ปัจจุบันมี tools จำนวนมากที่ช่วยนักพัฒนาซอฟต์แวร์สร้างแอปพลิเคชัน IoT ได้อย่างไม่ยุ่งยากอีกต่อไป และในจำนวนนั้น ก็รวมไปถึงเครื่องมือโอเพ่นซอร์สดีๆที่เปิดให้ใช้งานกัน เช่น 10 tools ที่ CBR นำมาแนะนำในบทความนี้
1. DeviceHive (http://devicehive.com)
- framework สำหรับการสื่อสารแบบ machine to machine (M2M)
- ทำงานผ่าน API บน cloud ซึ่งสามารถควบคุมแบบ remote ได้ตลอด
- สามารถนำไปใช้ในแอปพลิเคชันด้านความปลอดภัย, smart home, เซ็นเซอร์, automation และอื่นๆอีกมากมาย
- มีชุมชนนักพัฒนาที่มีความเคลื่อนไหวตลอดเวลาและพร้อมให้การ support
2. Kaa (https://www.kaaproject.org)
- middleware เอนกประสงค์ที่มีจุดประสงค์หลักในการมอบ end-to-end support สำหรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่านคลาวด์ขนาดใหญ่
- มีการติดตั้งที่ง่าย และมีฟีเจอร์ให้เลือกใช้เยอะ
- ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ได้หลายชนิด
- นักพัฒนาสามารถนำ Kaa ไปใช้พัฒนาโซลูชั่น IoT, connected application, หรือ smart product อื่นๆได้
3. Arduino (https://www.arduino.cc)
- โด่งดังในฐานะโปรแจคที่มีทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์บอร์ดเป็นของตัวเอง
- นักพัฒนาสามารถโค้ดผ่าน IDE เป็นภาษา Arduino
- แต่ละบอร์ดของ Arduino สามารถสื่อสารกันได้ผ่าน MQTT broker บน cloud
- แอปพลิเคชันบน Arduino นั้นมีมากมาย ตั้งแต่แอปติดตามสัตว์เลี้ยงด้วยอุปกรณ์ระบุตำแหน่ง ไปจนถึงระบบในออฟฟิศที่จะสั่งปรินท์ issue จาก github ลงมาบนกระดาษ
4. Home Assistant (https://home-assistant.io)
- มีโฟกัสหลักอยู่ที่ home automation
- แอปพลิเคชัน Home Assistant นั้นมี python เป็นฐาน และสามารถควบคุมได้ผ่าน browser บนคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ
- มีขั้นตอนการติดตั้งที่ง่าย
- มีความปลอดภัยในระบบและการปกป้องความเป็นส่วนตัวที่ได้มาตรฐาน
- support อุปกรณ์กว่า 250 ชนิด สามารถรันซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ใดก็ตามที่รัน python 3 ได้
- มีการอัพเดทสม่ำเสมอทุก 2 สัปดาห์
- ไม่มีการเชื่อมต่อกับ cloud แต่นั่นก็หมายความว่าแอปจะยังทำงานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต
5. Devicehub.net (https://devicehub.net)
- โซลูชั่นที่รวม business intelligence และ cloud integration มาไว้สำหรับโปรเจคพัฒนา IoT
- มีความเป็นมิตรกับธุรกิจสูง สามารถนำโปรแกรมจาก Device Hub ไปติดตั้งบนคลาวด์ส่วนตัว on-premise หรือรีแบรนด์นำมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ได้
- ตัวอย่างแอปจาก Device Hub คือ ระบบบริหารยานพาหนะ ตู้ขายของอัจริยะ และอุปกรณ์ wearable
6. SiteWhere (http://www.sitewhere.org)
- ถูกออกแบบมาเพื่อย่นระยะเวลาในการพัฒนา product ออกสู่ตลาด
- สามารถนำไป deploy บน cloud platform ใดก็ได้ รวมถึง private cloud ด้วย
- แพลตฟอร์ม SiteWhere เคยได้รับการทดสอบจากเวนเดอร์อย่าง Hortonworks และ Cloudera
- สามารถสเกลขยายขนาดได้มาก จึงนำไปใช้งานกับระบบ big data ได้
7. Zetta (http://www.zettajs.org)
- แพลตฟอร์ม server-based ที่สร้างขึ้นบน Node.js
- สามารถแปลง device เป็น API และพัฒนาให้อุปกรณ์สื่อสารกันผ่าน reactive programming และ Siren hypermedia
- optimized สำหรับ big data จึงสามารถนำไปประยุกต์เป็น data-intensive real time application ได้
- มี vitualization tool สำหรับตัวระบบและอุปกรณ์ด้วย
8. Particle (https://www.particle.io)
- แพลตฟอร์มการพัฒนาแบบ full-stack ที่ช่วยเชื่อมต่ออุปกรณ์กับอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยและ reliable
- มีการออกแบบอย่างรัดกุมและโปรโตคอลเข้ารหัสซึ่งช่วยด้านความปอลดภัย
- นักพัฒนาสามารถเรียนรู้การพัฒนาแพลตฟอร์ม Particle ได้อย่างรวดเร็วแม้ไม่มีประสบการณ์การพัฒนา IoT มาก่อน
9. ThingSpeak (https://thingspeak.com)
- แพลตฟอร์ม IoT ที่มีประวัติยาวนานและมีความ reliable สูงตามอายุ
- เน้นใช้งานในการแจ้งเตือน การติดตามตำแหน่ง และการ log เซ็นเซอร์ แต่ก็สามารถใช้งานในรูปแบบอื่นๆได้
- เป็นเทคโนโลยีของแอปพลิเคชัน Car Counter แอปพลิเคชันที่สร้างผ่านเว็บแคมและ Raspberry Pi เพื่อนับจำนวนรถยนต์ที่สัญจรไปมาบนทางด่วน วิเคราะห์ และ visualize ข้อมูล
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บ วิเคราะห์ และสร้าง action จากข้อมูล IoT
10. OpenRemote (http://www.openremote.com)
- middleware ที่เน้นในการพัฒนาโซลูชั่น smart home และ home automation
- สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์และ network spec ได้หลายชนิด
- มีเครื่องมือออกแบบ UI บน cloud
- มี step by step guide ในการติดตั้ง ออกแบบ ไปจนถึงสร้างแอปพลิเคชันบนเว็บไซต์ให้สำหรับนักพัฒนามือใหม่
from:https://www.techtalkthai.com/10-opensource-software-tool-for-iot-by-cbr/