รีวิว DOOGEE LEO DG280 หน้าใหม่ ขอท้าทายแบรนด์ใหญ่ด้วยราคาและประกันหลังการขายที่เหนือกว่า
แบรนด์แอนดรอยด์หน้าใหม่ ที่มาพร้อมความมั่นใจในการตลาดที่คิดว่าจะเป็นจุดขายสำคัญในการซื้อใจผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ราคาประหยัด นั้นคือ “บริการหลังการขาย” เมื่อทางผู้นำเข้า DOOGEE ออกปากว่า ทุกเครื่องที่มีปัญหา ต้องได้รับการแก้ไขในเจ็ดวัน ถ้าเกินกว่านั้น รับเครื่องใหม่ไปใช้งานแทนได้ทันที นี่คือเงื่อนไขที่เป็นจุดขายของเขาครับ
แต่นั้นหมายถึงเครื่องที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยภายใต้ชื่อของ Doogee Thailand เท่านั้นนะครับ และตอนนี้ศูนย์บริการอาจจะยังน้อยมีอยู่ที่คลองสาน แต่ใช้การบริการงานช่อมได้จากทางไปรษณีย์ได้เช่นกันครับ วางจำหน่ายครั้งแรกภายในงาน TME กลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ครับ 2,490 บาท
จุดเด่นแรกในรุ่น DOOGEE LEO DG280 ก็คือเรื่องของฝาหลังครับ เป็นเครื่องแรกที่ใช้ฝาหลังเป็นวัสดุยาง สีสันสด นิ่มมือ และที่สำคัญ มันออกแบบมาให้คุ้มครองการตกกระแทกของตัวเครื่องทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และมุม ต่างๆ ของเครื่อง ทำให้ลดโอกาสหน้าจอแตกหรือเครื่องเป็นรอยได้มากถึง 80% เลยทีเดียวครับ
จริงๆ แล้ว ก็เหมือนการนำเคสยางมาสวมใส่ตัวเครื่องเอาไว้ตั้งแต่โรงงานนั้นเองครับ แต่ไม่มีฝาหลังอีกต่อไปแล้ว ส่วนเรื่องความทนทานของวัสดุยางนั้นจะยาวนานแค่ไหน คงตอบในรีวิวนี้ไม่ได้ครับ แต่จากการทดสอบใช้งาน ตัวฝาหลังนั้นดูดีครับ สีสวย ทำให้เครื่องดูน่ารักมากทีเดียว ทาง Doogee เคลมเลยว่า นี่เป็นฝาหลังที่งอได้แบบเต็มไม้เต็มมือของจริง 555 ^^
แต่! อย่าไปงอนะครับ บอกไว่ก่อน ถ้าคุณได้เป็นเจ้าของ เพราะฝาหลังจะไม่คืนรูปมาเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นครับ จะมีร่องบวมเกิดขึ้นทันทีถ้าเราไปงอเล่นแบบในภาพ
กำหนดการวางจำหน่ายของ DOOGEE LEO DG280 อยู่ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ หรือก่อนงาน TME ที่กำลังจะจัดขึ้น ในราคา 2,490 บาท และตอนนี้ยังไม่มีฝาหลังมาจำหน่ายนะครับ แต่ทราบราคามาว่าไม่แพง ประมาณร้อยต้นๆ เท่านั้น มีสีให้เลือก ดำ เหลือ เขียว ชมพู ฟ้า สวยทุกสีครับ
Specifications
– RAM : 1GB
– Internal Storage : 8GB
– Brand : Doogee
– Model : LEO DG280
– Quantity : 1 Piece
– Material : Carbon fiber + silicone + plastic
– Shade Of Color : Black
– Type : Brand New
– Plug Specifications : EU Plug (2-Round-Pin Plug)
– Housing Case Material : Carbon fiber + silicone + plastic
– Cellular : WCDMA,GSM
– Network Type : 2G,3G
– Band Details : 2G: GSM 850/900/1800/1900 3G: WCDMA 850/1900/2100MHz
– Data Transfer : GPRS,HSDPA,EDGE
– Network Conversation : One-Party Conversation Only
– WLAN : Wi-Fi 802.11 b,g,n
– SIM Card Type : Standard,Micro SIM
– SIM Card Quantity : 2
– Network Standby : Dual Network Standby
– GPS : Yes
– NFC : No
– Infrared Port : No
– Bluetooth Version : V4.0
– OS : Android
– Firmware Version : Android 4.4
– CPU Processor : MTK6582 1.3GHz
– CPU Core Quantity : Quad-Core
– Language : Afrikaans / Indonesian / Malay / Catalan / Czech / Danish / German / English(United Kingdom) / English(United States) / Spanish(Espana) / Spanish(Estados Unidos) / Filipino / French / Croatian / Zulu / Italian / Swahili / Latviesu / Lithuanian / Hungarian / Dutch / Norsk bokmal / Polish / Portuguese(Brasil) / Portuguese(Portugal) / Romanian / Rumantsch / Slovak / Slovenscina / Finnish / Swedish / Vietnamese / Turkish / Russian / Greek / Hebrew / Arabic / Thai / Korean / Simplified Chinese / Traditional Chinese
– GPU : Mali-400MP
– Available Memory : 4.7GB
– Memory Card : Yes
– Max. Expansion Supported : 32GB
– Size Range : 4.5 Inches
– Touch Screen : IPS
– Screen Resolution : 854 x 480
– Multitouch : 2
– Screen Size ( inches) : 4.5
– Camera Pixel : 5.0 MP
– Front Camera Pixels : 1.3 MP
– Video Recording Resolution : 1080P
– Flash : Yes
– Auto Focus : Yes
– Touch Focus : Yes
– Talk Time : 180 minutes
– Standby Time : 150 Hour
– Battery Capacity : 1800 mAh
– Battery Type : Replacement
– Sensor : G-sensor,proximity,Others,Light sensor, gesture sensor
รองรับการใช้งานสองซิมการ์ด ซิมหนึ่งขนาดปกติ ซิมสองเป็นแบบ Micro Sim วิธีการใส่ หงายเข้าหากันตามภาพด้านล่างนะครับ รองรับ 3G ทุกค่าย แต่รองรับ 3G แค่สล็อตซิมแรกนะครับ ซิมที่สองไว้ใช้แค่โทรเข้าโทรออก
แบตเตอรี่ขนาด 1,800 mAh ไม่ใหญ่ไม่เล็กสำหรับเครื่องสเปคระดับนี้
ระวัง*** ที่แบตเตอรี่มีการซีลขั้วไฟเอาไว้อยู่ อย่าลืมแกะออกก่อนการใช้งานหรือการชาร์จแบตนะครับ
การใช้งานภายใน
หน้าจอแสดงผลไม่ขี้เหร่ครับ สีสันความสว่างพอรับได้ ถือว่าดีเมื่อดูจากราคาจำหน่าย จอ IPS ขนาด 4.5 นิ้ว ทำให้มันดูคุ้มค่ามากขึ้นครับ
สำหรับหน้าโฮม UI ของ DOOGEE LEO DG280 ก็จะดูเดิมๆ ไม่ได้ปรับแต่งเป็นพิเศษอะไรมากมายครับ แต่ฟังชั่นภายในนี้จัดเต็มไม่แพ้แบรนด์อื่นๆ เช่นกัน จัดว่าอยู่ในระดับ “เยอะ” ได้เลยครับ โดยเฉพาะฟังชั่นที่เกี่ยวกับ Gesture หรือการสั่งงานผ่านสัญลักษณ์นิ้ว
สามารถตั้งเวลาเปิดปิดเครื่องได้ล่วงหน้า และสามารถตั้งให้ปุ่มโฮมเป็นปุ่มปิดหน้าจอล็อกเครื่องได้ โดยการดับเบิ้ลคลิ๊กสองครั้งครับ
การสั่งงานตั้งแต่หน้าล็อก สามารถใช้สัญลักษณ์นิ้ว วาดรูปสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อการเข้าถึงการทำงานโดยตรงได้มากมายหลากหลายแบบทีเดียวครับ เช่นการเคาะนิ้วสองทีบนหน้าจอขณะปิดเพื่อเปิดการทำงาน หรือการวาดนิ้วลงบนหน้าจอขณะปิดไว้ป็นเส้นตรงโดยไม่ต้องปลดล็อก ก็เป็นการเรียกใช้งานกล้องถ่ายภาพได้ทันที หรือการวาดสัญลักษณ์วงกลมบนหน้าจอปิดเพื่อเข้าสู่หน้า PlayStore ได้เลยเช่นกันครับ ซึ่งทั้งหมดเราสามารถเข้าไปปรับตั้งค่าได้ว่าต้องการใช้สัญลักษณ์ใด เพื่อแทนการเรียกการทำงานในลักษณะใดครับ
การทำงานด้วยโหมดอัจฉริยะผ่านเซ็นเซอร์โดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ เช่นการโบกมือผ่านหน้าเครื่องเพื่อเปลี่ยนภาพหรือเปลี่ยนเพลงไปเป็นเพลงและภาพลำดับถัดไปโดยไม่ต้องสัมผัสเครื่อง ก็ทำได้ แต่จากการทดสอบใข้งานพบว่า ทำงานได้ไม่ดีพอจะนำมาเปิดใช้จริงจังครับ จับความเคลื่อนไหวได้บ้างไม่ได้บ้าง และการทำงานยังไม่สมบูรณ์
โดยเฉพาะเรื่องการแปลภาษาไทย ยังแปลมาได้ไม่สมบูรณ์จนอ่านกันไม่เข้าใจเลยในบางเมนูครับ คงต้องรอดูทางผู้จำหน่ายในไทยจะจัดแก้ไขอย่างไรบ้างในจุดนี้ เพราะมีหลายเมนูมากๆ ที่แปลผิดจนคนใช้อาจจะไม่เข้าใจได้เลยครบ
มีโหมดประหยัดพลังงาน
มีโหมด Visitor สำหรับการให้ผู้อื่นที่ไม่ใช้เรายืมใช้เครื่อง เขาจะไม่สามารถเข้าไปดูรายการโทร ข้อความ และรูปภาพ หรือจัดแจงหน้าจอของเราได้ครับ และแอพพลิเคชั่นเฉพาะของทาง Doogee มีมาให้ทาง LEO ไม่มากครับ ที่น่าสนใจก็จะเป็นตัว “ล็อกแอพ” แอพพลิเคชั่นสำหรับล็อกการเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่นบนเครื่อง ที่เราสามารถกำหนดได้ว่า ถ้าจะใช้งานต้องใส่รหัสผ่านที่เราตั้งไว้ซะก่อนครับ
มีพื้นที่ให้ใช้งานได้จริง 4.71 GB สามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นลงเมมโมรีภายนอกได้ ซึ่งรองรับการใส่ Micro SD card 32GB ครับ
ทดสอบการทำงาน
ทดสอบการเล่นไฟล์วีดีโอความละเอียด Full HD สามารถรับชมได้ปกติเลยครับ ไม่แลคไม่กระตุก เข้าเว็บอ่านเว็บเพจไลหลื่นครับ ทดสอบใช้งานมายังไม่เจอปัญหา
ทดสอบการเล่นเกม ควบคุมได้ไวครับ ตอบสนองดีกับมินิเกมที่ต้องการความแม่นยำอย่างเกมรันต่างๆ ลองเล่นกับตัวเกมระดับภาพ HD ก็ถือว่ายังไหวครับ ชุดประมวลผลของเจ้า DOOGEE LEO ตัวนี้พร้อมใช้งานกับแอพพลิเคชั่นและเกมต่างๆ ใน Playstore ครับ
ทดสอบการทำงานด้านเสียง ลำโพงด้านล่างตัวเครื่องให้เสียงดังดีครับ เปิดสุดเสียงไม่แตก ลำโพงมีคุณภาพใช้ได้ ไม่ได้เป็นจุดเด่นมากมายแต่ไม่มีปัญหา
ทดสอบฟังเสียงกับชุดหูฟังที่แถมมา หูฟังเสียงแย่มากครับ – – เอาไว้ใช้สำหรับการโทรศัพท์ได้อย่างเดียวจริงๆ ถ้าเอามาฟังเพลงซื้อใหม่ดีกว่าครับ ตัว DOOGEE LEO มีภาครับสัญญาณวิทยุ FM มาให้ด้วยนะครับ แต่ต้องเสียบหูฟังเอาไว้เพื่อใช้เป็นเสาอากาศจึงจะรับสัญญาณได้ครับ
ทดสอบการจับสัญญาณ GPS พบว่าจับสัญญาณได้ช้ามากครับ ต้องเปิดใช้เน็ตช่วยเท่านั้นถึงจะพอใช้งานได้ในการจับตำแหน่งหรือการนำทาง
มัลติทัชได้สองจุดครับ ใช้ฟังชั่นหรือการทำงานอะไรที่ต้องอาศัยสามนิ้วพร้อมกันไม่ได้นะครับ
ผลทดสอบด้านต่างๆ
เรื่องของแบตเตอรี่ขนาด 1,800 mAh แต่ก็พออยู่กับเราได้จนถึงบ้านอยู่ครับ ถ้าเปิดแสงจอไม่มากและใช้งานไม่หนัก ถ้าเปิดใช้งานหนักๆ ต่อเนื่อง ประมาณบ่ายๆ แบตเตอรี่ก็เหลือต่ำกว่าครึ่งแล้วครับ
การใช้งานด้านกล้อง
กล้องถ่ายภาพของ DOOGEE LEO ได้แค่แก้ขัดครับ ก็คงหวังมากไปไม่ได้อยู่แล้วกับราคาจำหน่ายที่ทำมาได้ต่ำขนาดนี้ กล้องหลักตัวหลัก 5 ล้านพิเซล ออโต้โฟกัสพร้อมแฟลช และโหมดการถ่ายภาพ พาโนรามา, HDR, รวมถึงโหมดสนุกๆ อย่างการถ่ายภาพสดแบบ LIVE บันทึกภาพถ่ายก่อนบันทึกวีดีโอ เอาไว้รับชมกันสนุกๆ ครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายของ DOOGEE LEO DG280
กล้องถ่ายภาพด้านหน้า มีโหมดเซลฟี่บิวตี้ด้วยครับ ^^
สรุปท้ายรีวิว
DOOGEE LEO DG280 คุ้มครับ ในเรื่องของราคากับประสิทธิภาพที่ได้ เล่นแอพเล่นเกมของระบบ Android ได้ทั้งหมดแม้จะราคาเท่านี้ พร้อมประกันหลังการขายที่ดูมีความหวังสำหรับการรับปากจะซ่อมเสร็จใน 7 วัน ข้อสังเกตที่ต้องลังเลใจนั้นก็คือ เรื่องของการทำรอมดูจะไม่สมบูรณ์ดีเท่าไหร่ในตัวที่ผมนำมาทดสอบ ภาษาแปลไม่เข้าใจ มีบัคในการใช้งาน รวมถึงฝาหลังที่ทำจากยาง ดูแปลก สวย แต่การใช้งานจริงจะมีปัญหาแค่ไหนเมื่อเวลาผ่านไป ยังไม่เคยมีใครกล้าใช้วัสดุนี้มาก่อนครับ
from:http://www.appdisqus.com/devices/review-doogee-leo-dg280