คลังเก็บป้ายกำกับ: ปัญหา_WINDOWS

โน๊ตบุ๊คช้ามาก แก้ได้ใน 7 ขั้นตอน นะจ๊ะ

โน๊ตบุ๊คช้ามากไม่เหมือนซื้อมาใหม่ ๆ เลย ทำตาม 7 ขั้นตอนนี้เร็วดังเดิมแน่นอน!

slow laptop cover

ตอนนี้โน๊ตบุ๊คกลายเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องสำคัญของใครหลายคนไปแล้ว ยิ่งยุคนี้ที่การ์ดจอยังแพงอยู่ก็มีเกมเมอร์หันมาใช้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คกันเยอะ แล้วปัญหาโน๊ตบุ๊คช้ามากหลังจากใช้งานไปสักพักก็เป็นปัญหาที่เลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน แต่ปัญหาเครื่องอืดทำงานไม่เร็วทันใจเหมือนซื้อมาวันแรก ๆ นั้นสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง และเป็นวิธีการง่าย ๆ ที่ทำตามไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น

สำหรับวิธีการในบทความนี้ที่หยิบมาแนะนำกันนั้นสามารถเอาไปทำตามได้ทั้งโน๊ตบุ๊คที่ใช้งานมาสักระยะหรือมีคอมเก่าใช้งานมาหลายปีแล้วไม่ได้ยุ่งอะไรกับมันเลย แล้วคิดว่าควรจัดการเครื่องให้กลับมาทำงานได้ดีตามเดิม ก็สามารถอ่านแล้วทำตามขั้นตอนในบทความนี้ได้ทันที

โน๊ตบุ๊คช้ามาก

7 ขั้นตอนแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คช้ามากไม่กี่ขั้นตอนก็เสร็จแล้ว

วิธีการแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คช้าทำงานไม่ทันใจสามารถใช้ฟีเจอร์ที่ Microsoft ใส่มาให้ใน Windows 10 ได้ทั้งหมด ไม่ต้องโหลดโปรแกรมใด ๆ มาติดตั้งเพิ่มเติมอย่างแน่นอน ซึ่งทั้ง 7 ขั้นตอนจะมีดังนี้

  1. เช็คเครื่องกันก่อนว่าแรมพอใช้ไหม
  2. ได้ Defragment Harddisk ในเครื่องหรือยัง
  3. สแกนไวรัสลบ Malware และไวรัสออกไปด้วย
  4. โปรแกรมที่รันตอนเปิดเครื่องเยอะไปหรือเปล่า
  5. Temporary File เยอะเกินไปเครื่องเลยช้า
  6. อัพเดท Windows เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดด้วย
  7. ถ้าเครื่องเก่าแล้วใช้ฮาร์ดดิสก์ก็เปลี่ยนมาใช้ SSD ด้วย

1. เช็คเครื่องกันก่อนว่าแรมพอใช้ไหม

about

ปัญหาโน๊ตบุ๊คทำงานได้ช้ามากอย่างแรกนั้น อาจมีต้นเหตุจากแรมในเครื่องมีน้อยจนไม่พอเอาไว้ใช้รันโปรแกรมที่กินแรมเยอะ ๆ อย่างโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ, เบราเซอร์หลาย ๆ แท็บพร้อมกัน รวมถึงเล่นเกมก็ควรอัพเกรดเครื่องให้มีแรมเยอะพอใช้ด้วย ซึ่งผู้เขียนเคยกล่าวถึงไปแล้วในบทความ “ไขข้อข้องใจ Ram เท่าไหร่ดี 8GB หรือ 16GB ถึงพอใช้ในปัจจุบัน?” ว่างานแบบไหนควรมีแรมในเครื่องกี่ GB ถึงจะเยอะพอใช้งาน

ส่วนวิธีเช็คว่าแรมในพีซี, โน๊ตบุ๊คของเรามีกี่ GB สามารถกดปุ่ม Windows บนคีย์บอร์ดแล้วพิมพ์คำว่า About แล้วกด Enter ได้เลย จาากนั้นให้ดูที่ Device specifications ว่า Installed RAM มีอยู่กี่ GB ตัวอย่างเช่นในภาพจะมีอยู่ 32GB เป็นต้น ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนขอแนะนำว่าถ้าเอามาใช้ทำงานอย่างเดียวอาจจะเริ่มที่ 8GB จะช่วยแก้ปัญหาแรมมีไม่พอให้เครื่องใช้รันโปรแกรมได้อีกราว 2-3 ปี ก่อนที่แรม 16GB จะกลายเป็นปริมาณขั้นต่ำในคอมพิวเตอร์ต่อไป

2. ได้ Defragment Harddisk ในเครื่องหรือยัง

defragment

พีซีและโน๊ตบุ๊คบางรุ่นที่ใช้งานมานานแล้วยังไม่ได้เปลี่ยนไปใช้ SSD ก็ควรหมั่น Defragment ให้ Windows จัดเรียงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ใหม่เป็นระยะ ๆ จะช่วยให้เปิดโปรแกรม, เรียกไฟล์ต่าง ๆ ที่เขียนเอาไว้ในฮาร์ดดิสก์ลูกนั้น ๆ ได้เร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม ห้าม Defragment ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD เด็ดขาด เนื่องจาก SSD มีตัว Controller เอาไว้จัดเรียงข้อมูลในตัวอยู่แล้ว และการ Defragment SSD จะทำให้ TBW ลดลงอย่างรวดเร็วและ Controller ทำงานหนักเกินความจำเป็น วิธีที่ดีสุดควรโหลดโปรแกรมที่ผู้ผลิต SSD ตัวนั้นสร้างขึ้นมาแล้วใช้ฟังก์ชั่น TRIM แทน

สำหรับคอมเครื่องไหนที่ยังมีฮาร์ดดิสก์อยู่ ให้กดปุ่ม Windows แล้วพิมพ์คำว่า Defragment ลงไป แล้วที่หน้าต่าง Optimize Drive จะมีไดรฟ์ทั้งหมดที่ติดตั้งในเครื่องขึ้นมา ให้สังเกตตรงช่อง Media type ที่จะ Defragment ต้องเป็นไดรฟ์แบบ Hard disk drive ค่อยกด Optimize จากนั้น Windows จะจัดการ Defrag ฮาร์ดดิสก์ลูกนั้นจนเสร็จ ซึ่งผู้เขียนแนะนำให้ทำสัปดาห์ละครั้งจะดีที่สุด

3. สแกนไวรัสลบ Malware และไวรัสออกไปด้วย

scan virus 1

พอใช้คอมทำงานมานาน ๆ ก็ไม่รู้ว่าสาเหตุที่ทำให้โน๊ตบุ๊คช้ามากเพราะไวรัสหรือ Malware แฝงเข้ามาในเครื่องหรือเปล่า โดย Malware อาจจะมาจากตอนที่เราเปิดเว็บไซต์ที่ดูอันตราย, โหลดไฟล์หรือต่อแฟลชไดรฟ์ที่ติดไวรัสเข้ากับเครื่องของเรา แล้วพอมันรันตัวเองเมื่อไหร่ก็จะทำให้เครื่องช้าหรือโดนขโมยข้อมูลได้ด้วย

ดังนั้นสิ่งที่ควรทำ คือเปิดโปรแกรม Antivirus มาสแกนลบไวรัสและ Malware ต่าง ๆ ออกไปเป็นระยะ ๆ ซึ่งอาจจะทำสัปดาห์หรือเดือนละครั้งก็พอแล้ว โดยจะใช้โปรแกรม Antivirus ที่มีอยู่หรือ Windows Defender ที่ Microsoft ติดตั้งมาให้ใน Windows 10 ก็ทำงานได้ดีเหมือนกัน

scan virus 2

สำหรับวิธีการสแกนไวรัสใน Windows 10 ให้กดปุ่ม Windows บนคีย์บอร์ด พิมพ์คำว่า Virus แล้วกด Enter เพื่อเปิดหน้าต่าง Windows Security ขึ้นมา เลือกคำว่า Scan options ตั้งให้ Windows สแกนแบบ Full scan ก่อนกด Scan now เพื่อให้ Windows เช็คมัลแวร์ในเครื่องแบบละเอียด แต่ขั้นตอนนี้จะทำให้เครื่องทำงานช้าลง ส่วนตัวผู้เขียนแนะนำให้ตั้งสแกนเอาไว้แล้วไปทำอย่างอื่นสักพักรอให้เครื่องสแกนจนเสร็จจะดีที่สุด

4. โปรแกรมที่รันตอนเปิดเครื่องเยอะไปหรือเปล่า

 

start up programs

ปัญหาโน๊ตบุ๊คช้ามาก นั่งรอเครื่องเข้าหน้าวินโดวส์แล้วพร้อมใช้งานนานหลายนาที ไปชงกาแฟรอก็ยังไม่เสร็จอาจจะมีสาเหตุจากโปรแกรมที่รันตัวเองตอนเปิดเครื่องพร้อม ๆ กับ Windows นั้นมีเยอะเกินไป ดังนั้นเราควรลดปริมาณโปรแกรมที่รันตอนเปิดเครื่องลงให้เหลือเฉพาะโปรแกรมหลัก ๆ ที่ใช้งานเป็นประจำก็พอ

วิธีการคือให้เราเปิด Task Manager ขึ้นมาโดยกด Ctrl+Shift+Esc จากนั้นคลิกคำว่า Startup ที่เป็นแท็บรวมโปรแกรมที่จะรันตัวเองทันทีเมื่อเปิด Windows เข้าหน้า Desktop มาแล้ว ถ้ามีโปรแกรมไหนไม่จำเป็นต้องรันทันที ให้คลิกเลือกแล้วกดคำว่า Disable ตรงมุมล่างขวาได้เลย

5. Temporary File เยอะเกินไปเครื่องเลยช้า

tmp file

Temporary File นั้นจะเป็นไฟล์ที่ Windows สร้างขึ้นมาใช้งานในระบบชั่วคราว และปล่อยทิ้งเอาไว้ในฮาร์ดดิสก์ของเรา ซึ่งถ้ามีเยอะนอกจากกินพื้นที่ก็ทำให้โน๊ตบุ๊คทำงานได้ช้าลงมากด้วย ดังนั้นทาง Microsoft จึงมีฟังก์ชั่น Disk Cleanup เอาไว้เคลียร์ Temporary File อยู่ด้วย

สำหรับวิธีการเปิดจะมี 2 แบบคือ จะกดปุ่ม Windows มาพิมพ์คำว่า Disk Cleanup ก็ได้ เมื่อ Windows บูตหน้าต่างด้านบนขึ้นมาก็เลื่อนลงมาจนเจอช่องที่เขียนคำว่า Temporary File ค่อยกดติ๊กเลือกแล้วกดคำว่า Clean up system files เพื่อลบ Temporary File ออกไป

storage 1
storage 2

อีกวิธี ให้เรากดปุ่ม Windows จากนั้นพิมพ์คำว่า Storage หรือ Temporary File ก็ได้ แล้วกด Enter เพื่อเปิดหน้า Storage แล้วจะมีคำสั่ง Temporary File ให้กดเหมือนกัน โดย Windows จะเช็คไฟล์ประเภทนี้ขึ้นมาให้เราเลือกลบได้ ซึ่งบางเครื่องอาจจะประหยัดพื้นที่ไปเป็นหลัก GB และทำให้โน๊ตบุ๊คทำงานได้เร็วขึ้นด้วย

6. อัพเดท Windows เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดด้วย

update

บางครั้งสาเหตุที่โน๊ตบุ๊คช้ามาก อาจจะมาจากแพทช์ Windows ที่ทาง Microsoft ปล่อยอัพเดทออกมา ซึ่งบางครั้งบางแพทช์ก็ปรับแต่งออกมาได้ไม่ดีเลยทำให้โน๊ตบุ๊คช้ามาก ดังนั้นถ้าเจอปัญหานี้ขึ้นมา ก็ควรเช็คว่าทาง Microsoft มีแพทช์อัพเดท Windows เวอร์ชั่นใหม่ปล่อยออกมาหรือไม่ แล้วก็อัพเดทได้เลย โดยกด Check for updates ในหน้า Windows Update สักสัปดาห์ละครั้งหลังจากสแกนไวรัสเสร็จแล้วก็ได้

roll back

หรือถ้าเพิ่งอัพเดทมาแล้วแพทช์ใหม่ของ Windows 10 มาแล้วเครื่องทำงานไม่ดี มีปัญหากระตุกหรือช้าล่ะก็ มีวิธีการ Roll back update กลับไปเป็นเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ก็ได้ โดยกดปุ่ม Windows แล้วพิมพ์คำว่า Recovery ลงไป จากนั้นดูตรงคำว่า “Go back to the previous version of Windows 10” ว่าเราสามารถ Roll back กลับไปได้หรือไม่ โดยตัวระบบปฏิบัติการมีเงื่อนไขอยู่ว่าถ้าเครื่องเราอัพเดทเกิน 10 วันเมื่อไหร่จะใช้ฟังก์ชั่นนี้ไม่ได้ ดังนั้นถ้าเราอัพเดทแล้วแพทช์ใหม่นี้ทำงานได้ไม่ดีก็แนะนำให้ Roll back ไปเลย

7. ถ้าเครื่องเก่าแล้วใช้ฮาร์ดดิสก์ก็เปลี่ยนมาใช้ SSD ด้วย

Screenshot 2021 02 20 164234

สุดท้ายเมื่อปรับแต่งซอฟท์แวร์ไปจนหมดแล้ว ถ้าฮาร์ดดิสก์ในเครื่องของเรายังเป็นฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนอยู่อาจจะทำให้โน๊ตบุ๊คช้ามาก เพราะความเร็วการอ่านเขียนข้อมูลของฮาร์ดดิสก์แบบเก่าจะช้ากว่า SSD แบบ 2.5″ SATA III ถึง 4-5 เท่า ดังนั้นควรเปลี่ยนมาใช้ SSD เพื่อให้เขียนอ่านข้อมูลได้เร็วขึ้น

สำหรับผู้อ่านที่สนใจเรื่อง SSD แต่ต้องการข้อมูลเพิ่ม ผู้เขียนได้เคยทำบทความแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับ SSD เอาไว้ให้อ่านประกอบการตัดสินใจแล้ว โดยมีบทความดังนี้

  1. ไขข้อข้องใจ SSD กี่ GB ดี? 256GB หรือ 512GB? หรือ 1TB เลยจบๆ – แนะนำรายละเอียดทั้งหมดของ SSD ที่ควรรู้ก่อนซื้อ แนะนำให้อ่านเป็นบทความแรก
  2. รวมวิธีอ่านสเปค SSD ที่คนขายไม่เคยบอก อัพเดตล่าสุด 2021 – รวมรายละเอียดและข้อมูลหน้าสเปคของ SSD ฉบับเจาะลึก ว่า SSD รุ่นนั้น ๆ มีจุดเด่นตรงไหนบ้าง
  3. SSD รุ่นไหนดี มาดู NVMe 6 รุ่นนี้ได้เลย สเปคดีฟีเจอร์เด็ดแน่ – รวมข้อเปรียบเทียบว่า SSD แบบ M.2 NVMe กับ 2.5″ SATA III แตกต่างกันอย่างไร รวมทั้งแนะนำรุ่นน่าซื้อ
  4. รวม 10 SSD 1TB ตัวเด็ดที่คุณห้ามพลาด เลือกได้ทั้ง SATA III และ NVMe ตัวแรง – รวมวิธีดูและอัพเกรด SSD ให้กับพีซีและโน๊ตบุ๊คว่าเครื่องของเราใส่ SSD แบบไหนได้บ้าง และแนะนำ SSD รุ่นน่าซื้อเพื่ออัพเกรดเครื่อง

ซึ่งผู้เขียนแนะนำว่าถ้าจะอัพเกรดโน๊ตบุ๊คที่เริ่มเก่าแล้ว ควรแกะฝาเครื่องออกมาดูว่าในเครื่องยังมีช่องสำหรับใส่ SSD แบบไหนได้บ้าง ส่วนตัวแนะนำว่าถ้าโน๊ตบุ๊คของเราเป็นรุ่นใหม่เพิ่งซื้อมาไม่นาน มักมีพอร์ต M.2 NVMe ที่เป็น PCIe 3.0 ติดตั้งมาให้แล้ว จะซื้อ NVMe ไปใส่เครื่องให้รับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้นก็ได้ แต่ถ้าอายุราว 2-3 ปี แต่ยังต้องใช้ทำงานต่อก็ซื้อแบบ 2.5″ SATA III ไปใช้ จะช่วยให้เปิดเครื่องรันโปรแกรมได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน

goran ivos wJpl8D38Tq8 unsplash

สำหรับวิธีจัดการโน๊ตบุ๊คที่ทำงานได้ช้ามาก ๆ ให้กลับมาเร็วใกล้เคียงหรือเท่ากับเครื่องซื้อใหม่นั้นมีให้ทำตามหลายวิธี โดยไม่ต้องพึ่งการลง Windows ใหม่อีกครั้งให้เสียเวลาทั้งรีบูตเครื่องและติดตั้งโปรแกรมใหม่เลย และยังมีฟังก์ชั่นให้ใช้ในตัวระบบปฏิบัติการอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม นอกจากการสแกนไวรัสหรือลบไฟล์ขยะในเครื่องทิ้งก็ตาม แต่พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้เจ้าของโน๊ตบุ๊คก็สำคัญเหมือนกัน เพราะถ้าเอาแต่ใช้งานอย่างเดียวไม่ระวังว่าใครจะเอาแฟลชไดรฟ์ไหนมาเสียบเครื่อง ไม่สแกนไวรัสหรือลบไฟล์ขยะล่ะก็ ปัญหาโน๊ตบุ๊คทำงานช้ามากก็จะกลับมาอย่างแน่นอน


บทความที่เกี่ยวข้อง

pc freeze cover

sound laptop cover

checklaptop cover

from:https://notebookspec.com/web/602285-7-way-solve-slow-laptop

9 วิธีแก้ลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 ฉบับอัพเดท 2021

ลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 ไม่ต้องห่วง เรามีวิธีแก้มาบอก

sound laptop cover

ลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 เรียกว่าเป็นปัญหากวนใจของใครหลาย ๆ คนที่ชอบดูหนังฟังเพลงมาก ๆ แล้วก็มีโอกาสเกิดปัญหาได้จากหลาย ๆ มุมอีกด้วย ซึ่งเป็นปัญหาจุกจิกที่ใครหลาย ๆ คนก็ไม่อยากเจอแน่นอน แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้แล้วต้องพยายามแก้ด้วยตัวเอง ก็ทำได้ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะสาเหตุหลัก ๆ นั้นมักมาจากทั้งไดรเวอร์ที่เก่าแล้วยังไม่ได้อัพเดท, การตั้งค่าผิดพลาด ซึ่งถ้าจัดการแล้วก็น่าจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

ในทางกลับกันถ้าอาการหนักกว่าที่คิด อย่างลำโพงเสียหรือแล้วส่งเสียงประหลาด ๆ ออกมา เพราะเครื่องก็มีอายุใช้งานมาหลายปีแล้ว ก็สามารถเช็คปัญหาเบื้องต้นให้รู้ว่าต้นเหตุมาจากไหนได้ด้วย แต่ถ้าเป็นปัญหาเรื่องลำโพงของโน๊ตบุ๊คเสียหายนั้น มักไม่เป็นอาการอยู่ ๆ ดับไปทันทีอย่างแน่นอน โดยส่วนใหญ่จะเกิดอาการเสียงเพี้ยนแล้วค่อย ๆ เบาจนดับไปมากกว่า

ลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10

ดังนั้นในบทความนี้ จะยึดเป็นกรณีที่เครื่องยังใหม่อยู่และใช้งานมาได้ไม่นานแต่เจอปัญหาลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 นี้แทน โดยจะมีวิธีการเช็คปัญหาทั้งฝั่งของซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ให้ลองทำตามดู

9 วิธีแก้ลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 ทำง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

ขั้นตอนการแก้ลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 นั้นมีโอกาสเกิดจากทั้งซอฟท์แวร์ที่น่าจะเป็นสาเหตุหลัก ๆ กับฮาร์ดแวร์ที่อาจมีโอกาสเกิดขึ้นได้บ้างเช่นกัน โดยวิธีการเช็คและแก้ปัญหาทั้งเครื่องจะมีทั้งหมด 9 วิธีด้วยกัน ได้แก่

  1. ลองต่อหูฟังดูว่าเสียงดังไหม
  2. เช็ค Volume ของเครื่องก่อนว่าปิดเอาไว้หรือเปล่า
  3. ดู Audio Device ก่อนว่าเสียงออกอุปกรณ์ไหน
  4. ปิด Audio Enhancement ดูก่อนนะ
  5. อัพเดทไดรเวอร์เสียงเผื่อจะช่วยได้
  6. ถ้าอัพเดทแล้วยิ่งพัง Roll Back Driver เป็นเวอร์ชั่นก่อนดู
  7. ใช้ Audio Troubleshooter แก้ปัญหาดู
  8. เปลี่ยน Audio Format แก้เรื่องเสียงดู
  9. แก้ไม่หายก็เอาเข้าศูนย์ บางทีลำโพงอาจจะพัง
1. ลองต่อหูฟังดูว่าเสียงดังไหม

lee campbell GI6L2pkiZgQ unsplash

ถ้าลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง ไม่รู้ว่าเกิดจากซอฟท์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ ให้ลองเสียหูฟังเข้าเครื่องก่อน เพื่อเช็คว่าถ้าเครื่องสลับเข้ามาที่หูฟังแล้วเสียงยังออกตามปกติหรือเปล่า หรือว่าเสียงไม่ออกทั้งลำโพงและหูฟังเลย ทำให้สันนิษฐานได้ว่าตอนนี้ช่อง Audio Port สำหรับต่อหูฟังกับลำโพงน่าจะมีปัญหาเป็นอย่างแรก แต่ผู้เขียนยังไม่แนะนำให้ฟันธงทันทีว่าฮาร์ดแวร์ของตัวเครื่องพังแล้วจะยกไปศูนย์อย่างเดียว ก็ขอแนะนำให้แก้ปัญหาตามขั้นตอนอื่น ๆ จนหมดก่อนแล้วจะฟันธงว่าเสียก็ว่ากันไป

2. เช็ค Volume ของเครื่องก่อนว่าปิดเอาไว้หรือเปล่า

speaker

ปัญหาตายน้ำตื้นอย่างการหรี่เสียงหูฟังหรือลำโพงจนกลายเป็น 0 หรือกดปุ่มฟังก์ชั่นเพื่อปิดเสียงทิ้งไปแล้วลืม ก็เป็น User Error เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ แนะนำให้มอง Taskbar มุมล่างขวาก่อนว่าไอคอนลำโพงของตัวเครื่องมีเครื่องหมายกากบาทติดอยู่หรือเปล่า ถ้ากากบาทอยู่ก็กดเปิดกลับมาด้วย แล้วถ้าเสียงกลับมาก็ถือว่าปัญหาลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดังเป็นอันปิดประเด็นไป

3. ดู Audio Device ก่อนว่าเสียงออกอุปกรณ์ไหน

audio device
audio device 2

ขั้นตอนต่อมาให้ดูอุปกรณ์ที่ถูกตั้งค่าให้เป็นตัวเล่นเพลงก่อน ว่าตอนนี้เสียงออกตรงไหน แล้วเสียงดังได้ยินหรือเปล่า เช่น ในภาพจะมีแบบออก Speakers แล้วบรรทัดที่ 2 เขียนว่า Realtek(R) Audio จะเป็นลำโพงตัวเครื่อง และ Speakers อีกตัวเป็น USB PnP Audio Device เป็นหูฟังที่ต่อเอาไว้กับตัวเครื่องผ่าน USB-C Multiport adapter ถ้าต้องการเปลี่ยนลำโพงก็ให้คลิกขวาที่ลำโพงที่ต้องการ จากนั้นเลือกคำว่า Set as Default Device เพื่อเปลี่ยนลำโพงไปลำโพงที่ต้องการได้เลย

speaker
sound out

ส่วนวิธีเปลี่ยนเสียงออกแบบง่าย ๆ ก็กดที่ไอคอนลำโพงตรง Taskbar ก่อนแล้วคลิกตรงชื่อของอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ แล้ว Windows 10 จะโชว์อุปกรณ์ทั้งลำโพงและหูฟังที่ต่อคอมทั้งหมดให้เราดู จากนั้นคลิกเลือกเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เราฟังเพลงดู ว่าลำโพงโน๊ตบุ๊คของเราดังแล้วหรือยัง

4. ปิด Audio Enhancement ดูก่อนนะ

audio enhancement

ฟีเจอร์ที่ปรับแต่งเสียงลำโพงหรือหูฟังอย่าง Audio enhancement ที่ทำให้เสียงเพลงเพราะขึ้นก็ตาม แต่ก็มีผลทำให้ลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดังได้เช่นกัน เพราะอาจจะมีบั๊กหรือการตั้งค่าผิดพลาดจากผู้พัฒนาโปรแกรมได้ด้วย ดังนั้นวิธีการปิดฟังก์ชั่นนี้ทิ้งก็อาจจะทำให้ลำโพงของโน๊ตบุ๊คดังก็ได้

เริ่มต้นให้คลิกขวาตรงรูปลำโพง เลือกคำว่า Sounds จากนั้นจำมีหน้าต่างการตั้งค่าเสียงขึ้นมา ให้คลิกแท็บที่ชื่อว่า Playback แล้วคลิกขวาที่ไอคอนรูปลำโพงของคอมพิวเตอร์ เช่น ในภาพจะเป็นตัว Speaker ที่เขียนว่า Realtek(R) Audio แล้วเลือก Properties เพื่อเปิดหน้าการตั้งค่าเรื่องเสียงขึ้นมา

ในหน้า Properties ให้เลือกแท็บ Advanced ตรง Signal Enhancements จะมีช่องติ๊กถูกตรงคำว่า Enable audio enhancements ให้ติ๊กช่องนั้นออกแล้วกด Apply ว่าโปรแกรมปรับแต่งเสียงที่ติดตั้งมาเป็นต้นเหตุที่ทำให้ลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดังหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ควรลองอัพเดทโปรแกรมดูว่ามีแพทช์แก้ไขจากผู้พัฒนาโปรแกรมหรือเปล่า

5. อัพเดทไดรเวอร์เสียงเผื่อจะช่วยได้

update driver

ปัญหาลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 เอง อาจจะมีต้นเหตุจากไดรเวอร์ในเครื่องเป็นเวอร์ชั่นเก่าแล้วยังไม่ได้อัพเดทก็อาจจะมีบั๊กที่เราไม่รู้ซ่อนอยู่ แล้วพอการใช้งานของเราเข้าเงื่อนไขที่ทำให้เสียงลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดังเมื่อไหร่ ก็ควรลองอัพเดทไดรเวอร์ดูสักครั้งหนึ่งก่อน อาจจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้

สำหรับการอัพเดทไดรเวอร์เสียงโดยตรง ให้เข้าไปที่ Device Manager แล้วเลื่อนหาไดรเวอร์ที่เกี่ยวกับเสียงในเครื่อง โดยหลัก ๆ แล้วจะเป็น Realtek จากนั้นให้คลิกขวาแล้วเลือกคำว่า Update driver แล้วทำตามขั้นตอนที่ระบบ Windows 10 บอกให้เราทำตามไปเรื่อย ๆ จนเสร็จแล้วทดลองดูว่าลำโพงโน๊ตบุ๊คของเราเสียงดังตามปกติหรือยัง

6. ถ้าอัพเดทแล้วยิ่งพัง Roll Back Driver เป็นเวอร์ชั่นก่อนดู

update or roll back

จากข้อที่แล้ว กรณีสำหรับคนที่อัพเดทไดรเวอร์แล้วเจอปัญหาลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 ขึ้นมา ก็ใช้วิธี Roll Back Driver หรือย้อนไดรเวอร์กลับไปเป็นเวอร์ชั่นที่แล้วที่ไม่มีปัญหาลำโพงไม่ดังดู จะช่วยแก้ปัญหาส่วนนี้ได้ แต่ถ้ากรณีไดรเวอร์ในเครื่องยังไม่ได้อัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ ปุ่ม Roll Back Driver จะกดไม่ได้

วิธีการ Roll Back Driver ให้กลับไปเป็นเวอร์ชั่นก่อนหน้าที่ไม่มีปัญหาลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง ให้เปิด Device Manager แล้วคลิกขวาที่ไดรเวอร์เสียงนั้น ๆ ที่สันนิษฐานว่ามีปัญหาแล้วเลือกคำว่า Properties และเลือกแท็บ Driver ที่อยู่อันที่ 2 จะกลายเป็นแบบภาพตัวอย่าง แล้วเลื่อนลงมาที่คำว่า Roll Back Driver ที่วงกลมสีฟ้าเอาไว้ ซึ่งถ้าสามารถ Roll Back กลับไปเป็นไดรเวอร์เวอร์ชั่นไม่มีปัญหาได้ ก็แนะนำให้กดได้เลย จากนั้นเครื่องจะใช้เวลาจัดการไดรเวอร์สักครู่ จากนั้นให้ทดลองเปิดเพลงดูอีกครั้งว่าฟังเพลงได้ตามปกติไหม

7. ใช้ Audio Troubleshooter แก้ปัญหาดู

sound troubleshooter

ถ้าทำตามขั้นตอนข้างบนทั้งหมดแล้ว ลำโพงของโน๊ตบุ๊คก็ยังไม่ทำงานอยู่เหมือนเดิมแล้วหาปัญหาไม่เจอว่ามาจากไหนแน่ ให้ลองใช้ฟังก์ชั่น Troubleshoot ให้ Windows 10 ไล่เช็คปัญหาทั้งเครื่องว่าต้นตอของปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ไหนกันแน่

วิธีการใช้ Troubleshoot สำหรับจัดการเรื่องเสียง ให้กดปุ่ม Windows แล้วพิมพ์คำว่า Sound ขึ้นมา จากนั้นคลิกคำว่า Troubleshoot ที่อยู่ด้านล่างแถบเสียง Master volume อีกที แล้ว Windows 10 จะเปิดฟังก์ชั่น Troubleshoot ขึ้นมา

troubleshoot 2

จากนั้น Windows 10 จะทำการไล่เช็คปัญหาทั้งหมดที่ทำให้เสียงลำโพงไม่ดังแล้วปรับแต่งการตั้งค่าตัวเครื่องให้ใหม่ โดยตัว Troubleshoot จะไล่เช็คและทดลองทำเสียงปี๊บเพื่อทดสอบว่าเสียงออกหรือเปล่า ส่วนเรามีหน้าที่ดูตามขั้นตอนแล้วกดตอบตามที่ Windows แจ้งมาบนหน้าจอเท่านั้นจนเสร็จ แล้วจะมีรายละเอียดปัญหาให้เราดูด้วยว่าต้นเหตุของปัญหาลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 นี้มาจากอะไรบ้าง

8. เปลี่ยน Audio Format แก้เรื่องเสียงดู

format 2

เรื่อง Format เสียงของ Windows ก็มีผลทำให้เสียงลำโพงไม่ดังเช่นกัน ไม่ว่าเสียงจะออกลำโพงหรือหูฟังก็มีโอกาสเจอปัญหานี้ได้ทั้งคู่ ดังนั้นวิธีแก้ปัญหานี้ก็ต้องเข้าไปตั้งค่าเรื่องเสียงใน Properties ของ Windows เหมือนในหัวข้อ Audio enhancement ที่เพิ่งทำไปในข้อก่อนหน้านี้ แต่จะต้องมาปรับ Format เสียงแทน

เริ่มต้นให้เราเลือกอุปกรณ์ที่ต้องการแก้ Audio Format เช่น หูฟังที่เราต่อกับโน๊ตบุ๊คอยู่แล้วคลิกขวาเลือก Properties กดแท็บ Advanced จะเห็นหมวดที่ชื่อว่า Default Format ที่เป็นกรอบให้กดเลือกรูปแบบฟอร์แมตเสียงว่าต้องการให้เป็นเสียงแบบไหน เมื่อเปลี่ยน Format แล้ว ให้คลิกคำว่า Test ที่อยู่ด้านข้างเพื่อทดสอบว่าเสียงลำโพงโน๊ตบุ๊คดังหรือยัง ถ้าไม่ดังก็ให้ลองปรับไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะใช้ได้ ค่อยกด Apply ด้านล่าง จากนั้นกด OK เพื่อเลือกการตั้งค่านี้

9. แก้ไม่หายก็เอาเข้าศูนย์ บางทีลำโพงอาจจะพัง

MSI Modern 14 IMG 4663

สุดท้ายถ้าทดลองทำตามวิธีการที่แนะนำมาทั้งหมดแล้วลำโพงโน๊ตบุ๊คก็ยังไม่ดังเหมือนเดิม ก็สันนิษฐานได้เลยว่าตัวดอกลำโพงหรือสายไฟสักเส้นอาจเสียด้วยเหตุสุดวิสัย ก็ควรส่งเข้าศูนย์ให้ช่างจัดการซ่อมเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ดีกว่า แต่ก่อนจะเอาเข้าศูนย์ก็ควรแบ็คอัพข้อมูลงานสำคัญและล็อคเอ้าท์จาก Social network ทั้งหมดให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้คนมาละลาบละล้วงความเป็นส่วนตัวของเรา

จากวิธีการแก้ปัญหาลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง Windows 10 ทั้ง 9 วิธีที่แนะนำไปนั้น อาจจะมีสักวิธีหนึ่งที่ใช้แก้ปัญหาเครื่องของเราได้ แต่จากวิธีการทั้งหมดที่นำเสนอมานั้น ผู้เขียนแนะนำให้ไล่เช็คอาการทั้งหมดให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นถ้าปัญหาลำโพงไม่ดังเกิดจากชิ้นส่วนตัวเครื่องที่ต้องยกเข้าศูนย์จริง ๆ ก็จัดการแบ็คอัพข้อมูลให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยส่งเครื่องเข้าศูนย์จะดีที่สุด


บทความที่เกี่ยวข้อง

checklaptop cover

pc freeze cover

from:https://notebookspec.com/web/602085-9-ways-solve-windows-10-silent-speaker

ทำอย่างไร เมื่อคีย์บอร์ดพีซี อยู่ดีๆ ก็ใช้งานไม่ได้ตามปกติ

เป็นปัญหาที่เรียกว่าหลายคนถึงกับกุมขมับ เพราะเมื่อคีย์บอร์ดสุดรัก ที่ใช้งานกันอยู่ดีๆ แต่มาวันนี้กลับใช้งานไม่ได้เสียอย่างนั้น เล่นเอาปวดหัว เพราะกำลังจะเล่นเกม ทำงานตามปกติเหมือนทุกวัน ปัญหาอยู่ที่หาสาเหตุไม่เจอ เพราะก่อนหน้านี้ยังใช้งานได้ดีอยู่

Keyboard-0

การที่คีย์บอร์ดใช้งานไม่ได้หรือซื้อมาใหม่แล้วต่อเข้าไปใช้งานไม่ได้ ก็มีอยู่หลายประเด็นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพอร์ทต่อพ่วง คีย์บอร์ดมีปัญหา ไม่มีการ Detect จากระบบ รวมไปถึงสาเหตุที่คาดไม่ถึงต่างๆ ที่มีส่วนทำให้คีย์บอร์ดไม่สามารถทำงานได้อย่างปกตินั่นเอง ทีนี้เรามาดูกันว่ามีทางแก้ไขอย่างไรได้บ้าง เมื่อคีย์บอร์ดใช้งานไม่ได้

Keyboard-1

1
อันดับแรกให้ใช้วิธีการตรวจสอบพอร์ต USB หรือ PS/2 ที่มีอยู่บนเมนบอร์ดหรือเครื่องพีซี ว่าใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ โดยการนำอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ มาต่อเข้าด้วยกันกับพอร์ตที่ใช้ หากใช้งานได้แสดงว่าคีย์บอร์ดมีปัญหา แต่หากใช้ไม่ได้แสดงว่าพอร์ตบนเมนบอร์ดมีปัญหา

 

Keyboard-2

2
ในกรณีที่เกิดปัญหาใช้งานไม่ได้เพียงบางปุ่ม ให้ลอง Shake อ่านไม่ผิดครับ ให้เช็คด้วยการเชคหรือเขย่า คีย์บอร์ด ด้วยการยกคีย์บอร์ดขึ้นมา จากนั้นเอียงเป็น 45 องศา ให้ได้มุม จากนั้นเขย่าเบาๆ เพื่อให้เศษผงหรือขยะที่ติดอยู่ด้านใต้ของคีย์บอร์ดให้ออกไป ควรปรับมุมบ้าง เผื่อว่าบางครั้งให้เศษผงเอียงหล่นไปทางอื่นด้วยเช่นกัน

 

Keyboard-3

3
ให้ลองรีสตาร์ทพีซีดูสักครั้ง เพราะบางครั้งอาจเกิดปัญหาจากตัวระบบหรือซอฟต์แวร์ที่เก่าเกินไปหรือคีย์บอร์ดอาจจะเก่า จนทำให้การตรวจสอบล่าช้า การรีสตาร์ทเครื่องใหม่ ก็มีโอกาสทำให้มีการตรวจสอบที่เหมาะสมและพร้อมสำหรับการทำงานอีกครั้ง

Keyboard-4

4
ให้เช็คไดรเวอร์ที่ใช้ในการติดตั้งอุปกรณ์ ด้วยการเข้าไปที่ Device Manager จากนั้นดูในบรรทัดของคีย์บอร์ดว่ามีเครื่องหมายแจ้งเตือนหรือไม่ จากนั้นดาวน์โหลดไดรเวอร์จากผู้ผลิตมาติดตั้งใหม่อีกครั้ง แล้วลองดูว่าคีย์บอร์ดกลับมาใช้งานได้หรือไม่

 

Keyboard-5

5
แต่ถ้าเป็นคีย์บอร์ดแบบไร้สาย อาจจะต้องตรวจสอบในส่วนของการเชื่อมต่อ อุปกรณ์รับ-ส่งข้อมูล ติดตั้งไว้ตามปกติหรือไม่ รวมไปถึงการตรวจสอบหรือการ Pair มีการเชื่อมต่อสัญญาณร่วมกันหรือเปล่า

 

Keyboard-6

6
สุดท้ายหากยังไม่สามารถใช้งานคีย์บอร์ดได้ แม้ว่าจะทำการแก้ไขในสิ่งต่างๆ เหล่านี้แล้ว ก็น่าจะสันนิษฐานได้ว่า เกิดจากความเสียหายของคีย์บอร์ดนั้นเอง ในกรณีที่ยังมีประกันก็ต้องส่งเคลม แต่ถ้าหมดประกันมีทางเดียวคือซื้อตัวใหม่เท่านั้น

from:https://notebookspec.com/web/226016-%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%a3-%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%84%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b9%8c%e0%b8%9a%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c

เมื่อคีย์บอร์ดพิมพ์ไม่ได้ ทำอย่างไร? อยู่ดีๆ Windows 10 ก็ใช้งานคีย์บอร์ดไม่ได้

ปัญหาที่ทำเอาหลายคนถึงกับกุมขมับ เพราะคีย์บอร์ดพิมพ์ไม่ได้ ใช้งานกันอยู่ดีๆ แต่มาวันนี้กลับเสียง่ายๆ กำลังจะเล่นเกมชวนตี้มาเรียบร้อย แต่ก็ต้องคอยเก้อ เพราะเล่นไม่ได้ จะแก้ไขอย่างไรได้บ้าง วันนี้เราลองมาดูกัน!

คีย์บอร์ดพิมพ์ไม่ได้

การที่คีย์บอร์ดใช้งานไม่ได้หรือซื้อมาใหม่แล้วต่อเข้าไปใช้งานไม่ได้ ก็มีอยู่หลายประเด็นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพอร์ทต่อพ่วง คีย์บอร์ดมีปัญหา ไม่มีการ Detect จากระบบ รวมไปถึงสาเหตุที่คาดไม่ถึงต่างๆ ที่มีส่วนทำให้คีย์บอร์ดไม่สามารถทำงานได้อย่างปกตินั่นเอง ทีนี้เรามาดูกันว่ามีทางแก้ไขอย่างไรได้บ้าง เมื่อคีย์บอร์ดใช้งานไม่ได้

คีย์บอร์ดพิมพ์ไม่ได้

แก้ปัญหา คีย์บอร์ดพิมพ์ไม่ได้

1.เช็คพอร์ต อันดับแรกให้ใช้วิธีการตรวจสอบพอร์ต USB หรือ PS/2 ที่มีอยู่บนเมนบอร์ดหรือเครื่องพีซี ว่าใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ โดยการนำอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ มาต่อเข้าด้วยกันกับพอร์ตที่ใช้ หากใช้งานได้แสดงว่าคีย์บอร์ดมีปัญหา แต่หากใช้ไม่ได้แสดงว่าพอร์ตบนเมนบอร์ดมีปัญหา
คีย์บอร์ดพิมพ์ไม่ได้
2.เขย่า ในกรณีที่เกิดปัญหาใช้งานไม่ได้เพียงบางปุ่ม ให้ลอง Shake อ่านไม่ผิดครับ ให้เขย่า คีย์บอร์ด ด้วยการยกคีย์บอร์ดขึ้นมา จากนั้นเอียงเป็น 45 องศา ให้ได้มุม จากนั้นเขย่าเบาๆ เพื่อให้เศษผงหรือขยะที่ติดอยู่ด้านใต้ของคีย์บอร์ดให้ออกไป ควรปรับมุมบ้าง เผื่อว่าบางครั้งให้เศษผงเอียงหล่นไปทางอื่นด้วยเช่นกัน
คีย์บอร์ดพิมพ์ไม่ได้
3.รีสตาร์ท พีซีดูสักครั้ง เพราะบางครั้งอาจเกิดปัญหาจากตัวระบบหรือซอฟต์แวร์ที่เก่าเกินไปหรือคีย์บอร์ดอาจจะเก่า จนทำให้การตรวจสอบล่าช้า การรีสตาร์ทเครื่องใหม่ ก็มีโอกาสทำให้มีการตรวจสอบที่เหมาะสมและพร้อมสำหรับการทำงานอีกครั้ง
คีย์บอร์ดพิมพ์ไม่ได้
4.เช็คไดรเวอร์ ที่ใช้ในการติดตั้งอุปกรณ์ ด้วยการเข้าไปที่ Device Manager จากนั้นดูในบรรทัดของคีย์บอร์ดว่ามีเครื่องหมายแจ้งเตือนหรือไม่ จากนั้นดาวน์โหลดไดรเวอร์จากผู้ผลิตมาติดตั้งใหม่อีกครั้ง แล้วลองดูว่าคีย์บอร์ดกลับมาใช้งานได้หรือไม่
คีย์บอร์ดพิมพ์ไม่ได้
5.เช็คการเชื่อมต่อ แต่ถ้าเป็นคีย์บอร์ดแบบไร้สาย อาจจะต้องตรวจสอบในส่วนของการเชื่อมต่อ อุปกรณ์รับ-ส่งข้อมูล ติดตั้งไว้ตามปกติหรือไม่ รวมไปถึงการตรวจสอบหรือการ Pair มีการเชื่อมต่อสัญญาณร่วมกันหรือเปล่า
คีย์บอร์ดพิมพ์ไม่ได้
6.ส่งเคลม สุดท้ายหากยังไม่สามารถใช้งานคีย์บอร์ดได้ แม้ว่าจะทำการแก้ไขในสิ่งต่างๆ เหล่านี้แล้ว ก็น่าจะสันนิษฐานได้ว่า เกิดจากความเสียหายของคีย์บอร์ดนั้นเอง ในกรณีที่ยังมีประกันก็ต้องส่งเคลม แต่ถ้าหมดประกันมีทางเดียวคือซื้อตัวใหม่เท่านั้น

ในบางครั้งปัญหาคีบ์บอร์ดใช้งานไม่ได้ที่เกิดจากซอฟต์แวร์ ก็จะสามารถแก้ไขได้ในเบื้องต้น เช่น การรีสตาร์ทวินโดว์ใหม่ หรือใช้การแก้ไขจากฟีเจอร์บน Windows ก็จะเป็นเรื่องที่ทำได้ และไม่น่ากังวล ส่วนถ้าเป็นปัญหาจากฮาร์ดแวร์ ถ้าไม่ได้เกี่ยวกับการต่อสายผิดหรือพอร์ตบนพีซีมีปัญหา ก็แก้ได้ไม่ยาก เพราะลองเปลี่ยนพอร์ตไปเรื่อยๆ ก็สามารถทำงานได้ แต่ถ้ากรณีที่คีย์บอร์ดมีปัญหาโดยตรง เช่น ปุ่มสวิทช์เสีย แผงวงจรภานในลัดวงจร หรือจะเป็นเรื่องของสายสัญญาณขาด หักใน สิ่งเหล่านี้ อาจจะเกินความสามารถของผู้ใช้ และคงต้องส่งเคลม หรือส่งช่างเพื่อเปลี่ยนใหม่

 

from:https://notebookspec.com/web/226016-keyboard-can-not-type-on-windows-10

ปัญหา Windows 10 ค้าง บ่อยๆ ไม่สามารถขยับเมาส์ได้ แก้ยังไงดี!

ต้องยอมรับว่า ปัญหา Windows 10 เครื่องค้าง นั่นมีถามกันเข้ามาตลอด และยังมีใน Windows เกือบทุกเวอร์ชั่นอีกด้วย แม้กระทั่ง Build ล่าสุด อย่าง 1809 ก็ยังคงมีปัญหาตามมา

ปัญหา Windows 10

ปัญหา Windows 10 ค้าง บ่อยๆ ไม่สามารถขยับเมาส์ได้ แก้ยังไงดี!

สาเหตุหลักๆของ ปัญหา Windows 10 ค้างในแต่ละแบบ

ค้างเมื่อใช้งานปกติ 

อาจจะเกิดจากการที่ไม่ได้อัพเดท Windows ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดก็อาจจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเพื่อนๆ เกิดปัญหาค้างเมื่อใช้งานโปรแกรมที่ต้องการระบบบางอย่างที่มีแต่ใน Windows เวอร์ชั่นใหม่ๆ ทำให้อาจเกิดอาการเครื่องค้าง

ค้างขณะเล่นเกม

หากเล่นเกมแล้วเครื่องมีอาการค้าง มีได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะ ไฟล์เกมมีปัญหา หรือ ใช้งานแรมเยอะมากเกินไป ส่งผลทำให้เกมค้างได้ แก้ไขด้วยการลองลบเกมแล้วลงใหม่หรืออาจลองทดสอบกับเกมอื่นว่าเป็นเหมือนกันหรือไม่

ค้างเมื่อดู Youtube

ส่วนใหญ่แล้ว Youtube ก็กรณีที่ค้างมักจะเกิดจาก VGA มีปัญหา เพราะการดู คลิป ส่วนใหญ่มักจะใช้การ์ดจอประมวลผลก่อน เมื่อการ์ดจอมีปัญหาก็ส่งผลให้เครื่องค้างนั่นเอง หรือ ก่อนค้างอาจส่งสัญญาณออกมาก่อนเช่น จอช็อต สีแตก

ค้างเมื่อเปิดเครื่อง (ช่วงหน้าจอโหลดเข้า Windows)

ปัญหานี้เกิดจาก Windows ไม่สามารถโหลดไฟล์ระบบได้ พูดง่ายๆก็คือ ระบบ OS มีปัญหานั่นเอง อาจจะไฟล์ระบบพังหรือโดนลบไป ส่งผลให้ OS ไม่สามารถโหลดไฟล์ระบบมาใช้งานได้จนค้างอยู่ที่หน้าจอโหลดนั่นเอง วิธีแก้คือ Repair Windows ใหม่ หรือ อาจจะลง Windows ใหม่

ค้างเมื่อเปิดโปรแกรมหรือเปิดหลายๆ Tab พร้อมๆกัน

ปัญหานี้เกิดจากอาการแรมไม่พอ ส่วนมากแล้วจะค้าง เฉพาะโปรแกรมที่มีการเรียกใช้แรมหนักๆ ให้เข้าไป End Task ก็จะกลับมาใช้งานได้ปกติ ถ้าไม่ค้างหนักจนถึงเข้า Task Manager ไม่ได้

 

หากเพื่อนๆ มีอาการค้างแบบไหนที่นอกเหนือด้านบนที่ทีมงานหามาให้ สามารถคอมเม้นไว้ที่ด้านล่างได้เลยครับ

from:https://notebookspec.com/fix-windows-10-hange/472091/

รวมปัญหา Windows 10 1809 เพื่อระวังไว้และเตรียมรออัพเดทแก้ไข

หลายคนอาจจะใช้ Windows 10 1809 กันแล้ว พบ ปัญหา Windows 10 หรือบางคนอาจจะยังไม่ได้ใช้กัน แต่จะมีใครรู้บ้างว่า Windows 10 1809 นั้นทำไมทาง Microsoft ถึงไม่ปล่อยให้อัพเดท Auto สักที (นอกจากเราจะอัพเดทเองด้วยวิธีใช้ Tool) สาเหตุหลักๆ คือ บัค และ ปัญหาใน Windows 10 1809 ที่มีเยอะแยะซะเหลือเกิน วันนี้ทางทีมงานได้รวบรวมปัญหาทั้งหมดที่มีใน Windows 10 1809 มาให้พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้นครับ บางอัน Microsoft อาจจะแก้ไปแล้ว แต่ส่วนมากยังไม่แก้ครับ

ปัญหา Windows 10

รวม ปัญหา Windows 10 1809

1.ปัญหา Zip ไฟล์ของตัว Windows เมื่อคัดลอกไฟล์ที่เปิดใน Explore แล้วย้ายไปวางที่อื่นที่มีชื่อเดียวกัน เนื้อหาภายในจะไม่ถูกคัดลอกเข้าไปด้วย!! (แก้ด้วยการใช้ winrar / winzip แทน)

2.ปัญหา Disk Cleanup โดยจะมีตัวเลือก Download เพิ่มเข้ามา แถมดันติ้กถูกอยู่อีก หากใครไม่ดูให้ดีๆ อาจจะเผลอไปลบไฟล์ที่เราดาวน์โหลดไว้จนหมดเกลิ้ยงได้ (รอ Microsoft แก้ไข)

3.Maped Network ที่เชื่อมต่อไว้ในเครือข่าย อาจใช้งานไม่ได้ เมื่อรีสตาร์ทเครื่อง (เป็นบางเครื่อง)

4.ปัญหา FLAC ย่อมาจาก Free Lossless Audio Codec หรือก็คือไฟล์เสียงชนิดหนึ่งนั่นเอง ดังนั้นเมื่อฟังเพลงชนิด FLAC ใน Groove Music หรือ Windows Media Player เพลงจะถูกข้ามไป (รอ Microsoft แก้ไข)

5.ปัญหา Task Manager ทำงานผิดปกติ โดยไม่ได้รายงานเปอร์เซ็นต์การใช้งานซีพียูอย่างถูกต้อง (รอ Microsoft แก้ไข)

 

เรียกว่าเยอะใช่เล่นเลย สำหรับ ปัญหา Windows 10 1809 นี้และยังมีปัญหาอื่นๆ ที่ไม่ได้พูดถึงอีกสำหรับ Windows 10 1809 แถมดูเหมือนว่ายิ่ง Microsoft ยิ่งออกแพทอัพเดท กลายเป็นสร้างบัคและปัญหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ทาง Microsoft คาดว่า แพท 2019 นี้น่าจะ แก้ปัญหา Windows 10 1809 ทั้งหมดลงได้ เพื่อจะต่อยอดไปให้กับ Windows 10 1903 ที่จะมาในเดือนเมษายนนี้

 

from:https://notebookspec.com/bug-windows-10-1809/472028/