กรรมการลิขสิทธิ์ของสหรัฐฯ ออกกฎ ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งจะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์สูงขึ้น มากสุด 43.8%

ปัจจุบัน ส่วนแบ่งรายได้ของการสตรีมมิ่งนั้น กำหนดว่าต้องจ่ายให้เจ้าของลิขสิทธิเพลง 10.5% ขึ้นกับจำนวนการสตรีมมิ่งในช่วงนั้น ซึ่งจะเพิ่มขึ้นจนถึง 15.1% ในปี 2022 และล่าสุดมีกฎใหม่จาก United States Copyright Royalty Board (CRB) กำหนดให้ส่วนแบ่งรายได้ต้องเพิ่มถึง 43.8% ในอีก 5 ปีข้างหน้า

การเกิดบริการสตรีมมิ่งนั้น ทำให้เจ้าของลิขสิทธิเพลงอันได้แก่นักแต่งเพลงและผู้เผยแพร่เพลงต้องพบกับปัญหารายได้จากค่าลิขสิทธิ์ที่น้อยกว่าที่ควร อย่างเช่น Kavin Kadish นักแต่งเพลงคนหนึ่งเผยว่าในปี 2015 นั้นเขาได้เงินจาก Pandora ทั้งสิ้น 5,679 ดอลลาร์จากการสตรีมมิ่งทั้งหมด 178 ล้านครั้ง และในปี 2016 นั้น National Music Publishers’ Association ได้ทำข้อตกลงกับ Spotify เพื่อช่วยให้เจ้าของลิขสิทธิ์สามารถเรียกค่าลิขสิทธิ์ได้

สำหรับกฎใหม่ล่าสุดจาก CRB นี้ ทาง National Music Publishers’ Association และ Association of Independent Music Publishers ก็ได้เข้าไปมีส่วนในการผลักดันกฎดังกล่าวด้วยเช่นกัน

ภายใต้กฎใหม่นี้ ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Spotify, Pandora, Google, Apple, Amazon ก็ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์เป็นส่วนแบ่งของรายได้ 43.8% ซึ่งถือว่าเป็นการให้ส่วนแบ่งที่ค่อนข้างมาก แม้ว่าแท้จริงแล้วเจ้าของลิขสิทธิ์ต้องการรายได้ 0.15 ดอลลาร์ต่อการสตรีมมิ่ง 100 ครั้ง หรือ 1.06 ดอลลาร์ต่อผู้ใช้ต่อเดือนก็ตาม

ปัจจุบัน กฎของส่วนแบ่งรายได้ที่ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งจะต้องจ่ายให้เจ้าของลิขสิทธิ์ ในปัจจุบันยังคิดอัตราอยู่ที่ 10.5% ของรายได้ทั้งหมด และจะเพิ่มเป็น 11.4% ภายในปีนี้, 13.3% ในปี 2020 และสูงสุดถึง 15.1% ในปี 2022

ที่มา – Variety, Ars Technica

No Description

ภาพจาก stevepb / Pixabay (CC0 Creative Commons)

from:https://www.blognone.com/node/99459