คลังเก็บป้ายกำกับ: OPPO_RENO5_SERIES_5G

OPPO เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ Memory Expansion Technology เพื่อผู้ใช้ OPPO Reno5 Series 5G

OPPOประกาศเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ Memory Expansion Technology หรือ RAM Expansion ใน OPPO Reno5 Series 5G โดยจะปล่อยให้อัปเดตผ่านทางการอัปเดตซอฟต์แวร์ ซึ่งผู้ใช้ OPPO Reno5 Series 5G จะสามารถขยายหน่วยความจำเสมือนบนสมาร์ทโฟนได้สูงสุดถึง 7GB 

  • เทคโนโลยีใหม่ Memory Expansion Technology จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยน ROM ที่มีอยู่บนสมาร์ทโฟน เป็น virtual RAM หรือ หน่วยความจำเสมือน ด้วยระดับที่สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ
  • ผู้ใช้ OPPO Reno5 Series 5G สามารถเพลิดเพลินไปกับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นและการใช้งานที่ราบรื่นยิ่งขึ้นจากการขยาย RAM

โดยการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่อย่าง Memory Expansion Technology จะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานที่เน้นผู้ใช้เป็นหลัก เพื่อผู้ใช้ OPPO Reno5 Series 5G อีกทั้ง การเปิดตัวเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนของตน เพื่อปรับเปลี่ยนให้แหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้ใช้ได้ Memory Expansion Technology ของ OPPO เป็นฟังก์ชั่นเสริมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยน ROM ที่มีอยู่บนสมาร์ทโฟนเป็นหน่วยความจำเสมือนได้ ด้วยการเปิดใช้งานฟังก์ชั่น “Ram Expansion” โดยผู้ใช้สามารถปรับระดับการขยายได้มากถึง 3 ระดับ ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานแล้ว ปริมาณ ROM ที่ผู้ใช้เลือกไว้จะถูกแปลงเป็นหน่วยความจำเสมือนเมื่อผู้ใช้รีสตาร์ทสมาร์ทโฟน

โดย RAM Expansion จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินไปกับประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อเล่นเกมที่ต้องใช้ RAM จำนวนมาก หรือ แอปพลิเคชันมือถือในการตัดต่อรูปภาพและวิดีโอ รวมถึงได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่น เมื่อใช้งานแอปพลิเคชันมือถือหลายแอปฯ พร้อมๆ กัน

สามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์ตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้:

สามารถเลือกรายละเอียดการขยาย RAM เพื่อการใช้งานแอปพลิเคชันมือถือผ่านทางการอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ โดยเมื่อเปิดใช้งานแล้ว ผู้ใช้สามารถดูรายละเอียด RAM ได้ที่หน้าจอการใช้งานล่าสุด

การอัปเดตซอฟต์แวร์จะพร้อมเปิดใช้งาน Memory Expansion Technology สำหรับผู้ใช้ OPPO Reno5 Series 5G โดยผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้ตามช่วงเวลาที่กำหนด ดังนี้

 

รุ่นของสมาร์ทโฟน ช่วงเวลาที่พร้อมใช้งาน
OPPO Reno5 มิถุนายน 2564
OPPO Reno5 5G มิถุนายน 2564
OPPO Reno5 Pro 5G กรกฎาคม 2564

ข่าว: OPPO เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ Memory Expansion Technology เพื่อผู้ใช้ OPPO Reno5 Series 5G มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/oppo-launches-new-technology-memory-expansion-technology-for-oppo-reno5-series-5g-users/

OPPO Reno5 Series 5G สมาร์ทโฟน 5G ถ่ายวิดีโอสวย ชาร์จไวสุดๆ ปลอดภัยมั่นใจ ชาร์จเต็ม 100% ในเวลาแค่ 30 นาที!!!

OPPO Reno5 Series 5G สมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายวิดีโอได้สวย ฟังก์ชั่นแปลกตา คุณภาพสวยงามให้กล้องถ่ายภาพมาในระดับน่าประทับใจครับ และมากับฟังก์ชั่นการชาร์จพลังงานที่โดดเด่นที่สุดในตลาดด้วย มีระบบการชาร์จ 65W SuperVOOC 2.0 ระบบที่ชาร์จแบตได้ไวสุดๆ สามารถชาร์จได้เต็ม 100% ในเวลาแค่ 30 นาที!!! และยังมีความปลอดภัยสูงมาก

ใช้งานได้ทันใจและไว้ใจไดนี่คือสิ่งที่สมาร์ทโฟน 5G ในราคาไม่แรงของ OPPO มีให้ ใน OPPO Reno5 Series 5G

OPPO เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องของระบบการชาร์จมาช้านานครับ โดยเฉพาะระบบ “VOOC” ที่สร้างชื่อและพัฒนามาต่อเนื่อง จนเป็นระบบชาร์จที่มีความไวสูง และความปลอดภัยสูง เป็นหนึ่งจุดเด่นในการใช้งานของสมาร์ทโฟน OPPO ในหลายๆ รุ่น โดยเฉพาะรุ่นระดับเรือธงราคาสูง

แต่ใน OPPO Reno5 5G และ OPPO Reno5 Pro 5G ได้มีการนำเทคโนโลยีการชาร์จนี้มาใส่ให้ใช้กันด้วย ทำให้เราสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนสองรุ่นนี้ได้คล่องตัวมากแม้แต่ในจังหวะที่เราอาจจะลืมชาร์จแบตหรือพลังงานใกล้หมดครับ

แบตเตอรี่ของ OPPO Reno5 5G และ OPPO Reno5 Pro 5G มีขนาดรวมที่ 4,300 mAh แต่จริงๆ แล้วภายในของเครื่อง ทาง OPPO ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่เรียกว่า “ระบบ Dual-Cell Battery” หรือแบตเตอรี่ภายในแบบสองเซล

OPPO Reno5 5G และ OPPO Reno5 Pro 5G มีการใช้เซลล์พลังงานที่ใส่ไว้สองชุด เทคนิคนี้ถูกออกแบบเพื่อเพิ่มภาครับกระแสไฟเข้าได้เป็นสองเท่า มันจะช่วยลดภาระการผ่านของกระแสไฟแรงดันสูงที่จะเกิดความร้อน เพิ่มท่อรับท่อส่ง

ส่งผลให้เทคโนโลยี 65W SuperVOOC 2.0 สามารถชาร์จแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟน 4,300 mAh ได้เต็ม 100% ในเวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้นเองครับ และทำได้โดยไม่เกิดความร้อนสะสม ไม่เกิดอันตราย และส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่จะไม่เสื่อมสภาพก่อนอายุการใช้งาน เป็นปัญหาสำคัญที่พบได้จากเทคโนโลยีการชาร์จแบบอัดไฟกระแสแรงๆ เพื่อเพิ่มความไวในการชาร์จไฟเพียงอย่างเดียว แบตร้อน อายุแบตเตอรี่สั้น ส่งผลให้เครื่องร้อนและมีโอกาสเกิดความไม่ปลอดภัยในการใช้งานได้ครับ

นอกจากความไวในการชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็มภายใน 30 นาทีแล้ว ต้องบอกว่าในช่วงต้นของชาร์จมันยิ่งกว่าโคตรเร็วซะอีก!

เรื่องระบบไฟเป็นเรื่องสำคัญและอันตรายมากๆ ของอุปกรณ์สมาร์ทโฟนครับ อาจจะเรียกได้ว่าสำคัญมากเป็นอันดับต้นเลยแต่หลายคนกลับลืมและไม่คาดคิดถึงมัน

ข่าวความเสียหายที่เกิดขึ้นกับระบบไฟฟ้าและความร้อน ไม่ได้ส่งผลเสียแค่ต่อตัวอุปกรณ์เท่านั้น เพราะบางครั้งมันหมายถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเราด้วย! สำคัญและควรระวังไว้ให้มาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเองแบบที่หลายคนชอบเสียบชาร์จไฟทิ้งไว้ หรือใช้งานไปชาร์จไปด้วย รวมถึงการปล่อยให้ลูกหลานของเรานอนเล่นสมาร์ทโฟนในขณะที่เสียบไฟทิ้งไว้ ถ้าระบบชาร์จของมือถือไม่ได้มาตรฐานที่ดีมากพอ อันตรายครับ!

ฉะนั้นเรื่องของมาตรฐานในการชาร์จไฟจึงเป็นสิ่งที่ผมพูดถึงเสมอในการรีวิวทุกๆ อุปกรณ์

นอกจากความปลอดภัยที่ดีแล้ว ความไวในการชาร์จก็จะต้องยอดเยี่ยมด้วย เพราะระยะเวลาการเติมพลังงานมันทำให้เราเสียเวลาชีวิตครับ โดยเฉพาะในจังหวะเร่งรีบหรือเราพลาดไป ไม่ได้ตรวจสอบการชาร์จแบตไว้เมื่อคืน

ฉะนั้นงานด่วน จังหวะเร่ง ช่วงตัดสินชีวิต ชี้เป็นชี้ตาย ^^ ไม่มีคำว่าพลาดครับ ชาร์จแป๊บเดียวใช้งานต่อได้เป็นชั่วโมงๆ

OPPO Reno5 Series 5G เขาออกแบบเพื่อตอบโจทย์และลดการเกิดปัญหาเฉพาะหน้าที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิตครับ เพราะนอกจากระบบชาร์จไวแล้ว มีการเน้นความปลอดภัยด้วยการตรวจสอบผ่านเซนเซอร์ 5 ขั้นตอน ทั้งการตรวจสอบกระแสไฟผิดปกติและการรักษาอุณหภูมิ ดูแลกันตั้งแต่หัวปลั๊กเสียบ ไปจนขั้วต่อและสายไฟ มีการออกแบบพิเศษด้วยมาตรฐานที่สูงและพร้อมรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในการใช้งานของแต่ละวันด้วยครับ

เขายังมีการใส่ฟีเจอร์อื่นด้านพลังงานเข้ามาอีกมากครับ เช่นระบบการจัดสรรพลังงานให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานระหว่างวันได้มากขึ้น ระบบถนอมแบตเตอรี่ขั้นวิกฤต ลดการใช้งานให้เหลือเพียงแอพพลิเคชั่นสำคัญที่เราเลือกไว้ ยืดอายุแบตที่เหลือให้ใช้งานได้มากขึ้นเป็นสองเท่า มันคือ Super Power Saving Mode แต่ผมเรียกมันว่า “โหมดกันตาย”


มีระบบการชาร์จที่ออกแบบมาเพื่อยืดอายุตัวแบตเตอรี่ให้ใช้ได้ยาวนาน ไม่ใช่แค่อยู่ได้ถึงแค่หมดอายุประกันแล้วก็ตายจากไป โดยตัวเครื่องจะชาร์จแบตทั้งไว้ก่อน 80% แล้วค่อยมาชาร์จให้ไฟเต็มก่อนคุณจะตื่นนอน โดยตัว AI มันรู้ครับว่าปกติเราจะตื่นนอนตอนประมาณกี่โมง ลักษณะการเก็บประจุไฟแบบนี้ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของตัวแบตเตอรี่ในระยะยาวได้นั้นเองครับ


OPPO Reno5 Series 5G ยังเป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะกับติดตัวไว้เพื่อสร้างคอนเทนต์อีกด้วยนะครับ เพราะมันมีกล้องและฟีเจอร์การถ่ายภาพที่มีคุณภาพสูงเลยแหละ ทั้งสามรุ่นในซีรี่ส์เลย กล้องหลัง 4 ตัวความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล และกล้องมุมกว้างความละเอียด 8 ล้านพิกเซล กล้องที่สามแบบมาโคร 2 ล้านพิกเซล และสุดท้ายเลนส์ Mono 2 ล้านพิกเซล

OPPO Reno5 เจ้าตัวนี้ครีเอทวิดีโอเก่ง ฟังก์ชั่นเด็ดๆ เยอะครับในราคาเบา 10,990 บาท สายสร้างสรรค์สายอาร์ท เพราะสามารถเล่นกับภาพแปลกๆ ตาเช่น AI Mixed Portrait ซึ่งเป็นรุ่นแรกของโลกที่สามารถนำเทคนิคภาพวีดีโอสองภาพซ้อนกัน Double exposure effect มาใช้จากตัวกล้องของมันเอง

หรือเล่นกับสีแบบ AI Color Portrait ตัดสีฉากหลังให้เป็นขาวดำ เป็นการตัดสีแบบเรียลไทม์ในทั้งภาพนิ่งและถ่ายภาพวีดีโอเคลื่อนไหว

ลองดูการใช้งานจริงของฟังก์ชั่นวีดีโอเด็ดๆ ในคลิปวีดีโอด้านล่างนีัได้เลยครับ

อ่านรีวิว OPPO Reno5 <<<

ถ้าใครอยากสัมผัสประสบการณ์ 5G ในราคาที่เขยิบขึ้นไปหน่อย ก็แนะนำ OPPO Reno5 5G เป็นสมาร์ทโฟน 5G ราคาเบามาพร้อมฟังฟ์ชั่นครบเช่นเดิม ในราคา 13,990 บาท

สเปคแรง Snapdragon 765G RAM 8GB และ ROM 128GB ระบบปฏิบัติการ Android 11 มากับระบบ Color OS 11.1 ซึ่งเป็น UI เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของ OPPO รองรับ 5G ทั้งแบบ SA และ NSA

หรือรุ่นพรีเมี่ยมสุดของซีรี่ส์ OPPO Reno5 Pro 5G แรงจากชิปเซ็ตเรือธงของ MediaTek ในยุค 5G Dimensity 1000+ เปิดจำหน่ายในราคา 19,990 บาท

ตัวเครื่องของซีรี่ส์นี้สวยงามครับ เครื่องบาง เบา ขอบจอเล็ก เช่นรุ่น OPPO Reno5 มีความบางแค่ 7.8 มม. แล้เบาเพียง 171กรัม มีเข้ามาจำหน่ายรุ่นละสองสี โดยจะชื่อของสีดำร่วมกันว่า Starry Black

แต่ในอีกสีจะใช้ชื่อต่างกัน นั้นคือ Fantasy Silver ในรุ่น 4G และ Galactic Silver สำหรับรุ่น 5G แม้จริงๆ แล้วจะเป็นสีที่เหมือนกันมากแทบจะเป็นสีเดียวกัน แต่ในเนื้อผิวและขั้นตอนการผลิต ตัว Galactic Silver ของรุ่น 5G จะมีพื้นผิวที่มีความวิบวับมากกว่า Fantasy Silver เล็กน้อยครับ

สีเดียว Fantasy Silver และ Galactic Silver เป็นสีที่สวย มันสามารถสะท้อนแสงเงารอบตัวได้เป็นพันเฉดสี เปลี่ยนไปตามแต่มุมแสงที่มากระทบ ^^ สวยงามมากครับ

OPPO Reno5 Pro 5G ก็เป็นซีรี่ส์เด่นของ OPPO ที่มีความสวยงาม สเปคแรง รองรับ 5G มีระบบชาร์จที่ทั้งไวและปลอดภัยสูง วางใจได้ไม่ว่าจะใช้งานเองหรือให้ลูกหลานใช้ครับ กล้องถ่ายภาพคุณภาพระดับสูงเลยทั้งงานภาพนิ่งและงานวีดีโอ

ออกแบบมาได้ครบเครื่องครับ แนะนำสำหรับแฟนๆ OPPO และใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟน 5G มาใช้งานในช่วงนี้ครับ

ข่าว: OPPO Reno5 Series 5G สมาร์ทโฟน 5G ถ่ายวิดีโอสวย ชาร์จไวสุดๆ ปลอดภัยมั่นใจ ชาร์จเต็ม 100% ในเวลาแค่ 30 นาที!!! มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/oppo-reno5-series-5g-best-smartphone-video-65w-supervooc-2-0/

OPPO Reno5 และ Reno5 5G มือถือจอ AMOLED 90Hz, กล้องหลัง 64MP พร้อมชาร์จไว 65W เคาะราคาเริ่มต้น 10,990 บาท

ใครที่กำลังเล็งมือถือ 5G ที่มากับสเปคครบครันและราคางามๆ อยู่ก็เตรียมเสียเงินเสียทองกันได้เลย เพราะตอนนี้ OPPO Reno5 และ Reno5 5G ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว มากับจุดเด่นหน้าจอ AMOLED รีเฟรชเรท 90Hz, กล้องหลัง 4 ตัว 64MP, ระบบชาร์จไวสูงสุด 65W ส่วนราคาก็เปิดมาได้น่าสนใจสุดๆ โดยรุ่นธรรมดาอยู่ที่ 10,990 บาท และรุ่น 5G อยู่ที่ 13,990 บาท เท่านั้น

หน้าจอ AMOLED รีเฟรชเรต 90Hz

OPPO Reno5 และ Reno5 5G ใช้หน้าจอแบบ AMOLED ความละเอียด Full HD+ ขนาด 6.4 นิ้ว พร้อมรีเฟรชเรท 90Hz ด้วยกันทั้งคู่ ทำให้ภาพเคลื่อนไหวบนหน้ามีความสมูทลื่นไหลสบายตากว่า

สเปคไหลลื่น รองรับ 5G

Reno5 5G รองรับการใช้งานเครือข่ายความเร็วสูง 5G (ตามชื่อ) ด้วยชิป Snapdragon 765G + RAM (LPDDR4x) 8GB และความจุขนาด 256GB ส่วน Reno5 ถึงจะไม่รองรับ 5G แต่ก็มากับชิปที่มีประสิทธิภาพไม่แพ้กันคือ Snapdragon 720 พร้อม RAM (LPDDR4x) 12GB และความจุขนาด 256GB เช่นกัน

กล้องหลัง 4 ตัว 64MP

กล้องหลังของ OPPO Reno5 และ Reno5 5G ใช้เซ็นเซอร์กล้องชุดเดียวกันประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 64MP, ระบบกันสั่น EIS + กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 8MP + กล้องมาโครความละเอียด 2MP + กล้องจับความลึก 2MP ส่วนกล้องเซลฟี่ของ Reno5 5G มีความละเอียดสูงถึง 32MP และ Reno 5 กล้องเซลฟี่ความละเอียด 44MP อยู่บนหน้าจอที่เจาะรูเอาไว้ตรงมุมซ้ายบน

แบตอึดพร้อมระบบชาร์จไว 65W

แบตเตอรี่ของ OPPO Reno5 และ Reno5 5G ใส่มาที่ 4300 mAh โดยรุ่น 5G รองรับระบบชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 ส่วนรุ่นปกติก็ไวไม่แพ้กันด้วยระบบ 50W Flash Charge

สเปค OPPO RENO5 

  • หน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ ขนาด 6.4 นิ้ว รีเฟรชเรท 90Hz
  • CPU : Snapdragon 720G
  • GPU : Adreno 618
  • RAM : (LPDDR4x) 8GB
  • ความจุ : 128GB รองรับ microSD card
  • กล้องหลัง 4 ตัว
    – กล้องหลัก 64MP (f/1.7)
    – กล้อง Ultrawide 8MP (f/2.2)
    – กล้อง Macro 2MP (f/2.4)
    – กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 44MP
  • เซ็นเซอร์ : Fingerprint (ใต้จอ), Accelerometer, Geomagnetic, Proximity, Gravity, Gyroscope, Pedometer
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 dual-band, BT 5.1, USB-C
  • มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 4300 mAh รองรับชาร์จไว 50W Flash Charge
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย ColorOS 11.1
  • ขนาด / น้ำหนัก : 159.1 x 73.3 x 7.7 มม. / 171 กรัม

สเปค OPPO RENO5 5G

  • หน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ ขนาด 6.4 นิ้ว รีเฟรชเรท 90Hz
  • CPU : Snapdragon 765G
  • GPU : Adreno 620
  • RAM : (LPDDR4x) 8GB
  • ความจุ : 128GB ไม่รองรับ microSD card
  • กล้องหลัง 4 ตัว
    – กล้องหลัก 64MP (f/1.7)
    – กล้อง Ultrawide 8MP (f/2.2)
    – กล้อง Macro 2MP (f/2.4)
    – กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 32MP (f/2.4)
  • เซ็นเซอร์ : Fingerprint (ใต้จอ), Accelerometer, Geomagnetic, Proximity, Gravity, Gyroscope, Pedometer
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 dual-band, BT 5.1, NFC, USB-C
  • 5G : SA / NSA n1/3/7/28/41/77/78/38/40/41/1/3/5/7/8/20/28
  • มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 4300 mAh รองรับชาร์จไว SuperVOOC 2.0 65W
  • ระบบ Android 11 ครอบด้วย ColorOS 11.1
  • ขนาด / น้ำหนัก : 159.1 x 73.4 x 7.9 มม. / 172 กรัม

ราคาและวันวางจำหน่าย

  • Reno5 (8GB / 128GB) : ราคา 10,990 บาท
  • Reno5 5G (8GB / 128GB) : ราคา 13,990 บาท

OPPO Reno5 และ Reno5 5G จะเริ่มเปิด Pre-order ระหว่างวันที่ 26 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ 2564 พร้อมรับของสมนาคุณมูลค่าสูงสุด 8,398 บาท ติดไม้ติดมือไปด้วย

from:https://droidsans.com/oppo-reno5-sereis-5g-thailand-official/

Unbox : พรีวิวแกะกล่อง OPPO Reno5 Series 5G ที่สุดของวิดีโอ Portrait และดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใคร

หลังจากเปิดตัวที่ประเทศจีนไปเมื่อช่วงปลายปี 2020 ที่ผ่านมาสำหรับ OPPO Reno5 Series 5G ล่าสุดเตรียมเปิดตัวในบ้านเราอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 มกราคมนี้กับ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G สองสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ตระกูล Reno Series ที่มาพร้อมสโลแกน Picture Life Together กับฟีเจอร์ที่มาต่อยอดการถ่ายภาพและวิดีโอพอร์ตเทรตที่สวยไม่เหมือนใคร รวมถึงมีดีไซน์โดดเด่นอีกด้วย 

OPPO Reno5 Series 5G

โดยทาง MobileOcta ก็ได้เครื่องมาพรีวิวแกะกล่องให้คุณผู้อ่านได้ชมกันก่อนที่จะมีการเปิดตัว เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปชมกันเลยครับว่า OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G จะสวยแค่ไหน และมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

สเปกเบื้องต้น OPPO Reno5

ขนาด 159.1 x 73,3 x 7.7 มม. (Starry Black)
159.1 x 73,3 x 7.8 มม. (Fantasy Silver)
น้ำหนัก 171 กรัม
หน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล (410 ppi) ขนาด 6.43 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 91.7%  โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 90Hz และอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงสุด 180Hz และความสว่าง 430 nits
หน่วยประมวลผล ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.4GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM7250 Snapdragon 765G (7 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 620
RAM 8GB แบบ LPDDR 4x
หน่วยความจำภายในเครื่อง 128GB แบบ UFS 2.1
microSD Card สูงสุด 256GB
ระบบปฏิบัติการ OxygenOS 11 based on Android 11.1
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
Bluetooth 5.1, A2DP, LE
GPS with A-GPS, GLONASS, GALILEO, QZSS, BDS
ช่องหูฟัง 3.5 มม.
พอร์ต USB Type-C, USB On-The-Go
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera พร้อมไฟแฟลช LED
– กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 และระบบ PDAF
– กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา
– กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
– กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

กล้องหน้าความละเอียด 44 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

รองรับระบบ Dual Slot  แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม
SIM card 1
2G: GSM 850/900/1800/1900MHz
3G: WCDMA bands 1/5/84G: TD-LTE bands 38/40/41 (194MHz)
4G: LTE FDD bands 1/3/5/7/8/20/28
SIM card 2
2G: GSM 850/900/1800/1900MHz
3G: WCDMA bands 1/5/84G: TD-LTE bands 38/40/41 (194MHz)
4G: LTE FDD bands 1/3/5/7/8/20/28
แบตเตอรี่ 4,310mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 50W Flash Charging
สี Fantasy Silver และ Starry Black
ราคา XX,XXX บาท

สเปกเบื้องต้น OPPO Reno5 5G

ขนาด 159.1 x 73.4 x 7.9 มม.
น้ำหนัก 172 กรัม (Starry Black) และ 180 กรัม (Galactic Silver)
หน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล (410 ppi) ขนาด 6.43 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 91.7% โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 90Hz และอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัสสูงสุด 180Hz และความสว่าง 430 nits
หน่วยประมวลผล ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.4GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM7250 Snapdragon 765G (7 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 620
RAM 8GB LPDDR 4x
หน่วยความจำภายในเครื่อง 128GB แแบบ UFS 2.1
microSD Card
ระบบปฏิบัติการ OxygenOS 11 based on Android 11.1
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
GPS dual-band A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS
ช่องหูฟัง 3.5 มม.
พอร์ต USB Type-C
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera พร้อมไฟแฟลช LED
– กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 และระบบกันสั่น EIS
– กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
– กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
– กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

รองรับระบบ Dual Slot  แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม
SIM Card 1
2G:GSM: 850/900/1800/1900MHz
3G:WCDMA: Bands 1/2/4/5/6/8/19
4G:FDD-LTE: Bands 1/2/3/4/5/7/8/12/17/18/19/20/26/28/66
4G:TD-LTE: Bands 38/39/40/41
5G SA: n1/3/7/28/41/78
5G NSA: n77/78/38/40/41/1/3/5/7/8/20/28 BlockA&BlockB

SIM Card 2
2G:GSM: 850/900/1800/1900MHz
3G:WCDMA: Bands 1/2/4/5/6/8/19
4G:FDD-LTE: Bands 1/2/3/4/5/7/8/12/17/18/19/20/26/28/66
4G:TD-LTE: Bands 38/39/40/41
แบตเตอรี่ 4,300mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0
สี Galactic Silver และ Starry Black
ราคา XX,XXX บาท

บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง

กล่องบรรจุภัณฑ์ของ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G มาในดีไซน์โฉมใหม่ โดยมาในโทนสีฟ้าอมเขียวตัดกับสีดำ ด้านหน้ากล่องมีเลข 5 ขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน ส่วนด้านล่างระบุชื่อรุ่น OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G บอกให้รู้ว่าเป็นรุ่นไหน

ด้านหลังกล่องเรื่มจากตรงกลางด้านบนมีข้อความที่ยืนยันว่า OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G สามารถเข้าใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ จาก Google ได้อย่างสะดวกง่ายดาย ถัดลงมาติดฉลากแสดงข้อมูลเครือข่าย หมายเลขอีมี่ และข้อมูลเกี่ยวกับผู้ผลิต รวมไปถึงสัญลักษณ์จากหลายหน่วยงาน ที่ให้การรับรองมาตรฐานต่างๆ

ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้

  • ตัวเครื่อง OPPO Reno5 หรือ OPPO Reno5 5G พร้อมติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย
  • อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
  • อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0
  • สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
  • ชุดหูฟัง 3.5 มม.
  • เคสพลาสติกใส
  • คู่มือการใช้งานฉบับย่อ, เอกสารความปลอดภัย และบัตรรับประกัน

อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 ที่มีมาให้ในกล่องทั้ง OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G

รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ

เริ่มจาก OPPO Reno5 มาในดีไซน์บางเบาสวยหรู โดยมีน้ำหนักเพียง 171 กรัม และมีความหนาเพียง 7.7 มม. สำหรับสี Starry Black ส่วนสี Fantasy Silver มีความหนา 7.8 มม. นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ COF ยังทำให้ขอบใต้หน้าจอมีขนาดลดลงเหลือ 3.98 มม. จากเดิม 5.53 มม. ใน OPPO Reno4 ซึ่งมอบประสบการณ์การแสดงผลแบบ edge-to-edge display ที่สมจริงยิ่งขึ้น

โดยมีให้เลือก 2 สีคือ Fantasy Silver ที่มาในพื้นผิวสีเงินสุดแฟนตาซีที่ชวนให้หลงใหล ด้วยเทคโนโลยี Diamond Spectrum Process ใหม่ล่าสุด ทำให้เกิดเป็นเฉดสีใหม่นับพันสีบนฝาหลังของเครื่อง หากมองจากมุมหรือในสภาพแสงที่ต่างกัน จะสามารถแบ่งสีได้อย่างชัดเจนทั้งหมด 5 สีได้แก่ สีเขียว สี เหลือง สีฟ้า สีม่วง และสีส้ม

นอกจากนี้ด้วยเอฟเฟกต์ Reno Glow อันเป็นเอกลักษณ์ของ OPPO ก็ยิ่งทำให้สี Fantasy Silver ใน OPPO Reno5 เปล่งประกายระยิบระยับพร้อมรายละเอียดสีที่แวววาวบนฝาหลัง ดั่งมีเพชรนับล้านถูก ฝังอยู่ในนั้น และยิ่งไปกว่านั้นการเคลือบผิวด้านบนฝาหลัง ช่วยป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือ ทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้น้อยลงอีกด้วย

กับสี Starry Black (สีที่ได้มารีวืว) ซึ่งเป็นสีที่ให้ความรู้สึกราวกับการเห็นเงาสะท้อนของดวงดาวที่ตกกระทบในทะเลสาบ สีของตัวเครื่องจะไม่ดำสนิท แต่จะเผยให้เห็นแสงแวววับจางๆ ที่ส่องประกายผ่านค่ำคืนที่มืดสนิท

ด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.43 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และด้วยดีไซน์หน้าจอแบบ Punch-hole Display จึงทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องถึง 91.7% ไม่ว่าจะรับชมคอนเทนต์ หรือเล่มเกม ก็มองได้กว้าง คมชัดเต็มตา

พลิกมาด้านหลังเครื่อง มุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้อง 4 ตัว AI Quad Camera โดยด้านซ้ายมีเลนส์กล้องขนาดใหญ่ 3 เลนส์วางเรียงในแนวตั้ง ส่วนด้านขวามีเลนส์ขนาดเล็ก พร้อมข้อความ 64MP AI QUAD-CAM และไฟแฟลช LED อยู่ในโมดูลสี่เหลี่ยมผืนผ้า และมุมซ้ายด้านล่างมีโลโก้ OPPO

โดยกล้อง 4 ตัวประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 และระบบ PDAF
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ถ่ายระยะใกล้สุด 4 ซม.
  • กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ส่วน OPPO Reno5 5G เป็นสมาร์ตโฟน 5G ดีไซน์สวยหรูที่บางเบาพิเศษเพียง 7.9 มม. โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 172 กรัมในสี Starry Black และ 180 กรัมในสี Galactic Silver นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ COF ยังทำให้ขอบใต้หน้าจอมีขนาดลดลงเหลือ 3.98 มม. มอบประสบการณ์การแสดงผลแบบ edge-to-edge display ที่สมจริงยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับฝาหลังโค้งแบบ 3 มิติและขอบหน้าจอ 2.5D ตลอดจนการออกแบบที่ประณีต ทำให้ OPPO Reno5 5G ถือจับใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย

โดยมีให้เลือก 2 สีคือ Galactic Silver (สีที่ได้มารีวิว) พื้นผิวสีเงินสุดแฟนตาซีที่ชวนให้หลงใหล ด้วยเทคโนโลยี Diamond Spectrum Process ใหม่ล่าสุด ทำให้เกิดเป็นเฉดสีใหม่นับพันสีบนฝาหลังของตัวเครื่อง และหากมองจากมุมหรือในสภาพแสงที่ต่างกัน จะสามารถเห็นสีได้อย่างชัดเจนทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีเขียว สีเหลือง สีฟ้า สีม่วง และสีส้ม

นอกจากนี้ด้วยเอฟเฟกต์ Reno Glow ทำให้สี Galactic Silver ใน OPPO Reno5 5G เปล่งประกายระยิบระยับพร้อมรายละเอียดสีที่แวววาวบนฝาหลัง ดั่งมีเพชรนับล้านถูกฝังอยู่ในนั้น และการเคลือบผิวด้านบนฝาหลัง ยังช่วยป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือ ทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้น้อยลงด้วย

กับสี Starry Black ซึ่งเป็นสีที่ให้ความรู้สึกราวกับการเห็นเงาสะท้อนของดวงดาวที่ตกกระทบในทะเลสาบ สีของตัวเครื่องจะไม่ดำสนิท แต่จะเผยให้เห็นแสงแวววับจางๆ ที่ส่องประกายผ่านค่ำคืนที่มืดสนิท แสดงถึงความมีรสนิยมและความอ่อนโยนได้เป็นอย่างดี

ด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.43 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และด้วยดีไซน์หน้าจอแบบ Punch-hole Display จึงทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องถึง 91.7% ไม่ว่าจะรับชมคอนเทนต์ หรือเล่มเกม ก็มองได้กว้าง คมชัดเต็มตา

พลิกมาด้านหลังเครื่อง มุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้อง 4 ตัว AI Quad Camera โดยด้านซ้ายมีเลนส์กล้องขนาดใหญ่ 3 เลนส์วางเรียงในแนวตั้ง ส่วนด้านขวามีเลนส์ขนาดเล็ก พร้อมข้อความ 64MP AI QUAD-CAM และไฟแฟลช LED อยู่ในโมดูลสี่เหลี่ยมผืนผ้า และมุมซ้ายด้านล่างมีโลโก้ OPPO

โดยกล้อง 4 ตัวประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 และระบบ PDAF
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ถ่ายระยะใกล้สุด 4 ซม.
  • กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ส่วนด้านข้างเครื่องของ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G จะมีปุ่มกดที่วางอยู่ตำแหน่งเหมือนกัน เริ่มจากด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องใส่ SIM Card กับปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง

โดยช่องใส่ SIM Card ของ OPPO Reno5 จะเป็นแบบ Triple Slot Tray แบ่งเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก 1 ช่องแบบ microSD Card รองรับสูงสุด 256GB

ขณะที่ช่องใส่ SIM Card ของ OPPO Reno5 5G จะเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง ไม่มีช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก

ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง

ด้านบนมีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียง

ด้านท้ายเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง

ไฮไลท์ฟีเจอร์เด่นบน OPPO Reno5 Series 5G

OPPO Reno 5 และ OPPO Reno5 5G มาพร้อมโหมดการถ่ายวิดีโอ Portrait ใหม่ที่น่าสนใจ เพื่อสร้างวิดีโอ Portrait ที่สวยเด่นไม่เหมือนใครได้ง่ายๆ อาทิ

AI Mixed Portrait มีใน OPPO Reno5 โดยเป็นการนำเอา Double Exposure Effect มาใช้ในการถ่ายวิดีโอ โดยฟีเจอร์นี้สามารถนำวิดีโอ Portrait มาซ้อนทับวิดีโออื่นด้วยเทคโนโลยี AI ขั้นสูง เพื่อให้ได้เอฟเฟกต์วิดีโอที่เหนือกว่า พร้อมให้ความรู้สึกสุนทรียะที่สวยงาม โดยฟีเจอร์นี้สามารถแสดงตัวอย่างวิดีโอได้แบบเรียลไทม์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอได้เหมือนที่ตาเห็น

Dual-view Video มีทั้งใน OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G โหมดนี้สามารถถ่ายวิดีโอจากกล้องหน้าและกล้องหลังได้พร้อมกันและรองรับรูปแบบการแบ่งหน้าจอที่แตกต่างกันได้ถึงสามแบบคือ Split, Round และ Rectangle 

AI Highlight Video มีทั้งใน OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G เป็นฟีเจอร์ที่สามารถเพิ่มคุณภาพของวิดีโอให้คมชัด สว่าง และเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ว่าจะถ่ายวิดีโอในที่ที่มีแสงน้อยหรือย้อนแสง AI Highlight Video จะใช้อัลกอริทึม Ultra Night Video ช่วยปรับความสว่าง ความอิ่มสี และความคมชัด ทำให้วิดีโอคมชัดเมื่อบันทึกจากในที่แสงน้อย โดยรองรับทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง

OPPO Reno 5 และ OPPO Reno5 5G มาพร้อมจอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz พร้อมอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส (Touch Sampling Rate) สูงสุด 180Hz ทำให้เล่นเกมหรือดูคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล และสามารถตั้งค่าที่รีเฟรชเรท 60Hz เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ได้

OPPO Reno5 5G รองรับ 5G ที่เร็วแรงและลื่นไหล พร้อมใช้งาน 5G ในประเทศไทยได้ทันทีตั้งแต่แกะกล่อง โดยรองรับคลื่นความถี่ n1/n3/n5/n7/n8/n20/n28/n38/n41/n77/n78

OPPO Reno 5 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,310mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 50W Flash Charging ที่ชาร์จเพียง 5 นาที ก็ดูวิดีโอต่อเนื่องได้ถึง 3 ชั่วโมง และชาร์จ 0-100% ภายในเวลาเพียง 48 นาที

ส่วน OPPO Reno5 5G มาพร้อมแบคเตอรี่ความจุ 4,300mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 ที่ชาร์จเพียง 15 นาที ก็ได้แบตถึง 60% และชาร์จเต็ม 100% ในเวลาเพียงแค่ 35 นาที

โปรโมชั่นของแถมพรีออเดอร์

สำหรับผู้ที่สั่งจอง OPPO Reno5 ล่วงหน้าจะได้รับของแถมได้แก่ เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ Smart Scale และ E-VIP Card

ส่วนผู้ที่สั่งจอง OPPO Reno5 5G ล่วงหน้าจะได้รับของแถมได้แก่ เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ Smart Scale, Bluetooth Speaker และ E-VIP Card

ทั้งนี้ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G จะเปิดตัวทางการในประเทศไทยในวันที่ 26 มกราคม 2564 เริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ผ่านช่องทางออนไลน์ดังนี้

from:https://www.mobileocta.com/unboxing-preview-oppo-reno5-series-5g/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=unboxing-preview-oppo-reno5-series-5g

เตรียมพบการถ่ายวิดีโอที่เหนือกว่าใน OPPO Reno5 Series 5G 26 มกราคมนี้!

เข้าสู่ยุคของการถ่ายวีดีโอด้วยสมาร์ทโฟนแบบเต็มขั้น ทำให้เทรนด์การถ่ายวิดีโอเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมเตรียมพบประสบการณ์วิดีโอที่เหนือกว่าด้วย OPPO FDF Portrait Video System ใน OPPO Reno5 Series 5G พบกัน 26 มกราคมนี้ และจากการเข้ามาของยุค 5G โดยเทรนด์นี้ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ยุค 4G  แต่ด้วยความเร็วแรงที่เพิ่มมากขึ้นในยุค 5G ทำให้เทรนด์นี้ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง เพราะทำให้การเข้าชม ดาวน์โหลด และอัปโหลดวิดีโอเป็นเรื่องง่าย รวมถึงสื่อต่างๆ ที่มีความหลากหลาย เริ่มสร้างรูปแบบการสื่อสารและถ่ายทอดผ่านวิดีโอมากขึ้น ทำให้ยุค 5G ถูกขนานนามว่าเป็นยุคของวิดีโอเลยทีเดียว ดังนั้น ประสบการณ์ด้านการถ่ายวิดีโอในสมาร์ทโฟน จึงได้กลายมาเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนในปัจจุบันและอนาคตอีกด้วย

Portrait Perception Engine สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์กับความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด

แน่นอนว่าการสร้างวิดีโอคุณภาพสูงนั้นเป็นมากกว่าแค่วิดีโอที่คมชัดเพียงอย่างเดียว เพราะต้องให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอได้อย่างโดดเด่นด้วยสไตล์และบุคลิกที่แตกต่างกัน ดังนั้น ในการตอบโจทย์เรื่องนี้ OPPO ได้เตรียมฟีเจอร์ที่พร้อมเผยความเป็นตัวตนของทุกคนออกมา ได้แก่ AI Mixed Portrait, AI Color Portrait และ Monochrome Video ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเรื่องราวที่มีความหมายได้อย่างง่ายดาย 

นอกจากนี้ อัลกอริทึม Portrait Perception Engine ยังคงสามารถระบุคุณสมบัติเฉพาะและจดจำใบหน้าของแต่ละบุคคลได้อย่างแม่นยำ และยังสามารถตรวจจับและติดตามการเคลื่อนไหวของมนุษย์ในวิดีโอได้อีกด้วย ทำให้สามารถแบ่งแยกตัวบุคคล ออกจากภาพพื้นหลังของวิดีโอที่มีความซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ ด้วยเทคนิคนี้ ทำให้เอฟเฟกต์อย่าง AI Mixed Video หรือ       AI Color Portrait สามารถเปลี่ยนตำแหน่งของบุคคลและพื้นหลังภายในวิดีโอได้อย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติ

ตั้งแต่เริ่มต้นจนมาถึง OPPO Reno5 Series 5G ผู้ใช้ได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอันทรงพลังของ OPPO ในด้านการถ่ายวิดีโอ การตัดต่อ หรือแชร์วิดีโอที่มีความซับซ้อน ด้วยวิธีการที่เรียบง่ายผ่านการสร้างเรื่องราวของตนเองออกมา และนี่คือจุดแข็งของ OPPO ที่ว่า ไม่ได้มีเพียงแค่ความสามารถในการพัฒนาอัลกอริทึมและเทคนิคการประมวลผลของตัวเองเท่านั้น แต่ยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ โดยท้ายที่สุดแล้วความเชื่อของ OPPO คือ การให้ความยุ่งยากซับซ้อนมาอยู่ที่ตนเอง เพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดสู่ผู้ใช้เสมอ

ดังนั้น เพื่อมอบประสบการณ์ด้านวิดีโอที่เหนือว่า OPPO จึงได้พัฒนาระบบการถ่ายวิดีโอขั้นสูงด้วย OPPO Full Dimension Fusion (FDF) Portrait Video System ที่จะมีอยู่ใน OPPO Reno5 Series 5G รุ่นใหม่ล่าสุด ที่พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในการสร้างสรรค์วิดีโอที่หลากหลายในทุกสถานการณ์ อีกทั้งช่วยให้ผู้ใช้ได้บันทึกทุกช่วงเวลาที่มีความสุขในชีวิตได้ด้วยวิธีง่ายๆ ผ่านการถ่ายวิดีโอที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพ

OPPO Full Dimension Fusion Portrait Video System สร้างวิดีโอ Portrait ที่สวยคมชัด สะกดทุกมุมมอง

ด้วยประสบการณ์ด้านการถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนมาอย่างยาวนาน OPPO เชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุดในการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค คือ การรวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่สมบูรณ์แบบเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ OPPO Full Dimension Fusion Portrait Video System ของ OPPO ทำงานบนพื้นฐานฮาร์ดแวร์ด้านการถ่ายภาพและวิดีโอระดับท็อปควบคู่ไปกับซอฟต์แวร์อัจฉริยะ โดยประกอบไปด้วย Quality Enhancement Engine ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับภาพที่คมชัดได้ในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวัน กลางคืน หรือแม้กระทั่งในขณะที่วัตถุมีการเคลื่อนไหวก็ตาม และ Portrait Perception Engine ที่ช่วยให้บุคคลและพื้นหลังในวิดีโอมีความคมชัดและเป็นธรรมชาติ พร้อมให้ผู้ใช้สามารถใช้เอฟเฟกต์ในวิดีโอ Portrait ได้อีกด้วย

Quality Enhancement Engine สวย คมชัด ทุกที่ ทุกเวลา

Quality Enhancement Engine คือชุดอัลกอริทึมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพวิดีโอที่มีคุณภาพได้ในทุกสถานการณ์ เช่น     AI Highlight Video ที่รวมเอาอัลกอริทึมอัจฉริยะอย่าง Ultra Night Video และอัลกอริทึม Live HDR เข้าไว้ด้วยกันเป็นครั้งแรกของ OPPO ด้วยการตรวจวัดระดับแสงของฉากมาปรับความสว่าง สี และความชัดเจนในวิดีโอให้เหมาะสมที่สุด ซึ่งมีอยู่ในทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังของ OPPO Reno5 series 5G เพียงผู้ใช้กดปุ่มเพียงปุ่มเดียวก็สามารถเริ่มถ่ายวิดีโอที่คมชัด สมจริงและสวยอย่างเป็นธรรมชาติได้แล้ว นอกจากนี้ ใน Quality Enhancement Engine ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหวรุ่นใหม่ของ OPPO นั่นคือ Ultra Steady Video 3.0 ซึ่งมีความสามารถในการป้องกันภาพสั่นไหวในช่วงของวิดีโอที่กว้างขึ้น ไม่ว่าจะกำลังวิ่ง กระโดด หรือแม้แต่เล่นกีฬาต่างๆ

การสำรวจนวัตกรรมด้านการถ่ายภาพ

เป็นเวลาหลายปีที่ OPPO ทุ่มเททรัพยากรที่สำคัญ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพและวิดีโอที่ดีที่สุดในสมาร์ทโฟน ซึ่ง OPPO มีทีมวิจัยและพัฒนาด้านภาพขั้นสูงทั่วโลกถึง 5 ทีม ทั้งใน Yokohama, Silicon Valley, Shanghai, Shenzhen และ Chengdu ซึ่งทีมเหล่านี้ทำงานเพื่อค้นหาวิธีการถ่ายภาพที่ทันสมัยที่สุด ทำให้ OPPO ได้สร้างความสำเร็จที่สำคัญในอุตสาหกรรมนี้ไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา โดย OPPO ได้ยื่นขอสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพมากถึง 7,300 ฉบับทั่วโลก ซึ่งในจำนวนนั้นได้รับการอนุญาตแล้วทั้งสิ้น 2,350 ฉบับ

ความคิดที่จะก้าวไปข้างหน้าเปรียบดั่งภาพรวมของเทคโนโลยีในอนาคต ทำให้ OPPO ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในงานประกาศผลรางวัล CVPR ประจำปีนี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นงานประกาศรางวัลด้านอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดแห่งปี  อีกทั้งยังได้รับรางวัลอันดับ 1 ในการแข่งขัน “Perceptual Extreme Super-Resolution challenge” และ“ Visual localization for handheld devices challenge” รวมถึงได้รางวัลอันดับ 3 ในการแข่งขัน “Activity detection in extended videos” อีกด้วย

โดยในอนาคตอันใกล้นี้ OPPO จะยังคงทำการสำรวจและวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำนวัตกรรมเหล่านี้มาสู่กล้องในสมาร์ทโฟน และพร้อมมอบประสบการณ์ด้านวิดีโอที่ง่ายและเหนือกว่าให้กับผู้ใช้ในยุค 5G  แล้วพบกันกับเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพและวิดีโออันล้ำสมัย ในงานเปิดตัว OPPO Reno5 Series 5G ในรูปแบบออนไลน์ผ่านทาง Facebook, YouTube และ Line Official ของ OPPO Thailand ในวันที่ 26 มกราคมนี้ ตั้งแต่เวลา 19.00 เป็นต้นไป

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/oppothai 

 

ข่าว: เตรียมพบการถ่ายวิดีโอที่เหนือกว่าใน OPPO Reno5 Series 5G 26 มกราคมนี้! มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2021/01/20/prepare-to-experience-the-superior-video-in-oppo-reno5-series-5g-on-january-26.html

เตรียมมอบประสบการณ์วิดีโอที่เหนือกว่าด้วย OPPO FDF Portrait Video System ใน OPPO Reno5 Series 5G พบกัน 26 มกราคมนี้

จากการเข้ามาของยุค 5G ทำให้เทรนด์การถ่ายวิดีโอเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเทรนด์นี้ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ยุค 4G แต่ด้วยความเร็วแรงที่เพิ่มมากขึ้นในยุค 5G ทำให้เทรนด์นี้ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง เพราะทำให้การเข้าชม ดาวน์โหลด และอัปโหลดวิดีโอเป็นเรื่องง่าย รวมถึงสื่อต่างๆ ที่มีความหลากหลาย เริ่มสร้างรูปแบบการสื่อสารและถ่ายทอดผ่านวิดีโอมากขึ้น ทำให้ยุค 5G ถูกขนานนามว่าเป็นยุคของวิดีโอเลยทีเดียว ดังนั้น ประสบการณ์ด้านการถ่ายวิดีโอในสมาร์ทโฟน จึงได้กลายมาเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนในปัจจุบันและอนาคตอีกด้วย

ดังนั้น เพื่อมอบประสบการณ์ด้านวิดีโอที่เหนือว่า OPPO จึงได้พัฒนาระบบการถ่ายวิดีโอขั้นสูงด้วย OPPO Full Dimension Fusion (FDF) Portrait Video System ที่จะมีอยู่ใน OPPO Reno5 Series 5G รุ่นใหม่ล่าสุด ที่พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในการสร้างสรรค์วิดีโอที่หลากหลายในทุกสถานการณ์ อีกทั้งช่วยให้ผู้ใช้ได้บันทึกทุกช่วงเวลาที่มีความสุขในชีวิตได้ด้วยวิธีง่ายๆ ผ่านการถ่ายวิดีโอที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพ

OPPO Full Dimension Fusion Portrait Video System สร้างวิดีโอ Portrait ที่สวยคมชัด สะกดทุกมุมมอง

ด้วยประสบการณ์ด้านการถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนมาอย่างยาวนาน OPPO เชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุดในการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค คือ การรวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่สมบูรณ์แบบเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ OPPO Full Dimension Fusion Portrait Video System ของ OPPO ทำงานบนพื้นฐานฮาร์ดแวร์ด้านการถ่ายภาพและวิดีโอระดับท็อปควบคู่ไปกับซอฟต์แวร์อัจฉริยะ โดยประกอบไปด้วย Quality Enhancement Engine ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับภาพที่คมชัดได้ในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวัน กลางคืน หรือแม้กระทั่งในขณะที่วัตถุมีการเคลื่อนไหวก็ตาม และ Portrait Perception Engine ที่ช่วยให้บุคคลและพื้นหลังในวิดีโอมีความคมชัดและเป็นธรรมชาติ พร้อมให้ผู้ใช้สามารถใช้เอฟเฟกต์ในวิดีโอ Portrait ได้อีกด้วย

Quality Enhancement Engine สวย คมชัด ทุกที่ ทุกเวลา

Quality Enhancement Engine คือชุดอัลกอริทึมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพวิดีโอที่มีคุณภาพได้ในทุกสถานการณ์ เช่น AI Highlight Video ที่รวมเอาอัลกอริทึมอัจฉริยะอย่าง Ultra Night Video และอัลกอริทึม Live HDR เข้าไว้ด้วยกันเป็นครั้งแรกของ OPPO ด้วยการตรวจวัดระดับแสงของฉากมาปรับความสว่าง สี และความชัดเจนในวิดีโอให้เหมาะสมที่สุด ซึ่งมีอยู่ในทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังของ OPPO Reno5 series 5G เพียงผู้ใช้กดปุ่มเพียงปุ่มเดียวก็สามารถเริ่มถ่ายวิดีโอที่คมชัด สมจริงและสวยอย่างเป็นธรรมชาติได้แล้ว นอกจากนี้ ใน Quality Enhancement Engine ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหวรุ่นใหม่ของ OPPO นั่นคือ Ultra Steady Video 3.0 ซึ่งมีความสามารถในการป้องกันภาพสั่นไหวในช่วงของวิดีโอที่กว้างขึ้น ไม่ว่าจะกำลังวิ่ง กระโดด หรือแม้แต่เล่นกีฬาต่างๆ

Portrait Perception Engine สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์กับความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด

แน่นอนว่าการสร้างวิดีโอคุณภาพสูงนั้นเป็นมากกว่าแค่วิดีโอที่คมชัดเพียงอย่างเดียว เพราะต้องให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอได้อย่างโดดเด่นด้วยสไตล์และบุคลิกที่แตกต่างกัน ดังนั้น ในการตอบโจทย์เรื่องนี้ OPPO ได้เตรียมฟีเจอร์ที่พร้อมเผยความเป็นตัวตนของทุกคนออกมา ได้แก่ AI Mixed Portrait, AI Color Portrait และ Monochrome Video ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเรื่องราวที่มีความหมายได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้ อัลกอริทึม Portrait Perception Engine ยังคงสามารถระบุคุณสมบัติเฉพาะและจดจำใบหน้าของแต่ละบุคคลได้อย่างแม่นยำ และยังสามารถตรวจจับและติดตามการเคลื่อนไหวของมนุษย์ในวิดีโอได้อีกด้วย ทำให้สามารถแบ่งแยกตัวบุคคล ออกจากภาพพื้นหลังของวิดีโอที่มีความซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ ด้วยเทคนิคนี้ ทำให้เอฟเฟกต์อย่าง AI Mixed Video หรือ AI Color Portrait สามารถเปลี่ยนตำแหน่งของบุคคลและพื้นหลังภายในวิดีโอได้อย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติ

ตั้งแต่เริ่มต้นจนมาถึง OPPO Reno5 Series 5G ผู้ใช้ได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอันทรงพลังของ OPPO ในด้านการถ่ายวิดีโอ การตัดต่อ หรือแชร์วิดีโอที่มีความซับซ้อน ด้วยวิธีการที่เรียบง่ายผ่านการสร้างเรื่องราวของตนเองออกมา และนี่คือจุดแข็งของ OPPO ที่ว่า ไม่ได้มีเพียงแค่ความสามารถในการพัฒนาอัลกอริทึมและเทคนิคการประมวลผลของตัวเองเท่านั้น แต่ยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ โดยท้ายที่สุดแล้วความเชื่อของ OPPO คือ การให้ความยุ่งยากซับซ้อนมาอยู่ที่ตนเอง เพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดสู่ผู้ใช้เสมอ

การสำรวจนวัตกรรมด้านการถ่ายภาพ

เป็นเวลาหลายปีที่ OPPO ทุ่มเททรัพยากรที่สำคัญ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพและวิดีโอที่ดีที่สุดในสมาร์ทโฟน ซึ่ง OPPO มีทีมวิจัยและพัฒนาด้านภาพขั้นสูงทั่วโลกถึง 5 ทีม ทั้งใน Yokohama, Silicon Valley, Shanghai, Shenzhen และ Chengdu ซึ่งทีมเหล่านี้ทำงานเพื่อค้นหาวิธีการถ่ายภาพที่ทันสมัยที่สุด ทำให้ OPPO ได้สร้างความสำเร็จที่สำคัญในอุตสาหกรรมนี้ไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา โดย OPPO ได้ยื่นขอสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพมากถึง 7,300 ฉบับทั่วโลก ซึ่งในจำนวนนั้นได้รับการอนุญาตแล้วทั้งสิ้น 2,350 ฉบับ

ความคิดที่จะก้าวไปข้างหน้าเปรียบดั่งภาพรวมของเทคโนโลยีในอนาคต ทำให้ OPPO ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในงานประกาศผลรางวัล CVPR ประจำปีนี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นงานประกาศรางวัลด้านอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดแห่งปี  อีกทั้งยังได้รับรางวัลอันดับ 1 ในการแข่งขัน “Perceptual Extreme Super-Resolution challenge” และ“ Visual localization for handheld devices challenge” รวมถึงได้รางวัลอันดับ 3 ในการแข่งขัน “Activity detection in extended videos” อีกด้วย

โดยในอนาคตอันใกล้นี้ OPPO จะยังคงทำการสำรวจและวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำนวัตกรรมเหล่านี้มาสู่กล้องในสมาร์ทโฟน และพร้อมมอบประสบการณ์ด้านวิดีโอที่ง่ายและเหนือกว่าให้กับผู้ใช้ในยุค 5G แล้วพบกันกับเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพและวิดีโออันล้ำสมัย ในงานเปิดตัว OPPO Reno5 Series 5G ในรูปแบบออนไลน์ผ่านทาง Facebook, YouTube และ Line Official ของ OPPO Thailand ในวันที่ 26 มกราคมนี้ ตั้งแต่เวลา 19.00 เป็นต้นไป

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/oppothai

#OPPOReno5Series5G

from:https://www.mobileocta.com/prepare-to-provide-superior-video-experience-in-oppo-reno5-series-5g/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=prepare-to-provide-superior-video-experience-in-oppo-reno5-series-5g

OPPO เล่นใหญ่! โชว์ดิจิทัลอาร์ตสุดอลังบนโดมยักษ์ใจกลางเมือง ยืนยันพร้อมเปิดตัว OPPO Reno5 Series 5G วันที่ 26 มกราคมนี้!

OPPO เล่นใหญ่ผุดแคมเปญ “Picture Life Together” อัดแสงสีเตรียมเปิดตัว “OPPO Reno5 Series 5G”   โชว์ดิจิทัลอาร์ต 3 มิติ สุดอลังการบนโดมยักษ์ใจกลางเมืองที่ FAAMAI Digital Arts Hub พร้อมกับคำว่า “OPPO Reno5 Series 5G” และภาพโมเมนต์สุดประทับใจของฝาแฝดหลากหลายคู่กลางเมืองกรุงฯ อย่างยิ่งใหญ่

ในครั้งนี้ OPPO Reno5 Series 5G มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “Picture Life Together” ที่จะช่วยสร้างโมเมนต์ดีๆ ที่น่าจดจำให้กับคุณและคนสำคัญ เพื่อเป็นการถ่ายทอดคอนเซ็ปต์นี้OPPO ได้ชวนเหล่าคู่ฝาแฝดมาสนุกกับกิจกรรมแบบคู่เพื่อเก็บโมเมนต์ร่วมกันผ่านวิดีโอฟีเจอร์สุดล้ำ

ไม่ว่าจะเป็น Dual-view Video ที่สามารถบันทึกวิดีโอพร้อมกันได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ให้คุณเก็บทุกโมเมนต์สุดประทับใจกับเพื่อนซี้ได้ทุกที่ทุกเวลา อีกทั้งยังมีฟีเจอร์สุดล้ำอย่าง AI Mixed Portrait Video ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกที่สมาร์ทโฟนสามารถถ่ายวิดีโอด้วยฟีเจอร์นี้ได้ โดยเป็นการนำวิดีโอ 2 ตัวมาซ้อนเข้าด้วยกันเกิดเป็นวิดีโอใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังการสร้างสรรค์ ซึ่งทั้งสองฟีเจอร์ใน OPPO Reno5 Series 5G ไม่ได้ให้แค่วิดีโอพอร์ตเทรตที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ยังช่วยเก็บความทรงจำดีๆ พร้อมช่วยกระชับความสัมพันธ์ของคนสำคัญให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เหมือนเหล่าคู่ฝาแฝดที่ร่วมบันทึกโมเมนต์สุดประทับใจในครั้งนี้

นับว่า OPPO Reno5 Series 5G เป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งซีรีส์ที่หลายๆ คนรอคอย รวมถึงเป็นรุ่นที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนที่ถ่ายวิดีโอสวยไม่เหมือนใคร ดีไซน์โดดเด่น การใช้งานไหลลื่น พร้อมรองรับ 5G ได้อีกด้วย และครั้งนี้ OPPO พร้อมเปิดตัว OPPO Reno5 Series 5G พร้อมกันทั่วประเทศในรูปแบบออนไลน์ที่ช่องทาง Facebook, YouTube และ Line official ของ OPPO Thailand ในวันที่ 26 มกราคมนี้!

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/oppothai/ 

from:https://www.mobileocta.com/oppo-confirms-the-launch-of-oppo-reno5-series-5g-on-january-26/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=oppo-confirms-the-launch-of-oppo-reno5-series-5g-on-january-26