คลังเก็บป้ายกำกับ: ANDROID_10

Android 10 เป็นเวอร์ชันที่มีคนใช้งานมากที่สุด แต่ Android 11 ไล่บี้มาติด ๆ แล้ว

เมื่อก่อน Google เคยเปิดเผยตัวเลขยอดผู้ใช้งาน Android ในแต่ละเวอร์ชันให้ดูกันง่าย ๆ ผ่านแดชบอร์ดบนหน้าเว็บไซต์ Android Developers โดยมีการอัปเดตเป็นประจำทุก ๆ เดือน แต่สุดท้ายได้ยกเลิกไปเมื่อ 3 ปีก่อน หากอยากดูสถิติในปัจจุบันต้องเข้าไปใน Android Studio แทน ซึ่งล่าสุดพบว่า Android 10 ยังเป็นเวอร์ชันที่มีคนใช้สูงที่สุดอยู่ที่ 26.5% แต่ Android 11 ไม่น้อยหน้าเท่าไหร่ จากที่ทำได้ 24.2% ไล่จี้มาแบบกระชั้นชิดแล้ว

Android 10 เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2562 มีอายุ 1 ขวบกับอีก 2 เดือน ในขณะที่ Android 11 เกิดเดือนเดียวกันในปีถัดมา อายุจึงน้อยกว่า 1 รอบพอดีเป๊ะ ซึ่งดูเหมือนระยะเวลา 14 เดือนยังทำได้แค่สูสี แต่มีแนวโน้มสูงที่จะแซงได้ในอีกไม่นาน เพราะมือถือออกใหม่ ๆ ช่วงหลังออกมาพร้อม Android 11 เป็นส่วนใหญ่ Android 10 หรือต่ำกว่าไม่ค่อยมีให้เห็นแล้ว นอกจากนี้ ทางผู้ผลิตหลาย ๆ รายเองก็เริ่มหันมาใส่ใจกับการอัปเดตซอฟต์แวร์กันมากขึ้นด้วย

สำหรับยอดผู้ใช้งานลำดับรองลงมา Android 9 มีจำนวน 18.2% ตามด้วย Android 8 ที่ 13.7% และ Android 7 ที่ 6.3% ไล่ไปจนถึงน้อยสุดคือ Android 4.3 ที่หลงเหลืออยู่เพียง 0.6% ในขณะที่ Android 12 ไม่ติดอันดับ เพราะพึ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ยังมีใช้กันแค่ Google กับ Samsung ที่ได้ใช้กันอยู่แค่ 2 แบรนด์

  • Android 11 R – 24.2%
  • Android 10 Q – 26.5%
  • Android 9 Pie – 18.2%
  • Android 8 Oreo – 13.7%
  • Android 7 Nougat – 6.3%
  • Android 6 Marshmallow – 5.1%
  • Android 5 Lollipop – 3.9%
  • Android 4.4 KitKat – 1.4%
  • Android 4.3 Jelly Bean – 0.6%

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้เป็นสถิติที่นับเฉพาะอุปกรณ์ Android ที่เข้าถึง Play Store ในรอบ 7 วันของเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน จากกรอบเวลาที่ค่อนข้างแคบประกอบกับการที่ฝั่งจีนไม่มี GMS ตัวเลขที่แท้จริงจึงอาจมีการคลาดเคลื่อนไปจากนี้ได้ครับ

 

ที่มา : 9to5Google

from:https://droidsans.com/android-distribution-number-2021/

Google ปล่อยอัปเดตฟีเจอร์ “รีเซ็ตสิทธิ์การเข้าถึงของแอปโดยอัตโนมัติ” ให้ Android 6 ขึ้นไป

ในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา Google ได้แสดงออกอย่างชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางการยกระดับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน เช่นฟีเจอร์ รีเซ็ตสิทธิ์การเข้าถึงของแอปโดยอัตโนมัติ (auto-reset permissions from unused apps) ที่ใส่เข้ามาเป็นครั้งแรกใน Android 11 ล่าสุดบริษัทฯ ประกาศปล่อยฟีเจอร์ดังกล่าวให้ Android 6 – 10 ได้ใช้งานด้วย

เมื่อมีการเข้าใช้งานแอปใด ๆ เป็นครั้งแรก ระบบจะขึ้นป็อปอัปแจ้งเตือนเกี่ยวกับการร้องขอสิทธิการเข้าถึงฟังก์ชันบางอย่างของอุปกรณ์ เช่น แอปแผนที่ จะขออนุญาตเข้าถึงการระบุตำแหน่ง หรือแอปเครื่องเล่นเพลง จะขออนุญาตเข้าถึงไฟล์ในเครื่อง เป็นต้น ซึ่งหน้าที่ของฟีเจอร์ รีเซ็ตสิทธิ์การเข้าถึงของแอปโดยอัตโนมัติ นั้นตรงตามชื่อ กล่าวคือ หากมีแอปใด ๆ ที่เคยให้สิทธิ์ไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ไม่ได้ถูกใช้งานเป็นระยะเวลานาน (ทาง Google ไม่ได้ระบุกรอบเวลาที่ชัดเจน บอกเพียงแค่ “หลายเดือน” ซึ่งน่าจะอยู่ที่ 3 เดือนขึ้นไป) แอปดังกล่าวจะถูกเพิกถอนสิทธิ์การเข้าถึงทั้งหมดโดยอัตโนมัติทันที เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานในระยะยาว

ทั้งนี้ Google จะทยอยปล่อยอัปเดตให้ Android 6 – 10 ผ่านทาง Play Services แบบแยกส่วนเฉพาะโมดูล (ไม่ต้องอัปเดตทั้งระบบปฏิบัติการ) เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 เป็นต้นไป และน่าจะครอบคลุมครบทั้งหมดภายในไตรมาส 1 ของปี 2565 ครับ

 

ที่มา : Google 

from:https://droidsans.com/google-auto-reset-permissions-update-android-6-10/

ผู้ใช้งานมือถือฝั่งหุ่นกระป๋องเกินกว่า 20% ต่างได้รับอัปเดตเป็น Android 11 แล้ว ไวที่สุดเมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นอื่นๆ

StatCounter ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตอนนี้ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนฝั่ง Android ในสหรัฐฯ เกินกว่า 20% ต่างได้รับอัปเดตมาใช้ระบบปฏิบัติการ Android 11 เวอร์ชั่นล่าสุดกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตัวเลขนี้ถือเป็นสถิติที่เร็วที่สุดเมื่อเทียบกับ Android เวอร์ชั่นก่อนๆ

แต่ถ้ามองในภาพรวมทั่วโลกล่ะก็ จะเห็นว่าระบบที่มือถือ Android ตอนนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดคือ Android 10 โดยระบบดังกล่าวกวาดส่วนแบ่งการตลาดไปมากถึง 41% หรือเรียกง่ายๆ ว่าเกือบครึ่งของทั้งหมดเลยทีเดียว

 

โดยสาเหตุที่ทำไมรอบนี้ ค่ายมือถือต่างๆ สามารถปล่อยอัปเดต Android 11 ได้เร็วกว่าเวอร์ชั่นอื่นๆ ก็มาจาก Project Treble ของตัว Google เอง รวมไปถึงการจับมือกับ Qualcomm ช่วยกันพัฒนาซอฟต์แวร์อีกด้วย

นอกจากนี้ ปัจจุบันเทรนด์อัปเดตสมาร์ทโฟนยาวๆ ก็เริ่มเป็นที่นิยมมากกว่าเดิมแล้วด้วย อย่าง Samsung เอง ก็ออกมายืนยันว่าจะอัปเดต OS และ Security Patchให้กับมือถือของตัวเองแบบยาวๆ เพลินๆ 3 – 4 ปีเลยทีเดียว

 

ที่มา: Android Authority

from:https://droidsans.com/android-10-still-most-popular/

ครั้งแรกของหัวเว่ยกับบริการ Click & Collect กดซื้อปั๊บ รับเลยที่ร้าน จัดโปรฯ จองออนไลน์ จ่ายถูกกว่า พร้อมของสมนาคุณและบริการสุดพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 23 – 28 กุมภาพันธ์นี้

หัวเว่ยจัดโปรโมชันสินค้าลดราคาพิเศษ พร้อมของสมนาคุณจำนวนจำกัด สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าบน HUAWEI Online Store และชำระเงินพร้อมรับสินค้าที่ HUAWEI Experience Store สาขาที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 23 – 28 กุมภาพันธ์ 2564

โดยสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟน หัวเว่ยได้นำขวัญใจเกมเมอร์อย่าง HUAWEI nova 7 SE 5G และ HUAWEI nova 7i มาให้จับจองในราคาพิเศษ เอาใจทั้งสายเกมที่ต้องการขุมพลังแน่น เน็ตเร็วแรง ด้วย HUAWEI nova 7 SE 5G ที่มาพร้อมชิปเซ็ต Kirin 820 5G แถมยังถ่ายวิดีโอได้ชัดระดับ 4K ตอบโจทย์ทั้งการเล่นเกมออนไลน์และการสตรีมมิ่ง ส่วนสายเกมที่เน้นความแม่นยำของการแสดงผลบนจอภาพ HUAWEI nova 7i สมาร์ทโฟนกล้องฉลาด ชาร์จไว ก็มาพร้อมเทคโนโลยีพิเศษ Kirin Gaming+ และการ์ดจอ Mali G52 GPU ช่วยให้ภาพลื่นปรี๊ดไม่มีสะดุด สำหรับ HUAWEI nova 7 SE 5G ลดราคาพิเศษเหลือเพียง8,990 บาท ทั้งสี Space Silver, Crush Green และ Midsummer Purple ส่วน HUAWEI nova 7i มี 2 สีให้เลือก คือ Sakura Pink และ Skyline Grey ในราคาลดพิเศษกว่าเดิม 7,290 บาท

นอกจากนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์แท็บเล็ตก็มีโปรโมชันดีๆ ไม่แพ้กัน เป็นโอกาสดีสุดๆ สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการทบทวนบทเรียน วาด อ่าน เขียนได้ทุกที่ โดย HUAWEI MatePad ขนาด 10.4 นิ้ว สามารถจองออนไลน์ได้ในราคาเพียง 7,990 บาท ส่วนคนรุ่นใหม่รักสุขภาพที่ต้องการอัปเกรดการออกกำลังกายให้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม ก็สามารถเป็นเจ้าของ HUAWEI Watch GT 2e ได้ในราคาพิเศษ 4,290 บาท รวมถึง HUAWEI FreeLace Pro หูฟังสำหรับสายแอคทีฟที่มาพร้อมความสามารถในการตัดเสียงรบกวนรอบข้าง ซึ่งลดเหลือเพียง 2,599 บาท เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่สามารถเพิ่มความสมาร์ทให้การใช้ชีวิตได้แบบคุ้มที่สุด

พิเศษ! สำหรับผู้จองสมาร์ทโฟน HUAWEI nova 7 SE 5G และ HUAWEI nova 7i ราคาพิเศษในโปรโมชัน Click & Collect ผ่าน HUAWEI Online Store แล้วเลือกชำระเงินและรับสินค้าที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store สาขาที่ร่วมรายการ หัวเว่ยพร้อมมอบบริการพิเศษในวันดังกล่าว ตั้งแต่บริการ Unboxing VIP Service แกะกล่องพร้อมตั้งค่าสมาร์ทโฟนเริ่มแรกแบบเอ็กซ์คลูซีฟ รวมไปถึงบริการติดฟิล์มกันรอยโดยไม่มีค่าใช้จ่าย บริการหน้าร้านนี้พร้อมช่วยเหลือลูกค้าที่ยังไม่คุ้นเคยกับการใช้ Huawei Mobile Services ให้สามารถสนุกกับสมาร์ทดีไวซ์ของหัวเว่ยมากขึ้น โดยยินดีให้คำปรึกษาไม่ว่าจะเกี่ยวกับการตั้งค่า HUAWEI ID การดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันด้วย HUAWEI AppGallery รวมถึงบริการอื่นๆ อีกมากมายจากหัวเว่ย

ความคุ้มค่าของการ Click & Collect ไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ เพราะหัวเว่ยยังมีกิจกรรมแจกชุดของสมนาคุณสุดพิเศษสำหรับลูกค้า 10 ท่านแรกที่จองสินค้าราคาพิเศษข้างต้นผ่าน HUAWEI Online Store ตั้งแต่วันที่ 23 – 28 กุมภาพันธ์ 2564 และชำระเงินพร้อมรับสินค้าหน้าร้าน HUAWEI Experience Store สาขาที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 26 – 28  กุมภาพันธ์ 2564 รับไปเลยทันที HUAWEI City Travel Gift Package 2 มูลค่ารวม 1,690 บาท ที่รวมไอเทมสารพัดประโยชน์อย่าง ร่มหัวเว่ย กระติกน้ำร้อน และ Ring Holder จำนวนจำกัดเพียงสาขาละ 10 ชุด เท่านั้น

ลูกค้าสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยได้ที่นี่ และอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับโปรโมชันได้ที่นี่

สรุปรายละเอียดราคาสินค้าที่ร่วมรายการ และของสมนาคุณสุดพิเศษ

คลิกช้อปสมาร์ทโฟน Huawei ที่นี่ >>> http://bit.ly/31ikNUq

from:https://www.mobileocta.com/huaweis-first-time-with-click-collect-service-click-to-buy-and-get-it-at-the-store/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=huaweis-first-time-with-click-collect-service-click-to-buy-and-get-it-at-the-store

Skyworth เปิดตัว SUC7500 สมาร์ททีวี ทำงานบนระบบ Android TV 10 มาพร้อมระบบประมวลผล AI TV อัจฉริยะ

Skyworth แบรนด์ทีวีชั้นนำสัญชาติจีนที่มีประสบการณ์ในการผลิตทีวี OLED คุณภาพ ได้เปิดตัวสมาร์ททีวี SUC7500 ที่มาพร้อมกับจอ LED ความละเอียด 4K พร้อมรองรับ HDR 10+ แถมยังเป็นสมาร์ททีวีเครื่องแรกในประเทศไทยที่รองรับการใช้งานระบบปฎิบัติการ Android 10 อีกด้วย

หน้าจอไร้ขอบ Infinity Display

Skyworth SUC7500 มาพร้อมกับดีไซน์ที่หรูหราในรูปแบบหน้าจอ Infinity Screens ลักษณะที่ขอบบางมาก ๆ รู้สึกเหมือนภาพลอยอยู่กลางอากาศ มากับสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องมากกว่า 98.6 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ไม่ว่าจะดูหนังดูซีรี่ส์ หรือเล่นเกมก็ได้ประสบการณ์เต็มรูปแบบ ได้อรรถรสแน่นอน แถมวางในห้องก็มีความหรูหราเข้ากับการแต่งห้องทุกรูปแบบ อีกทั้งยังมีความบางด้านข้างเพียง 32 มิลลิเมตรเท่านั้น

เทคโนโลยีแบบจัดเต็มเพื่อสุดยอดการแสดงผลภาพ

ในทางด้านของหน้าจอก็มีความละเอียดระดับ 4K ทำให้ภาพคมชัดไม่ว่าจะดูหนัง หรือซีรีส์ รองรับระบบHDR 10+ เพื่อให้สีสดสวยงามเป็นธรรมชาติมีขอบเขตสีกว้าง แถมยังมาพร้อมกับชิปประมวลผล Chameleon Extreme 2.0 AIPQ Engine ที่จะช่วยเพิ่มคุณภาพในเรื่องของความคมชัด Contrast สี และการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในวิดิโอดีขึ้นได้อีกด้วย

ระบบปฎิบัติการ Android 10 บนทีวีเครื่องแรกในไทย 

จุดเด่นที่ลืมไม่ได้เลยของ SUC7500 ก็คงจะเป็นในเรื่องของระบบปฏิบัติการ Android 10 บนสมาร์ททีวีซึ่่งเป็นทีวีเครื่องแรกในประเทศไทยที่ใช่แอนดรอยเวอร์ชั่นนี้ มาพร้อมกับฟีเจอร์การใช้งานมากมายไม่ว่าจะเป็น Daily Play ที่จะรวมคอนเท้นต์จากหลาย ๆ แพลตฟอร์มมารวมกันมาให้ผู้ใช้งานสามารถหาคอนเท้นต์ดูได้ทุก ๆ วัน อีกทั้งผู้ใช้งานยังสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันมากมายกว่า 5000+ ใน Play Store ได้อีกด้วย

มาพร้อม AV1 Codec ให้การสตรีมวิดิโอลื่นไหลไม่มีสะดุด 

Skyworth SUC7500 มาพร้อมกับเทคโนโลยี AV1 Codec ที่ช่วยให้การรับชมสื่อประเภท Streaming ได้รวดเร็วลื่นไหลมากขึ้นจากไฟล์วิดิโอที่มีการบีบอัดที่ดีขึ้นโดยไม่เสียคุณภาพของไฟล์ ทำให้สามารถสตรีม หนังหรือซีรีส์ได้ไวขึ้น ในขณะทีใช้งาน Data อินเทอร์เน็ตน้อยลงนั่นเองครับ

ระบบ Google Assistant ในตัว 

ในด้านของตัวรีโมต SUC7500 ก็มาพร้อมกับปุ่มสำหรับเปิด Google Assistant ได้โดยตรงแถมยังไมค์ติดมาที่รีโมต ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสั่งงานทีวีเพื่อหาคอนเท้นต์ต่าง ๆ ได้ อีกทั้งด้วยความที่เป็น Google Assistant ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อตัวทีวีเข้ากับแอปพลิเคชัน Google Home เพื่อที่จะสามารถควบคุมอุปกรณ์ iOT ต่าง ๆ ในบ้านได้ไม่ว่าจะเป็น ไฟ เครื่องฟอกอากาศ ลำโพง และอื่น ๆ ได้ แถมบนตัวรีโมตยังมาพร้อมกับปุ่มสำหรับเข้า Netflix โดยตรงทำให้ง่ายต่อการใช้งานอีกด้วย

เหมาะสำหรับเล่นเกม 

สำหรับใครที่กำลังหาทีวีดี ๆ สำหรับเอาไว้ต่อกับเครื่องคอนโซลที่บ้านละก็ SUC7500 ก็มาพร้อมกับฟีเจอร์ Game Mode ที่จะช่วยลดความหน่วงการแสดงผลของจอภาพกับเครื่องคอนโซล แถมทีวีเครื่องนี้ยังรองรับค่ารีเฟรชเรทสูงสุดถึง 120Hz อีกด้วย ยิ่งใกล้ถึงเวลาที่ PS5 จะวางขายเข้าทุกทีแล้ว SUC7500 ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเอาไว้เล่นเกมครับ

ตอนนี้ทาง Skyworth SUC7500 ก็มีมาให้ได้เลือกกันถึง 3 ขนาดได้แก่ 50″ 55″ และ 65″ นิ้ว ในราคาเริ่มต้นเพียง 15,990, 19,900 และ 25,990 บาทตามลำดับ มีวางจำหน่ายแล้วตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป หรือสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Skyworththailand ครับ 😆

from:https://droidsans.com/skyworth-announced-new-suc7500/

Motorola เปิดตัว Razr 5G มือถือจอพับรุ่นใหม่ ราคา 1,399 เหรียญสหรัฐ

หลังเปิดตัวรุ่น 2019 ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ในราคา 1,500 เหรียญสหรัฐ (ราว 47,000 บาท) ผ่านมายังไม่ครบปีดี Motorola กลับมาอีกครั้งกับ Razr รุ่นปี 2020 ที่มาพร้อมกับ 5G และการอัพเกรดดังนี้

  • ชิป Snapdragon 765G
  • หน้าจอหลักแบบพับได้ ขนาด 6.2 นิ้ว แบบ POLED ความละเอียด 2142 x 876 พิกเซล อัตราส่วน 21:9
  • หน้าจอ Quick View ด้านนอก 2.7 นิ้ว แบบ gOLED ความละเอียด 600 x 800 พิกเซล
  • แรม 8 GB
  • หน่วยความจำภายใน 256GB
  • กล้องหลัง 48 MP, f/1.7 มี OIS
  • กล้องหน้า 20 MP
  • แบตเตอรี่ความจุ 2,800 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 15 W
  • Android 10

ฟังก์ชั่นต่างที่รุ่น 2019 ได้ในอัปเดต Android 10 กลับมาครบ ทั้งการควบคุมมีเดีย แสดงการนำทางและตอบข้อความผ่านคีย์บอร์ดบน Quick View

Motorola Razr วางจำหน่ายฤดูใบไม้ผลินี้ (ช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน) ในราคา 1,399 เหรียญ (ราว 43,800 บาท) ถูกลงกว่ารุ่นปี 2019 ประมาณ 100 เหรียญ

ที่มา – Motorola, Techradar

No Description

from:https://www.blognone.com/node/118374

Huawei เตรียมปล่อยอัปเดต EMUI 11 (Beta) ให้มือถือ และแท็บเล็ต 10 รุ่น เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน เป็นต้นไป

งาน Huawei Developer Conference 2020 ที่พึ่งจบไปไม่นานนี้ นอกจาก Huawei จะประกาศเรื่องระบบปฏิบัติการ Harmony OS 2.0 แล้ว ยังได้พูดถึงการอัปเดต EMUI 11 (Android 10) ให้กับมือถือ และแท็บเล็ตที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ด้วย โดยอุปกรณ์ล็อตแรกที่จะได้รับการอัปเดตดังกล่าวจะมีด้วยกันทั้งหมด 10 รุ่น เริ่มตั้งแต่ Huawei Mate 30 ไปจนถึงแท็บเล็ต MatePad Pro 5G ซึ่งจะเริ่มปล่อยอัปเดตตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ภายในงาน Huawei Developer Conference 2020 ได้มีการประกาศถึง EMUI 11 ที่จะปล่อยอัปเดตให้กับมือถือ และแท็บเล็ต Huawei กับ Honor หลายๆ รุ่นในอนาคต โดยรายชื่อของอุปกรณ์ล็อตแรกที่จะได้รับการอัปเดต EMUI 11 (Beta) ได้ถูกเผยออกมาแล้วทั้งหมด 10 รุ่นด้วยกัน ดังนี้

  1. Huawei P40
  2. Huawei P40 Pro
  3. Huawei P40 Pro+
  4. Huawei Mate 30 (4G)
  5. Huawei Mate 30 (5G)
  6. Huawei Mate 30 Pro (4G)
  7. Huawei Mate 30 Pro (5G)
  8. Huawei Mate 30 RS Porsche Design
  9. Huawei MatePad Pro
  10. Huawei MatePad Pro 5G

แน่นอนว่าใน EMUI 11 ก็จะมีการปรับปรุงประสิทธิภาพต่างๆ ของเครื่อง รวมถึงมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ใส่เข้ามาให้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น…

การปรับแต่งหน้าจอ Always-on

หน้าจอแบบ Always-on (AOD) มีมาให้ใช้ตั้งแต่ EMUI 10 แล้ว แต่สำหรับเวอร์ชั่น EMUI 11 ผู้ใช้งานจะสามารถปรับแต่งหน้าตาของมันได้ เพราะคราวนี้ Huawei ใส่ AOD หลากหลายสไตล์มาให้เลือกใช้กัน ซึ่งแต่ละสไตล์ยังเลือกปรับแต่งสี หรือตำแหน่งต่างๆ เพิ่มเติมได้ แถมยังเอาภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหว (GIF) ที่ตัวเองต้องการมาเป็น AOD ก็ยังได้

UI ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่

UI สำหรับการใช้งานโดยรวมของ EMUI 11 ก็ได้รับการปรับแต่งใหม่เช่นกัน โดยคราวนี้จะมีการเคลื่อนไหว หรือ Animation ที่ดูลื่นไหลกว่ารุ่นที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนหน้าจอ การย้าย Folder หรือไอคอนแอปต่างๆ ซึ่ง Animation เหล่านี้จะถูกนำไปใช้กับแอปทั้งหลายที่ติดมากับเครื่อง ทั้ง Calendar, Gallery, Video ฯลฯ

นอกจากนี้ยังมีการปรับแต่ง Smart Multi-Window ใหม่ ทำให้มือถือ หรือแท็บเล็ตสามารถทำงานแบบ Multitask ได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไอคอนวงกลมที่โผล่มาด้านข้างจอเพื่อกดดู หรือกดเรียกใช้แอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ส่วนมือถือจอใหญ่อย่าง Mate XS จะรองรับการเปิดแอปพร้อมกัน 2 แอป บนหน้าจอเดียวกัน เพื่อความสะดวกในการใช้งานแบบ Multitask นั่นเอง

ปรับปรุงความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว 

ใน EMUI 11 จะมีการแจ้งเตือนขึ้นมาทันทีที่มีแอปพลิเคชั่นแอบเข้าถึง ตำแหน่ง, ไมโครโฟน และกล้อง อยู่เบื้องหลัง นอกจากนี้ยังมีเมนูให้เข้าไปดูได้อีกด้วยว่ามีแอปไหนเคยขออนุญาตเข้าถึงอะไรบ้าง ตอนไหนบ้าง และยังมีการปรับปรุงความเป็นส่วนตัวเพิ่มเติมของแอปที่ติดมากับเครื่องด้วย เช่น Photo Gallery สามารถซ่อนภาพได้ และก่อนที่จะแชร์ภาพยังสามารถลบข้อมูล Metadata ประเภทตำแหน่งที่ถ่าย, วัน เวลาที่ถ่าย และอื่นๆ ส่วนฟีเจอร์ Safety Casting จะซ่อนการแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ให้เด้งขึ้นมา เวลาใช้โหมด Smart Share ที่จะยิงภาพจากมือถือขึ้นจอ TV

รองรับการใช้งานคู่กับอุปกรณ์อื่นๆ ของ Huawei และ Honor

EMUI 11 สำหรับมือถือ และแท็บเล็ต จะสามารถแชร์ไฟล์ ดูหนัง หรือเล่นเกมบนหน้าจอของอุปกรณ์อื่นๆ อย่างเช่นโน้ตบุ๊คของ Huawei และ Honor ได้ด้วย โดยตอนนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวจะทำให้อุปกรณ์ที่ใช้ EMUI 11 เปิดแอปบนหน้าจอโน้ตบุ๊คที่รองรับได้พร้อมกันถึง 3 แอป

ตามที่บอกไปแล้วว่า EMUI 11 (Beta) จะเริ่มปล่อยอัปเดตให้กับมือถือ และแท็บเล็ตทั้ง 10 รุ่น ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2563 เป็นต้นไป ถ้าใครที่เป็นเจ้าของอุปกรณ์ในรายชื่อดังกล่าว ได้รับการอัปเดตกันแล้วก็มาคอมเม้นท์บอกกันบ้างนะครับ

 

ที่มา : Huaweicentral, Androidauthority  

from:https://droidsans.com/huawei-emui-11-starts-rolling-september-10th/

Google เผย Android 10 แตะ 100 ล้านเครื่องหลังปล่อยตัวจริง 5 เดือน, เร็วกว่า Pie 28%

Google เปิดเผยจำนวนอุปกรณ์ที่รัน Android 10 ในระยะเวลา 5 เดือนหลังปล่อยตัวจริงอยู่ที่ 100 ล้านเครื่อง ซึ่งเร็วกว่าที่ Android Pie ทำได้ 28% หรือกล่าวอีกอย่างคือ Android Pie ระยะเวลามากกว่ากว่าจะถึง 100 ล้านเครื่อง

ปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งมาจากทั้ง Project Treble ที่ออกมาตอน Android Oreo ที่แยกชั้นฮาร์ดแวร์ออกจากระบบปฏิบัติการและ Project Mainline ที่แยกระบบปฏิบัติการเป็นโมดูลต่าง ๆ เพื่อให้อัพเดตง่ายขึ้นผ่าน Google Play

No Description

ขณะที่ใน Android 11 ทาง Google ก็พยายามปรับปรุงองค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อให้การอัพเดตง่ายขึ้น อย่างการเพิ่มจำนวนโมดูลที่อัพเดตได้ผ่าน Google Play, แยกส่วนเคอร์เนลลินุกซ์ของแอนดรอยด์ออกจากฮาร์ดแวร์มาเป็น Generic Kernel Image (GKI) ทำให้สามารถอัพเดตเคอร์เนลได้แล้ว (Google จะมีการพูดถึง GKI เต็ม ๆ อีกครั้งหลังจากนี้) และการอัพเดตแบบ Virtual A/B

ที่มา – Android Developer Blog

from:https://www.blognone.com/node/117396

รุ่นเล็กก็ไม่ทิ้ง! Nokia 1 จะได้อัพเดต Android 10 ในเดือนนี้

HMD Global เริ่มปล่อยอัพเดต Android 10 ให้กับ Nokia 1 สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2018 ในประเทศกลุ่มแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นไปตามสัญญาที่โนเกียเคยให้ไว้ว่าจะปล่อยอัพเดตให้กับสมาร์ทโฟนทุกรุ่นเป็นเวลา 2 ปี (แม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็กก็ตาม)

อัพเดต Android 10 จะทยอยปล่อยเป็นรอบๆ ผู้ใช้งานทั้งหมดในประเทศกลุ่มแรกจะได้รับอัพเดตภายในวันที่ 12 ที่จะถึงนี้ โดยทาง HMD Global ได้ปล่อยอัพเดตให้กับผู้ใช้ราว 10% ไปแล้วเมื่อวันที่ 7 และจะปล่อยรอบถัดไปให้กับผู้ใช้อีก 50% ภายในวันที่ 10

ประเทศกลุ่มแรกที่จะได้อัพเดตมีดังนี้

  • ไทย
  • บังคลาเทศ
  • กัมพูชา
  • อินเดีย
  • อินโดนีเซีย
  • ลาว
  • มาเลเซีย
  • พม่า
  • เนปาล
  • ฟิลิปปินส์
  • สิงคโปร์
  • ศรีลังกา
  • เวียดนาม

ที่มา – Nokia Via Android Community

No Description

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/117373

Chrome 85 บนแอนดรอยด์จะเป็นเวอร์ชัน 64-bit แล้ว รองรับเฉพาะ Android 10 ขึ้นไป

แม้ Google จะเริ่มบีบนักพัฒนาเรื่องการส่งแอป 64-bit ขึ้น Play Store มาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่แอปของตัวเองอย่าง Chrome ที่รองรับ 64-bit บนพีซีมานาน กลับยังคงเป็น 32-bit บนแอนดรอยด์เท่านั้น

ล่าสุด Android Police พบว่า Chrome 85 บนแอนดรอยด์ที่ยังอยู่ในแชนแนล Dev เริ่มรองรับเวอร์ชัน 64-bit แล้ว อย่างไรก็ตาม เวอร์ชัน 64-bit กลับรองรับเฉพาะเครื่องที่รัน Android 10 ขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งสัดส่วนถือว่ายังค่อนข้างน้อย

ที่มา – Android Police

from:https://www.blognone.com/node/117299