ไมโครซอฟท์ออกอัพเดตให้กับ Visual Studio Code ตัวแก้ไขโค้ดฉบับโอเพนซอร์สขยับเลขรุ่นเป็น 1.17
ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจของอัพเดตนี้อย่างแรกคือการรองรับ Touch Bar บน Macbook Pro รุ่นใหม่ โดยจะสามารถใช้ปุ่มเดินหน้า/ถอยหลังช่วยสลับไปมาระหว่าง editor ที่ถูกเปิดใช้งานอยู่ ไปจนถึงใช้สั่งเริ่มและควบคุมการดีบักโค้ดได้
นอกจากนี้ VS Code ยังเปิดให้ส่วนเสริมหรือ extension จากนักพัฒนาภายนอกสามารถเพิ่มเมนูและรับคำสั่งจาก Touch Bar ได้เช่นกัน
ภาพสาธิตการดีบักบน VS Code ผ่านแถบเครื่องมือบน Touch Bar
ในส่วนของการช่วยจัดระเบียบโค้ด อัพเดตนี้ได้เพิ่มความสามารถให้ฟีเจอร์ code folding ช่วยซ่อน/แสดงโค้ดตาม region marker ที่โปรแกรมเมอร์กำหนดเอง
และยังได้ปรับปรุงให้ code folding ทำงานกับภาษาที่มี code block แบบ off-side rule (เช่น Python) ได้อีกด้วย
ส่วนการปรับปรุงอื่นๆ ที่ไมโครซอฟท์ยกให้เป็นไฮไลท์ของการอัพเดตครั้งนี้มีดังนี้ (หรือเข้าไปชมวิดีโอไฮไลท์ได้ที่นี่ครับ)
- ปรับปรุงประสิทธิภาพของ terminal แสดงผลได้เร็วกว่าเดิมถึง 45 เท่า
- ช่วยแนะนำ module และ path ขณะกำลังพิมพ์ import หรือ require ให้อัตโนมัติ
- ปรับปรุงการดีบักให้ช่วยแสดงผลตำแหน่งของโค้ดที่กำลังรันเป็นลิงก์ในบริเวณด้านขวาของคอนโซล และยังสามารถคลิกที่ลิงก์ดังกล่าวเพื่อสั่งให้ editor พาไปยังโค้ดตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
- ปรับปรุงสีการไฮไลท์โค้ดของธีม Dark+ และ Light+ เพื่อช่วยให้สามารถแยกแยะ regular expression และฟอร์แมทของ string (บนบางภาษา) ได้ง่ายขึ้น
- ปรับปรุง UI เมื่อใช้งาน SCM พร้อมกันหลายบริการ โดยได้เพิ่มแถบ SOURCE CONTROL PROVIDERS เข้ามาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
- เพิ่มเอกสารที่ช่วยรวมสูตรการใช้งาน VS Code กับ Java, สูตรการดีบักสำหรับเทคโนโลยี เพิ่มหน้า Tip and Tricks ช่วยแนะนำการใช้ฟีเจอร์ที่เป็นที่โปรดปรานของทีม VS Code
- ยังคงปรับปรุงการทำงานของ Multi-root workspaces ฟีเจอร์ใหม่ซึ่งจะเปิดให้ VS Code จัดการโปรเจ็กต์ได้ทีละหลายโฟลเดอร์ภายในหน้าต่างเดียว (ซึ่งเปิดให้ทดลองใช้งานบน VS Code รุ่นทดสอบหรือ Insider build)
และยังได้เริ่มเปลี่ยนไปใช้โลโก้ / ไอคอนใหม่ตั้งแต่เวอร์ชันนี้เป็นต้นไป
การปรับปรุงข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการอัพเดตครั้งนี้เท่านั้น รายละเอียดทั้งหมดสามารถเข้าไปอ่านต่อได้ที่ลิงก์ที่มาท้ายข่าวครับ
ที่มา – Visual Studio Code