คลังเก็บป้ายกำกับ: APPLE_WATCH_3

TIME จัด 10 อันดับ Gadget ประจำปี 2017 : Nintendo Switch คว้าอันดับ 1, ตามด้วย iPhone X และ Surface Laptop

นิตยสารชื่อดังอย่าง TIME นั้นมักจะมีการจัดอันดับ Gadget หรือของเล่นสายเทคฯ ออกมาเป็นประจำทุกๆ ปี ตอนนี้เข้าใกล้ช่วงสิ้นปีแล้วทาง TIME ก็ได้ปล่อยรายชื่ออุปกรณ์ยอดเยี่ยม 10 อันดับประจำปี 2017 ออกมาแล้ว มาดูกันครับว่าผลิตภัณฑ์ไหนบ้างที่ได้ตำแหน่งประจำปีนี้ไป

อันดับ 1 : Nintendo Switch

ต้องยอมรับว่าปีนี้เป็นปีของ Nintendo จริงๆ ครับกับการกลับมาพร้อมเครื่องคอนโซลเกมแบบพกพาก็ได้ เสียบจอที่บ้านเล่นก็ดีอย่าง Switch ตัวนี้ ไหนจะเปิดตัวมาพร้อมกับเกมซีรีส์ Zelda ในตำนานและตามมาด้วย Super Mario Odyssey ที่เป็นเกมที่สื่อเกมทุกสำนักให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่าคือสุดยอดเกมแห่งปีนี้ และเกมอื่นๆ ที่ใช้ฟีเจอร์ของ Joy-con ได้อย่างคุ้มค่า เป็นความแปลกใหม่ของวงการเกมโดยแท้จริง ทาง TIME จึงมอบรางวัลอันดับ 1 ให้กับอุปกรณ์ชิ้นนี้ไป

 

อันดับ 2 : iPhone X

TIME ให้ความเห็นเกี่ยวกับ iPhone X ไว้ว่า แม้มันจะแพง หาซื้อยาก หรือแม้แต่หลายๆ ฟีเจอร์ที่เพิ่งจะมาทำตามมือถือฝั่ง Android แต่เทคโนโลยีอย่างจอที่ใหญ่เต็มสุดขอบและระบบรู้จำใบหน้า Face ID ที่ทางแอปเปิลทำออกมานั้น จะเป็นการผลักดันให้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของมือถืออย่างแน่นอน และด้วยกล้องสแกนหน้านั้นก็ทำให้แอปอย่าง Snapchat และ Warby Parker นำไปสร้างลูกเล่นจากการขยับหน้า หรือสแกนหน้าแล้วแนะนำแว่นที่เหมาะกับโครงหน้าเราก็ได้ด้วย นอกจากนี้แล้วก็มีเรื่องกล้อง แบตเตอรี่ที่พัฒนาขึ้นมาก ทำให้ทาง TIME เลือกที่จะมอบตำแหน่งอันดับ 2 ให้กับ iPhone X

 

อันดับ 3 : Surface Laptop

อันดับ 3 นั้นตกเป็นของโน้ตบุ๊กเครื่องแรกที่ทาง Microsoft เป็นคนผลิตเอง หลังจากที่ทำ Surface แบบแท็บเล็ตมานาน โดยจุดเด่นของ Surface Laptop นั้นอยู่ที่การออกแบบที่สวยหรู หน้าจอที่ละเอียดคมกริบ และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้อย่างยาวนานเกินมาตรฐานโน้ตบุ๊กทั่วๆ ไปในตลาด และมาพร้อมกับ Windows 10 S ที่ให้ที่แม้จะมีข้อจำกัดหลายอย่าง แต่ก็มีข้อเด่นที่เรื่องความเร็ว อายุการใช้งานและความปลอดภัยที่แน่นหนากว่ารุ่นปกติ อย่างไรก็ตามคนที่ต้องการใช้รุ่นเต็มก็สามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 Pro ได้เช่นกัน

 

อันดับ 4 : DJI Spark


โดรนไซส์กะทัดรัดขนาดเท่าฝ่ามือ ทั้งยังใช้งานได้ง่าย ควบคุมได้ด้วยท่าทางของการโบกมือของเรา แม้ว่าจะไม่ได้แม่นยำเสมอไป แต่ก็เป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจและใช้งานได้สะดวกสำหรับคนหัดเล่นโดรน

 

อันดับ 5 : Galaxy S8


แฟนๆ ซัมซุงไม่ต้องเสียใจไป เพราะว่ามือถือเรือธงประจำปีอย่าง Galaxy S8 ก็ติดอันดับเช่นกัน โดยจุดเด่นที่ทาง TIME ให้ความเห็นไว้ก็คือจอโค้งที่ดูมีสเน่ห์และหน้าจอ OLEd ที่ยอดเยี่ยม และส่วนของซอฟต์แวร์ที่ซัมซุงปรับแต่งเพิ่มให้ใช้งานง่ายขึ้นและลื่นไหลกว่าเดิม

สำหรับอันดับที่เหลือ 6-10 ก็มี Gadget ที่ได้รางวัลดังต่อไปนี้เลยครับ

อันดับ 6 : SNES Classic (Super Famicom Classic Mini)

อันดับ 7 : Amazon Echo (second generation)

อันดับ 8 : Xbox One X

อันดับ 9 : Apple Watch 3

อันดับ 10 : Sony Alpha A7R III

 

ดูผลไป 10 อันดับแล้วเป็นอย่างไรกันบ้างครับ มีอุปกรณ์ไหนเดาถูกกันบ้าง และมีอุปกรณ์ไหนที่เพื่อนๆ คิดว่าน่าจะติด หรือว่าชื่นชอบเป็นการส่วนตัวก็มาแสดงความเห็นหรือแนะนำกันได้ครับ 😀

 

ที่มา: TIME

from:https://droidsans.com/time-best-gadget-2017/

5 ฟีเจอร์ที่น่าสนใจใน Apple Watch Series 3 รุ่น GPS + Cellular

Applewatch Series3 Top 5 Feature

Apple เปิดตัว Apple Watch Series 3 เป็น Apple Watch รุ่นแรกที่มี Cellular ในตัว มาชม 5 ฟีเจอร์น่าสนใจของ Apple Watch Series 3 รุ่น GPS + Cellular มีอะไรเด่นบ้าง

Apple Watch Series 3 GPS + Cellular

Apple เปิดตัว Apple Watch Series 3 รุ่น GPS และ รุ่น GPS + Cellular ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการโทรออกและรับสายผ่าน Apple Watch ได้โดยไม่ต้องใช้ iPhone, ชิพประมวลผลตัวใหม่ที่เร็วขึ้นกว่าเดิม, การฝังตัววัดระดับความสูงในนาฬิกา รวมไปถึงซอฟต์แวร์อัปเดต watchOS 4 ที่จะมาในวันที่ 19 กันยายน นี้อีกด้วย

Apple watch series 3 10815

แต่สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุด คงจะเป็นการปรับปรุงสเปคการใช้งานให้ตัว Apple Watch Series 3 โดยเฉพาะรุ่น GPS+Cellular ทำงานได้ด้วยตัวเองมากขึ้นโดยไม่ต้องผ่าน iPhone

5 ฟีเจอร์ที่น่าสนใจใน Apple Watch Series 3 GPS + Cellular

Apple Watch Series3 Released 7

1. Built-in Cellular

ด้วย eSIM ที่ฝังอยู่ในตัวเรือนและการใช้หน้าจอเป็นตัวรับสัญญาณข้อมูล Cellular ทำให้ Apple Watch Series 3 รุ่น GPS + Cellular สามารถโทรออกและรับสายได้โดยไม่ต้องใช้ iPhone อีกต่อไป (ซึ่งในรุ่นก่อนหน้านี้จำเป็นต้องใช้ Bluetooth ในการเชื่อมต่อข้อมูลกับ iPhone เพื่อใช้ฟังก์ชันการรับสาย)

App Applewatchseries3 5features Content1

คุณสมบัตินี้ทำให้ผู้ใช้ ไม่จำเป็นต้องพก iPhone ติดตัวทุกครั้งเมื่อใช้ Apple Watch มีอิสระมากขึ้น ทำธุระหรือออกกำลังกายได้สะดวกขึ้น และยังไม่ต้องกังวลใจในเรื่องของเบอร์โทรศัพท์ด้วยว่าจะต้องใช้เบอร์ใหม่อีกเบอร์หรือไม่อย่างไร เพราะการโทรออกและรับสายใน Apple Watch รุ่นใหม่นี้จะใช้เบอร์เดียวกันกับ SIM Card ใน iPhone ของผู้ใช้เอง

2. Streaming Music

ด้วยการเพิ่มตัวรับสัญญาณ Cellular ทำให้ Apple Watch Series 3 รุ่น GPS + Cellular ที่ใช้ watchOS 4 สามารถฟังเพลงผ่าน Apple Music ได้ในตัวเรือน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกฟังเพลงได้กว่า 40 ล้านเพลง ผ่านการสตรีมข้อมูลเพลงใน Apple Watch ได้เลย

App Applewatchseries3 5features Content2

Apple ยังบอกอีกว่า ผู้ใช้สามารถสั่งงานผ่าน Siri ให้เล่นเพลงที่ชอบได้ด้วยไมค์และลำโพงที่ฝังอยู่ในตัวเรือนนาฬิกา Apple Watch Series 3 ได้อีกด้วย

3. Design, Processor

Apple ได้ประกอบและฝังเทคโนลียีสุดไฮเทคไว้ใต้ตัวเรือน Apple Watch Series 3 รุ่นล่าสุด ที่ได้รับการออกแบบได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น Faster Dual-Core Processor ตัวใหม่ล่าสุดที่ให้ประสิทธิภาพและการโหลดกราฟิกที่เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 70%

App Applewatchseries3 5features Content3

App Applewatchseries3 5features Content4

ถึงแม้ Apple จะใช้อุปกรณ์และชิ้นส่วนประกอบที่ใหม่ทั้งหมด แต่นาฬิกา Apple Watch Series 3 ก็ยังคงมีขนาดเท่ากับ Apple Watch Series 2 อยู่ดี (สำหรับคริสตัลที่อยู่ด้านหลังตัวเรือนจะได้รับการขยายขึ้นมาเล็กน้อยประมาณ 0.25 มิลลิเมตร)

4. Enhanced WiFi

ใน Apple Watch Series 3 มีการปรับชุดฮาร์ดแวร์ภายในเกือบทั้งหมด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อให้ดีขึ้น ที่น่าสนใจคือ การเชื่อมต่อ Cellular ไม่ได้ใช้ Nano-SIM แต่จะใช้ electronic-SIM Card (eSIM) ที่มีขนาดเล็กฝังในตัวเรือนเลย ทำให้ขนาดตัวเรือนของ Apple Watch Series 3 รุ่น GPS + Cellular ไม่ได้มีขนาดใหญ่จากรุ่นก่อนหน้า (eSIM ได้ถูกจดสิทธิบัตรของ Apple เป็นที่เรียบร้อย)

App Applewatchseries3 5features Content5

นอกจาก eSIM แล้ว Apple ยังใช้ชิพ W2 Wireless Chip ตัวใหม่ล่าสุด เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อ Bluetooh และ Wireless ให้สามารถเชื่อมต่อ WiFi ได้เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 85% และ Bluetooh ที่เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 50%

5. Barometric Altimeter

ใน Apple Watch Series 1 และ Series 2 มีฟีเจอร์ การวัดระดับความสูงแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Barometric Altimeter) แต่เทคโนโลยีนี้มีข้อจำกัด คือ ตัวระบบจะไม่สามารถวัดข้อมูลบางอย่างได้ เช่น ความสูงเมื่อไต่หน้าผา ตัว Apple Watch Series 1 และ Series 2 จะบอกไม่ได้ว่าเราไต่ขึ้นไปสูงเท่าไหร่ เมื่อไม่ได้เชื่อมต่อกับ iPhone

App Applewatchseries3 5features Content6

ข่าวดีคือ Apple Watch Series 3 เป็น Apple Watch รุ่นแรกที่มีการฝัง Barometric Altimeter แล้วใช้งานได้จริง ใช้เพื่อติดตาม บันทึกข้อมูล และวัดระดับความสูงในระหว่างการออกกำลังกายหรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้เลยแบบไม่ต้องพึ่ง iPhone

เปิด Pre-Order Apple Watch Series 3 ในกลุ่มประเทศแรก (15 ก.ย. 2017)

วันที่ 15 ก.ย. 2017 ที่ผ่านมา Apple ได้เปิดให้สามารถสั่งจอง Apple Watch Series 3 ทั้งรุ่น GPS และรุ่น GPS + Cellular แล้วในกลุ่มประเทศแรก และจะ เปิดขายวันที่ 22 ก.ย. 2017 นี้

Iphone 8 Can Preorder Now

Apple ก็เปิดหน้าเว็บ Apple Watch Series 3 ภาษาไทยเฉพาะรุ่น GPS  และกำหนดวันจำหน่ายวันที่ 29 ก.ย. 2017 แต่ไม่มีข้อมูลภาษาไทยในรุ่น GPS + Cellular ต้องติดตามกันต่อว่าเราจะได้ใช้งานรุ่น Apple Watch Series 3 GPS + Cellular หรือไม่

ที่มา – DIGITAL TRENDS

from:https://www.iphonemod.net/5-features-in-apple-watch-series-3-gps-cellular.html

สรุปงานเปิดตัว iPhone 8 และ iPhone X ที่โรงละครแห่งใหม่ กับการพยายามวิ่งตามโลกให้ทันของ Apple

เพ่ิ่งจะจบ Live งานเปิดตัว Apple Special Event ประจำเดือนกันยายนที่มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของ Apple ไป จากตอนแรกที่กะจะเขียนสรุปสเปค iPhone 8 และ iPhone X แค่ 2 รุ่น แต่พอได้ดูงานตั้งแต่ต้นจนจบก็คิดว่ามันมีประเด็นที่น่าสนใจมากกว่านั้น เพราะตลอดทั้งงานนั้นมีการพูดถึงนวัตกรรมและการที่ Apple พยายามทำให้การใช้เทคโนโลยีต่างๆ ดีและง่ายขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เห็นว่ามีอะไรหลายๆ อย่างที่ Apple รีบจ้ำอ้าวและก้าวตามโลกเทคโนโลยีในปัจจุบันให้ทัน บางชิ้นก็ออกมาดูดี แต่บางอันก็เหมือนกับต้องมีให้เหมือนชาวบ้าน เลยเป็นที่มาของบทความชิ้นนี้

งานเปิดตัวครั้งนี้จัดขึ้นที่ Steve Jobs Theatre ที่เปิดใช้งานเป็นครั้งแรกภายในสำนักงานใหม่ Apple Campus ที่อยู่ในระหว่างก่อสร้าง โดย Tim Cook ได้ออกมาทักทาย มีการรำลึกถึง Steve Jobs เล็กน้อย ก่อนที่จะเปิดงานด้วยเรื่องของ Retail Shop

Apple Retail ร้านค้าที่เป็นได้มากกว่า


Retail Shop หรือ Apple Store นั้นตอนนี้เป็นมากกว่าร้านขายสินค้า Apple ไปแล้ว เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้คำปรึกษาตลอด สามารถเดินเข้ามาถาม แบกเครื่องมาให้สอน คือมีระบบและการดูแลที่น่าประทับใจ เชื่อว่าพอ Apple Store มาเปิดในไทยแล้วทุกคนก็น่าจะได้สัมผัสประสบการณ์แบบนี้เหมือนกัน

 

Apple Watch 3 มุ่งเน้นด้านสุขภาพ

การมาของ Apple Watch นั้นถือว่าได้รับการดอบรับดีพอสมควรและถือเป็นหนึ่งในสมาร์ทวอชที่ขายดีที่สุดในโลก และ Apple Watch Series 3 หรือ Apple Watch 3 เองก็ได้มีการปรับสเปคใช้ชิป dual core เพื่อให้มันทำงานได้เร็วขึ้น เพราะตอนนี้ Apple Watch 3 นั้นมาพร้อมกับการเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือผ่านระบบ eSIM ที่ฝังเอาไว้ภายใน โดยเราสามารถใช้งาน Apple Watch 3 เป็นโทรศัพท์ ส่งข้อความ คุยกับ Siri หรือฟังเพลงจาก Apple Music ได้ โดยไม่ต้องพกมือถือไปด้วย โดย eSIM นั้นจะทำงานเหมือนระบบมัลติซิม แชร์เบอร์และแพ็คเกจของเราพูดง่ายๆ ว่าใช้เบอร์เดียวกันนั่นเอง

ส่วนแอปและการใช้งานนั้น Apple Watch 3 มีการเพิ่มความสามารถใรการตรวจจับอัตราการเต้นหัวใจให้หลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบค่า resting heart rate หลังออกกำลังกาย ซึ่งอันนี้มีในกลุ่มนาฬิกาที่เป็น sport watch มานานแล้ว

เรียกว่าทาง Apple เองก็พยายามจะเข้ามากินส่วนแบ่งตลาดตรงนี้ให้มากขึ้น รวมถึงการไปร่วมมือกับ มหาวิทยาลัย Standford ในการพัฒนาการตรวจหาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งเป็นการต่อยอดในเรื่องของการดูแลสุขภาพนั่นเอง

หากจะเอา Apple Watch 3 มาเทียบ กับ Smart Watch ในตลาดตอนนี้ ถ้าพูดถึงความสามารถแน่นอนว่ามันมีเพิ่มขึ้นหลายอย่าง มีความน่าสนใจมากขึ้น แต่ก็ยังมีประเด็นของแบตเตอรี่และอายุการใช้งานที่ 18 ชั่วโมง ซึ่งถ้ามองเป็นกลุ่มนาฬิกาสำหรับออกกำลังก็ถือว่ายังไม่ผ่านในเรื่องของอายุการใช้งาน แต่ถ้ามองเป็นสมาร์ทวอชและความครบเครื่องก็พอให้อภัย (แต่พอต้องชาร์จทุกคืนแบบนี้ตอนนอนก็วัดค่าอะไรไม่ได้หรือเปล่า?)

 

Apple TV 4K HDR อัพเกรดให้ทันเพื่อน

ห่างหายจากการออกรุ่นใหม่ไปนาน มาวันนี้ Apple TV ได้อัพเกรดกับเค้าสักที ซึ่งเป็นการอัพเกรดใหญ่ เพราะ Apple จัดให้ทั้งการแสดงผลแบบ 4K พ่วงกับ HDR มาพร้อมกัน ก้าวตามมาตรฐาน Box ต่อพ่วงในปัจจุบันทันแล้ว ถึงแม้เรื่องภาพ 4K นั้นจะช้าไปเป็นปี แต่เรื่อง HDR10 ยังถือว่าเกาะกระแสพอได้ เพราะเพิ่งจะมีอัปกรณ์ต่างๆ เปิดตัวกันไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี่เอง

โดยรายการหรือหนังต่างๆ ที่เป็น 4K HDR จะทยอยเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ และมีการไปพาร์ทเนอร์กับ Amazon Prime ที่มีหนัง HDR อยู่ในมืออีกเพียบ

แล้วก็มีการพูดถึง

 

iPhone 8 มือถือที่ทำสถิติตกรุ่นเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์

ถือเป็นงานเศร้าที่สุดของการเปิดตัว iPhone ที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจาก iPhone 8 จะไม่มีความโดดเด่นให้น่าจดจำแล้ว มันยังถูก iPhone X ฆ่าตายในไม่กี่นาทีหลังจากเปิดตัวอีกต่างหาก

รูปลักษณ์ภายนอกหรือดีไซน์นั้นมองผ่านๆ อาจจะไม่เห็นความต่างจาก iPhone 7 แต่จริงๆ แล้วมีการเปลี่ยนจากโลหะแบบ Unibody มาใข้เป็นโลหะ + กระจก แทน ซึ่งสาเหตุหลักๆ เลยคือการนำเอา Wireless charging ระบบชาร์จแบบไร้สายเข้ามา

ถือเป็นเรื่องน่าแปลกใจมากที่ Apple เลือกเอาเทคโนโลยี Wireless Charging ใส่มาในตอนนี้ แถมยังเลือกใช้ Qi มาตรฐานสากล อีกต่างหาก เรียกว่าผิดวิสัยของ Apple ซึ่งถ้าคุณเคยใช้ระบบ Wireless Charge มาก่อนคุณจะรู้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมามันมีปัญหาคือมันชาร์จได้ช้ามากๆ ช้าจน Samaung ต้องพัฒนาระบบ Quick Wireless Charge ขึ้นมา นอกจากนั้นยังโดนระบบชาร์จเร็วผ่านสาย Quick Charge ที่พัฒนาขึ้นจนชาร์จได้เร็วมากๆ เข้ามากลบกระแสไปแล้ว การที่ iPhone 8 มาได้ฟีเจอร์ Wireless Charge ตอนนี้เลยเหมือนแค่ใส่มาเป็นฟีเจอร์ใหม่แก้เก้อ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า Apple เห็นว่าในสหรัฐมีการติดตั้งระบบ Wireless Charge ไว้ในหลายๆ สถานที่ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านกาแฟ รวมถึงในรถยนตร์รุ่นใหม่ๆ เลยพิจารณาเอามาใส่ในรุ่นนี้ก็เป็นได้

หน้าจอ iPhone 8 นั้นมีการใช้ True Tone Display ที่ปรับแสงและสีของหน้าจอตามสภาพแสงที่เราใช้งานที่เคยเปิดตัวไปกับ iPad ส่วนเรื่องชิป A11 Bionic นั้นก็ตรงตามที่หลุดคือเป็นชิปแบบ 6 Core รุ่นแรกของ Apple แรงกว่ารุ่นเก่า A10 Fusion

ส่วนกล้องของ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus นั้นไม่ได้ลงรายละเอียดเท่าไหร่นัก แต่มีการระบุว่าเป็นเซนเซอร์ตัวใหม่ที่ถ่ายภาพได้ดีขึ้น เก็บสีแสงได้มากขึ้น โดยมีค่า f หรือรูรับแสงของเลนส์เท่าเดิม

โหมดการถ่ายภาพแบบใหม่ Portrait Lightning (ยังเป็น Beta) สามารถเติมแสงให้กับใบหน้าของเราได้ อันนี้ทางฝั่ง Android ก็มีความพยายามทำแล้ว ทั้ง Samsung LG OPPO ก็มีให้เลือกเพิ่มแสงได้ แต่ดูแล้วของ iPhone อันนี้ทำมาจบและครบกว่า มีแสงหลายแบบให้เลือกด้วย

อีกหนึ่งไฮไลท์คือการถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60fps และถ่ายวิดีโอสโลโมชั่นที่ 240fps ได้ที่ความละเอียด HD 1080p อันนี้ใครที่ชอบบันทึกวิดีโอหรือใช้มือถือถ่ายน่าจะโดนใจสุดๆ โดยครั้งนี้ถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการถ่ายวิดีโอบนสมาร์ทโฟนเลยก็ว่าได้เพราะยังไม่มีค่ายไหนทำได้มาก่อน

 

iPhone X งานรีบต้องมา

มาถึงตัวขโมยซีนของงาน iPhone X (อ่านว่าเท็นหรือสิบ) แน่นอนว่าเป็นรุ่นพิเศษที่ Apple บอกว่ามันคืออนาคตและตัวกำหนดทิศทางของสมาร์ทโฟนยุคใหม่ ซึ่งถ้าจะว่าตาม Apple ก็แปลว่าตอนนี้หลายๆ ค่ายก็มีมือถือยุคใหม่กันแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Xiaomi Mi MIX ที่ขอบบางมาแล้ว 2 รุ่น หรือ Galaxy S8 และ Note 8 ไหนจะยัง LG G6 และ V30 อ้อ และต้องไม่ลืม Essential Phone กับ Sharp Aquos S2 ที่ผลิตจากโรงงานเดียวกับ iPhone X ด้วย หุหุหุหุ

เอ แต่จะบอกว่า iPhone X ขอบบางก็ไม่เชิง เพราะมันก็ยังดูหนากว่าหลายๆ รุ่น แต่จะบอกว่าเป็นมือถือที่มีหน้าจอเต็มพื้นที่น่าจะเหมาะกว่า โดยมีขนาดหน้าจอ 5.8 นิ้ว ความละเอียด 2436 x 1125 พิกเซล ส่วนเรื่องฟีเจอร์และความสามารถใหม่ๆ ทุกสิ่งอย่างที่ iPhone 8 ทำได้ iPhone X ก็ทำได้เช่นกัน แถมยังทำได้มากกว่าด้วย

หน้าจอแม้จะเว้าแหว่งไปหน่อย แต่ก็ยังมาพร้อมการแสดงผลแบบ Dolby Vision และ HDR10 อ้อ ลืมบอกว่าอันนี้เป็นจอ Super Retina ที่ใช้จอ OLED เป็นครั้งแรกของ iPhone

แถบที่เป็นปิ้นๆ ดำๆ นี่แหละคือจุดรวมความพิเศษของ iPhone X เพราะมันมีอุปกรณ์ต่างๆ เยอะมาก หลักๆ คือการนำเอามาใช้กับระบบ Face ID ในการยืนยันตัวตนและปลดล็อคเครืื่อง ไม่ว่าจะเป็น Infrared Camera, Flood Illuminator, Dot Projector พวกนี้ถูกนำมาใช้สแกนใบหน้าแบบ 3D

ระบบ Face ID ที่ใช้ปลดล็อดเครื่องนั้นจะยิงกลุ่มเซนเซอร์เข้ามาที่ใบหน้าเพื่อทำการตรวจจับและระบุตัวตนในรูปแบบสามมิติ อันนี้ดูมีความปลอดภัยมากกว่าระบบ Face Unlock ของ Android ที่เป็นแบบ 2D เท่านั้นเลยโดนหลอกด้วยภาพได้

ยังไม่หมดแค่นี้เพราะด้านหน้ามีเซนเซอร์ที่สามารถวัดความลึก True Depth ได้ ทำให้กล้องหน้าของ iPhone X ถ่ายภาพ Portrait Mode ได้เหมือนกล้องหลัง (เผลอๆ จะดีกว่าและละลายหลังได้เนียนกว่าด้วย)

กล้องหลังของ iPhone X ตอนนี้มีกันสั่นมาให้ทั้งคู่แล้ว โดยเซนเซอร์กล้องที่นำมาใช้ก็ใหญ่กว่าและดีกว่าของ iPhone 8 อีก

ไฮไลท์ของ iPhone X หรือจะบอกว่าเป็น Killing Feature ก็ว่าได้ คือกาารที่เราสามารถเปลี่ยนหน้าเราให้เป็นอุนจิ หรือสัตว์ต่างๆ ได้กับ Animoji ที่ใช้ระบบ Face ID นี่แหละมาสแกนใบหน้าและมันจะขยับตามหน้าของเราเลย

ส่วนราคาของ iPhone X นั้นพุ่งขึ้นไปถึง 999 เหรียญสหรัฐ ถ้าคำนวนคร่าวๆ เร็วๆ บวกภาษีไปก็น่าจะราวๆ 37,000 บาท

และตอนนี้ Apple ก็ได้ปรับราคา iPhone ใหม่ยกชุดตามนี้ครับ

  • iPhone SE เริ่มต้นที่ 349USD
  • iPhone 6s เริ่มต้นที่ 449 USD
  • iPhone 7 เริ่มต้นที่ 549USD
  • iPhone 8 เริ่มต้นที่ 699 USD
  • iPhone X เริ่มต้นที่ 999 USD

และนั่นคือทั้งหมดของงานเปิดตัวผลิตภัณพ์ใหม่ของ Apple ที่พยายามจะก้าวตามเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาแล้วให้ทัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ 4K, HDR, Wireless Charging, มือถือหน้าจอเต็มพื้นที่ ส่วนที่เป็นนวัตกรรมและน่าสนใจจริงๆ ในงานนี้ผมยกให้ Animojmi แต่มันดันมีอยู่แค่บน iPhone X ที่แพงแสนแพงนี่สิ

from:https://droidsans.com/iphone-8-iphone-x-launch-event/

เฟิร์มแวร์ iOS11 GM หลุด เผยให้เห็นอนาคต iPhone 8 และ Apple Watch ตัวใหม่ชัดเจน

Golden Master Firmware หรือเฟิร์มแวร์ตัวที่จะปล่อยให้กับผู้ใช้งานทั่วไปอย่างเป็นทางการเป็นตัวแรกของ iOS ใหม่ๆ แต่ละตัว (แต่ชื่อนี้ตั้งสำหรับเวอร์ชั่นนักพัฒนา) ซึ่งในรอบนี้เป็น iOS11 GM หลุดออกมาเมื่อวานนี้ โดยเป็นการส่งแบบวงปิดให้กับเว็บไซต์ต่างๆ ที่เป็นเว็บไซต์ข่าว Apple ชื่อดังของโลก หนึ่งในนั้นคือ MacRumors นั่นเอง

ในแอพพลิเคชั่น Apple Watch ของ iOS11 GM นั้นเผนให้เห็นรูปภาพที่อาจจะเป็น Apple Watch เจนที่สามของรุ่นซึ่งมาพร้อมกับการเชื่อมต่อผ่านสัญญาณโทรศัพท์มือถือดังที่เคยเป็นข่าวกันไปก่อนหน้านี้ โดยตัวเครื่องยังคงใช้ดีไซน์หลักๆ เดียวกับรุ่นก่อนๆ ที่ออกมา ตัวเรือนมีสีเทาดำ หรือ Space Gray ที่ Apple ใช้เรียก และสายนาฬิกาเองนั้นก็ดูเหมือนจะเป็นสีเดียวกัน แต่ที่ต่างไปคือจุดสีแดงที่อยู่ตรงเม็ดมะยม Digital Crown ที่ดูโดนเด่นแปลกตาไปเลย นอกจากนั้นยังมีสัญลักษณ์ที่มุมซ้ายมือบนของหน้าจอที่หน้าสนใจ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์เวลาที่เราใช้เปิดแอพโทรศัพท์บนเครื่อง iPhone ซึ่งนี่น่าจะยืนยันได้ว่าข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่า Apple Watch  ตัวใหม่จะมาพร้อมการเชื่อมต่อสัญญาณโทรศัพท์มือถือด้วยตัวเองนั้นน่าจะเป็นความจริง

applewatch3ios11gm

นอกจากนี้ในตัวเฟิร์มแวร์เองยังมีรหัสโค๊ดเรียก Face ID ด้วย ซึ่งน่าจะหมายถึงระบบการจดจำใบหน้าที่จะมาเพิ่มเข้ามาใน iPhone 8 ตามที่ลือกันอย่างหนาหู ทั้งนี้ยังมีรูปม็อคอัพของ iPhone ดีไซน์ใหม่ที่แน่นอนว่าจะเป็น iPhone 8 อยู่ภายใน โดยมาพร้อมกับขอบจอที่บางลงกว่าเดิมมาก พร้อมพื้นที่เล็กๆ ด้านบนที่เหลือไว้จัดวางตำแหน่งกล้องหน้าและเซ็นเซอร์ที่จำเป็น นอกจากนี้หน้าจอเครื่องยังน่าจะรองรับ True Tone เหมือนอย่างใน iPad Pro ด้วนตามที่ลือกันไปก่อนหน้านี้

iphone8ios11gm-800x504

ใน iOS11 GM ยังมีภาพสกรีนช็อตจาก iPhone 8 ปรากฎอยู่อีก 2 ภาพด้วยกัน ซึ่งเหมือนจะเผยวิธีการเข้าถึงสิ่งต่างๆ ใน iPhone 8 ตัวใหม่นี้ที่ว่ากันว่าจะไม่มีปุ่มโฮมแล้วและเปลี่ยนมาใช้เจสเตอร์หรือการลากนิ้วบนหน้าจอแทน โดยเมื่อเราลากนิ้วขึ้นเหนือแถบบาร์จะเป็นการเข้าหน้าโฮมเหมือนตอนเราปลดล็อกเครื่องด้วยปุ่มโฮมตามปกติ แต่หากเราลากขึ้นไปสูงกว่านั้นอีกจะเป็นการเรียกหน้าต่าง App Switcher ขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ว่าปุ่ม เปิด/ปิด เครื่องเดิมนั้นจะสามารถทำหน้าที่ในการเรียก Siri และเรียกใช้งาน Apple Pay และ Passes ได้

iphone8screenshots-800x861

นอกจากนี้ Apple ยังเพิ่มฟีเจอร์ “Portrait Lighting” มาให้ใน iOS11 ด้วย โดยจะเป็นโหมดที่เหมือนจะทำงานร่วมกับแฟลชกล้องของเครื่องเพื่อทำให้ได้แสงในแบบต่างๆ ที่แตกต่างกันไป อย่าง Contour Light (แสงที่สร้างเทคนิคภาพโดยการเพิ่มเงา), Natural Light (แสดงธรรมชาติ), Stage Light (แสงเวที), Stage Light Mono (แสงเวทีแบบโมโน) และ Studio Light (แสงสตูดิโอ) ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการถ่ายภาพบุคคลให้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ iOS11 ยังมาพร้อมการออปชั่นการอัดวิดีโอใหม่ๆ โดยมีรายละเอียดดังนี้
– 1080p HD ที่ 240 fps 480 MB with 1080p HD at 240 fps
– 4K at 24 fps (Footer) 270 MB with 4K at 24 fps (แบบฟิล์ม) (HEVC Footer) 135 MB with 4K at 24 fps (แบบฟิล์ม)
– 4K at 60 fps (Footer) 450 MB with 4K at 60 fps (ความละเอียดสูงขึ้น และลื่นขึ้น) (HEVC Footer) 400 MB with 4K at 60 fps (ความละเอียดสูงขึ้น และลื่นขึ้น)

บน iOS11 GM ยังมีการใบ้กลายๆ ถึง Emoji แบบใหม่สำหรับ iMessage ที่สามารถเคลื่อนไหวได้ และมีรีเฟอร์ถึง AirPods 1,2 ซึ่งน่าจะเป็นเวอร์ชั่นปรับปรุงของหูฟังไร้สายที่ Apple เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว (และยังส่งของไม่ทันจนถึงปัจจุบันนี้) นั่นเอง

นอกจากนั้นยังมีภาพพื้นหลังสีสันสวยงามมากมายที่ชี้ให้เห็นถึงการมาถึงของหน้าจอ OLED เพราะภาพเหล่านี้เอื้อต่อการแสดงผลอย่างเต็มประสิทธิภาพบนหน้าจอ OLED มากๆ มีทั้งภาพนิ่งของโลกและดวงจันทร์ ภาพดอกไม้นาๆ ชนิด ภาพสีรุ้งสวยๆ และภาพโล้นๆ เพลนๆ แบบไม่ได้มีอะไรเกะกะหน้าจอ

ios11newwallpapers-800x706

เชื่อได้ว่าเนื่องจาก iOS11 GM ที่หลุดออกมานี้ อีกไม่นานเราน่าจะได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone 8 และ Apple Watch ตัวใหม่มากขึ้นจากหลายๆ เว็บไซต์ที่ได้รับเฟิร์มแวร์ไปแงะกันออกมาก่อน อย่างไรก็ตาม Apple กำลังจะเปิดตัวอุปกรณ์ตัวใหม่จากค่ายในวันอังคารที่จะถึงนี้แล้วโดยตั้งเวลาไว้เป็นวันที่ 12 กันยายน 2560 เวลา 10:00 น. ตามเวลาแปซิฟิก ซึ่งจะประมาณช่วงเที่ยงคืนของคืนวันที่ 12 (ชั่วโมงแรกของวันที่ 13) ในบ้านเรานั่นเอง

from:https://www.appdisqus.com/2017/09/09/leaked-ios11-gm-reveals-iphone8-applewatch-lte.html

Apple TV 5 และ Apple Watch 3 ใหม่จะถูกเปิดตัวในเดือนกันยายน 2560

Apple Tv 5 Apple Watch 3 Coming

วันนี้ 25 สิงหาคม 2560 มีรายงานจาก iClarified อ้างอิงจาก Bloomberg เผยว่าในเดือนกันยายน 2560 ที่กำลังจะถึงนี้ Apple จะเปิดตัว Apple TV และ Apple Watch รุ่นใหม่พร้อมๆ กับการเปิดตัว iPhone จำนวน 3 รุ่นในครั้งนี้

Apple TV 5 และ Apple Watch 3 ใหม่จะถูกเปิดตัวในเดือนกันยายน 2560

Apple Tv 2017 4k Predict
Image YouTube

Apple TV สรุปประเด็นคือ รุ่นใหม่จะได้รับการปรับปรุงเปิดตัวไปในงานพร้อมกับ iPhone และ Apple Watch รุ่นใหม่ในงานในเดือนกันยายนนี้ โดยจะมีโปรเซสเซอร์ที่เร็วกว่าซึ่งสามารถสตรีมเนื้อหา 4K ที่มีความละเอียดสูงกว่าได้กล่าวว่าคนที่ถามว่าจะไม่ถูกระบุว่าเป็นเพราะแผนงาน ” ยังสาธารณะ การกำหนดให้เป็นแบบ 4K เป็นมาตรฐานคุณภาพที่นำเสนอเนื้อหาที่มีความละเอียดสูงเป็นสองเท่าของวิดีโอความละเอียดสูง 1080P ซึ่งหมายถึงความคมชัดที่ดีกว่าสำหรับผู้ดู

อีกทั้ง Apple ยังอัปเดตแอป TV ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี พ. ศ. 2560 ซึ่งการปรับปรุงแอปในครั้งนี้จะสามารถรวมเอาโปรแกรมจากแอปที่มีสตรีมมิงแบบสดอยู่แล้วเข้ามาอยู่ในแอป TV ได้ด้วย 

หลักฐานจากเฟิร์มแวร์ของ HomePod นั้นชี้ให้เห็นว่า Apple TV จะรองรับ 4K พร้อมการแสดงผลแบบ HDR ทำให้ภาพที่แสดงออกมานั้นมีความคมชัดและสมจริงมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของเนื้อหา 4K นั้นทาง Apple ได้พูดกับคุยกับเจ้าของผู้ผลิตภาพยนต์เพื่อนำเนื้อหาเหล่านั้นมาเข้าสู้ iTunes Store อย่างที่เริ่มเห็นไปก่อนหน้านี้ที่มีภาพยนต์บางเรื่องได้ปรับความละเอียดเป็น 4K ไปแล้ว และทั้งนี้ทาง Apple ก็ยังได้คุยกับฝั่งบริษัทชั้นนำที่ปล่อยเนื้อหาอย่าง Netflix และ Vevo ด้วย

Applewatch Series3

Apple Watch ใหม่นั้นกล่าวสั้นๆ แค่ว่าจะมีรุ่นที่รองรับ LTE เพิ่มเติมเข้ามา หน้าตาของอุปกรณ์จะเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือระบบภายในที่เร็วและดีขึ้น

ทั้งหมดนี้เราจะได้ติดตามกันในเดือนกันยายน 2560 ที่กำลังจะถึงนี้นะครับ โปรดติดตามข่าวกันให้ดี

คร่าวๆ ปี 2560 (2017) นี้ ทาง Apple นั่นปล่อยของเยอะมากทั้งที่เปิดตัวไปแล้วและกำลังจะเปิดตัว

  • iPad Pro 10.5″ ใหม่
  • iPad Pro 12.9″ รุ่นปรับปรุงใหม่
  • iMac Pro เปิดตัวแล้วรอขายธันวาคม 2560 นี้
  • HomePod เปิดตัวแล้วรอขายธันวาคม 2560 นี้
  • iPhone 7s, 7s Plus คาดว่าจะเปิดตัวเดือนกันยายน 2560 นี้
  • iPhone 8 ชื่อเรียกอาจจะเป็นอย่างอื่น เช่น iPhone X, iPhone Edition หรือ iPhone Pro คาดว่าจะเปิดตัวเดือนกันยายน 2560 นี้
  • Apple TV รุ่นที่ 5 คาดว่าจะเปิดตัวเดือนกันยายน 2560 นี้
  • Apple Watch Series 3 คาดว่าจะเปิดตัวเดือนกันยายน 2560 นี้

 

 

from:https://www.iphonemod.net/new-apple-tv-and-watch-will-announce-on-sep-17.html

Apple Watch Series 3 อยู่ในการทดสอบระยะสุดท้ายแล้ว

Applewatch Series3

สำหรับ Apple Watch Series 3 รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปีนี้ ล่าสุดมีรายงานว่าอยู่ในกระบวนการทดสอบช่วงระยะสุดท้ายแล้ว

Apple Watch Series 3

Apple Watch Series 3 รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวพร้อมกับ iPhone 7s และ iPhone 8 ปีนี้ คาดว่าจะมีอยู่ 2 รุ่นหลัก คือ รุ่น Wi-Fi และ LTE (Cellular) โดย DigiTimes รายงานว่าทั้ง 2 รุ่นอยู่ในการทดสอบระยะสุดท้ายแล้ว

รูปแบบของ Apple Watch Series 3 รุ่นใหม่ไม่ได้แตกต่างจากรุ่นเดิมมาก เพียงแต่ในรุ่นนี้มีการเพิ่มรุ่น LTE เข้ามาเพื่อให้สามารถใช้ Cellular ได้ในตัวเรือนโดยไม่ต้องผ่าน iPhone

ฟีเจอร์ Cellular Voice Calling ยังไม่พร้อมในปีนี้

สำหรับฟีเจอร์โทรผ่านตัวเรือน (Cellular Voice Calling) ของ Apple Watch Series 3 รุ่น LTE คาดว่าจะไม่พร้อมใช้งานทันทีหลังจากเปิดตัว

Applewatchcalling

โดย Apple อาจจะอัปเดตฟีเจอร์ Cellular Voice Calling ให้กับ Apple Watch Series 3 รุ่น LTE ได้ใช้ในปีหน้าเลยทีเดียว ซึ่งฟีเจอร์หลักของตัว LTE รุ่นใหม่นี้จะเน้นปรับปรุงความเร็วในการเชื่อมต่อ การเก็บข้อมูล-ส่งข้อมูลและการปรับปรุงประสิทธิภาพแบตเตอรี่มากกว่า

Apple Watch Edition

Apple จะเปิดตัว Apple Watch Series 3 รุ่น Wi-Fi และ LTE (Cellular) พร้อมกับ iPhone รุ่นใหม่ในเดือน ก.ย. นี้ และก่อนหน้านี้มีรายงานว่าทางผู้ผลิตได้ผลิตและวางแผนส่งมอบ Apple Watch Series 3 ให้ Apple ภายในสิ้นปีนี้ แต่ก็มีรายงานว่า รุ่น LTE อาจไม่พร้อมขายในปีนี้ จะเป็นอย่างไรติดตามกันต่อไป

ขอบคุณ – idownloadblog

from:https://www.iphonemod.net/apple-watch-series-3-testing-phase.html

Apple Watch Series 3 พร้อมเปิดตัวกันยายนนี้ รองรับ LTE แต่ไม่สามารถโทรได้ ยกเว้นใช้งาน VoIP

Apple-watch-band-flashfly

รายงานล่าสุดเกี่ยวกับ Apple Watch รุ่นใหม่ ยังยืนยันว่าในเจเนอเรชั่นที่ 3 จะสนับสนุนการเชื่อมต่อกับเครือข่าย LTE เพื่อทำให้ใช้งานได้แบบสแตนด์อโลน โดยไม่ต้องพึ่งพา iPhone อย่างไรก็ตาม Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จาก KGI Securities เชื่อว่า Apple Watch Series 3 ยังไม่สามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้ แต่รองรับการใช้งานดาต้าเท่านั้น

Ming-Chi Kuo ให้ความเห็นว่า การที่ Apple Watch Series 3 สนับสนุนเครือข่าย LTE จะทำให้ Apple สามารถเจรจากับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ง่ายขึ้น และได้รับความร่วมมือมากขึ้น แต่ Apple Watch รุ่นใหม่ จะรองรับเฉพาะเครือข่าย LTE เท่านั้น ไม่รองรับ 3G เพื่อลดความซับซ้อนของการออกแบบ รวมถึงตัดเสาอากาศและส่วนประกอบอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ 3G ทิ้งไป และอาจจะใช้ eSIM แทนซิมการ์ดปกติ

นักวิเคราะห์ของ KGI Securities เชื่อมั่นว่า Apple Watch Series 3 ยังไม่สามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้ แต่มีความเป็นไปได้ที่จะโทรผ่าน VoIP อย่างเช่น FaceTime หรือ Skype ซึ่ง Apple Watch ในปัจจุบันก็รองรับ Audio Calling บน FaceTime แล้ว

แหล่างข่าวยังรายงานว่า Apple Watch Series 3 เริ่มเข้าสู่กระบวนการทดสอบขั้นสุดท้ายแล้ว และคาดว่า Quanta Computer โรงงานผลิตที่มีฐานอยู่ในไต้หวัน จะพร้อมจัดส่งได้ในไตรมาสที่ 4 ส่วนกำหนดการเปิดตัวทางการ อาจได้รับการเปิดตัวพร้อมกับ iPhone รุ่นใหม่ ในเดือนกันยายนนี้ และอาจมีการแนะนำ Apple TV รุ่นใหม่ที่รองรับ 4K ด้วย

คาดว่า Apple Watch Series 3 จะมากับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจากการสนับสนุนเครือข่าย LTE จะทำให้เกิดการบริโภคพลังงานเพิ่มมากขึ้น แต่จะมีเวอร์ชั่น Wi-Fi Only ให้ลูกค้าเลือกเหมือนเดิม และเน้นฟีเจอร์ด้านดูแลสุขภาพให้มากขึ้น

ที่มา – MacRumors

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=191067

Apple Watch รุ่นใหม่ (Series 3) ยังมีลักษณะเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือมีรุ่น LTE

Applewatch 2

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Apple Watch รุ่นใหม่ (Series 3) จะเป็นรุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่หลายจุด แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่ายังคงลักษณะเดิมเหมือนรุ่นที่แล้ว เพียงแต่เพิ่มรุ่น LTE เข้ามาเท่านั้น

Apple Watch รุ่นใหม่ (Series 3) รุ่น LTE

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จาก KGI เจ้าเดิมได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับ Apple Watch รุ่นใหม่ในปีนี้ว่า จะยังมี 2 ขนาดเหมือนเดิม คือ 38 มม. และ 42 มม. แต่จะมีรุ่น LTE เพิ่มเข้ามา เหมือนกับ iPad

สำหรับโมเดลการขาย iPad ของ Apple นั้น คือ มีรุ่น Wi-Fi และรุ่น Cellular (LTE) ที่สามารถใส่ซิมใช้ 3G/4G ได้ และมีข่าวว่า Apple Watch ใหม่น่าจะมีรุ่น LTE เช่นกัน ซึ่งสามารถเชื่อมต่อ Cellular ได้เลยในตัวเรือน โดยไม่ต้องพึ่ง iPhone

Apple Watch Edition

นักวิเคราะห์มองว่า Apple มี Apple Watch รุ่น LTE สำหรับจำหน่ายในปีนี้ประมาณ 8-9 ล้านเรือน โดยคาดว่าปีนี้ Apple จะจำหน่าย Apple Watch รวมทั้งสิ้นประมาณ 17.5-18 ล้านเรือน

ข่าวลือ Apple Watch รุ่นใหม่ในปีนี้ส่วนใหญ่พูดถึงรุ่น LTE เป็นหลัก และคาดว่าจะเปิดตัวพร้อมกับ iPhone รุ่นใหม่ปีนี้ในเดือน ก.ย. ตามกำหนดการปกติ จะเป็นอย่างไรติดตามกันต่อไป

ขอบคุณ iClarified

from:https://www.iphonemod.net/apple-watch-series-3-lte-model-analyst.html

นักวิเคราะห์เชื่อ Apple Watch 3 จะมีให้เลือกทั้งแบบรองรับ LTE และไม่รองรับ ส่วนดีไซน์อาจไม่มีการเปลี่ยนแปลง

apple-watch

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จาก KGI Securities รายงานว่า Apple Watch 3 ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในเรื่องของการออกแบบ และยังคงนำเสนอด้วยขนาด 38 กับ 42 มิลลิเมตร

Apple Watch รุ่นใหม่ถูกอ้างว่าจะรองรับเครือข่าย LTE ซึ่ง Ming-Chi Kuo ก็เห็นด้วยตามนั้น แต่เชื่อว่าจะสนับสนุน 4G เท่านั้น ไม่รองรับ 3G และอาจวางจำหน่ายเฉพาะบางประเทศ ส่วนเวอร์ชั่นที่ไม่รองรับ LTE จะผลิตออกมาเหมือนเดิม และประสิทธิภาพจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

รายงานจาก Bloomberg ก่อนหน้านี้ ระบุว่า ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ทั้ง AT&T, Verizon, T-Mobile และ Sprint กำลังวางแผนออกแพ็คเกจดาต้ามารองรับ Apple Watch 3 เวอร์ชั่น LTE แต่ยังไม่มีการพูดถึงราคา

นักวิเคราะห์จาก KGI Securities ประเมินว่า Apple Watch จะมียอดจัดส่ง 17.5 – 18 ล้านเครื่องภายในปีนี้ และเวอร์ชั่น LTE จะมีสัดส่วน 35% – 40% จากยอดจัดส่ง

คาดว่า Apple Watch 3 อาจเปิดตัวพร้อมกับ iPhone รุ่นใหม่ในเดือนกันยายนนี้

ที่มา – 9to5mac

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=190707

ลือ!! Apple Watch Series 3 อาจได้รับการออกแบบใหม่

apple-watch-redesign

John Gruber จากเว็บไซต์ Daring Fireball เชื่อว่า Apple Watch Series 3 จะได้รับการออกแบบใหม่ หลังจากใช้ดีไซน์เดิมมาตั้งแต่รุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 2015 ขณะเดียวกับ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จาก KGI Securities ก็เคยออกมาทำนายเช่นกันว่า Apple Watch รุ่นที่ 3 จะมีดีไซน์ใหม่

Apple Watch Series 3 ถูกลือว่าจะออกมาทำตลาดในปลายปีนี้ รองรับเครือข่าย LTE แบตเตอรี่ได้รับการขยายความจุให้เพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม John Gruber ได้ออกมาแก้ไขข้อความใหม่ โดยบอกว่าไม่ค่อยมั่นใจจากแหล่งข่าวของเขาเท่าไรนัก และยากที่จะเชื่อว่า Apple Watch Series 3 จะถูกออกแบบใหม่

ที่มา – MacRumors

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=189871