เปิดให้อัพเดทกันไปประมาณอาทิตย์นึงแล้วจ้า สำหรับ Galaxy Note 9 ในบ้านเรา หลังจากได้ Android 9 Pie รอบนี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะมันมาพร้อมกับ ONE UI หน้าตาใหม่ ลูกเล่นใหม่ ใครมี Note9 ในมือลองหยิบมาอัพเดทกันได้ ซึ่งหลังจากที่อัพไปแล้วก็เกิดความเปลี่ยนแปลงไปเพียบ บางคนยังไม่ชิน อยากใช้อะไรแต่หาไม่เจอ วันนี้ droidsans จะมาบอก พร้อมเรียบเรียงให้ดูกันครบๆ
ต้องบอกก่อนว่าความเปลี่ยนแปลงเยอะมากกกกก เหมือนได้มือถือใหม่ หน้าตาใหม่ โดยใน blog นี้จะเน้นการใช้งานจริง และฟีเจอร์ที่เราใช้อยู่ทุกวันซะส่วนใหญ่ ซึ่งหลายๆคนก็น่าจะได้ใช้งานกันเหมือนกัน~
1.หน้าตาเปลี่ยนไป
แน่นอนว่า เรื่องที่เห็นได้ชัดหลังจากอัพเดทเลยก็คือดีไซน์ UI หน้าตาไอค่อนต่างๆ เปลี่ยนไปเยอะเลย ก็คือไม่คุ้นหน้าคาต่าโค้งกว่าเดิม และ ตัวไอค่อนก็ชัดกว่าเดิมแบบนี้
สำหรับตัวไอค่อน ถ้ากดค้างไว้ ก็มีฟีเจอร์ซ่อนอยู่(ซึ่งอาจจะมีบางอย่างพิเศษเพิ่มขึ้นมาไม่เหมือนกันแต่ละแอพ เช่นของ pinterest ในรูป) แต่ที่เหมือนกันคือ พวกลบข้อมูล ถอนการติดตั้ง อะไรแบบนี้ค้ะ ไม่ต้องเข้าไปกดใน setting แล้ว ในรูปนอกจากรูปร่างหน้าตาจะเปลี่ยนไปแล้ว ตัวไอค่อนที่เราตรึงไว้ด้านล่าง 4 – 5 อัน ก็จะไม่มีชื่ออยู่ที่ด้านใต้ด้วย เพิ่มพื้นที่จอไปอีกนิดนึง
เน้นความโค้งมัน ทั้งตัวไอค่อน และ ตัวขอบ แถบการแจ้งเตือนต่างๆ ขนาดก็ใหญ่เพิ่มขึ้นด้วย
หน้าตาตรงส่วนตัวระบบ ในหน้าตั้งค่าต่างๆ เองก็เปลี่ยนไปเหมือนกัน มีการแบ่งแยกสัดส่วน เว้นระยะห่างให้สบายสายตามากขึ้น ตรงหน้าตั้งค่าถ้าลองเข้าไปแล้วก็จะเห็นอยู่ว่ามีการเน้นหัวข้อ หน้าตาแบบนี้จะขึ้นก็ต่อเมื่อเราลากหน้าต่างลงมาค่ะ ตอนเปิดเข้าไปเลยจะไม่ได้เจอตั้งแต่แรกนะ
2.แถบการนำทาง
Navigator bar ที่นอกนอกจากจะเปลี่ยนหน้าตาไอค่อนแล้ว ยังสามารถเลือกได้ว่าจะให้เป็นแบบปุ่ม ทัชเหมือนเดิม (เป็น icon) หรือ ว่าอยากให้เป็นแบบเต็มจอ ดึงสไลด์ขึ้นจากด้านล่าง (เปลี่ยนจากรูป icon เป็นเส้นขีดๆ สามเส้น) ตรงนี้ถ้าเลือกอย่างหลังก็จะได้พื้นที่จอเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ อ้อ ไอค่อนตรงบาร์ยังสามารถสลับตำแหน่งกันได้ด้วยนะ
(สามารถค้นหาในตั้งค่าของตัวเครื่องว่า ” แถบการนำทาง ” เพื่อตั้งค่าได้เลยค่ะ หรือ กดเปลี่ยนจาก Quick Setting ตรง ” แถบการนำทาง “)
App switcher ที่ก่อนนี้เวลากด recent app จะป็นแบบแนวตั้งเลื่อนๆ จะปิดก้ปัดขวาทิ้ง ตอนนี้กลายมาเป็นแบบเลื่อนซ้ายขวา ไม่เอาก็ปัดขึ้นทิ้งแทน และอีกอย่างเวลาจะสลับแอพ ตอนนี้สามารถลากปุ่ม home เลื่อนไปทางขวาได้ได้ด้วย หรือจะกด recent 2 ครั้ง ตามเดิมก็ยังได้อยู่ค่ะ
3.แคปหน้าจอยาว / มัลติวินโดว์แบ่งหน้าจอ / ป็อปอัพ กดแบบเดิมไม่ได้แล้วนะ
ก่อนนี้แคปหน้าจอยาวเราก็แค่กด icon ลูกศรลง หลังจากแคปจอแล้ว แต่สำหรับ One UI จะมาพร้อม icon หน้าตาใหม่ยกแผง รวมถึงวิธีการกด ก็ต้องกดค้างไว้ที่ไอค่อนลูกศร ถึงจะแคปจอยาวได้ค่ะ ถ้าแตะ ก็ไม่ได้นะ เพราะเคยมาแล้ว แตะอยู่นานเลย ฮ่าๆ
แบ่งสองจอ/ป็อบอัพ ตอนแรกหาเราเองก็หาที่กดมัลติวินโดว์ไม่เจอ จนกดไปกดมา สรุปได้ว่า เราต้องกดปุ่ม recent ก่อน แล้วเราก็กด icon ของแอพที่จะแบ่งจอ เท่านั้นแหละ เดี๋ยวจะมีตัวเลือกให้เราเลือกว่าจะทำอะไรกับมันบ้าง
4.โหมดกลางคืน Dark mode
เป็นอีกสิ่งที่ตอนอัพเดทแล้วรู้สึกว่าต้องได้ใช้งานบ่อยแน่ๆเพราะนอนเล่นมือถือตอนกลางคืนประจำ แต่ก็แอบเสียดายที่พวกสีดำๆจะแค่เปลี่ยนตัวระบบของเครื่อง และ พวกแอพที่มากับตัวเครื่อง เช่น แอพของซัมซุง ให้เป็นสีดำเท่านั้นแหละ แอพอื่นๆก็ยังเหมือนเดิมอยู่ดี ซึ่งก็น่าจะต้องรอ Android Q ที่ตัวเครื่องจะเปลี่ยนเป็นโหมดกลางคืนให้แอพอื่นๆด้วย (ทั้งที่ก็เพิ่งจะอัพเป็น P มาเมื่อไม่กี่วันนี้)
5.UI กล้อง
หน้าตาใหม่ เรียกว่าปรับย้ายตำแหน่งไปเยอะเลย จากล่างไปบน บนลงล่าง อะไรที่ไม่ได้ใช้บ่อยอย่างเปิดแฟลช ตั้งเวลา หรือ setting ที่นานๆทีเข้า ก็ถูกย้ายไปด้านบน ตำแหน่งที่มือมักไม่ค่อยไปโดน (นี่ชอบเปิดโดนแฟลชประจำ) และตอนนี้ก็สามารถควบคุม เปิด – ปิดการใช้งาน AI ได้จากหน้าถ่ายรูปได้ด้วย (ตรงมุมขวารุปดอกไม้) รวมถึงมันจะแสดงว่ากำลังประมวลผลอยู่ ก่อนจะขึ้นให้ว่านี่คือซีนอะไร สะดวกกว่าแต่ก่อนนี้ที่ต้องเข้าไปเปิด – ปิด ที่หน้า setting
6.คีย์บอร์ดก็มีอะไรใหม่เหมือนกันนะ
สำหรับคีย์บอร์ดของซัมซุงเองก็ใส่อะไรมาใหม่พอกรุบๆกริบๆ อย่างฟีเจอร์คีบอร์ดลอย ลากไว้ตรงไหนของจอก็ได้ หลายคนอาจจะไม่ได้ใช้ มากนัก แต่เราชอบใช้เวลาใช้แอพแต่งรูป เวลาใส่ text เพราะบางแอพคีบอร์ดก็บังเหมือนกัน หรือ อย่างทวิตเตอร์เองก็ได้พื้นที่ให้อ่านประโยคที่เขียนไปก่อนหน้าเยอะขึ้น เต็มจอเลย
(เข้าไป ” ตั้งค่า ” ในตัวคีย์บอร์ดได้เลยค่ะ)
อีกหนึ่งสิ่งที่เปลี่ยนใหม่ อีโมติค่อน ใหม่ขึ้น ใหญ่ขึ้น ให้คนนิ้วใหญ่ๆกดได้ง่ายขึ้น รวมถึงตัวเราเอง ให้หาได้ง่ายขึ้นด้วย ฮ่าๆ อันเก่ามันก็หาเจอแหละ แต่ใหญ่ขึ้นก็สบายขึ้นน้าาา
ฟีเจอร์เปลี่ยนสีคีย์บอร์ดตามแอพ ตอนแรกก็คิดว่าเปลี่ยนสีเป็น แดง เขียว เหลือง แต่ไม่ใช่ เป็นการเปลี่ยนมืด – สว่าง ตามแอพที่เราใช้งานค่ะ อย่างทวิตเตอร์ อันนี้ก็เปลี่ยนเป็นสีดำให้นะ (แอบงงว่าไม่ได้เปิดเป็นโหมดกลางคืนในแอพไว้ด้วย ทำไมไม่เป็นสีขาวหว่า) แต่ของยูทูปเห็นได้ชัดเลย ระหว่างเปิด กับ ปิด โหมดดาร์ก ในแอพตัวมันเอง
(เข้าไป ” ตั้งค่า ” ในตัวคีย์บอร์ดได้เลยค่ะ)
7.Quick setting แบบเต็มจอ เหมาะกับการใช้งานมือเดียว
แถบการตั้งค่าด้านบนในเวอร์ชั่นนี้ ลากลงมาแล้วจะเห็นว่าแสดงผลแบบเต็มจอยาวลงมาเลย น่าจะเป็นการปรับให้เหมาะสมกับการใช้มือเดียวให้มากที่สุด ซึ่งไอค่อนก็จะใหญ่ขึ้นตามไปด้วย และ มีไอค่อนบางอันเพิ่มขึ้นมาให้เลือก รวมหลายๆฟีเจอร์ก็กด เปิด – ปิด ได้ตั้งแต่ตรงนี้ได้เลย ไม่ต้องเข้าไปในหาในตั้งค่าให้วุ่นวาย ~~
8.ใช้ S-Pen ด้ามอื่นเขียนจอได้
ไม่ว่าจะ Note 8 / Note 9 / galaxy Tab หรือ รุ่นไหนก็แล้วแต่ทีป็น S-Pen ก็มาจิ้มได้หมดจ้าาา ปกติเวลาปากกยังถูกเสียบอยู่ในมือถือ เราจะไม่สามารถนำปากกาแท่งอื่นมาเขียนได้ แต่ว่าอัพฯใหม่ก็มีฟีเจอร์นี้มาให้เลือก แต่ก็รองรับการเขียนแค่ 1 ด้ามเท่านั้นนะ ต่อให้เอามาสามด้าม แปดด้าม ก็วาดได้แค่ด้ามที่ทัชโดนจอก่อนเท่านั้น
(ค้นหาในตั้งค่าตัวเครื่องว่า S Pen ได้เลยค่ะ)
9.Samsung Pay เรียกใช้งานได้จากเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง
นอกจากเราจะสามารถตั้งค่าเรียกใช้งาน Quick setting จากการวางนิ้วตรงเซนเซอร์สแกนด้านหลังแล้วสไลด์ หรือ ลากลงมาได้แล้วเรายังสามารถตั้งค่าให้เรียก Samsung Pay โดยการลากนิ้วขึ้นได้อีกด้วยค่ะ อันนี้ดีนะ ใช้งานได้จริงทั้งสองอัน แล้วก็สะดวกดีด้วยค่ะ ซึ่งคาดว่าที่ย้ายเอา Samsung Pay มาไว้ที่สแกนนิ้ว ก็เพื่อกันไม่ให้มันทับซ้อนกับ Gesture Control บนหน้าจอที่ปัดๆ เลื่อนๆ นั่นเอง
(ค้นหาในการตั้งค่าตัวเครื่องว่า ” Samsung Pay ” เพื่อตั้งค่าท่าทางเซ็นเซอร์นิ้วมือ)
10 ฺBixby ไม่ลั่น เพราะตั้งค่าให้กด 2 ครั้งได้
อ้าวไหนบอกมี 9 ข้อ ฮ่าๆ คือจริงๆ มันมีความเปลี่ยนแปลงเยอะกว่า 9 อย่าง จากที่เราคิดไว้มันก็เลยไหลไปเรื่อยๆ และข้อนี้ก็ชอบมาก ถึงแม้หลังๆ จะไม่ค่อยลั่นแล้ว นั่นก็ก็คือการตั้งค่าให้เรียกใช้ Bixby โดยการต้องกด 2 ครั้ง หมายความว่าเราจะมีโอกาสกดไปโดนได้น้อยลง หลังจากที่ก่อนนี้ลั่นบ่อยมาก (จริงๆ ก็แอบรอให้ตั้งค่าปุ่มใช้งานเป็นอย่างอื่นได้อยู่นะคะ~~ ฮ่าาา)
11. หมุนหน้าจอแบบไม่ ไม่ต้องไปวุ่นวายกับการตั้งค่า
ยังอีก ยังไม่หยุด แถมให้อีกข้อละกัน นั่นก็คือเรื่องของการหมุนหน้าจอค่ะ จากเดิมเราต้องคอยไปตั้งค่าให้มันล็อคแนวตั้งหรือ auto rotate แต่ใน ONE UI มีฟีเจอร์ใหม่ ให้เราสั่งหมุนจอได้ในยามที่เราต้องการ โดยจะเป็นรูปมือถือที่มุมล่างสุดให้แตะง่ายๆ
และนี่ก็คือส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ แต่ในกระทู้นี้อาจจะพูดได้ไม่ครบหมด ถ้าเจอเราก็จะมาเพิ่มอีกเรื่อยๆ ส่วนตัวถ้าถามว่าดีขึ้นไหมก็ชอบอยู่นะ แต่ส่วนหนึ่ง(ส่วนใหญ่เลยแหละ) มันคงเป็นเรื่องของความรู้สึก และ ความเคยชินมากกว่า ตอนแรกๆ อาจจะยังไม่คุ้น นี่เราใช้มาหนึ่งสัปดาห์ ก็ชินมือ ชินตาไปแล้ว และยังไม่เจอบั๊คอะไร หากใครใช้แล้วเจออะไรนอกจากนี้ หรือ เกิดการใช้งานสะดุดตรงไหน มาแชร์ประสบการณ์การใช้งานกันได้เลยค่า หรือมีอะไรใหม่ๆ ก็มาบอกกันเพิ่มได้นะ
from:https://droidsans.com/galaxy-note-9-update-android-pie-one-ui/