เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการประกาศความร่วมมือระหว่าง AWS และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังหรือ KMITL เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่นักศึกษา อาจารย์เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีคลาวด์อย่างมีประสิทธิภาพ ในโอกาสนี้ยังเป็นการครบรอบ 60 ปีของ KMITL ที่มีวิสัยทัศน์ในการผลิกโฉมการศึกษายุคใหม่แบบไร้ขีดจำกัดด้วย
“ในอนาคตเด็กอาจจะไม่สนใจใบปริญญาอีกแล้ว ทุกวันนี้เด็กลดลงเรื่อยๆ ล่าสุด TCAS มีจำนวนเด็กลดลงกว่าแสนคน ดังนั้นคำถามคือโลกยังต้องการเราอยู่ไหม? ด้วยเหตุนี้เองเราต้องเปลี่ยนความคิดให้มหาวิทยาลัยเป็นเครื่องมือในการยกระดับสังคม ไม่ใช่เพียงแค่ให้บริการทางการศึกษาเหมือนเดิมอีกต่อไป” นี่คือแนวคิดจากศาสตราจารย์ ดร. สุชัชวีย์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี ของสจล. ที่ได้ตั้งเป้าวิสัยทัศน์การครบรอบ 60 ปีว่า ’60 ไร้ขีดจำกัด’ โดยสาระสำคัญมี 2 ข้อคือ
- No Impossible – เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ให้เกิดขึ้น ต้องทำลายความเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ออกไป ยกตัวอย่างเช่นในปีหน้ามีแผนที่จะเชิญนักวิจัยที่ได้รับรางวัลโนเบลชาวญี่ปุ่นมาสอน นักเรียนในสาธิตพระจอมเกล้าเพื่อเป็นการเติมไฟ ปลุกพลังให้แก่เด็กๆ ในการเรียนรู้
- No Limit – การศึกษาต้องเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และต้องไม่มีเส้นแบ่งระหว่างคณะหรือภาพวิชาใด โดยทุกฝ่ายควรจะสามารถบูรณาการความรู้ร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาระดับสังคมได้ เช่น การจราจร มลพิษ และอื่นๆ ในขณะที่เด็กเล็กตั้งแต่อนุบาลถึงมัธยมก็ควรที่จะมีสิทธิเลือกเรียนตามความสนใจ ไม่มีการแบ่งว่าวิทย์-คณิต หรือศิลป์เพื่อจำกัดการเรียนรู้อีกต่อไป นอกจากนี้สำหรับโครงการที่เกิดขึ้นล่าสุดทาง KMITL ก็ได้มีการเปิดโครงการ Bangkok42 หรือหลักสูตรสร้างโปรแกรมเมอร์ที่ไม่จำกัดอายุและเรียนฟรีขึ้นมาอีกด้วย โดยเป็นการเรียนที่ไม่มีอาจารย์ หรือใบปริญญาแต่เป็นการเรียนโดยการเรียนรู้แก้ปัญหาจริงจากภาคธุรกิจ
สำหรับ AWS Educate เองคือโครงการทางด้านการศึกษาเพื่อสร้างนักศึกษา อาจารย์ หรือบุคคลทั่วไปให้เรียนรู้ทักษะด้านคลาวด์ โดยบริษัทเองเล็งเห็นแล้วว่าตัวเองก็เติบโตขึ้นทุกปี ดังนั้นจึงสามารถชี้วัดได้ว่าในตลาดมีความต้องการแรงงานด้านเพิ่มขึ้นมาก แต่จะทำอย่างไรที่จะสร้างแรงงานเพื่อป้อนให้ทันแก่ตลาด ด้วยเหตุนี้เองจึงต้องทำทั้งการสร้างสกิลให้แก่นักเรียนและ Re-skill ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานที่ทำงานอยู่แล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมได้ฟรี!
AWS จะมีการเตรียมเอกสาร ผู้สอน หรือถ่ายทอดความรู้แก่อาจารย์ตามมาตรฐานก่อน รวมถึงจัดหาทรัพยากรให้แก่ผู้ร่วมโครงการด้วย นอกจากนี้ AWS เองยังเป็นผู้นำตลาดด้านคลาวด์อันดับหนึ่งของโลก ดังนั้นจึงมีโจทย์จริงของภาคอุตสาหกรรมมาให้ผู้เข้าร่วมได้ศึกษาและมั่นใจได้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานจริงหลังจากจบโครงการ
โดยคุณวินเซนต์ คัวฮ์ หัวหน้าฝ่ายการศึกษา หน่วยงานด้านการวิจัยธุรกิจสาธารณะสุข องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรประจำ AWS ภูมิภาคเอเซียแปซิฟิคและญี่ปุ่นกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ปัจจุบันเราทุกคนเป็นลูกค้าคลาวด์กันอยู่แล้วไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ซึ่งสิ่งที่ผมอยากเห็นต่อไปคือเราทุกคนสามารถเป็น Co-creator เพื่อถ่ายทอดไอเดียของเราให้กลายเป็นสิ่งที่ใช้ได้จริง และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างความร่วมมือกับ KMITL ผลักดันให้ทุกคนเข้าเป็นส่วนหนึ่งในผู้สร้าง Digital World ไปด้วยกัน“
เช่นเดียวกันดร. สุชัชวีย์ ก็ได้กล่าวถึงเหตุผลที่เลือก AWS ว่า “AWS คือผู้นำของโลก ซึ่งหลักสูตรที่เกิดขึ้นจึงตอบรับกับการใช้งานได้จริง เพื่อเติมเต็มความต้องการในตลาดแรงงานให้เร็วที่สุด โดยไม่ต้องไปคิดค้นลองหรือผิดลองถูกใหม่ และอยากให้คนไทยทุกคนเชื่อว่าปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้อย่าง รถติด PM 2.5 จะถูกแก้ไขได้แต่เราต้องพึ่งพาวิธีการใหม่ที่มีความซับซ้อนที่เราเรียกว่า เทคโนโลยี“
techfeedthai 