[Review] รีวิว ZTE Axon 7 มือถือเรือธงพรีเมียม สเปกจัดเต็ม เสียงใสกิ๊ง ราคาคุ้มสุดๆ 15,990 บาท

สวัสดีครับเพื่อนสมาชิก Droidsans ทุกท่าน ช่วงนี้ฝนตกหนักทุกวัน รักษาสุขภาพกันด้วย วันนี้ผมรับหน้าที่มารีวิวมือถือเรือธงรุ่นล่าสุดจาก ZTE รุ่นนี้มีชื่อว่า “Axon 7” โดยจุดเด่นของมือถือรุ่นนี้นอกจากสเปกระดับเรือธงแล้ว ยังมีงานออกแบบที่สวยงามหรูหรา พร้อมทั้งระบบเสียงที่ดีมากอีกด้วย แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ราคาสุดคุ้มเพียง 15,990 บาทเท่านั้น เรามาดูรายละเอียดของมือถือรุ่นนี้กันดีกว่าครับ

 

สเปก ZTE Axon 7

  • ชื่อและรหัสเครื่อง : ZTE Axon 7 (A2017G)

  • สัดส่วน : 151.7 x 75 x 7.9 มิลลิเมตร

  • น้ำหนัก : 175 กรัม

  • หน้าจอ : AMOLED 5.5 นิ้ว ความละเอียด WQHD 2560 x 1440 พิกเซล

  • เครือข่ายที่รองรับ:

    • 4G : LTE 800 / 850 / 900 / 1700 / 1800 / 1900 / 2100 / 2300 / 2600

    • 3G : WCDMA 850 / 900 / 1700 / 1900 / 2100

    • 2G : GSM 850 / 900 / 1800 / 1900

  • SIM : 2 SIM แบบ Nano SIM (Dual standby)

  • CPU : Qualcomm Snapdragon 820 Quad-core 2.15GHz

  • GPU : Adreno 530

  • RAM : 4GB

  • หน่วยความจำภายใน : 64GB (UFS 2.Innocent รองรับ microSD card สูงสุดที่ 128GB (ช่อง Hybrid)

  • กล้องหน้า : 8 ล้านพิกเซล f/2.2 Fixed focus

  • กล้องหลัง : 20 ล้านพิกเซล f/1.8 พร้อมระบบ PDAF, OIS และ LED flash

  • แบตเตอรี่ : 3250mAh (ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้) พร้อม Quick Charge 3.0

  • OS : Android 6.0 Marshmallow พร้อม MiFavor UI 4.0

  • สแกนลายนิ้วมือ : มี (0.25 วินาที)

  • NFC : มี

  • OTG : มี

  • ไฟแจ้งเตือน: มี

  • คุณสมบัติพิเศษ:

    • ระบบเสียง Hi-Fi ชิปเสียงคู่ AK4961+AK4490 เล่นไฟล์เสียงระดับ 32-bit

    • ระบบเสียง Dolby Atmos 7.1

    • Hi-Res audio certified

    • ระบบชาร์จเร็ว Quick Charge 3.0 ชาร์จแบต 50% ใน 30 นาที

  • เซ็นเซอร์และการเชื่อมต่ออื่นๆ:

    • GPS, A-GPS

    • Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac dual band

    • WiFi-Direct

    • Bluetooth 4.2, A2DP

    • USB 3.0 Type-C

    • หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

    • Accelerometer, Proximity, Light, Compass, Gyroscope

  • สีที่มีให้เลือก : ทอง (Ion Golden) และ เงิน (Chromium Silver)

zte-axon-7-review-spec.jpg

 

แกะกล่อง Axon 7

ZTE Axon 7 เป็นมือถือที่เรียกว่าพรีเมียมทั้งตัวเครื่องและกล่องแพ็คเกจที่ใส่อุปกรณ์มาให้เลย กล่องเป็นกระดาษแข็งสีดำที่ผิวสัมผัสคล้ายกำมะหยี่ จับแล้วนิ่มๆ รู้สึกดีมาก ตรงกลางมีโลโก้ของ AXON 7 ตัวใหญ่สีทองตัดกับสีดำแล้วดูหรูดีเหมือนกัน

zte-axon-7-review-unbox01.jpg

เปิดฝากล่องออกมาก็จะเห็นตัวเครื่อง AXON 7 สีทองนอนรออยู่ให้หยิบขึ้นมาชื่นชมกันได้ มีแถบกระดาษเอาไว้ดึงตัวเครื่องออกมาด้วย จะได้ไม่ต้องแงะให้กล่องเบี้ยวหรือเป็นรอย

zte-axon-7-review-unbox02.jpg

เมื่อเปิดชั้นที่วางตัวเครื่อง ก็จะเห็นอุปกรณ์ต่างๆวางอยู่อย่างเป็นระเบียบ อย่าหาว่าผมเวอร์เลย แต่ดูแล้วมันเป็นแพ็คเกจที่หรูหราดีจริงๆ

zte-axon-7-review-unbox03.jpg

สำหรับอุปกรณ์ในกล่องทั้งหมดจะมีตามรายการด้านล่าง เรียกว่าให้มาครบจบในตัว

  • ตัวเครื่อง Axon 7

  • หูฟังสเตอริโอแบบ earpod พร้อมไมค์

  • สาย USB Type C

  • Adapter สำหรับชาร์จแบบ Quick Charge 3.0

  • หัวแปลง USB Type B เป็น Type C

  • เข็มจิ้มถาดซิม

  • เคสซิลิโคนใสตรงรุ่น

  • คู่มือและใบรับประกัน

zte-axon-7-review-unbox04.jpg

สำหรับ Adapter ที่ให้มานั้นรองรับมาตรฐานชาร์จเร็วของ Quick Charge 3.0 ของ Qualcomm มาเรียบร้อย โดยสามารถจ่ายไฟได้ 3 ระดับคือ

  • 5.0V === 3.0A

  • 9.0V === 2.0A

  • 12.0V === 1.5A

zte-axon-7-review-unbox05.jpg

เข็มจิ้มถาดซิม (SIM Tray ejector) ของรุ่นนี้มีที่ใส่มาให้ด้วย สามาถคล้องกับพวงกุญแจพกพาได้ครับ

zte-axon-7-review-unbox06.jpg

หูฟังที่แถมมากับ Axon 7 นั้นมีกล่องเก็บอย่างดี หน้าตาก็ดูคุ้นเป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นหูฟังแบบ EarPods ของ Apple นั่นเอง โดยตัวหูฟังเป็นสีทองกับสีขาว เข้าชุดกับสีตัวเครื่อง Axon 7 เป็นอย่างดี

zte-axon-7-review-unbox07.jpg

นอกจากนั้น ZTE ยังให้ตัวแปลงหัว USB จาก Type B เป็น Type C มาด้วย ทำให้เราสามารถใช้งานร่วมกับสาย USB ของ Android ทั่วไปเหมือนเดิม แต่ต้องพกตัวแปลงไว้ตลอดนะ

zte-axon-7-review-unbox08.jpg

จบการแกะกล่องของ ZTE Axon 7 ไว้เท่านี้ เรียกว่าให้ของมาครบจบในตัว ไม่ต้องหาซื้อเพิ่มเติมมาใช้อีก ขอปรบมือให้กับความพร้อมของแพ็คเกจนี้จริงๆ ต่อไปเรามาดูเรื่องของ hardware กันบ้างดีกว่า

 

ว่ากันด้วยเรื่อง Hardware

ZTE Axon 7 เป็นมือถือบอดี้โลหะแบบไร้รอยต่อ (Unibody) งานเนี้ยบ เนียนกริบ สัมผัสหรูหรา สามารถจับถือในมือได้ค่อนข้างสะดวก เพราะตัวเครื่องไม่ใหญ่มาก ถึงแม้จะมีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว สังเกตได้จากหน้าจอที่ขอบจอนั้นบางพอสมควร แต่จริงๆก็ใช้งานมือเดียวได้ไม่ 100% หรอกครับ หน้าจอใหญ่ขนาดนี้ ยังไงก็ต้องมีสองมือบ้างอยู่แลเว โดยทาง ZTE บอกว่าตัวเครื่องนั้นออกแบบโดย Designworks บริษัทย่อยของ BMW ครับ

zte-axon-7-review-hardware01.jpg

ด้านหลังของตัวเครื่องเป็นโลหะชิ้นเดียวไร้รอยต่ออย่างที่บอกไป ผิวสัมผัสเป็นแบบด้านคล้ายเนื้อทรายนิดๆ ไม่เห็นรอยนิ้วมือให้รำคาญตา ชิ้นงานมีความมันวาวสะท้อนแสงบางส่วน บริเวณกล้องหลังและพื้นที่สแกนลายนิ้วมือ เครื่องนี้เวลาโดนแอร์แล้วเย็นดีจริงๆขอบอก

zte-axon-7-review-hardware02.jpg

เรามาไล่ดูแต่ละส่วนรอบๆตัวเครื่องกันดีกว่า เริ่มจากด้านหน้า สิ่งที่สะดุดตาเป็นอันดับแรกคือ “ลำโพงคู่สเตอริโอ” บนล่างที่เห็นได้ชัดเจนมาก (ตรงนี้หลายคนบอกแปลกๆ) สำหรับผมคิดว่าตำแหน่งเหมาะสมแล้ว แต่ Speaker Grill มันใหญ่ไปนิด ส่วนเรื่องเสียงนั้นขอบอกว่า “แจ่ม” มีความดังและชัดเจนดีมาก

zte-axon-7-review-hardware03.jpg

ซูมเข้ามาดูส่วนบนของหน้าจอจะเห็นเพียงกล้องหน้า 8MP แต่ที่จริงก็มีเซ็นเซอร์วัดแสง, Proximity และอื่นๆ ฝังอยู่ นอกจากนั้นยังมีไฟแจ้งเตือน (Notification LED) 2 สี แดงและเขียวอยู่ด้วย

zte-axon-7-review-hardware04.jpg

ส่วนล่างของหน้าจอจะมีปุ่ม Navigation แบบสัมผัส 3 ปุ่ม ตรงกลางเป็นปุ่ม Home ด้านซ้ายและขวาสามารถเลือกสลับได้ระหว่าง Back และ Recents เท่าที่ลองใช้งานรู้สึกปุ่มมันชิดกันเกินไป กดพลาดไปไม่โดนประจำเลย อ้อ ตัวปุมไม่มีไฟ backlight ให้ด้วย ตอนมืดอาจจะต้องคลำดีๆหน่อย

zte-axon-7-review-hardware05.jpg

หน้าจอของ ZTE Axon 7 นั้นเป็นหน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ WQHD (2K) 2560 x 1440 พิกเซล ภาพที่ได้นั้นมีความคมชัด Contrast และสีสันจัดจ้าน แต่ไม่จัดเหมือนกับ Super AMOLED ของ Samsung นะครับ โดยรวมเป็นหน้าจอที่ดีมากเช่นกัน ดูแล้วภาพนิ่งและวิดีโอแล้วเพลินตาดีจริงๆ

zte-axon-7-review-hardware05-1.jpg

ด้านบนของตัวเครื่องมีรูเสียบหูฟัง 3.5 มม. และรูไมค์ตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน

zte-axon-7-review-hardware06.jpg

ด้านล่างของตัวเครื่องมีพอร์ต USB Type C สำหรับเสียบชาร์จและโอนข้อมูล ข้อดีคือไม่ต้องกังวลว่าจะเสียบกลับด้าน เพราะเหมือนกันทั้งสองด้าน ถัดไปทางซ้ายคือรูไมค์สนทนา ซึ่ง ZTE บอกว่าหากทำการอัดเสียง ไมค์ทั้งสองตัวจะทำงานร่วมกันแล้วสามารถอัดเสียงได้ไกลถึง 8 เมตรเลยทีเดียว

zte-axon-7-review-hardware07.jpg

ด้านขวามีปุ่มปรับเสียงและปุ่ม Power ตามมาตรฐานมือถือ Android แต่ปุ่มทั้งสองนั้นมีอาการคลอนนิดๆ ดูไม่แข็งแรง ตรงนี้ถือว่าเสียรูปมวยงานประกอบระดับพรีเมียมเลยครับ

zte-axon-7-review-hardware08.jpg

ด้านซ้ายเป็นช่องสำหรับถาดซิมที่เรียบไปกับตัวเครื่องเลย

zte-axon-7-review-hardware09.jpg

ถาดซิมของ Axon 7 นั้นเป็นแบบ hybrid 2 ซิม คือ รองรับ 2 ซิมแบบ Nano SIM หรือจะใส่ซิมเดียวกับ microSD card ได้อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น

zte-axon-7-review-hardware10.jpg

ด้านหลังของตัวเครื่องไล้จากบนลงล่างประกอบด้วยกล้องหลัง 20MP ถัดลงมาเป็น Dual-LED และท้ายสุดคือ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่สามารถทำงานได้รวดเร็วถึง 0.25 วินาที เท่าที่ลองใช้งานดูก็เร็วจริงๆครับ

zte-axon-7-review-hardware11.jpg

โดยรวมงานออกแบบ, วัสดึที่ใช้ และงานประกอบของ ZTE Axon 7 นั้นทำได้ดีในระดับที่พรีเมียมน่าพอใจ ส่วนที่อาจจะต้องปรับปรุงคือ ปุ่ม Power และปุ่มปรับเสียง ที่มีอาการคลอนนิดๆ ดูไม่แข็งแรงสักเท่าไหร่ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะทำให้ดูแข็งแรงได้มากกว่านี้ ส่วนหน้าจอและลำโพงของมือถือรุ่นนี้ก็จัดว่าทำได้ดีมากเช่นกัน สมฐานะมือถือเรือธงอีกหนึ่งรุ่นในตลาดตอนนี้เลย

 

ระบบเสียง Hi-Fi และ Dolby ATMOS

จุดเด่นอย่างหนึ่งของ ZTE Axon 7 คือระบบเสียง Hi-Fi ที่ขับเคลื่อนด้วยชิปเสียงระดับพรีเมียม AK4961 และ AK4490 ช่วยให้สามารถเล่นไฟล์เสียงได้ถึงระดับ 32-bit และจากการทดลองฟังเพลงบนสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ขอรับรองว่า “คุณภาพเสียงดีมาก” เสียงเพลงมีความคมชัด รายละเอียดครบ เปิดไฟล์ bitrate ต่ำๆก็มีการ upscale ขึ้นมาให้น่าฟังมากขึ้น เป็นการฟังเพลงที่สุนทรีย์อย่างมาก เหมาะกับคนรักการฟังเพลงบนมือถืออย่างแน่นอน

zte-axon-7-review-hifi01.jpg

นอกจากชิปเสียงแล้วหูฟังที่แถมมาด้วยก็เสียงดีเช่นกัน เป็นหูฟังแบบ on-ear ที่มีความชัดใส และให้เบสพอประมาณ มีอิมแพ็ค ดีกว่าหูฟัง earbud ทั่วไป เรียกว่าเข้าคู่กับชิปเสียงในเครื่องได้เป็นอย่างดี

zte-axon-7-review-hifi02.jpg

ส่วนของลำโพงนั้นมีความดังและชัดเป็นตัวนำ สเตอริโอแยกเสียงซ้ายขวาได้จริง และระบบ Dolby ATMOS นั้นช่วยแสดงศักยภาพของลำโพงได้เป็นอย่างดี เอาง่ายๆ แค่เปิดวิดีโอ demo เพื่อลองฟังเสียง Dolby ก็สร้างความประหลาดใจให้คนฟังได้แล้ว

zte-axon-7-review-hifi03.jpg

 

ระบบซอฟต์แวร์

ZTE Axon 7 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow โดยจะมี MiFavor UI 4.0 ครอบทับอยู่ ดังนั้นหน้าตาระบบจะมีการเปลี่ยนแปลงไม่เหมือน Stock Android ทั่วไป โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดคือ “ไม่มี App Drawer ให้ใช้งาน” ซึ่งเป็นเทรนด์ของมือถือจากผู้ผลิตจีนส่วนใหญ่อยู่แล้ว ดังนั้นแอปทั้งหมดจะอยู่บนหน้า Homescreen เลยครับ ในส่วนของ Quick settings นั้นมีการปรับให้มี toggles จำนวนมากขึ้น และสามารถปรับแสงของหน้าจอได้เลยทั้งปรับเองและแบบอัตโนมัติ

zte-axon-7-review-software01.jpg

Mi-POP คือฟีเจอร์ปุ่มซอฟต์แวร์ลอยไปลอยมาบนหน้าจอ เอาไว้ถนอมการใช้งานปุ่มจริง คล้ายๆกับ AssistiveTouch ของ iOS นั่นเอง เราสามารถเปิดปืดได้จากหน้า Quick settings เลย

zte-axon-7-review-software02.jpg

Settings จะแบ่งเป็น 2 tab อันแรก Frequently used จะรวมเอา settings ที่เราใช้ประจำไว้ให้ และแท็บ All settings คือหน้า settings มาตรฐานจัดเรียงแบบ list บนลงล่างตามปกติ

zte-axon-7-review-software03.jpg

Themes & wallpapers จะมี theme ให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ ไม่สามารถ download เพิ่มเติมได้ ส่วน wallpaper ก็มีให้เลือกประมาณหนึ่ง สำหรับ Theme นั้นจะเป็นแบบ Full theme คือเปลี่ยนทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นโทนสี, ไอคอน, wallpaper, ringtone และอื่นๆ แต่ระบบยังมี bug อยู่นิดๆ เพราะบางครั้งผมเปลี่ยน Theme ไปแล้วโทนสีไม่เปลี่ยน หรือเปลี่ยน wallpaper ให้ lockscreen ก็ไม่เปลี่ยน เป็นต้น ต้อง reboot เครื่องถึงจะเห็น

zte-axon-7-review-software04.jpg

Tools เป็นแอปรวมเครื่องมือหลายๆอย่างให้เราใช้งาน เช่น เข็มทิศ, ไฟฉาย, เครื่องคิดเลข หรือแม้แต่ เครื่องวัดระดับเสียง, ไม้บรรทัด, และโปรแทร็กเดอร์ก็มี

zte-axon-7-review-software05.jpg

Power management เป็นส่วนจัดการระบบประหยัดพลังงานของเครื่อง โดยระบบจะเปิด Smart power-save ไว้ให้อยู่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มลดความเร็วของ CPU ตามการใช้งานต่างๆ สำหรับโหมด Ultra Power Saving จะทำการปรับหน้าจอเป็นขาวดำ และปิดฟีเจอร์กินแบตหลายๆอย่าง เช่น ลดความสว่าง, ปืดอินเตอร์เน็ต, ปืด Bluetooth และ GPS เป็นต้น นอกจากนั้นเราสามารถตรวจสอบแอปที่กินแบตมากเป็นพิเศษได้อีกด้วย

zte-axon-7-review-software06.jpg

Gestures & motion เป็นฟีเจอร์ที่ต้องมีสำหรับสมาร์ทโฟนปัจจุบันไปซะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแตะ 2 ครั้งเพื่อเปิดหน้าจอ (Double tap), จีบสามนิ้วบนหน้าจอเพื่อจับภาพ, รับสายทันทีที่เอามือถือมาแปะที่หู และอื่นๆ

zte-axon-7-review-software07.jpg

Navigation keys เป็นส่วนการสลับปุ่ม Back และปุ่ม Recents ตามความถนัดของผู้ใช้

zte-axon-7-review-software08.jpg

Breathing light หรือไฟแจ้งเตือนนั่นเอง โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะให้มีไฟแจ้งเตือนสำหรับอะไรบ้าง เช่น ตอนชาร์จโทรศัพท์, ตอนแบตใกล้หมด, ตอนที่มีการแจ้งเตือนแล้วยังไม่ได้อ่าน เป็นต้น

zte-axon-7-review-software09.jpg

โดยรวมระบบซอฟต์แวร์ของ ZTE Axon 7 ถือว่าทำได้ดี มีฟีเจอร์ให้ใช้ประโยชน์หลายอย่าง พวกแอปที่เป็น bloatware ไร้ประโยชน์นั้น ไม่มีสักเท่าไหร่ แต่การทำงานบางครั้งยังมีอาการเพี้ยนอยู่บ้าง เช่น การเปลี่ยน Theme แล้วไม่เปลี่ยนตาม หรือ ระบบปรับแสงหน้าจอัตโนมัติที่ส่วนใหญ่จะออกมืดไปหน่อย และบางครั้งก็ปรับไม่ทันในที่มืด บางทีเปิดหน้าจอขึ้นมาโดนไฟแยงแสบตากันไปเลย

ปัญหา data ไม่ตัดทั้งที่ต่อ Wi-Fi แล้ว

ในระหว่างทดสอบ Axon 7 ผมพบปัญหาอย่างหนึ่งในระบบซอฟต์คือ หากเรามีการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่ยังไม่สามารถเข้าอินเตอร์เน็ตได้ ระบบจะยังไม่ตัดการเชื่อมต่อ data ที่เป็น 4G หรือ 3G ของเรา แล้วหลังจากที่ Wi-Fi สามารถออกอินเตอร์เน็ตได้ ระบบก็ยังคงไม่ตัดการเชื่อมต่อ data และยังคงใช้งาน data ของเราต่อไปแบบไม่รู้ตัว ถ้าเราไม่สังเกตสัญลักษณ์ด้านบนหน้าจอ ปัญหานี้ผมเจอทุกครั้งเวลาต่อ Wi-Fi ของผู้ให้บริการเครือข่ายที่ต้อง login ก่อนใช้งาน หรือแม้แต่ต่อ Wi-Fi ที่บ้าน ตอนช่วงที่เพิ่งเปิด router ขึ้นมาแล้วยังใช้อินเตอร์เน็ตไม่ได้ทันที ต้องรออีกสักนิดถึงใช้ได้

zte-axon-7-review-software10.jpg

 

ประสิทธิภาพและความอึดของแบต

ZTE Axon 7 เป็นมือถือที่จัดสเปกมาให้อย่างสมศักดิ์ศรีเรือธงในปัจจุบัน ไม่ว่าเป็นชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 820 ที่มาพร้อม GPU ตัวแรง Adreno 530 นอกจากนั้นยังให้ RAM มาอีก 4GB ด้วยคุณสมบัติระดับต้องบอกว่า แรงหายห่วง และแรงไม่น้อยหน้ามือถือเรือธงในตลาดเมืองไทยปัจจุบันเลยล่ะครับ จะว่าไปนี่เป็นมือถือรุ่นที่สองที่ใช้ Snapdragon 820 แลัววางจำหน่ายเป็นทางการในประเทศไทย ถัดจาก Xperia X Performance ของ Sony เท่านั้นเอง

zte-axon-7-review-performance01.jpg

Antutu Benchmark

 

zte-axon-7-review-performance02.jpg

Geekbench 3

 

จากการใช้งานต้องบอกว่าประสิทธิภาพของ ZTE Axon 7 นั้นเหลือกินเหลือใช้ เล่นอะไรก็ลื่นไหล ไม่มีอาการสะดุดให้เห็น เปิดแอป สลับแอป เล่นเกม คุย Line เรียกว่าสบายๆ ใช้งานได้อีก 2-3 ปีเป็นอย่างน้อยสำหรับรุ่นนี้

ในส่วนของแบตเตอรี่ขนาด 3250mAh ที่ให้มานั้นดูเหมือนเยอะ แต่ก็พอใช้งานเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น เท่าที่ผมใช้งานพร้อมเปิดฟีเจอร์ Smart power-save ไว้ด้วย เล่นอินเตอร์เน็ต, ใช้งาน social network, ฟังเพลง และถ่ายรูปบ้าง พบว่าใช้งานได้ประมาณ 12-14 ชั่วโมง แต่ไม่ต้องห่วงเพราะระบบ Quick Charge 3.0 คือพระเอกที่จะมาช่วยคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสียบสายชาร์จไม่กี่นาทีก็ได้แบตเพิ่มขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ ตามสเปกบอก ชาร์จถึง 50% ภายใน 30 นาทีก็ตามนั้นเลย มีประโยชน์มากๆครับ

zte-axon-7-review-performance03.jpg

 

กล้องถ่ายรูป

zte-axon-7-review-camera01.jpg

ZTE Axon 7 มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 20MP ใช้ระบบกันสั่น OIS และระบบโฟกัสแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) เลนส์มีค่า f/1.8 เรียกว่ามัคุณสมบัติพร้อมสำหรับกล้องของมือถือเรือธง ในส่วนของ UI กล้องนั้นก็เข้าใจง่ายและมีฟีเจอร์ให้ใช้งานได้หลายอย่าง ฟีเจอร์แตะจุดโฟกัสแล้วสามารถปรับความสว่างของภาพได้ก็มีมาด้วย

zte-axon-7-review-camera02.jpg

Axon 7 สามารถถ่ายภาพนิ่งได้ที่ความละเอียดตั้งแต่ 2MP ไปจนถึง 20MP โดยสัดส่วนจะแตกต่างกันตามความละเอียดด้วย

zte-axon-7-review-camera03.jpg

มีโหมด Filter ให้เลือกถ่ายได้หลายแบบ พร้อมพรีวิวให้เห็นก่อนเลย ไม่ต้องถ่ายแล้วมาดูอีกที

zte-axon-7-review-camera04.jpg

โหมด Pro ก็มีให้ใช้งาน โดยสามารถเลือกจุดโฟกัสและจุดวัดแสงแยกกันได้ ส่วนค่าที่ปรับได้ประกอบด้วย Shutter speed, ISO, EV, WB และระยะโฟกัส

zte-axon-7-review-camera05.jpg

โหมดเสริมอื่นๆก็น่าสนใจ เช่น Super Night สำหรับถ่ายภาพกลางคืนแบบมีขาตั้ง หรือ Magic exposure ที่เอาไว้ถ่ายไฟรถยนต์, ถ่ายดาว หรือถ่ายกระแสน้ำ เป็นต้น

zte-axon-7-review-camera06.jpg

สำหรับคุณภาพของรูปถ่ายที่ได้นั้น ในสภาพแสงที่เพียงพอจะได้ภาพที่มีความคมชัดและรายละเอียดที่ดี หากเทียบกับมือถือเรือธงเจ้าตลาด Axon 7 จะได้เปรียบเรื่องรายละเอียดภาพ เพราะมีความละเอียดสูงถึง 20MP ส่วนสีนั้นจะไม่ฉูดฉาด ออกทึมนิดๆ แต่ยังคงความสวยงาม สำหรับรูปถ่ายในสภาพแสงน้อยจะมี noise เป็นวุ้นค่อนข้างชัดเจน และขาดรายละเอียดไปบ้าง ตรงนี้จะยังสู้ไม่ได้เมื่อเทียบกับมือถือเรือธงเจ้าตลาดในตอนนี้ นอกจากนั้นปัญหาสำคัญที่พบคือ ความเร็ว shutter ที่ช้าแบบรู้สึกได้ คือ กดถ่ายแล้วยังไม่ถ่าย ต้องรอนิดนึง ถึงแม้จะเป็นการถ่ายในที่แสงเพียงพอก็ตาม และอาการจะยิ่งหนักตอนแสงน้อย นอกจากนั้นรู้สึกว่าตัวซอฟต์แวร์จะมีปัญหากับการวัดแสงอยู่ เพราะบ่อยครั้งที่การถ่ายรูปโดบปรับเป็น Night mode ทั้งที่ยังมีแสงเพียงพอ อันนี้มองในแง่ดีคือ เป็นปัญหาที่ซอฟต์แวร์กล้อง ดังนั้นคงต้องรอดูซอฟต์แวร์อัพเดตจาก ZTE อีกทีว่าจะมีการแก้ไขหรือไม่

ตัวอย่างรูปถ่ายจาก ZTE AXON 7

http://albumizr.com/a/7Yqu

กล้องของ Axon 7 สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K 30fps มีทั้ง format H.265 และ H.264 ซึ่งต่างกันที่ขนาดไฟล์ของ H.265 จะเล็กกว่ามาก ประหยัดพิ้นที่ได้ดี แต่ข้อเสียคือ ยังไม่มี platform มารองรับการเปิดดูไฟล์แบบนี้มากนัก โดยเฉพาะ Youtube ที่ยังไม่รองรับ format นี้ และ TV หลายรุ่นก็ยังไม่รองรับ ดังนั้นแนะนำว่าให้ถ่ายแบบ H.264 จะดีกว่า โดยระบบกันสั่นของการถ่ายวิดีโอจะเป็นแบบ EIS ไม่ใช่ OIS ดังนั้นจึงทำได้ไม่ดีเท่าตอนถ่ายภาพนิ่ง และกันสั่นใช้กับวิดีโอ 4K ไม่ได้ต้อง 1080P ลงไปเท่านั้น

zte-axon-7-review-camera07.jpg

 

 

กล้องหน้าสามารถถ่าย Selfie ได้ที่ความละเอียด 8MP มีโหมด Beautify ทำหน้าเนียนให้ใช้ คุณภาพโดยรวมถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐาน ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ

Normal

Beautify

โดยรวมถ้าว่ากันตามสเปก กล้องของ ZTE Axon 7 นั้นน่าจะจัดอยู่ในระดับเรือธงได้สบายๆ คุณภาพของภาพถ่ายน่าจะเทียบเท่าหรือสูสีกับมือถือคุ่แข่งได้ แต่ด้วยปัญหาของซอฟต์แวร์กล้องทำให้ภาพออกมายังไม่สุดความสามารถของกล้อง และมีอาการช้าของ shutter ค่อนข้างชัดเจน ตรงนี้ผมมองว่าเป็นปัญหาของ software ไม่ใช่ hardware ซึ่ง ZTE สามารถออกอัพเดตมาแก้ไขได้ครับ

 

บทสรุป

ZTE Axon 7 เป็นมือถือระดับเรือธงอย่างแท้จริง มีจุดเด่นทั้งในเรื่องงานออกแบบและวัสดุระดับพรีเมียม กล่อง packaging ที่สวยงาม และให้อุปกรณ์มาครบถ้วนจบในตัว ในด้านของสเปกเครื่องก็ใช้ชิปเซต Snapdragon 820, RAM 4GB, ROM 64GB, กล้องหลัง 20MP และ USB Type C นี่คือคุณสมบัติของมือถือเรือธงอย่างแท้จริง บวกกับระบบเสียง Hi-Fi และ Dolby ATMOS เข้าไปนี่คือ มือถือสำหรับคนที่รักการฟังเพลงอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ก็ใช่ว่าจะดีไปซะทุกอย่าง เพราะ Axon 7 ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงอยู่่ ทั้งในเรื่องคุณภาพของรูปถ่ายจากกล้อง 20MP และระบบซอฟต์แวร์โดยรวมที่มีอาการเพี้ยนให้เห็นบ้าง ผมขอสรูปจุดดีและจุดที่ควรปรับปรุงของมือถือรุ่นนี้ไว้ดังนี้

จุดดี

  • งานออกแบบและวัสดุโลหะพรีเมียมดีมาก

  • กล่อง packaging ดีมาก ให้อุปกรณ์มาครบจบในตัว

  • หน้าจอ AMOLED 2K สีสวยและคมชัด contrast ดี สีไม่จัดเหมือน Super AMOLED

  • เครื่องแรงหายห่วง สมกับเป็น flagship

  • ระบบเสียง Hi-Fi เสียงดี ทั้งฟังจากหูฟังและลำโพงคู่

  • ลำโพงคู่เสียงดัง คมชัด แต่หน้าตาแปลกๆ ไปหน่อย Dolby ATMOS เสียงดีสุดๆ

  • Quick Charge 3.0 คือความดีงาม ชาร์จเร็วได้ใจ

 จุดที่ควรปรับปรุง

  • ปุ่ม Power กับ Volume คลอน ไม่แน่น ดูไม่แข็งแรง

  • แบตไม่อึดมากแค่พอใช้ใน 1 วันแบบปริ่มๆ

  • ปุ่ม Navigation ชิดกันเกินไป แถมไม่มี backlight ให้

  • กล้องแสงปกติถือว่าแจ่ม แต่แสงน้อยจัดว่าด้อยกว่าเรือธงรุ่นอื่น

  • OIS ใช้ได้เฉพาะถ่ายภาพนิ่ง ถ่าย Video เป็น EIS

  • การถ่ายรูปมีความหน่วงของ shutter แสงปกติก็หน่วงนิดๆ แสงน้อยหน่วงมากหน่อย

  • มีปัญหาต่อ Wifi แล้วไม่ยอมตัด data ซึ่งเกิดกับ Wifi ประเภทที่ต่อแล้วยังเล่นเน็ตไม่ได้ ต้องใส่ password ก่อน

ก็จบไปแล้วครับสำหรับรีวิว ZTE Axon 7 มือถือระดับเรือธงในราคาสุดคุ้ม ที่มีข้อดีหลายๆอย่าง ถ้ามีคนมาถามว่า แนะนำให้ซื้อมั้ย? ผมตอบได้เต็มปากว่า “ซื้อเลย” เพราะถึงแม้จะมีจุดที่ต้องปรับปรุงอยู่บ้าง แต่สำหรับผมคิดว่าไม่ซีเรียสเท่าไหร่ ปัญหาบางอย่างก็สามารถแก้ไขได้ในภายหลังจากซอฟต์แวร์อัพเดตนั่นเอง และด้วยราคาเพียง 15,990 บาท แต่ได้สเปกจัดเต็มขนาดนี้ ผมว่า ZTE Axon 7 น่าจะเป็นมือถือเรือธงที่ราคาถูกที่สุดในประเทศไทยแล้วล่ะครับ เพื่อนสมาชิกคิดเห็นว่าอย่างไร ร่วมแชร์ความคิดเห็นกันได้ วันนี้ผมขอลาไปก่อน สวัสดีครับ

zte-axon-7-review-end.jpg

from:http://droidsans.com/review-zte-axon-7