อ่านแบบหน้าเดียว
DDR4 ถือว่าเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นแล้วในเวลานี้ ไม่เพียงแต่เฉพาะการใช้งานร่วมกับแพลทฟอร์มจากทาง Intel เท่านั้น เพราะไม่นานมานี้ทาง AMD เองก็เพิ่งจะประกาศเปิดตัว APU Gen 7 หรือรหัสพัฒนาที่ชื่อว่า Raven Ridge ของตนเองซึ่งเป็นแพลทฟอร์มใหม่ภายใต้รหัส AM4 และมันก็พร้อมใช้งานร่วมกับแรมในแบบ DDR4 เป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน ส่วนแพลทฟอร์มใหญ่อย่าง Summit Ridge หรือ Zen FX ก็กำลังจ่อจะเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้านี้แล้ว ดังนั้นคงถึงเวลาแล้วที่เราจะพูดได้ว่า ณ เวลานี้มันคือยุคสมัยของ DDR4 อย่างเต็มตัว หลังจากนี้ไปแรม DDR4 ก็จะเป็นที่มองหามากขึ้น และในวันนี้ทางเราก็จะมีบททดสอบแรมจากผู้ผลิตที่เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านต่างก็น่าจะคุ้นเคยกันดี หากแต่อาจจะยังไม่คุ้นมากนักสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นแรม แต่ถ้าพูดถึงการ์ดจอนั้นก็คงร้องอ๋อกันเป็นแถว ๆ สำหรับผู้ผลิตที่มีนามว่า GALAX หรือเดิมที่เรารู้จักกันในนาม GALAXY นั่นเอง
เมื่อพูดถึง GALAX แน่นอนว่าอย่างแรกที่ทุกคนจะนึกถึงคือการ์ดจอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการ์ดจอในตระกูล Hall Of Fame หรือ HOF ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในเรื่องของการออกแบบที่มีการใช้โทนสีขาวเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อพูดถึง HOF ก็จะต้องนึกถึงความแรง นึกถึงเรื่องของการโอเวอร์คล๊อก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทาง GALAX ได้มีการให้ความสำคัญในลำดับต้น ๆ สำหรับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในกลุ่มของ HOF ขณะเดียวกันในเวลานี้ HOF ก็ดูเหมือนว่ากำลังเป็นเครื่องหมายการค้ารองของทาง GALAX ไปแล้ว เพราะไม่เพียงแต่จะมีการ์ดจอให้เลือกใช้งานเท่านั้น มันยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ให้ได้เลือกใช้งานเช่นกันอาทิ SSD, Gaming Gear และรวมถึง Memory หรือแรมซึ่งก็จะเป็นสิ่งที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้สำหรับแรมในตระกูล HOF DDR4 นั่นเอง
ก่อนที่จะไปว่ากันถึงตัวแรมที่ทางเราได้รับมาทำการทดสอบให้ได้ชมกันนั้น ตรงนี้ผมขอท้าวความเกี่ยวกับแรมในตระกูล HOF ในยุคของ DDR4 ก่อนสักเล็กน้อย ซึ่งจุดเริ่มต้นของแรม HOF จากทาง GALAX ไม่ได้จะเพิ่งมีมาเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วก็มีมาตั้งแต่ปลายยุค DDR3 ซึ่งผมเองก็เคยทำการทดสอบให้ได้ชมไปบ้างแล้วในอดีต แต่ ณ เวลานั้นทาง GALAXY จะยังคงทำตลาดเฉพาะในจีนจึงทำให้ยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก ทว่ามาในยุคของ DDR4 นั้นทาง GALAX ได้เริ่มทำการเปิดขายทั่วโลก และสำหรับ HOF DDR4 เบื้องต้นในเวลานี้จะมีให้ได้เลือกใช้งานกันทั้งหมด 4 โมเดล โดยที่จะมีเวอร์ชันพิเศษหนึ่งโมเดลคือเวอร์ชัน GALAX OC LAB ที่มันจะได้รับการคัดสรรค์เป็นพิเศษในทุก ๆ ชิ้นส่วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวเม็ดแรม คัดมือกันเม็ดต่อเม็ดเพื่อให้มั่นใจว่ามันจะสามารถโอเวอร์คล๊อกได้อย่างสุดขั้วทุกแผง ด้วยนักโอเวอร์คล๊อกในระดับตำนาน Mad Tse ซึ่งในเวอร์ชัน OC LAB จะทำมาในลักษณะ Limited Edition หรือมีจำนวนจำกัดเพียงแค่ 100 คู่ทั่วโลกเท่านั้น กับแรมที่ทำงานบนความเร็ว DDR4-4000MHz CL19-25-25-45 ส่วนในตระกูลปรกติที่ไม่ใช่ตัว OC LAB ก็จะมีความเร็วในระดับเดียวกันนี้ ใช้ไทมิ่งเดียวกันให้ได้เลือกใช้งานเช่นกัน และทุกคู่ทุกรุ่นไม่ว่าจะเป็นโมเดลความเร็ว 4000MHz CL19, 3600MHz CL17 หรือ 3200MHz CL14 ทั้งหมดจะใช้ชิบแรมคัดมือและทำการทดสอบภายใต้ภาวะที่หนักหน่วงถึง 3 รอบเพื่อให้มั่นใจว่ามันจะสามารถทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพที่สุด
Package – บรรจุภัณฑ์
#example4_23548 .title-in {
color: #ffffff !important;
font-weight: bolder;
}
#example4_23548 .desc-in {
color: #ffffff !important;
}
#example4_23548 .read-more-color {
color: #ffffff !important;
display: block;
}
/* navigation button/bullets color */
#example4_23548 .sp-button {
border: 2px solid #31a3dd !important;
width: 15px;
height: 15px;
}
#example4_23548 .sp-selected-button {
background-color: #31a3dd !important;
}
/* navigation arrow color */
#example4_23548 .sp-next-arrow::after, #example4_23548 .sp-next-arrow::before, #example4_23548 .sp-previous-arrow::after, #example4_23548 .sp-previous-arrow::before {
background-color: #31a3dd!important;
}
#example4_23548 .sp-full-screen-button {
font-weight: bolder;
color: #31a3dd!important;
}
.slider-pro {
font-family: ‘Open Sans’, Arial;
}
/* Example 4 */
#example4_23548 .sp-slides-container {
background-color: #F4F4F4;
}
#example4_23548 h3 {
margin: 0 0 10px 0;
}
#example4_23548 p {
margin: 0 0 30px 0;
}
#example4_23548 img {
display: block;
}
#example4_23548 .sp-thumbnail-container {
width: 200px;
height: 130px;
overflow: hidden;
margin-bottom: 10px;
}
#example4_23548 .sp-image-text {
background: rgba(0, 0, 0, 0.5) !important;
color: #FFF;
padding: 20px;
transform: initial !important;
}
.links {
text-align: center;
margin-top: 10px;
}
@media (max-width: 860px) {
#example4_23548 .hide-medium-screen {
display: none;
}
}
มาว่ากันที่ตัวแรมกันเลยนะครับ ซึ่งทีแรกเราก็ต้องมาดูกันที่ตัวกล่องหรือแพ็คเกจของมันสักหน่อย และลักษณะการออกแบบนั้นก็มาในลักษณะเดียวกันกับแพ็คเกจของ HOF SSD ที่เราเคยนำเสนอไปแล้วครั้งหนึ่ง มาในแบบเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความหรูหราซึ่งในภาพอาจจะมองไม่เห็นว่าทั่วทั้งกล่องจะมีลายนูนโลโกมงกุฎเล็ก ๆ อยู่ด้วย ส่วนด้านหลังก็จะมีการเจาะช่องให้เห็นหน้าตาของตัวแรมบางส่วน
Unboxing & Bundled – เปิดกล่อง
สำหรับตัวกล่องจะออกแบบให้เป็นบรรจุภัณฑ์ไปในตัว โดยจะมีลักษณะเป็นฝาพับสองชั้นซ้ายขวา (เปิดซ้ายก่อนแล้วเปิดขวา) มาพร้อมกับแถบแม่เหล็กสำหรับปิดผนึก ส่วนด้านในของฝาด้านซ้ายก็จะมีการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นมาของ HOF คร่าว ๆ ประมาณว่าทุกวันนี้ HOF ไม่ได้มีให้เลือกแค่ชิ้นเดียว(การ์ดจอ)อีกต่อไป ฝาด้านขวาก็จะพูดถึงการออกแบบและขั้นตอนการผลิตของตัวฮีตซิงก์ที่มีการให้ความสำคัญในทุก ๆ รายละเอียด และสำหรับตัวแรมก็จะวางอยู่ในฟองน้ำเนื้อแข็งตรงกลางดังที่ปรากฏ
The HOF DDR4-4000 – ตัวแรม
ตัวแรมก็ถือว่าค่อนข้างมีน้ำหนักพอสมควรแม้ว่าฮีตซิงก์จะใช้วัสดุอลูมิเนียมก็ตามที แต่ด้วยการเลือกใช้แผ่นอลูมิเนียมที่ค่อนข้างหนา เพราะลวดลายทั้งหมดบนตัวแรมจะเป็นการกัดลายนูนด้วยเลเซอร์ ไม่ได้เป็นการแปะสติ๊กเกอร์ ซึ่งกึ่งกลางก็จะมีโลโก Hall Of Fame เงาวาวส่วนลายเส้นรูปตัว X จะเป็นการเซาะร่องเล็ก ๆ รวมทั้งตัวอักษร Hall Of Fame ทั้งสองฝั่งด้วยเช่นกัน และในเบื้องต้นนั้นสำหรับ HOF DDR4 จะยังมีเพียงในแบบ Dual Channel Kit มาให้ได้เลือกใช้งานกันเท่านั้นจะยังไม่มีในแบบ Quad Channel ออกมาให้ได้เลือกใช้งานกัน
ในบริเวณสันแรมก็จะมีแถบพลาสติกสีขาวขุ่นอยู่กึ่งกลางระหว่างฮีตซิงก์ทั้งสองด้านของตัวแรม ซึ่งเห็นแบบนี้แล้วหลาย ๆ ท่านก็คงกำลังยิ้มหวานว่าแรมคู่นี้หรือในตระกูลนี้จะต้องมีไฟแสงสีขาวนวลตาเสริมบารมีอย่างแน่นอน แต่…! ในเรื่องนี้อาจจะสร้างความผิดหวังให้กับแฟน ๆ HOF ไม่น้อย เพราะ HOF DDR4 ไม่ได้มีการติดตั้ง LED มาให้ด้วยแต่อย่างใด หรือพูดง่าย ๆ ว่ามันไม่ได้เป็นแรมมีไฟเหมือนในยุคของ HOF DDR3
สำหรับตัวแรมที่เราได้รับมาทดสอบในวันนี้จะถือว่าเป็นโมเดลสูงสุดของตระกูล HOF DDR4 กับตัวแรมที่มีความเร็วการทำงานที่ DDR4-4000MHz มีอัตราไทมิ่ง CL19-25-25-45 อัตราความจุ 8GB ต่อแถวหรือคู่ละ 16GB และใช้ไฟเลี้ยง 1.4V ซึ่งความเร็วดังกล่าวนี้จะเป็นความเร็วที่ทำงานผ่านโปรไฟล์ XMP 2.0 แต่หากว่านำมาติดตั้งใช้งานโดยไม่ปรับตัว Bios ให้บู๊ตผ่าน XMP มันก็จะทำงานที่ความเร็วเพียง DDR4-2133MHz CL15 เท่านั้น ทั้งนี้กับ HOF DDR4-4000MHz คู่นี้จะเป็นเพียงเวอร์ชันปรกติ ไม่ใช่ OC LAB โดยจุดสั้งเกตนั้นจะมีความแตกต่างกันที่รหัสโมเดล โดยหากเป็น OC LAB มันจะมีหมาย 1 หลังตัวอักษร CXL (CXL1BS) แต่ทว่าสเป็คทุกอย่างจะเหมือนกัน แต่จุดที่แตกต่างคือตัว OC LAB ทุกคู่จะคัดพิเศษกว่าและรับประกันว่าจะสามารถโอเวอร์คล๊อกหรือกดไทมิ่งในช่วง CL12-12-12-xx ที่ความเร็ว 4000MHz ได้แน่นอน
ไม่เพียงแค่ว่าเม็ดแรมจะได้รับการคัดมือมาให้เป็นอย่างดีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่รักและชื่นชอบในการโอเวอร์คล๊อกทาง GALAX ก็ยังได้ให้ความสำคัญกับตัว PCB ซึ่งได้ทำการเลือกใช้ PCB ที่มีจำนวนเลเยอร์ 10 ชั้นอีกด้วย เพื่อเพิ่มความมั่นใจอีกระดับว่ามันจะสามารถรองรับการโอเวอร์คล๊อกได้อย่างเต็มความสามารถที่สุด
หนึ่งในสิ่งที่ขอม๊อดทั้งหลายอาจจะเสียใจนิด ๆ หากซีเรียสกับเรื่องของการรับประกันหรือขาชุดน้ำทั้งหลายที่เราจะไม่สามารถงัดฮีตซิงก์ของตัวแรมได้เพราะทาง GALAX จะมีการแปะวอยด์ระหว่างฮีตซิงก์เอาไว้ ทั้งนี้จากข้อมูลที่เปิดเผยอย่างชัดเจนในเรื่องของเม็ดแรมนั้น ตัวแรมในโมเดล HOF 4000MHz จะเป็นการใช้เม็ดแรมจากทาง SAMSUNG อย่างแน่นอน แต่ไม่ได้ระบุว่าจะเป็นรหัส B-DIE ทุกตัวหรือเปล่าแต่หากเป็นในโมเดล OC LAB ทุกคู่จะเป็น B-DIE 100%
Specification
Series |
HOF4CXLBS4000M19SF162C |
Memory Type |
DDR4 |
Capacity |
16GB (8GBx2) |
Multi-Channel Kit |
Dual Channel Kit |
Tested Speed |
4000MHz |
Tested Latency |
19-25-25-45 |
Tested Voltage |
1.4V |
Registered/Unbuffered |
Unbuffered |
Error Checking |
Non-ECC |
SPD Speed |
2133MHz |
SPD Voltage |
1.20v |
Fan lncluded |
No |
Height |
50mm / 1.97inch |
Warranty Limited |
Lifetime |
Features |
Intel XMP 2.0 (Extreme Memory Profile) Ready |
from:http://feedproxy.google.com/~r/zolkorn/~3/p1QMXofjkcY/