คลังเก็บป้ายกำกับ: BEYOND_MEAT

เนื้อจากพืชอาการหนัก! Beyond Meat ขาดทุน 3,700 ล้านบาท เหตุความต้องการสินค้าลด-ต้นทุนเพิ่ม

Beyond Meat ผู้ผลิตโปรตีนจากพืช หรือเนื้อจากพืช รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ปี 2022 ขาดทุนสุทธิ 101.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,700 ล้านบาท เหตุความต้องการสินค้าลดลง และต้นทุนการผลิตสูงขึ้น

Beyond Meat

Beyond Meat แบรนด์เนื้อจากพืชที่ลำบาก

Beyond Meat รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ปี 2022 มีรายได้รวม 82.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,000 ล้านบาท ลดลง 22.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 101.7 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3,700 ล้านบาท มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเกือบเท่าตัว

เหตุผลที่ Beyond Meat มีผลประกอบการที่ไม่ดีนักมาจากปัญหาเรื่องต้นทุนค่าขนส่ง และวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นจากปัจจัย เช่น สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน นอกจากนี้การทำสงครามราคาจากคู่แข่ง เช่น Tyson Foods และ Impossible Food ยังทำให้บริษัทสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดไปไม่น้อย

Ethan Brown ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Beyond Meat ยอมรับว่า ความต้องการโปรตีนจากพืชลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลกทำให้ผู้บริโภคต้องตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ซึ่งโปรตีนจากพืชคือหนึ่งในนั้น ผ่านราคาที่สูงกว่าโปรตีนจากเนื้อสัตว์เมื่อเทียบในปริมาณเท่ากัน

ทั้งนี้ Beyond Meat อยู่ระหว่างทดสอบการปรับลดลงราคาสินค้าให้ลงมาใกล้เคียงกับโปรตีนจากเนื้อสัตว์มากขึ้นเพื่อจูงใจลูกค้า และก่อนหน้านี้บริษัทมีการปลดพนักงานกว่า 200 ตำแหน่ง เพื่อประหยัดต้นทุน 39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงปรับลดเป้าหมายรายได้รวมถึง 2 ครั้งในปี 2022

สรุป

โปรตีนจากพืชเริ่มถูกพูดถึงน้อยลง เพราะด้วยราคาที่สูงเมื่อเทียบกับโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ทำให้ช่วงเศรษฐกิจไม่ดี และเงินเฟ้อสูงแบบนี้ ผู้บริโภคจึงเลือกกินอิ่มแบบประหยัดมากกว่า กลายเป็นโจทย์ยากของแบรนด์ต่าง ๆ ที่เข้ามาเกาะกระแสนี้ในช่วงที่ตลาดบูมเมื่อ 2-3 ปีก่อน

อ้างอิง // Reuters, Beyond Meat

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post เนื้อจากพืชอาการหนัก! Beyond Meat ขาดทุน 3,700 ล้านบาท เหตุความต้องการสินค้าลด-ต้นทุนเพิ่ม first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/beyond-meat-q3-2022/

Pepsi เตรียมบุกตลาด Plant-based Protein ด้วยการร่วมมือกับ Beyond Meat

ตลาด Plant-based Protein หรือโปรตีนจากพืช กลายเป็นที่สนใจของบริษัทสินค้าบริโภค และ Pepsi คือผู้เล่นรายล่าสุดที่เตรียมบุกตลาดนี้ด้วยการร่วมมือกับ Startup ผู้ผลิต Plant-based Protein อย่าง Beyond Meat

pepsi

Pepsi ลุย Plant-based Protein

รายงานข่าวแจ้งว่า Pepsi ประกาศความร่วมมือกับ Beyond Meat เพื่อร่วมกันพัฒนาขนม และเครื่องดื่มที่ทำมาจาก Plant-based Protein แต่ยังไม่มีรายละเอียดมากนัก ทั้งประเภทของสินค้า, มูลค่าของความร่วมมือครั้งนี้ รวมถึงการจะทำตลาดภายใต้แบรนด์เดิม หรือแบรนด์ใหม่

อย่างไรก็ตามความร่วมมือดังกล่าวจะเห็นสินค้าได้ในสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร และจีน ที่สำคัญฝั่ง Beyond Meat จะเข้าถึงระบบกระจายสินค้าทั่วโลก และงบประมาณการตลาดมหาศาลของ Pepsi ช่วยให้ Beyond Meat สามารถเติบโตได้เร็วกว่าเดิม

ส่วน Pepsi จะเข้าถึงตลาด Plant-based Protein ได้เร็วขึ้น เพราะไม่ต้องไปพัฒนาสินค้าด้วยตัวเองทั้งหมด รวมถึง Pepsi ยังใช้กลยุทธ์พาร์ทเนอร์เพื่อเข้าถึงตลาดใหม่ๆ มาก่อนหน้านี้แล้ว เช่นการร่วมมือกับ Starbucks เพื่อเข้าถึงตลาดกาแฟพร้อมดื่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้กระแส Plant-based Protein ที่เติบโตมีแบรนด์สินค้าบริโภคจำนวนมากเริ่มเข้ามาทำตลาด ไม่ว่าจะเป็น Nestle ที่จำหน่าย Plant-based Protein ภายใต้แบรนด์ Sweet Earth รวมถึง Kellogg ที่จำหน่ายสินค้านี้ภายใต้แบรนด์ Incogmeato

สรุป

กลายเป็นการเดินหมากของ Pepsi ที่น่าสนใจ เพราะตลาด Plant-based Protein เติบโตจริงๆ แต่การจะเข้าถึงตลาดนี้ไม่ได้ทำง่ายๆ ดังนั้นการเลือกร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญน่าจะดีที่สุด ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไปว่า Pepsi กับ Beyond Meat จะผลิตสินค้าออกมารูปแบบไหน

อ้างอิง // CNN

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post Pepsi เตรียมบุกตลาด Plant-based Protein ด้วยการร่วมมือกับ Beyond Meat first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/pepsi-beyond-meat-partner/

เอาใจคนรักเบอร์เกอร์ Beyond Meat เตรียมปล่อย Beyond Burger 2 เวอร์ชั่น ปี 2021 นี้

เนื้อที่ทำจากพืชกำลังมาแรง ก่อนหน้านี้ McDonald เตรียมปล่อย McPlant เบอร์เกอร์เนื้อที่ทำจากพืช ล่าสุด Beyond Meat ประกาศเตรียมปล่อย Beyond Burger เอาใจคนรักเบอร์เกอร์ด้วยการเตรียมปล่อยเบอร์เกอร์เนื้อที่ทำจากพืชให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากยิ่งขึ้น 

เบอร์เกอร์ 2 เวอร์ชั่นที่กำลังออกใหม่นี้ มีทั้งการเน้นความชุ่มฉ่ำของเนื้อที่สอดใส้อยู่ในเบอร์เกอร์ และแบบที่ลดไขมันอิ่มตัวลง ทั้งนี้ Beyond Meat ระบุว่า เบอร์เกอร์ใหม่ที่กำลังจะปล่อยออกมานี้ ได้พยายามเสนอทางเลือกให้คนทานมากขึ้น โดยจะมีทั้งแบบที่เนื้อที่ชุ่มฉ่ำ ไขมันอิ่มตัวต่ำกว่า 35% ซึ่งถือว่าน้อยกว่าเบอร์เกอร์ที่ใช้เนื้อไม่ติดมัน 80% ไขมัน 20% Beyond พยายามรักษารสชาติให้คงเดิมแต่ให้พลังงานน้อยกว่า 

อีกแบบคือเหมาะสำหรับคนรักสุขภาพแต่มีไขมันอิ่มต่ำน้อยกว่าเบอร์เกอร์เนื้อทั่วไปถึง 55% และทั้ง 2 รสที่กำลังจะออกนี้จะมีทั้งวิตามินบีและแร่ธาติแบบเดียวกับที่ได้ทานเนื้อวัวด้วย

เนื้อที่ทำจากพืชและกำลังเป็นที่นิยมนี้ ทั้ง Beyond Meat และ Impossible Foods ก็ทำตลาดให้โด่งดังมากในไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง อย่างไรก็ดี Burger Meat จะถือเป็นตัวเลือกทางอาหารมากขึ้น ทั้งนี้ หุ้นของ Beyond Meat มีมูลค่าอยู่ที่ 7.88 พันล้านเหรียญสหรัฐ 

ที่มา – CNBC, The Verge

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/beyond-meat-will-launch-beyound-burger-2-version-in-the-year-of-2021/

เอาใจคนรักเบอร์เกอร์ Beyond Meat เตรียมปล่อย Beyond Burger 2 เวอร์ชั่น ปี 2021 นี้

เนื้อที่ทำจากพืชกำลังมาแรง ก่อนหน้านี้ McDonald เตรียมปล่อย McPlant เบอร์เกอร์เนื้อที่ทำจากพืช ล่าสุด Beyond Meat ประกาศเตรียมปล่อย Beyond Burger เอาใจคนรักเบอร์เกอร์ด้วยการเตรียมปล่อยเบอร์เกอร์เนื้อที่ทำจากพืชให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากยิ่งขึ้น 

เบอร์เกอร์ 2 เวอร์ชั่นที่กำลังออกใหม่นี้ มีทั้งการเน้นความชุ่มฉ่ำของเนื้อที่สอดใส้อยู่ในเบอร์เกอร์ และแบบที่ลดไขมันอิ่มตัวลง ทั้งนี้ Beyond Meat ระบุว่า เบอร์เกอร์ใหม่ที่กำลังจะปล่อยออกมานี้ ได้พยายามเสนอทางเลือกให้คนทานมากขึ้น โดยจะมีทั้งแบบที่เนื้อที่ชุ่มฉ่ำ ไขมันอิ่มตัวต่ำกว่า 35% ซึ่งถือว่าน้อยกว่าเบอร์เกอร์ที่ใช้เนื้อไม่ติดมัน 80% ไขมัน 20% Beyond พยายามรักษารสชาติให้คงเดิมแต่ให้พลังงานน้อยกว่า 

อีกแบบคือเหมาะสำหรับคนรักสุขภาพแต่มีไขมันอิ่มต่ำน้อยกว่าเบอร์เกอร์เนื้อทั่วไปถึง 55% และทั้ง 2 รสที่กำลังจะออกนี้จะมีทั้งวิตามินบีและแร่ธาติแบบเดียวกับที่ได้ทานเนื้อวัวด้วย

เนื้อที่ทำจากพืชและกำลังเป็นที่นิยมนี้ ทั้ง Beyond Meat และ Impossible Foods ก็ทำตลาดให้โด่งดังมากในไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง อย่างไรก็ดี Burger Meat จะถือเป็นตัวเลือกทางอาหารมากขึ้น ทั้งนี้ หุ้นของ Beyond Meat มีมูลค่าอยู่ที่ 7.88 พันล้านเหรียญสหรัฐ 

ที่มา – CNBC, The Verge

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/beyond-meat-will-launch-beyond-burger-2-version-in-the-year-of-2021/

Food Tech หนึ่งในธุรกิจที่ร้อนแรงแห่งยุค | BI Opinion

ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ธุรกิจเทคโนโลยีคือธุรกิจที่เป็นผู้ชนะอย่างแท้จริงในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ เนื่องจากบริการของบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สังคมออนไลน์ อีคอมเมิร์ซ วีดีโอคอนเฟอเรนซ์ และ คลาวด์คอมพิวติ้ง ล้วนเป็นที่ต้องการและมียอดขายที่สูงขึ้นมาก ราคาของหุ้นในธุรกิจเหล่านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีและทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง

และมีอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างสูงไม่แพ้ธุรกิจเทคโนโลยีอื่น นั่นคือ ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านอาหารหรือ Food Tech โดยเฉพาะบริษัทอย่าง Beyond Meat ที่ทำวัตถุดิบสำหรับทำอาหารโดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริโภคที่เป็นมังสวิรัติ โดยตัววัตถุดิบจะผลิตขึ้นมาจากพืช ราคาหุ้น Beyond Meat ให้ผลตอบแทนสูงถึงกว่า 150% ในปี 2020 ให้ผลตอบแทนสูงมากไม่แพ้บริษัทเทคโนโลยีที่เติบโตสูงอย่างกลุ่ม Cloud Computing เลยทีเดียว และมีมูลค่าตลาดสูงถึงเกือบ 10,000 ล้านเหรียญแล้ว

ล่าสุด ธุรกิจนี้ยังเป็นธุรกิจที่ยังคง “ร้อนแรง” เนื่องจากเป็นหนึ่งในธุรกิจที่กลุ่ม Venture Capital หรือ VC ยังใส่เงินลงทุนเข้าไปอย่างต่อเนื่องโดยมีปัจจัยสนับสนุนดังนี้

  1. ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นและหันมาบริโภคอาหารมังสวิรัติเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการเนื้อที่ทำจากพืชมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  2. ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ช่วยลดปัญหาในเรื่องโลกร้อน ซึ่งเป็นธุรกิจที่เข้าข่ายได้คะแนนด้าน ESG (Environment, Social and Governance) สูง ซึ่งเป็นเกณฑ์การลงทุนที่นักลงทุนสถาบันให้ความสำคัญมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ภาพจาก Shutterstock

มีการคาดการณ์จากบริษัท Polaris Market Research ว่า ความต้องการสินค้าประเภทเนื้อที่ทำจากพืชจะเติบโตได้ราว 15.8% ต่อปีไปจนถึงปี 2027 โดยมีผลจากการทำวิจัยว่า “เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านอาหารโดยเฉพาะเนื้อที่ทำจากพืช ว่าผู้คนใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม แต่พวกเขาไม่ต้องการจ่ายเงินเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม แต่พร้อมจะจ่ายเงินเพื่อดูแลเรื่องอาหารที่สามารถช่วยลดปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างเรื่องโลกร้อน”

การแพร่ระบาดของ Covid-19 ในระดับ Pandemic เป็นหนึ่งในปัจจัยที่เข้ามาเร่งให้เกิดการลงทุนในธุรกิจประเภท Food Tech มากขึ้นเนื่องจากการแพร่ระบาดที่ผ่านมาส่งผลให้ระบบขนส่งตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำติดขัดทั้งหมด ห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดเกิดปัญหาขึ้นและทำให้ราคาของสินค้าเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Food Tech จะเป็นวงกว้างขึ้น โดยจะมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรักษาหรือบริษัทผู้ผลิตโรบอทสำหรับช่วยเลี้ยงสัตว์และเก็บผลผลิตอย่างผลไม้ ไม่ใช่จะลงทุนในบริษัทที่ทำเนื้อจากพืชเพียงอย่างเดียว

ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา เม็ดเงินลงทุนและจำนวนการลงทุนจากกลุ่ม VC ต่อธุรกิจ Food Tech มีการเติบโตขึ้นอย่างสูง โดยในปี 2010 มีเม็ดเงินลงทุนไม่ถึง 100 ล้านเหรียญและมีจำนวนข้อตกลงการลงทุนเพียง 3 ครั้งเท่านั้น แต่ล่าสุดในปี 2020 ที่ยังไม่จบปีดี มีเม็ดเงินลงทุนในธุรกิจนี้สูงถึง 1,800 ล้านเหรียญแล้วและคาดว่าเม็ดเงินจนถึงสิ้นปีอาจจะสูงถึง 2,500 – 3,000 ล้านเหรียญเลยทีเดียว

ตัวอย่างอาหารเนื้อที่ทำจากพืช โดย Beyond Meat ภาพจาก Beyond Meat

โอกาสและความเสี่ยง

โอกาสที่ธุรกิจในกลุ่ม Food Tech ยังถือว่าเป็นช่วงต้นๆ ของวัฏจักรในการเติบโต นอกจากธุรกิจที่ทำเนื้อจากพืชแล้ว ธุรกิจด้านการเกษตรก็มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อช่วยให้ผลผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้นและให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นหรือที่เรียกกันว่า “Agtech” อย่างเช่นในอดีต ผู้ประกอบการอาจจะใช้วิธีดูแลผลผลิตผ่านการเดินเข้าไปในสวน แต่ทุกวันนี้ ผู้ประกอบการมีการนำ  โดรนมาใช้ในการดูแลผลผลิตในพื้นที่กว้างๆ และให้ AI มาช่วยวิเคราะห์ถึงประสิทธิภาพในการเพาะปลูกอีกด้วย โอกาสที่จะนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจด้านการเกษตรยังมีอีกพอสมควร ไม่ได้อยู่ในวงแคบๆ อย่างการลงทุนในธุรกิจผลิตอาหารที่ใช้พืชเป็นวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว

มาที่ด้านความเสี่ยงกันบ้างครับ เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้เป็นธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นานและต้องการเงินลงทุนจากนักลงทุน VC ค่อนข้างมาก ดังนั้น จึงมีความเสี่ยงที่อาจจะเจอบริษัทที่ปลอมแปลงเอกสารทางการเงินให้มีรายได้ที่สูงเกินจริง การเจอเหตุการณ์แบบนี้ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังจากที่มีการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ก็คงจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ๆ ซึ่งการควบคุมของกลต.โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่มีความรัดกุมมากขึ้น ซึ่งถ้าเกิดเจอขึ้นมาก่อนที่จะได้ทำการ IPO เงินที่กลุ่ม VC ลงทุนไว้ก็อาจจะหายไปแทบทั้งหมด แต่ถ้าเจอหลังจากที่ IPO ไปแล้ว นักลงทุนรายย่อยก็จะเป็นกลุ่มที่เจ็บตัวหนัก

Photo : Shutterstock

สรุป

ธุรกิจในกลุ่มเทคโนโลยีด้านอาหารหรือ Food Tech รวมถึงธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมย่อยลงไปอย่างการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีหรือ Agtech เป็นกลุ่มธุรกิจดาวเด่นที่มีบริษัท Start-up เกิดขึ้นอย่างมากมาย และทางกลุ่ม Venture Capital ก็มีเงินทุนมากมายที่พร้อมจะลงทุนเนื่องจากดอกเบี้ยในตลาดอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ขอเพียงธุรกิจมีศักยภาพในการเติบโตที่ดี รวมถึงผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ที่โดดเด่น ทางกลุ่ม Venture Capital ก็พร้อมที่จะใส่เงินลงทุนเข้าไปอย่างแน่นอน ความเสี่ยงในธุรกิจ Start-up มีอยู่สูง เงินที่ลงทุนไปอาจจะหายไปทั้งหมดถ้าเกิดไปลงทุนในบริษัทที่มีการปลอมแปลงเอกสารทางการเงินให้ดูดีเกินจริง แต่ความเสี่ยงเหล่านี้ก็เป็นความเสี่ยงที่นักลงทุน VC ทำใจไว้แล้ว เพราะการลงทุนในธุรกิจเหล่านี้ความเสี่ยงต่อผลตอบแทนถือว่าคุ้มค่า

สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่จะลงทุนในบริษัทลักษณะนี้ คงจะต้องลงทุนผ่านตลาดหุ้นเพียงอย่างเดียว โอกาสในการเติบโตในอนาคตของบริษัทในกลุ่ม Food Tech ยังมีอีกสูงก็จริง แต่ระยะสั้นอาจจะมีความผันผวนที่สูงด้วยเช่นกัน เนื่องจากบริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังอยู่ในช่วงที่ต้องลงทุนหนักสำหรับการผลิตและขยายตลาด แม้แต่ Beyond Meat ที่ทำตลาดมาหลายปีแล้วก็ยังมีผลการดำเนินงานที่ขาดทุนอยู่ ดังนั้น การลงทุนในธุรกิจประเภทนี้สามารถลงทุนได้ แต่ควรลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสมกับความสามารถในการรับความเสี่ยงของเรา หุ้นเหล่านี้ขึ้นได้แรงก็จริง แต่เวลาลงก็แรงมากเช่นกันครับ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/food-tech-business/

กระแสเนื้อไร้เนื้อแรง! Burger King จับมือ Impossible Foods ออกเมนูใหม่อาหารเช้ามังสวิรัติ

Burger King ประกาศวางขายเมนู Impossible Croissan’wich (ครัวซองต์แซนด์วิชไส้กรอกมังสวิรัติ) เมนูอาหารเช้าทั่วสหรัฐอเมริกา 

กระแสเนื้อไร้เนื้อดีต่อเนื่อง

หลังจากที่ Burger King เริ่มทดลองเมนู “ครัวซองต์แซนด์วิชไส้กรอกมังสวิรัติ” เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และถือเป็นเจ้าแรกที่ได้ใช้ไส้กรอกมังสวิรัติของ Impossible Foods ในเมนูอาหารเช้า ล่าสุดก็พร้อมส่งเมนูนี้ขายทั่วสหรัฐอเมริกาแล้ว

Burger King มั่นใจว่าเมนูใหม่จะช่วยเพิ่มยอดขายเมนูอาหารเช้าให้กับทางแบรนด์ได้ เพราะเมื่อปีที่ผ่านมากระแสคนทานอาหารมังสวิรัติมาแรงมาก ทำให้ Burger King วางขายเมนู Impossible Whopper หรือเบอร์เกอร์ไร้เนื้อสัตว์ไปทั่วสหรัฐอเมริกา และเมื่อต้นปีนี้ Burger King ก็ได้ทำโปรโมชั่นซื้อแฮมเบอร์เกอร์มังสวิรัติ 2 ชิ้น ในราคาเพียง 6 ดอลลาร์ (ประมาณ 186 บาท) เพื่อเอาใจผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าคุณภาพในราคาที่ต่ำลง รวมถึงทำแคมเปญโปรโมทเมนูใหม่ โดยลูกค้าที่ซื้อเมนูใดก็ได้ผ่านทางแอปพลิเคชั่น Burger King จะได้รับเมนูใหม่นี้ไปทานฟรีๆ (Burger King เตรียมแจกเมนูใหม่กว่า 100,000 รายการ)

สาเหตุที่ทำให้ Burger King วางขายเมนูนี้เนื่องจากในช่วงโควิดที่ผ่านมา ยอดขายอาหารเช้าลดลงเป็นอย่างมาก เพราะคนส่วนใหญ่เปลี่ยนมาทำงานและทานอาหารเช้าจากที่บ้านแทน ซึ่งผลกระทบดังกล่าวยังส่งผลไปถึงแบรนด์อื่นๆ ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่าง ร้านอาหารเม็กซิกันอย่าง Taco Bell ที่ได้ลดชั่วโมงการขายสินค้าต่อวันลง รวมถึงในฝั่งของ Dunkin’ ก็ได้ใช้ไส้กรอกที่ทำจากพืชของ Beyond Meat ในเมนูแซนด์วิชที่เป็นอาหารเช้าเช่นกัน  

อย่างไรก็ตาม ความน่าสนใจอีกอย่างคือ เมื่อมีข่าวว่า Burger King จะวางขายเมนูใหม่ที่ใช้เนื้อไร้เนื้อของ Impossible Foods ส่งผลให้ Beyond Meat ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Impossible Foods มีราคาหุ้นก่อนเปิดตลาดลดลงไป 2%

ที่มา: CNBC

 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/burger-king-impossible-foods-beyond-meat/

เกินคาด! KFC x Beyond Meat ทดลองขายไก่ไร้ไก่ ขายหมดภายใน 5 ชั่วโมง!

หลังจากที่มีกระแสออกมาว่า KFC ได้จับมือกับ Beyond Meat ในการพัฒนาไก่ทอดมังสวิรัต เมื่อทดลองขายก็ได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาด ขายหมดภายใน 5 ชั่วโมง ซึ่ง KFC กำลังเก็บข้อมูลต่อไปอยู่

ตลาด Plant-based Food ไม่ธรรมดาแล้วจริงๆ เพราะเชนร้านอาหารหลายรายในสหรัฐอเมริกาต่างลงมาจับตลาดนี้ พัฒนาเป็นเมนูใหม่กันอย่างเต็มที่ทั้ง Burger King, Subway และ Dunkin’

แล้วอย่างนี้ผู้พันแซนเดอร์จะพลาดไปได้อย่างไร โดยที่ไม่กี่วันมานี้ KFC ได้ประกาศร่วมมือกับ Beyond Meat ซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด Plant-based Food เรียกว่าเป็นบริษัทที่ร้อนแรงที่สุดในยุคนี้เลยทีเดียว เชื่อว่าแบรนด์อาหารหลายรายกำลังรุมจีบอยู่เป็นแน่

ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการพัฒนาไก่ทอดไร้ไก่ Beyond Fried Chicken ใช่แล้ว… จะเรียกว่าไก่ทอดมังสวิรัติก็ได้ เพราะไม่มีส่วนผสมของเนื้อไก่แต่อย่างใด ซึ่งถือว่าเป็นเชนร้านอาหารรายแรกที่ร่วมมือกับ Beyond Meat ในการพัฒนาไก่ทอดมังสวิรัติ เป็นการสร้างทางเลือกให้ผู้บริโภคในยุคนี้ในการทานที่หลากหลาย

หลังจากที่มีกระแสข่าวออกมานั้นก้มีคนสนใจมากพอสมควร ซึ่ง KFC ได้ทดลองจำหน่ายไก่ไร้ไก่ในสาขาที่แอตแลนตา ได้เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ 8 โมงเช้า ผลปรากฎว่าขายหมดภายในเวลาไม่ถึง 5 ชั่วโมง! ซึ่งยอดขายนี้เทียบเท่ากับการขายเมนู Popcorn Chicken ทั้งสัปดาห์เลยด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามตอนนี้ก็ยังไม่มีผลสรุปว่า KFC กับ Beyond Meat จะมีความร่วมมือในการพัฒนาเมนูอื่นๆ หรือไม่ ตอนนี้ KFC เองก็อยู่ในช่วงเก็บข้อมูล และความคิดเห็นของลูกค้า รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคกับ Plant-based Food เชื่อว่าจะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาอีกแน่นอน

Source

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/kfc-beyond-meat-plant-based-fried-chicken/

ไม่พลาด! Subway เตรียมขายแซนวิชทำจาก Plant-based Meat

Subway จับมือกับ Beyond Meat ออกเมนู Beyond Meatball Marinara ซึ่งทำมาจากเนื้อไร้เนื้อ เริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา และแคนาดา แต่เป็นเมนูชั่วคราวเท่านั้น

ดูเหมือนเทรนด์ของ Plant-based Food หรือเนื้อไร้เนื้อ กำลังมาแรงแซงทางโค้งจริงๆ เชนร้านอาหาร QSR รายใหญ่ของโลกต่างลงมาจับตลาดนี้กันหมด ไม่ว่าจะเป็น Burger King, McDonald’s และ Dunkin’ ต่างมีเมนูที่ทำจากเนื้อไร้เนื้อทั้งสิ้น

ล่าสุด Subway ร้านแซนวิชรายใหญ่ที่ขึ้นชื่อว่ามีสาขามากที่สุดในโลกก็ไม่ขอตกขบวนนี้อย่างแน่นอน จับมือกับ Beyond Meat ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด Plant-based Food ออกเมนูใหม่ที่ทำมาจากเนื้อไร้เนื้อ

เมนูที่ว่านั้นมีชื่อว่า Beyond Meatball Marinara เป็นลักษณ์แซนวิชที่มี Meatball แทนเนื้อสัตว์

เมนูนี้จะเริ่มจำหน่ายในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ใน 685 สาขาทั่วสหรัฐอเมริกา และแคนาดา แต่เป็นเมนูที่จำหน่ายชั่วคราวเท่านั้น ไม่ได้เป็นเมนูถาวร 

แม้เมนู Beyond Marin Marinara จะไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบเลย แต่ก็มีโปรตีนจากพืช 24 กรัม/ชิ้น (ในขนาด 6 นิ้ว) ซึ่งเมนูนี้จะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น ให้ได้รับโปรตีนจากพืชมากขึ้น เพราะยุคนี้ความต้องการของผู้บริโภคมีหลากหลายมากขึ้นเช่นกัน

Source

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/subway-beyond-meatball-marinara/

Dunkin’ เอาบ้าง! จับมือ Beyond Meat เสิร์ฟแซนวิชด้วยเนื้อไร้เนื้อ

Dunkin’ ขอร่วมขบวน Plant-Based Food บ้าง จับมือ Beyond Meat ครีเอตเมนูแซนวิชอาหารเช้าโดยใช้เนื้อไร้เนื้อ เริ่มขายที่ Manhattan สหรัฐอเมริกาก่อนที่แรก

Photo : Shutterstock

ตลาด Plant-Based Food กำลังมาแรงอย่างมากให้ระดับโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา และยุโรป เชนร้านอาหารรายใหญ่โดยเฉพาะร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ต่างออกเมนูที่ทำมาจาก Plant-Based Food ทั้งสิ้น

Plant-Based Food คือเนื้อที่ไม่ได้ทำจากเนื้อสัตว์ แต่ทำมาจากพืช ถั่วต่างๆ แต่มีกระบวนการผลิตจนทำให้มีรสชาติเหมือนเนื้อสัตว์จริงๆ ได้ 

ความร้อนแรงนี้ทำให้ Dunkin’ ขอร่วมตลาดนี้ด้วย จับมือร่วมกับเจ้าใหญ่ในตลาดอย่าง Beyond Meat ในการเอาเนื้อไร้เนื้อมาทำเมนู Beyond Sausage Breakfast Sandwich 

ซึ่งก่อนหน้านี้ Burger King, McDonald’s และร้านอาหารอื่นๆ ต่างมีเมนู Plant-Based Food กันบ้างแล้ว 

โดยที่เมนู Beyond Sausage Breakfast Sandwich ได้เปลี่ยนไส้กรอกที่ทำจากเนื้อสัตว์ เป็นเนื้อจาก Beyond Meat แต่ยังคงรักษารสชาติได้ไม่ต่างกัน 

และเมนูนี้ก็ไม่ใช่มังสวิรัติของสาย Vegan เพราะเสิร์ฟพร้อมกับไข่ และชีส ลูกค้ายังสามารถทานคู่กับมัฟฟินได้ด้วย 

สำหรับ Dunkin’ นั้นเป็นเชนร้านอาหารแบรนด์แรกในสหรัฐอเมริกาที่ได้ใช้เนื้อไร้เนื้อจาก Beyond Meat เป็นการพัฒนาร่วมกันที่ทำให้ลูกค้าได้เข้าถึง Plant-based Meat ได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ทำเป็นเมนูพร้อมทานได้ 

แต่เมนูนี้ Dunkin’ ได้เริ่มแจกเป็นเมนูทดลองในสาขาที่ Manhattan ก่อนเป็นแห่งแรก ซึ่งเป็นเมนูอาหารเช้าจะแจกจนถึงบ่าย 2 โมง หลังจากนั้นก็จะเริ่มจำหน่ายเมนูนี้ในนิวยอร์กก่อน และค่อยขยายไปทั่วสหรัฐอเมริกาในอนาคต

Source

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/dunkin-beyond-meat-plant-based-meat-sandwich/

รู้จัก Plant-based Food ธุรกิจเนื้อไร้เนื้อที่มาแรงที่สุดในปี 2019

Plant-based Food ไม่ใช่แค่อาหารเฉพาะกลุ่ม แต่จะเป็นดาวรุ่งในอนาคต หลายแบรนด์ใหญ่ลงมาเล่นตลาดนี้ เพราะมีโอกาสทางตลาดมากมาย 

Photo : Shutterstock

Plant-based Food คืออะไร ทำไมถึงมาแรง?

ตอนนี้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการบริโภคอาหารมากมาย ก่อนหน้ามีเทรนด์ของคนที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ ทานมังสวิรัติ หรือเป็นกลุ่ม Vegan ที่ต่อต้านการละเมิดชีวิตสัตว์ทุกประเภท

ตอนนี้มีคำว่า Plant-based Food เข้ามาใหม่ในระบบ เป็นเทรนด์ที่มาแรงมากในปีนี้ เชื่อว่าจะไม่ใช่แค่ Niche Market เป็น Mega Trend แห่งปี จะเป็นอนาคตของธุรกิจอาหารเลยก็ว่าได้ 

โดยที่ “หนูดี-วนิษา เรซ” ได้พูดถึงความร้อนแรงของ Plant-based Food ภายในงาน LINE Food Tech 2019 งานที่รวบรวมเทคโนโลยีเกี่ยวกับอาหารในอนาคต 

อธิบายง่ายๆ ได้ใจความ Plant-based Food คือ อาหารที่ทำมาจากพืชเป็นหลักประมาณ 95% ส่วนใหญ่ทำมาจากถั่ว และบีทรูท แต่ไม่ใช่อาหารเจ ไม่เกี่ยวกับศาสนา ไม่ใช่มังสวิรัต ที่ไม่กินนม ไม่กินไข่ ไม่ใช่ Vegan เพราะไม่มีประเด็น Animal Activist หรือการไม่ละเมิดชีวิตสัตว์ ที่ไม่เลี้ยงสัตว์ ไม่ใช้ขนสัตว์ ไม่ไปสวนสัตว์ และไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เป็นเรื่องสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมล้วนๆ 

Plant-based Food ที่นิยมมากที่สุดในตอนนี้ ก็คือการทำเป็น “เนื้อเบอร์เกอร์” หรือจะเรียกกันว่าเบอร์เกอร์ไร้เนื้อสัตว์ แต่ให้รสชาติ และผิวสัมผัสที่เหมือนเนื้อจริงๆ

จะเห็นว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทั่วโลกได้พูดถึงปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม หลายคนเริ่มตระหนักในเรื่องวัสดุที่ทำลายสิ่งแวดล้อม เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น

 

เรื่องของอาหารก็เช่นเดียวกัน ทุกคนเริ่มมองหาอาหารที่มาจากธรรมชาติ เพื่อสุขภาพของตัวเอง และเพื่อสิ่งแวดล้อม การเพิ่มพืชในมื้ออาหารให้มากขึ้น จึงกลายเป็นเทรนด์ที่มาแรงที่สุดของโลก กล่าวได้ว่าอนาคตของอาหารจะกลายเป็นพืชเสียส่วนใหญ่

ถ้าให้เปรียบเทียบระหว่างแผ่นเบอร์เกอร์ที่เนื้อสัตว์จริงๆ กับเบอร์เกอร์ที่เป็นเนื้อไร้เนื้อในปริมาณ 113 กรัมเท่ากัน จะพบว่าเนื้อจากพื้ชไม่มีคอเรสเตอรัล มีไขมันอิ่มตัวน้อยกว่า กระบวนการผลิตใช้น้ำน้อย ลดก๊าซเรือนกระจก และช่วยบำรุงคุณภาพดิน

ซึ่งกระบวนการในการทำเนื้อจริงจะเพิ่มก๊าซมีเทน ปศุสัตว์เป็นธุรกิจที่เพิ่มก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ของโลก รวมไปถึงเรื่องการผลิตที่เนื้อจริงต้องฆ่าสัตว์จริงๆ แต่เนื้อไร้เนื้อใช้พืช ซึ่งพืชไม่มีระบบประสาท ไม่มีความรุนแรงในการฆ่าอย่างแน่นอน

แบรนด์ยักษ์ใหญ่ในตลาดต้องลงมาเล่น

ถ้าพูดแค่ว่า Plant-based Food เป็นเทรนด์ใหญ่มาแรงในปีนี้คงจะยังไม่เห็นภาพเท่าไหร่ ต้องขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น ซึ่ง Plant-based Food กลายเป็นธุรกิจที่มาแรงแห่งปีจริงๆ มีผู้เล่นหลายแบรนด์ลงมาจับตลาด ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ไปจนถึงผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของโลก

Photo : Shutterstock

แต่ถ้าพูดถึง Plant-based Food ต้องพูดถึง Beyond Meat เป็นอันดับแรก บริษัทที่ทำ Plant-based Meat หรือเนื้อไร้เนื้ออันดับแรกๆ ก่อตั้งปี 2009 และมีสินค้าวางจำหน่ายเมื่อปี 2016 ปีนี้ได้กลายเป็นธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรงมากที่สุด ถึงขนาดที่ว่า ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ” นักแสดงชื่อดังได้เข้ามาลงทุน 

ความร้อนแรงของ Beyond Meat นั้น บริษัทได้เข้า IPO เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หุ้นพุ่งขึ้นถึง 163% มากที่สุดในหุ้นทั่วโลกของปีนี้ IPO ที่ 800 บาท เปิดตลาดที่ 1,470 บาท พุ่งขึ้นไปถึง 2,300 และปิดที่ราคา 2,100 บาท หุ้นนี้มีความผันผวนมากจน NASDAQ ต้องประกาศหยุดการขายช่วงหนึ่ง 

ทำให้ Beyond Meat เป็นหุ้นที่ฮ็อตมาก ในสิ้นวันนั้นมูลค่าของบริษัทอยู่ที่ 120,000 ล้านบาท สามารถบอกได้ว่าผู้คนต่างให้ความสนใจกับธุรกิจมากแค่ไหน

Beyond Meat มีคู่แข่งคนสำคัญคือ Impossible Food ที่ทำ Impossible Burger ให้กับ Burger King ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดเบอร์เกอร์นั่นเอง ในเมนู Impossible Whopper 

เบอร์เกอร์ที่ว่านั้นได้ทำเหมือนเนื้อจริงในทุกมิติ ไม่ว่าจะตอนลงกระทะแล้วมีเสียงชู่ววว เหมือนเสียงเนื้อ หรือหั่นออกมาแล้วมีเลือดไหล รสชาติเหมือนเนื้อทุกอย่าง 

ตอนนี้ Burger King ได้จำหน่าย Impossible Whopper ในสหรัฐอเมริกา แต่ได้รับผลตอบรับที่ดีมีแผนเตรียมวางจำหน่ายทั่วอเมริกา และทั่วโลกในลำดับต่อไป 

Photo : Shutterstock

นอกจากนี้ McDonald’s ก็ได้ออกเมนูเบอร์เกอร์ Big Vegan TS เป็นเมนูเบอร์เกอร์มังสวิรัติ เริ่มที่ประเทศเยอรมนีแห่งแรก ซึ่ง McDonald’s ได้ออกออกเมนูเอใจชาว Vegan มานานแล้ว อีกทั้งยังมีผู้เล่นรายอื่นสนใจในตลาดนี้ด้วย เช่น White Castle, Qdoba, Bareburger และแบรนด์อื่นๆ ที่กำลังขยายเมนูที่ทำมาจากพืชเช่นกัน

แต่นอกจากแบรนด์ร้านอาหารที่ตื่นตัวกับ Plant-based Food แล้ว ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ระดับโลกอย่าง Nestle เตรียมวางจำหน่าย Plant-based Burger ในสหรัฐอเมริกา และในยุโรป ส่วนคู่แข่งอย่าง Unilever ก็เตรียมจำหน่าย The Vegetarian Butcher หรือเรียกว่านักฆ่าผักด้วยเช่นกัน

คิดตามง่ายๆ ก็คือ ทำไมคนขายเนื้อรายใหญ่อย่าง Burger King ยังต้องทำ Plant-based Food เพราะเขามองว่าเนื้อไร้เนื้อคืออนาคตนั่นเอง 

Plant-based Food เหมาะสำหรับทุกคน ตอบโจทย์ธุรกิจ

Plant-based Food มีโอกาสมากมายทั้งทางธุรกิจ และเรื่องของสุขภาพ คนที่ทานยังคงได้รับความอร่อยที่เหมือนเนื้อ แต่ได้รับสารอาหารจากพืช ซึ่ง Plant-based Food สามารทานได้ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงแก่ 

นอกจากจะทำให้สุขภาพดีขึ้นแล้ว ในแง่ธุรกิจยังสามารถขายผู้ป่วยได้ หรือคนที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพได้ด้วย เพิ่มสมรรถนะร่างกาย มีโปรตีนที่สร้างกล้ามได้ดีกว่า คนที่ออกกำลังกายจะได้กล้ามใหญ่ที่ไขมันน้อยกว่าเนื้อสัตว์

Photo : Shutterstock

อีกทั้งยังมีวิจัยรับรองที่หลากหลายว่าสามารถฟื้นฟูสุขภาพ ทุกคนกินได้อย่างปลอดภัย ทานเป็นไลฟ์สไตล์ก็ได้ หรือทานเพื่อป้องกัน และรักษาโรคได้ เช่น โรคหัวใจ หลอดเลือดหัวใจ ลดการเป็นอัลไซเมอร์ เบาหวานประเภท 2 และโรคอ้วนได้ เพราะไม่มีคอเรสเตอรัล

ที่สำคัญได้ช่วยสิ่งแวดล้อมโลก และสัตว์ เพราะธุรกิจปศุสัตว์สร้างก๊าซเรือนกระจกมากกว่ายานพาหนะเสียอีก

แต่ก็ยังไม่อาจสรุปได้ว่าเทรนด์ของ Plant-based Food จะมาเมืองไทยหรือไม่ หรือจะได้รับการตอบรับอย่างในต่างประเทศหรือเปล่า แต่ก็ชี้ให้เห็นว่าเทรนด์นี้ต้องมาแน่นอน เพราะคนไทยก็เริ่มให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดูแลสุขภาพมากขึ้น 

ต้องดูว่าร้านอาหาร หรือแบรนด์ไหนจะนำเข้ามาก่อนเป็นรายแรก และจะเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนไทยได้หรือไม่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/plant-based-food-mega-trend/