Huawei ปล่อย EMUI 9.1.0.123 ออกมาให้ Mate 20 series ได้อัพเดทแล้ว มาพร้อม Moon Mode และ Ark Compiler

Huawei ปล่อยซอฟต์แวร์ EMUI 9.1.0.123 ออกมาให้สมาร์ทโฟน Mate 20 series ได้อัพเดทแล้ว โดยรองรับสมาร์ทโฟน Huawei Mate 20, Mate 20 Pro, Mate 20 RS Porsche และ Mate 20 X

อย่างไรก็ตาม ก่อนการอัพเดทมาใช้ EMUI 9.1.0.123 สมาร์ทโฟนรุ่น Mate 20 กับ Mate 20 X จะต้องเป็นเวอร์ชั่น 9.1.0.120 หรือ 9.0.0.200 ส่วนสมาร์ทโฟน Mate 20 Pro กับ Mate 20 RS Porsche Design จะต้องทำงานบนเวอร์ชั่น 9.0.0.201 และสมาร์ทโฟนทั้ง 4 รุ่น จำเป็นต้องมีพื้นที่ว่างถึง 6GB

EMUI 9.1.0.123 มาพร้อมฟีเจอร์กล้อง Moon Mode ซึ่งใช้ AI มาช่วยถ่ายภาพดวงจันทร์ โดยกล้องจะเปิด Moon Mode ให้อัตโนมัติ เมื่อหันกล้องไปมองดวงจันทร์ และจะปรับค่ากล้องให้เหมาะสำหรับการถ่ายภาพดวงจันทร์ ทั้งนี้ Moon Mode ใช้ได้กับรุ่น Mate 20 Pro และ Mate 20 RS Porsche Design

EMUI 9.1.0.123 ยังมาพร้อม Ark Compiler ที่ Huawei พัฒนาขึ้นมาให้สมาร์ทโฟนสามารถรันแอพได้ราบรื่น และรวดเร็วยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ EMUI 9.1.0.123 ยังปรังปรุงกล้องหน้า ให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น ช่วยลดจุดรบกวน และปรับสีสันให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมถึงปรับปรุงฟีเจอร์สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อค และแก้ไขข้อผิดพลาดที่พบในแท็บค้นหาของการตั้งค่า

ที่มา – Gizchina
https://www.flashfly.net/wp/259361

from:https://www.flashfly.net/wp/259361

Huawei Mate 20 Pro และ Mate 20 X ได้รับฟีเจอร์ถ่ายภาพ Moon Mode หลังจากอัพเดทมาใช้ EMUI 9.1

โหมดถ่ายภาพดวงจันทร์ ที่มาพร้อมกับสมาร์ทโฟน Huawei P30 Pro กำลังจะถูกขยายไปยังรุ่น Mate 20 Pro และ Mate 20 X ในเร็วๆ นี้ เมื่อสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น ได้รับการอัพเดทเป็น EMUI 9.1

แหล่งข่าวรายงานว่า Huawei จะปล่อย EMUI 9.1 ออกมาให้สมาร์ทโฟน Mate 20, Mate 20 Pro, Mate 20 X และ Mate RS Porsche Design ได้รับการอัพเดทในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ แต่จะมีเฉพาะ Mate 20 Pro และ Mate 20 X เท่านั้น ที่ได้รับ Moon Mode

ที่มา – Gizchina
https://www.flashfly.net/wp/256810

from:https://www.flashfly.net/wp/256810

ข่าวดี! Google ใส่ชื่อ HUAWEI Mate 20 Pro ในลิสต์ Andriod Q Beta อีกครั้ง

เมื่อวันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา Google ลบชื่อและข้อมูลของ HUAWEI Mate 20 Pro ที่เกี่ยวข้องกับ Android Q Beta ออกจากเว็บไซต์ แต่ขณะนี้ Google นำข้อมูลที่ลบออกไปกลับมาอีกครั้ง จึงเป็นที่คาดหมายว่า HUAWEI จะยังคงเป็นพันธมิตรกับ Google ในโครงการ Android Q Beta ซึ่งเป็นโครงการที่ Google จะส่งซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นทดสอบ ให้กับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้สมาร์ทโฟนจากผู้ผลิตที่ Google ให้การรับรอง

ที่มา – Android
https://www.flashfly.net/wp/253346

from:https://www.flashfly.net/wp/253346

Huawei Mate 20 Pro ถูกลบออกจากโปรแกรมทดสอบ Android Q

ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Google ได้ปล่อยระบบปฏิบัติการ Android Q เวอร์ชั่น Beta 3 ออกมาให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ และผู้ใช้งานทั่วไปได้ดาวน์โหลด แต่รองรับสมาร์ทโฟน 21 รุ่น เท่านั้น โดยมี Huawei Mate 20 Pro รวมอยู่ในนั้นด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจาก Huawei ถูกสหรัฐอเมริกาคว่ำบาตร ไม่ให้ทำการค้ากับบริษัทในอเมริกา ส่งผลให้ Google ต้องถอดสมาร์ทโฟน Huawei Mate 20 Pro ออกจากรายชื่อสมาร์ทโฟนที่สามารถทดลองใช้ Android Q ขณะที่สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ จากผู้ผลิตจีน ยังดำเนินการได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็น OnePlus 6T, OPPO Reno, realme 3 Pro, Vivo X27, Vivo NEX S, Xiaomi Mi 9 และ Mi MIX 3 5G เนื่องจากแบรนด์เหล่านี้ไม่ได้ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ

ถ้าหากทางการสหรัฐฯ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง อุปกรณ์ของ Huawei ที่จะออกมาในอนาคต จะไม่ได้รับระบบปฏิบัติการ Android จาก Google แล้ว แต่เราอาจจะได้เห็นระบบปฏิบัติการใหม่ที่ Huawei พัฒนาขึ้นเอง และสามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นจาก Android ได้

สำหรับสมาร์ทโฟนของ Huawei และ Honor ที่วางจำหน่ายไปแล้วก่อนหน้านี้ ยังคงได้รับการอัพเดทแอพพลิเคชั่นจาก Play Store และแพตช์ความปลอดภัยได้ตามปกติ

ที่มา – Gizchina
https://www.flashfly.net/wp/252041

from:https://www.flashfly.net/wp/252041

Huawei Mate 20 Series ถูกจัดส่งไปแล้วมากกว่า 10 ล้านเครื่อง ใช้เวลาเร็วกว่ารุ่นก่อน 2 เท่า!!

Yu Chengdong หรือ Richard Yu ซีอีโอของ Huawei Consumer Business Group เปิดเผยยอดจัดส่งของสมาร์ทโฟนระดับเรือธง Huawei Mate 20 Series ซึ่งได้รับการเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2018 ถูกจัดส่งไปแล้วมากกว่า 10 ล้านเครื่อง ถึงแม้จะมีเวลาอยู่ในตลาดไม่ถึง 5 เดือน

เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนอย่าง Huawei Mate 10 Series ใช้เวลา 10 เดือน ในการสร้างยอดจัดส่ง 10 ล้านเครื่อง นั่นหมายถึง Huawei Mate 20 Series ใช้เวลาในการจัดส่งเร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 2 เท่า

Huawei Mate 20 Series ยังทำลายสถิติยอดขายในประเทศจีน ที่อดีตเรือธง Mate 10 และ P Series เคยทำไว้ และสร้างยอดขายที่น่าประทับใจในยุโรปตะวันตก, ตะวันออกกลาง, เอเชียแปซิฟิก และภูมิภาคอื่นๆ

ผู้บริหารของ Huawei ยังพบว่า กลุ่มลูกค้า Mate 20 Series ในประเทศจีนที่เป็นผู้หญิง และมีอายุต่ำกว่า 35 ปี มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับ Mate 10 Series แต่ถ้าเจาะจงลงไปที่รุ่น Mate 20 Pro จะพบว่าผู้ใช้งานที่เป็นผู้หญิง มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับ Mate 10 Pro ทำให้ Huawei พบว่ากลุ่มลูกค้า Mate 20 Series ได้ขยายเข้าไปยังคนรุ่นใหม่และผู้หญิงมากขึ้น

นอกจากนี้ ที่งาน Mobile World Congress 2019 ที่ผ่านมา Huawei Mate 20 Pro สามารถเบียดเรือธงคู่แข่งด้วยการคว้ารางวัล Best Smartphone จากผู้จัดงานดังกล่าว ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นรางวัล Oscar ของอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ ถือเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของสมาร์ทโฟน Mate 20 Series

ที่มา – MyDrivers
https://www.flashfly.net/wp/244468

from:https://www.flashfly.net/wp/244468

ทดสอบกล้องหลัง Samsung Galaxy S10 เปรียบเทียบกับ Smartphone เรือธงอีก 6 รุ่นเรือธง ใครจะดีที่สุด มาดูกัน

งานที่ใครหลายคนน่าจะรอคอยอยู่ วันนี้เราจัดมาให้ได้ชมกันอีกครั้งกับการเปรียบเทียบภาพถ่ายระหว่าง Galaxy S10+ และเหล่ามือถือเรือธงค่ายต่างๆ โดยเราได้ขนมาเทียบให้ดูอย่างจุใจถึง 6 รุ่นยอดฮิตในท้องตลาดด้วยกัน ซึ่งใน Galaxy S10 เค้าก็เคลมว่ามีการพัฒนาความสามารถในด้านภาพถ่ายเพิ่มเติมขึ้นอีกเพียบ มีกล้องให้ใช้ได้ถึง 3 กล้อง ทั้ง Ultra Wide, Wide, และ Tele แต่จะดีแค่ไหนเดี๋ยวเรามาดูกันครับ

เนื่องจากทุกวันนี้ เวลาเราจะเลือกซื้อโทรศัพท์ Smartphone สักเครื่องนึง ปัจจัยหลักๆอย่างแรกๆที่คนทั่วๆไปจะถามมาเยอะที่สุดก็คือคุณภาพกล้องเป็นยังไงบ้าง ดีแค่ไหน สวยแค่ไหน แสงน้อยเป็นยังไง เปรียบเทียบกับรุ่นโน้นรุ่นนี้ ซึ่งการตอบก็อาจจะไม่ตรงใจนักเพราะคำว่าสวยของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะชอบสีตรงจริง บางคนอาจจะชอบสีสดๆเกินจริง เป็นต้น การทดสอบรอบนี้ ทาง Droidsans ก็เลยจะทดสอบโดยเอารูปมาให้ดูเปรียบเทียบกันเอง แล้วให้คนอ่านตัดสินใจเองครับ ทางเราจะเสริมในรายละเอียดต่างๆเพิ่มให้ โดยจะบอกว่าแสงของจริงสภาพแสงเป็นยังไง แล้วควรดูอะไรในภาพ

มาเริ่มกันเลยครับ

โทรศัพท์ Smartphone เรือธงที่จะเอามาเปรียบเทียบในครั้งนี้มีดังนี้ครับ

1. Samsung Galaxy S10
2. Samsung Galaxy Note 9
3. Apple iPhone Xs Max
4. Huawei Mate 20 Pro
5. Google Pixel 3
6. Xiaomi Mix 3
7. OnePlus 6T

และเพื่อให้เป็นการทดสอบที่เห็นผลชัดขึ้น ทางเราจะเลือกฉากที่มีสภาพสีหรือแสงที่ซับซ้อนเพื่อให้ยากต่อการตัดสินใจวัดแสงหรือของกล้อง เพื่อดูว่ากล้องแต่ละตัวจะตัดสินใจออกมายังไง แล้วการเปรียบเทียบในครั้งนี้ก็จะเทียบกันเฉพาะกล้องหลัก (กล้องหลัง) โดยเฉพาะครับ และการถ่ายทุกภาพจะใช้โหมดอัตโนมัติทั้งหมด เพราะเวลาคนใช้งานเอาไปใช้จริง ก็คงจะใช้โหมดนี้เป็นมาตรฐานครับ

ภาพเต็มความละเอียด

https://photos.app.goo.gl/nLKRQ8z8L1v3mJ1c7

ดูภาพจาก Gallery ด้านล่างไม่สะดวกเนื่องจากผ่าน Google AMP กดที่  เพื่อดู Gallery เต็มๆ

 

รูปที่ 1
เป็นฉากกลางแจ้ง ย้อนแสง โดยจะมีตึกอยู่ด้านหน้า แล้วท้องฟ้าที่มีดวงอาทิตย์อยู่ด้านหลัง ฉากนี้ถ้าดูด้วยตาเปล่าแล้ว ตึกด้านหน้าจะมืด เพราะย้อนแสงมาก ฉากนี้เพื่อจะดูว่าฉากที่มีความต่างของแสงมากแบบนี้ กล้องจะทำยังไงให้ท้องฟ้าด้านหลังและตึกด้านหน้าออกมาได้ภาพที่สมดุล

โดยรวมแล้วก็ถือว่าสอบผ่านได้ทุกตัวครับ ไม่มีภาพไหนที่มืดจนไม่เห็นตัวตึก หรือฟ้าสว่างจะไม่เห็นรายละเอียด จุดที่ต่างก็พวก White Balance และความหนักเบาในการทำ HDR

รูปที่ 2
รูปนี้เป็นฉากที่ย้อนแสง แต่จะไม่ได้ย้อนตรงๆแบบภาพแรกซะทีเดียว จะมีการสะท้อนแสงอาทิตย์ที่พื้นด้วย ฉากนี้ให้ดูรายละเอียดด้านตัวดึกด้านใน เพราะด้านในอยู่ในส่วนเงามืด แล้วก็ดูแสงอาทิตย์ที่สะท้อนที่พื้น ว่าการโทนแสงอาทิตยที่สะท้อนเป็นอย่างไรบ้าง รายละเอียดพื้นหายเป็นปื้นๆมั้ย การไล่โทนแสงดูเนียนธรรมชาติมั้ย

ฉากนี้ขอพูดเฉพาะของ Samsung Galaxy S10 ที่ทำออกมาได้ดีที่สุด คือการบาลานซ์โทนมืดและสว่างชองภาพทำได้ดี รวมไปถึงการไล่โทนแสงอาทิตย์ที่สะท้อนบนพื้น ทำออกมาได้เนียนตาที่สุดและเก็บรายละเอียดบนพื้นได้ดีที่สุดครับ

รูปที่ 3
รูปนี้เป็นฉากที่วัด Dynamic Range ของสี โดยสีที่จะมีปัญหาเยอะที่สุดคือสีแดง ก็เลยใช้สตรอเบอรี่สีแดงเป็นตัวทดสอบ แสงอาทิตย์ธรรมชาติลอดผ่านหน้าต่าง และสีของสตรอเบอรี่แต่ละลูกก็แดงไม่เท่ากัน เป็นการวัด AI ของกล้องด้วยว่าจะมองว่าฉากนี้เป็นอะไร และจะเร่งสีแดงขึ้นมาหรือไม่ แล้วถ้าเร่งขึ้นมาแล้วจะทำให้ Dynamic Range ชองสีหายไปหรือไม่ แล้วสีแดงของแต่ละลูกมีความต่างกันให้เห็นได้ชัด หรือว่าแดงไปหมด

ฉากนี้ยังไม่มีรูปไหนที่เหมือนของจริงเป๊ะ แต่จะมีใกล้เคียงที่สุดก็คือ Samsung Galaxy S10 แต่ก็ยังสดไปนิด ทำให้การไล่โทนสีแดงที่ต่างกันยังไม่ชัดนัก ส่วนของ iPhone Xs Max ไล่โทนได้ดีที่สุด แต่ก็สีแดงคล้ำไปหน่อย ส่วนของ Huawei Mate 20 Pro ก็สดเกินจริงไปมาก แล้วของ OnePlus 6T ออกมาอมม่วงไปหน่อย ส่วนของ Pixel 3 มืดเกินไป ถ้าสว่างกว่านี้ อาจจะออกมาดีที่สุดแทน

รูปที่ 4
รูปนี้เป็นฉากที่ย้อนแสงจากหน้าต่าง โดยมีหน้าจอคอมพิวเตอร์เปิดอยู่ เป็นการวัดคล้ายๆกับรูปที่ 1 แต่รูปนี้จะดูว่ารายละเอียดนอกหน้าต่างจะสามารถเก็บได้อยู่หรือไม่ และแสงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์จะสีจะเป็นอย่างไรและมืดเกินไปหรือไม่

ฉากนี้ถือว่ายากพอสมควร เพราะย้อนแสงมาก และด้านนอกก็แสงสว่างมาก แต่ภาพจาก iPhone Xs Max เป็นตัวเดียวที่เก็บรายละเอียดด้านนอกหน้าต่างไม่ได้เลย แต่จะเก็บรายละเอียดด้านในสว่างครบถ้วน ส่วน Mate 20 Pro เน้นเก็บแสงด้านนอกให้ครบไว้ก่อน ด้านในเลยมืดไปนิด ส่วน Mix 3 ถือว่าทำสมดุลระหว่าด้านนอกและด้านในได้ดี แต่ Note 9 ดูมีปัญหาในการทำ HDR นิดหน่อย ตรงจุดแจกันทางซ้ายมือของหน้าจอ จะมี Halo (ขอบสีขาว) รอบตัวแจกันเลย ซึ่งดูผิดธรรมชาติไปหน่อย ส่วน OnePlus 6T ถือว่าทำได้ดีเช่นกัน เก็บรายละเอียดครบ แต่ก็ดูภาพแบนไปนิดนึง เพราะความต่างระหว่างแสงด้านนอกกับด้านใน โดน HDR บีบ ทำให้ส่วนสว่างด้านนอก กับส่วนมืดด้านใน เกือบจะเท่าๆกัน ไม่ตรงกับที่ตาเห็นนัก ส่วน Pixel 3 ก็ดูคอนทราสจัดจ้าน ตรงกับที่ตาเห็นตามแสงจริง โดยแทบไม่ได้ปรับช่วยในส่วนมืดขึ้นมา เพื่อต้องการเก็บภาพให้ตรงความจริงที่สุด โดยที่รายละเอียดนอกหน้าต่างยังพอมีอยู่ ส่วน S10 ถือว่าทำสมดุลได้ดี ด้านในสว่าง และยังเก็บรายละเอียดนอกหน้าต่างได้ครบ และ HDR ไม่ดูหลอกตา

รูปที่ 5
รูปนี้สภาพแสงเป็นแสงธรรมชาติจากริมหน้าต่าง และมีแสงสี Warm Tone ผสมเข้ามาด้วยนิดหน่อย รูปนี้จะดูว่าสภาพแสงผสมแล้วการปรับ White Balance จะเป็นอย่างไร

รูปนี้คงจะพูดแค่บางจุด คือสีเขียวจาก iPhone Xs Max ดูซีดไปหน่อย เพราะว่าสีโทนอมเหลืองของผักมันหายไป กลายเป็นเขียวอย่างเดียว ส่วนของ Mate 20 Pro ก็เร่งสีมากจนจัดจ้านเกินจริงไปมาก แต่ก็มีหลายๆคนชอบ ส่วนของ OnePlus 6T ก็เหลืองเกินไป

รูปที่ 6
รูปนี้เป็นรูปในโบสถ์ โดยให้ดูว่ารายละเอียดในโบสถ์และรายละเอียดการเก็บแสงตรงจุดที่มีดวงไฟส่องสว่างว่าทำได้ขนาดไหน

รูปฉากนี้ ของ iPhone Xs Max ถือว่าออกมาสีตรงใกล้เคียงกับที่ตาเห็นมากที่สุด ส่วนของ Note 9 ออกมาสว่างไปนิด จนรายละเอียดในส่วนที่โดนแสงไฟหลายๆจุดหายไปครับ

รูปที่ 7
รูปนี้จะคล้ายๆรูปที่ 3 ที่เป็นสตรอเบอรี่สีแดง แต่รูปนี้จะต่างกันที่แสงจะเป็นแสง Warm tone อย่างเดียว ไม่มีแสงจากริมหน้าต่าง และเชอรี่ก็จะไม่แดงเท่า เพราะออกไปทางอมม่วงมากกว่านิดหน่อย แต่เชอรี่กล่องนี้จะมีหลากหลายโทนสี แตกต่างกันพอสมควร รูปนี้ก็จะดูว่า White balance เป็นอย่างไรกับไฟ Warm tone และการไล่โทนสีของเชอรี่ แสดงความต่างได้มากน้อยขนาดไหน หรือว่าเร่งสีจนเห็นความต่างของโทนสีน้อยไปหรือไม่ฃ

รูปฉากนี้ เนื่องจากแสงในรูปนี้จะเป็นแสงจากไฟ Warm tone เท่านั้น และเชอรี่ก็สีแดงแทบจะเต็มฉาก เลยทำให้การจัดการ White Balance ทำได้ยากขึ้น มีโอกาสหลอกกล้องได้ไม่ยากเลย โดยรูปจาก Samsung ทั้ง Note 9 และ S10 ออกโทนอมเหลืองมากไปนิดครับ แต่ของ Note 9 จะหนักกว่าตรงสีสตรอเบอรี่ที่กล่องด้านหลังจากสีแดงกลายเป็นสีส้มไปเลย ส่วนการไล่โทนสีของเชอรี่ รูปจาก Pixel 3 ดูตรงกับที่ตาเห็นที่สุด ส่วนของ OnePlus 6T อมม่วงไปพอสมควร และของ iPhone Xs Max สีแดงของเชอรี่ดูออกชีดๆไปหน่อย ส่วนของ Mate 20 Pro ดูเร่งสีจนสดเกินจริงไปมาก ทำให้การไล่โทนสีแดงทำได้ไม่ค่อยดีนัก

รูปที่ 8
รูปนี้เป็นรูปแสงน้อย แต่จะมีไฟในร้าน Apple Store ที่จะยังสว่างอยู่ รูปนี้ลองดูว่าความสมดุลระหว่างไฟในร้านกับนอกร้าน โทนสี รวมไปถึงรายละเอียดต่างๆว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ฉากนี้ ดูจากรายละเอียดใน Apple Store จะเห็นว่าภาพจาก Note 9 มีการทำ HDR แต่ออกมาดูผิดธรรมชาติ เพราะตรงร้าน Apple Store ดูเหมือนภาพวาดไปเลย ส่วนภาพจาก Pixel 3 จะดูเหลืองกว่าที่ตาเห็นไปนิดนึง ส่วนภาพจาก Mate 20 Pro ดูรู้ว่าเป็น HDR แต่ทำออกมาแล้วดูสวยเลยครับ

รูปที่ 9
รูปนี้เป็นรูปแสงน้อยอีกหนึ่งรูป รูปนี้แสงจะน้อยกว่ารูปที่ 8 ให้ดูสมดุลระหว่างการลด Noise และรายละเอียดตามตัวตึกเป็นอย่างไรบ้าง ดูว่าจะมีปัญหาลด Noise เยอะจนรายละเอียดหาย หรือว่ารายละเอียดมาครบแต่ Noise ก็มาเยอะหรือเปล่า แล้วดูว่าสีสันของไฟยามค่ำคืนเป็นอย่างไร

ฉากนี้ รูปจาก Pixel 3 จะมีเพิ่มมา 1 รูป คือรูปที่เป็นโหมด Night Sight ซึ่งรูป Night Sight ทำได้ดีกว่ารูปปกติชัดเจนที่เรื่อง Noise ของภาพ แต่ที่เด่นจริงๆก็คือ Mate 20 Pro ส่วนนึงก็คงเป็นเพราะ AI ที่มองว่าเป็นโหมดกลางคืน ก็เลยใช้โหมดถ่ายภาพกลางคืนเลย แล้วก็ปรับ HDR ออกมาได้สมดุลดีด้วย

สรุป
จากภาพทดสอบ จะเห็นว่ากล้องจาก Samsung Galaxy S10 ทำได้ดีขึ้นกว่า Note 9 พอประมาณ หลายๆภาพก็ทำได้โดดเด่นที่สุด แต่ถ้าวัดกันที่แสงน้อย ทาง Huawei Mate 20 Pro ยังดูเด่นกว่า เพราะ Mate 20 Pro มีโหมดถ่ายภาพกลางคืน แต่เวลาใช้งานจริงก็ต้องถือให้นิ่งพอประมาณ และจะไม่ค่อยสะดวก ถ้าฉากที่ถ่ายมีการเคลื่อนไหวเยอะๆ แต่ภาพจาก Mate 20 Pro หลายๆภาพก็มีการเร่งสีอย่างมาก จนหลายๆภาพดูผิดธรรมชาติไป แต่ที่น่าสนใจคือ Xiaomi Mix 3 ที่โดยรวมแล้ว ถึงจะไม่มีภาพไหนที่โดนเด่นที่สุด แต่ก็ไม่มีภาพไหนที่ออกมาไม่ดีหรือมีจุดบกพร่องชัดเจนใดๆเลย รวมไปถึงกล้องหน้าที่ทำออกมาได้ดีมาก ดูธรรมชาติไม่หลอก (แต่ไม่มีผลทดสอบในครั้งนี้)

อยากได้ทดสอบของตัวไหนบ้าง คอมเม้นท์ไว้เลยครับ แล้วอดใจรอติดตามผลทดสอบในรูปแบบใหม่เร็วๆนี้นะครับ

from:https://droidsans.com/samsung-galaxy-s10-camera-comparison/

HUAWEI Mate 20 Pro ได้รับรางวัล “สมาร์ทโฟนยอดเยี่ยม” จากงาน Mobile World Congress 2019 ที่บาร์เซโลน่า

หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ได้รับรางวัลจาก GSMA ผู้จัดงาน Mobile World Congress 2019  โดยสมาร์ทโฟน HUAWEI Mate 20 Pro ได้รับรางวัล “สมาร์ทโฟนยอดเยี่ยม (Best Smartphone)” จากประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม คุณสมบัติการถ่ายภาพชั้นเลิศ แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน ระบบการชาร์จไฟที่ล้ำสมัย และรูปลักษณ์ที่งดงาม รางวัลที่หัวเว่ยได้รับครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงนวัตกรรมอันก้าวล้ำของหัวเว่ย และยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะสรรสร้างทั้งผลิตภัณฑ์และประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมสู่มือของผู้บริโภคทั่วทุกมุมโลก

เควิน โฮ ประธานฝ่ายธุรกิจอุปกรณ์มือถือ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป กล่าวว่า “หัวเว่ยขอขอบคุณ GSMAสำหรับรางวัลอันทรงเกียรติที่มอบให้กับ HUAWEI Mate 20 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นนี้คือผลจากการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องของหัวเว่ย และที่สำคัญกว่านั้นยังเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีอันก้าวล้ำที่ช่วยนำเสนอประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้กับผู้เป็นเจ้าของ HUAWEI Mate 20 Pro มียอดจำหน่ายสูง อันเป็นเครื่องยืนยันว่าผู้บริโภคทั่วทุกมุมโลกรักและเชื่อมั่นในสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ในโอกาสนี้หัวเว่ยขอให้คำมั่นว่าเราจะมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ที่ดี่ที่สุดสู่ผู้บริโภค” 

รางวัลสมาร์ทโฟนยอดเยี่ยมนี้เป็นครั้งแรกที่สมาร์ทโฟนระดับเรือธงของหัวเว่ยได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลและได้รับรางวัลดังกล่าว โดย HUAWEI Mate 20 Pro เป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงรุ่นล่าสุดของหัวเว่ยที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีล่าสุดมากมาย เช่น ชิปเซ็ต Kirin 980 ชิปเซ็ตรุ่นแรกของโลกที่มีระบบปัญญาประดิษฐ์และผลิตโดยใช้สถาปัตยกรรมการผลิตแบบ 7 นาโนเมตร เพื่อประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน สมาร์ทโฟนรุ่นนี้รองรับการชาร์จเร็ว HUAWEI SuperChargeที่มีกำลังถึง 40 วัตต์ อันถือเป็นระบบการชาร์จไฟแบบเร็วที่ดีที่สุดระบบหนึ่งในท้องตลาด นอกจากนี้ยังมีระบบการชาร์จ   แบบไร้สายที่รองรับกำลัง 15 วัตต์ และ Reverse Wireless Charging ที่ไม่มีใครเหมือน ช่วยให้ผู้เป็นเจ้าของสามารถใช้HUAWEI Mate 20 Pro ชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่รองรับการประจุไฟแบบไร้สายได้ ด้านหลังของ HUAWEI Mate 20 Pro มี Matrix Camera System กล้องหลัง 3 ตัว ซึ่งมีเลนส์อัลตราไวด์ของไลก้าสำหรับการถ่ายภาพมุมกว้างและการถ่ายภาพมาโครแบบคุณภาพสูงสุด HUAWEI Mate 20 Pro ใช้ส่วนประสานผู้ใช้งาน EMUI 9 ที่มีรากฐานจากระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ EMUI 9 รองรับการใช้ท่าทางเพื่อควบคุมการทำงานและยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ อีกมากเพื่อให้ผู้ใช้ใช้งานสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

from:https://www.flashfly.net/wp/243356

Samsung Galaxy S10+ ทำคะแนนแซง อันดับ 1 อย่าง Huawei Mate 20 Pro ด้วยกล้องเซลฟี่ จากการทดสอบของ DxOMark

สมาร์ทโฟนระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด Samsung Galaxy S10+ ทำให้เรือธงของ Huawei สั่นสะเทือนแล้ว จากการทดสอบกล้องของ DxOMark ได้ให้คะแนนกล้องหลังของ Galaxy S10+ เท่ากับ Huawei Mate 20 Pro และ P20 Pro แต่สามารถเอาชนะได้ด้วยกล้องเซลฟี่

กล้องหลังของ Samsung Galaxy S10+, Huawei Mate 20 Pro และ P20 Pro ทำได้ 109 คะแนน เท่านั้น แต่กล้องเซลฟี่ของ Galaxy S10+ ทำได้ 96 คะแนน ขึ้นเป็นอันดับ 1 ในหมวดนี้ ขณะที่กล้องเซลฟี่ของ Mate 20 Pro และ P20 Pro ทำได้ 75 และ 72 คะแนน ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม Huawei กำลังจะเปิดตัวเรือธงรุ่นใหม่ P30 Pro ในปลายเดือนมีนาคมนี้ และมีโอกาสทำคะแนนจาก DxOMark ได้สูงขึ้นไปอีก ด้วยระบบกล้อง 4 ตัว สามารถถ่ายภาพดวงจันทร์ได้อย่างงดงาม ตามที่ซีอีโอของ Huawei Consumer Business Group ได้แชร์ออกมาให้ชมก่อนหน้านี้

สามารถดูตัวอย่างภาพถ่ายและการทดสอบกล้องอย่างเต็มรูปแบบของ Samsung Galaxy S10+ ได้จาก Link ที่มาด้านล่าง

ที่มา – DxOMark
https://www.flashfly.net/wp/242805

from:https://www.flashfly.net/wp/242805

Huawei เปิดให้จอง Mate 20 Pro สีแดง ในวันที่ 10 มกราคม (ในประเทศจีน)

Huawei Mate 20 Pro สีแดง Fragrant Red และ น้ำเงิน Comet Blue ได้มีการเปิดภาพแรกปรากฎบน Weibo ก่อนหน้านี้แต่ยังไม่มีการระบุว่าจะเปิดให้จอยกันเมื่อไหร่ จนล่าสุดทาง Huawei ได้ระบุว่าจะเปิดให้จองล่วงหน้าตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม นี้ โดยจะสามารถสั่งซื้อได้ที่ Vmall ร้านค้าออนไลน์ของ Huawei (เฉพาะในประเทศจีน)

โดยทั้ง Mate 20 Pro สีแดง Fragrant Red และ น้ำเงิน Comet Blue ทั้งสองรุ่นจะมีราคาเท่ากับโดยจะมีราคาในจีนอยู่ที่ 5,999 หยวน  (875 เหรียญ) สำหรับรุ่น แรม 8GB ความจุ 128 GB และ รุ่น 6,799 หยวน (990 เหรียญ) สำหรับรุ่นแรม 8GB ความจุ 256 GB

ข่าว: Huawei เปิดให้จอง Mate 20 Pro สีแดง ในวันที่ 10 มกราคม (ในประเทศจีน) มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2019/01/07/huawei-mate-20-pro-red-and-comet-blue-january-10.html

Huawei เปิดตัว Mate 20 Pro สีแดงสดใส

แม้จะเพิ่งเข้าสู่ปี 2019 แต่ดูเหมือนว่าทางค่ายสมาร์ทโฟนจากประเทศจีน จะเตรียมสำหรับวันปีใหม่จีนในช่วงเดือน กุมภาพันธ์แล้ว แล้วกับการเปิดภาพ Huawei Mate 20 Pro สีแดง Fragrant Red และ น้ำเงิน Comet Blue ซึ่งหมายความว่าโทรศัพท์จะมีให้เลือกอย่างน้อยเจ็ดสี

โดยมีการเปิดภาพของเวอร์ชั่นสีแดง ปรากฎบน Weibo พร้อมเครื่องประดับกราฟฟิคฉลองรอบตัวซึ่งหมายความว่ามีโอกาสสูงที่จะเปิดตัวในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ถือว่าเป็นวันตรุษจีน ในขณะนี้มีการเปิดภาพของรูปของสีแดง ส่วนสีน้ำเงิน Comet Blue ยังไม่มีการเปิดภาพในตอนนี้

Huawei Mate 20 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงของ บริษัท Huawei ใช้ ชิปเซ็ต Kirin 980 พร้อมชูจุดเด่นที่กล้องสามเลนส์ที่ด้านหลัง โดยทาง Huawei ได้ระบุว่าสามารถขาไปได้มากกว่า 5 ล้านเครื่องและในขณะเดียวกัน Huawei ก็เพิ่งจะฉลองยอดขายมือถือ 200 ล้านเครื่อง (ยอดขายภายในปี 2018)

ข่าว: Huawei เปิดตัว Mate 20 Pro สีแดงสดใส มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2019/01/02/huawei-to-launch-red-mate-20-pro.html