ผู้ใช้ iPhone 4s ยังสามารถดาวน์เกรดกลับไป iOS 6.1.3 ได้อยู่ (12/1/60)

ถึงแม้ iPhone, iPad รุ่นอื่นจะปิดประตูดาวน์เกรดกลับไป iOS 6.1.3 แล้ว แต่ iPhone 4s ยังสามารถดาวน์เกรดกลับไป iOS 6.1.3 ได้อยู่

Downgrade Party

เมื่อวาน (11/1/60) มี Downgrade Party ให้ผู้ใช้ iPhone, iPad รุ่นเก่าได้หยิบเครื่องดาวน์เกรดมากมาย แต่ไม่นาน Apple ก็ปิดดาวน์เกรดไปแล้ว โดยรายงานเผยว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะ Server ของ Apple กำลังปรับปรุง และเมื่อปรับปรุงเสร็จสิ้น ผู้ใช้ก็ไม่สามารถดาวน์เกรดกลับไป iOS เวอร์ชั่นเก่าๆ ได้อีก

iPhone 4s ยังสามารถดาวน์เกรดกลับไป iOS 6.1.3 ได้

อย่างไรก็ตาม ในเว็บไซต์ ipsw.me ยังมีข้อมูลเผยว่า iPhone 4s ยังสามารถดาวน์เกรดกลับไป iOS 6.1.3 ได้ นั่นหมายความว่าผู้ใช้ที่มี iPhone 4s และใช้ iOS เวอร์ชั่นใดก็ตาม ในตอนนี้สามารถติดตั้ง iOS 6.1.3 ได้นั่นเอง

ขอบคุณภาพจาก 3uTools

ส่วน iPhone, iPad รุ่นอื่น สถานะการดาวน์เกรดก็กลับมาเป็นปกติ ไม่สามารถดาวน์เกรดกลับไปยัง iOS เวอร์ชั่นเก่าๆ ได้อีกแล้ว

from:https://www.iphonemod.net/iphone-4s-ios-6-1-3-downgrade.html

ด่วน!! Apple เปิดประตูให้ดาวน์เกรด iPhone, iPad หลายรุ่น กลับไป iOS

ถือว่าเป็นโอกาสสำหรับคนที่จะ Downgrade iOS โดยเฉพาะ iPhone, iPad รุ่นเก่า เพราะตอนนี้ Apple เปิดประตูให้ดาวน์เกรด iPhone, iPad หลายรุ่น กลับไป iOS 10 9 8 7 6 ได้

Apple เปิดประตูให้ดาวน์เกรด iPhone, iPad หลายรุ่น กลับไป iOS 10 ถึง 6 ได้

ดาวน์เกรดทำไม

ปกติแล้ว Apple จะไม่เปิดให้ดาวน์เกรด iOS กลับไปยัง iOS เวอร์ชัั่นเก่าๆ แต่ตอนนี้ (ม.ค. 2018) เราสามารถทำได้โดยไม่ต้อง Jailbreak เครื่อง ทำให้อุปกรณ์รุ่นเก่าอย่าง iPhone 5, iPhone 5c, iPad mini 1 และอื่นๆ สามารถกลับไปใช้ iOS ในเวอร๋ชั่นที่เปิดตัวและมาพร้อมอุปกรณ์นั้นๆ ได้

ทำให้อุปกรณ์รุ่นเก่าๆ อย่างเช่น iPhone 5s ที่ใช้ iOS 11 แล้วเครื่องช้า เมื่อกลับไปใช้ iOS 10 ก็มีประสิทธิภาพดีขึ้น เพราะเป็น iOS ที่ไม่ได้เป็นรุ่นล่าสุด จึงใช้ทรัพยากรน้อย

ความเสี่ยงการดาวน์เกรด

1. ข้อมูลหาย หรือใช้ไม่ได้เมื่อกลับไปใช้ iOS เวอร์ชั่นเก่าๆ
2. ไม่สามารถเข้าใช้งาน App Store เพื่อดาวน์โหลดหรืออัปเดตแอปเวอร์ชั่นใหม่ๆ ได้
3. ความปลอดภัยเครื่องต่ำ เนื่องจากมีช่องโหว่ และปัญหามากมายที่ Apple ไม่ได้แก้ไขในเวอร์ชั่นนั้น

รายชื่ออุปกรณ์ที่ดาวน์เกรดได้ และทดลองมาแล้ว

รายชื่ออุปกรณ์ที่ดาวน์เกรดได้ (ทดลองแล้ว) มีดังนี้

• iPad mini 1 ดาวน์เกรดจาก iOS 9.3.5 มาเป็น iOS 6.1.3 ได้
• iPhone 5s ดาวน์เกรดจาก iOS 11.2 มาเป็น iOS 10.2 ได้

สำหรับอุปกรณ์อื่นๆ ที่อัปเดตได้จะรายงานให้ทราบภายหลังครับ

ตรวจสอบรายชื่อ iOS ที่ดาวน์เกรดได้ใน iPhone, iPad แต่ละรุ่น

สามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่ออุปกรณ์ที่สามารถ Downgrade กลับไปเวอร์ชั่นต่างๆ ได้เว็บไซต์ https://ipsw.me/

ชมวิดีโอตัวอย่างการ Downgrade ที่นี่ https://www.facebook.com/iPhonemod/videos/10155986157083320/

from:https://www.iphonemod.net/ios-open-signing-donwgrade-ios-6-7-8-9-10.html

Apple ส่อแววแพ้คดี กรณีลูกค้าฟ้องร้องเรื่องยกเลิก FaceTime บน iOS 6

ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Apple ถูกลูกค้าที่เป็นเจ้าของ iPhone รุ่นเก่าที่ไม่สามารถอัพเดทมาใช้ iOS 7 ฟ้องร้อง เนื่องจาก Apple ได้ยกเลิกฟีเจอร์ FaceTime ใน iOS 6 ซึ่งในเวลาต่อมา Apple พยายามที่จะขอให้ศาลยกฟ้อง โดยอ้างว่าลูกค้าที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ เนื่องจาก FaceTime เป็นฟีเจอร์ที่ให้บริการฟรี

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาของ Lucy Koh ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ ได้สร้างความผิดหวังให้กับ Apple โดยมีการตัดสินว่า เจ้าของ iPhone 4 และ 4s มีสิทธิ์ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจาก Apple กรณีที่ Apple ได้ยกเลิก FaceTime เพื่อตัดค่าใช้จ่ายในการใช้เซิร์ฟเวอร์ของ Akamai Technologies Inc

ผู้พิพากษา Lucy Koh ได้ให้เหตุผลว่า FaceTime เป็นฟีเจอร์ของ iPhone ซึ่งหมายถึงฟีเจอร์นี้ได้รวมอยู่ในมูลค่าของ iPhone แล้ว อีกทั้ง Apple ยังเคยโฆษณาว่า FaceTime เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ iPhone เป็น iPhone

สาเหตุที่ลูกค้าออกมาฟ้องร้องเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เกิดจากฟีเจอร์ FaceTime ในยุคแรกใช้วิธีการสื่อสารผ่านเซิร์ฟเวอร์ของ Akamai ซึ่งแน่นอนว่าการใช้บริการของ Akamai ต้องมีค่าใช้จ่าย โดยมีรายงานว่ามีมูลค่า 50 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 1.7 พันล้านบาท และเมื่อมีผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น Apple จึงพัฒนาการสื่อสารรูปแบบใหม่ด้วยเทคโนโลยีของตัวเอง และได้เริ่มใช้กับ iOS 7 และยกเลิก FaceTime ใน iOS 6 เพื่อบีบให้ลูกค้าอัพเกรดมาใช้ iOS 7 แต่ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ก็ไม่เหมาะสำหรับ iPhone รุ่นเก่า

ทั้งนี้ คดี FaceTime ที่ลูกค้าเป็นโจทก์ฟ้องร้อง จะถูกพิจารณาอีกครั้งในอนาคต ซึ่งดูจากรูปการแล้ว Apple มีแววแพ้คดีค่อนข้างสูง ซึ่งนั่นหมายถึงการชดใช้ค่าเสียหายให้กับโจทก์ แต่คงหมดหนทางที่จะทำให้ iPhone 4 หรือ iOS 6 สามารถใช้ FaceTime ได้อีกครั้ง

ที่มา – 9to5mac

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=189478

อดีตพนักงาน YouTube ยืนยัน กูเกิลเป็นฝ่ายที่ขอนำ YouTube ออกจากแอพพื้นฐาน iOS 6 เอง

ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แอปเปิลได้เปิดตัว iOS 6 พร้อมกับการถอนแอพ YouTube ออกจากการเป็นแอพพื้นฐาน ซึ่งตอนนั้นแอปเปิลระบุว่าไลเซนส์ที่ได้จากกูเกิลหมดอายุลง แต่การเปลี่ยนแปลงนี้มาเกิดขึ้นใน beta 4 ซึ่งในเวลาเดียวกัน iOS 6 ก็เปลี่ยนจาก Google Maps มาใช้ Apple Maps เป็นแอพแผนที่พื้นฐานแทน จึงไม่ชัดเจนว่ากูเกิลหรือแอปเปิลกันแน่ เป็นฝ่ายขอยุติแอพ YouTube

ล่าสุด Hunter Walk อดีตพนักงาน YouTube ได้ออกมาเปิดเผยว่า การถอนแอพจาก iOS 6 ตอนนั้น เป็นการตัดสินใจของฝ่ายกูเกิลเอง และไม่เกี่ยวกับเรื่อง Apple Maps แต่อย่างใด

เขาบอกว่าแรกเริ่มเดิมที แอปเปิลเป็นฝ่ายติดต่อขอให้มีแอพ YouTube บน iOS โดยแอปเปิลพัฒนาแอพขึ้นเองผ่าน API เนื่องจากต้องการให้มันเป็นจุดขายของระบบปฏิบัติการ และนั่นคือเหตุผลว่าไอคอนต้องเป็นรูปโทรทัศน์ ไม่ใช่โลโก้ YouTube แต่เมื่อเวลาผ่านไป กูเกิลต้องการควบคุมประสบการณ์ใช้งาน YouTube บน iOS มากขึ้น จึงเลือกไม่ต่อสัญญาเพื่อมาทำแอพให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดเอง การตัดสินใจตอนนั้นถือว่าเสี่ยงมาก แต่ก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีเพราะคนยังกลับมาดาวน์โหลดแอพกันทั้งนั้น

ที่มา: Business Insider

Topics: 

YouTube

iOS

iOS 6

Apple

Google

from:https://www.blognone.com/node/93643

Apple ถูกฟ้องในข้อหาพยายามประหยัดค่าใช้จ่าย โดยบังคับให้ลูกค้าอัพเกรด iOS 6 เป็น iOS 7 เพื่อใช้ FaceTime

Christina Grace จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ยื่นฟ้อง Apple โดยกล่าวหาว่า Apple จงใจทำให้ FaceTime ใน iOS 6 ใช้งานไม่ได้ แล้วบังคับให้ลูกค่าอัพเกรดเป็น iOS 7 หากต้องการใช้งาน FaceTime ได้ปกติ เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับ Akamai

การฟ้องร้องนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการพบเอกสารของ Apple ซึ่งเปิดเผยให้เห็นคดีความที่ VirnetX ฟ้องร้อง Apple ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยี peer-to-peer ใน FaceTime และทำให้ Apple ต้องจ่ายเงินให้กับ VirnetX เป็นจำนวน 302 ล้านดอลล่าร์ หรือราว 1 หมื่นล้านบาท

ฟีเจอร์ FaceTime เริ่มถูกใช้งานในปี 2010 โดยการสื่อสารนั้นจะใช้วิธี peer-to-peer หรือเชื่อมต่อโดยตรงระหว่าง iPhone ทั้ง 2 เครื่อง อีกวิธีคือใช้ดาค้าเซิร์ฟเวอร์ของ Akamai แต่หลังจาก Apple ถูกฟ้องร้องเรื่องละเมิดสิทธิบัตรของ VirnetX จึงเริ่มเปลี่ยนมาใช้บริการของ Akamai เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปีต่อมา Apple ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับ Akamai เป็นจำนวน 50 ล้านดอลล่าร์ หรือราว 1.75 พันล้านบาท เมื่อค่าใช้จ่ายในการให้บริการ FaceTime เพิ่มสูงขึ้น Apple จึงตัดสินใจพัฒนาเทคโนโลยี peer-to-peer ของตัวเองขึ้นมาและเปิดตัวพร้อมกับ iOS 7

และนั่นเป็นมูลเหตุที่ทำให้ Apple ถูกฟ้องร้องล่าสุด โดยถูกกล่าวหาว่าตั้งใจทำให้ FaceTime บน iOS 6 เกิดข้อผิดพลาด แล้วบีบบังคับให้ลูกค้าอัพเกรดไปใช้ iOS 7 แทน หากต้องการใช้ฟีเจอร์ FaceTime ซึ่งการอัพเกรดระบบปฏิบัติการไปเวอร์ชั่นที่ใหม่กว่า ไม่ได้ส่งผลดีเท่าไรนักกับเจ้าของ iPhone รุ่นเก่า โดยเฉพาะ iPhone 4s และ 4 เพราะทำให้การทำงานของสมาร์ทโฟนช้าลง และเกิดข้อผิดพลาดมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า iOS 7 ถูกติดตั้งไปแล้วถึง 87% ในวันที่ 7 เมษายน 2014 หรือ 10 วันก่อนที่ Apple จะถูกกล่าวหาว่าจงใจทำให้ FaceTime บน iOS 6 เกิดข้อผิดพลาด

ทั้งนี้ คดีความยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน

ที่มา – MacRumors

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=173141

คิดถึงวันวาน ! เปรียบเทียบ iOS 6 vs iOS 9 บน iPhone 5 ต่างกันแค่ไหน ?

เชื่อว่าหลายคนที่ใช้ iOS คงเคยมีความรู้สึกอยากหวนคืนวันเก่า ๆ สมัยยังเป็น iOS 6 ที่มีอินเทอร์เฟซสุดคลาสสิคและทำงานได้อย่างรวดเร็วทันใจ แต่ด้วยเทคโนโลยีที่มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงทำให้ได้พบกับ iOS 7 ที่เป็นจุดเปลี่ยนของ iOS ทั้งเรื่องอินเทอร์เฟซและฟีเจอร์ที่เปลี่ยนไป

วันนี้จะพาย้อนวันวานไปดูการเปรียบเทียบ iOS 6 vs iOS 9 บน iPhone 5 จาก EverythingApplePro ลองมาดูกันว่า iOS 6 กับ iOS 9 ที่ทำงานบน iPhone 5 จะเร็วขึ้นหรือช้าลงแค่ไหนกัน

ที่มา – EverythingApplePro

from:http://www.108blog.net/ios-6-vs-ios-9/

ใช้ iOS 6 แล้วมีปัญหา FaceTime ไม่ได้? แอปเปิลบอกทางแก้เดียวคืออัพเดตเป็น iOS 7 สิ!

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ใช้งานอุปกรณ์แอปเปิลที่เป็นระบบปฏิบัติการ iOS 6 จำนวนหนึ่งบอกว่าพวกเขาไม่สามารถใช้ FaceTime ได้ ขณะที่ผู้ใช้ iOS 7 ไม่พบปัญหาดังกล่าว

ล่าสุดแอปเปิลได้ออกเอกสารสนับสนุนอธิบายปัญหาดังกล่าว โดยบอกว่าปัญหานี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากบั๊ก certificate หมดอายุในวันดังกล่าว โดยทางแก้ไขคืออัพเดต iOS ให้เป็นเวอร์ชัน 7.0.4 เป็นอย่างน้อย แต่หากอุปกรณ์นั้นไม่สามารถอัพเดตเป็น iOS 7 ได้ ก็ให้อัพเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุด 6.1.6

ใครที่ยังไม่ยอมอัพเดตเป็น iOS 7 เสียที แล้วต้องการใช้งาน FaceTime ก็ขอแสดงความยินดีที่ท่านจะได้ใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดแบบภาคบังคับครับ

ที่มา: MacRumors

FaceTime, Apple, Bug, iOS, iOS 7, iOS 6

from:https://www.blognone.com/node/55667

iOS 7.1 กลายเป็นรุ่นที่แอพเด้งน้อยที่สุด, iOS 6/6.1 แย่ยิ่งกว่า iOS 7

ดูเหมือนว่าอัพเดต iOS 7.1 ที่เพิ่งปล่อยมานี้ นอกจากแอปเปิลจะเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้นแล้ว ยังจัดการเก็บบั๊กไปเรียบวุธอีกด้วย อ้างอิงจากสถิติของบริษัทเก็บข้อมูลแอพอย่าง Crittercism ที่ออกมาเปรียบเทียบอัตราการแครชของแอพ (ภาษาบ้านเราก็ “แอพเด้ง”) ใน iOS แต่ละเวอร์ชัน

ในรายงานดังกล่าวระบุว่า iOS 7.1 ลดอัตราการแครชลงไปเหลือเพียง 1.6% เทียบกับ iOS 7 ที่ระบุไว้ที่ 2.1% ที่น่าแปลกใจคือ iOS รุ่นก่อนหน้าอย่าง iOS 6 และ iOS 6.1 กลับมีอัตราการแครชสูงกว่า iOS 7 เสียอีก แม้ว่าจะไม่มีตัวเลขออกมาก็ตาม

ด้วยเหตุผลที่ว่ามาคงเป็นคำตอบที่ว่าทำไม iOS 7.1 ถึงได้มีผู้ใช้รีบอัพเดตสูงถึง 12% ภายในสองวันแรกหลังจากเปิดตัว ซึ่งมีผู้ใช้ที่อัพเดตข้ามจาก iOS 6 ข้ามมาเป็น iOS 7.1 เป็นจำนวนมาก

ที่มา – Re/code

iOS 7, iOS 6, Apple

from:https://www.blognone.com/node/54473

[Tips & Tricks] วิธีเพิ่มวันหยุดราชการให้ปฏิทิน iOS และ OS X (ปฏิทินวันหยุด พ.ศ.2557 – 2560)

สำหรับวันหยุดราชการหรือวันสำคัญของแต่ละประเทศไม่ได้ติดตั้งมาด้วยในปฏิทินของ iOS เราต้องหามาเพิ่มเติมเอง โดยครั้งนี้เรามาเรียนรู้วิธีการเพิ่มวันหยุดราชการของไทยเข้าไปในปฏิทินของ iOS แบบง่ายสุด ๆ ในไม่กี่ขั้นตอนไปพร้อม ๆ กัน

 

การเพิ่มปฏิทินวันหยุดใน iOS (iPhone, iPod touch และ iPad)

**วิธีนี้สามารถใช้ได้กับ iOS ทุกเวอร์ชั่น

**สำหรับคนที่ใช้ทั้ง iOS และ OS X พร้อมกับใช้ iCloud ด้วย ให้อ่านวิธีของ OS X ด้านล่าง

• เข้าเว็บ icalworld.com/holidays.html
• เลือกไปที่ Thai Holidays หรือวันหยุดของประเทศอื่นตามต้องการ
• จากนั้นจะมีหน้าต่างขึ้นมาแจ้งว่าให้สมัครปฏิทิน TH Holidays กดสมัคร (Subscribe)
• สักครู่ระบบจะเพิ่มข้อมูลวันหยุดให้เราและมีหน้าต่างแจ้งขึ้นมาว่าสามารถเข้าไปดูรายการวันหยุดได้แล้ว
• กดดูกิจกรรม (View Evet) เข้าไปตรวจสอบวันหยุด

 

 

เพียงเท่านี้เราก็สามารถเพิ่มข้อมูลวันหยุดราชการของประเทศไทยเข้าไปในเครื่อง iPhone, iPod touch และ iPad ได้แล้ว วิธีข้างต้น

 

วิธีลบปฏิทิน TH Holidays ออกจากเครื่อง iOS

• เข้าไปที่ Settings > Mail, Contacts, Calendars
• เลือกไปที่ปฏิทินที่สมัคร (Subscribed Calendars)
• เลือกไปยังปฏิทินวันหยุดที่ต้องการลบ
• กดลบบัญชี (Delete Account)

 

 

สำหรับปฏิทินวันหยุดของประเทศไทยจาก icalworld.com จากที่ตรวจสอบเบื้องต้นมีให้เราใช้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2557, 2558, 2559, 2560 (ค.ศ. 2014, 2015, 2016, 2017) โดยวันหยุดต่าง ๆ ตรงตามจริงแล้วทั้งหมด ส่วนปีถัดจากนั้น (พ.ศ.2561 เป็นต้นไป) เท่าที่ตรวจสอบตอนนี้ยังไม่มีการอัพเดทข้อมูล

 

 

 

 

การเพิ่มปฏิทินวันหยุดใน OS X

• เข้าเว็บ icalworld.com/holidays.html
• คลิกเลือกไปที่ Thai Holidays หรือวันหยุดของประเทศอื่นตามต้องการ
• สักครู่แอป Calendar ในเครื่อง Mac จะเด้งขึ้นมาและมีหน้าต่างแจ้งการสมัครปฏิทินให้กดสมัคร (Subscribe)
• จากนั้นจะมีหน้าต่างรายละเอียดเกี่ยวกับปฏิทินที่เราเพิ่งสมัคร (info)
• ตรงหัวข้อ Location จะมีให้เลือกว่าจะให้ปฏิทินดังกล่าวอยู่ที่ iCloud หรือ On My Mac เลือกเปลี่ยนตามความเหมาะสมที่เราใช้งาน
• จากนั้นเมื่อปรับแต่งข้อมูลเสร็จเสร็จเรียบร้อยให้กด OK ได้เลย
• ถ้ากด OK แล้วเครื่องไม่อัพเดทปฏิทิน ให้ลองทำตามขั้นตอนข้างต้นอีกครั้ง พอถึงหน้าต่างรายละเอียดให้ลองเปลี่ยนสีไฮไลต์เป็นสีอื่น (ผมทำวิธีนี้แล้วได้ผล)

**สำหรับผู้ที่ใช้ iCloud หลังจากเพิ่มเข้าไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปฏิทินวันหยุดนี้เข้าไปใน iOS เอง เพราะระบบ iCloud จะซิงค์ข้อมูลปฏิทินวันหยุดเข้าไปให้อัตโนมัติ (ให้สังเกตว่าปฏิทินต้องอยู่ภายใต้หัวข้อ iCloud)

 

การลบปฏิทินวันหยุดใน OS X

• ถ้าแถบรายการปฏิทินด้านซ้ายไม่ปรากฏให้กดที่ปุ่ม Calendars มุมบนซ้าย
• เลือกไปที่รายการปฏิทินที่เราต้องการลบแล้วคลิกขวา จากนั้นเลือก Delete

**การลบปฏทินที่อยู่ใน iCloud บน OS X จะมีผลไปถึงอุปกรณ์อื่นที่ใช้ iCloud ด้วย

 

 

วิธีการเพิ่มปฏิทินวันหยุดนี้ผมเจอตั้งแต่สมัยที่ใช้เครื่อง Mac ใหม่ ๆ จำไม่ได้ว่าเจอจากในเว็บ freemac.net หรือ thaimacclub.net ถึงตอนนี้ไม่ทราบจริง ๆ ว่าพี่ ๆ เพื่อน ๆ คนไหนหรือตอนนี้อาจจะเป็นคนอื่นนอกเหนือจาก 2 เว็บดังกล่าวเป็นคนไปเพิ่มข้อมูลใน icalworld.com ยังไงก็ขอบคุณมากครับ

 

 

from:http://www.siampod.com/2014/03/12/how-to-add-thai-holidays-in-ios/

บั๊กใหม่บน iOS6 และ iOS7 ให้ผู้พัฒนาแอพดักข้อมูลการสัมผัสบนเครื่องได้

แอปเปิลเพิ่งปล่อยอัพเดต iOS 6.1.6 และ 7.0.6 เพื่อแก้บั๊ก SSL ไปได้ไม่นาน FireEye บริษัทด้านความปลอดภัยก็ออกมาเผยช่องโหว่ตัวใหม่ที่เปิดให้แอพสามารถเก็บข้อมูลการพิมพ์ (keylogging) ของอุปกรณ์ที่รัน iOS 7.0.x และ 6.1.x ได้โดยไม่ต้องเจลเบรกได้แล้ว

จากรายงานของ FireEye ระบุว่าบริษัทได้ทดลองทำแอพเพื่อเก็บข้อมูลตำแหน่งที่สัมผัสบนหน้าจอได้ แม้ว่าตัวแอพจะไม่ได้เป็นแอพหลักที่ทำงานอยู่ก็ตาม ซึ่งนอกจากจะเก็บตำแหน่งบนหน้าจอแล้ว ยังรวมไปถึงปุ่มกดต่างๆ ตั้งแต่ปุ่มโฮม ปุ่มปรับเสียง รวมถึงการแสกนลายนิ้วมือผ่าน TouchID และยังสามารถส่งข้อมูลดังกล่าวกลับไปยังผู้สร้างแอพได้อีกด้วย

จากข้อมูลที่ออกมานั่นหมายความว่า ถ้าผู้ใช้มีแอพที่ว่าอยู่ในเครื่อง อาจถูกดักข้อมูลนำไปใช้โจมตีได้ โดยหนทางแก้อย่างเด็ดขาดคงต้องให้แอปเปิลรีวิวโค้ดของแอพละเอียดยิ่งขึ้น (แม้ว่าตอนนี้จะเขี้ยวมากแล้วก็ตาม)

สำหรับวิธีการลดความเสี่ยงในตอนนี้คือพยายามปิดแอพที่รันอยู่เบื้องหลัง หรือปิดการรีเฟรชข้อมูลของแอพเบื้องหลังจากเมนูตั้งค่าไว้ก่อนกันเหนียวครับ

ที่มา – gigaOM

iOS 7, iOS 6, Privacy, Apple

from:http://www.blognone.com/node/53840