กูเกิลและแอปเปิลร่วมกันบล็อคการอัพเดตแอป NHS COVID-19 ที่ใช้สอบสวนโรค (contact tracing) COVID-19 หลังจากทาง NHS เพิ่มฟีเจอร์สแกน QR หน้าร้านค้าต่างๆ เข้าไปในแอป ทำให้แอปทำผิดข้อตกลงการใช้งานฟีเจอร์ Exposure Notification API
แอปเปิลและกูเกิลเปิดฟีเจอร์ Exposure Notification API ให้รัฐบาลหลายชาติใช้งาน โดยมีจุดเด่นสำคัญคือ API นี้จะเปิดทางให้แอปสามารถแลกเปลี่ยนแพ็กเก็ต Bluetooth กับโทรศัพท์ที่อยู่ใกล้กันได้แม้จะไม่ได้เปิดแอปทำงานบนหน้าจอ (foreground) ก็ตาม อย่างไรก็ดีทั้งสองบริษัทห้ามไม่ให้หน่วยงานที่ใช้งาน API นี้เก็บข้อมูลพิกัดผู้ใช้จากช่องทางอื่นๆ ลงในแอปอีก เมื่อแอป NHS COVID-19 พยายามเพิ่มฟีเจอร์นี้จึงกลายเป็นการละเมิดข้อตกลงไป
Richard Kerr ประธานกรรมการ Royal College of Surgeons กล่าวว่า ปัจจุบันมีนวัตกรรมดิจิทัลช่วยในการแพทย์มาก เช่น AI, Cloud จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลงทุนในวิธีที่ดีกว่าในการสื่อสารข้อมูลผู้ป่วยจำนวนมากที่จะเกิดขึ้น
National Health Service (NHS) ระบบประกันสุขภาพของรัฐบาลอังกฤษ ลงทุนในศูนย์บำบัดการเสพติดอินเทอร์เน็ต หรือ Centre for Internet Disorders ในลอนดอน โดยเน้นที่การเสพติดเกมเป็นหลัก เป็นความเคลื่อนไหวหลังจาก องค์การอนามัยโลกหรือ WHO กำหนดให้การติดเกมเป็นอาการผิดปกติทางจิตอย่างเป็นทางการ
ตัวศูนย์จะบริหารและดำเนินการโดยมูลนิธิ Central and North West London NHS จะเริ่มจากเป็นสถานบำบัดคนติดเกม ทำงานวิจัยเกี่ยวกับภาวะติดเกม รวมทั้งให้คำแนะนำผู้ปกครอง และจะขยายขอบข่ายไปยังบำบัดการเสพติดอินเทอร์เน็ตในรูปแบบอื่นๆ
เมื่อระบบ IT เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตของผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มมีข่าวที่ระบบ IT เกิดผิดพลาดจนส่งผลต่อชีวิตของผู้คนโดยตรง ในครั้งนี้อัลกอริธึมของระบบทางด้านสาธารณสุขในสหราชอาณาจักรนั้นมีความผิดพลาดตั้งแต่เมื่อปี 2009 จนทำให้สตรีสูงวัยกว่า 450,000 รายไม่ได้รับนัดเข้าไปตรวจมะเร็ง และบางคนก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งไปแล้ว
Credit: ShutterStock.com
Jeremy Hunt รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขแห่งสหราชอาณาจักร ได้ออกมาประกาศถึงความผิดพลาดของระบบคอมพิวเตอร์ในปี 2009 ที่ทำให้สตรีสูงวัยในช่วงอายุ 68 – 71 ปีกว่า 450,000 รายไม่ได้เข้ารับการตรวจมะเร็งเต้านมครั้งสุดท้าย โดยอัลกอริธึมที่ผิดพลาดนี้คือระบบนัดผู้ป่วยที่พัฒนาโดย National Health System (NHS) และความผิืดพลาดดังกล่าวก็เพิ่งถูกค้นพบเมื่อเร็วๆ นี้ในระหว่างที่มีการปรับปรุงการทำงานของระบบอัลกอริธึม
ครั้งนี้ดวงซวยมาเกิดกับสถาบันการศึกษาระดับโลกอย่าง University College London หรือที่รู้จักกันในชื่อ UCL ซึ่งมีรายงานว่าเพิ่งถูกโจมตีอย่างหนักจากแรนซั่มแวร์ โดยกระทบถึงระบบไอทีในมหาวิทยาลัยที่สำคัญอย่างเช่น ระบบจัดการระเบียนนักศึกษา และไดรฟ์แชร์ข้อมูลต่างๆ
ถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ในอังกฤษให้หลังแค่ไม่กี่สัปดาห์หลังจากเหตุที่เกิดขึ้นกับ National Health Service หรือ NHS ที่โดนเล่นงานจากแรนซั่มแวร์ชื่อดังอย่าง WannaCry ซึ่งครั้งนี้ทาง UCL เชื่อว่ามีการติดเชื้อมาจากเมล์หลอกลวงที่มีไฟล์แนบหรือลิงค์อันตราย โดยมองว่าเป็นการโจมตีที่อาศัยช่องโหว่ที่ยังไม่ได้มีการเปิดเผยมาก่อน หรือ Zero-day