รีวิวด้วยรูปถ่าย Nokia Pro Cam: คุณสมบัติ ความสามารถ ความแตกต่าง ของแต่ละเมนู

การตั้งค่าก่อนถ่ายภาพด้วย Nokia Pro Cam ทำได้ง่ายๆ เพียงลากปุ่มชัตเตอร์ออกมาที่กลางหน้าจอ ก็จะมีแถบวงกลมของการ Settings แต่ละเมนูโผล่ออกมา ดังรูป

 

ทีนี้เรามาดูแต่ละเส้น แต่และการตั้งค่ากันครับ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง อันดับแรกสำหรับคนที่ยังไม่ชำนาญก็ไม่ต้องไปแตะต้องอะไรมันครับ เพียงแตะที่วัตถุที่เราจะถ่ายเพื่อเลือกจุดโฟกัส แล้วก็กดที่ปุ่มชัตเตอร์เพื่อถ่ายได้เลย ก็จะได้ภาพสวยๆ ในโหมดอัตโนมัติออกมา

 

แต่หากอยากลองปรับมากขึ้นก็ทำได้ เมนูแรกวงกลมซ้ายสุด ก็คือ white balance ปรับให้เข้ากับสภาพแสงที่จะถ่ายครับ ได้แก่

1. Auto > ระบบจะเลือกให้เอง
2. Cloudy > เมฆมาก หรือแสงแดดน้อย
3. Direct sunlight > แสงจากดวงอาทิตย์
4. Fluorescent > สำหรับจากแสงหลอดผอม, หลอดนีออน
5. Incandescent > สำหรับแสงจากหลอดหัวกลมที่มีไฟสีส้มๆ

 

เมนูต่อมาการโฟกัส ซึ่งผมขอแนะนำว่าไม่ต้องไปเลือกเส้นวงกลมก็ได้ครับ เพียงแค่เอานิ้วเราไปแตะจุดที่ต้องการโฟกัส ก็พอ

 

เส้นที่สาม เป็นการปรับ ISO หรือความไวแสง เลือกได้ตั้งแต่ ISO 100, 200, 400, 800, 1600, 3200, 4000 แล้วแต่สภาพแสงครับ 

 

เมนูที่สี่ เลือกความเร็วชัตเตอร์(Shutter Speed) ซึ่งเลือกได้ระเอียดมาก ตั้งแต่ 1/16000+s ถึง 4s ชัตเตอร์เร็วๆ ก็เอาไว้ถ่ายวัตถุที่เคลื่อนไหวสูง แต่จะดูดแสงได้น้อย ชัตเตอร์ช้าๆ ก็เอาไว้ถ่ายรูปที่ต้องการดูดแสงมาก ซึ่งควรมีขาตั้งกล้องด้วย 

 

ส่วนรูปนี้ Shutter speed 4s, ISO 100 ครับ

 

เมนูสุดท้าย ค่า EV หรือ ค่าชดเชยแสง ตัวอย่างดังรูปครับ 

 

บางครั้งโหมดอัตโนมัติทำงานได้ไม่ดี หากเราเรียนรู้การปรับค่าไว้บ้างก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากครับ

 

 

ส่วนเมนูการตั้งค่าอื่นๆ ดูได้จากวีดีโอรีวิวแอพพลิเคชั่นด้านล่างนี้นะครับ

 

ตัวอย่างการถ่ายภาพด้วยโหมดอัตโนมัติทั้งหมด 

 

 

 

 

 

 

from:http://www.appdisqus.com/2013/09/24/settings-nokia-pro-camera.html

คลิปวีดีโอ App Review: Nokia Pro Cam [WP8] ด้วย Nokia Lumia 1020 ยกระดับการถ่ายภาพ ด้วยแอพระดับมืออาชีพ

 

เราทราบกันดีนะครับว่า Nokia Lumia 1020 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีเซ็นเซอร์ความละเอียดสูงที่สุดในตลาดตอนนี้ นั่นคือ 41 ล้านพิกเซล เราหลายคนอาจยังไม่ทราบว่า หากเราไม่ได้ถ่ายด้วย Nokia Pro Cam แล้วหละก็ เราจะไม่สามารถถ่ายหรือใช้งานภาพความละเอียดสูงนี้ได้ แอพพลิเคชั่นตัวอื่นๆ แม้แต่ Built-in App ก็จะถ่ายได้ที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลเท่านั้น

 

ดังนั้นเรามาเรียนรู้การใช้งาน Nokia Pro Cam กันดีกว่า ซึ่งจะทำให้เราสามารถถ่ายรูปได้ไม่แพ้มือโปร ด้วยวิธีการง่ายๆ ของแอพพลิเคชั่นนี้

 

App Review: Nokia Pro cam ยกระดับการถ่ายภาพ ด้วยแอพระดับมืออาชีพ

มายเหตุ: แก้ไขคำพูดในคลิป >> EV คือชดเชยแสง , iso คือความไวแสง นะครับ ^ ^

 

from:http://www.appdisqus.com/2013/09/23/video-reviews-nokia-pro-camera.html

Tips : วิธีตั้งค่าการถ่ายภาพด้วย Speed Shutter ต่ำ สำหรับ Nokia Pro Cam เพื่อเล่นกับไฟและแสงในตอนกลางคืน

ภาพนี้สวยไหมครับ ? นี่เป็นลูกเล่นการถ่ายภาพแบบหนึ่งที่เราอาจเคยเห็นกันมานานแล้ว แต่ไม่ใช่กับกล้องสมาร์ทโฟนแน่นอน อย่างภาพนี้ผมถ่ายโดยไม่ใช้ขาตั้งกล้องด้วย Nokia Lumia 1020 ครับ เพื่อนๆ อาจกำลังคิดว่าก็เพราะกล้อง Nokia Lumia 1020 มันเทพมาก จึงทำได้ แท้จริงแล้วไม่ใช่เลยครับ ที่มันทำได้เพราะแอพพลิเคชั่น Nokia Pro Cam ต่างหาก ?

 สำหรับ Nokia Pro Cam นั้น ตอนนี้มีอยู่บน Nokia Lumia เฉพาะรุ่นที่มีแรม 1gb ขึ้นไปเท่านั้น(อย่างเป็นทางการ) แต่เราก็เคยเขียนทิปเกี่ยวกับการดาวน์โหลดแอพนี้ลงในรุ่นอื่นๆ เอาไว้แล้ว(Click) แสดงว่า Windows Phone ทุกรุ่นที่ได้รับการอัพเดท GDR2 แล้วจะสามารถใช้งาน Nokia Pro Cam ได้ นั่นหมายความว่าสามารถถ่ายรูปแบบนี้ได้เช่นกัน คำถามคือ ทำยังไง ?

 

วิธีการง่ายมากครับ ให้เราเข้าไปที่แอพ Nokia Pro Cam จากนั้นก็ลากปุ่มชัตเตอร์บนหน้าจอออกมาจากขอบด้านขวามาด้านซ้าย แล้วเมนูการตั้งค่าต่างๆ ก็จะแสดงออกมาดังรูป จากนั้นให้ทำการตั้งค่าดังต่อไปนี้(ดูรูปประกอบ)

Speed Shutter: 4s

ISO: 100

Focus: เลื่อนไปสุดซึ่งมีค่าเป็นอนันต์

เท่านี้ก็กดถ่ายได้เลยครับ แต่มือต้องนิ่งพอสมควร หากมีขาตั้งกล้องด้วยก็จะดีมากครับ แต่ตอนผมถ่ายก็ไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้องเลย แต่ภาพก็ยังพอใช้ได้ครับ ยังไงเพื่อนๆ ก็หาโอกาสและทำเลดีๆ แล้วลองเล่นดูนะครับ อาจถ่ายรถยนต์บนถนนตอนกลางคืน หรือใช้หน้าจอโทรศัพท์เขียนตัวอักษร อย่างในภาพด้านล่างนี้ก็ใช้หน้าจอโทรศัพท์ที่สีต่างกันวาดเป็นตัวเลขออกมาครับ

ส่วนภาพลักษณะเดียวกันกับภาพบนสุดนั้น ทีมงานได้ใช้เชือกผูกกับฝอยขัดหม้อ เอาไฟเผาแล้วก็แกว่งเชือกให้เป็นวงกลมครับ ซึ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษนะครับ

รีวิวแอพพลิเคชั่น Nokia Pro Cam > Click

from:http://www.appdisqus.com/2013/09/12/tips-speed-shutter-nokia-pro-cam.html

[Tips ] วิธีตั้งค่าปุ่มชัตเตอร์ Nokia Windows Phone ทุกรุ่น

 

แน่นอนครับ เราทราบกันดีอยู่แล้ว่า Nokia Windows Phone ทุกรุ่น นำความสามารถในการถ่ายภาพมาเป็นจุดขาย หลังจากที่ AppdisQus เราได้แนะนำเทคนิคและวิธีการถ่ายภาพหลากหลายรูปแบบในหลายๆ บทความ วันนี้เรากลับมาดูเรื่องที่เป็นพื้นฐานแต่ก็เป็นเอกลักษณ์พิเศษของการถ่ายภาพด้วย Nokia Windows Phone กันดีกว่า นั่นคือ ปุ่มชัตเตอร์ นั่นเอง

 

ปุ่มชัตเตอร์บนเครื่องที่ใช้ระบบปฏิบัติ Windows Phone เป็นปุ่มที่มีประโยชน์ในการถ่ายภาพของเรามาก แต่หลายคนยังไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์จากมัน และยังไม่รู้จักมันดีเท่าไหร่เลยครับ ดังนั้นเราจะมาดูกันครับว่าปุ่มชัตเตอร์นี้ทำอะไรได้บ้าง และควรตั้งค่าอย่างไรกันบ้าง ?

 

การลั่นไกถ่ายภาพด้วยปุ่มชัตเตอร์ต่างกับแตะที่หน้าจออย่างไร?

การถ่ายภาพด้วยเครื่อง Windows Phone ทุกรุ่น เราทราบกันดีนะครับว่า เราสามารถใช้การแตะที่หน้าจอและกดปุ่มชัตเตอร์ได้ แล้วทั้งสองอย่างนี้ต่างกันอย่างไร ?

 

หลายคนชอบแตะที่หน้าจอเพื่อถ่ายมากกว่า เพราะสะดวก เมื่อเราแตะที่หน้าจอแล้วกล้องก็จะโฟกัสและถ่ายทันที ส่วนปุ่มชัตเตอร์จะมีลักษณะการกด 2 แบบ นั่นคือ กดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งนึง จะเป็นการโฟกัสรูปที่เราจะถ่าย เมื่อโฟกัสได้แล้วค่อยกดลงเต็มๆ เพื่อถ่ายครับ อาจดูยุ่งยากกว่าการแตะที่หน้าจอแต่การที่เราโฟกัสรูปโดยการกดปุ่มลงครึ่งนึงนี้ เราจะได้บริเวณของการโฟกัสกว้างกว่าการแตะหน้าจอครับ

 

ดังนั้น ถ้าเราถ่ายคนๆเดียว ใช้การแตะหน้าจอก็ได้ แต่ถ้าถ่ายรูปหมู่ หรือสถานที่ควรใช้การกดชัตเตอร์ลงครึ่งนึงเพื่อโฟกัสครับ แต่ถ้าถ่ายรูปวัตถุที่อยู่ใกล้ๆ รูป macro การแตะหน้าจอก็จะได้ระยะโฟกัสที่ดีกว่า

 

วิธีตั้งค่าปุ่มชัตเตอร์ Nokia Windows Phone ทุกรุ่น

การตั้งค่าปุ่มชัตเตอร์ให้ตอบสนองการใช้งานของเราให้เหมาะสมที่สุด ควรเรียนรู้ไว้เป็นอย่างมาก เรามีของดีอยู่กับตัว ยังไงก็ใช้งานมันให้เต็มที่ครับ แต่หากใครที่ชอบการตั้งค่า Default ที่มากับมันเลย อันนี้ก็ไม่ว่ากันครับ ^ ^

 

ขั้นแรกให้เราเข้าไปที่ Settings ครับ จากนั้นก็ปัดหน้าจอไปด้านขวา เราจะเข้ามาที่หมวดหมู่ Applications ครับ จากนั้นมองหาคำว่า photos+camera หรือ กล้อง+รูปถ่าย เมื่อคลิกเข้าไป เราก็จะพบหน้าการตั้งค่าของปุ่มชัตเตอร์ครับ ในส่วนแรกจะเป็นการติ๊กเลือก

1. กดปุ่มชัตเตอร์ค้างเพื่อเข้าสู่โหมดการถ่ายภาพ(กดค้างตอนล็อคหน้าจอแล้วสามารถเข้าโหมดกล้องทันที)
2. ป้องกันการเผลอกดปุ่มถ่ายภาพขณะเครื่องล็อค
3. กำหนดให้การแตะหน้าจอบน built-in app เป็นการโฟกัสแล้วถ่ายภาพและวีดีโอ
4. เพิ่มข้อมูลตำแหน่งเราลงในรูปภาพด้วย

 

อันแรกควรติ๊กเอาไว้ครับ เพื่อความรวดเร็วในการเข้าโหมดกล้องในสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้อสองผมไม่แน่ใจว่าทำงานอย่างไร แต่ดูจากข้อความแล้วก็ควรติ๊กไว้ครับ เดี๋ยวกล้องเราถ่ายเองโดยที่เราไม่ต้องการ ข้อสามนี่จำเป็นมากครับเพราะการแตะหน้าจอเพื่อถ่ายช่วยเพิ่มความสะดวกให้เราได้เป็นอย่งมาก สุดท้ายการเพิ่มข้อมูลลงตำแหน่งเราลงในรูปภาพ อันนี้แล้วแต่ว่าเราจะนำไปใช้แชร์หรือประโยชน์อะไรครับ หากไม่จำเป็นก็ปิดไว้เลยก็ดี เพราะจะทำให้เวลาถ่ายรูปแอพกล้องมันจะเปิด GPS เพื่อบันทึกตำแหน่งเรา ทำให้เปลืองแบตเตอรี่โดยใช่เหตุ

 

ส่วนที่สองของการตั้งค่า นั่นคือ เป็นการเลือกว่าเมื่อเรากดปุ่มชัตเตอร์แล้ว จะใช้งานแอพพลิเคชั่นอะไร ซึ่งสำหรับ Windows Phone Amber ก็จะมี built-in app และ Nokia Smart Cam ให้เราเลือก และบางรุ่นก็จะมี Nokia Pro Cam มาให้เราด้วยครับ ซึ่งส่วนตัวแล้วก็เลือกสุดเทพอย่าง Nokia Pro Cam เลยครับ ^ ^

 

ส่วนที่สามเป็นการตั้งค่าการอัพโหลดรูปภาพและวีดีโอ ซึ่งมี 2 เมนูหลักๆ นั่นคือ อัพไปที่ SkyDrive หรือแอพพลิเคชั่นที่เราลงเอาไว้ ซึ่งหากเราผูกบัญชีไว้กับ SkyDrive เราจำเป็นต้องจัดการกับการตั้งค่านี้เป็นอย่างมาก เพราะเมื่อเราคลิกเข้ามาที่คำว่า SkyDrive แล้วหละก็ เราจะเห็นว่าการตั้งค่าเบื้องต้นนั้น มันจะตั้งให้มีการอัพโหลดรูปขึ้นไปเก็บไว้ที่ SkyDrive อัตโนมัติ โดยใช้ 3G ของเราครับ ซึ่งจะทำให้เราเปลืองค่าเน็ตและเปลืองแบตเตอรี่เป็นอย่างมาก แนะนำให้ตั้งว่า Don’t Upload หรืออัพโหลดเมื่อมี Wi-Fi แทนครับ  ในส่วนวีดีโอนั้นไม่มีปัญหามากนักเพราะมันบังคับว่าอย่างน้อยต้องเป็น Wi-Fi ถึงจะอัพโหลดอัตโนมัติ

 

อีกเมนูในส่วนนี้ ก็คือ แอพพลิเคชั่นเสริมอื่นๆ ที่เราสามารถตั้งค่าการอัพโหลดไปเก็บไว้ในแอพนั้นๆ ได้ ซึ่งก็มีไม่มากนักครับ ยังไงก็ลองใช้ดูแล้วมาบอกต่อด้วยนะครับ ว่าอันไหนดีและเจ๋ง? 

 

เมื่อรู้จักเมนูต่างๆ และการตั้งค่าของมันแล้ว ก็ขอให้เพื่อนๆ สนุกการกับการเล่นและใช้งานกล้องถ่ายภาพของ Nokia Windows Phone กันมากๆ นะครับ อย่างลืมเอารูปเจ๋งๆ มาโชว์กันบ้างนะครับ  ^ ^

 

เทคนิคการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนและบทความที่เกี่ยวข้อง

 

 

4 สุดยอดทิป!! ปรับแต่งกล้องบน Nokia Lumia ความเทพมันเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ด้วยปลายนิ้วจิ้ม

 

รีวิวแอพ Nokia Pro Cam แอพพลิเคชั่นกล้องถ่ายภาพระดับ PRO ที่เข้าใจผู้ใช้งานพื้นฐานได้ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา

 

การถ่ายภาพ HDR ด้วย Nokia Pro Cam และการปรับแต่งด้วยโปรแกรม Photomatix Pro สำหรับ Nokia Windows Phone

 

แนะนำฟังชั่นและการถ่ายภาพแบบง่าย

 

เทคนิคการปรับ White Balance ใน Nokia Lumia และสมาร์ทโฟนรุ่นทั่วไป

 

Histogram: แถบกราฟบนแอพถ่ายภาพของสมาร์ทโฟน หรือ กล้องดิจิตัล มันคืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง ?

 

รีวิวพร้อมเปรียบเทียบแอพ Proshot และ CameraPro แอพเสริมความสามารถกล้องที่ดีที่สุดบน Windows Phone

from:http://www.appdisqus.com/2013/08/30/settings-shutter-button.html

[Tips] อีก 1 คุณสมบัติที่หลายๆคนมองข้าม การถ่ายวิดีโอและบันทึกเสียงแบบสเตอริโอด้วยแอพ Nokia Pro Cam แล้วคุณจะติดใจ

*** การฟังเสียงวิดีโอจากบทความนี้ แนะนำให้ฟังผ่านหูฟังครับ แล้วจะรู้สึกถึงความแตกต่างมากขึ้นไปอีกครับ

ผมเชื่อว่าผู้ใช้งาน Nokia Lumia 920 และ 925 หลายๆท่านน่าจะได้ลองเล่นแอพถ่ายภาพชั้นเยี่ยมอย่าง Nokia Pro Cam กันแล้วนะครับ ซึ่งเจ้า Nokia Pro Cam นี้นอกจากจะเป็นแอพที่ใช้ถ่ายภาพนิ่งได้เยี่ยมแล้ว ยังมีอีก 1 ความสามารถที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน นั่นคือการถ่ายวิดีโอและบันทึกเสียงด้วยระบสเตอริโอที่เพิ่งมีเข้ามาพร้อมกับ Amber อัพเดทนี้เองครับ

ก่อนหน้านี้ การถ่ายวิดีโอด้วยมือถือ Nokia Lumia ของเรานั้น ถึงแม้ฮาร์ดแวร์ในเครื่องจะรองรับการบันทึกเสียงแบบสเตอริโอ (Stereo) ก็ตาม แต่ว่าด้วยข้อจำกัดของระบบ Windows phone 8 จึงทำให้เราสามารถถ่ายวิดีโอและบันทึกเสียงได้แบบโมโน (Mono) เท่านั้นครับ
ซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย เพราะว่ามือถือ Nokia Lumia นั้นมีการใช้ระบบไมโครโฟนคุณภาพสูงแบบ HAAC ของ Nokia ติดตั้งมาแทบทุกรุ่น (โดยเฉพาะใน Nokia Lumia 920 นั้นมีไมโครโฟน HAAC ถึง 3 ตัวด้วยกัน ส่วนในรุ่นอื่นๆจะมีติดตั้งมา 2 ตัวคือไมโครโฟนสำหรับการสนทนาและอีก 1 ตัวสำหรับการตัดเสียงรบกวน และยกเว้นแค่ Nokia Lumia 520 เท่านั้นที่ไม่ได้ใช้ไมโครโฟนแบบ HAAC ครับ)

เจ้าไมโครโฟน HAAC นั้น เริ่มมีใช้งานเป็นครั้งแรกกับมือถือ Nokia 808 PureView ซึ่งคุณสมบัติเด่นของไมโครโฟนตัวนี้คือ รองรับการบันทึกเสียงได้ที่ความเข้มเสียงหรือความดังของเสียงสูงถึง 140 dBSPL หรือเดซิเบลโดยไม่มีเสียงหวีดหอนหรือเสียงแตกครับ เพราะฉะนั้นเราสามารถใช้มันบันทึกเสียงคอนเสิร์ตร็อคที่อาจมีความเข้มของเสียงหรือความดังเสียงสูงถึง 120 เดซิเบล ได้สบายๆ เลย (รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านได้จากที่นี่ครับผม: Click)

เกริ่นเรื่องไม่เกี่ยวกับเนื้อหาไปซะยาว เอาเป็นว่ากลับมาเข้าเรื่องกันต่อครับ

อย่างที่บอกไปครับว่าก่อนการอัพเดท Amber และถึงแม้จะได้รับการอัพเดท Amber แล้ว หากเราถ่ายวิดีโอด้วยแอพพลิเคชั่นถ่ายรูปที่มากับเครื่องแล้ว เราก็จะยังได้ไฟล์วิดีโอที่บันทึกเสียงแบบโมโนอยู่ดี ซึ่งตัวอย่างที่ผมเคยถ่ายเอาไว้ก็จะเป็นแบบนี้ครับ

ซึ่งถึงแม้คุณภาพเสียงที่ได้จะอยู่ในระดับที่ดี (สำหรับผมนะครับ) แต่เราก็จะสังเกตได้ว่าเสียงจะออกแนวแบนๆ และเมื่อเราดู properties ของไฟล์วิดีโอนี้ในคอมพิวเตอร์ เราก็จะเห็นรายละเอียดชัดเจนครับว่าระบบบันทึกเสียงให้แบบโมโน (Mono)

ซึ่งถ้าเราจะลองเปรียบเทียบกับวิดีโอที่ถ่ายด้วยแอพ Nokia Pro Cam ที่มีความสามารถในการบันทึกเสียงแบบสเตอริโอ (Stereo) ดูก็จะเห็นความแตกต่างได้พอสมควรครับ

จากวิดีโอนี้ นอกจากคุณภาพของเสียงแล้ว ส่วนตัวผมคิดว่าคุณภาพของวิดีโอที่ได้ก็ค่อนข้างน่าพอใจ และดูเหมือนว่าจะดีขึ้นด้วยซ้ำครับ เพราะสภาวะที่ผมถ่ายวิดีโอด้านบนนี้มานั้น ภายในร้านมืดพอสมควร จากจุดที่ผมนั่งอยู่เรียกได้ว่ามองแทบจะไม่เห็นหน้านักร้องเลยครับ แหล่งกำเนิดแสงมีแค่แสงจากทีวีและป้ายไฟเท่านั้นเอง

นอกเหนือไปจากคุณภาพเสียงที่ได้แล้ว ส่วนตัวผมพบว่า เสียงรบกวนรอบข้างนอกจากเสียงของวงดนตรีก็ถูกตัดไปพอสมควรครับ เพราะจริงๆแล้ววิดีโอนี้ถ่ายในผับกึ่งร้านอาหารที่คนค่อนข้างเยอะและมีเสียงพูดคุยกันตลอดเวลา แต่เสียงวิดีโอที่ได้ก็น่าประทับใจครับ

และสุดท้าย เมื่อเรามาเปิดดู properties ของไฟล์วิดีโอที่ถ่ายมา เราก็จะเห็นชัดเจนครับว่าเสียงถูกบันทึกเอาไว้ในรูปแบบ Stereo ที่มี Bit Rate สูงกว่าวิดีโอตัวแรกพอสมควร

ปิดท้ายส่วนวิดีโอด้วยคุณสมบัติ noise cancellation, คุณภาพของไมค์ HAAC ที่ช่วยให้เสียงไม่หอนและการบันทึกเสียงแบบ Stereo ครับที่ทำให้ถึงแม้เราจะถ่ายวิดีโอใกล้แหล่งกำเนิดเสียงแค่ไหน คุณภาพเสียงในวิดีโอก็ออกมาดีทีเดียวครับ (จากวิดีโอนี้ ตำแหน่งของลำโพงคือด้านหน้าคุณพี่ที่ผมถ่ายติดศรีษะแกมานั่นแหละครับ) โดย Nokia เรียกเทคนิคนี้ว่า Rich Recording Technology

อย่างไรก็ดี คุณภาพที่ยิ่งใหญ่ ย่อมมาพร้อมกับขนาดของไฟล์ที่ใหญ่ยิ่ง..ไฟล์วิดีโอที่ถ่ายในผับกึ่งร้านอาหาร (ไฟล์ที่ 2) ความยาว 3 นาที 41 วินาทีนั้น มีขนาดไฟล์ถึง  284mb ครับ (ขนาดผมบันทึกที่ความละเอียด 720p 30fps เท่านั้นนะครับ) เพราะฉะนั้นถ้าใครจะอัดวิดีโอยาวๆ อาจต้องเตรียมพื้นที่เอาไว้เผื่อกันหน่อยครับ

 

จะถ่ายวิดีโอและบันทึกเสียงแบบ Stereo ต้องทำอย่างไร?

สำหรับท่านที่อัพเดท Amber อัพเดทแล้ว และสามารถดาวน์โหลดแอพ Nokia Pro Cam ได้ (อ่านรายละเอียดการดาวน์โหลดแอพ Nokia Pro Cam ที่นี่ครับ: Click)

จากนั้นในการถ่ายวิดีโอ เราต้องตั้งค่าในเมนู Settings ของตัวแอพก่อน

โดยขั้นแรกแตะที่จุดสามจุดมุมขวาบน (…) เพื่อเรียกเมนูของแอพออกมา จากนั้นให้เลือกที่ส่วน Settings ตามรูปครับ

จากนั้นให้เลื่อนหน้าจอไปยังส่วนการตั้งค่าวิดีโอ จะเจอหน้าจอดังรูป

จากหน้าจอนี้ เราจะเห็นว่าเราสามารถตั้งค่าการถ่ายวิดีโอได้ 3 ค่าครับ คือการเลือกให้ระบบแสดง frame, เลือกความละเอียดและเฟรมเรตที่ต้องการสำหรับการถ่ายวิดีโอ และสุดท้ายเป็นตัวเลือกสำหรับการบันทึกเสียงครับ

ถ้าเราต้องการบันทึกเสียงแบบ Stereo เราก็กำหนดค่าเป็นแบบ “Strong (200Hz)” เท่านั้นครับ

เสร็จสิ้นส่วนการตั้งค่าแล้วครับ

 

ขอให้มีความสุขกับการถ่ายวิดีโอ และถ้าท่านใดถ่ายวิดีโองานคอนเสิร์ตหรืองานอะไรเจ๋งๆได้ ก็สามารถเอามาแบ่งปันเราได้นะครับ

 

from:http://www.appdisqus.com/2013/08/26/tips-for-recording-video-with-stereo-recording-feature-and-noise-cancellation.html

การถ่ายภาพ HDR ด้วย Nokia Pro Cam และการปรับแต่งด้วยโปรแกรม Photomatix Pro สำหรับ Nokia Windows Phone

 

ก่อนอื่นต้องขอบคุณ คุณ Pan Tas แฟน AppdisQus.com ของเราที่แนะนำเข้ามาว่า Nokia Windows Phone  หลายรุ่นเริ่มใช้งานแอพพลิเคชั่นถ่ายภาพสุดเจ๋งอย่าง Nokia Pro Cam ได้แล้ว ทำให้ Nokia Windows Phone มีความสามารถด้านการถ่ายภาพสูงขึ้นมาก มีฟังก์ชั่นการทำงานที่หลากหลายและน่าสนใจ ซึ่งฟีเจอร์ที่น่าหยิบยกมาพูดถึงมากที่สุดตอนนี้ก็คือ การถ่ายภาพ HDR นั่นเอง

 

HDR คืออะไร ?

ปกติรูปถ่ายจะเก็บรายละเอียดส่วนมืดกับส่วนสว่างได้ไม่เท่าตาคน ถ่ายย้อนแสงเลยกลายเป็นเงาดำ ซิลลูเอต หมด ทั้ง ๆ ที่ตาคนยังมองเห็นรายละเอียดด้านที่มันย้อนแสง การะทำ HDR (High Dynamic Range) คือการเอารูปถ่ายหลาย ๆ รุป ที่ต่างค่ารูรับแสงกัน รูปนึงถ่ายให้รายละเอียดด้านย้อนแสงครบ อีกรุปถ่ายให้ด้านท้องฟ้ารายละเอียดครบ มารวมกันด้วยโปรแกรม ทำให้เห็นรายละเอียดได้ทั้งส่วนมืดส่วนสว่างครับ

 

การถ่ายภาพ HDR ด้วย Nokia Pro Cam

สมาร์ทโฟนในท้องตลาดตอนนี้ เราจะเห็นว่าเริ่มมีหลากหลายรุ่นที่สามารถถ่ายภาพแบบ HDR ได้ แต่ภาพ HDR เหล่านั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพียงการถ่ายภาพครั้งเดียวแล้วนำมาประมวลผลด้วยซอฟแวร์ให้ภาพออกมาคล้ายกับภาพ HDR ได้ ซึ่งถือว่าดีในแง่ความสะดวกสบายของผู้ใช้สมาร์ทโฟน แต่ยังถือว่าประสิทธิภาพยังไม่เทียบเท่าภาพ HDR ที่แท้จริง

 

รีวิวแอพ Nokia Pro Cam แอพพลิเคชั่นกล้องถ่ายภาพระดับ PRO ที่เข้าใจผู้ใช้งานพื้นฐานได้ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา

 

สำหรับ Nokia Pro Cam นั้น ไม่มีฟังก์ชันถ่ายภาพ HDR หลอกๆ ในลักษณะนี้ แต่จะมีฟังก์ชันแท้ๆ ที่เรียกว่า Bracking(กดเข้าจากปุ่ม “…”) ซึ่งสามารถถ่ายภาพ HDR ได้ โดยเมื่อเรากดเข้าไปที่เมนู Bracking จากนั้น เราก็เลือกจำนวนรูปที่จะถ่ายต่อการกดชัตเตอร์ 1 ครั้ง(เลือกได้ 3 หรือ 5 รูป) และช่วงของค่ารูปรับแสง(-.5EV to +.5EV, -1EV to +1EV, และ -2EV to +2EV) เริ่มต้นเราอาจเลือก 3 รูป และค่ารูปรับแสง -.5EV to +.5EV ไปก่อน เมื่อชำนาญมากขึ้นค่อยว่ากันอีกทีนึงครับ

 

HDR จะซ้อนกันได้สมบูรณ์แบบนั้น รุปทั้งหมดที่ใช้ต้องซ้อนกันสนิทเท่านั้น ดังนั้นก่อนถ่ายต้องดูให้ดีส่วนใหญ่จะมีปัญหาตรงลม เมฆเคลื่อน ต้นไม้ไหว น้ำไหล ทำ HDR ไม่ได้ครับ ถ้าซ้อนกันไม่สนิทผลลัพธ์ HDR จะออกมาแปลกๆ ไม่สมจริง เพราะฉะนั้น ต้องใช้ขาตั้งกล้องเท่านั้นครับ แล้วก็ต้องทำให้กล้องสั่นน้อยที่สุด และให้เราเข้าไปที่เมนู “…” แล้วเลือกที่คำว่า Shutter delay เพื่อให้ Nokia Pro Cam หน่วงเวลาถ่ายหลังจากเรากดชัตเตอร์ไปแล้ว ป้องการภาพสั่นไหว

 

อย่างไรก็ตามในการเขียนบทความนี้ เราขอเอาความสะดวกไว้ก่อนนะครับ ขอถ่ายภาพเพื่อเป็นสาธิตการใช้งานเท่านั้น ซึ่งภาพที่เราถ่ายครั้งนี้เป็นภาพวิวจริงครับ แต่มีรถวิ่งขวักไขว่าเต็มไปหมด ซึ่งเมื่อนำไปเข้าโปรแกรมคงเละแน่ๆ – – “

 

เมื่อกล้องและขาตั้งพร้อม วิวที่จะถ่ายก็พร้อม ทีนี้ก็ลั่นชัตเตอร์ได้เลยครับ เมื่อกดไปแล้วแอพพลิเคชั่นก็จะถ่ายรูปออกมาให้เรา 3 หรือ 5 ครั้งแล้วแต่เราเลือกในตอนแรก เสร็จแล้วเราก็จะได้ภาพถ่ายที่มีการปรับค่ารูรับแสงต่างกัน 3 รูปตามที่เราต้องการ  ต่อไปก็จะเป็นกระบวนการฟิวชั่น รวมภาพทั้ง 3 เข้าด้วยกัน โดยโปรแกรม Photomatix Pro ในคอมพิวเตอร์ครับ

 

การสร้างภาพ HDR ด้วยโปรแกรม Photomatix Pro

โปรแกรมที่เราขอแนะนำในบทความนี้ก็คือ Photomatix Pro ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับทำ HDR โดยเฉพาะครับ และ Photoshop ก็ทำได้เช่นกัน แม้จะไม่ละเอียดเท่า Photomatix Pro

 

Download >> Photomatix Pro

 

ขั้นตอนการใช้งาน Photomatix Pro

1. เปิดโปรแกรมเข้ามา แล้วเลือกที่คำว่า Continue Trial หากต้องการใช้เวอร์ชั่นทดลอง หรือ Register หากต้องการซื้อโปรแกรมไว้ใช้งาน

 

2. เมนูด้านซ้ายมือ เลือกที่คำว่า Load Bracketed Photos >> Browse แล้วก็เลือกรูปทั้งหมดที่เราจะนำเข้าโปรแกรมเพื่อทำ HDR

3. เสร็จก็กดเลือกคำว่า OK และ OK  2 ครั้งเลยครับ

 

4. เสร็จแล้วโปรแกรมก็นำเราเข้าสู่หน้าปรับแต่งภาพ HDR ซึ่งจะมีตัวสำเร็จรูปอยู่ด้านขวามือให้เราเลือกครับ

 

5. แต่หากตัวสำเร็จรูปไม่มีอันไหนถูกใจ เราสามารถปรับแต่งภาพได้เอง จากค่าต่างๆ ในเมนูด้านซ้ายมือได้เลยครับ ตัวอย่างเช่น

• Strength: ปรับหา % ที่ทำให้ภาพดูเนียน ไม่หลอกตามาก แต่ระรูปจะปรับไม่เหมือนกันครับ ตรงนี้ต้องปรับดี ๆ เลือ่นดูตั้งแต่ 0 -100 % เลย
• Color saturation: ปรับความอิ่มตัวของสี
• Luminosity: ปรับเป็น + โทนภาพโดยรวมจะสว่างขึ้น และปรับเป็น – โทนภาพโดยรวมจะมืดลง
• Detail Contrast: เพิ่มหรือลดรายละเอียดและความคมชัดของภาพ ปรับเพื่อให้ภาพเนียนตาหรือหยาบขึ้น อันนี้ก็แล้วแต่เรา
• Lighting Adjustment: การปรับแสงให้เป็นธรรมชาติ

 

6. เมื่อเลือกหรือปรับตั้งค่าได้ตามที่เราชอบแล้ว ให้เรากดที่คำว่า Process โปรแกรมก็จะเข้าสู่การประมวลผลเล็กน้อย

7. สุดท้ายโปรแกรมก็จะแสดงภาพที่เป็นผลสำเร็จออกมา เราก็เพียงไปที่ File >> Save image เพื่อบันทึกรูปของเรา เท่านี้ก็เรียบร้อย ได้รูป HDR ที่สมบูรณ์แบบออกมาแล้ว 

 

คลิปสอนการใช้งานโปรแกรม

 

ตัวอย่างภาพ HDR(กดที่ภาพ)

 

 

 

 

 

ที่มาภาพและความคิด cameraeyes.net, badbikegang

from:http://www.appdisqus.com/2013/08/24/hdr-by-nokia-pro-cam.html

รีวิวแอพ Nokia Pro Cam [WP] แอพพลิเคชั่นกล้องถ่ายภาพระดับ PRO ที่เข้าใจผู้ใช้งานพื้นฐานได้ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา

รีวิวแนะนำแอพพลิเคชันสำหรับเครื่อง Windows phone Lumia นั้นก็คือ Nokia Pro Cam แอพถ่ายภาพที่มาพร้อม UI สวยๆ เข้าใจง่าย และที่สำคัญ ยกระดับความเข้าใจของผู้ใช้ด้วยโหมดแนะนำ

 

“ยอดเยี่ยม” ไม่ใช่เพราะเรื่องฟังชั่น ไม่ใช่เพราะความสวยงาม แต่เป็นเพราะการยกระดับความรู้แก่ผู้ใช้งาน ด้วยโหมดแนะนำที่เข้าใจง่ายทึ่สุดที่เคยเจอมา

Nokia Pro Cam คือแอพพลิเคชั่นที่ทาง Nokia ออกแบบมาเพื่อใช้งานบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนที่มีกล้องถ่ายภาพที่ดีที่สุดของ Lumia นั้นก็คือ Lumia 1020 การออกแบบในตัวแอพพลิเคชั่นบอกได้คำเดียวว่า “สุดยอด” ทั้งเรื่องในความง่ายในการใช้งาน ความสวยงาม และประโยชน์ในการใช้งาน

เพราะภายในหน้าจอแอพพลิเคชั่นหน้าเดียว เราสามารถเข้าถึงการปรับแต่งได้มากมาย และสามารถมองผลลัพท์ในการปรับแต่งได้แบบเรียลไทม์ นี่เป็นแอพพลิเคชั่นที่จะช่วยให้คนถ่ายภาพแบบบ้านๆอย่างผม หรืออย่างพวกคุณ สามารถใช้เทคนิคการถ่ายภาพที่เข้าถึงจิตวิญาญาณตากล้องมืออาชีพได้ง่ายกว่าเดิมครับ

 

การที่ผมยก Nokia Pro Cam ให้เป็นแอพพลิเคชั่นด้านการถ่ายภาพที่ดีที่สุด ไม่ใช่เพราะความสามารถ หรือหน้าตาสวยๆ ที่มันมี แต่เป็นเพราะความเอาใจใส่ผู้ใช้ที่ถ่ายทอดออกมาในเมนูหัวข้อ “คู่มือแนะนำ” เป็นหัวข้อที่ผมอยากให้ผู้ใช้งาน Lumia ที่กำลังจะลอง Nokia Pro Cam ได้เข้าไปดูก่อนกันทุกๆคนเลยครับ

เพราะที่ๆ ผ่านมา ผมบอกเลยว่า เจ้าฟังชั่นการปรับสีปรับแสงพวกนี้ไม่ใช่ไม่เคยมี มันมีมานานนม มีในหลากหลายรูปแบบ แต่ปัญหาสำคัญคือ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ “ใช้ไม่เป็น” อะไรคือค่า EV อะไรคือ ISO อะไรคือ Shutter Speed ต่อให้เครื่องสมาร์ทโฟนที่อยู่ในมือมีกล้องขั้นเทพเจ้าลงมาจุติ ปรับได้ทุกอย่างเหมือนกล้องราคาเรือนแสน ก็ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ถ้าผู้ใช้ไม่เข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้คืออะไร สู้ออกกล้องระบบ” Auto หมด กดเพื่อถ่ายอย่างเดียว” แบบกล้อง iPhone สมัยก่อนน่าจะเหมาะซะกว่า

ฉะนั้น Nokia Pro Cam ที่เป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับการใช้งานกล้องถายภาพในระดับที่ “PRO” มากขึ้น เหมาะสมมากๆ ที่จะต้องยกระดับผู้ใช้ให้เข้าใจสิ่งต่างๆที่มีมาให้ ได้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย

เพราะฉะนั้น ผมจะเริ่มแนะนำ Nokia Pro Cam ในโหมดของ “คู่มือแนะนำ” กันก่อนเลย

เมื่อเรากดเมนุการตั้งค่าในหน้าแอพพลิเคชั่น Nokia Pro Cam ในเมนูนั้นเราจะเห็นหัวข้อของ “คู่มือแนะนำ” สำหรัยคนที่อยากจะก้วยเดินออกจากรูปแบบการถ่ายภาพอัตโนมัติทุกครั้ง แล้วแต่กล้องจะพาไป ผมขอแนะนำแวะเวียนเข้ามา ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ที่คุณจะไม่เสียใจเลยครับ

ขอแวะบอกก่อนว่า การถ่ายภาพ ไม่มีอะไรถูกผิด มันเป็นศิลปะในรูปแบบหนึ่ง จะถนัดการถ่ายภาพแบบ Auto หมด หรือจะอยากถ่ายภาพจัดแสงเลือกสีเอาอย่างใจ แบบไหนก็ไม่มีอะไรที่่ใครจะมาว่าเราได้ แต่สำหรับ  Nokia Pro Cam ดูจะสร้างมาเพื่อผู้ที่ต้องการในรูปแบบหลังซะมากกว่าเท่านั้นครับ

ก็จะวกกลับมาเข้าเรื่องในหัวข้อคู่มือแนะนำ ทาง Nokia ทำเอาไว้ดีมาก ด้วยการอธิบายสั้นๆ (แถมเป็นภาษาไทย) ให้เราเข้าใจว่า แต่ละอย่างที่เราสามารถปรับและแต่งตัวกล้องได้ มีผลกับภาพที่เราจะได้อย่างไร

โดยแสดงให้เห็นเป็นภาพจริง พร้อมให้เราทดสอบการปรับแต่งจริงๆในหัวข้อเหล่านั้น มันทำให้เราซึบซับและเข้าใจประโยชน์ของการปรับแสงปรับโฟกัส ปรับความเร็วชัตเตอร์ได้อย่างชัดเจน แต่ละอย่างมีผลอย่างไรมันจำได้ง่ายกว่าเดิม เพราะมีภาพและผลลัพท์ให้เราเห็นอยู่ตรงหน้าเรานี่เองครับ

 

การปรับแสง ความสว่าง (ค่า EV)

การปรับความสว่างของตัวภาพ ให้ผลลัพท์ที่แตกต่างกันในสภาวะแสงที่มีส่วนมืดเกินไปหรือจ้าเกินไป ลดความสว่างหรือเพิ่มความสว่างลงมีผลอย่างไร ในตัวอย่างที่ Nokia ทำมาให้ คุณจะเข้าใจในบัดดลครับ

 

ปรับความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed)

 

ปรับความเร็วในการเปิดปิดของตัวชัตเตอร์ เมื่อชัตเตอร์ที่เป็นตัวรับแสงยิ่งเปิดนาน แสงสว่างของภาพก็จะเข้ามามาก แต่วัตถุแสงที่เคลื่อนไหวก็จะสร้างทางเดินแสงจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งเป็นเส้นสาย อย่างที่เราเห็นบ่อยๆในภาพแสงไฟหน้ารถวิ่งเป็นทางยาวนั้นเองครับ

ใน Nokia Pro Cam หมวดแนะนำ ก็จะแสดงให้คุณดูอย่างเข้าใจได้ง่ายๆเลยว่า ความเร็วชัตเตอร์ที่ไวหรือช้า แต่ละอย่างจะส่งผลเช่นไรครับ

 

การปรับค่า iSO

 

เมื่อเราถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย รายละเอียดบนตัวภาพนั้นอาจจะมืดเกินไป การเพิ่ม ISO จะมีส่วนในการช่วยเพิ่มแสงสว่างบนภาพให้มากขึ้นกว่าเดิมครับ แต่การเพิ่ม iSO นั้นก็จะส่งผลเสียด้วยเช่นกัน นั้นก็คือ “นอยซ์” ที่จะเข้ามารบกวนภาพของเราให้ความคมชัดและรายละเอียดสูญเสียไป

อะไรคือนอยซ์ อะไรคือ iOS ในคู่มือแนะนำคุณจะเข้าใจได้ไม่ยากเช่นกัน เพราะมันเห็นอยู่กับตาและลองปรับค่าอยู่กับมือของเราได้นันเองครับ

 

การระยะปรับโฟกัส

เทคนิคหนึ่งที่นิยมนำมาใช้เพิ่มความสวยงามของภาพนั้นก็คือการสร้างมิติของภาพถ่าย และการสร้างมิติของภาพถ่ายนั้นก็มักจะใช้การโฟกัสวัตถุแยกตามระยะใกล้ไกล เหมือนสายตามนุษย์ จับวัตถุใกล้ ของที่อยู่ไกลๆก็เบลอ นั้นคือการใช้ระยะโฟกัสครับ และในหมวดคู่มือแนะนำ เขาก็จะให้เราได้เห็นความแตกต่างของอารมณ์ภาพ จากการปรับระยโฟกัสใกล้ไกล มันจะสร้างมิติภาพและอารมณ์ที่แตกต่างกันออกมาอย่างไร ลองเล่นดูได้เลยครับ

 

การปรับสมดุลแสง

 

“กล้อง” ก็คือเครื่องบันทึกภาพที่อาศัยการรับแสง และ “แสง” ก็แตกต่างหลากหลายสีสันตามวันเวลา สถานที่ สภาพอากาศและภูมิประเทศ ฉะนั้นจึงไม่มีทางที่กล้องจะกำหนดสมดุลแสงเป็นกลางให้เราได้ในทุกสภาพของการใช้งาน เราต้องเลือกเอง (หรือจะให้กล้องเลือกให้ก็ไม่ผิดนะ)

การเลือกสมดุลแสงก็เพื่อให้สีสันของภาพได้โทนสีตรงตามใจเราหวังไว้ให้มากที่สุด แต่เอาสมจริงหรือจะเอาเกินจริง อันนี้ก็อย่างที่ผมบอกครับ เอาตามใจเรา ไม่มีอะไรผิดแน่นอน และในคู่มือแนะนำ เขาจะให้ได้เห็นว่า เมื่อเราปรับสมดุลแสงเปลี่ยนแปลงไป แต่ละอย่างจะส่งผลต่อภาพที่เราจะได้อย่่างไรบ้างครับ

 

 

 

เมื่อเราเข้าใจว่า การปรับแต่งแต่ละอย่างมันส่งผลอย่างไรแล้วละก็ ทีนี่้ผมก็คิดว่า เพื่อนจะรู้สึกเหมือนผมแล้วว่า Nokia Pro Cam เป็นแอพพลิเคชั่้นที่ใช้งานอย่างไรและทำไมถึงใช้คำว่า “Pro Cam”

เพราะมันไม่ได้โดนออกแบบมาให้ถ่ายกันแบบอัตโนมัตินั้นเองครับ เราต้องปรับตั้งค่า เราต้องเข้าใจสิ่งที่เราจะเลือก นั้นเหมือนกับโลกของคนรักการถ่ายภาพมือโปรที่เขานิยมใช้งานกัน

แม้บนสมาร์ทโฟน เราอาจจะหวังผลจริงจังเหมือนกล้องถ่ายภาพระดับสูงจริงๆไม่ได้ แต่เชื่อว่าด้วยคุณภาพของกล้องจากเครื่องตระกูล Lumia โดยเฉพาะในเครื่องระดับสูงๆ และความสามารถของแอพพลิเคชั่น Nokia Pro Cam มันก็ไม่ธรรมดาแน่นอน

และเมื่อเพื่อนๆเข้าใจ หรือผ่านหมวดคู่มือแนะนำกันมาแล้ว พอมาเห้นหน้าตาการใช้งานของตัวแอพ ก็จะเข้าใจเลยครับว่า “มันทำงานอย่างไร”

 

 

ถ้าผมมาแนะนำหน้าการใช้งานก่อน เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนอาจจะงง “มันมีอะไรเยอะแยะ” แต่พอเราผ่านคู่มือแนะนำมาด้วยกัน จะทำให้เราเข้าใจได้ไม่ยากเลย ว่าหัวข้อไหนตั้งค่าเพื่ออะไร และมีไว้ทำอะไร

เพื่อนๆก็สามารถลองเล่น ลองปรับได้เลยครัว สร้างสรรค์ผลงานที่เป็นสไตล์ตัวเอง “โปร” ก็เริ่มกันตรงนี้แหละ ^^ แอพพลิเคชั่น Nokia Pro cam สามารถสลับเข้าไปทำงานกับโหมดการบันทึกวีดีโอได้ด้วยนะครับ หรือถ้าใครจะตั้งออโต้หมด ก็ย้ำกันอีกทีนะครับ ว่าทำไปเลย ไม่ผิดแน่นอน ^^ และอยากจะบอกว่า ระบบออโต้ของ Nokia Pro cam ก็ฉลาดมากขึ้นกว่าเดิมด้วยครับ

 

จุดเด่นเหนือแอพลิเคชั่นกล้องถ่ายภาพตัวใดๆ

• UI ที่เข้าถึงการใช้งานทุกอย่างในหน้าเดียว
• มีระบบแมนวลโฟกัส
• สามารถปรับชัตเตอร์สปีด
• แสดงผลการปรับแต่งแบบเรียลไทม์ให้เห็นทันทีที่ปรับเปลี่ยนการตั้งค่า
• มีการแจ้งเตือนการตั้งค่าแสงที่ไม่สมดุล
• ฟรี

ผมขอยกให้เป็นแอพพลิเคชั่นกล้องถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมที่สุดของสมาร์ทโฟนในปัจจุปัน ด้วยดีไซด์ที่เรียบง่ายแต่หรูหรา ฟังชั่นที่หาไม่ได้จากแอพพลิเคชั่นถ่ายภาพทั่วๆไปอย่างแมนวลโฟกัส และที่สำคัญ คือคู่มือแนะนำที่จะทำให้ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนก้าวเข้าไปสู่โลกของการถ่ายภาพ และเข้าถึงความเข้าใจของการใช้งานกล้องได้มากขึ้น

 

 

from:http://www.appdisqus.com/windowsphoneapp/review-nokia-pro-cam-wp-applicatio

ดีขึ้นชัดเจน ทดสอบเทียบการบันทึกเสียงแบบ Stereo ของ Nokia Lumia 920 หลังการอัพเดท Amber ผ่านแอพ Nokia Pro Cam

ผลทดสอบ เปรียบเทียบการบันทึกเสียง ระหว่างเครื่อง Nokia Lumia 920 ก่อนและหลังการอัพเดท Amber ผ่านแอพตัวใหม่ Nokia Pro Cam ความแตกต่างที่รู้สึกได้ชัดเจน

 

อย่างที่ผู้ใช้หรือเพื่อนๆหลายคนรู้กันดีครับ ว่า Nokia Lumia 920 แต่เดิมนั้น จะสามารถบันทึกเสียงในรูปแบบของ MONO ได้เพียงแบบเดียวเท่านั้น แต่ด้วยการอัพเดทเพิ่มความสามารถใน Amber ที่กำลังจะมาถึง (อย่างเป็นทางการ) ได้เพิ่มความสามารถในหลายๆส่วน นั้นรวมถึงการบันทึกเสียงแบบเป็น Stereo ของ Lumia 920 อีกด้วยครับ

จากผลการทดสอบของ hrabiamol ทำให้เราสามารถแยกความแตกต่างของการบันทึกเสียง ก่อนและหลังการอัพเดท Amber ในเครื่อง Lumia 920 ได้เป็นอย่างดี โดยการบันทึกผ่านแอพพลิเคชั่นตัวใหม่ที่จะมาพร้อมการอัพเดทนั้นก็คือ Nokia Pro cam

แนะนำให้เพื่อนๆลองฟังเสียงที่บันทึกมาทั้งสองรูปแบบในลิงค์วีดีโอด้านล่างด้วยหูฟัง หรือชุดเครื่องเสียงที่สามารถแยกช่องเสียงได้ชัดเจน เพื่อรับฟังความแตกต่างที่พัฒนาขึ้นมาครับ

MONO ก่อนการอัพเดท

 

Stereo หลังการอัพเดท

 

รอคอยการมากันอีกนิดนะครับ เพราะการอัพเดทหนนี้ มันจะเปลี่ยนอะไรหลายๆ อย่างในเครื่องเรา เหมือนได้ของเล่นใหม่เลยละครับ ^^ และสำหรับเพือนๆ ที่ใจร้อนอยากอัพเดทกันก่อน เราก็มีวิธีการอัพเดทด้วยตัวเอง ในส่วนของ Timeline Story ด้านล่างนะครับ

mynokiablog

from:http://www.appdisqus.com/2013/08/11/rec-stereo-sound-nokia-lumia-920-amber-nokia-pro-cam.html

วิธีปลดล็อค Exclusive Apps สำหรับบางรุ่นและบางยี่ห้อ ให้สามารถใช้งานกับ Windows Phone ได้ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ

วิธีการดาวน์โหลดแอพที่จำกัดการดาวน์โหลดสำหรับมือถือ Windows phone บางรุ่น บางยี่ห้อให้สามารถติดตั้งบนมือถือ Windows phone 8 ของเราได้

สิ่งที่ต้องเตรียม
1. คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง
2. WiFi ที่มือถือและคอมของเราต้องอยู่ในวงแลนเดียวกัน

วิธีทำง่ายๆ ตามนี้ครับ
บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา
1. ไปดาวน์โหลดโปรแกรมที่ชื่อว่า Fiddler มา ซึ่งโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมฟรีครับ ดาวน์โหลดได้ที่นี่ (click)

2. จากนั้นไปที่เมนู Tools –> Fiddler option จะเจอหน้าต่างการตั้งค่า ให้เลือกแท็บที่ชื่อว่า Connections จากนั้นให้ตั้งค่าทั้งหมดตามหน้าจอนี้ครับ (จุดสำคัญคือตำแหน่งที่ลูกศรสีแดงชี้อยู่ ตามรูปครับ)

3. เสร็จแล้วก็กด OK เพื่อบันทึกการตั้งค่า จากนั้นก็ให้เราปิดโปรแกรมไป

4. เปิดโปรแกรมขึ้นมาใหม่ ให้รีบกดที่ Ctrl+R เพื่อเรียกใช้งานส่วน Custom Rules (หรือจะไปที่เมนู Rules  Customize Rules) จากนั้นจะเจอหน้าจอดังรูปครับ ซึ่งจะเป็นหน้าจอ Notepad อันนึง

5. ค้นหาข้อความตามนี้ครับ จะเลื่อนหา หรือจะใช้ฟังก์ชั่นการค้นหาก็ได้ ตามสะดวกครับ

static function OnBeforeRequest (oSession: Session) {

6. พอเจอแล้ว ให้เราตรงนี้จะเป็นส่วนสำคัญครับ ให้เราเพิ่มข้อความส่วนนี้เข้าไปในบรรทัดต่อจากข้อความด้านบน

if (oSession.uriContains (“RM-892_eu_italy_218“))
{
oSession.url = oSession.url.Replace (“RM-892_eu_italy_218“, “RM-877_nam_att_205″);
}

โดยข้อความที่ทำตัวหนังสือสีแดงนั้น ให้เปลี่ยนเป็นรุ่นของมือถือที่เราใช้งาน ถ้าท่านไม่ทราบสามารถดูได้จากเมนู Settings –> Extra info+ แล้วก็ดูตรง more info ครับ จะเจอหน้าจอตามรูป ให้เราเอาค่าตรงลูกศรสีแดงไปใส่ครับในส่วน code ที่ผมใช้ font สีแดงเอาไว้ทั้ง 2 ตำแหน่งครับผม

รูปหน้าจอตำแหน่งที่ต้องเปลี่ยนใน Notepad ครับ

** ย้ำอีกที Code นี้ของใครของมันนะครับ อย่าใช้ตามผมนะครับ

ทั้งนี้ในส่วนค่า “RM-877_nam_att_205” ไม่ต้องไปเปลี่ยนครับ เพราะนั่นเป็นหมายเลขรุ่นของ Nokia Lumia 1020 ครับ ถ้าเปลี่ยนเราจะโหลดไม่ได้ เปลี่ยนค่าเฉพาะที่ผมใช้ font สีแดงเท่านั้น

7. จากนั้นเราก็กดเซฟและปิดเจ้า Notepad ซะ

8. สิ่งสำคัญอย่างสุดท้ายบนคอมพิวเตอร์เราคือเราต้องรู้ IP ของเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราครับ ซึ่งทั่วๆไปก็น่าจะหาได้ไม่ยากนะครับ IP เครื่องตัวเองเนี่ย ส่วนมากก็น่าจะเป็น 192.168.x.xxx นี่แหละครับ ต้องหามาให้ได้นะครับ จากนั้นจดเอาไว้ครับ

*** อย่าเพิ่งปิดโปรแกรม Fiddler นะครับ
จากนั้นไปที่มือถือของเรา

1. เข้าไปที่เมนู Settings –> WiFi จากนั้นแตะที่ชื่อของ WiFi ที่มือถือเราต่ออยู่ จะเจอหน้าจอดังรูป ให้เราเปิดใช้งาน Proxy และระบุค่า IP ของ Server เป็นเลข IP ของเครื่องคอมของเราที่ติดตั้งโปรแกรม Fiddler ไว้ และ port ให้ระบุเป็น 8888

2. จากนั้นก็เซฟข้อมูลการตั้งค่านี้เอาไว้…..เสร็จแล้วครับ จากนั้นก็ค้นหาแอพที่ต้องการโหลดได้เลย ตัวอย่างเช่นผมต้องการติดตั้งแอพ Nokia Pro Camera ผมก็ค้นหาจาก Google บนมือถือของผมด้วยคำว่า Nokia Pro Cam จากนั้นก็จะเจอลิงค์ที่จะพาผมเข้าไปที่ Store ครับ จากนั้นเราก็กดติดตั้งได้เลย (แต่ตามรูปนี้ผมติดตั้งไปแล้วนะครับ)

 

เสร็จสิ้นขั้นตอนครับ

มีข้อจำกัดนิดเดียวคือ สำหรับแอพ Nokia Pro Cam นั้น เครื่องที่จะติดตั้งได้ต้องได้รับการอัพเดท firmware amber ซะก่อน แตถ้าท่านใช้งาน Lumia 925 อยู่แล้วก็สามารถติดตั้งได้สบายครับ

แต่แอพอย่าง Nokia Video Uploader นี่ติดตั้งได้กับมือถือทุกรุ่นที่ทำวิธีที่ผมแนะนำนี้มาแล้ว ไม่ต้องอัพเดทเป็น firmware amber ก่อนก็ได้ครับ

นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้วิธีนี้ในการดาวน์โหลดแอพที่เป็น Exclusive app ของ Windows phone ยี่ห้ออื่นๆอย่าง HTC, Samsung ก็ได้เช่นกัน โดยวิธีการคือ
ในขั้นที่ 6 แทนที่จะเปลี่ยน code เป็นตามที่ผมเขียนเอาไว้ในบทความ ก็ให้เปลี่ยนเป็น code นี้แทน

oSession.PathAndQuery oSession.PathAndQuery.Replace = (“= oemid NOKIA”, “oemid = HTC”);

กรณีนี้ คือเราใช้ Windows phone ของ Nokia อยู่ แต่อยากโหลดแอพของ Windows phone จาก HTC เราก็ใช้ค่ามตามด้านบนครับ แต่ถ้าอยากดาวน์โหลดแอพของ Samsung แทน ก็แทนที่คำว่า HTC ด้วย Samsung เท่านั้นเองครับ
อย่างไรก็ดี การดาวน์โหลดแอพข้ามค่าย อาจมีผลเสียเรื่องความไม่เข้ากันกับอุปกรณ์ได้ ต้องยอมรับความเสี่ยงในจุดนี้ด้วยนะครับ อีกเรื่องหนึ่งคือไม่ใช่ทุกแอพที่เราจะสามารถดาวน์โหลดได้ ยังไงก็ลองดูกันเองอีกทีนะครับ

สุดท้าย สำหรับท่านที่ตั้งค่าทุกอย่างแล้วยังไม่สามารถดาวน์โหลดได้ อาจต้องทำตามขั้นตอนนี้เพิ่มอีกหน่อย นั่นคือ
1. พิมพ์คำสั่ง regedit ในเมนู run บน เพื่อเปิดส่วน registry editor ขึ้นมา

2. ไปที่ path นี้ครับ HKEY_CURRENT_USER \ Software \ Microsoft \ Fiddler2

3. เราจะเจอหน้าจอตามรูป ให้เราคลิกขวาในส่วนช่องว่างทางด้านขวาเพื่อเพิ่มค่าเข้าไป ตามรูปครับ

4. จากนั้นเพิ่มค่าเข้าไปตามตำแหน่งลูกศรสีแดงที่ในรูปตามข้อ 2

5. ยืนยันการเพิ่มค่า จากนั้นลองปิด-เปิดโปรแกรม Fiddler อีกครั้งครับ

เสร็จสิ้นกระบวนการ

 

 

 

ปิดท้ายด้วย link สำหรับ Nokia Pro Cam ครับ

Link: http://www.windowsphone.com/en-us/store/app/nokia-pro-cam/bfd2d954-12da-415c-ad99-69a20f101e04?signin=true

QR Code:

from:http://www.appdisqus.com/2013/08/07/download-nokia-cam-pro-on-your-lumia-9xx-device.html

รีวิวกล้อง 41 ล้านพิกเซล ของ Nokia Lumia 1020 และ Nokia Pro Cam

 

หลังจากที่ Nokia Lumia 1020 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เราเชื่อแน่ว่า เพื่อนๆ ที่กำลังสนใจจะซื้อสมาร์ทโฟนตัวท็อปของ Windows Phone 8 ที่มีอยู่ในตลาดขณะนี้ จะต้องหยุดรอ เพื่อพิจารณาเจ้า Nokia Lumia 1020 อย่างแน่นอน  ซึ่งสิ่งที่ดึงดูดเราไว้ คงหนีไม่พ้น กล้องถ่ายรูป 41 ล้านพิกเซล ที่เคยสร้างความประทับใจไว้กับ Nokia 808 PureView เอาไว้นั่นเอง

 

นอกจากนี้  Nokia Lumia 1020 ยังมาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 4.5 นิ้ว ที่เหมาะสมกับการใช้งานร่วมกับกล้องคุณภาพสูงเป็นอย่างมาก  และยังมีแอพพลิเคชั่นสุดเจ๋งที่เรายังไม่เคยเห็นมาก่อนบน Nokia Windows Phone นั่นคือ แอพ Nokia Pro Cam นั่นเอง

 

สำหรับบทความนี้ เราก็อยากให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกับกล้อง 41 ล้านพิกเซล ของ Nokia Lumia 1020 อย่างเต็มอิ่มครับ เพื่อจะได้คำตอบว่า เจ้า Nokia Lumia 1020 คุ้มค่ากับการรอคอยของเราหรือไม่ ? กล้องคุณภาพสูงมันเกินจำเป็นสำหรับเราหรือเปล่า ? เราสมควรรอ Nokia Lumia 1020 หรือ ซื้อ Nokia Lumia 925 ที่ขายอยู่ในตลาดตอนนี้ได้เลย ?

 

รีวิวด้านฮาร์ดแวร์(Hardware)

สำหรับกล้องหลัก ของ Nokia Lumia 1020  มีขนาดเซ็นเซอร์มาตรฐาน 41 ล้านพิกเซล ความละเอียด 7712 x 5360 พิกเซล  มาพร้อมระบบลดการสั่นไหวของภาพ(OIS), เทคโนโลยีถ่ายภาพในพื้นที่แสงน้อย PureView, เซ็นเซอร์แบบ BSI, เลนส์ 6 ชิ้น และ ซูมแบบความละเอียดสูง 3 เท่า นอกจากนี้แล้ว

 

• ขนาดเซ็นเซอร์: 1/1.5 นิ้ว
• ค่ารูรับแสง (F number/aperture): f/2.2
• ความยาวโฟกัสของกล้อง: 26 มม.
• ระยะโฟกัสต่ำสุดของกล้อง: 15 ซม.*
• ประเภทแฟลช: Xenon flash
• ช่วงปฏิบัติการแฟลช: 4.0 ม.

 

สำหรับเลนส์ Carl Zeiss Tessar ของ Nokia Lumia 1020 เป็นเลนส์ 6 ชิ้น ที่มีกระจกป้องกันอยู่ภายนอก ซึ่งตอนแรกก็แอบกังวลไม่น้อยว่ากระจกตัวนี้จะเป็นรอยง่ายหรือเปล่า เพราะเครื่องเรามันก็มหาแพงด้วยสิ แต่เมื่อเช็คดูดีๆ ก็พบกว่ากระจกตัวนี้เป็น Corning Gorilla Glass 3 ที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้สูงมาก ก็เบาใจไปเยอะเลยครับ

 

หากดูจากสเปคแล้ว เราก็จะเห็นว่า Nokia Lumia 1020 ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องถ่ายรูปที่ดีที่สุด ยากที่ใครจะตามทัน ไม่ว่าจะเป็นในระบบปฏิบัติการใดก็ตาม แต่ก็มีจุดด้อยที่ไม่น่ามีเลย นั่นคือ ระยะโฟกัสต่ำสุดที่ 15 เซนติเมตร นั่นเอง ซึ่งสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 เครื่องอื่นๆ อย่างเช่น Nokia Lumia 925 มีระยะโฟกัสต่ำสุดเพียง 8 เซนติเมตร เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ แสดงว่า Nokia Lumia 1020 จะถ่ายภาพได้ดีกว่าสมาร์ทโฟนเครื่องอื่น ก็ต่อเมื่อวัตถุอยู่ห่างจากตัวกล้องมากกว่า 15 เซนติเมตรขึ้นไป

 

แม้ว่า ฟีเจอร์ zoom later(ถ่ายห่างจากวัตถุในระยะที่เหมาะสมแล้วค่อยมาซูมเข้าและตัดภาพทีหลัง) จะทำงานได้ดี เพราะกล้องมีความละเอียดสูง แต่ก็ถือว่าข้อด้อยตัวนี้ก็ลดความเท่ของกล้อง 41 ล้านพิกเซลของ Nokia Lumia 1020 ลงไปเยอะพอสมควรเลยครับ

 

Camera Grip จำเป็นไหม ?

 

สำหรับเจ้าอุปกรณ์เสริมตัวนี้ ส่วนตัวมองว่าไม่จำเป็นครับ แต่ถือว่าเป็นความแปลกใหม่ที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเจ้าอุปกรณ์เสริมนี้มาพร้อมคุณสมบัติ 3 อย่างคือ

• เป็นเคสสำหรับป้องกันรอยขีดข่วน
• เป็นแบตเตอร์รี่สำรองให้กับเจ้า Nokia Lumia 1020 โดยมีความจุ 1,020 mAh ซึ่งจะสามารถชาร์จแบตของเจ้า Nokia Lumia 1020  ได้ถึง 50%  จากเดิมที่ Nokia Lumia 1020 มีความจุของแบตเตอรี่ 2,000 mAh
• เสริมความหนาให้ตัวเครื่องเพื่อความถนัดสำหรับการถ่ายรูปด้วยมือเดียว

 

โดยเจ้าอุปกรณ์เสริมนี้จะมีปุ่มชัตเตอร์ในตัว มีช่องสำหรับพอร์ต microUSB เพื่อชาร์จไฟ และมีช่องสำหรับต่อขาตั้งกล้อง (Tri-pod) ที่จะช่วยให้เราสามารถถ่ายภาพ พาโนรามา, HDR และถ่ายวีดีโอได้ดียิ่งขึ้น  อย่างไรก็ตาม มันจะน่าใช้ น่าซื้อแค่ไหน ก็ต้องขึ้นอยู่กับราคาที่ขายในประเทศไทยด้วยครับ แต่หากมันแถมมาด้วย ขอบอกเลยว่าคุ้มค่าแน่นอนครับ

 

Software กล้อง Nokia Lumia 1020

ด้านซอฟแวร์กล้องของ Nokia Lumia 1020 จะขอเริ่มตั้งแต่ซอฟแวร์หรือตัวโปรแกรมที่ติดการกับกล้องครับ ซึ่งสำหรับหน้าตาการใช้งานแล้วไม่ได้แตกต่างจาก Windows Phone เครื่องอื่นๆ เลย เมื่อเรากดเครื่องหมาย 3 จุด เพื่อเข้าเมนูตั้งค่า ก็จะเห็นเมนู Photo Setting และ Video Setting เช่นกัน และเมื่อเราเลือก Photo Setting เข้ามาหน้าตาก็เป็นดังรูปครับ จะมีข้อแตกต่างกับเครื่อง Windows Phone อื่นๆ ก็คงเป็นรายละเอียดของแต่ละเมนู ซึ่งมีดังต่อไปนี้ครับ

 

การตั้งค่าการถ่ายภาพ:

• Scenes: Close-up, Night, Night Portrait, Sports, Backlight และ Auto
• ISO: Auto และ 100-3200
• Exposure Value: +2 จนถึง -2 stop
• White Balance: Auto, Cloudy, Daylight, Fluorescent, Incandescent
• Aspect Ratio: 16:9 และ 4:3
• Focus Assist Light: On หรือ Off

 

สำหรับตัวแอพที่ติดมากับเครื่อง(Native Windows Phone App) นั้น จำกัดการถ่ายภาพที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล หรือไม่ก็ 38 ล้านพิกเซล เอาไว้สำหรับลดขนาดและซูม+ตัด ภายหลัง

 

การตั้งค่าการถ่ายวีดีโอ:

• White Balance: Auto, Cloudy, Daylight, Fluorescent, Incandescent
• Continuous Focus: On หรือ Off
• Video Mode:  720p และ 1080p

 

นอกจากแอพที่ติดมากับเครื่องแล้ว ยังมีแอพพลิเคชั่นเสริมที่มีความสามารถสูงติดมากับ Nokia Lumia 1020 นั่นคือแอพ Nokia Pro Cam ซึ่งปัจจุบันมีอยู่เฉพาะบน Nokia Lumia 1020 เท่านั้น แต่คาดว่าในอนาคตอันใกล้ อาจมาลงให้ Nokia Lumia 920 และ Nokia Lumia 925 ที่มีแรม 1GB ให้สามารถใช้ได้เช่นกันครับ

 

แอพ Nokia Pro Cam เป็นแอพพลิเคฃั่นที่จะมาเสริมความสามารถของแอพพื้นฐานของ Nokia Lumia 1020 ให้สามารถตั้งค่ากล้องได้หลากหลายมากขึ้น ทั้ง ความเร็วชัตเตอร์, ISO, white balance, โฟกัส และฟีเจอร์ต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งเราสามารถเข้าสู่การตั้งค่าได้ทีละตัวจากแถบเมนูบริเวณขอบจอด้านบน หรือจะลากปุ่มชัตเตอร์ที่อยู่บริเวณขอบจอด้านขวามือเราออกมาตรงกลาง ก็จะทำให้เรามองเห็นเมนูพร้อมกันทั้งหมดได้ ซึ่งจะแสดงเป็นแอฟเฟ็กต์ที่สวยงามมากครับ(ชมได้ในคลิป)

 

 

นอกจากการเข้าถึงการตั้งค่าจากแถบเมนูบริเวณขอบจอด้านบนแล้ว เราสามารถเข้าไปที่ ปุ่มสามจุด เพื่อเข้าสู่การตั้งค่าอื่นๆ ได้อีก ซึ่งประกอบด้วย

 

การตั้งค่าการถ่ายวีดีโอ:

• Framing Grids: Rule of thirds, Golden Ratio, Crosshairs, Square
• Resolution and Frame Rate: 1080p/30fps, 1080p/25fps, 1080p/24fps, 720p/30fps, 720p/25fps, 720p/24fps
• Audio Bass Filter: Off, Default (100Hz) และ Strong (200Hz)

 

การตั้งค่าการถ่ายภาพ:

•  Framing Grids: Rule of thirds, Golden Ratio, Crosshairs, Square
• Aspect Ratio: 16:9 และ 4:3
• Capture Mode: 5MP, 5MP + 38MP
• Facial Detection: On และ Off

 

สำหรับความละเอียดภาพ 5MP + 38MP หมายความว่ากล้องจะถ่ายออกมาและบันทึกไว้ 2 รูป ได้แก่ รูปที่ 1 ความละเอียด 5MP และรูปที่ 2 ความละเอียด 38MP สำหรับรูปที่ 2 นี้ หากเราตั้งอัตราส่วนภาพเป็น 4:3 เราจะได้ ความละเอียด 38MP แต่หากเราตั้งอัตราส่วนภาพเป็น 16:9 แล้ว เราจะได้ ความละเอียด 34MP แทน

 

 

นอกจากนี้ เมื่อเราถ่ายรูปหรือวีดีโอไปเรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถใช้ฟีเจอร์  zoom later และ video trimmer เพื่อแก้ไขรูปและวีดีโอได้ สำหรับ zoom later นั้นเป็นการนำประโยชน์จากความละเอียดที่สูงลิบลิ้วของ Nokia Lumia 1020 มาใช้ นั่นคือ เราถ่ายภาพระยะไกลมากแล้วทำการซูมภาพเข้าออกตามที่เราต้องการ ตัดแต่ง ปรับขนาด อัตราส่วน  และหมุนรูปภาพได้ตามใจชอบ แล้วก็บันทึกหรือแชร์ต่อไปได้เลยครับ ซึ่งฟีเจอร์ zoom later นี่หละครับ ที่จะมาช่วยแก้ปัญหาระยะโฟกัสของ Nokia Lumia 1020 ที่เรากล่าวถึงในช่วงต้นของบทความได้

 

 

ปล. แม้จะตัดแต่งรูปภาพด้วยฟีเจอร์ zoom later แล้ว เราก็สามารถกลับไปดูรูปภาพเต็มอันเดิมได้อยู่นะครับ

 

วีดีโอแนะนำฟีเจอร์ Nokia Pro Cam

 

ข้อเสียของ Nokia Pro Cam

หากว่าด้วยเรื่องประสิทธิภาพของแอพพลิเคชั่นแล้ว ถือว่าเป็นแอพถ่ายรูปที่ออกแบบได้ทั้งสวยงามและมีประสิทธิภาพสูง แต่เนื่องจากยังเป็นเวอร์ชั่นแรก ดังนั้น Nokia Pro Cam ก็ย่อมมีหลายๆ อย่างที่เราอยากให้ปรับปรุงให้ดีขึ้น

 

เรื่องแรกก็คือ  ความรวดเร็วในการเข้าถึงแอพพลิเคชั่นจากหน้าล็อคหน้าจอ ที่แม้ว่าจะสามารถตั้งค่าให้ปุ่มกดชัตเตอร์ข้างตัวเครื่องเป็นการกดเข้าสู่ Nokia Pro Cam ได้เลย และสามารถกดค้างเพื่อเข้าสู่แอพ Nokia Pro Cam พร้อมถ่ายได้แม้เราจะล็อคหน้าจออยู่ก็ตาม แต่หากเราใส่รหัส PIN เอาไว้แล้วหละก็ การกดค้างก็จะไปติดรหัส PIN อยู่เช่นเดิม จะไม่สามารถเข้าสู่แอพ Nokia Pro Cam ได้

 

เรื่องที่สอง Nokia Pro Cam ควรที่จะสามารถบันทึกการตั้งค่าเริ่มต้นได้ สำหรับเวอร์ชั่นนี้หากเราออกจากแอพพลิเคชั่นไปสักพักแล้ว มันจะปรับโหมดทั้งหมดเป็น Auto เลยครับ(ยกเว้นการตั้งค่า flash) ทั้งๆ ที่แอพพลิเคชั่นอื่น อย่าง Proshot บน Windows Phone ก็ยังทำได้ แต่ Nokia Pro Cam ทำไม่ได้ ? อันนี้ไม่สมกับคำว่า Pro ที่อยู่ในแอพเลย

 

เรื่องที่สาม หลังจากกดถ่ายไปแล้ว แอพพลิเคชั่นต้องใช้เวลา 2-3 วินาทีในการประมวลผล ซึ่งถือว่าน่าขัดใจเป็นอย่างมาก หากเรากำลังถ่ายรูปวัตถุที่เครื่องไหว หรือเหตุการณ์ที่ต้องใช้ความเร็วในการกดชัตเตอร์ เราก็เข้าใจว่าระบบต้องประมวลผลก่อนซึ่งไฟล์ภาพมีขนาดใหญ่มาก แต่หากโนเกียสามารถทำให้มันเร็วขึ้นอีกสักนิดได้ก็จะดีมากครับ

 

สุดท้ายก็เป็นความผิดพลาดในการประมวลผลของ Nokia Pro Cam ที่เกิดขึ้นได้ในบางครั้ง ซึ่งสร้างความรำคาญใจให้บ้าง แม้มันจะเล็กน้อย แต่ทางโนเกียก็ควรเร่งปรับปรุงให้ดีขึ้นในเวอร์ชั่นต่อๆ ไป

 

เห็นได้ชัดเลยครับว่า โนเกียต้องการให้ Nokia Pro Cam เป็นแอพชูโรงของ Nokia Lumia 1020 ดังนั้นจึงคาดว่าปัญหาเหล่านี้ย่อมได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วแน่นอน ไม่แน่เมื่อมันออกขายในประเทศไทย ปัญหาเหล่านี้อาจหมดไปแล้วก็ได้ครับ แต่อย่างไรก็ตามซอฟท์แวร์ที่ติดมากับกล้องก็ยังทำงานได้ดีและสมบูรณ์ เราก็สามารถใช้งานเป็นแอพหลักได้ ในกรณีพิเศษเราค่อยเลือก Nokia Pro Cam ในการถ่ายรูปเองได้ครับ

 

ตัวอย่างภาพถ่ายและวีดีโอ

การถ่ายภาพถือว่าปรับปรุงทั้งคุณภาพสีและแสงให้มีประสิทธิภาพขึ้นมากจา Nokia Lumia 920 เป็นอย่างมาก ทั้งภาพถ่ายตอนกลางวัน และภาพถ่ายในพื้นที่แสงน้อย โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่เราสามารถปรับความเร็วชัตเตอร์ได้แล้ว ก็ยิ่งทำให้การจับภาพที่เคลื่อนไหวอยู่ได้เร็วขึ้น ทำให้ภาพไม่เบลอแม้วัตถุจะเคลื่อนไหวอยู่

ตัวอย่างภาพถ่าย

• ตัวอย่างภาพระยะไกล

 

• ตัวอย่างภาพกลางแจ้ง

 

• ตัวอย่างภาพในร่ม

 

• ตัวอย่างภาพตอนกลางคืน

 

• เปรียบเทียบภาพตอนเปิด flash และ ปิด flash 

 

 

สำหรับเรื่องการถ่ายวีดีโอนั้น Nokia Lumia 1020 ก็ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์เด่นอย่างระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS มีช่วยให้ภาพวีดีโอออกมาสวยงามและนิ่งมากขึ้น และยังมาพร้อมการบันทึกเสียงแบบสเตอรีโอ(Stereo recording) ทำให้คุณภาพของวีดีโอดีขึ้นมากจาก Nokia Lumia รุ่นอื่นๆ

• ตัวอย่างคลิปวีดีโอ

 

สรุปผลการรีวิว

 

หากเรากำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่กล้องดีที่สุดบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone ตอนนี้เราก็มีคำตอบที่ชัดเจนที่ยอมรับได้ทุกคนแล้วนะครับว่า มันคือ Nokia Lumia 1020 นั่นเอง แต่หากเปรียบเทียบกับระบบอื่น อย่างเช่น Samsung Galaxy S4 Zoom แล้วก็ยังถือว่าเหนือกว่ามากในหลายๆ ด้าน แต่จะด้อยกว่าตรง Samsung Galaxy S4 Zoom นั้น มี Optical Zoom 10X นั่นเอง ซึ่งโนเกียก็งัดฟีเจอร์ Zoom later มาช่วยลบจุดอ่อนตัวนี้ไปได้

 

นอกจากแอพพลิเคชั่น Nokia Pro Cam ก็ยังมีแอพเสริมอื่นๆ อีกมากมายที่จะมาช่วยทำให้ Nokia Lumia 1020 โดดเด่นและสมบูรณ์แบบด้านการถ่ายภาพได้  ทั้ง Creative Studio, Proshot และ CameraPro เป็นต้น หากเรามีแอพพลิเคชั่นพวกนี้ติดเครื่องไว้ด้วยแล้ว กล้อง Nokia Lumia 1020  ก็ยิ่งไร้เทียมทานเลยครับ

 

สำหรับข้อเสียที่ต้องปรับปรุงก็จะเป็นด้านซอฟท์แวร์ที่จะมาช่วยเพิ่มคุณภาพของรูปถ่ายให้ดียิ่งขึ้น และการโฟกัสระยะใกล้ที่ทำได้แย่กว่า Nokia Lumua 920 ซะอีก แม้ฟีเจอร์ zoom later จะมาช่วยแก้จุดอ่อนนี้ได้ มันก็ทำให้ผู้ใช้อย่างไรแอบผิดหวังเล็กๆ ครับ

 

ส่วนเรื่องตัวเครื่องก็เบากว่า Nokia Lumua 920 จับถนัดมือ และหากใช้ Grip ด้วยก็จะยิ่งทำให้เรามีความสุขในการถ่ายรูปมากขึ้นไปอีกครับ

 

หากถามว่าคุ้มค่าหรือไม่ที่จะซื้อ ? ตอนนี้เราตอบไม่ได้ เพราะในไทยยังไม่นำเข้ามาขาย แต่คากว่าราคาคงประมาณสองหมื่นกลางๆ เพราะหากสูงกว่านี้คงขายไม่ได้เลย และการที่รุ่นปัจจุบันในไทย ทยอยลดราคาลงมาเรื่อยๆ นั้น คาดว่าก็เพื่อสร้างส่วนต่างที่เหมาะสมกับ Nokia Lumia 1020 นั่นเอง แสดงว่าโนเกีย ประเทศไทย จะขายในราคาที่ไม่สูงเหมือนต่างประเทศ

 

ถ้าได้ราคานี้จริง ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับคนรักการถ่ายภาพครับ

 

 ตัวอย่างภาพถ่ายเพิ่มเติม

• ภาพถ่ายขนาดเต็ม

 

•  ภาพถ่ายหลังจากใช้ฟีเจอร์ Zoom later

 

 

•  ภาพถ่ายตอนกลางคืน 

 

•  ภาพถ่ายกลางแจ้ง

 

ที่มา:

Nokia Lumia 1020 – A closer look at the 41MP PureView camera

from:http://www.appdisqus.com/2013/08/06/reviews-41mp-camera-of-nokia-lumia-1020.html