ในงาน WWDC 2016 สิ่งที่เปลี่ยนไปมากที่สุดคงหนีไม่พ้น Mac OS X ที่รอบนี้ประกาศเปลี่ยนชื่อใหม่หมดจด พร้อมเปิดฟีเจอร์ใหม่ที่หลายคนรอกันมานานแสนนาน ซึ่งฟีเจอร์ของ macOS Sierra นั้นก็มีดังต่อไปนี้
เปลี่ยน… เปลี่ยนทำไม!!??
Craig Federighi ให้เหตุผลของการเปลี่ยนชื่อจาก OS X เป็น macOS ว่าปัจจุบัน Apple มี 4 แพลตฟอร์มที่ต้องดูแล และ OS X คือแพลตฟอร์มที่เก่าแก่ที่สุด เพราะมีอายุกว่า 15 ปีแล้ว แต่เมื่อเทียบชื่อทุกแพลตฟอร์มเข้าด้วยกัน OS X มันก็เลยดูแปร่งๆ Apple เลยตัดสินใจเปลี่ยนชื่อให้ใหม่ซะเลยดีกว่า เพื่อที่ผู้ใช้จะได้จำได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
Continuty ที่ทั้ง “ล้ำ” และ “ลึก” ยิ่งกว่า
ฟีเจอร์แรกที่ถูกพูดถึงของ macOS Sierra คือ Continuty โดย Continuty ใน macOS Sierra จะได้รับการปรับปรุงฟีเจอร์เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการรองรับการปลดล็อกเครื่องโดยอัตโนมัติ เพียงแค่มี Apple Watch อยู่ใกล้ๆ ในระยะที่เครื่องสามารถมองเห็น ผู้ใช้ก็สามารถข้ามขั้นตอนการใส่รหัสผ่านและเปิดใช้งานเครื่องได้ทันทีโดยไม่ต้องใส่รหัสใหม่ทุกครั้ง
ที่สำคัญคือ macOS Sierra ยังรองรับฟีเจอร์ Universal Clipboard ร่วมกับ iOS 10 อีกด้วย ทำให้ทั้งสองแพลตฟอร์มสามารถแชร์ข้อมูลบนคลิปบอร์ดร่วมกันได้ ตัวอย่างเช่น ออกแบบสไลด์ไว้ใน iPad แต่ต้องการนำมาใช้จริงบน Keynote ก็สามารถทำได้โดยการก็อปสไลด์ที่ออกแบบบน iOS และกดปุ่ม Paste บน Mac เพื่อดึงข้อมูลจาก Clipboard ของ iOS ขึ้นมาใช้งานได้ทันที
iCloud Drive ที่มาเหนือกว่า กับการ Sync ทั้ง Sesktop ไปทุกๆ เครื่อง
คุณเคยมีปัญหาที่ใช้คอมหลายเครื่องและหน้าจอไม่เหมือนกันเลยสักเครื่องใช่หรือไม่ ดังนั้นใน macOS จึงมีการเพิ่มฟังก์ชันการ Sync ชุด Desktop จากอีกเครื่องไปเปิดใช้งานได้อีกเครื่องทันที และที่สำคัญคือยังรองรับการแสดลผลเดสก์ท็อปบน iOS อีกด้วย ทำให้ผู้ใช้สามารถอำพรางตัวได้แนบเนียนยิ่งขึ้น
พื้นที่น้อยไม่ใช่ปัญหา macOS Sierra มาพร้อมความเบาและบางกว่าที่คิด
อักหนึ่งสิ่งสำคัญใน macOS Sierra นั่นคือการลดขนาดของระบบปฏิบัติการลง จัดการไฟล์ย้ายไฟล์เก่าๆ รวมถึงลบข้อมูลอย่างหมดจนชนิดที่ไม่สามารถแก็ขึ้นมาได้เป็นต้น จากฟีเจอร์นี้จะทำให้ HDD ของ MacBook Air ที่พิ่งจะติดตั้งไป มีขนาดพื้นที่เหลือจากเดิมไม่กี่ GB เป็นกว่า 100 GB ในช่วงเวลาอันน้อยนิด
ช็อปสุดมันส์ด้วย Apple Pay for Web
ใน macOS Sierra ได้มีการเพิ่ม Apple Pay เข้ามาให้ใช้งาน โดยลูกค้าที่สนใจดูของก็สามารถกดสั่งซื้อได้เลย และเมื่อถึงขั้นตอนการชำระเงิน ผู้ใช้สามารถเลือก Apple Pay เป็นช่องทางในการชำระเงินได้ และข้อมูลการชำระเงินทั้งหมดจะถูกส่งไปยัง iPhone หรือ Apple ที่ใช้งานด้วย เพียงเท่านี้ก็สามารถช้อปปิ้งบน Mac ได้เลย
Siri ผู้ช่วยคนเก่งครั้งแรกของ Mac
และก็เป็นไปตามที่คาด เพราะ macOS ตัวใหม่มาพร้อมกับ Siri ให้ได้ใช้งานกัน โดย Siri บน macOS นั้นสามารถทำได้ทั้งตอบคำถาม ค้นหาไฟล์ในเครื่อง และลากไฟล์จาก Siri เข้าโปรแกรมที่ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องปิด-เปิดใหม่ทุกครั้ง
นอกจากนี้นักพัฒนายังสามารถเล่นสนุกกับ Siri ได้อีกด้วย โดยสามารถดัดแปลงลักษณะการรับเข้าข้อมูลได้ทั้งหมด และปรับเงื่อนไขการค้นหาไฟล์ต่างๆ ได้อีกด้วย
ปล่อยอัพเดทเมื่อไหร่?
macOS Sierra จะเริ่มปล่อยอัพเดทอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้ โดยที่นักพัฒนาสามารถดาวน์โหลดมาทดลองใช้งานได้แล้ว และการทดสอบ Beta Test จะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป
นี่ก็เป็นเพียงน้ำจิ้มเล็กน้อยเท่านั้น และ macOS Sierra จะมีอะไรเพิ่มเติมเข้ามาอีก ต้องรอดูกันต่อไปช่วงปลายปีนี้ครับ