![ณศิวัตร เชาวรียวงษ์ และคุณนิคลาส สตอลเบิร์ก ประธานกรรมการบริหารบริษัท กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย)](https://i0.wp.com/thumbsup.in.th/wp-content/uploads/2017/04/GroupM-FOCAL2017-180x135.jpg)
ณศิวัตร เชาวรียวงษ์ และคุณนิคลาส สตอลเบิร์ก ประธานกรรมการบริหารบริษัท กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย)จบไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่สำหรับ “FOCAL 2017” งานสัมมนาดิจิทัลจาก “GroupM” บริษัทบริหารจัดการการลงทุนสื่อในเครือ WPP ซึ่งในปีนี้ คุณศิวัตร เชาวรียวงษ์ และคุณนิคลาส สตอลเบิร์ก ประธานกรรมการบริหารบริษัท กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย) ได้จัดให้มีการนำเสนอ 6 ทิศทางการตลาดดิจิทัลที่สำคัญสำหรับนักการตลาดไทยผ่านเวทีต่าง ๆ ภายในงานด้วย
โดยภายในงานได้มีการอ้างอิงตัวเลขจาก DAAT ในเรื่องแนวโน้มเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลของปี 2017 ที่จะปรับตัวสูงขึ้นอีก 24% ซึ่งจะทำให้มูลค่าตลาดสื่อโฆษณาดิจิทัลไทยมีมูลค่าแตะหนึ่งหมื่นล้านบาท (ราว 11,774 ล้านบาท) เป็นครั้งแรก
“ด้วยงบประมาณดังกล่าว น่าจะทำให้เราขึ้นมาอยู่สูสี เป็นสื่ออันดับสองรองจากทีวี ในวงเล็บด้วยว่า เงินนี้เป็นเงินที่ใช้จ่ายผ่านเอเจนซี่เท่านั้น ไม่ได้รวมเงินที่ลูกค้าจ่ายตรงไปยังสื่อดิจิทัล และเงินที่ฐานธุรกิจใหญ่ในบ้านเราอย่าง SME ใช้กัน ซึ่งเราก็กำลังหาทางอยู่ว่าจะรวมได้อย่างไร เพราะคิดว่าถ้ารวมได้แล้ว งบประมาณก้อนนี้จะเห็นได้ชัดเจนขึ้น และจะมีมูลค่ามากกว่านี้อีกมากมาย” คุณศิวัตร เชาวรียวงษ์กล่าวพร้อมให้ข้อมูลต่อว่า
“สิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้คือ การผลักเงินของงบโฆษณาบางส่วนของสื่อทีวีมาอยู่บนสื่อดิจิทัล แล้วก็มีอีกหลายแบรนด์ที่ไม่ได้โยกงบมาจากสื่อทีวี แต่เพิ่มงบในส่วนสื่อดิจิทัล ซึ่งการปรับตัวนี้น่าจะทำให้ยอดโดยรวมเติบโตขึ้น”
สำหรับหัวข้อหลักของงานในปีนี้คือพฤติกรรมของคนไทยที่ใช้โทรศัพท์มือถือจนกลายเป็นอุปกรณ์หลักของชีวิต ทั้งใช้ในการเข้าอินเตอร์เน็ต และทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ แต่ในมุมของนักการตลาดนั้นก็ต้องเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสื่อและการหากลยุทธ์เพื่อความอยู่รอดสำหรับธุรกิจ e-Commerce เอาไว้ด้วยเช่นกัน
4 เครื่องมือสำคัญสำหรับนักการตลาดยุค 2017
โดยการจะติดอาวุธให้นักการตลาดยุค 2017 ให้ทำงานได้อย่างครบเครื่องนั้น คุณศิวัตรได้เผยว่า นักการตลาดจำเป็นต้องมีเครื่องมือสำคัญ 4 ประการ ดังนี้
- Realtime media Dashboard, Monitoring Tools
- Programmatic (DSP/SSP)
- Social Listening Tool
- Data Analytic Platform
Brand Safety ในไทยปลอดภัยหรือเปล่า
นอกจากเทรนด์เรื่องวงการ Digital Marketing แล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กันจากนักการตลาดก็คือเรื่องของ Brand Safety ซึ่งในต่างประเทศกำลังมีประเด็นกับ Google และ YouTube อย่างหนัก เหตุเพราะระบบ Programmatic ของ Google มีการวางโฆษณาของแบรนด์เอาไว้กับคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสมนั่นเอง ในจุดนี้ เมื่อถามถึงสถานการณ์ในเมืองไทย คุณศิวัตรกล่าวว่า สำหรับประเทศไทยนั้น มีการสกรีนในระดับหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ดี ปัญหาเรื่อง Brand Safety นั้นไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการลดราคาอย่างแน่นอน
“บ้านเราถือว่าเคยมีการคุยกันมาแล้วในอดีต แต่เมื่อมันเป็นประเด็นขึ้นมาในระดับโลก เขาก็ต้องเข้มงวดมากกว่านี้ใช่ไหม แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องลดราคา เพราะเรื่อง Brand Safety ราคาเท่าไรก็เอามาแลกไม่ได้”
![](https://i0.wp.com/thumbsup.in.th/wp-content/uploads/2017/04/use03.jpg)
แอปพลิเคชันที่คนไทยใช้งานแล้วรู้สึกว่าทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น
ทั้งนี้ หนทางป้องกันสำหรับแบรนด์คือ การเลือกลงโฆษณากับคอนเทนต์แบบ Official ซึ่งในมุมมองของคุณศิวัตรนั้น มองว่าพฤติกรรมคนไทยเองก็มีการรับชมคอนเทนต์จากฝั่ง Media Provider ค่อนข้างมากอยู่แล้ว
หากกล่าวโดยสรุป มุมมองของ GroupM ที่นำเสนอผ่านงาน FOCAL 2017 คือการที่สื่อดิจิทัลได้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตคนไทย ในการยกระดับชีวิตให้สะดวกมากขึ้น ทำมาหากินได้มากขึ้น แม้กระทั่งมิติของความบันเทิงก็มีตัวเลือกมากขึ้น ซึ่งถ้าหากมีอะไรที่ทำให้มันดีขึ้นได้ขนาดนี้ ก็จะทำให้ผู้บริโภคยึดติดและอยู่กับสิ่งนั้น ๆ ไปตลอดได้ในที่สุด