การลง Windows 11 (หรืออื่นๆ) ใหม่ทุกครั้งนั้นรู้หรือไม่ว่ามีทริคเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณสามารถทำการปรับแต่งเพื่อให้ Windows สามารถที่จะทำงานได้ดียิ่งขึ้น มาดูกันว่าเราควรปรับแต่งอะไรกันบ้าง
![Windows 11](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/laptop-running-windows-11-1-780x390.jpg)
การลง Windows 11(หรือเวอร์ชัน 10) ใหม่นั้นโดยปกติแล้วหลายท่านอาจจะลงโปรแกรมต่างๆ ต่อเพื่อใช้งานต่อเนื่องไปเลยบางท่านก็อาจจะชอบทำการลงโปรแกรมสำหรับทำการปรับแต่ง Windows เพิ่มเติมเพื่อทำการปรับแต่งบางอย่างให้สามารถที่จะใช้งานได้สะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้นรู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วบน Windows 11(หรือ 10) เองนั้นก็การซ่อนฟีเจอร์อะไรเอาไว้หลายๆ ท่านสามารถปรับแต่งผ่านตัวระบบปฏิบัติการ Windows ได้โดยตรงโดยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องลงโปรแกรมสำหรับปรับแต่งใดๆ เพิ่มเติมเลย
ในวันนี้ทาง NBS จึงได้ทำการรวบรวมทริคหลายๆ อย่างที่ท่านสามารถทำการปรับแต่ง Windows 11(หรือ 10) ได้เองผ่านบน Windows เองมาฝากกัน จะมีทริคอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลย
- เปิดใช้งาน Clipboard History เพื่อย้ายเนื้อหาอย่างมีประสิทธิภาพ
- ตั้งค่า Nearby Sharing
- ปรับแต่งเพื่อประสบการณ์หน้าจอเดสก์ท็อปที่สะอาดตามากกว่า
- เปิดใช้งาน Storage Sense เพื่อจัดการแหล่งเก็บข้อมูลให้ดียิ่งขึ้น
- เปิดใช้งาน Find My Device เพื่อติดตามพีซีของคุณ
- ปรับแต่งการตั้งค่าแสงกลางคืนเพื่อการนอนหลับที่ดีขึ้น
- ตั้งชั่วโมงใช้งาน
- เปิดใช้งาน Dark Mode เพื่อลดอาการปวดตา
- ปรับแต่งตัวเลือก Windows Update
- เลือกโหมดพลังงาน
- ปิดใช้งานโฆษณา Windows 11
- จัดการการแจ้งเตือน
- ปิดเอฟเฟกภาพที่ไม่ต้องการ
- ปิดใช้งานแอปที่เริ่มต้นเองโดยอัตโนมัติ
- ปิดการใช้งาน Virtualization-based Security
เปิดใช้งาน Clipboard History เพื่อย้ายเนื้อหาอย่างมีประสิทธิภาพ
![clipboard history screenshot edit](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/clipboard-history-screenshot-edit-780x453.jpg)
ฟังก์ชันคัดลอกและวางมีประโยชน์สำหรับทุกคน เพราะช่วยให้คุณย้ายเนื้อหาจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้ Windows 11 มีเครื่องมือคัดลอกและวางขั้นสูงที่จะช่วยคุณประหยัดเวลาได้มาก ทว่าน่าเสียดายที่เครื่องมือนี้ไม่ได้เปิดใช้งานตามค่าเริ่มต้นเอาไว้
ด้วยเหตุผลดังกล่าวเราจึงขอแนะนำให้คุณเปิดใช้ฟีเจอร์นี้เอาไว้ โดยสำหรับ Windows 11 นั้นคุณสามารถที่จะเข้าไปใช้เปิดฟีเจอร์ดังกล่าวนี้เอาไว้ได้ตามวิธีการดังต่อไปนี้
- เปิด Settings โดยกด Win + I บนแป้นพิมพ์
- ใน System ให้เลื่อนลงมาจนกว่าคุณจะพบตัวเลือกคลิก Clipboard option
- เลือกเปิดใช้งาน Clipboard history
ตอนนี้คุณสามารถกด Win + V บนแป้นพิมพ์ของคุณเพื่อเรียกประวัติคลิปบอร์ดและเลือกรายการที่ต้องการจากสตริงข้อความหรือรูปภาพก่อนหน้าทั้งหมดที่คุณคัดลอกไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามคลิปบอร์ดของ Windows 11 จะถูกลบทิ้งไปเมื่อคุณทำการปิดเครื่องคอมพิวเตอร์
ตั้งค่า Nearby Sharing
![nearby sharing edit](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/nearby-sharing-edit-780x453.jpg)
หากคุณมีเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีหลายเครื่องที่ใช้ Windows 11 หรือ 10 ฟีเจอร์การแชร์ใกล้เคียงหรือ Nearby Sharing จะช่วยให้คุณถ่ายโอนเนื้อหาจากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งผ่านเครือข่าย Wi-Fi หรือ Bluetooth ได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามฟีเจอร์ดังกล่าวนี้จะทำงานระหว่างคอมพิวเตอร์ Windows ที่อยู่ใกล้เคียงกันเท่านั้น(หากเป็นเครือข่าย Wi-Fi ก็ต้องอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน)
ปรับแต่งเพื่อประสบการณ์หน้าจอเดสก์ท็อปที่สะอาดตามากกว่า
![delete desktop shortcuts](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/delete-desktop-shortcuts-780x412.jpg)
ไฟล์และโฟลเดอร์ที่สำคัญทั้งหมดของคุณควรอยู่ในจุดที่คุณสามารถที่จะเข้าถึงได้ง่ายมากที่สุดซึ่งวิธีการนั้นก็คือการสร้างทางลัดแอปหรือโฟลเดอร์ไว้บนหน้าจอเดสก์ท็อป คุณจะสามารถเข้าถึงทุกสิ่งที่สำคัญและจำเป็นสำหรับคุณได้เร็วมากขึ้นกว่าเดิม(โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Windows 11 และ Windows 10 ที่ Start Menu นั้นได้เปลี่ยนรูปแบบไปจากเดิม) อย่างไรก็ตามทางลัดเหล่านี้ไม่ควรมีจำนวนมากจนเดสก์ท็อปของคุณดูรกเพราะท้ายที่สุดจากที่จะกลายเป็นผลดีมันก็จะกลายเป็นผลร้ายไปแทนเพราะคุณไม่สามารถที่จะหาทางลัดในการเข้าถึงสิ่งที่ต้องการได้ง่ายอย่างที่ควรจะเป็น
คุณควรตรวจสอบสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณเป็นครั้งคราวเพื่อจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่จะเก็บไว้เป็นทางลัดบนเดสก์ท็อป หากคุณเพิ่งซื้อพีซี Windows 11 คุณจะเห็นไอคอนเดสก์ท็อป เช่น ถังรีไซเคิล คุณสามารถซ่อนไอคอนเดสก์ท็อปจากเดสก์ท็อป Windows ได้อย่างรวดเร็วด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง คุณยังสามารถลบทางลัดไปยังไฟล์หรือโฟลเดอร์ใดๆ ออกจากเดสก์ท็อปได้ด้วยการคลิกขวาที่ไฟล์หรือโฟลเดอร์ จากนั้นเลือกไอคอนถังขยะที่มุมล่างขวาของเมนูที่ปรากฎขึ้นมา
หมายเหตุ – คุณสามารถที่จะใช้แอปพลิเคชันในการช่วยจัดการหน้าจอ Desktop ได้อย่างเช่น Stardock Fences ทว่านั่นหมายถึงคุณอาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
เปิดใช้งาน Storage Sense เพื่อจัดการแหล่งเก็บข้อมูลให้ดียิ่งขึ้น
![storage sense edit](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/storage-sense-edit-780x453.jpg)
Storage Sense เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณเพิ่มพื้นที่ว่างในแหล่งเก็บข้อมูลได้อย่างชาญฉลาด เมื่อเปิดใช้ ระบบจะลบรายการที่คุณไม่ต้องการใช้อีกต่อไปโดยอัตโนมัติเช่น ไฟล์ชั่วคราว(temp)และไฟล์ในถังรีไซเคิล นอกจากนี้ Storage Sense ยังให้คุณเลือกความถี่ในการเรียกใช้งานและสิ่งที่ต้องล้างได้อีกด้วยต่างหาก อีกทั้งคุณยังสามารถจัดการเนื้อหาระบบคลาวด์ที่มีอยู่ในเครื่องที่ได้มีการเชื่อมโยงกับบัญชี Microsoft OneDrive ของคุณเอาไว้ได้อีกด้วย
โปรดทราบว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่คุณทำกับ Storage Sense จะมีผลกับบัญชีผู้ใช้ของคุณเท่านั้น ฟีเจอร์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อใครก็ตามที่ใช้พีซีเครื่องเดียวกันโดยใช้บัญชีผู้ใช้อื่น
เปิดใช้งาน Find My Device เพื่อติดตามพีซีของคุณ
![find my device edit](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/find-my-device-edit-780x453.jpg)
หากคุณไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์พีซีแบบเดสก์ท็อป(คอมตั้งโต๊ะ) Windows 11 คุณควรเปิดใช้งานการสลับค้นหาอุปกรณ์ของฉันจากแอปการตั้งค่า หากโน๊ตบุ๊คหรือแท็บเล็ต Windows 11 ของคุณสูญหายหรือถูกขโมย Find My Device สามารถช่วยคุณค้นหาตำแหน่งของอุปกรณ์ได้ เพื่อเปิดใช้ฟีเจอร์ดังต่อไปนี้ให้เข้าไปที่ Settings > Privacy & Security > Find my device แล้วหลังจากนั้นให้ทำการเปิดใช้งานเอาไว้
สำหรับวิธีการค้นหาเครื่องนั้นให้คุณเข้าใช้งานบัญชีผู้ใช้ของ Microsoft ที่คุณเชื่อมกับ Windows 11 หรือ 10 เอาไว้ผ่านทางเว็บไซต์ Microsoft เองแล้วให้เลือกไปที่ Devices แล้วเลือก Find my device
ปรับแต่งการตั้งค่าแสงกลางคืนเพื่อการนอนหลับที่ดีขึ้น
![night light edit](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/night-light-edit-780x453.jpg)
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณนอนไม่หลับตอนกลางคืนอาจเป็นเพราะคุณใช้พีซีในเวลากลางคืน พูดให้เจาะจงลงไปก็คือแสงสีฟ้าที่เปล่งออกมาจากหน้าจอมีส่วนทำให้นอนหลับยาก หากคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้พีซีของคุณในช่วงเวลากลางคืนได้ การตั้งค่าแสงกลางคืนใน Windows 11 สามารถลดการเปิดรับแสงสีฟ้าที่ดวงตาของคุณซึ่งจะช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้นในตอนกลางคืน หากต้องการค้นหาและเปิดใช้งาน ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่างดังต่อไปนี้
- เปิด Settings
- ไปที่ System > Display > Night light
- คลิก Turn on now ข้าง Show warmer colors บนจอแสดงผลเพื่อช่วยให้คุณนอนหลับ
คุณยังสามารถตั้งค่าช่วงเวลาเพื่อที่จะให้ Windows 11 ทำการเปิดใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวตามช่วงเวลาที่คุณกำหนดไว้(ซึ่งเราแนะนำให้ตั้งค่าไว้เป็นตั้งแต่ช่วง 18.00 – 06.00)
ตั้งชั่วโมงใช้งาน
![set active hours edit](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/set-active-hours-edit-780x453.jpg)
หากคุณเคยใช้ Windows 10 มาก่อน คุณอาจคุ้นเคยกับชั่วโมงใช้งานอยู่แล้ว คุณลักษณะนี้มีไว้เพื่อให้คุณควบคุมการอัปเดต Windows ให้ดีได้มากขึ้น เมื่อคุณตั้งค่าชั่วโมงใช้งานนั่นหมายความว่าคุณจะบอก Windows 11 (10) ของคุณว่าเมื่อใดควรรีสตาร์ทอุปกรณ์หลังจากติดตั้งการอัปเดต ในการตั้งค่านี้มีสองวิธีที่คุณสามารถทำได้ อันแรกคือถอนุญาตให้ Windows เรียนรู้จากกิจกรรมของอุปกรณ์เพื่อปรับชั่วโมงใช้งานโดยอัตโนมัติ หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือคุณทำการเลือกช่วงเวลาเองตามความเหมาะสมของคุณ
Windows 11 เข้าใจกิจกรรมประจำวันของคุณและเลือกช่วงเวลาที่คุณมักจะไม่ใช้พีซีโดยอัตโนมัติ คุณสามารถเลือกเวลาด้วยตนเองได้หากการใช้งานประจำวันของคุณไม่เป็นไปตามรูปแบบเฉพาะ คุณต้องปรับแต่งการตั้งค่านี้เพื่อให้แน่ใจว่าการอัปเดต Windows จะไม่ขัดขวางสิ่งที่คุณทำในระหว่างตารางการทำงาน
อย่างไรก็ตามหากคุณบังเอิญมีงานด่วนต้องทำงานในช่วงที่ Windows 11 ได้จำไปแล้วว่าคุณไม่ได้ใช้งาน ในช่วงเวลาที่คุณกำลังทำงานอยู่นั้นหากเครื่องจะมีการรีสตาร์ทเพื่อทำการอัปเดทจะมีการแจ้งเตือนให้คุณเห็นก่อนล่วงหน้า
เปิดใช้งาน Dark Mode เพื่อลดอาการปวดตา
![dark mode toggle edit](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/dark-mode-toggle-edit-780x453.jpg)
โหมดมืดหรือ Dark Mode ยังเป็นการตั้งค่าการแสดงผลที่สำคัญสำหรับอินเทอร์เฟซผู้ใช้ใน Windows 11 เมื่อเปิดโหมดนี้จะช่วยลดแสงที่ปล่อยออกมาจากพีซีของคุณเพื่อช่วยให้คุณปวดตาน้อยลง แถมยังสามารถที่จะมองหน้าจอได้ยาวนานมากขึ้น คุณควรเปิดใช้งานโหมดนี้เพื่อประหยัดพลังงานบนอุปกรณ์ของคุณเพราะโหมดนี้ช่วยลดการแสดงแสงของหน้าจอที่จะเผยออกมาส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ดีมากยิ่งขึ้น สำหรับวิธีการเปิดใช้งานนั้นให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- เปิด Settings
- ไปที่ Personalization
- คลิกเลือกที่ Colors
- ในเมนูตัวเลือก Choose your mode ให้เลือก Dark
อย่างไรก็ตามฟีเจอร์ดังกล่าวนี้จะไม่เหมือนกับโหมดมืดใน macOS เนื่องจากโหมดมืดใน Windows 11 นั้นจะไม่สามารถใช้งานได้กับทุกโปรแกรมทั้งหมด ดังนั้นคุณอาจจะเห็นการปรับปีเป็นโหมดปกติในบางโปรแกรมหากโปรแกรมดังกล่าวนั้นไม่รองรับการใช้งานโหมดมืด
ปรับแต่งตัวเลือก Windows Update
![windows update options](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/windows-update-options-780x226.jpg)
การปรับปรุงพีซีของคุณให้ทันสมัยอยู่เสมอเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความปลอดภัยและความเสถียร อย่างไรก็ตาม การกำหนดการตั้งค่าการอัปเดต Windows ก็มีความสำคัญพอๆ กัน เพราะการเริ่มระบบใหม่ผิดเวลาอาจนำไปสู่การสูญเสียชั่วโมงการทำงานโดยใช่เหตุ สำหรับวิธีการปรับแต่งนั้นให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
เปิด Settings จากนั้นเลือก Windows Update ที่ด้านล่างของแผงด้านซ้าย ที่นี่คุณสามารถดูการอัปเดตที่ดาวน์โหลดได้และหยุดชั่วคราวหรือดำเนินการอัปเดตต่อ รายการที่สำคัญกว่าคือ Advanced options ดังนั้นให้ทำการคลิกที่รายการนั้น
![customize windows update options](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/customize-windows-update-options-780x331.jpg)
ที่นี่คุณสามารถกำหนดค่าชั่วโมงทำงานระหว่างที่พีซีจะไม่รีสตาร์ท, จัดการการแจ้งเตือนการอัปเดตและวิธีการดาวน์โหลดการอัปเดต คุณสามารถปรับแต่งการตั้งค่าเหล่านี้ได้ตามความต้องการ อย่างไรก็ตามเราขอแนะนำให้คุณปิดใช้งานตัวเลือก “อัปเดตข้อมูลล่าสุดให้ฉัน” และเปิดใช้งานการแจ้งเตือนก่อนรีสตาร์ท มิฉะนั้นพีซีจะรีสตาร์ททันทีหลังจากดาวน์โหลดการอัปเดตโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า
เลือกโหมดพลังงาน
![power option](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/power-option-780x208.jpg)
การจัดการวิธีการใช้พลังงานของ Windows เป็นสิ่งที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็น Windows 11 หรือรุ่นอื่นๆ โดยค่าเริ่มต้นระบบจะตั้งค่าเป็นโหมด Balanced หรือสมดุล อย่างไรก็ตามการตั้งค่าของคุณอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการประสิทธิภาพที่ดีขึ้นหรือประหยัดพลังงาน วิธีการปรับแต่งให้คุณเข้าไปที่ System จากนั้นคลิกที่ Power เพื่อเลือกโหมดพลังงานที่เหมาะสมกับตัวเอง
![choose power mode](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/choose-power-mode-780x250.jpg)
ในส่วน Power mode คุณสามารถเลือกจาก Best power efficiency, Balanced และ Best performance ให้เหมาะสมกับการทำงานของคุณ
ปิดใช้งานโฆษณา Windows 11
![disable ads settings app](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/disable-ads-settings-app--780x329.jpg)
Microsoft ได้นำเสนอโฆษณาอย่างชาญฉลาดในพื้นที่ต่างๆ ของ Windows 11 ซึ่งแสดงเป็นเคล็ดลับหรือคำแนะนำผลิตภัณฑ์ขึ้นมาอย่างทันทีทันใด หากคุณไม่ต้องการเห็นหรือให้มันแจ้งเตือนเพื่อคอยรบกวนคุณอีกต่อไปคุณสามารถที่จะทำการปิดการโฆษณาต่างๆ เหล่านี้ได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
ไปที่ Settings แล้วคลิก Privacy & Security ในแผงด้านซ้าย คลิกที่ General แล้วปิดใช้งานตัวเลือก Show me suggested content in the Settings app
ใน File Explorer คลิกที่เมนูสามจุดที่ด้านบนแล้วเลือก Options
![file explorer options](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/file-explorer-options-780x383.jpg)
ในหน้าต่าง Folder Options ให้ย้ายไปที่แท็บ View และยกเลิกการเลือกตัวเลือก Show sync provider notifications
![disable ads file explorer](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/disable-ads-file-explorer-780x336.jpg)
ในการตั้งค่า Windows คลิกที่ System แล้วคลิกที่ Notifications
![notifications setting](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/notifications-setting-780x245.jpg)
เลื่อนไปที่ด้านล่างสุดและปิดใช้งาน Offer suggestions on how I can set up my device และ Get tips and suggestions when I use Windows
จัดการการแจ้งเตือน
![open notifications setting](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/open-notifications-setting-780x208.jpg)
คุณควรปรับแต่งการแจ้งเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนจากการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นหรือการจู้จี้ของ Microsoft เพื่อลองใช้แอปต่างๆ โดยคลิกที่ System และคลิกที่ Notifications
![disable notifications](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/disable-notifications-780x191.jpg)
อย่าลืมปิดการแจ้งเตือนสำหรับคำแนะนำที่แสดงทางด้านบนเพื่อหลีกเลี่ยงการเห็นโฆษณา/คำแนะนำในการแจ้งเตือน
ปิดเอฟเฟกภาพที่ไม่ต้องการ
![performance settings](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/performance-settings-780x275.jpg)
Windows มีภาพเคลื่อนไหวและเอฟเฟกพิเศษในทุกๆ เวอร์ชัน ดังนั้นหากคุณอยากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานคุณควรที่จะปิดภาพเคลื่อนไหวและเอฟเฟ็กพิเศษเหล่านี้ อย่างไรก็ตามการเลือกตามตัวเลือกในการปิดภาพเคลื่อนไหวและเอฟเฟ็กพิเศษนี้นั้นคุณไม่จำเป็นต้องปิดทั้งหมดก็ได้ ขอแค่เพียงดูตัวเลือกที่คุณคิดว่าเปิดหรือปิดแล้วเหมาะสมกับคุณ(แต่ทางที่ดีที่สุดก็คือปิดเอาไว้ทั้งหมดจะช่วยให้ Windows ทำงานเร็วขึ้นเยอะ)
สำหรับวิธีการปิดภาพเคลื่อนไหวและเอฟเฟ็กพิเศษนั้นในการค้นหาของ Windows ให้พิมพ์ advanced แล้วเลือก View advanced system settings ที่นี่คลิกที่ Settings ภายใต้ Performance
![adjust visual effects windows 11](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/adjust-visual-effects-windows-11-780x375.jpg)
ตอนนี้คุณจะหน้าต่างแสดงรายการเอฟเฟ็กต์ภาพทั้งหมดที่คุณสามารถปิด/เปิดใช้งานได้ คุณสามารถปิดใช้งานเอฟเฟ็กต์เหล่านี้ทีละรายการเพื่อตัดสินใจว่าคุณต้องการปิดใช้งานเอฟเฟ็กต์ใดและจะเปิดใช้เอฟเฟ็กต์ใด หากคุณต้องการประสิทธิภาพที่ดีที่สุดโดยไม่มีความแตกต่างในอินเทอร์เฟซ คุณอาจใช้การตั้งค่าที่แสดงในภาพหน้าจอด้านบนนี้ก็ได้
ปิดใช้งานแอปที่เริ่มต้นเองโดยอัตโนมัติ
![startup settings](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/startup-settings-780x277.jpg)
แอปเริ่มต้นและแอปของผู้พัฒนารายอื่นๆ จำนวนมากสามารถตั้งค่าให้เปิดใช้งานทันทีที่ Windows เริ่มทำงานได้โดยอัตโนมัติแม้ว่าคุณจะไม่ต้องการใช้ก็ตาม แน่นอนว่าการที่โปรแกรมใดๆ ก็ตามโหลดขึ้นมาตอนที่มีการเปิดใช้งานนั้นมันจะใช้ทรัพยากรของเครื่องไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผลและหน่วยความจำ กระทั่งแม้แต่ข้อมูลอินเทอร์เน็ตก็อาจจะมีการใช้งานด้วยเช่นเดียวกันซึ่งนั่นหมายถึงแบนด์วิดธ์อินเทอร์เน็ตของคุณอาจจะถูกใช้งานไปโดยที่คุณไม่รู้ตัวก็ได้ ดังนั้นคุณควรจัดการให้ Windows รันแต่โปรแกรมที่คุณต้องการขณะทำการใช้งานซึ่งสามารถที่จะเข้าไปทำการปรับแต่งได้ดังต่อไปนี้
ใน Windows settings คลิกที่ Apps ในแผงด้านซ้าย จากนั้นคลิกที่ Startup
![disable startup apps](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/disable-startup-apps-780x378.jpg)
คุณจะเห็นแอพทั้งหมดที่สามารถเริ่มต้นกับ Windows เพียงปิดสวิตช์ที่คุณไม่ต้องการใช้ทันทีที่พีซีเริ่มทำงานเท่านั้นก็ถือว่าเป็นการปิดอย่างสมบูรณ์
ปิดการใช้งาน Virtualization-based Security
![windows 11 tweaks 6](https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2023/04/windows-11-tweaks-6.png)
VBS ย่อมาจาก Virtualization-based Security ซึ่งเป็นฟีเจอร์ในการช่วยสร้างพื้นที่หน่วยความจำที่ปลอดภัยจากระบบปฏิบัติการปกติด้วยคุณสมบัติการจำลองเสมือนของฮาร์ดแวร์ จุดมุ่งหมายของระบบ VBS นั้นก็คือเพื่อปกป้องระบบจากการโจมตีของมัลแวร์และไวรัส อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ประสิทธิภาพที่ต่ำลงของเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีของคุณได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประสิทธิภาพการเล่นเกม
ดังนั้นการปิดการใช้งาน VBS จึงเป็นหนึ่งในการปรับแต่ง Windows 11 ที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมซึ่งคุณสามารถที่จะทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้เพื่อปิด VBS
- พิมพ์ Core Isolation ในช่องค้นหา
- คลิกเปิดจากป๊อปอัป
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวเลือกของ Memory Integrity ปิดอยู่เพื่อปิดใช้งาน VBS ใน Windows 11
ที่มา : minitool, geekflare, makeuseof
from:https://notebookspec.com/web/699046-settings-to-tweak-on-a-new-windows-11-install