คลังเก็บป้ายกำกับ: HUAWEI_P40_PRO

หัวเว่ยชนะสองรางวัลใหญ่จากเวที EISA จาก 2 ผลิตภัณฑ์ HUAWEI P40 Pro และ HUAWEI Watch GT 2

หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ได้รับรางวัลจาก Expert Imaging and Sound Association (EISA) สมาพันธ์ผู้เชี่ยวชาญด้านภาพและเสียง ที่รวมเอาผู้ทรงคุณวุฒิ ตัวแทนจากนิตยสารชั้นนำด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับการยอมรับกว่า 55 เล่มทั่วโลกมาร่วมเป็นคณะกรรมการ

โดยสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่จากหัวเว่ย ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี HUAWEI P40 Pro ได้รับรางวัล “EISA Smartphone Camera 2020 – 2021” หรือ สุดยอดกล้องสมาร์ทโฟนประจำปี 2020 – 2021 พร้อมกันนี้สมาร์ทวอทช์ HUAWEI Watch GT 2 ก็ได้รับรางวัล “Best Smartwatch 2020 – 2021” หรือ สุดยอดสมาร์ทวอทช์ประจำปี 2020 – 2021

สมาพันธ์ภาพและเสียง EISA ยกย่องกล้องถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนเรือธง HUAWEI P40 Pro ว่า “เป็นแชมป์ตัวจริงในตลาดสมาร์ทโฟนแฟล็กชิป” ทั้งในแง่ของความสามารถด้านการถ่ายภาพของกล้อง เทคโนโลยีหน้าจอและดีไซน์ที่เหนือระดับ นอกจากนี้ สมาพันธ์ฯ ยังได้ยอมรับและยกย่องในความครบเครื่องของสมาร์ทวอทช์ HUAWEI Watch GT 2 ที่สมบูรณ์แบบทั้งในแง่ของการออกแบบที่อัจฉริยะและฟังก์ชั่นการออกกำลังกาย โดยได้สรุปว่า “ความคลาสสิกใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว”

“เราตื่นเต้นที่ผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยได้รับรางวัลจากสมาพันธ์อันทรงเกียรติ EISA อย่างต่อเนื่อง และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สองผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและได้รับความนิยมจากผู้ใช้อย่าง สมาร์ทโฟนเรือธง HUAWEI P40 Pro และ สมาร์ทวอทช์ HUAWEI Watch GT 2 ได้รับการยกย่องจากสมาพันธ์” มร. เควิน โฮ ประธานกลุ่มธุรกิจอุปกรณ์แฮนด์เซต หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป กล่าว 

“ในทุกๆ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ย เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ใหม่และน่าตื่นเต้นให้แก่ผู้บริโภค ตั้งแต่สมาร์ทวอทช์ที่เพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกายในทุกรูปแบบอย่าง HUAWEI Watch GT 2 และสมาร์ทโฟนที่ทลายข้อจำกัดการถ่ายภาพด้วยมือถือกับ HUAWEI P40 Pro”

HUAWEI

(photo credit: https://eisa.eu / เครดิตภาพ: เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสมาพันธ์ EISA (https://eisa.eu))

สมาพันธ์ EISA ยกย่องด้าน “ดีไซน์ที่เหนือระดับ” ของสมาร์ทโฟนเรือธง HUAWEI P40 Pro ไว้ว่า เหมาะสำหรับการเป็นอุปกรณ์คู่ใจการถ่ายภาพในไลฟ์สไตล์ประจำวันได้อย่างมืออาชีพ นับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือที่ก้าวล้ำขึ้นไปอีกขั้น ผลรางวัลพิจารณาจากผลลัพธ์การใช้งานอันน่าประทับใจ ครอบคลุมคุณสมบัติและความสามารถในการถ่ายภาพที่หลากหลาย

ไล่เรียงตั้งแต่กล้อง Ultra Vision ความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับโฟกัสอัตโนมัติและระบบกันสั่นแบบออพติคัล เลนส์ซูมแบบ periscope ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่ให้ผู้ใช้สามารถซูมแบบออพติคัล (ซูมจริงด้วยอุปกรณ์) ได้สูงถึง 5 เท่า และยังมาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ Ultra-Wide Cine ที่ให้ภาพวิดีโอคมชัดเหนือระดับ

ยิ่งไปกว่านั้น สมาร์ทโฟน HUAWEI P40 Pro ยังมาพร้อมกับกล้อง ToF (Time-of-Flight) แบบสามมิติ ที่ช่วยเก็บระยะของวัตถุที่จะถ่ายภาพได้อย่างแม่นยำ ร่วมด้วยฟีเจอร์การถ่ายภาพ AI ที่ได้รับการพัฒนาขึ้น นับเป็นการยกระดับประสบการณ์ให้แก่ผู้ใช้ด้วยเทคโนโลยีก้าวล้ำ EISA ได้กล่าวสรุปว่า HUAWEI P40 Pro “สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่เทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนอย่างแท้จริง”

(photo credit: https://eisa.eu / เครดิตภาพ: เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสมาพันธ์ EISA (https://eisa.eu))

ขณะที่สมาร์ทวอทช์ HUAWEI Watch GT 2 ที่ได้รับรางวัล “Best Smartwatch” ได้รับการกล่าวถึงว่า “รวมเอาศักยภาพความสามารถของสมาร์ทวอทช์ยุคใหม่เข้าไว้ด้วยกัน” ทั้งยังครบครันด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย ทั้งหน้าจอ AMOLED และปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้ได้อย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 2 สัปดาห์[1] และความสามารถในการปรับโหมดการออกกำลังกายได้หลากหลาย 

HUAWET Watch GT 2 สามารถวิเคราะห์และรองรับการออกกำลังกายในระดับกีฬาอาชีพได้ถึง 15 โหมด ทั้งยังสามารถปรับแต่งการออกกำลังกาย ตามการใช้งานจริงได้สูงถึง 85 แบบ ด้วยเทคโนโลยี HUAWEI TruSleep สมาร์ทวอทช์นี้สามารตรวจจับและบันทึกคุณภาพการนอนหลับของผู้ใช้ได้ ทั้งยังสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ระดับความเครียด และระดับ SpO2[2]  

รวมถึงตอบโจทย์ด้านการอำนวยความสะดวกสบายให้กับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น การเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่านบลูทูธ การตั้งเตือนแอปพลิเคชั่น และการบันทึกเพลงไว้ฟังระหว่างใช้งาน ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับหูฟังแบบไร้สาย อย่าง HUAWEI FreeBuds 3 เพื่อรับฟังเพลงระหว่างเดินทางผ่านนาฬิกาอัจฉริยะ HUAWEI Watch GT 2 ได้ทุกที่ทุกเวลา

สมาชิกและคณะกรรมการของ EISA ได้รวบรวมเอาสื่อมวลชน ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แขนงต่างๆ จาก 29 ประเทศสมาชิก

โดยสื่อสมาชิกแต่ละสื่อต่างรับผิดชอบต่อการให้คะแนนประเมินอุปกรณ์ภายในประเภทต่างๆ มากกว่า 1 ประเภท จากทั้งหมด 6 ประเภท ประกอบด้วย การถ่ายภาพ, อุปกรณ์เคลื่อนที่ (โมบายล์ ดีไวซ์), เครื่องขยายเสียง, อุปกรณ์โฮมเธียร์เตอร์ภายในบ้าน ประเภทเครื่องเสียง, อุปกรณ์โฮมเธียร์เตอร์ภายในบ้าน ประเภทหน้าจอและวิดีโอ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในรถยนต์ โดยในแต่ละปี สื่อสมาชิก EISA จะเสนอชื่อผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นในแต่ละประเภท เพื่อพิจารณาและให้รางวัลในแต่ละประเภท

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน

รางวัลอย่างเป็นทางการ EISA Smartphone Camera 2020 – 2021 – HUAWEI P40 Pro

“ต่อยอดจากความสำเร็จของสมาร์ทโฟนเรือธงตระกูล P Series ก่อนหน้า HUAWEI P40 Pro  ยกระดับเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนขึ้นไปอีกขั้น ด้วยกล้อง Leica 4 เลนส์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มศักยภาพการถ่ายภาพให้ไร้ขีดจำกัด กับกล้อง Ultra Vision ความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับโฟกัสอัตโนมัติและระบบกันสั่นแบบออพติคัล เลนส์ซูมแบบ periscope ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่ให้ผู้ใช้สามารถซูมแบบออพติคัล (ซูมจริงด้วยอุปกรณ์) ได้สูงถึง 5 เท่า และยังมาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพ ‘Cine Camera’ ที่ให้ภาพมุมกว้างพิเศษ เพื่อการเก็บภาพวิดีโอที่คมชัดเหนือระดับ

ยิ่งไปกว่านั้น สมาร์ทโฟน HUAWEI P40 Pro ยังมาพร้อมกับกล้อง ToF (Time-of-Flight) แบบสามมิติและฟีเจอร์ที่พัฒนาการทำงานของ AI: AI image enhancement – เป็นสมาร์ทโฟนที่เก็บทุกภาพความประทับใจทั้งกลางวันและกลางคืนได้อย่างสวยงามไร้ที่ติ ให้แต่ละชอทไร้นอยซ์รบกวน ด้วยดีไซน์ที่หรูหราเหนือระดับ รวมกับเทคโนโลยีหน้าจอชั้นนำ และการใช้งานที่สะดวกสบาย ทำให้สมาร์ทโฟน HUAWEI P40 Pro เป็นแชมเปี้ยนตัวจริง”  

รางวัลอย่างเป็นทางการ EISA Best Smartwatch 2020 – 2021 – HUAWEI Watch GT 2

“HUAWEI Watch GT 2 รวมเอาคุณสมบัติสุดล้ำของสมาร์ทวอทช์เข้าไว้ด้วยกัน ออกแบบอย่างมีสไตล์ เหมาะสมกับทุกเพศ มาในดีไซน์หน้าปัดทรงกลมที่เป็นจอ AMOLED ปุ่มควบคุมแบบ physical และสายหนังแท้ สอดรับกับไลฟ์สไตล์แอคทีฟ มาพร้อมฟังก์ชั่นที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกาย โดยสามารถวิเคราะห์และกำหนดโปรแกรมให้เหมาะสมกับกีฬาถึง 15 ประเภท

ทั้งยังมีข้อมูลเชิงลึกที่เหมาะสมกับการออกกำลังกายสูงถึง 190 ประเภท รวมกับแบตเตอรี่ที่รองรับการใช้งานอย่างต่อเนื่องติดต่อกันถึง 2 สัปดาห์ และฟีเจอร์ตรวจสอบคุณภาพการนอน HUAWEI TruSleep ที่ใช้ AI ในการวิเคราะห์คุณภาพการนอนหลับ

นอกจากนี้ ยังสามารถมอนิเตอร์อัตราการเต้นของหัวใจและระดับความเครียดของร่างกายได้ รองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ผ่านบลูทูธ (ใช้งานได้ภายในระยะ 150 เมตร) การตั้งเตือนแอปพลิเคชั่น และการบันทึกเพลง พร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ไว้ในเครื่อง เรียกได้ว่า ความคลาสสิกใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว”

————————————————————————————–
[1]
   อ้างอิงจากการใช้งานในสถานการณ์ปกติ ซึ่งรวมถึงการเล่นเพลงอย่างต่อเนื่อง 30 นาที สวมใส่ตลอดทั้งวันและมีการบันทึกอัตราการเต้นของหัวใจอย่างต่อเนื่อง มีการเปิดใช้งานโหมด Scientific Sleep Monitoring ยามกลางคืน ออกกำลังกายเป็นประจำสัปดาห์ละ 90 นาที (โดยเปิดโหมดการระบุสถานที่) มีการเปิดใช้งานโหมดการตั้งเตือน (โดยสามารถรับข้อความอยู่ที่ราว 50 ข้อความ รวมการตั้งปลุก 3 ครั้งต่อวัน ทุกวัน) การเล่นเพลงจากสมาร์ทวอทช์ต้องอาศัยการเชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธ ทั้งนี้ความจุของแบตเตอรี่จะขึ้นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการเล่นเพลง พฤติกรรมการใช้งานจริงและเงื่อนไขต่างๆ

[2] การวัดเป็นไปเพื่อสำหรับให้ผู้ใช้เก็บเป็นข้อมูลอ้างอิง ไม่ใช่เพื่อการวัดผลทางการแพทย์แต่อย่างใด

คลิกช้อปสมาร์ทโฟน Huawei ที่นี่ >>> http://bit.ly/31ikNUq

from:https://www.mobileocta.com/huawei-won-two-major-awards-at-the-eisa-stage/

AIS ผนึก HUAWEI ให้คนไทยสัมผัสสมาร์ทโฟน 5G SA ครั้งแรกในโลก กับ HUAWEI P40 Pro, HUAWEI P40 Pro+ ที่เร็ว แรง และ Latency ต่ำที่สุดในไทย

AIS ยืนหนึ่งผู้นำเครือข่าย 5G ที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ ด้วยคลื่นความถี่มากที่สุดและดีที่สุด เพื่อสร้างประโยชน์ให้คนไทยได้มากกว่า ประกาศความสำเร็จและความภาคภูมิใจครั้งสำคัญให้กับวงการโทรคมนาคมโลก 

โดยร่วมมือกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีชั้นนำ HUAWEI เปิดตัวสุดยอดสมาร์ทโฟน 5G SA แล้วเป็นประเทศแรกในโลก กับรุ่นเรือธง “HUAWEI P40 Pro และ HUAWEI P40 Pro+ 

อันเป็นการผนึกศักยภาพของ Best 5G Device กับ Best 5G Network เข้าด้วยกัน มอบประสิทธิภาพการใช้งานเครือข่าย 5G SA ที่เหนือระดับยิ่งกว่า ใน 3 ประการ ได้แก่ Super High Upload Speed เชื่อมต่อโลกออนไลน์ได้อย่างเร็วกว่า แรงกว่า, Support 8K Ultra HD รับชมสตรีมมิ่งคอนเทนท์ความคมชัดสูงระดับ 8K ได้อย่างไม่มีสะดุด

ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทยยุคมิลเลนเนียล และ Ultra Low Latency ด้วยค่าความหน่วงต่ำกว่า 10 มิลลิเซก จึงตอบสนองได้เร็วยิ่งกว่า สามารถสั่งงานและควบคุมสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วด้วยความเสถียรสูงสุด

ทั้งนี้ ลูกค้าเอไอเอส สามารถเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง HUAWEI P40 Pro และ HUAWEI P40 Pro+ ได้แล้ววันนี้ ที่ AIS Shop ทุกสาขาทั่วประเทศ, AIS Online Store และร้านเทเลวิซที่ร่วมรายการ โดย HUAWEI P40 Pro ราคาเริ่มต้นที่ 17,490 บาท และ HUAWEI P40 Pro+ ราคาเริ่มต้นที่ 27,990 บาท

พิเศษ! ทดลองใช้บริการ AIS 5G ฟรี เมื่อซื้อ HUAWEI P40 Pro และ P40 Pro+ ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม – 10 สิงหาคม 2563 โดยลูกค้าที่สมัครแพ็กเกจรายเดือนต่ำกว่า 1,099 บาท ได้รับ Data 5G จำนวน 50GB/เดือน ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2563 (สมาร์ทโฟน 5G รุ่นอื่นๆ ได้รับเพียง 10 GB) และลูกค้าที่สมัครแพ็กเกจรายเดือน 1,099 บาท ขึ้นไป ได้รับ Data 5G แบบ Unlimited ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2563

HUAWEI P40 Pro และ HUAWEI P40 Pro+ เป็นสุดยอดสมาร์ทโฟนที่จะมาพลิกกฏการถ่ายภาพและวิดีโอแบบเดิมๆ ให้สนุกและตื่นเต้น ด้วยกล้องถ่ายรูปและวิดีโอที่ล้ำจากกล้อง Ultra Vision Leica Quad  มาพร้อมชิปเซต Kirin 990 5G Octa-core หน้าจอแสดงผล OLED ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G แบตเตอรี่ 4,200 mAh

โดย HUAWEI P40 Pro มาพร้อม ROM 256GB/RAM 8GB กล้องหน้า 2 ตัว ให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล และกล้องหลัก 4 ตัว ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ส่วน HUAWEI P40 Pro+ มาพร้อม ROM 512GB/RAM 8GB กล้องหน้า 2 ตัว ให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 5 ตัว ให้ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล

from:https://www.mobileocta.com/ais-teams-up-with-huawei-for-thais-to-experience-5g-sa-smartphones/

Huawei P40 Series สมาร์ทโฟนระดับเรือธง กล้องสวย สเปคเทพ รองรับ 5G ตั้งแต่แกะกล่อง

สำหรับปี 2020 นี้เองเรียกได้ว่าทาง Huawei รุกตลาดมือถือ 5G มาอย่างหนักหน่วงด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงระดับตำนานอย่าง P Series ด้วยรุ่นล่าสุดหรือก็คือ HUAWEI P40 Series ตอกย้ำความตั้งใจของแบรนด์ที่มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำรอบด้าน ทั้งเรื่องสเปค และดีไซน์ในการออกแบบเรียกได้ว่ายกมาตรฐานมือถือสมัยใหม่ให้ก้าวขึ้นไปอีกระดับ

HUAWEI P40 Series สมาร์ทโฟนเรือธงที่รองรับ 5G สมบูรณ์แบบ

Huawei P40 Series ทุกโมเดล ตั้งแต่ Huawei P40, Huawei P40 Pro ไปจนถึง Huawei P40 Pro Plus จะใช้ชิปเซ็ตรุ่นท็อปเหมือนกันหมด หรือก็คือ Kirin 990 5G ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพของการประมวลผลข้อมูลและกราฟิกขึ้นจากรุ่นเดิมหลายเท่า ด้วยการรวมเอาโมเด็ม 5G เข้าไว้กับโปรเซสเซอร์ (CPU) ภายในชิปเซ็ต ทำให้ประมวลผลได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ลดการใช้พลังงาน เพราะข้อมูลไม่ต้องเดินทางกลับไปกลับมาระหว่างโมเด็มและชิปเซ็ต ทำให้สามารถใช้งานประสิทธิภาพความเร็วได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยที่สุด

ปกติแล้วเมื่อเราใช้สมาร์ทโฟนในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เล่นเกมออนไลน์ หรือดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลใหญ่ๆ เครื่องจะร้อนและแบตเตอรี่จะลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องหยุดใช้หรือพักเครื่องบ่อย แต่การรวมโมเด็มเข้าไว้ในชิปเซ็ตของสมาร์ทโฟน Huawei P40 Series จะช่วยแก้ปัญหาทั้งหมดข้างต้น เครื่องร้อนช้า ถือเล่นนานๆ หลายชั่วโมงต่อวันได้สบายๆ

อีกทั้ง Huawei P40 Series ถือเป็นรุ่นแรกของแบรนด์ที่มีหน้าจอ 90Hz ซึ่งเป็น Refresh Rate ที่เหมาะสม ไม่เปลืองพลังงาน ช่วยในเรื่องของการแสดงผลภาพ และวิดีโอได้อย่างคมชัดลื่นไหลถึงระดับ 4K หรือจะเอามาเล่นเกมก็ทำได้อย่างเนียนตา รวมถึงมีฟีเจอร์ Huawei MeeTime ระบบ Video conferencing วิดีโอคุณภาพสูงที่ให้ภาพและเสียงระดับ คอลหากันได้อย่างชัดแจ๋ว และฟีเจอร์ Huawei Share ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะแบรนด์ Huawei ที่ผู้ใช้งานมือถือสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทดีไวซ์เข้าหากันได้อย่างรวดเร็วไร้สาย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพียงแค่สัมผัสเดียว (One Tap)

โดยสมาร์ทโฟน Huawei P40 Series ทุกเครื่องจะสามารถใช้งานได้ 2 ซิม และรองรับ 5G ทั้งสองซิมการ์ด ซึ่งจะเป็นแบบ Nano Sim + eSim ทำให้สามารถใช้งานบนเครือข่าย 5G ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทุกย่านความถี่ในประเทศไทยตั้งแต่แกะกล่อง โดยไม่ต้องไปอัปเดตเฟิร์มแวร์อะไรอีกด้วย

ทำไมต้องซื้อ HUAWEI P40 Series กับ AIS

แน่นอนว่าสุดยอดสมาร์ทโฟนอย่าง HUAWEI P40 Series ย่อมคู่ควรกับเครือข่ายอันดับ 1 อย่าง AIS 5G เพราะเป็นคลื่นที่มีมากที่สุด ดีที่สุด ในประเทศไทย ศักยภาพแรงการรับส่งข้อมูล 5G เร็วขึ้นกว่าเดิม 24 เท่า ไม่ว่าจะดาวน์โหลดหนัง 4K หรือ 8K หรือจะโหลดเพลงเป็นอัลบั้ม ก็เสร็จเร็วในไม่กี่วินาที หรือจะใช้ค้นหาข้อมูลผ่าน Mobile Internet ก็เสร็จรวดเร็วทันใจ ให้ชีวิตออนไลน์ลื่นไหลแบบ Real time ยิ่งกว่าที่เคย

ซึ่งวันนี้ AIS 5G พร้อมให้บริการแล้วทั้ง 77 จังหวัด และสะดวกสบายยิ่งกว่าด้วยการสั่งซื้อทาง AIS Online Store ที่ : http://www.ais.co.th/huawei-5g/ จัดส่งฟรีทั่วประเทศ รอรับสินค้าที่บ้านได้เลย หรือช่องทาง AIS Shop และ Telewiz สาขาที่ร่วมรายการ

โดย Huawei P40 Pro+ จะมีราคาเริ่มต้นเพียง 28,990 บาท มีให้เลือกสีเดียวคือ คือ สี Ceramic White สำหรับลูกค้าเดิมที่สมัครแพ็กเกจ AIS 4G Hot Deal MAXX ตั้งแต่ราคา 1,149 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์ใช้บริการ DATA 5G ฟรีไม่จำกัด โดยไม่คิดบริการเพิ่ม จนถึง 30 กันยายน 2563 นี้ ส่วนลูกค้าที่สมัครแพ็กเกจรายเดือนต่ำกว่า 1,149 บาท จะรับสิทธิ์ใช้บริการ 5G 10 GB ต่อเดือนฟรีแทน ซึ่งจะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. นี้เป็นต้นไป

ส่วน HUAWEI P40 จะมีราคาเริ่มต้นที่ 11,990 บาท และ HUAWEI P40 Pro ในราคาเริ่มต้นที่ 17,990 บาท ทั้ง 2 รุ่นมีให้เลือก 3 สี คือ สี Silver Frost, Blush Gold และ Deep Sea Blue โดยสำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Huawei สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการได้ที่ :  https://consumer.huawei.com

from:https://droidsans.com/huawei-p40-series-5g-ais/

สรุปจุดเด่นของ Huawei P40 Series 5G สมาร์ทโฟนพรีเมียมตัวท็อป ประจำกลางปี 2020

ในที่ทาง Huawei ประเทศไทยก็ได้ประกาศเปิดตัว Huawei P40 Pro+ สมาร์ทโฟนตัวท็อปของ P40 Series ที่โดดเด่นในเรื่องของการถ่ายภาพที่ไม่เป็นสองรองใคร รวมถึงดีไซน์การออกแบบที่โดดเด่นสมกับเป็นรุ่นเรือธงประจำกลางปี 2020 นี้ และในบทความนี้เองเราจะมาสรุปจุดเด่นของ HUAWEI P40 Series กัน ซึ่งจะมีอะไรบ้างมาดูกันครับ

นวัตกรรมกล้องสุดล้ำ สมญานามว่า “กล้องที่โทรได้”

 

ปกติแล้วสมาร์ทโฟนตระกูล P Series ของ Huawei นั้นโด่งดังและเป็นที่ยอมรับในด้านนวัตกรรมการถ่ายภาพ ทั้งด้วยระบบกล้องและเลนส์ที่ร่วมพัฒนาโดย Leica ผสานกับ AI ของ Huawei เองทำให้ P40 Series กลับมาทวงบัลลังก์ผู้นำด้านการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนอย่างเต็มภาคภูมิ

โดยเฉพาะรุ่น HUAWEI P40 Pro ตอนนี้ก็ครองอันดับ 1 ด้านกล้องถ่ายภาพ จากการจัดอันดับโดย DxoMark ติดต่อกันยาวนานนับเดือน ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ซึ่งได้คะแนนอยู่ที่ 128 คะแนน ส่วน HUAWEI P40 รุ่นน้องเล็กที่เปิดตัวมาพร้อมกัน ก็ติดอันดับท็อปเทนใน DxoMark ด้วยสัปดาห์ที่เปิดตัว บอกเลยว่าเรื่องถ่ายรูป P40 Series ไม่ทำให้ใครผิดหวังแน่นอน

สำหรับระบบกล้องของ HUAWEI P40 Series กล้องหลังตัวหลักจะมาพร้อมกับ Ultra Vision Leica Camera โดย HUAWEI P40 จะมีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ขณะที่ P40 Pro มีกล้องหลัง 4 ตัว และ P40 Pro+ มีกล้องหลังสูงสุดถึง 5 ตัว ซึ่งทุกโมเดลมีกล้องเลนส์กว้าง (wide-angle) และเลนส์กว้างพิเศษ (ultrawide-angle) ยืนพื้น รวมกับกล้อง Telephoto เลนส์ซูมที่ทรงพลังที่แบ่งออกเป็นคร่าวๆ ได้ประมาณนี้คือ

  • P40 จะใช้เลนส์ซูมที่สามารถซูมแบบออพติคัลได้ 3 เท่า
  • P40 Pro จะใช้เลนส์ซูมที่สามารถซูมแบบออพติคัลได้ 5 เท่า และดิจิทัลได้ 50 เท่า ทั้งยังมาพร้อมกล้อง ToF ที่สามารถเก็บระยะของภาพได้อย่างแม่นยำ
  • P40 Pro+ จะยกระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วยการรวมเอากล้อง Telephoto สองระยะเข้าไว้ด้วยกัน สามารถซูมแบบออพติคัลได้สูงสุดถึง 10 เท่า และแบบดิจิทัลไปไกลถึง 100 เท่า ทั้งนี้ยังมาพร้อมระบบกันสั่นทั้งแบบ OIS และแบบที่ควบคุมด้วย AI (AIS) ครบทุกฟีเจอร์

จุดเด่นอีกอย่างสำหรับกล้องของ Huawei P40 Series คือเลือกใช้เซ็นเซอร์ RYYB ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีบนสมาร์ทโฟน ณ เวลานี้ทำให้เก็บแสงได้มากกว่าใคร และเมื่อทำงานร่วมซอฟต์แวร์ภายในเครื่องก็จะทำให้ทุกการถ่ายภาพเป็นเรื่องง่าย ถ่ายได้ชัดทุกสภาพแสง อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ AI Golden SnapTM ที่ช่วยให้ผู้ใช้เก็บภาพความประทับใจได้ทุกจังหวะ ไม่มีพลาด ทั้งยังแก้ปัญหาที่พบได้บ่อยเช่น คนเดินติดเข้ามาในเฟรมก็สามารถลบได้อัตโนมัติด้วย AI Remove Passerby หรือการลบแสงสะท้อนจากกระจกด้วย AI Remove Reflection เป็นต้น 

รองรับ 5G ตั้งแต่แกะกล่อง

Huawei P40 Series เป็นเพียงมือถือไม่กี่รุ่นในตลาดที่รองรับเครือข่าย 5G ซึ่งแน่นอนว่ารองรับทุกโมเดลตั้งแต่รุ่นเล็กยันตัวท็อป ซึ่งทั้ง 3 โมเดล จะมาพร้อมชิปเซ็ตเรือธง Kirin 990 5G รุ่นล่าสุด ที่นำนวัตกรรมทั้งโมเด็ม 5G เข้าไว้กับโปรเซสเซอร์ภายในชิปตัวเดียว ทำให้การประมวลผลต่างๆ สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ลดการเดินทางของพลังงานระหว่างโมเด็มและโปรเซสเซอร์

อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงาน ไม่เปลืองแบตเตอรี่ และทำให้เครื่องร้อนช้า แม้จะสตรีมข้อมูลออนไลน์ด้วยความเร็วสูงระดับ 5G ก็ตาม แถมรองรับทุกย่านความถี่ 5G ที่มีให้บริการในประเทศไทยอีกด้วย

ดีไซน์หรูหรามีระดับ ออกแบบตามหลักการยศาสตร์

อีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นเป็นหลักของ Huawei P40 Series ที่ไปไกลกว่าเรื่องความสวยงามและหรูหรามีระดับคือ การดีไซน์ออกมาแบบการยศาสตร์ คือออกแบบมาให้จับถือที่ถนัดเข้ามือที่สุด หรือดูหน้าจอได้อย่างเต็มตา ในขนาดตัวเครื่องที่เหมาะสม โดยจะมาพร้อมกับหน้าจอ FullView Display เสมือนไร้ขอบจอ ส่วนในรุ่น P40 Pro และ P40 Pro+ จะอัปเกรดขึ้นมาเป็นหน้าจอดีไซน์ Quad-curve Overflow Display ที่โค้งมนทั้ง 4 มุม ให้ความรู้สึกเหมือนหยดน้ำฟีลสัมผัสดีมาก

ด้านของสีสันและวัสดุก็มีทางเลือกที่หลากหลาย โดย Huawei P40 และ P40 Pro จะมีให้เลือก 3 สี คือ Silver Frost, Blush Gold และ Deep Sea Blue ขณะที่ Huawei P40 Pro+ จะมีสีเดียวคือสีขาวคลาสสิก Ceramic White ที่ทำจากวัสดุเซรามิกเคลือบเทคโนโลยีนาโนไม่เป็นรอยนิ้วมือง่าย จับแล้วดูดีมีราคาสุดๆ

ราคา Huawei P40 Series แต่ละรุ่น

  • Huawei P40 วางจำหน่ายแล้วในราคา 22,990 บาท
  • Huawei P40 Pro วางจำหน่ายแล้วในราคา 31,990 บาท
  • Huawei P40 Pro+ ราคา 40,990 บาท เปิดให้จองตั้งแต่วันที่ 4-26 มิถุนายน 2563 โดยผู้ที่สั่งจองจะได้รับของสมนาคุณมูลค่ารวม 12,200 บาท และจะเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ ณ หัวเว่ย แบรนด์ช้อปและร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สามารถคลิกดูได้ที่ : https://consumer.huawei.com/th/phones/p40

from:https://droidsans.com/highlight-huawei-p40-series-5g/

สรุป 3 จุดเด่นของ 3 โมเดล HUAWEI P40 Series 5G สุดยอดสมาร์ทโฟนพรีเมียมแห่งยุค ที่ครบเครื่อง ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

ในที่สุดหัวเว่ย ก็ได้ประกาศเปิดตัว HUAWEI P40 Pro+ สมาร์ทโฟนตัวท็อปของ HUAWEI P40 Series 5G ซึ่งกลับมาสร้างความคึกคักให้กับสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมและแฟนๆ ของหัวเว่ยอีกครั้ง ด้วยความเป็นเลิศด้านการถ่ายภาพ ดีไซน์และความสามารถอื่นๆที่ครบครัน ต่อยอดจาก HUAWEI P40 และ HUAWEI P40 Pro ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้

เราจึงขอรวบรวมจุดเด่นของสมาร์ทโฟนทั้ง 3 ตัว ในซีรีส์ HUAWEI P40 Series มาสรุปให้ฟัง เผื่อใครกำลังมองหาสมาร์ทโฟนใหม่ที่สะท้อนตัวตนผู้ใช้และทำงานได้อยากหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน คุ้มค่าและครบครัน เป็น must-have item ของปีนี้ที่ใม่ควรพลาด

นวัตกรรมกล้องสุดล้ำเทียบชั้น DSLR ที่ได้สมญานามว่า “กล้องที่โทรได้”

Huawei P40 Series

สมาร์ทโฟนตระกูล P Series ของหัวเว่ยนั้นโด่งดังและเป็นที่ยอมรับในด้านนวัตกรรมการถ่ายภาพขั้นเทพ ทั้งด้วยระบบกล้องและเลนส์ที่ร่วมพัฒนาโดย Leica ผสานกับเทคโนโลยีอุปกรณ์ภายในและ AI ของหัวเว่ย HUAWEI P40 Series กลับมาทวงบังลังก์ผู้นำด้านการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนอย่างเต็มภาคภูมิ

เมื่อ HUAWEI P40 Pro ประเดิมเปิดตัว ครองอันดับหนึ่งด้านกล้องถ่ายภาพ จากการจัดอันดับโดยเว็บไซต์รีวิวกล้องชื่อดังของอังกฤษ DxoMark ติดต่อกันยาวนานนับเดือน โดยได้ผลคะแนนสูงเป็นที่น่าประทับใจทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง รวมถึงการถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว โดยได้คะแนนสูงสุดที่ 128 ขณะที่ HUAWEI P40 ที่เปิดตัวพร้อมกันก็ติดอันดับท็อปเทนในสัปดาห์ที่เปิดตัว

สมาร์ทโฟน HUAWEI P40 Series ยืนหนึ่งด้านการถ่ายภาพด้วยระบบกล้องหลัง (ซึ่งเป็นกล้องหลัก) ที่แข็งแกร่ง Ultra Vision Leica Camera โดย HUAWEI P40 มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ขณะที่ HUAWEI P40 Pro มีกล้องหลัง 4 ตัว และ HUAWEI P40 Pro+ มีกล้องหลังสูงสุดถึง 5 ตัว

โดยทุกโมเดลมีกล้องเลนส์กว้าง (wide-angle) และเลนส์กว้างพิเศษ (ultrawide-angle) ยืนพื้น รวมกับกล้อง Telephoto เลนส์ซูมที่ทรงพลัง โดยใน HUAWEI P40 มีเลนส์ซูมที่สามารถซูมแบบออพติคัลได้ถึง 3 เท่า, HUAWEI P40 Pro มีเลนส์ซูมที่สามารถซูมแบบออพติคัลได้ถึง 5 เท่า และดิจิทัลได้สูงถึง 50 เท่า ทั้งยังมาพร้อมกล้อง ToF ที่สามารถเก็บระยะของภาพได้อย่างแม่นยำ

และ HUAWEI P40 Pro+ ยกระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วยการรวมเอากล้อง Telephoto สองระยะเข้าไว้ด้วยกัน โดยสามารถซูมแบบออพติคัลได้สูงสุดถึง 10 เท่า และแบบดิจิทัลไปไกลถึง 100 เท่า ทั้งยังมาพร้อมระบบกันสั่นทั้งแบบออพติคัล (OIS) และแบบที่ควบคุมด้วย AI (AIS) ภาพที่ได้จึงคมชัดทุกรายละเอียด ถึงขนาดมีคนนำมาทดลองถ่ายภาพดวงจันทร์ด้วยการซูม เรียกได้ว่าเหนือความคาดหมายสำหรับการเป็นสมาร์ทโฟนเพราะทำได้ดีเทียบเท่ากล้องดิจิทัล

Huawei P40 Series

นอกจากนวัตกรรมกล้องและเลนส์สุดล้ำจาก Leica หัวเว่ยยังมาพร้อมเทคโนโลยีลิขสิทธ์เฉพาะและระบบภายในสุดล้ำที่ช่วยให้การถ่ายภาพสวยสมบูรณ์แบบโดยแทบไม่ต้องปรับแต่งหรืออาศัยทักษะใดๆ ด้วยเซ็นเซอร์ RYYB ขนาดใหญ่ที่สุด เก็บแสงได้มาก เมื่อทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์อุณหภูมิสีและระบบการปรับแสงขาวอัตโนมัติ ช่วยให้สมาร์ทโฟนของ HUAWEI P40 Series ทุกรุ่น สามารถถ่ายภาพได้สวยคมชัดทุกสภาพแสง ทุกที่ ทุกเวลา

และก้าวล้ำด้วยฟีเจอร์ AI Golden SnapTM ที่ช่วยให้ผู้ใช้เก็บภาพความประทับใจได้ทุกจังหวะ ไม่มีพลาด ทั้งยังแก้ปัญหาสุด cliché ของการถ่ายภาพที่พบได้บ่อย อย่างเช่น คนเดินติดเข้ามาในเฟรมภาพ สามารถลบได้อัตโนมัติด้วย AI Remove Passerby หรือการลบแสงสะท้อนจากกระจกด้วย AI Remove Reflection เป็นต้น

HUAWEI P40 Series แสดงศักยภาพอีกขั้นด้วยการจับมือกับ Vogue สื่อแฟชั่นชั้นนำระดับโลก ถ่ายทำคอลเล็คชันพิเศษ Salute To Classic รวมถึงวิดีโอเบื้องหลังแฟชั่นชูต ด้วยสมาร์ทโฟน HUAWEI P40 Pro ซึ่งทำให้ช่างภาพ บรรณาธิการแฟชั่นและผู้ชมตื่นตะลึงกับผลลัพธ์-คุณภาพภาพที่เทียบเคียงได้กับกล้อง DSLR อย่างแท้จริง

เชื่อมต่อฉับไว ทำงานเต็มประสิทธิภาพบนความเร็วระดับ 5G ที่สมบูรณ์แบบ

HUAWEI P40 Series สร้างปรากฎการณ์ให้กับตลาดสมาร์ทโฟน ด้วยการเพิ่มความสามารถในการรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ความเร็วระดับ 5G ในทุกโมเดล ไม่เฉพาะแค่ตัวท็อป ทำให้แฟนๆ ของหัวเว่ยและ P Series มีโอกาสใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ก่อนใครในราคาที่เข้าถึงได้

โดยทั้ง 3 โมเดล มาพร้อมชิปเซ็ตเรือธง Kirin 990 5G นวัตกรรมที่รวมเอาโมเด็ม 5G เข้าไว้กับโปรเซสเซอร์ จึงทำให้การประมวลผลต่างๆ เป็นไปอย่างรวดเร็ว ลดการเดินทางของพลังงานระหว่างโมเด็มและโปรเซสเซอร์ จึงประหยัดพลังงาน ไม่เปลืองแบตเตอรี่ และทำให้เครื่องร้อนช้าแม้จะสตรีมข้อมูลออนไลน์ด้วยความเร็วสูงระดับ 5G  

โดยประสบการณ์ความเร็วระดับ 5G ของสมาร์ทโฟน HUAWEI P40 Series นั้นเป็นประสบการณ์ระดับผู้นำตลาด โดยรองรับทุกย่านความถี่ 5G ที่มีให้บริการในประเทศไทย ครอบคลุมทุกเครือข่าย

การออกแบบที่ชาญฉลาดและเหนือระดับ ตอบรับการใช้งานอย่างแท้จริงตามคอนเซ็ปท์ใหญ่ Visionary

แนวคิดเบื้องหลังการดีไซน์สมาร์ทโฟน HUAWEI P40 Series ไปไกลกว่าเรื่องความสวยงามและหรูหราที่เหมาะสมกับระดับราคา แต่ยังมองถึงปัญหาการใช้งาน pain point ที่ผู้บริโภคประสบ เช่น การจับถือที่ถนัดเข้ามือ หรือดูหน้าจอได้อย่างเต็มตา

โดยสมาร์ทโฟนของ HUAWEI P40 Series ถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่เหมาะสม จับได้ถนัดมือตามหลักการยศาสตร์ หน้าจอเป็นแบบ FullView Display เสมือนไร้ขอบจอ ในรุ่น HUAWEI P40 Pro และ HUAWEI P40 Pro+ มาพร้อมหน้าจอดีไซน์ Quad-curve Overflow Display ที่โค้งมนทั้ง 4 มุม ให้ความรู้สึกเหมือนหยดน้ำที่กำลังไหลริน ทั้งยังให้ประสบการณ์ภาพที่เต็มตาและการใช้งานที่ลื่นไหล

ในด้านของสีสันและวัสดุก็มีทางเลือกที่หลากหลาย สะท้อนอัตลักษณ์ตัวตนของผู้ใช้ โดย HUAWEI P40 และ HUAWEI P40 Pro มีให้เลือก 3 สี คือ Silver Frost, Blush Gold และ Deep Sea Blue ขณะที่ HUAWEI P40 Pro+ โดดเด่นด้วยสีขาวคลาสสิก Ceramic White ที่ทำจากวัสดุเซรามิกเคลือบเทคโนโลยีนาโน เหนือระดับยิ่งกว่าที่เคย

HUAWEI P40 และ HUAWEI P40 Pro วางจำหน่ายแล้วในราคา 22,990 บาท และ 31,990 บาทตามลำดับ สำหรับ HUAWEI P40 Pro+ ที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุดนี้ ราคา 40,990 บาท เปิดให้จองตั้งแต่วันที่ 4-26 มิถุนายน 2563 โดยผู้ที่สั่งจองจะได้รับของสมนาคุณมูลค่ารวม 12,200 บาท และจะเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ ณ หัวเว่ย แบรนด์ช้อปและร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สามารถคลิกดูได้ที่: https://consumer.huawei.com/th/phones/p40/

from:https://www.mobileocta.com/summary-of-3-features-of-the-3-models-huawei-p40-series-5g/

สรุป 3 จุดเด่น Huawei P40 ทั้ง 3 โมเดล สุดยอดสมาร์ทโฟนพรีเมียมแห่งยุค ที่ครบเครื่องและตอบโจทย์การใช้งานในทุกสถานการณ์

ในที่สุดหัวเว่ย ก็ได้ประกาศเปิดตัว HUAWEI P40 Pro+ สมาร์ทโฟนตัวท็อปของ HUAWEI P40 Series ซึ่งกลับมาสร้างความคึกคักให้กับสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมและแฟนๆ ของหัวเว่ยอีกครั้ง ด้วยความเป็นเลิศด้านการถ่ายภาพ ดีไซน์และความสามารถอื่นๆ ที่ครบครัน ต่อยอดจาก HUAWEI P40 และ HUAWEI P40 Pro ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ เราจึงขอรวบรวมจุดเด่นของสมาร์ทโฟนทั้ง 3 ตัว ในซีรีส์ HUAWEI P40 Series มาสรุปให้ฟัง เผื่อใครกำลังมองหาสมาร์ทโฟนใหม่ที่สะท้อนตัวตนผู้ใช้และทำงานได้อยากหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน คุ้มค่าและครบครัน เป็นสมาร์ตโฟนที่ “ต้องมี” ของปีนี้ที่ใม่ควรพลาดเป็นอย่างมาก

นวัตกรรมกล้องสุดล้ำเทียบชั้น DSLR ที่บล็อกเกอร์หลายคนให้สมญานามว่า “กล้องที่โทรได้”

สมาร์ทโฟนตระกูล P Series ของหัวเว่ยนั้นโด่งดังและเป็นที่ยอมรับในด้านนวัตกรรมการถ่ายภาพขั้นเทพ ทั้งด้วยระบบกล้องและเลนส์ที่ร่วมพัฒนาโดย Leica ผสานกับเทคโนโลยีอุปกรณ์ภายในและ AI ของหัวเว่ย HUAWEI P40 Series กลับมาทวงบังลังก์ผู้นำด้านการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนอย่างเต็มภาคภูมิ เมื่อ HUAWEI P40 Pro ประเดิมเปิดตัว ครองอันดับหนึ่งด้านกล้องถ่ายภาพ จากการจัดอันดับโดยเว็บไซต์รีวิวกล้องชื่อดังของอังกฤษ DxoMark ติดต่อกันยาวนานนับเดือน โดยได้ผลคะแนนสูงเป็นที่น่าประทับใจทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง รวมถึงการถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว โดยได้คะแนนสูงสุดที่ 128 ขณะที่ HUAWEI P40 ที่เปิดตัวพร้อมกันก็ติดอันดับท็อปเทนในสัปดาห์ที่เปิดตัว


สมาร์ทโฟน HUAWEI P40 Series ยืนหนึ่งด้านการถ่ายภาพด้วยระบบกล้องหลัง (ซึ่งเป็นกล้องหลัก) ที่แข็งแกร่งที่มีชื่อว่า Ultra Vision Leica Camera โดย HUAWEI P40 มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ขณะที่ HUAWEI P40 Pro มีกล้องหลัง 4 ตัว และ HUAWEI P40 Pro+ มีกล้องหลังสูงสุดถึง 5 ตัว โดยทุกโมเดลมีกล้องเลนส์กว้าง (wide-angle) และเลนส์กว้างพิเศษ (ultrawide-angle) ยืนพื้น รวมกับกล้อง Telephoto เลนส์ซูมที่ทรงพลัง โดยใน HUAWEI P40 มีเลนส์ซูมที่สามารถซูมแบบออพติคัลได้ถึง 3 เท่า,

HUAWEI P40 Pro มีเลนส์ซูมที่สามารถซูมแบบออพติคัลได้ถึง 5 เท่า และดิจิทัลได้สูงถึง 50 เท่า ทั้งยังมาพร้อมกล้อง ToF ที่สามารถเก็บระยะของภาพได้อย่างแม่นยำ

HUAWEI P40 Pro+ ยกระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วยการรวมเอากล้อง Telephoto สองระยะเข้าไว้ด้วยกัน โดยสามารถซูมแบบออพติคัลได้สูงสุดถึง 10 เท่า และแบบดิจิทัลไปไกลถึง 100 เท่า ทั้งยังมาพร้อมระบบกันสั่นทั้งแบบออพติคัล (OIS) และแบบที่ควบคุมด้วย AI (AIS) ภาพที่ได้จึงคมชัดทุกรายละเอียด ถึงขนาดมีคนนำมาทดลองถ่ายภาพดวงจันทร์ด้วยการซูม เรียกได้ว่าเหนือความคาดหมายสำหรับการเป็นสมาร์ทโฟนเพราะทำได้ดีเทียบเท่ากล้องดิจิทัล

นอกจากนวัตกรรมกล้องและเลนส์สุดล้ำจาก Leica หัวเว่ยยังมาพร้อมเทคโนโลยีลิขสิทธ์เฉพาะและระบบภายในสุดล้ำที่ช่วยให้การถ่ายภาพสวยสมบูรณ์แบบโดยแทบไม่ต้องปรับแต่งหรืออาศัยทักษะใดๆ ด้วยเซ็นเซอร์ RYYB ขนาดใหญ่ที่สุด เก็บแสงได้มาก เมื่อทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์อุณหภูมิสีและระบบการปรับแสงขาวอัตโนมัติ ช่วยให้สมาร์ทโฟนของ HUAWEI P40 Series ทุกรุ่น สามารถถ่ายภาพได้สวยคมชัดทุกสภาพแสง ทุกที่ ทุกเวลา และก้าวล้ำด้วยฟีเจอร์ AI Golden SnapTM ที่ช่วยให้ผู้ใช้เก็บภาพความประทับใจได้ทุกจังหวะ ไม่มีพลาด ทั้งยังแก้ปัญหาสุด cliché ของการถ่ายภาพที่พบได้บ่อย อย่างเช่น คนเดินติดเข้ามาในเฟรมภาพ สามารถลบได้อัตโนมัติด้วย AI Remove Passerby หรือการลบแสงสะท้อนจากกระจกด้วย AI Remove Reflection เป็นต้น

HUAWEI P40 Series แสดงศักยภาพอีกขั้นด้วยการจับมือกับ Vogue สื่อแฟชั่นชั้นนำระดับโลก ถ่ายทำคอลเล็คชันพิเศษ Salute To Classic รวมถึงวิดีโอเบื้องหลังแฟชั่นชูต ด้วยสมาร์ทโฟน HUAWEI P40 Pro ซึ่งทำให้ช่างภาพ บรรณาธิการแฟชั่นและผู้ชมตื่นตะลึงกับผลลัพธ์-คุณภาพภาพที่เทียบเคียงได้กับกล้อง DSLR อย่างแท้จริง เชื่อมต่อฉับไว ทำงานเต็มประสิทธิภาพบนความเร็วระดับ 5G ที่สมบูรณ์แบบ

HUAWEI P40 Series สร้างปรากฎการณ์ให้กับตลาดสมาร์ทโฟน ด้วยการเพิ่มความสามารถในการรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ความเร็วระดับ 5G ในทุกโมเดล ไม่เฉพาะแค่ตัวท็อป ทำให้แฟนๆ ของหัวเว่ยและ P Series มีโอกาสใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ก่อนใครในราคาที่เข้าถึงได้ โดยทั้ง 3 โมเดล มาพร้อมชิปเซ็ตเรือธง Kirin 990 5G นวัตกรรมที่รวมเอาโมเด็ม 5G เข้าไว้กับโปรเซสเซอร์ จึงทำให้การประมวลผลต่างๆ เป็นไปอย่างรวดเร็ว ลดการเดินทางของพลังงานระหว่างโมเด็มและโปรเซสเซอร์ จึงประหยัดพลังงาน ไม่เปลืองแบตเตอรี่ และทำให้เครื่องร้อนช้าแม้จะสตรีมข้อมูลออนไลน์ด้วยความเร็วสูงระดับ 5G  โดยประสบการณ์ความเร็วระดับ 5G ของสมาร์ทโฟน HUAWEI P40 Series นั้นเป็นประสบการณ์ระดับผู้นำตลาด โดยรองรับทุกย่านความถี่ 5G ที่มีให้บริการในประเทศไทย ครอบคลุมทุกเครือข่าย 

การออกแบบที่ชาญฉลาดและเหนือระดับ ตอบรับการใช้งานอย่างแท้จริงตามคอนเซ็ปท์ใหญ่ Visionary 

แนวคิดเบื้องหลังการดีไซน์สมาร์ทโฟน HUAWEI P40 Series ไปไกลกว่าเรื่องความสวยงามและหรูหราที่เหมาะสมกับระดับราคา แต่ยังมองถึงปัญหาการใช้งาน pain point ที่ผู้บริโภคประสบ เช่น การจับถือที่ถนัดเข้ามือ หรือดูหน้าจอได้อย่างเต็มตา โดยสมาร์ทโฟนของ HUAWEI P40 Series ถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่เหมาะสม จับได้ถนัดมือตามหลักการยศาสตร์ หน้าจอเป็นแบบ FullView Display เสมือนไร้ขอบจอ ในรุ่น HUAWEI P40 Pro และ HUAWEI P40 Pro+ มาพร้อมหน้าจอดีไซน์ Quad-curve Overflow Display ที่โค้งมนทั้ง 4 มุม ให้ความรู้สึกเหมือนหยดน้ำที่กำลังไหลริน ทั้งยังให้ประสบการณ์ภาพที่เต็มตาและการใช้งานที่ลื่นไหล ในด้านของสีสันและวัสดุก็มีทางเลือกที่หลากหลาย สะท้อนอัตลักษณ์ตัวตนของผู้ใช้ โดย HUAWEI P40 และ HUAWEI P40 Pro มีให้เลือก 3 สี คือ Silver Frost, Blush Gold และ Deep Sea Blue ขณะที่ HUAWEI P40 Pro+ โดดเด่นด้วยสีขาวคลาสสิก Ceramic White ที่ทำจากวัสดุเซรามิกเคลือบเทคโนโลยีนาโน เหนือระดับยิ่งกว่าที่เคย 

HUAWEI P40 และ HUAWEI P40 Pro วางจำหน่ายแล้วในราคา 22,990 บาท และ 31,990 บาทตามลำดับ สำหรับ HUAWEI P40 Pro+ ที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุดนี้ ราคา 40,990 บาท เปิดให้จองตั้งแต่วันที่ 4-26 มิถุนายน 2563 โดยผู้ที่สั่งจองจะได้รับของสมนาคุณมูลค่ารวม 12,200 บาท และจะเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ ณ หัวเว่ย แบรนด์ช้อปและร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สามารถคลิกดูได้ที่: https://consumer.huawei.com/th/phones/p40/

ข่าว: สรุป 3 จุดเด่น Huawei P40 ทั้ง 3 โมเดล สุดยอดสมาร์ทโฟนพรีเมียมแห่งยุค ที่ครบเครื่องและตอบโจทย์การใช้งานในทุกสถานการณ์ มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2020/06/10/key-feature-of-huawei-p40-all-models.html

Huawei P40 Pro+ และ Mate Xs มือถือ 5G ระดับท็อป เคาะราคาศูนย์ไทยเริ่มต้น 40,990 บาท

ในที่สุดมือถือเรือธงตัวท็อปสุดอย่าง Huawei P40 Pro+ และมือถือจอพับโคตรล้ำอย่าง Mate Xs ก็ได้ฤกษ์เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการกันซักที โดยมือถือทั้ง 2 รุ่น นอกจากจะมีสเปค + ฟีเจอร์ทั้งหลายที่จัดเต็มสุดๆ แล้ว มันยังรองรับการใช้งานเครือข่ายความเร็วสูง 5G ในประเทศไทยได้ทันที ส่วนราคาของแต่ละรุ่นจะอยู่ที่เท่าไหร่ และเริ่มวางขายวันไหน…มาดูกันครับ

Huawei P40 Pro+

Huawei P40 Pro+ เป็นมือถือระดับเรือธงตัวท็อปสุดของซีรีส์ ที่มากับดีไซน์พรีเมี่ยม และฝาหลังที่ใช้วัสดุ Nano-Tech Ceramic ที่ทั้งดูหรูหรา แถมยังทนการขีดข่วนได้ดีด้วย (รุ่นที่ขายในประเทศไทยมีเฉพาะสีขาว Ceramic White)

มากับหน้าจอแบบ Quad-Curved Overflow Display ที่เป็นขอบโค้ง 4 ด้าน แถมยังมีขอบจอบางเฉียบ ส่วนแผงหน้าจอเป็นแบบ Flex OLED ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด 2640 x 1200, รีเฟรชเรท 90Hz, DCI-P3 HDR

กล้องหลังของ Huawei P40 Pro+ ก็จัดเต็มอีกเช่นเคย ด้วยกล้องหลังมากที่สุดถึง 5 ตัว ประกอบด้วย กล้อง Ultra Wide Cine 40MP (f/1.8) + กล้อง Ultra Vision Wide 50MP (f/1.9), OIS + กล้องซูม Optical 10x 8MP เลนส์ Periscope (f/4.4), OIS + กล้องซูม Optical 3x 8MP (f/2.4), OIS + กล้อง 3 มิติ ToF และเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิสี

โดยกล้องซูม Periscope สามารถซูมแบบ Optical ได้สูงสุดถึง 10x, ซูมไฮบริดได้ 20x และซูมแบบดิจิตอลได้สุดๆ ถึง 100x ซึ่งยังสามารถเก็บรายละเอียดได้แบบสวยงามอยู่

สเปค Huawei P40 Pro+

  • หน้าจอ OLED 6.58 นิ้ว ความละเอียด 2640 x 1200 รีเฟรชเรท 90Hz
  • CPU : Kirin 990 5G
  • GPU : Mali-G76
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 512GB รองรับ NM Card
  • กล้องหลัง 5 ตัว
    • Main: 50MP f/1.9 OIS
    • Ultra Wide: 40MP f/1.8
    • Super Zoom: 8MP f/4.4
    • Tele: 8MP f/2.4 OIS
    • 3D Depth Sensing Camera
  • กล้องหน้า : 32MP Autofocus f/2.2 + IR Depth Camera
  • เซ็นเซอร์ : Infrared face recognition, fingerprint (ใต้จอ), accelerometer, gyro, proximity, compass, color spectrum
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, BT 5.1
  • มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น : IP68
  • แบตเตอรี่ : 4,200 mAh รองรับชาร์จไวแบบมีสาย และไร้สาย 40W
  • ระบบ Android 10 ครอบด้วย EMUI 10.1 (HMS)

ราคา Huawei P40 Pro+

Huawei P40 Pro+ เคาะราคาเครื่องศูนย์ไทยมาที่ 40,990 บาท จะเริ่มเปิดให้ Pre-Order ตั้งแต่วันที่ 4 – 26 มิถุนายน และเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 27 มิถุนายน 2563 โดยผู้ที่สั่งจองจะได้รับของสมนาคุณเป็น หูฟัง Huawei Freebuds 3, Wireless Car Charger และ Huawei Exclusive Services รวมมูลค่า 12,200 บาท

ส่วนผู้ที่สั่งจองกับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือพร้อมสมัครแพ็คเกจรายเดือนที่กำหนด จะได้รับส่วนลดค่าเครื่องสุดพิเศษเริ่มต้นเพียง 24,990 บาท เท่านั้น

Huawei Mate Xs

มาต่อกันที่มือถือ Huawei Mate Xs สำหรับคนที่ต้องการความเท่ ความพรีเมี่ยม และความล้ำสุดๆ ด้วยหน้าจอพับได้ โดยเมื่อกางหน้าจอออกจะมีขนาดอยู่ที่ 8 นิ้ว และเมื่อพับหน้าจอ ด้านหน้าจะมีขนาด 6.6 นิ้ว และจอด้านหลังมีขนาด 6.38 นิ้ว ซึ่งสามารถพลิกใช้งานได้อิสระทั้ง 2 ด้าน

ไม่ใช่ว่าจะล้ำแค่หน้าจออย่างเดียว เพราะสเปคต่างๆ ก็จัดอยู่ในระดับไฮเอนด์ ด้วยชิปเรือธงรุ่นล่าสุดอย่าง Kirin 990 ซึ่งมีโมเด็ม 5G ในตัว, RAM 8GB และความจุ 512GB

กล้องหลังก็ไม่ใช่เล่นๆ เพราะมีมาให้ถึง 4 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 40MP SuperSensing Wide + เลนส์ Tele 8MP มีระบบ OIS + เลนส์ Ultrawide 16MP + เซ็นเซอร์ 3 มิติ ToF ที่มากับความสามารถในการซูมแบบออพติคอลได้ 3x ซูมแบบดิจิตอล 30x และดันระยะซูมออกไปได้สูงสุดถึง 45x เลยทีเดียว

สเปค HUAWEI MATE XS

  • หน้าจอ OLED ตอนกางขนาด 8 นิ้ว ความละเอียด 2480 x 2200
  • หน้าจอตอนพับ ด้านหน้าขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 2480 x 1148 / ด้านหลังขนาด 6.38 นิ้ว ความละเอียด 2480 x 892
  • CPU : Kirin 990
  • GPU : Mali-G76
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 512GB รองรับ NM SD Card 256GB
  • กล้องหลัง 4 ตัว
    • Main: 40MP SuperSensing Wide
    • Ultra Wide : 16MP
    • Tele : 8MP มีระบบ OIS
    • 3D Depth Sensing Camera
  • การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11a/b/g/n/ac (wave2), 2.4 GHz and 5 GHz, BT 5.0, USB-C
  • เซ็นเซอร์ : Gyroscope, Compass, Proximity Sensor, Gravity Sensor, Hall Sensor, Infrared Sensor, Ambient Light Sensor, Barometer, Colour Temperature Sensor, Fingerprint Sensor (ด้านข้าง)
  • แบตเตอรี่ : 4500 mAh รองรับ SuperCharge 55W
  • ระบบ : Android 10 ครอบด้วย EMUI 10.0.1 (HMS)
  • ขนาด / น้ำหนัก : (กาง) 146.2 x 161.3 x 11 มม., (พับ) 78.5 x 161.3 x 11 มม. / 300 กรัม

ราคา Huawei Mate Xs

Huawei Mate Xs เปิดราคาเครื่องศูนย์ไทยมาที่ 89,990 บาท เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป โดยผู้ที่ซื้อมือถือรุ่นนี้ยังจะได้รับเคสหนัง, เคสพับ และ Huawei Exclusive Services รวมมูลค่า 21,900 บาท ไปด้วย

from:https://droidsans.com/huawei-p40-pro-mate-xs-thailand-official/

Huawei เตรียมเปิดตัวมือถือ 5G เรือธง Mate Xs และ P40 Pro+ ในประเทศไทยเร็วๆ นี้

มือถือจอพับ 5G สุดเทพอย่าง Huawei Mate Xs และมือถือเรือธงกล้องเทพ P40 Pro+ เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และเริ่มทยอยวางจำหน่ายในหลายๆ ประเทศแล้ว ซึ่งล่าสุดมือถือ 5G ตัวท็อปทั้ง 2 รุ่น ก็กำลังจะเดินทางมาถึงบ้านเราในอีกไม่นานนี้แล้ว หลังจากที่เพจ Huawei Mobile ได้ออกมาประกาศว่า 5G Flagship Phone is coming.

ใครที่กำลังเล็งๆ มือถือไฮเอนด์กล้องเทพ หรือมือถือจอพับสุดล้ำ ที่รองรับการใช้งานเครือข่ายความเร็วสูง 5G อยู่ ก็เตรียมแคะกระปุกกันได้เลย เพราะ Huawei กำลังจะนำมือถือทั้ง Huawei Mate Xs และ Huawei P40 Pro+ มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเร็วนี้

ส่วนสเปคของมือถือทั้ง 2 รุ่น จะเทพแค่ไหน ถ้าใครที่ลืมไปแล้ว ก็มาดูกันอีกรอบนะครับ ว่าแต่ละรุ่นมีสเปคเป็นยังไงบ้าง

สเปค Huawei Mate Xs

  • หน้าจอ OLED ตอนกางขนาด 8 นิ้ว ความละเอียด 2480 x 2200
  • หน้าจอตอนพับ ด้านหน้าขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 2480 x 1148 / ด้านหลังขนาด 6.38 นิ้ว ความละเอียด 2480 x 892
  • CPU : Kirin 990
  • GPU : Mali-G76
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 512GB รองรับ NM SD Card 256GB
  • กล้อง : กล้องหลัก 40MP SuperSensing Wide + เลนส์ Tele 8MP มีระบบ OIS + เลนส์ Ultrawide 16MP + เซ็นเซอร์ 3 มิติ ToF
  • การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11a/b/g/n/ac (wave2), 2.4 GHz and 5 GHz, BT 5.0, USB-C
  • เซ็นเซอร์ : Gyroscope, Compass, Proximity Sensor, Gravity Sensor, Hall Sensor, Infrared Sensor, Ambient Light Sensor, Barometer, Colour Temperature Sensor, Fingerprint Sensor (ด้านข้าง)
  • แบตเตอรี่ : 4500 mAh รองรับ SuperCharge 55W
  • ระบบ : Android 10 ครอบด้วย EMUI 10.0.1
  • ขนาด / น้ำหนัก : (กาง) 146.2 x 161.3 x 11 มม., (พับ) 78.5 x 161.3 x 11 มม. / 300 กรัม

สเปค Huawei P40 Pro+

  • หน้าจอ OLED ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด 2640 x 1200
  • CPU : Kirin 990
  • GPU : Mali-G76
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 512GB รองรับ NM SD Card 256GB
  • กล้อง : กล้องหลัก 50MP, OIS + เลนส์ Tele 8MP, OIS + เลนส์ Ultrawide 40MP + เลนส์ Super Zoom 8MP + เซ็นเซอร์ 3 มิติ ToF
  • กล้องหน้า : 32MP + IR Depth Camera
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
    BT 5.1, USB-C
  • เซ็นเซอร์ : Infrared face recognition, fingerprint (ใต้หน้าจอ), accelerometer, gyro, proximity, compass, color spectrum
  • แบตเตอรี่ : 4200 mAh รองรับชาร์จไวมีสาย / ไร้สาย 40W
  • ระบบ : Android 10 ครอบด้วย EMUI 10.0.1
  • ขนาด / น้ำหนัก : 158.2 x 72.6 x 9 มม. / 226 กรัม

ก็ต้องมารอลุ้นกันครับว่า Huawei จะประกาศวันเปิดตัวของ Huawei Mate Xs และ Huawei P40 Pro+ ในบ้านเราออกมาวันไหน และจะมีราคาอยู่ที่เท่าไหร่กันบ้าง

 

ที่มา : Huawei Mobile

from:https://droidsans.com/huawei-mate-xs-p40-pro-plus-coming-to-thailand/

LINE เลื่อนเวลานำลง Huawei AppGallery เป็นภายใน พฤษภาคมนี้

หลังจากที่ทางผู้บริหารของ LINE ประเทศไทย ได้ไปขึ้นเวทีงานเปิดตัวของ Huawei P40 Series ประกาศความร่วมมือและเตรียมนำเอาบริการของ LINE ลง Huawei AppGallery ภายในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าจะเกิดโรคเลื่อนซะแล้วหลังผ่านมาเกือบสัปดาห์ ผู้ใช้ยังไม่เห็นตัวแอปขึ้นสโตร์แต่อย่างใด และล่าสุดทาง LINE ก็ออกแถลงการณ์มาเรียบร้อยว่าแอปยังอยู่ระหว่างการพัฒนา และขอเลื่อนการอัพโหลดขึ้น AppGallery เป็นภายในเดือน พ.ค. นี้

โดยทาง LINE ไม่ได้ให้เหตุผลที่แน่ชัดของความล่าช้านี้ออกมา ให้เพียงข้อมูลว่ายังอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อประสบการณ์ใช้งานที่ดี และด้านความปลอดภัยเพียงเท่านั้น ซึ่งถ้ามองในทางกลับกัน ก็น่าจะเป็นเรื่องดีที่ LINE ต้องการจะควบคุมคุณภาพให้ผู้ใช้งาน ไม่หละหลวมแม้จะต้องทำขึ้นอีกแพลมฟอร์มนึงก็ตาม

นี่เป็นการเลื่อนครั้งแรกของทาง LINE ที่แม้ประกาศเอาไว้บนเวทีเปิดตัวของ Huawei P40 Series แต่ไม่สามารถทำได้ตามสัญญา โดยหลายคนก็คาดกันว่าหาก AppGallery ได้ LINE มาลงเมื่อไหร่ ก็น่าจะดึงผู้ใช้ชาวไทยอีกหลายคนให้กลับไปใช้ Huawei กันได้ไม่น้อย ซึ่งก็น่าติดตามว่าทางทีมพัฒนาของ LINE จะสามารถนำเอาตัวแอปที่ปรับไปใช้งาน HMS มาลงใน AppGallery ได้ภายในเดือนนี้ได้ตามสัญญาหรือไม่

เรียกว่าเป็นปีที่ผู้ใช้ทั้ง 3 ค่ายใหญ่อย่าง Samsung Oppo Huawei ต่างต้องรอและลุ้นถึงฟีเจอร์ที่รอคอยหลังเปิดตัวกันไม่น้อย ซึ่งก็คงต้องรอดูว่า Huawei จะมี LINE ให้ใช้งาน หรือ Samsung และ Oppo จะมีเครื่องแรกที่ใช้งาน 5G ได้ก่อนกัน กันแน่

from:https://droidsans.com/line-delayed-appgallery-launch-within-may/

รวม 4 ฟังก์ชั่นและฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ Huawei P40 Series 5G อาจจะยังไม่รู้!

นอกจากความเจ๋งของกล้อง Huawei P40 Series 5G ที่น่าสนใจและถูกพูดถึงอย่างมาก วันนี้เราได้รวบรวม 4 ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์สำหรับผู้ใช้ Huawei P40 Series 5G ไม่ว่าจะเป็นรุ่นธรรมดาอย่าง Huawei P40 หรือรุ่นโปร Huawei P40 Pro ที่อาจจะยังไม่ทราบ มาให้ลองใช้กัน ซึ่งบางฟีเจอร์เพิ่งได้รับการพัฒนาและเปิดตัวพร้อมสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ติดตั้งมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด EMUI 10.1 ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการทำงานยุคดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์แบบ 

ทำงานหลายดีไวซ์ในเวลาเดียวกัน พร้อมแชร์ไฟล์ได้ง่ายๆ ด้วย Huawei Share 

ในยุคที่ทุกคนทำงานผ่านสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ มากกว่าหนึ่งเครื่อง ทั้งสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป การเชื่อมต่อเพื่อแชร์หน้าจอหรือข้อมูลต่างๆ เช่น ไฟล์พรีเซนเทชัน ไฟล์ภาพ หรือวิดีโอ เป็นต้น หากทำได้อย่างง่ายดายด้วยการเชื่อมต่อแบบไร้สาย (wireless) จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ ทั้งประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในพกพาอุปกรณ์เสริม Huawei Share คือฟีเจอร์ล่าสุดที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาด้งกล่าว

โดย Huawei Share ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อและแชร์ข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ของหัวเว่ย รวมถึงหน้าจอ เพียงแตะสมาร์ทโฟน Huawei P40 Series 5G เข้ากับแท็บเล็ตหรือแล็ปท็อปของหัวเว่ย ผู้ใช้จะสามารถแก้ไฟล์ในสมาร์ทโฟน ได้ด้วยโปรแกรมบนอุปกรณ์อื่น สามารถรับโทรศัพท์ผ่านอุปกรณ์อื่นขณะแก้งานได้ ทั้งยังสามารถส่งไฟล์ภาพหรือวิดีโอขนาดใหญ่ๆ จากสมาร์ทโฟนไปยังอุปกรณ์อื่นได้ภายในพริบตา 

 



วิดีโอคอลคุณภาพสูง ให้ทุกบทสนาคมชัดระดับ Full HD ผ่านสัญญาณ 5G ด้วยฟีเจอร์ MeeTime 

ไม่ว่าจะด้วยสถานการณ์หรือไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ทำให้คนยุคเราต้อง work anywhere anytime มากยิ่งขึ้น การติดต่อประสานงานหรือการประชุมผ่านสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ จึงเป็นที่นิยม ยังไม่นับรวมการใช้เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนและคนในครอบครัว ในสถานการณ์ที่เราต้อง social distancing ความต้องการใช้วิดีโอคอลคุณภาพสูงจึงยิ่งเพิ่มทวีคูณ

ด้วยระบบปฏิบัติการเวอร์ชันปรับปรุงใหม่ล่าสุด EMUI 10.1 หัวเว่ยได้แนะนำฟีเจอร์ใหม่ MeeTime ฟีเจอร์วิดีโอคอลเอ็กซ์คลูสีฟเฉพาะของหัวเว่ยที่ติดตั้งมาพร้อมกับสมาร์ทโฟน Huawei P40 Series 5G ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพวิดีโอคอลให้เป็นระดับ Full HD รองรับการเชื่อมต่อสัญญาณความเร็วสูง 5G ทำให้ภาพและเสียงคมชัด ไม่ถูกลดทอนคุณภาพแม้ในที่แสงสลัวหรือจุดอับสัญญาณ พร้อมระบบการแชร์หน้าจอระหว่างการสนทนา เพื่อเป็นเครื่องมือในการทำงานร่วมกันในระยะไกล

Windows-Multiplier เปิดหลายวินโดว์ได้แบบไม่มีสะดุด 

ต่อยอดจากการรวมจอของดีไวซ์เข้าไว้ด้วยกันฟังก์ชัน Multi-screen collaboration สมาร์ทโฟน Huawei P40 Series มาพร้อมฟีเจอร์ Windows-Multiplier ที่ให้ผู้ใช้สามารถเปิดหลายๆ หน้าต่าง เพื่อดูหลายโปรแกรมได้ในเวลาเดียวกัน เหมือนการเล่นคอมพิวเตอร์ที่มีหลายวินโดวส์ เวลาเปิดแอปพลิเคชันก็สามารถแบ่งจอเพื่อดูแอปเดียวกันในแต่ละ section ได้พร้อมกัน 

 

ในระบบ Windows-Multiplier ของ Huawei P40 Series นอกจากจะแบ่งหน้าจอทำงานแล้ว ยังสามารถเปิดแอพพลิเคชั่นเพิ่มขึ้นมาเป็นป๊อบอัพ และสามารถปรับย้ายตำแหน่งได้ด้วยการลากหน้าต่างไปได้ทั่วหน้าจอ ซึ่งสามารถเรียกใช้งานแอพในแบบป๊อบอัพได้ง่ายๆ แค่เพียงสไลด์นิ้วจากขอบจอ แล้วเลือกเปิดแอพที่เรากำหนดเอาไว้ได้ล่วงหน้าในทันที

Phone Clone ให้คุณย้ายโปรแกรมหรือแอปในเครื่องเดิมได้เหมือนโคลนนิ่ง 

สำหรับผู้ที่เคยใช้สมาร์ทโฟนของหัวเว่ยคงรู้จักกับฟีเจอร์ Huawei Phone Clone นี่เป็นอย่างดี ฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้โอนย้ายข้อมูลจากเครื่องเก่ามาไว้ในสมาร์ทโฟน Huawei P40 Series 5G ได้ในไม่กี่คลิก ราวกับโคลนนิ่งโทรศัพท์เครื่องเดิมมาไว้ในเครื่องใหม่ โดยผู้ใช้สามารถเลือกข้อมูล แอปพลิเคชัน รายชื่อติดต่อ ข้อความบันทึกต่างๆ ที่ต้องการโอนจากเครื่องเก่ามาไว้ในเครื่องใหม่ได้ภายในไม่กี่นาที จึงทำให้สามารถใช้งานแอปพลิเคชันเดิมที่เคยมีอยู่ในเครื่องเก่าได้เลย แบบไม่ต้องดาวน์โหลดใหม่ และยังรองรับการโอนถ่ายข้อมูลจากสมาร์ทโฟนในระบบอื่นได้เช่นกัน 


HUAWEI P40 Series 5G เริ่มเปิดตัววางจำหน่ายในไทย พร้อมให้ทุกคนได้ทดลองฟีเจอร์เด็ดที่กล่าวไปแล้ว ประกอบด้วย 2 รุ่น คือ HUAWEI P40 5G ที่ราคา 22,990 บาท และ Huawei P40 Pro 5G ที่ราคา 31,990 บาท มีให้เลือก 3 สี คือ Silver Frost, Blush Gold และ Deep Sea Blue ดูข้อมูลเพิ่มเติมหรือพรีออเดอร์ได้ที่ https://consumer.huawei.com/th/campaign/p40/ พร้อมพบโปรโมชันและสิทธิพิเศษมากมายในช่วงพรีออเดอร์ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 เมษายนนี้ ก่อนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 

ข่าว: รวม 4 ฟังก์ชั่นและฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ Huawei P40 Series 5G อาจจะยังไม่รู้! มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2020/04/25/huawei-p40-series-4-functions.html