เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยกับ Final Fantasy 7 Remake Intergrade เวอร์ชั่น PC ที่ประกาศเปิดตัวในงาน The Game Awards 2021 โดยเกมจะวางขายบน Epic Games Store และเปิดให้เล่นในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ ในราคา 2,450 บาท สำหรับใครที่สนใจก็ไปสอยกันได้ แต่ก่อนที่จะไปสอยเกมเรามาดูกันดีกว่าสเปกขั้นต่ำและขั้นแนะนำของ Final Fantasy 7 Remake Intergrade เป็นอย่างไรกันบ้าง
อย่างไรก็ตาม Yakuza Series นั้นมีให้เล่นหลายภาคและเกมเมอร์อาจจะเริ่มต้นเล่นไม่ถูกว่าควรเล่นจากภาคไหนไปไหนดี จึงขอแนะนำให้เล่นเรียงแต่ละภาคตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกมดังนี้
Yakuza 0 (ปี 1988)
Yakuza Kiwami (ปี 2005)
Yakuza Kiwami 2 (ปี 2006)
Yakuza 3 (ปี 2009)
Yakuza 4 (ปี 2010)
Yakuza 5 (ปี 2012)
Yakuza 6: The Song of Life (ปี 2016)
Yakuza: Like A Dragon (ปี 2019) *ภาคนี้เปลี่ยนสไตล์การเล่นจาก Beat’em up ต่อยศัตรูในฉากให้หมดถึงเคลียร์เป็น Turn-based RPG แทน*
สเปคแนะนำสำหรับเล่น Yakuza Series (อ้างอิงภาค Like A Dragon)
ถ้าหาเกม JRPG ใน Steam ที่ได้กลิ่นอายเกมยุคคลาสสิคหลาย ๆ เกมอย่าง Chrono Trigger หรือ FINAL FANTASY ภาคคลาสสิคหลาย ๆ ภาค ขอแนะนำให้หยิบ I am Setsuna มาเล่นได้เลย ซึ่งสื่อต่างประเทศสายเกมหลาย ๆ แห่งแนะนำให้ลองเล่นให้จบสักครั้งดู โดยเราจะรับบทเป็นทหารรับจ้างที่ต้องพาสตรีศักดิ์สิทธิ์ “Setsuna” ของดินแดนที่ปกคลุมด้วยหิมะไปยังแท่นบูชายัญให้กับปีศาจร้าย ซึ่งระบบของตัวเกมนั้นจะยึดตามสไตล์เกม JRPG ยุค 1990 ส่วนระบบการต่อสู้เป็น Active Time Battle เหมือนกับ FINAL FANTASY ซึ่งเพลงในเกมนั้นนอกจากเพราะแล้วยังมีเนื้อเรื่องที่กินใจมากอีกด้วย
สำหรับ I am Setsuna เฉพาะตัวเกมอย่างเดียวจะอยู่ที่ 729 บาท แต่ถ้าซื้อ Collector’s Edition จะได้ Sound Track Collection: Winter’s End ด้วย เพียง 898.20 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าคุ้มกว่าซื้อเฉพาะตัวเกมอย่างเดียวมาก ผู้สนใจสามารถคลิกซื้อได้ที่นี่
จุดแตกต่างคือ Code Vein จะมีฉากการเล่าเนื้อเรื่องอย่างชัดเจน ต่างจาก Dark Souls ที่ต้องตามหาเนื้อเรื่องจากไอเทมชิ้นต่าง ๆ มาประกอบความเข้าใจเอง และการพัฒนาทักษะพิเศษเฉพาะสำหรับตัวละครนั้น ๆ ซึ่ง Dark Souls ไม่มีนั่นเอง ทำให้เราพัฒนาตัวละครของเรามีจุดเด่นแตกต่างกันไปตามสไตล์การเล่นของเรานั่นเอง สำหรับเกมเมอร์ที่สนใจแต่ไม่แน่ใจว่าเกมนี้จะโดนใจเราไหมสามารถโหลด Demo มาลองเล่นก่อนได้ และถ้าถูกใจแนะนำให้ซื้อ Deluxe Edition เพื่อเอา Season Pass ไปเลยจะดีที่สุด เกมเมอร์ที่สนใจสามารถคลิกซื้อได้ที่นี่
สเปคสำหรับเล่น Code Vein
สเปค
ขั้นต่ำ
แนะนำ
ซีพียู
Intel Core i5-2300
Intel Core i7-7400
AMD Ryzen 3 2200G
การ์ดจอ
NVIDIA GEFORCE GTX 760
AMD Radeon HD 7850
NVIDIA GEFORCE GTX 960
AMD Radeon R9 380X
แรม
6 GB
8 GB
DirectX
เวอร์ชั่น 11 ขึ้นไป
พื้นที่ติดตั้งเกม
35 GB
ระบบปฏิบัติการ
Windows 10 (64-bit)
5. FINAL FANTASY VII
FINAL FANTASY VII นั้นเรียกว่าเป็น JRPG ใน Steam ระดับตำนานที่ควรเล่นให้จบสักครั้ง เพราะเนื้อหาและประเด็นทางสังคมและการเมืองในตัวเกมถือว่าเข้มข้นหนักหน่วง และเพิ่งมีภาค Remake วางขายไปใน PlayStation 4 ไปเมื่อปีกลายอีกด้วย การันตีความเป็นตำนานของภาคนี้ได้เป็นอย่างดี
FINAL FANTASY VII – REMASTERED นั้นก็เป็นภาคในตำนานที่ได้รับการรีมาสเตอร์ภาพให้คมชัดยิ่งขึ้นและนำกลับมาขายใน Steam ด้วย ซึ่งภาคนี้ก็จัดว่าเป็นตำนานไม่แพ้กับภาค VII ไม่ว่าจะเนื้อเรื่องเข้มข้นจนหลายคนเสียน้ำตา, เพลง Eye On Me ในตำนาน, มินิเกมการ์ดที่ทำเกมเมอร์เล่นเพลินจนลืมไปทำเนื้อเรื่องหลัก ฯลฯ ซึ่งองค์ประกอบทั้งหมดนี้อาจจะทำให้เกมเมอร์ต้องเล่นซ้ำหลายรอบอย่างแน่นอน และราคาตัวเกมตอนนี้เพียง 619 บาทเท่านั้น ซึ่งจัดว่าไม่ถูกไม่แพงเกินไป ดังนั้นใครอยากเสพย์ FINAL FANTASY ภาคในตำนานภาคนี้ก็คลิกซื้อได้ที่นี่
สเปคสำหรับเล่น FINAL FANTASY VIII
สเปค
ขั้นต่ำ
แนะนำ
ซีพียู
Intel Core i3
AMD APU A-Series
Intel Core i5
AMD A8 Series ขึ้นไป
การ์ดจอ
NVIDIA GEFORCE GT730
AMD Radeon R7 240
NVIDIA GEFORCE GTX 960
AMD Radeon RX470
แรม
2 GB
4 GB
DirectX
เวอร์ชั่น 11 ขึ้นไป
พื้นที่ติดตั้งเกม
5 GB
ระบบปฏิบัติการ
Windows 10 (64-bit)
7. FINAL FANTASY X/X-2 HD Remaster
FINAL FANTASY X/X-2 HD Remaster นั้นก็เป็น FINAL ที่คนหาเกม JRPG ใน Steam เล่นไม่ควรพลาดเช่นกัน โดยภาค X เปิดตัวครั้งแรกใน PlayStation 2 แล้วมีภาคต่ออย่าง X-2 ที่เล่าเนื้อเรื่องต่อของยูนะ โดยแก่นหลักภาค X เป็นการเดินทางของทีดัสและยูนะเพื่อไปจัดการอสูรที่ชื่อว่า Sin ที่ทำลาย Zarnakand ที่เป็นบ้านของทีดัสให้ได้ ซึ่งใน Steam นั้นจะขายเป็นแพ็คเกจคู่คือได้ทั้งภาค X และ X-2 ไปพร้อมกัน จึงเล่นแล้วเนื้อหาจบไปในตัว โดยราคาก็ถือว่าไม่แพงมาก เพียง 559 บาทเท่านั้น ใครที่สนใจ JRPG ใน Steam เกมนี้ก็คลิกซื้อได้ที่นี่
สเปคสำหรับเล่น FINAL FANTASY X/X-2 Remaster
สเปค
ขั้นต่ำ
แนะนำ
ซีพียู
ซีพียูแบบ Dual-core ความเร็ว 2 GHz ขึ้นไป
ซีพียูแบบ Quad-core ความเร็ว 2.4 GHz ขึ้นไป
การ์ดจอ
NVIDIA GEFORCE 9600GT
ATi Radeon HD 2600XT
NVIDIA GEFORCE GTX 450
AMD Radeon HD 5750
แรม
2 GB
4 GB
DirectX
ต้องการ Sound Card ที่รองรับ DirectX
พื้นที่ติดตั้งเกม
40 GB
ระบบปฏิบัติการ
Windows Vista หรือใหม่กว่า
8. FINAL FANTASY XV WINDOWS EDITION
สำหรับ FINAL FANTASY XV นั้นเป็นภาคที่ระบบการเล่นเปลี่ยนไปจากภาคเก่า ๆ ที่เป็น Turn-based เป็น Action RPG แทน ซึ่งภาคนี้จะเน้นการเดินทางของเจ้าชายน็อคติสกับเพื่อน ๆ อีก 4 คนไปนำคริสตัลกลับมาและเอาชนะจักรวรรดิ์นิลฟ์ไฮม์ด้วย ซึ่งภาค XV จะมีเนื้อหาและภูมิหลังของโลกเกี่ยวข้องกับตัวเกมภาค XIII ที่เฉพาะเนื้อหาภาคนี้ก็มีความยาว 3 ภาคย่อยแล้ว และ Type-0 ด้วย ซึ่งอีกสองภาคสามารถหาซื้อเล่นได้ใน Steam เช่นกัน โดยส่วนตัวผู้เขียนขอแนะนำให้ซื้อเวอร์ชั่น FINAL FANTASY XV EPISODE ARDYN COMPLETE EDITION ไปเลย เพราะว่าเนื้อหาครบทั้งฝั่งของน็อคติสและอาร์ดินด้วย ซึ่งตอนนี้ราคาอยู่ที่ 2,004 บาท สามารถคลิกซื้อได้ที่นี่
สเปคสำหรับเล่น FINAL FANTASY XV WINDOWS EDITION
สเปค
ขั้นต่ำ
แนะนำ
ซีพียู
Intel Core i5-2500
AMD FX-6100
Intel Core i5-3770
AMD FX-8350
การ์ดจอ
NVIDIA GEFORCE GTX 760
AMD Radeon R9 280
NVIDIA GEFORCE GTX 1060 แรม 6 GB
AMD Radeon RX 480
แรม
8 GB
16 GB
DirectX
DirectX 11
พื้นที่ติดตั้งเกม
100 GB
ระบบปฏิบัติการ
Windows 10 (64-bit)
9. Atelier Ryza: Ever Darkness & the Secret Hideout
โดย ขนาดของตัวเดโมมีขนาด 7.51 GB และมีให้โหลดบน Playstation Store ของชาวไทย ด้วยครับถือเป็นข่าวดีมากๆ ส่วนเกมเพลย์ของ Final Fantasy VII Remake จะเปลี่ยนแนวทางของเกมทั้งหมดแบบยกเครื่องใหม่ ไล่ตั้งแต่เป็นเกมเพลย์แบบ 3D เต็มรูปแบบ แถมยังเปลี่ยนจากใส่คำสั่งแบบแนว RPG เดิมๆมาเป็นแอ็คชั่นผสมผสานกับ RPG ที่มีการเคลื่อนไหวและบังคับตัวละครได้ และมีการใส่แอ็คชั่นในฉากตามคลิปที่โชว์ออกมา รวมทั้งมีมินิเกมมาให้เล่นแบบที่ต้นฉบับไม่มีมาก่อนด้วย เช่นการกดปุ่มเข้าจังหวะตามเกมสั่ง เรียกว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละเกมกันเลย
เกม Final Fantasy VII Remake วางขายบน PS4 ก่อนในวันที่ 10 เมษายน 2020
ฉากอินโทร ที่เป็นคัทซีนในตำนานของตัวเดโมของเกม Final Fantasy VII Remake ได้หลุดออนไลน์ ออกมาให้ชมกันแล้ว โดยถือว่าเป็นฉากในตำนานของวงการเกมฉากหนึ่งได้เลย
ก่อนหน้านี้มีการประกาศเปิดตัวเกม Final Fantasy 7 และ รีมาสเตอร์บน PS4 , Xbox, Switch PC โดยวางขายไปหลายเดือนแล้ว โดยเป็นการนำเกมเก่ามาปรับภาพใหม่ เพื่อเอาใจแฟนๆไฟนอล แฟนตาซี เพราะหากคุณติดตามมานานจะรู้ว่าภาค 7 และ ไฟนอล 8 เป็นภาคในตำนานที่มีหลายคนอยากให้มาทำใหม่ นอกจากภาครีเมคที่จะออกปี 2020
และข่าวล่าสุด ยืนยันการมาของแบบแผ่นเกม โดยเป็นการระบุว่าเกม Final Fantasy 7 และ 8 remaster จะมีการวางขายแบบตลับเกมบน Switch โดยปรกติแล้วเกมจะวางขายเฉพาะระบบดาวน์โหลดเท่านั้นเพราะเกม Final Fantasy 7 รีมาสเตอร์ และ Final Fantasy 9 รีมาสเตอร์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ไม่มีวางขายแบบแผ่นเกม
โดยกำหนดออกของ เกม Final Fantasy 7 และ 8 remaster จะวางขายในโซนเอเซีย ในวันที่ 29 พฤศจิกายน นี้ คาดว่าจะมีการนำเข้ามาขายในไทยแน่นอน โดยราคาจะอยู่ที่ 1,600-1,700 บาท สายสะสมแผ่นไม่ควรพลาด
เรียกว่าข่าวนี้สำหรับแฟนเกมสายสะสมตลับหรือแผ่นเกมต้องเตรียมเฮ เพราะค่าย Square Enix Asia ได้ประกาศเปิดตัววางขายเกม Final Fantasy 7 และ Final Fantasy 8 Remaster ที่จะออกเป็นตลับเกม วางขายบน Nintendo Switch ด้วย
โดยทั้งเกม Final Fantasy 7 และ Final Fantasy 8 Remaster ได้วางขายแบบดาวน์โหลดบนร้านค้าออนไลน์แล้วทั้งบน PS4 , Switch และ PC และจะวางขายแบบตลับบน Switch ก่อน (ยังไม่ประกาศบน PS4 ตอนนี้) ซึ่งหากคุณเล่นเกมมานานคงจะรู้สึกว่าข่าวนี้ ตรงกับตำนานบางอย่างของต้นฉบับ เพราะเหตุที่ Final Fantasy 7 ไม่ทำลง Nintendo 64 เมื่อในอดีตเพราะความจุ ตลับเกมไม่พอที่จะใส่เกม แต่ผ่านมากว่า 20 ปี ในที่สุดก็มีการออกวางขายแบบตลับ
โดยเกม Final Fantasy 7 และ Final Fantasy 8 Remaster บน Nintendo Switch จะวางขายแบบ Pack คู่ ในโซน Asia และจะเลือกได้ระหว่างภาษาอังกฤษ และ ภาษาญี่ปุ่น พร้อมการปรับภาพและโหมดพิเศษเพิ่มความเร็ว และโหมดที่ทำให้เกมง่ายดายขึ้นด้วย แฟนๆสายเก็บแผ่นไม่ควรพลาด โดยยังไม่มีการเปิดวันวางขายและราคาในตอนนี้ ระบุว่าออกในปี 2019
ก่อนหน้านี้ค่าย Square Enix ได้ประกาศ ชุดพิเศษ Final Fantasy 7 รีเมค บน PS4 มาพร้อมโมเดลเทพๆของ Play Arts Kai Play Arts Kai Cloud Strife & Hardy Daytona ชุดพิเศษแบบ “1st Class Edition” ของ Final Fantasy VII Remake ที่เชื่อว่ามีแฟนๆหลายคนกำลังอยากได้
ออกมาให้ชมกัน และข่าวดี เพราะ Square Enix Asia ได้ประกาศราคาขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว โดยชุด Play Arts Kai Cloud Strife และ Hardy Daytona ที่ขายในราคา 10,990 บาท นอกจากโมเดล ยังรวมเนื้อหา DLC ทั้งหมดใน Final Fantasy VII Remake Deluxe Edition และ Carbuncle Summon Materia
หลังจากปล่อยตัวอย่างแรก ค่าย Square Enix ได้เปิดให้สื่อมวลชนสายเกมได้ของเล่น Final Fantasy 7 รีเมค บน PS4 กันแล้ว และได้อนุญาตให้มีการปล่อยคลิปเกมเพลย์ชัดๆออก มาให้แฟนเกมทั่วโลกได้ชมกันแล้ว โดยแน่นอนว่าจะต้องจัดเต็มด้วยกราฟิกระดับเทพด้วย อันเรียล 4
โดยเกมเพลย์ของ Final Fantasy VII Remake จะเปลี่ยนแนวทางของเกมทั้งหมดแบบยกเครื่องใหม่ ไล่ตั้งแต่เป็นเกมเพลย์แบบ 3D เต็มรูปแบบ แถมยังเปลี่ยนจากใส่คำสั่งแบบแนว RPG เดิมๆมาเป็นแอ็คชั่นผสมผสานกับ RPG ที่มีการเคลื่อนไหวและบังคับตัวละครได้ และมีการใส่แอ็คชั่นในฉากตามคลิปที่โชว์ออกมา รวมทั้งมีมินิเกมมาให้เล่นแบบที่ต้นฉบับไม่มีมาก่อนด้วย เช่นการกดปุ่มเข้าจังหวะตามเกมสั่ง เรียกว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละเกมกันเลย
ส่วนวันวางขายของ Final Fantasy VII Remake จะขายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บน PS4 พร้อมกันทั่วโลก และเปิดให้จองแล้ววันนี้พร้อมชุดพิเศษ และมีการขายในไทยอย่างเป็นทางการโดย Sony Thai ด้วย แต่เกมไม่มีภาษาไทยนะครับ