน้าได้แบบเนียนๆ

ชาร์จไวสุดๆ ด้วยระบบชาร์จไว SuperDart 65W ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 4200 mAh ตั้งแต่ 0 – 100% ได้ในเวลาเพียง 35 นาที แถมยังปลอดภัยด้วยระบบ Five Dimensional Safety Protection แต่ถ้าใครรีบจนไม่มีเวลาชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม ก็ขอเวลาแค่ 3 นาที เท่านั้น realme X50 Pro 5G ก็มีพลังพอที่จะดูหนังได้อีก 100 นาที, โทรศัพท์ได้ 4 ชม. หรือฟังเพลงได้ถึง 40 เพลง

สเปค realme X50 Pro 5G

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับการแสดงผล HDR10+
  • CPU : Snapdragon 865
  • GPU : Adreno 650
  • RAM : 12GB (LPDDR5)
  • ความจุ (UFS 3.0) : 256GB
  • กล้องหลัง : กล้องหลัก 64MP + กล้อง Telephoto 12MP ซูมสูงสุด 20x + กล้อง Ultra-Wide & Macro 8MP + กล้องขาวดำ 2MP
  • กล้องหน้า : เลนส์ Wide 32MP + เลนส์ Ultra-Wide 8MP
  • เซ็นเซอร์ : Fingerprint (ใต้หน้าจอ), Light sensor, Proximity sensor, Accelerometer, Compass, Gyroscope
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11, b/g/n, BT 5.0, USB-C
  • แบตเตอรี่ : 4200 mAh รองรับชาร์จไว SuperDart 65W
  • ระบบ Android 10 ครอบด้วย realme UI

realme X50 Pro 5G จะมีสีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีเขียว Moss Green และสีแดง Rust Red โดยมือถือสนนราคาอยู่ที่ 28,990 บาท และหากซื้อในงาน Thailand Mobile Expo ก็รับของแถมไปเลยมูลค่าเกือบๆ 12,000 บาท

ซื้อ realme X50 Pro 5G กับโอเปอร์เรเตอร์ AIS และ truemove H จะมีราคาเริ่มต้นเหลือเพียงแค่ 19,990 บาทเท่านั้น

from:https://droidsans.com/realme-x50-pro-thailand-official-launch/

realme เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง realme X50 Pro 5G จัดเต็มกับประสิทธิภาพที่เหนือกว่า พร้อมเปิดประสบการณ์ความเร็วแห่งอนาคต

realme แบรนด์สมาร์ทโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก เตรียมเปิดตัว realme X50 Pro 5G สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่รองรับ 5G ทรงพลังด้วยชิปเซ็ตเรือธงอย่าง Qualcomm Snapdragon 865 5G เปิดประสบการณ์ความเร็วแห่งอนาคตให้ทุกคนได้สัมผัส

พร้อมเผยโฉมให้ทุกคนได้ชมผ่านการถ่ายทอดสดงานเปิดตัวในวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 15.00 น.ผ่านช่องทางเพจ realme TH https://www.facebook.com/realmeTH,YouTube: realmeThailand และ Lazada :https://bit.ly/2B1CPll

realme ในฐานะผู้นำที่เหนือกว่าในยุค 5G มุ่งมั่นเดินหน้าภายใต้แนวคิด “Dare to Leap” นำเสนอสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

ซึ่งจากการเป็นหนึ่งในแบรนด์สมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆที่มาพร้อมชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 865 5G แสดงให้เห็นว่า realme ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตชิปเซ็ตและซัพพลายเออร์ชั้นนำระดับโลกในการอัพเกรดประสิทธิภาพการทำงานของสมาร์ทโฟนภายใต้การทำงานของแพลตฟอร์มที่ก้าวหน้าและนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัย

realme เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่เติบโตเร็วสุดในโลก เมื่อไตรมาสที่ 1 ปี 2563 realme ครองอันดับ 4
แบรนด์สมาร์ทโฟนในตลาดสมาร์ทโฟนประเทศไทย ด้วยยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 35 ล้านคนทั่วโลก  และในปีนี้ realme จะเดินหน้าด้านกลยุทธ์ 5G อย่างเต็มที่นำเสนอเทคโนโลยี สมาร์ทโฟนภายใต้ประสิทธิภาพการทำงานทรงพลังและดีไซน์การออกแบบที่ยอดเยี่ยม

ห้ามพลาด! กับงานเปิดตัว realme X50 Pro 5G ออนไลน์ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เวลา 15:00 น. ผ่านช่องทางเพจ realme TH, Youtube channel : realmeThailand ติดตามความพิเศษต่างๆเกี่ยวกับ realme X50 Pro 5G ได้ทางเพจ realme TH https://www.facebook.com/realmeTH

คลิกช้อปสมาร์ทโฟน realme ได้ที่นี่ >>> http://bit.ly/2Uk8hju

from:https://www.mobileocta.com/realme-prepares-to-launch-a-flagship-smartphone-realme-x50-pro-5g/

realme X50 Pro 5G มือถือเรือธง 5G ชาร์จไว 65W ผ่านการรับรองจากเว็บไซต์ กสทช. มีลุ้นเปิดตัวในไทยเร็วๆ นี้

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา realme ได้ทำการเปิดตัว realme X50 Pro 5G มือถือเรือธงสเปคโหด ราคาไม่แพงไปในประเทศอินเดีย ซึ่งตรงนี้หลายคนก็ถามว่ารุ่นนี้จะเข้าไทยไหม ล่าสุดอาจมีลุ้นแล้ว เพราะเจ้า realme X50 Pro 5G นั้น อยู่ดีๆ ก็มีชื่อโผล่ขึ้นบนฐานข้อมูลของเว็บไซต์ กสทช. คาดเตรียมเปิดราคาไทยเร็วๆ นี้

realme X50 Pro 5G มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รองรับการแสดงผลแบบ HDR10+, ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 865 ที่มีโมเด็มเชื่อมต่อ 5G ในตัว (ทั้งนี้ต้องรอลุ้นอีกทีว่าจะสามารถใช้งานคลื่นความถี่ในไทยได้หรือไม่), RAM แบบ LPDDR5, หน่วยความจำ UFS 3.0, กล้องหน้า-หลังรวมกัน 6 ตัว และระบบชาร์จไว SuperDart 65W ที่ใช้เวลาชาร์จเพียงแค่ 35 นาที แบตก็เต็มแล้ว

โดยสเปคเต็มๆ ของ realme X50 Pro 5G ก็มีดังนี้เลยครับ

สเปค REALME X50 PRO 5G

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รองรับการแสดงผล HDR10+
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 865
  • GPU: Adreno 650
  • RAM 6GB/8GB/12GB
  • ความจุ: 128GB/256GB (UFS 3.0)
  • กล้องหลัง 4 ตัว
    • Main: 64MP
    • Telephoto: 12MP ซูมสูงสุด 20x
    • Ultra-Wide: 8MP (ถ่าย Macro)
    • Mono: 2MP
  • กล้องหน้า 2 ตัว
    • Wide: 32MP
    • Ultra-Wide 8MP
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
  • Light sensor, Proximity sensor, Accelerometer, Compass, Gyroscope
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11, b/g/n, BT 5.0
  • พอร์ต USB-C
  • แบตเตอรี่ 4,200 mAh รองรับชาร์จไว SuperDart 65W
  • ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย realme UI

realme X50 Pro 5G เปิดราคาเริ่มต้นในฝั่งประเทศอินเดียที่ 37,999 รูปี หรือแปลงเป็นเงินไทยอยู่ที่ราวๆ 16,700 บาท สำหรับรุ่น RAM 6GB + ความจุ 128GB โดยตอนนี้ก็ต้องมารอลุ้นกันต่อไปว่าหาก realme Thailand นำเจ้า realme X50 Pro 5G มาเปิดตัวในไทย จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณเท่าไหน

from:https://droidsans.com/realme-x50-pro-5g-passes-through-nbtc-thailand/

realme เปิดตัว realme X50 Pro 5G เปิดประสบการณ์ความเร็วแห่งอนาคตภายใต้คอนเซ็ปต์ “Speed of the Future”

 

realme แบรนด์สมาร์ทโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดผ่านช่องทางออนไลน์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Speed of the Future” เปิดประสบการณ์ความเร็วแห่งอนาคต

โดยภายในงาน realme เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง 5G รุ่นแรก realme X50 Pro 5G พร้อมประกาศกลยุทธ์ใหม่ด้าน AloT 

 

realme X50 Pro 5g

realme X50 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 รองรับ 5G ทั้งแบบ 5G NSA และ 5G SA พร้อมกล้องหลัง AI 4 เลนส์ ความละเอียด 64MP จอแสดงผลแบบ AMOLED อัตรา Refresh rate ที่ 90 Hz และระบบชาร์จเร็ว 65W SuperDart 

ถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ทรงประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ซึ่งจากความสำเร็จที่ผ่านมา ในปี 2563 realme มุ่งมั่นเดินหน้านำเสนอสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ AloT เพื่อการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ภายในงาน คุณ Emilio Álvarez ยังได้เผยแผนกลยุทธ์และทิศทางด้าน AloT ของ realme ในอนาคตอีกด้วย

สมาร์ทโฟน 5G และอุปกรณ์ AIoT ตัวขับเคลื่อนสู่การเป็น ผู้นำด้านเทคโนโลยีตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่  

 

 คุณ Emilio Álvarez กล่าวว่า realme เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ในซึ่งในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 realme มียอดการส่งออกสมาร์ทโฟนทั้งหมดมากกว่า  10 ล้านเครื่อง ถูกจัดอันดับเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มียอดขายเป็นอันดับ 7 ของโลกและถือเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกอีกด้วย

ในปี 2562 realme ได้เข้าสู่ 25 ตลาดทั่วโลก ด้วยยอดการขนส่งสมาร์ทโฟนทั้งหมดมากกว่า 25 ล้านเครื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2561 ได้มียอดขนส่งเพิ่มขึ้นถึง 500% ส่งผลให้ realme ได้ก้าวขึ้นสู่การเป็นสมาร์ทโฟน
หลักของโลก

ในปีนี้ realme มุ่งมั่นที่จะเดินหน้าภายใต้แนวคิด “Popularizer of Tech Trendsetters’ Lifestyle” ผสมผสานสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ AloT โดยมุ่งเน้นตอบโจทย์การใช้งานของไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น

realme มุ่งมั่นที่จะเดินหน้าตามคอนเซ็ปต์ “Dare to Leap” พร้อมที่จะมอบผลิตภัณฑ์ 5G เพื่อคนรุ่นใหม่ ภายในปี 2563 realme ได้เดินหน้าเครือข่าย 5G ทั่วโลกเพื่อสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ 5G ที่ครบวงจร ครอบคลุมทุกกลุ่มราคาเพื่อตอบโจทย์และเปิดประสบการณ์ใหม่ของผู้ใช้งานทั่วโลก

นอกจากนี้ realme ยังมีการร่วมมือที่ดีกับพันธมิตรไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ โรงงานผลิตเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและนักพัฒนาแอพลิเคชั่นเพื่อร่วมกันพัฒนา 5G ระดับโลกและผลักดันอีโคซิสเต็ม 5G

ในส่วนของอุปกรณ์ loT ทาง realme ให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป, ครอบครัว และผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว เพื่อสร้าง UNI Smart AloT ยกระดับชีวิตด้วยเทคโนโลยีสำหรับคนรุ่นใหม่

ในอนาคต realme จะเปิดตัวสมาร์ทแพลตฟอร์ม realme Link ที่มาในสมาร์ทโฟนเพื่อรองรับเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ AIoT อาทิ สมาร์ททีวี, สมาร์ทวอทช์,หูฟังบลูทูธ และลำโพงอัจฉริยะ โดย realme จะผสานระบบ AI เพื่อสร้างระบบอีโคซิสเต็ม AIoT ที่สมบูรณ์แบบ

สมาร์ทโฟนเรือธง 5G รุ่นแรก พร้อมเดินหน้าภายใต้คอนเซ็ป “Dare to Leap”

 

ในฐานะผู้นำที่เหนือกว่าในยุค 5G ล่าสุด realme ได้เปิดตัว realme X50 Pro 5G สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่รองรับ 5G ตัวเครื่องมาพร้อมวัสดุโลหะและโทนสีแบบ Low-saturation มาพร้อมกัน 2 สีที่กำลังเป็นที่นิยมอย่าง Moss Green และ Rust Red สำหรับหน้าจอและฝาหลังมาพร้อมกระจกกันรอย 3D Corning Gorilla Glass 5

และการป้องกันพื้นผิวกระจกแบบ AG ด้วยวัสดุที่มีคุณภาพจึงทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจในความทนทานและตัวเครื่องที่จับถือสะดวกกระชับมือ

นอกจากนี้ realme X50 Pro 5G ยังมาพร้อมขุมพลังหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 รองรับ 5G พร้อมแรม LPDDRS5 และ UFS 3.0 ช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานเร็วแรงไหลลื่นมากยิ่งขึ้น

realme X50 Pro 5G มาพร้อมเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว 65W SuperDart ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานมากขึ้นและชาร์จได้เร็วยิ่งขึ้น โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4200mAh เต็มได้ภายใน 35 นาที

realme X50 Pro 5G ยังมาพร้อมกับ realme UI บนพื้นฐาน Android 10 ภายใต้ดีไซน์แบบ “Real design” รูปแบบการทำงานที่เรียบง่ายสะดวกต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง

อีกทั้งรองรับฟีเจอร์อัจฉริยะอีกมากมาย อาทิ เทคโนโลยี NFC, ระบบมอเตอร์แบบ Tactile Engine Motor, ระบบ Dual-band GPS, ระบบเสียงแบบ Dolby Atmos และรองรับ Hi-Res เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานในทุกด้าน

นอกจากนี้ realme X50 Pro 5G ยังมาพร้อมหน้าจอแบบ Super AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว โดยมีอัตราส่วนหน้าจอ 20:9 อัตรา Refresh rate ที่ 90 Hz และ Sampling rate ที่ 180Hz

ซึ่งเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนทั่วไปมีอัตรา Refresh rate เพิ่มขึ้นถึง 50% มอบความรวดเร็วลื่นไหลตอบสนองต่อการสัมผัสขณะเล่นเกมอย่างดี realme X50 Pro 5G ยังมาพร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่สามารถปลดล็อคด้วยความเร็วเพียง 0.27 วินาที เท่านั้น

ในส่วนของกล้อง realme X50 Pro 5G มาพร้อมกล้องหน้าคู่แบบ Ultra-wide-angle โดยเลนส์หลักมาพร้อมเซ็นเซอร์ Sony IMX616 ความละเอียด 32MP ค่ารูรับแสง f/2.5 และกล้องความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/2.2 พร้อม Ultra-wide-angle ที่ให้มุมมองกล้องกว้างถึง 105 องศา

สำหรับกล้องหลัง realme X50 Pro 5G มาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ โดยเลนส์หลักมาพร้อมความละเอียด 64MP แบบ Ultra-wide-angle และการอัพเกรดโหมดการถ่ายภาพ  ‘Nightscape 3.0’ และ ‘Ultra Nightscape Mode’ ที่จะช่วยให้ได้ภาพที่มีคุณภาพไม่ว่าจะถ่ายภาพในช่วงเวลากลางวันหรือกลางคืน

อีกทั้งมาพร้อมเลนส์ Ultra wide-angle ความละเอียด 8MP ที่มีมุมมองกว้างถึง 119 องศา และพร้อมระยะโฟกัสวัตถุ 3 เซนติเมตร และเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12MP สามารถซูมแบบ optical ได้ถึง 5 เท่า และซูมแบบ Hybrid ได้ 20 เท่า

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเลนส์ Portrait รองรับระบบ ‘ ฟิลเตอร์สี’ ช่วยให้การถ่ายภาพของคุณนั้นง่ายและสนุกมากยิ่งขึ้น  อีกทั้งยังรองรับการถ่ายภาพวิดีโอที่มีคุณภาพระดับความคมชัดถึง 4K และระบบกันสั่น UIS และ UIS Max ช่วยให้การถ่ายวิดีโอคมชัดป้องการสั่นไหวของภาพ คุณภาพเทียบเท่ากับกล้องถ่ายภาพมืออาชีพ

นอกจากนี้ยังสามารถเปิดใช้งานเอฟเฟคต่างๆไม่ว่าจะเป็นการเบลอฉากหลัง, การถ่ายวีดีโอแบบ Ultra-wide-angle  หรือเอฟเฟคอื่นๆ ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการถ่ายวีดีโอมากยิ่งขึ้น

realme X50 Pro 5G วางจำหน่าย 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นความจุ 8GB + 128 GB ราคา €599, ความจุ 8GB + 256GB ราคา €669 และความจุ 12GB + 256GB ราคา €749

พร้อมวางจำหน่ายในเดือนเมษายนผ่านช่องทางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ realme ในยุโรป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/realmeTH/

คลิกช้อปสมาร์ทโฟน realme ได้ที่นี่ >>> http://bit.ly/2Uk8hju

 

from:http://mobileocta.com/realme-launches-realme-x50-pro-5g-under-the-concept-of-speed-of-the-future/

realme เปิดตัว realme X50 Pro 5G มาพร้อมกล้องหลัง AI 4 เลนส์ รองรับ 5G ทั้งแบบ 5G NSA และ 5G SA

realmeเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง 5G รุ่นแรก realme X50 Pro 5G พร้อมประกาศกลยุทธ์ใหม่ด้าน AloT realme X50 Pro 5G จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดผ่านช่องทางออนไลน์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Speed of the Future” เปิดประสบการณ์ความเร็วแห่งอนาคต เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 รองรับ 5G ทั้งแบบ 5G NSA และ 5G SA พร้อมกล้องหลัง AI 4 เลนส์ ความละเอียด 64MP จอแสดงผลแบบ AMOLED อัตรา Refresh rate ที่ 90 Hz และระบบชาร์จเร็ว 65W SuperDart ถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ทร’ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ซึ่งจากความสำเร็จที่ผ่านมา

ในปี 2563 realme มุ่งมั่นเดินหน้านำเสนอสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ AloT เพื่อการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ภายในงาน คุณ Emilio Álvarez ยังได้เผยแผนกลยุทธ์และทิศทางด้าน AloT ของ realme ในอนาคตอีกด้วย

realme X50 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 รองรับ 5G ทั้งแบบ 5G NSA และ 5G SA พร้อมกล้องหลัง AI 4 เลนส์ ความละเอียด 64MP จอแสดงผลแบบ AMOLED อัตรา Refresh rate ที่ 90 Hz และระบบชาร์จเร็ว 65W SuperDart ถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ทร’ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ซึ่งจากความสำเร็จที่ผ่านมา ในปี 2563 realme มุ่งมั่นเดินหน้านำเสนอสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ AloT เพื่อการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ภายในงาน คุณ Emilio Álvarez ยังได้เผยแผนกลยุทธ์และทิศทางด้าน AloT ของ realme ในอนาคตอีกด้วย

สมาร์ทโฟน 5G และอุปกรณ์ AIoT ตัวขับเคลื่อนสู่การเป็น ‘ผู้นำด้านเทคโนโลยีตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่’  

คุณ Emilio Álvarez กล่าวว่า realme เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ในซึ่งในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 realme มียอดการส่งออกสมาร์ทโฟนทั้งหมดมากกว่า  10 ล้านเครื่อง    ถูกจัดอันดับเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มียอดขายเป็นอันดับ 7 ของโลกและถือเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกอีกด้วย ในปี 2562 realme ได้เข้าสู่ 25 ตลาดทั่วโลก ด้วยยอดการขนส่งสมาร์ทโฟนทั้งหมดมากกว่า 25 ล้านเครื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2561 ได้มียอดขนส่งเพิ่มขึ้นถึง 500% ส่งผลให้ realme ได้ก้าวขึ้นสู่การเป็นสมาร์ทโฟน
หลักของโลก ในปีนี้ realme มุ่งมั่นที่จะเดินหน้าภายใต้แนวคิด “Popularizer of Tech Trendsetters’ Lifestyle” ผสมผสานสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ AloT โดยมุ่งเน้นตอบโจทย์การใช้งานของไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น

realme มุ่งมั่นที่จะเดินหน้าตามคอนเซ็ปต์ “Dare to Leap” พร้อมที่จะมอบผลิตภัณฑ์ 5G เพื่อคนรุ่นใหม่ ภายในปี 2563 realme ได้เดินหน้าเครือข่าย 5G ทั่วโลกเพื่อสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ 5G ที่ครบวงจร ครอบคลุมทุกกลุ่มราคาเพื่อตอบโจทย์และเปิดประสบการณ์ใหม่ของผู้ใช้งานทั่วโลก นอกจากนี้ realme ยังมีการร่วมมือที่ดีกับพันธมิตรไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ โรงงานผลิตเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและนักพัฒนาแอพลิเคชั่นเพื่อร่วมกันพัฒนา 5G ระดับโลกและผลักดันอีโคซิสเต็ม 5G

ในส่วนของอุปกรณ์ loT ทาง realme ให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป, ครอบครัว และผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว เพื่อสร้าง UNI Smart AloT ยกระดับชีวิตด้วยเทคโนโลยีสำหรับคนรุ่นใหม่  ในอนาคต realme จะเปิดตัวสมาร์ทแพลตฟอร์ม realme Link ที่มาในสมาร์ทโฟนเพื่อรองรับเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ AIoT อาทิ สมาร์ททีวี, สมาร์ทวอทช์,หูฟังบลูทูธ และลำโพงอัจฉริยะ โดย realme จะผสานระบบ AI เพื่อสร้างระบบอีโคซิสเต็ม AIoT ที่สมบูรณ์แบบ

สมาร์ทโฟนเรือธง 5G รุ่นแรก พร้อมเดินหน้าภายใต้คอนเซ็ป “Dare to Leap”

ในฐานะผู้นำที่เหนือกว่าในยุค 5G ล่าสุด realme ได้เปิดตัว realme X50 Pro 5G สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่รองรับ 5G ตัวเครื่องมาพร้อมวัสดุโลหะและโทนสีแบบ Low-saturation มาพร้อมกัน 2 สีที่กำลังเป็นที่นิยมอย่าง Moss Green และ Rust Red สำหรับหน้าจอและฝาหลังมาพร้อมกระจกกันรอย 3D Corning Gorilla Glass 5 และการป้องกันพื้นผิวกระจกแบบ AG ด้วยวัสดุที่มีคุณภาพจึงทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจในความทนทานและตัวเครื่องที่จับถือสะดวกกระชับมือ นอกจากนี้ realme X50 Pro 5G ยังมาพร้อมขุมพลังหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 รองรับ 5G พร้อมแรม LPDDRS5 และ UFS 3.0 ช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานเร็วแรงไหลลื่นมากยิ่งขึ้น

realme X50 Pro 5G มาพร้อมเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว 65W SuperDart ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานมากขึ้นและชาร์จได้เร็วยิ่งขึ้น โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4200mAh เต็มได้ภายใน 35 นาที realme X50 Pro 5G ยังมาพร้อมกับ realme UI บนพื้นฐาน Android 10 ภายใต้ดีไซน์แบบ “Real design” รูปแบบการทำงานที่เรียบง่ายสะดวกต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง   อีกทั้งรองรับฟีเจอร์อัจฉริยะอีกมากมาย อาทิ เทคโนโลยี NFC, ระบบมอเตอร์แบบ Tactile Engine Motor, ระบบ Dual-band GPS, ระบบเสียงแบบ Dolby Atmos และรองรับ Hi-Res เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานในทุกด้าน

 

นอกจากนี้ realme X50 Pro 5G ยังมาพร้อมหน้าจอแบบ Super AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว โดยมีอัตราส่วนหน้าจอ 20:9 อัตรา Refresh rate ที่ 90 Hz และ Sampling rate ที่ 180Hz ซึ่งเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนทั่วไปมีอัตรา Refresh rate เพิ่มขึ้นถึง 50% มอบความรวดเร็วลื่นไหลตอบสนองต่อการสัมผัสขณะเล่นเกมอย่างดี realme X50 Pro 5G ยังมาพร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่สามารถปลดล็อคด้วยความเร็วเพียง 0.27 วินาที เท่านั้น

ในส่วนของกล้อง realme X50 Pro 5G มาพร้อมกล้องหน้าคู่แบบ Ultra-wide-angle โดยเลนส์หลักมาพร้อมเซ็นเซอร์ Sony IMX616 ความละเอียด 32MP ค่ารูรับแสง f/2.5 และกล้องความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/2.2 พร้อม Ultra-wide-angle ที่ให้มุมมองกล้องกว้างถึง 105 องศา สำหรับกล้องหลัง realme X50 Pro 5G มาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ โดยเลนส์หลักมาพร้อมความละเอียด 64MP แบบ Ultra-wide-angle และการอัพเกรดโหมดการถ่ายภาพ  ‘Nightscape 3.0’ และ ‘Ultra Nightscape Mode’ ที่จะช่วยให้ได้ภาพที่มีคุณภาพไม่ว่าจะถ่ายภาพในช่วงเวลากลางวันหรือกลางคืน อีกทั้งมาพร้อมเลนส์ Ultra wide-angle ความละเอียด 8MP ที่มีมุมมองกว้างถึง 119 องศา และพร้อมระยะโฟกัสวัตถุ 3 เซนติเมตร และเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12MP สามารถซูมแบบ optical ได้ถึง 5 เท่า และซูมแบบ Hybrid ได้ 20 เท่า นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเลนส์ Portrait รองรับระบบ ‘ ฟิลเตอร์สี’ ช่วยให้การถ่ายภาพของคุณนั้นง่ายและสนุกมากยิ่งขึ้น  อีกทั้งยังรองรับการถ่ายภาพวิดีโอที่มีคุณภาพระดับความคมชัดถึง 4K และระบบกันสั่น UIS และ UIS Max ช่วยให้การถ่ายวิดีโอคมชัดป้องการสั่นไหวของภาพ คุณภาพเทียบเท่ากับกล้องถ่ายภาพมืออาชีพ นอกจากนี้ยังสามารถเปิดใช้งานเอฟเฟคต่างๆไม่ว่าจะเป็นการเบลอฉากหลัง, การถ่ายวีดีโอแบบ Ultra-wide-angle  หรือเอฟเฟคอื่นๆ ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการถ่ายวีดีโอมากยิ่งขึ้น

realme X50 Pro 5G วางจำหน่าย 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นความจุ 8GB + 128 GB ราคา €599, ความจุ 8GB + 256GB ราคา €669 และความจุ 12GB + 256GB ราคา €749 พร้อมวางจำหน่ายในเดือนเมษายนผ่านช่องทางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ realme ในยุโรป

ข่าว: realme เปิดตัว realme X50 Pro 5G มาพร้อมกล้องหลัง AI 4 เลนส์ รองรับ 5G ทั้งแบบ 5G NSA และ 5G SA มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2020/02/26/realme-x50-pro-5g-launch-event.html