คลังเก็บป้ายกำกับ: GOOGLE_HOME_HUB

Tips | วิธีต่อลำโพงบลูทูธทั่วไปเข้ากับลำโพงอัจฉริยะ Google Home หรือ Home Hub แบบง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน

ลำโพงอัจฉริยะ Google Home, Home Mini หรือ Home Hub ถ้าใครที่มีใช้แล้วจะรู้ว่ามันเพิ่มความสะดวกสบายให้เราเยอะเลย เช่นใครที่มีหลอดไฟอัจฉริยะ, ปลั๊กไฟอัจฉริยะ ฯลฯ ก็สั่งงานอุปกรณ์เหล่านั้นด้วยเสียงได้เลย นอกจากนี้เรายังสามารถเล่นเพลงได้จากตัว Google Home หรือ Home Hub ได้เลยด้วย จะติดตรงที่ว่าเสียงของมันอาจจะไม่ดีเท่ากับลำโพงบลูทูธตัวโปรดของเรา ทำให้สุดท้ายแล้วต้องมาฟังเพลงผ่านมือถือเหมือนเดิม…แต่จริงๆ แล้วเราสามาถต่อลำโพงอัจฉริยะเข้ากับลำโพงบลูทูธทั่วไปได้ด้วยนะ! แถมวิธีทำก็ไม่ได้ยากอะไรเลย

อย่างที่บอกไปแล้วว่าพวกลำโพงอัจฉริยะรุ่นเริ่มต้นอย่างเช่น Google Home Mini เป็นลำโพงดอกเล็กๆ ซึ่งไม่ได้เน้นเอาไว้ฟังเพลงเป็นหลัก (เสียงไม่แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีเด่อะไร) ซึ่งหากเราอยากได้ลำโพงอัจฉริยะที่เสียงดีๆ ก็ต้องโดดขึ้นไปเล่นพวก Google Home Max ที่มีราคาหลัก 10,000+ บาท หรือพวกลำโพง 3rd Party อย่าง LG WK7 XBOOM ราคาประมาณ 6,XXX บาท และรุ่นอื่นๆ แต่ถ้าเรามีลำโพงบลูทูธที่ชอบอยู่แล้ว และอยากจะให้มันมีความอัจฉริยะของ Google Home Mini ด้วย ก็ต้องเอามาจับคู่กันซะเลย เราก็จะได้ทั้งลำโพงไร้สายเสียงดี ที่สั่งงานด้วยคำสั่งเสียงได้อีกต่างหาก

คนที่เชื่อมต่อลำโพงอัจฉริยะ Google Home, Home Mini หรือพวกหน้าจออัจฉริยะ Home Hub อยู่แล้ว ในมือถือก็จะต้องมีแอป Home ติดไว้สำหรับการตั้งค่าต่างๆ เอาไว้ด้วยแน่นอน โดยเมื่อเข้ามาที่หน้าแรกของแอป ก็จะเจอกับรายชื่ออุปกรณ์ของเราที่มีอยู่แบบนี้

ถ้าเกิดว่าอยากจะเชื่อมต่อลำโพงบลูทูธตัวโปรดของเราเข้ากับหน้าจออัจฉริยะที่อยู่ในห้องนอน (ชื่ออุปกรณ์ที่ผมตั้งไว้คือ Bedroom Display) ก็กดเลือกอุปกรณ์ดังกล่าว แล้วมันก็จะเข้ามาที่หน้าสำหรับควบคุม Media แบบนี้

จากนั้นกดเลือกที่เมนู Device settings (รูปเฟืองมุมขวาบน) เลื่อนลงมาเรื่อยๆ จนเจอกับเมนู Paired Bluetooth devices

พอเข้ามาที่หน้านี้ก็ให้เราเปิดโหมดจับคู่ที่ลำโพงบลูทูธซะก่อน แล้วกดเลือก Pair Bluetooth speaker ที่มือถือ เมื่อมีชื่อของลำโพงที่เราต้องการโผล่ขึ้นมาแล้วก็กดจับคู่ซะ

พอออกมาที่หน้า Device settings ตรงเมนู Default music speaker ก็จะเปลี่ยนเป็นชื่อของลำโพงบลูทูธของเราแทน ซึ่งตอนนี้เพลงที่เล่นจาก Google Home, Home Mini, Home Hub หรืออื่นๆ จะมาออกที่ลำโพงบลูทูธแล้วล่ะครับ โดยถ้าเราเลิกฟัง และปิดลำโพงบลูทูธไปแล้ว คราวหลังต้องการทำแบบนี้อีก ก็แค่เปิดลำโพงบลูทูธ จากนั้นมาเปิดที่เมนู Default music player เลือกชื่อลำโพงตัวเดิมก็ใช้ได้เลย ไม่ต้องจับคู่ใหม่

ซึ่งวิธีการเชื่อมต่อลำโพงบลูทูธเข้ากับลำโพงอัจฉริยะ หรือหน้าจออัจฉริยะแบบนี้ จะเป็นการเล่นเสียงจากอุปกรณ์ดังกล่าวโดยตรง ไม่ได้มาจากมือถือ เพราะฉะนั้นเราก็สามารถใช้มือถือเล่นนู่นเล่นนี่ได้ตามสบาย โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าเสียงอื่นๆ จะออกมาที่ลำโพงครับ

from:https://droidsans.com/how-to-connect-bluetooth-speaker-with-google-home-speaker/

เปิดตัว Google Nest Hub Max พร้อมสเปค และฟีเจอร์เด็ดๆ

สำหรับใครที่คิดว่า Google Nest Hub (หรือชื่อเดิมคือ Google Home) มีขนาดที่เล็กเกินไปหน่อยสำหรับใช้งานในบ้าน ล่าสุด Google ก็ได้ประกาศเปิดตัว Google Nest Hub Max ออกมาในงาน Google I/O 2019 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเรียบร้อย ด้วยขนาดหน้าจอ 10 นิ้ว ความละเอียด HD และมาพร้อมกับ Google Assistant ว่าแต่สเปคและฟีเจอร์จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

ไม่เพียงแต่หน้าจอที่ใหญ่และคมชัดมากขึ้น เจ้าตัว Nest Hub Max ก็ยังมาพร้อมกับกล้องวงจรปิด Nest Cam ในตัวสำหรับเช็คว่า ขณะที่เราไม่ได้อยู่ บ้านเราเป็นยังไงบ้าง สัตว์เลี้ยงหรือสมาชิกในครอบครัวกำลังทำอะไรอยู่ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์จดจำใบหน้าอย่าง Face Match ติดมาอีกด้วย โดยจุดเด่นคือ หากมีคนแปลกหน้าเดินผ่าน มันจะแจ้งเตือนเราโดยทันที และอีกหนึ่งความสามารถของเจ้าตัวฟีเจอร์นี้ก็คือ มันสามารถสร้างปฏิทินและเพลย์ลิสต์เพลงของแต่ละสมาชิกในครอบครัวได้ด้วย เรียกได้ว่าส่วนตัวสุดๆ

ยิ่งไปกว่านั้นเจ้า Nest Hub Max ที่ว่าก็ยังมีฟีเจอร์เด็ดอย่าง Quick Gesture ติดมาด้วย ความพิเศษของมันคือ เราจะสามารถควบคุมการเล่นสื่อทั้งหมดในเครื่อง โดยการขยับหรือโบกมือเท่านั้น! ยกตัวอย่างเช่น หากเราอยากจะเรียก Google Assistant ขึ้นมา แต่เพลงหรือวิดีโอที่เปิดอยู่ มันก็เสียงดังเกินไปจนผู้ช่วยอัจฉริยะไม่น่าจะได้ยิน เราก็สามารถยกมือขึ้นมา เพียงเท่านี้เพลงหรือวิดีโอดังกล่าวก็จะหยุดทันที หากเราคุยกับผู้ช่วยเสร็จแล้วล่ะก็ เราก็ทำยกมือขึ้นมาแบบเดิม เท่านี้เพลงหรือวิดีโอที่เราสั่งให้หยุดเมื่อกี้ ก็จะกลับมาเล่นเหมือนเดิมแล้วจ้า

สเปค Google Nest Hub Max

  • หน้าจอ 10 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 800
  • กล้องหน้า พร้อมทำงานเป็น Nest Cam (คล้ายๆ กล้องวงจรปิด) มุมกว้าง 127 องศา
  • ลำโพงทวีตเตอร์ (ลำโพงเสียงแหลม) และลำโพงซับวูฟเฟอร์
  • ไมค์ระยะไกลที่ติดมาให้ถึง 2 ตัว
  • ปุ่มด้านหลังที่เมื่อกดแล้วจะปิดการใช้งานกล้องและไมค์

โดยราคาเปิดตัวจะอยู่ 229 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเป็นเงินไทยก็ประมาณ 7,xxx บาท ขณะที่ Google Nest Hub ตัวธรรมดา (หรือ Google Home Hub นี่แหละ) ลดราคาเหลือเพียงแค่ 129 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 4,xxx บาทเท่านั้นเอง (อย่าลืมว่ายังไม่รวมภาษี) สำหรับจะเปิดจองได้วันไหน อันนี้ทาง Google ยังไม่ได้ประกาศออกมาอย่างแน่ชัด บอกมาแค่ว่าภายในซัมเมอร์นี้แหละ ก็คงจะประมาณระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมนี่แหละ

ที่มา: techradar

from:https://droidsans.com/google-nest-hub-max-release-date-price-features-and-news/

Preview : Google Home Hub ผู้ช่วยประจำบ้านคนใหม่จาก Google

ดูเหมือนว่าเทรนด์ของ Home Assistant Device จะยังน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆไม่ว่าจะ Google, Apple หรือ Facebook ก็ลงมาเล่นกลุ่มตลาดนี้กันหมดแล้ว ถึงแม้ว่า Google จะมี Google Home, Google Home Max และ Google Home Mini แล้ว แต่ในปีนี้นอกจากจะเปิดตัว Google Pixel 3 แล้วก็ยังเปิดตัว Google Home Hub ด้วยซึ่งเป็น Home Assistant Device ตัวใหม่ที่ยังทำงานด้วย Google Assistant เหมือนเดิมแต่เพิ่มเติมด้วยหน้าจอแสดงผลเพื่อให้ทำงานมากกว่าที่ Google Home ตัวเก่าๆนั้นสามารถทำได้

ถึงแม้ว่าผมจะแอบเสียใจนิดหน่อยที่เพิ่งซื้อ Google Home ไม่กี่วันก่อน แต่ตอนนี้ได้เจ้า Google Home Hub ติดมือกลับมาด้วยซะงั้น แต่ได้มาก็ดีกว่าไม่ได้เนอะ ดังนั้นก็ขอประเดิมด้วยการพรีวิวกันเลยดีกว่า

ในตอนที่ผมเห็นในงานเปิดตัวก็นึกว่ามันจะมีขนาดใหญ่ซะอีก แต่พอได้เห็นตัวกล่องแล้วก็รู้สึกว่ามันเล็กกว่าที่คิดไว้มาก

โดยตัวกล่องก็จะมาในสไตล์สินค้าของ Google น่ะแหละ ซึ่งผมไม่ค่อยชอบตรงวิธีการเปิดกล่องซักเท่าไร เพราะมันจะเปิดกล่องด้วยการยกฝากล่องขึ้น เวลาแบกกล่องไปมาก็รู้สึกกลัวว่ามันจะหลุดออกมา (ยิ่งตอน Google Home Max ยิ่งกลัวมากๆ)

สำหรับ Google Home Hub ที่ผมได้มานั้นเค้าจะมีให้เลือกระหว่างสี Chalk (ขาว) กับ Charcoal (ดำ) เพื่อให้เข้ากับ Google Home และ Google Home Mini ที่ผมมีอยู่ก็เลยเลือกเป็น Chalk หรือสีขาวแทน แต่จากที่แอบไปส่องสีอื่นๆมาที่เป็นตัวโชว์อยู่ตามร้านค้าก็พบว่าสี Aqua (ฟ้า) กับ Sand (ชมพู) นั้นสวยมากๆ เหมาะสำหรับคนที่เบื่อสีพื้นๆและต้องการความสดใสในชีวิต

แต่ขอบหน้าจอที่ด้านหน้ายังเป็นสีขาวอยู่นะ ถึงแม้ว่าจะเลือกเป็นสีอื่นๆก็ตาม (น่าจะทำให้เป็นสีเดียวกันทั้งเครื่องไปเลย)

โดยหน้าจอจะมีขนาด 7 นิ้วเป็นทัชสกรีนเหมือนแทบเล็ตทั่วๆไป ดังนั้นถ้าอยากรู้ว่าขนาดมันใหญ่แค่ไหนก็ให้คุณนึกถึงแทบเล็ตหน้าจอ 7 นิ้วที่มีขอบหนาๆละกันนะ

และนอกจากหน้าจอขนาด 7 นิ้วแล้ว ยังมีไมโครโฟนระยะไกลจำนวน 2 ตัวอยู่ข้างบนหน้าจอเพื่อให้สามารถฟังเสียงของทุกๆคนในบ้านได้ไม่ว่าจะอยู่ห้องไหนก็ตาม และมีเซ็นเซอร์วัดแสงเพื่อปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะสมกับแสงในห้องนั้นๆด้วย

ซึ่งมีประเด็นที่หลายๆคนสงสัยว่าทำไมเจ้า Google Home Hub ถึงไม่มีกล้องติดมาให้เหมือนอย่างเจ้าอื่นๆ เพราะขนาด Lenovo ที่เป็น Google Assistant เหมือนกันก็ยังมีกล้องหน้าเลย ถึงแม้ว่าในตอนนี้จะมีประโยชน์แค่ Video Call ผ่าน Google Duo ก็เถอะ เพราะว่ายังไม่ค่อยมีแอพตัวไหนที่ใช้กล้องและทำงานบน Google Assistant ได้ใน ณ ตอนนี้ (ซึ่ง Google Duo สำหรับคนที่นี่ก็รู้สึกว่ามันแป้กๆมากๆเช่นกัน)

และด้านล่างของตัวเครื่องก็เป็นยางที่เอาไว้เกาะพื้นโต๊ะเพื่อไม่ให้ไหลไปมาได้ง่าย โดยตัวเครื่องสี Chalk นั้นจะมีพื้นยางเป็นสี Coral เหมือนกับ Google Home Mini เลย ซึ่งแอบสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มีสี Coral วางขายกันนะ กลายเป็นว่าถ้าอยากให้อุปกรณ์ Google Home ทั้งหมดเข้าธีมสีเดียวกันก็ไม่พ้น Chalk หรือ Charcoal

ส่วนด้านหลังของตัวเครื่องก็เห็นฐานของตัวเครื่องซึ่งหุ้มด้วยผ้าเหมือนกับ Google Home ตัวอื่นๆ เพราะข้างในนั้นมีลำโพงรอบทิศทางอยู่เพื่อให้เสียงของ Google Assistant ดังไปทั่วทั้งห้องถึงแม้ว่าจะเป็น Google Home Hub ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ขวางอยู่ก็ตาม

การเพิ่ม/ลดเสียงก็เปลี่ยนมาอยู่ในรูปของปุ่มกดอยู่ที่ด้านหลังหน้าจอต่างจากตัวอื่นๆที่ใช้วิธีการสไลด์บนพื้นที่ที่กำหนดไว้ แต่ก็เพราะว่ามีหน้าจออยู่แล้วนั่นแหละ ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถปรับเสียงได้ตามใจชอบไม่ว่าจะสั่งผ่านเสียง หรือว่ากดที่ปุ่มด้านหลังจอ หรือจะกดจากหน้าจอก็ทำได้เช่นกัน และมีปุ่มเปิด/ปิดไมโครโฟนอยู่ที่ด้านหลังหน้าจอเช่นกัน เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้ต้องการสั่งงานผ่านเสียงก็จะได้ปิดไมโครโฟนไปเลย

และตรงขวาล่างของตัวเครื่องด้านหลังก็จะมีช่องเสียบไฟซึ่งเป็นช่องต่อสายเพียงช่องเดียวที่ Google Home Hub มี เพราะตัวมันไม่สามารถต่อสายกับอุปกรณ์อื่นๆโดยตรงได้ (เว้นแต่ว่าจะมีคน Mod เหมือนกับที่เคยทำใน Google Home Mini)

ส่วนอะแดปเตอร์ที่ให้มาก็เป็นแบบ 15W ที่ยาวพอประมาณที่จะติดตั้งไว้ภายในบ้านได้ง่าย เพราะส่วนใหญ่ก็จะติดตั้งไว้ในจุดที่ใกล้ปลั๊กไฟอยู่แล้ว

สำหรับการติดตั้งก็จะทำผ่านแอพที่ชื่อว่า Home เหมือน Google Home ตัวอื่นๆ ซึ่งรองรับทั้ง Android และ iOS และสามารถทำได้อย่างง่ายดายมากๆ หลังจากที่ Google Home Hub สามารถต่อกับ WiFi ภายในบ้านได้แล้วมันก็จะทำการเช็คเฟิร์มแวร์ล่าสุดอีกซักพักหนึ่งแล้วเริ่มใช้งานได้ทันที ซึ่ง WiFi ก็รองรับ 802.11b/g/n/ac ทั้งย่าน 2.4GHz และ 5GHz ครบครันตามมาตรฐานในยุคนี้ และมี Bluetooth 5.0 ภายในตัวอีกด้วย ส่วนจะทำอะไรได้นอกจากเป็น Bluetooth Speaker นั้นก็ต้องรอดูอีกที

สำหรับ Interface ของ Google Home Hub ผมจะยังไม่อธิบายอะไร เพราะว่าในตอนนี้แค่แกะกล่องออกมาดูคร่าวๆเท่านั้น ต้องรอกลับไปที่ห้องของตัวเองแล้วทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องเสียก่อนเพื่อที่จะได้ทดสอบความสามารถของ Google Home Hub จริงๆว่าจะโอเคมั้ย เพราะหลายๆคนก็น่าจะรู้กันมาคร่าวๆแล้วว่ามันสามารถต่อกับอุปกรณ์ต่างๆภายในบ้านได้หลากหลาย แต่ว่ามันต่างจาก Google Home เดิมยังไง ต้องขาย Google Home ที่มีอยู่ทิ้งมั้ย หรือทำงานร่วมกันได้ ซึ่งจะให้คำตอบอีกทีตอนรีวิวเต็มรูปแบบนะครับ

 

 

from:https://droidsans.com/preview-google-home-hub-the-new-home-assistant-device-from-google/

เปิดตัว Google Home Hub ตัวช่วยอัจฉริยะประจำบ้าน

Google ได้ผลักดันอุปกรณ์ Smart Display สำหรับใช้งานในบ้านมาสักพัก ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็นทาง Lenovo ผลิตออกมาขายไปเรียบร้อยแล้ว และในตอนนี้ Google Home Hub อุปกรณ์ Smart Display ของ Google เองก็ได้ประกาศวางขายแล้วเช่นกัน

ในงาน Made by Google ซึ่งเป็นงานเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ เมื่อคืนที่ผ่านมา Google Home Hub ถือเป็นสินค้าไฮไลท์อีกหนึ่งตัวนอกจาก Pixel 3 และ Pixel Slate โดยหน้าที่หลักๆ ของมันคือการเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะประจำบ้าน ถ้าใครใช้ Google Assistant ผ่าน Google Home ซึ่งมันเป็นแค่ลำโพง เวลาเราพูดคุยโต้ตอบมันก็จะมีแค่เสียง แต่ Google Home Hub มาพร้อมกับหน้าจอ มันก็จะสามารถทำอะไรได้มากกว่า

เมื่อความช่วยเหลือไม่ได้มาเพียงแค่เสียง การมีหน้าจอมาด้วยทำให้มันสามารถให้ข้อมูลต่างๆ ได้ดีและละเอียดมากขึ้น นอกจากเรื่องทั่วๆ ไปที่มันสามารถแจ้งเราในทุกๆ เช้า ผ่านการทักทาย OK Google และบอกตารางประจำวันผ่าน Google Calendar มันก็จะสามารถเชื่อมต่อกับ Google Maps เพื่อแจ้งการเดินทางของเราได้

วันนี้จะรถติดไหม ไปทำงานต้องขับไปเส้นไหน พร้อมเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในบ้าน connected home ไม่ว่าจะเป็นกล้อง ระบบควบคุมอุณหภูมิ หรือทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบของ Google Home ได้ เราก็สามารถขอดูข้อมูลหรือสั่งงานได้ทันที

จะเปิดเพลงฟัง ดู YouTube หรือเปิดสูตรอาหารแล้วทำไปพร้อมๆ กันก็ได้ เรียกว่าเป็นตัวช่วยประจำบ้านอย่างแท้จริง

สเปค Google Home Hub

  • หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว
  • ไมโครโฟน 2 ตัว รองรับการฟังคำสั่งเสียงจากระยะไกล
  • รองรับการใช้งาน Google Assistant
  • WiFi 2.4GHz / Ghz
  • ฺBluetooth 5.0
  • ลำโพงภายใน พร้อมระบบ Multi Room Audio เขื่อมต่อกับเครื่องอื่นๆ
  • เซนเซอร์วัดแสง
  • ขนาด 67.3 x 178.5 x 118 มม.
  • น้ำหนัก 480 กรัม
  • สี Sand, Aqua, Chalk, Charcoal
  • ราคาเปิดตัว 149 เหรียญสหรัฐ

Google Home Hub ตอนนี้เปิดให้สั่งซื้อได้แล้วผ่าน Google  Store แต่ก็ยังมีวางขายแค่ในบางประเทศในช่วงแรก ราคาก็ถือว่าไม่ได้แพงมากนัก ราวๆ 5,000 บาท หากมีการรวมภาษีเข้าไป ซึ่งใครที่สนใจก็คงต้องหาทางหิ้วกันเข้ามา (ใครจะหิ้วบอกด้วย อยากจะฝากสักตัวสองตัว อิอิ)

from:https://droidsans.com/google-home-hub-launch-for-149-usd/

เผยโฉม Google Home Hub อุปกรณ์ Smart Display ของ Google ของจริงมาแน่วันเปิดตัว Pixel 3

ปล่อยให้แบรนด์อื่นชิงเปิดตัว Smart Display กันมาได้ซักพักแล้ว ทั้ง Lenovo, JBL, LG ฯลฯ และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ Google จะขอเปิดตัว Smart Display ของตัวเองที่มีชื่อว่า Google Home Hub บ้างล่ะ เพราะตอนนี้ได้มีภาพเรนเดอร์และโฆษณาออกมาให้เห็น พร้อมเผยวันเปิดตัวเป็นวันที่ 9 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ Google จะเผยโฉม Pixel 3 / 3 XL ซะด้วย

รูปร่างของ Google Home Hub มันจะดูเหมือนกับแทบเล็ตขนาด 7 นิ้ว ที่วางพาดไว้บนแท่นวางที่เป็นลำโพง แต่สำหรับการใช้งานจริง มันไม่ใช่แทบเล็ตที่มีระบบปฏิบัติการ Android หรอกนะ แต่เป็นหน้าจอของ Google Assistant ในรูปแบบของ Smart Display ที่ถูกขยายขึ้นสำหรับใช้กับหน้าจอ 7 นิ้ว

สำหรับการใช้งานก็จะเหมือนๆ กับ Google Home รุ่นก่อนๆ นั่นแหละ แต่จะได้เปรียบกว่าตรงที่มันมีหน้าจอสำหรับแสดงผลข้อมูลต่างๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นพวกกราฟแสดงข้อมูลพยากรณ์อากาศ, ข่าวสาร (News Feed), ภาพข้อมูลของสิ่งที่เราถาม

ส่วนฟีเจอร์ต่างๆ ของ Google Home Hub ที่ถูกเผยออกมา ก็จะมีทั้งการเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิด Nest Cam เพื่อสั่งให้โชว์ภาพจากกล้องขึ้นบนจอด้วยคำสั่งเสียง, สั่ง Smart Device อื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับ Google Home Hub ทั้งไฟ, TV ฯลฯ หรือจะสั่งการด้วยเสียงให้มันโชว์ภาพต่างๆ ที่เราเก็บไว้บน Google Photos ด้วยคำสั่งเสียง อย่างเช่น “Hey Google, show me my photos from Chiangmai” อะไรประมาณนี้, ฟีเจอร์ Live Album สร้าง Slideshow ของภาพใน Google Photos ให้เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เหมือนกรอบรูปดิจิตอล

Google Home Hub รองรับการใช้งาน WiFi 2.4 GHz และ 5GHz, มี Bluetooth ด้วย แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นเวอร์ชั่นอะไร, หน้าจอมีเซ็นเซอร์ตรวจจับแสง, คาดว่าจะมีกล้องหน้าติดมาด้วย (คาดว่านะ…) และมีน้ำหนักอยู่ที่ 480 กรัม

ก็ต้องรอดูฟีเจอร์แบบเต็มๆ กันอีกทีตอน Google เปิดตัวในวันที่ 9 ตุลาคมนี้ ว่ามันจะมีอะไรว้าวๆ มากกว่าที่รู้ในตอนนี้รึเปล่า รวมถึงราคาด้วยว่าจะโหดขนาดไหน (เพราะดูท่าทางแล้วไม่น่าจะถูกแน่นอน)

 

ที่มา : Mysmartprice 

from:https://droidsans.com/google-home-hub-7-inch-smart-display-leak/