คลังเก็บป้ายกำกับ: TRUEWIRELESS

หัวเว่ย จับมือ Lazada จัดดีลเด็ดเอ็กซ์คลูซีฟ HUAWEI FreeBuds 5 ราคาต่ำสุด 2,989 บาท

วันเลขเบิ้ล 5.5 สำหรับหูฟังรุ่นใหม่ล่าสุด HUAWEI FreeBuds 5 หูฟัง Open-fit ที่พร้อมมาระบบตัดเสียงรบกวน ANC 3.0 และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนถึง 3 ตัว

โดยวางจำหน่ายในราคาต่ำสุด 2,989 บาท เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Lazada ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม ถึง 8 พฤษภาคม 2566 เท่านั้น

HUAWEI FreeBuds 5

หัวเว่ยเดินหน้าลงทุนในการพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมเทคโนโลยีมาโดยตลอดควบคู่กับการปรับกลยุทธ์การตลาดให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัลโดยให้ความสำคัญกับการตลาดออนไลน์ ซึ่งยอดขายผลิตภัณฑ์ True Wireless Stereo (TWS) ที่ผ่านมาบนร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการบนแพลตฟอร์ม Lazada มีการเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างหัวเว่ยและLazada ที่มีวิสัยทัศน์เพื่อมุ่งเน้นยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยโดยเน้นหนักไปที่มอบข้อเสนอสุดพิเศษและสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์

การร่วมมือกันในแคมเปญ 5.5 ครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสเทคโนโลยีหูฟัง HUAWEI FreeBuds 5 ในราคาสุดพิเศษบนแพลตฟอร์มที่มอบประสบการณ์การช้อปปิงแบบไร้รอยต่อ หูฟัง TWS ได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากพกพาสะดวกและใช้งานง่าย

อีกทั้งมาพร้อมกับคุณสมบัติตัดเสียงรบกวน (ANC) ซึ่งหัวเว่ยถือเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกและมุ่งมั่นที่จะออกแบบผลิตภัณฑ์หูฟังให้ครบครันทั้งเรื่องดีไซน์ที่มีสไตล์และคุณภาพของเอฟเฟ็กต์เสียงจากการทำงานด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง

โดยภายในงานนี้ยังได้รับเกียรติจากดีเจชื่อดังอย่าง DJYP หรือ คุณเอี่ยว ชาครีย์ ยุทธารักษ์ – บุณยรัตพันธุ์ แห่งกลุ่มปาร์ตี้ Trasher ที่แชร์ประสบการณ์การใช้งาน HUAWEI FreeBuds 5 พร้อมสร้างสรรค์เพลย์ลิสต์สร้างบรรยากาศแสนสนุกพร้อม

ให้ทุกท่านที่มาร่วมงานได้สัมผัสคุณภาพเสียงและระบบลดเสียงรบกวนที่จะช่วยลดเสียงรอบข้างได้คมกริบในทุกสถานการณ์ไม่ว่าเสียงเพลงหรือเสียงรบกวนรอบข้างจะดังขนาดไหนก็ตาม[1]

ความโดดเด่นของ HUAWEI FreeBuds 5 เป็นหูฟัง Open-fit รองรับการตัดเสียงรบกวนแบบไฮบริด 3 ไมค์ ที่ปรับให้เข้ากับรูปร่างของหูและสถานะการสวมใส่  ทํางานควบคู่กับอัลกอริทึมการตัดเสียงรบกวน ANC 3.0 และอัลกอริทึม Deep Neutral Network (DNN)  

โดดเด่นด้วยหูฟังทรงหยดน้ำเป็นเส้นโค้งไร้รอยต่อได้แรงบันดาลใจจากดีไซน์แบบ Prince Rupert’s Drop และรองรับ LDAC™ codec[2] รวมถึงได้รับการรับรองจาก Hi-Res และ HWA Audio Wireless สามารถฟังเพลงได้นานถึง 30 ชั่วโมง เมื่อใช้ร่วมกับการชาร์จด้วยเคส[3]

ดีลเด็ด 5.5 เฉพาะที่ Lazada เท่านั้น

HUAWEI FreeBuds 5 ราคาต่ำสุดเพียง 2,989 บาท จากราคาปกติ 5,299 บาท เมื่อสั่งซื้อบนช่วงเวลา Flash Sale ของวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 ตั้งแต่ 00.00 น. – 01:59 น. และใช้ร่วมกับคูปองส่วนลด Early bird มูลค่า 100 บาท พร้อมคูปองส่วนลด 10% มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท และสามารถเก็บโบนัสส่วนลดเพิ่มเติมจาก Lazada จากการช้อปทุก 500 บาท ลด 30 บาท

นอกจากนี้เมื่อคุณสั่งซื้อ HUAWEI FreeBuds 5 ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2566 – 8 พฤษภาคม 2566 ที่ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Lazada รับฟรี กระเป๋า Canvas Bag มูลค่า 790 บาท และ ร่ม Huawei มูลค่า 390 บาท สำหรับลูกค้า 100 ท่านแรกเท่านั้น และนอกจากนี้ยังมีส่วนลดคูปอง Early bird มูลค่า 100 บาท สามารถติดตามรายละเอียดโปรโมชันได้ที่นี่ และกดสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่นี่

ติดตามอัปเดตข่าวสารล่าสุดก่อนใครได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ HUAWEI Mobile TH สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน AppGallery 


[1] ประสิทธิภาพ ANC ที่แท้จริงนั้นขึ้นอยู่กับรูปร่างของหูและสถานะการสวมใส่ การสวมเอียร์บัดอย่างแน่นหนาจะช่วยให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพ ANC ที่ดีที่สุด นอกจากนี้ ประสิทธิภาพ ANC ยังรับรู้ได้ดีกว่าที่ความถี่ต่ำ เช่น เมื่อคุณได้ยินเสียงรถและรถประจำทางบนถนน หรือเครื่องปรับอากาศในสำนักงาน และอาจไม่แตกต่างกันที่ความถี่กลางและสูง เช่น เมื่อมีเสียงต่างๆ เสียงประกาศ เสียงผิวปาก หรือเสียงวัตถุแข็งกระทบกัน

[2] การรับรอง Hi-Res Audio Wireless จะขึ้นอยู่กับโปรโตคอลการส่ง LDAC™ HD และโปรโตคอล LDAC™ เป็นสิ่งจําเป็นสําหรับอุปกรณ์การเล่น โลโก้ LDAC™ และ LDAC เป็นเครื่องหมายการค้าของ Sony Corporation

[3] อายุการใช้งานแบตเตอรี่และข้อมูลการชาร์จมาจากการทดสอบในห้องปฏิบัติการของหัวเว่ย ในระหว่างการทดสอบเสียงในรูปแบบ AAC จะถูกเล่นที่ระดับเสียง 50% และปิดใช้งาน ANC การตั้งค่าเริ่มต้นถูกใช้สําหรับคุณสมบัติอื่น ๆ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระดับเสียงแหล่งกําเนิดเสียงการรบกวนสิ่งแวดล้อมคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์และพฤติกรรมการใช้งาน

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/huawei-joins-hands-with-lazada-to-arrange-a-great-deal-for-huawei-freebuds-5/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=huawei-joins-hands-with-lazada-to-arrange-a-great-deal-for-huawei-freebuds-5

เปิดตัว HUAWEI FreeBuds 5i มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน ANC ที่ดีขึ้น, แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น และการออกแบบที่ดีขึ้น

HUAWEI ประกาศเปิดตัว HUAWEI FreeBuds 5i หูฟังไร้สาย True Wireless รุ่นใหม่ล่าสุดภาคต่อของ FreeBuds 4i ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยรุ่นใหม่นี้ปรับปรุงการตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟให้ดีขึ้นมาก การออกแบบที่เบาขึ้น และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น

HUAWEI FreeBuds 5i

HUAWEI FreeBuds 5i มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน ANC สามระดับ โดยระดับสูงสุด จะสามารถลดเสียงรบกวนลงได้ถึง 42dB ปรับปรุงเพิ่มอย่างมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าที่ 22dB มีระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI พร้อมไมโครโฟนสองตัวเพื่อการโทรที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ หูฟังมาพร้อมไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 10 มม. พร้อมระบบการปรับแต่งเอาต์พุตโดยอัตโนมัติเพื่อให้เข้ากับรูปทรงหูของคุณมากที่สุด ให้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม รองรับโคเดก LDAC และรองรับ Hi-Res Audio Wireless

HUAWEI FreeBuds 5i รองรับ Bluetooth 5.2 พร้อมการเชื่อมต่อแบบหลายจุด สามารถสลับการเชื่อมต่อระหว่างโทรศัพท์ แท็บเล็ต ทีวีและอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว และมีโหมดเกมซึ่งลดค่า Latency ได้เหลือเพียง 94ms เท่านั้น

และเมื่อเปรียบเทียบกับ FreeBuds 4i แล้ว หูฟังรุ่นใหม่มีเคสที่มีพื้นผิวที่นุ่มกว่าและคล้ายก้อนกรวด รวมถึงยังเบากว่าอีก 18% โดยมีน้ำหนักเพียง 33.9 ก. (หูฟังแต่ละข้างมีน้ำหนักประมาณ 4.6 ก.) และแม้ว่าจะเบาลง แต่อายุการใช้งานแบตเตอรี่โดยรวมก็ดีขึ้น โดยแบตเตอรี่จากหูฟังรวมเคสจะสามารถอยู่ได้นานถึง 28 ชั่วโมง (เพิ่มขึ้นจาก 22 ชั่วโมง) เมื่อปิด ANC และสูงสุด 18.5 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC

แบตเตอรี่หูฟังอย่างเดียวให้เวลาฟังอย่างต่อเนื่องถึง 7.5 ชั่วโมง (6 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC) ถือว่ามีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นด้วยแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นในเคส (410mAh เทียบกับ 215mAh) และประสิทธิภาพการทำงานของหูฟังที่ได้รับการปรับปรุง โดยเมื่อแบตเตอรี่ทั้งหูฟังและเคสหมด การชาร์จเต็ม 0-100% จะใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง และมีระบบชาร์จเร็ว เพียง 15 นาทีก็เพียงพอสำหรับการเล่น 4 ชั่วโมง

ทั้งนี้ HUAWEI FreeBuds 5i มีให้เลือก 3 สีคือ Interstellar black, Island blue, และ Ceramic white โดยเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้วในประเทศจีน ในราคา 600 หยวนหรือประมาณ 3,100 บาท และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 18 มิถุนายน 2565

ที่มา : Gsmarena

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/huawei-freebuds-5i-announced/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=huawei-freebuds-5i-announced

“หูฟัง” กับบทบาทที่เกินคาด ในกลยุทธ์พลิกเกมนวัตกรรมสู่การเชื่อมต่อรอบทิศทางของหัวเว่ย

เมื่อพูดถึงชื่อ “หัวเว่ย” แน่นอนว่าต้องมีภาพของสมาร์ทโฟนตัวท็อป กล้องล้ำๆ ลอยมาในหัว แต่ในระยะหลัง เราได้เห็นการแตกแขนงผลิตภัณฑ์ออกมาแบบรอบทิศทาง ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อป สมาร์ทวอทช์ หรือแม้แต่แว่นตา แต่หนึ่งในตลาดที่หัวเว่ยเดินเกมรุกหนักที่สุดก็คือตลาดหูฟัง ที่เรียกได้ว่าก้าวกระโดดจากการเป็นหน้าใหม่ในวงการ มาท้าชิงในแถวหน้ากับหูฟังไร้สายที่มีฟีเจอร์ครบครันรอบด้านหลายรุ่น การขยับตัวอย่างรวดเร็วมารุกตลาดใกล้เคียงแบบนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร? แล้วหูฟังของหัวเว่ยมีดีอย่างไรถึงติดตลาดได้อย่างรวดเร็ว? เราลองไปตอบคำถามนี้กัน

นวัตกรรมที่สัมผัสทุกโมเมนต์ดีๆ ในชีวิต กับกลยุทธ์ “1+8+N”

กลยุทธ์ 1+8+N เป็นหัวใจหลักที่ขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ย ภายใต้จุดมุ่งหมายในการผสานสมาร์ทดีไวซ์รอบตัวเราทุกประเภทให้ทำงานร่วมกันได้ในหลากหลายสถานการณ์ จนเรียกว่าผสานให้เทคโนโลยีเข้าถึงได้แทบทุกประสาทสัมผัส ด้วยจอขนาดเล็ก-ใหญ่ที่ไล่ไปตั้งแต่หน้าปัดสมาร์ทวอทช์ หน้าจอสมาร์ทโฟน ไปจนถึงแท็บเล็ต แล็ปท็อป หรือแม้แต่ทีวี และยาวไปจนถึงนวัตกรรมเพื่ออนาคตอย่างระบบขับขี่อัตโนมัติสำหรับรถยนต์

มาไกลขนาดนี้แล้ว แน่นอนว่าจะให้มองข้ามอุปกรณ์เสริมมาตรฐานสำหรับสมาร์ทโฟนอย่างหูฟังก็คงจะไม่ได้ นี่จึงเป็นที่มาของหูฟังในตระกูล FreeBuds ซึ่งเปิดตัวออกสู่ตลาดครั้งแรกเมื่อปี 2018 ในรูปของหูฟังไร้สายหรือ TWS ที่กลายเป็นของที่ต้องมีไปแล้วในยุคนี้ แถมยังออกตัวแรงแบบไม่ต้องรอลองของด้วยฟีเจอร์ครบครัน ทั้งการควบคุมแบบสัมผัส รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง กันน้ำ และระบบไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนสำหรับการคุยโทรศัพท์

ตลอดสองปีนับจากนั้นมา หัวเว่ยยังคงเร่งเครื่องพัฒนาหูฟังที่โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในด้านของคุณสมบัติรอบด้าน คุณภาพเสียง หรือแม้แต่ดีไซน์เฉพาะตัว อย่างที่เห็นได้ในหู TWS ตัวท็อปอย่าง HUAWEI FreeBuds Pro ที่นอกจากจะเสียงดีแบบครบทุกมิติแล้ว ยังมีระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation หรือ ANC ที่เก่งไม่แพ้ค่ายหูฟังที่ปักหลักในตลาดมายาวนานกว่า แถมยังมาในทรงหูไร้สายแบบก้านเหลี่ยมที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย

คิดใหม่ ทำใหม่ ให้เสียงใสทุกท่วงทำนอง

หลังจากที่เห็นว่าหูฟังไร้สายหลายรุ่นต้องเจอปัญหาด้านการเชื่อมต่อในแบบที่หูแบบมีสายไม่ต้องกังวล หัวเว่ยได้ไปทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับ HUAWEI FreeBuds Pro ซึ่งเป็นหูฟัง TWS รุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกับเสาอากาศบลูทูธในตัวถึงสองเสา โดยเข้ามาเสริมประสิทธิภาพระหว่างกันให้การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ต้นทางเสียงอื่นๆ เป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด ฟังได้นิ่ง ไม่มีสะดุด

ด้านระบบ ANC ที่เป็นไฮไลต์สำคัญอย่างหนึ่งในการเลือกซื้อหูฟังยุคนี้ HUAWEI FreeBuds Pro ก็จัดมาเต็มที่ โดยสามารถลดเสียงรบกวนลงได้สูงสุดถึง 40 เดซิเบล แถมยังใช้งานได้แบบไม่ต้องกังวลว่าจะต้องรีบถอดหูฟังออกเมื่อมีใครมาคุยด้วย เพราะแค่กดปลายนิ้วแช่ไปที่ก้านหูฟังสักครู่ ก็จะเข้าสู่โหมดการรับรู้ที่ปล่อยให้เสียงรอบข้างผ่านเข้ามาได้อีกครั้ง หรือแม้แต่เลือกจับเฉพาะเสียงพูดของคนใกลัตัวโดยเฉพาะ โดยที่ยังลดเสียงรบกวนให้ไม่ขัดขวางการฟังได้เหมือนเดิม ส่วนคุณภาพเสียงระหว่างคุยโทรศัพท์ก็ถือว่างานละเอียดไม่แพ้กัน ด้วยระบบกรองเสียงที่ใช้ไมโครโฟนถึงสามตัว พร้อมเซ็นเซอร์สัมผัสการสั่นสะเทือนของกระดูกในรูหู เพื่อให้ส่งทุกคำพูดไปสู่ปลายสายได้ชัดเจนกว่าใคร

นอกจากนี้ HUAWEI FreeBuds Pro ยังมอบความสะดวกสบายหายห่วงด้วยการเชื่อมต่อที่ง่ายดาย เพียงแค่เปิดเคสใกล้ๆ สมาร์ทโฟนหัวเว่ย ก็จะมีการแจ้งเตือนให้เชื่อมต่อขึ้นมาทันทีโดยไม่ต้องเข้าไปหาเมนูที่ไหน แถมยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้พร้อมกันทีละสองเครื่อง จึงคล่องตัวกว่าใครสำหรับคอแก็ดเจ็ตที่อาจจะหิ้วมาทั้งมือถือและแท็บเล็ตหรือแล็ปท็อป หรือแม้กระทั่งการสวมใส่หูฟังก็ยังมีตัวช่วยที่ฉลาดกว่า แค่มีแอป HUAWEI AI Life ติดเครื่องไว้ HUAWEI FreeBuds Pro ก็สามารถทดสอบแบบง่ายๆ ได้ว่าจุกยางขนาดที่เลือกใช้ฟิตพอดีกับหูหรือไม่ เพื่อให้ได้สัมผัสประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลังที่สุด

ความหลากหลายที่ตอบทุกโจทย์ พร้อมกระจายฟังก์ชันอัจฉริยะให้ทั่วถึง

Huawei

ในเมื่อเป้าหมายของกลยุทธ์ 1+8+N คือการเชื่อมต่อทุกจังหวะของชีวิตเข้าด้วยกันด้วยนวัตกรรมอัจฉริยะ ประสบการณ์เสียงชั้นยอดนี้จึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่หูฟัง TWS เท่านั้น แต่ยังกระจายตัวไปยังผลิตภัณฑ์กลุ่มหูฟังอีกหลายรูปแบบของหัวเว่ย อย่างเช่น HUAWEI FreeLace Pro หูฟังแบบคล้องคอที่มาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวนที่ได้ผลในระดับเดียวกับหู TWS ตัวท็อปอย่าง HUAWEI FreeBuds Pro ส่วนระบบเสาอากาศบลูทูธคู่ก็ยังมีอยู่ในหูฟังฟูลไซส์ HUAWEI FreeBuds Studio ที่มอบประสบการณ์เสียงระดับไฮไฟให้ได้ฟังกันเต็มอิ่ม

ส่วนความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อและสัญญาณเสียงที่นิ่งแบบไว้ใจได้ในแทบทุกสถานการณ์ ก็เกิดขึ้นได้เพราะชิป Kirin A1 ซึ่งติดตั้งมากับหูฟังในตระกูล FreeBuds รุ่นปัจจุบันทุกตัว รวมถึงรุ่นรองอย่าง HUAWEI FreeBuds 3 และ HUAWEI FreeBuds 3i หรือแม้แต่หูฟังแบบครอบตัวท็อปอย่าง HUAWEI FreeBuds Studio และแว่นอัจฉริยะที่มีระบบเสียงในตัว HUAWEI x Gentle Monster Eyewear II โดยชิปจิ๋วแต่แจ๋วตัวนี้รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธได้สูงสุดถึงเวอร์ชั่น 5.2 ซึ่งใหม่กว่าหูฟังคู่แข่งหลายๆ รุ่น และยังสามารถรับสัญญาณเสียงแบบไร้สายได้โดยแยกสัญญาณระหว่างหูฟังข้างซ้ายและขวา ซึ่งจะช่วยลดอาการดีเลย์ที่หูฟังไร้สายบางค่ายต้องเจอจนเกิดเหตุปากไม่ตรงกับเสียงขณะดูวิดีโอ

มาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อได้เลยว่าหัวเว่ยเอาจริงเต็มที่กับตลาดหูฟัง ด้วยผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น หลากหลาย และแตกต่างจากคู่แข่งหลายค่าย แถมยังทำงานร่วมกับสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ได้ลงตัวกว่าใคร จนต้องหันมาจับตามองแบบไม่กะพริบว่าก้าวต่อไปของหัวเว่ยในวงการออดิโอจะต่อยอดความสำเร็จในระยะแรกนี้ไปไกลขนาดไหน

คลิกช้อปสมาร์ทโฟน Huawei ที่นี่ >>> http://bit.ly/31ikNUq

from:https://www.mobileocta.com/headphones-with-a-role-that-exceeds-expectations/

NEW!! SHURE AONIC 215TW หูฟังไร้สาย TWS ให้คุณภาพเสียงระดับ MUSICIAN PROFESSIONAL

บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด ได้เปิดตัวสินค้าใหม่จากแบรนด์ SHURE ได้แก่ SHURE AONIC 215TW เป็นหูฟัง TRUE WIRELESS ที่จะพาคุณสัมผัสความอิสระแบบไร้สาย ไปกับหูฟังระดับตำนานที่ให้เสียงคุณภาพสูง ที่มาพร้อมกับ BLUETOOTH 5.0 ออกแบบให้สวมใส่ได้กระชับสบาย

มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ถึง 8 ชั่วโมง ด้วยการชาร์จเพียง 1 ครั้ง และยังสามารถชาร์จพลังงานด้วยเคสได้ อีก 4 ครั้ง รวมใช้งานได้นานสูงสุด 32 ชั่วโมง มาเปิดประสบการณ์การฟังเสียงคุณภาพระดับโลก ที่พร้อมไปกับคุณได้ทุกที่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว สีดำ สีฟ้า และสีเคลียร์

SHURE AONIC 215TW ราคา 10,900 บาท

  • ใช้งานได้อิสระแบบไร้สาย ให้เสียงเคลียร์ ชัดทุกโทนเสียง
  • ป้องกันเสียงรบกวนภายนอกได้ถึง 37 dB
  • หูฟังออกแบบมาเพื่อสวมใส่พอดีกับหู ใส่สบาย แม้ในเวลาที่ทำกิจกรรมหนักๆ
  • ปรับเข้าโหมดฟังเสียงรอบข้าง ควบคุมได้เพียงปลายนิ้ว
  • แบตเตอรี่คงทน ใช้งานได้ยาวนาน 8 ชั่วโมง ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
  • ตัวเคสชาร์จใช้งานได้นานสูงสุด 32 ชั่วโมง ไม่ต้องกังวลขณะเดินทาง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด
Line: @mahajakstore Tel: 02-256-0020 Ext. 382 หรือ http://www.mahajak.com

from:https://www.mobileocta.com/shure-aonic-215tw/

รีวิว HUAWEI FreeBuds Pro หูฟังไร้สายดีไซน์หรู พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน ANC ใช้งานได้นานต่อเนื่อง 30 ชม.

HUAWEI FreeBuds Pro เปิดตัวครั้งแรกที่งาน HUAWEI Developer Conference 2020 เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ล่าสุดได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นหูฟังไร้สาย TWS รุ่นใหม่ล่าสุดของ HUAWEI ที่มาพร้อมดีไซน์พรีเมี่ยมสุดหรู พร้อมสเปกระดับไฮเอนด์สมกับชื่อรุ่น  อยากรู้แล้วใช่ไหมว่าคุณสมบัติของหูไร้สายรุ่นนี้มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปติดตามรีวิวกันเลยครับ

HUAWEI FreeBuds Pro

สเปกเบื้องต้น HUAWEI FreeBuds Pro

  • เทคโนโลยีเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2
  • ไดร์ฟเวอร์ : 11 มิลลิเมตร
  • ฟีเจอร์ : เทคโนโลยี Hybrid Active Noise Cancellation
  • ขนาดหูฟังของแต่ละข้าง : 26 x 29.6 x 21.7 มม.
  • ขนาดเคส : 70 x 51.3 x 24.6 มม.
  • น้ำหนัก : หูฟังหนัก 6.1 กรัม เคสชาร์จหนัก 60 กรัม
  • แบตเตอรี่ : ความจุ 55mAh หากใช้งานในโหมด ANC จะใช้งานต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง ส่วนการใช้งานปกตินาน 7 ชั่วโมง
  • USB Type-C (5 V/1.2 A/6W)
  • การชาร์จไร้สาย : Qi (2W)
  • สี: Carbon Black, Ceramic White และ Silver Frost
  • ราคา 5,499 บาท

อุปกรณ์ภายในกล่อง

HUAWEI FreeBuds Pro
  • หูฟังไร้สาย HUAWEI FreeBuds Pro
  • เคสชาร์จ
  • สายชาร์จ USB Type-C
  • จุกซิลิโคน
  • คู่มือการรับประกัน
  • คู่มือการใช้งาน

รูปลักษณ์ดีไซน์

HUAWEI FreeBuds Pro เป็นหูฟังไร้สาย True Wireless แบบ In-Ear ด้วยดีไซน์ยอดนิยมที่คุ้นตาเป็นอย่างดี โดยรุ่นนี้มาพร้อมก้านที่สั้นลง และเป็นเหลี่ยมไม่โค้งมนเหมือนรุ่นก่อนๆ ด้วยขนาดที่เล็ก กระทัดรัด ได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์

นอกจากนี้ตัวจุกซิลิโคนยังมีความนุ่มเป็นพิเศษ สามารถเปลี่ยนได้ถึง 3 ขนาดด้วยกัน เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้งานขณะสวมใส่ ไม่ระคายเคือง และยังสามารถใช้ซอฟต์แวร์ในการตรวจสอบด้วยว่าสวมใส่ได้พอดีหรือไม่

ส่วนตัวเคสชาร์จก็มีดีไซน์สวยหรู โดยตัวเคสมีขนาด 70 x 51.3 x 24.6 มม. มิลลิเมตร น้ำหนัก 60 กรัม (รวมหูฟัง) กะทัดรัดพกพาได้สะดวก โดยมีให้เลือก 3 สีคือได้แก่ Silver Frost, Carbon Black และ Ceramic White โดยสีที่ทาง MobileOcta ได้มารีวิวคือ สีขาว Ceramic White

เมื่อเปิดตัวเคสชาร์จออกมาจะเห็นตัวหูฟังอยู่ด้านใน พร้อมกับไฟ LED แสดงสถานะการเชื่อมต่ออยู่ตรงกลาง

ด้านล่างเป็นพอร์ตแบบ USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตัวเคส พร้อมกับไฟ LED แสดงสถานะการชาร์จไฟอยู่ข้างๆ

คุณสมบัติการใช้งาน

HUAWEI Freebuds Pro

HUAWEI FreeBuds Pro มาพร้อมไดร์เวอร์ไดนามิคขนาดใหญ่พิเศษ 11 มิลลิเมตร ให้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม เสียงเบสดังกระหึ่ม ด้วยการออกแบบที่เรียกว่า Dual Anti Wind-noise Design ที่ช่วยป้องกันเสียงจากแวดล้อมภายภายนอก ทำให้การสนทนาขณะอยู่กลางแจ้ง หรือแม้แต่พื้นที่ที่มีลมโกรก เป็นไปได้อย่างไม่มีปัญหา นอกจากนี้ยังเป็นหูฟังรุ่นแรกที่มีเสาสัญญาณแบบคู่ภายในแต่ละข้าง ทำให้การเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนมีความเสถียรเป็นอย่างมาก

สำหรับไมโครโฟนนั้นติดตั้งมาให้มากถึง 3 ตัว ในแต่ละข้าง พร้อมทั้งมี Bone Sensor หรือเซ็นเซอร์ตรวจจับการสั่นสะเทือนของกระดูกในหู ทำให้หูฟังมีประสิทธิภาพในการดูดเสียงพูดและตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงใช้ชิปที่รองรับ Bluetooth 5.2 ซึ่งมีค่า Latency ในการเชื่อมต่อเพียงแค่ 180ms เท่านั้น

นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน Hybrid Active Noise Cancellation ยังถูกติดตั้งลงในไมโครโฟน HD แบบคู่ จึงทำให้สามารถลดเสียงรบกวนภายนอกได้มากถึง 40 dB มอบสุดยอดประสบการณ์เสียงที่กังวาล คมชัด แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังรบกวน เช่น บนเครื่องบิน บนเรือ หรือขณะโดยสารรถไฟใต้ดิน และยังติดตั้ง AI ที่ช่วยในการปรับเสียงรบกวนโดยอัตโนมัติ เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน

HUAWEI FreeBuds Pro สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ได้ 2 เครื่องพร้อมๆ กันเนื่องจากมีเสารับสัญญาณคู่ ไม่ว่าจะเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน 2 เครื่อง หรือเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน 1 เครื่องและแท็บเล็ตอีก 1 เครื่อง ทั้งยังใช้งานสลับไปมาระหว่างอุปกรณ์ทั้งสองได้อย่างไม่มีสะดุด ทำให้เปิดเพลงจากสมาร์ตโฟน 2 เครื่องสลับกันไปมาได้ หรือรับสายจากโทรศัพท์ในขณะเล่นเกมบนแท็บเล็ตไปด้วยได้โดยไม่ต้องถอดหูฟังออก

HUAWEI FreeBuds Pro ใช้ชิปเซ็ต Kirin A1 ซึ่งใช้พลังงานต่ำเป็นพิเศษ ทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานยิ่งขึ้น สามารถฟังเพลงต่อเนื่องได้นานสูงสุด 7 ชั่วโมงเมื่อปิดโหมดตัดเสียงรบกวน และใช้ได้นานสูงสุด 30 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสสำหรับชาร์จ พร้อมรองรับ Wireless Charging ในทุกรูปแบบ ทั้งจากตัวเครื่องชาร์จหรือจากอุปกรณ์ที่มี Reverse Charing อย่างเช่น สมาร์ทโฟน สามารถชาร์จหูฟัง FreeBuds Pro กับสมาร์ทโฟนที่มีฟีเจอร์ reverse charging ได้

ทดสอบใช้งาน

เริ่มจากเชื่อมต่อ HUAWEI FreeBuds Pro กับอุปกรณ์ ให้เปิดฝาเคส แล้วกดที่ปุ่มด้านขวาข้างเคสค้างไว้ประมาณ 2-3 วินาทีเพื่อปล่อยสัญญาณบลูทูธจนไฟ LED เปลี่ยนเป็นสีขาว

อุปกรณ์ก็จะทำการเชื่อมต่อทันที (อย่าลืมเปิดสัญญาณบลูทูธที่อุปกรณ์ก่อนด้วยนะครับ) และถ้าเลิกใช้งานก็แค่ถอดหูฟังเก็บใส่ไว้ในเคสชาร์จเท่านั้น

ถ้าต้องการใช้งานอีกครั้ง ก็ไม่ต้องเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธใหม่ เพราะตัวหูฟัง HUAWEI Freebuds Pro และอุปกรณ์จะเชื่อมต่อกันอัตโนมัติเลย เพิ่มความสะดวกคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

การควบคุมนั้นทำได้โดยการสัมผัส, บีบ, และเลื่อนที่บริเวณก้านของหูฟัง โดยฟังก์ชั่นที่สามารถใช้งานได้คือ

  • เปิด/ปิดระบบ ANC/Awareness โดยบีบที่ก้านตามรูปค้างไว้
  • เร่ง/ลดเสียง โดยใช้นิ้วเลื่อนสไลด์บริเวณด้านข้างของก้านขึ้นลง
  • เล่น/หยุดเพลง โดยบีบที่ก้านตามรูป 1 ครั้งแล้วปล่อยนิ้ว
  • เล่นเพลงถัดไป โดยบีบที่ก้านตามรูป 2 ครั้งแล้วปล่อยนิ้ว
  • เล่นเพลงก่อนหน้า โดยบีบที่ก้านตามรูป 3 ครั้งแล้วปล่อยนิ้ว

นอกจากนี้ถ้าเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน HUAWEI ก็จะมีลูกเล่นต่างๆ ให้ใช้งานมากขึ้น โดยดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า AI Life ผ่านทาง App Gallery มาติดตั้งในเครื่องก่อน

สามารถตั้งค่าการควบคุมเสียงรบกวนได้ทั้งการตัดเสียงรบกวน และการรับรู้

โดยโหมดการตัดเสียงรบกวนสามารถเลือกได้ 4 โหมดย่อยคือ ไดนามิก, สะดวกสบาย, ทั่วไป และพิเศษ

ส่วนโหมดการรับรู้สามารถตั้งค่าเปิดปิดการปรับปรุงเสียงได้

นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าเพิ่มเติมทั้งการทดสอบความพอดีของจุกหูฟัง เพื่อเลือกจุกหูฟังที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพเสียงที่ดีที่สุดได้

และการตรวจจับการสวมใส่แบบอัจฉริยะได้ เมื่อเปิดใช้งานโหมดนี้จะหยุดเสียงชั่วคราวหรือสลับอุปกรณ์เล่นเสียงเมื่อถอดหูฟังออก และกลับมาเล่นอัตโนมัตเมื่อเสียบหูฟังอีกครั้ง

บทสรุป

โดยรวมแล้ว HUAWEI FreeBuds Pro ถือเป็นหูฟังไร้สาย True Wireless เรือธงรุ่นใหม่ของ HUAWEI ที่มีการปรับปรุงในเรื่องของการใช้งานทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ให้ดีขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า ด้วยดีไซน์การออกแบบที่ทันสมัย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย และมีฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้เป็นอย่างดี

ทั้งระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation ผสานพลังไมโครโฟน 3 ตัว พร้อม Dual Antenna ยกระดับความเสถียร เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์ ใช้งานได้ตลอดวันไม่มีสะดุดด้วยแบตเตอรี่ยาวนาน 30 ชั่วโมง ส่วนราคาก็เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับรุ่นท็อปจากแบรนด์ต่างๆ ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกในการตัดสินใจซื้อมากยิ่งขึ้น 

from:https://www.mobileocta.com/review-huawei-freebuds-pro/

เปิดตัว realme X50 Pro 5G ในราคา 28,990 บาท พร้อม realme Buds Q ราคาเพียง 1,199 บาท

realme แบรนด์สมาร์ทโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก จัดงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรองรับ 5G อย่าง realme X50 Pro 5G และ realme Buds Q หูฟังไร้สาย ที่ร่วมออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชื่อดังคุณโจเซ่ เลวี่ (José Lévy) จากแบรนด์ระดับโลก Hermès ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมพลังคนรุ่นใหม่สู่ความก้าวหน้าและความสำเร็จในอนาคตผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยี 5G ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Empower The Next Gen’

สมาร์ทโฟนเรือธงรองรับ 5G ทรงพลังเร็วแรงเหนือขั้นด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 865

realme X50 Pro 5G

realme X50 Pro 5G มาพร้อมชิปเซ็ตเรือธง Snapdragon 865 รุ่นใหม่ล่าสุดที่รองรับ 5G ทั้งแบบ SA และ NSA รวมทั้งยังรองรับคลื่นความถี่ 5G อื่นๆ ทั่วโลก อาทิ n1, n3, n5, n41, n77 และ n78 เพื่อการเชื่อมต่อสัญญาณที่มีความเสถียรภาพ realme X50 Pro 5G มาพร้อมการออกแบบ “เสารับสัญญาณรอบทิศทาง 360 องศา” และฟีเจอร์ Smart 5G ที่สามารถสลับการเชื่อมต่อระหว่าง 4G และ 5G โดยอัตโนมัติ ช่วยประหยัดพลังงานยิ่งขึ้นและลดการใช้พลังงานลง 30% นอกจากนี้ยังรองรับ Wi-Fi 6 เพื่อความเร็วในการรับส่งสัญญาณที่กว้างและไกลมากขึ้น

การทำงานของชิปเซ็ต Snapdragon 865 เพิ่มประสิทธิการทำงานโดยรวมเร็วแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 25% พร้อมระบบ AI รุ่นใหม่ล่าสุดที่ทำงานได้ชาญฉลาดกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า นอกจากนี้ realme X50 Pro 5G ยังมาพร้อม RAM12GB รุ่นล่าสุด LPDDR5 และหน่วยความจำ ROM 256GB แบบ UFS 3.0 พร้อมเทคโนโลยี Turbo Write และ HPB ช่วยให้ความเร็วในการเขียนและการอ่านไหลลื่นมากยิ่งขึ้น

รองรับการชาร์จเร็ว 65W SuperDart

realme X50 Pro 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ในเวลาเพียง 35 นาที ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีการชาร์จที่เร็วสุดในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนปัจจุบัน อีกทั้งยังมาพร้อมอะแดปเตอร์แบบ GaN ที่มีขนาดเล็กลงแต่สามารถจ่ายไฟได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นและลดการเกิดความร้อนดียิ่งขึ้น ปลอดภัยด้วยระบบความปลอดภัยในขณะที่ชาร์จแบตเตอรี่มากถึง 5 ชั้น ตั้งแต่หัวชาร์จไปยังแบตเตอรี

ประสบการณ์ที่เหนือกว่าด้วยจอแสดงผลแบบ Super AMOLED อัตรา Refresh Rate 90 Hz

คมชัดด้วยหน้าจอแบบ Super AMOLED ขนาด 6.44นิ้ว โดยมีอัตราส่วนหน้าจอ 20:9 อัตรา Refresh Rate ที่ 90Hz และ Sampling rate ที่ 180Hz ซึ่งเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนทั่วไปมีอัตรา Refresh Rate เพิ่มขึ้นถึง 50% เพื่อการตอบสนองต่อการสัมผัสขณะเล่นเกมอย่างลื่นไหล realme X50 Pro 5G ยังมาพร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่สามารถปลดล็อคด้วยความเร็วเพียง 0.27 วินาที เท่านั้น

กล้องหลังความละเอียด 64 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าคู่แบบเจาะรู

realme X50 Pro 5G5G มาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ โดยเลนส์หลักมาพร้อมความละเอียด 64 ล้านพิกเซล และเลนส์ Ultra-Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีมุมมองกว้างถึง 119 องศา พร้อมเลนส์ Macro ในตัวที่ระยะโฟกัสวัตถุ 3 เซนติเมตร และเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12MP สามารถซูมแบบ optical ได้ถึง 5 เท่า และซูมแบบ Hybrid ได้ 20 เท่า นอกจากนี้ยังมาพร้อมเลนส์ Portrait พร้อมฟิลเตอร์ B&W ช่วยให้การถ่ายภาพของคุณนั้นง่ายและสนุกมากยิ่งขึ้น  อีกทั้งยังรองรับการถ่ายภาพวิดีโอที่มีคุณภาพระดับความคมชัดถึง 4K และระบบกันสั่น UIS และ UIS Max ช่วยให้การถ่ายวิดีโอคมชัดป้องการสั่นไหวของภาพ

สำหรับกล้องหน้ามาพร้อมกล้องหน้าคู่แบบโดยเลนส์หลักมาพร้อมเซ็นเซอร์ Sony IMX616 ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.5 และเลนส์ Ultra-wide-angle ที่ให้มุมมองกล้องกว้างถึง 105 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 รองรับการถ่ายวีดีโอมุมกว้างพร้อมเอฟเฟ็กต์โบเก้แบบเรียลไทม์และระบบกันสั่น UIS

ดีไซน์ทันสมัยเฉพาะตัวด้วยโทนสีแบบ Low-saturation

realme X50 Pro 5G ไม่เพียงแต่ทรงพลังด้วยประสิทธิภาพแต่ยังต้องมาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัย  โดยมาพร้อมโทนสีที่กำลังเป็นที่นิยมอย่าง Low-saturation มีด้วยกัน 2 สี ได้แก่สี Moss Green และ Rust Red ที่ได้แรงบันดาลใจจากสสารที่เปล่งแส่งอยู่นอกโลกในส่วนลึกของจักรวาล แฝงด้วยความลึกลับน่าค้นหา ผ่านกระบวนการผลิตแบบ AG Technology ต่อด้วยกระบวนการเคลือบสี 6 ชั้น และบ่มขัดสีอย่างน้อย 21 วัน ทำให้ได้พื้นผิวแบบด้าน ให้สัมผัสที่ละเอียดอ่อน จับถนัดมือ และไม่เกิดรอยนิ้วมือ

realme Buds Q หูฟังไร้สายออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ระดับโลกอย่างแบรนด์ Hermès

ในฐานะแบรนด์ผู้นำเทรนด์ด้านเทคโนโลยีเพื่อนคนรุ่นใหม่ realme ร่วมมือกับคุณโจเซ่ เลวี่ (Jose Levy) ดีไซน์เนอร์จากแบรนด์ดังระโลกอย่าง Hermès ร่วมออกแบบ realme Buds Q หูฟังไร้สายที่มาพร้อมคุณภาพเสียงและดีไซน์ระดับพรีเมี่ยมในราคาที่คนรุ่นใหม่สามารถที่จะจับต้องได้ โดย realme Buds ได้รับการออกแบบจากสิ่งรอบตัวอย่าง ‘ก้อนหิน’ ที่มีรูปทรงโค้งมนทุกองศาให้ความนุ่มนวลอ่อนโยน มาพร้อมกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่สี Quite Black, Quite White และ Quite Yellow

ในส่วนของคุณภาพเสียง realme Buds Q มาพร้อมไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 10 มิลลิเมตร พร้อม Gaming Mode ที่มีความหน่วงต่ำเพียง 119 มิลลิวินาที เพื่อให้ภาพและเสียงตรงกันในขณะเล่นเกมหรือรับชมภาพยนตร์นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับความสะดวกสบายในการสวมใส่ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 3.6 กรัม และรองรับการใช้งานได้ต่อเนื่อง 20 ชั่วโมง

เสริมพลังขับเคลื่อนคนรุ่นใหม่สู่ความสำเร็จด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยี ภายใต้คอนเซ็ปต์ Empower The Next Gen

realme X50 Pro 5G

                  (ในภาพจากซ้าย คุณแนนซี่ – คุณซิลวี่ – คุณเฟิร์น)

งานเปิดตัวครั้งนี้ realme นำเสนอผลิตภัณฑ์ภายใต้คอนเซ็ปต์ Empower The Next Gen ที่มุ่งมั่นพัฒนานำเสนอผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมและผลักดันคนรุ่นใหม่นำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ความก้าวหน้าที่เร็วกว่า ซึ่งภายในงานได้รับเกียรติจากคุณเฟิร์น ศุภนารี สุทธิวิจิตรวงษ์, คุณแนนซี่ นัยน์ภัค ภูมิภักดิ์ และคุณซิลวี่ ภาวิดา มอริจจิ  ตัวแทนจากคนรุ่นใหม่ที่มาบอกเล่าเรื่องราวสร้างแรงบัลใจ ปลุกพลังคนรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นกระบอกเสียง “ช่วยผลักดันสู่ความสำเร็จ”

realme X50 Pro 5G วางจำหน่ายในราคาเพียง 28,990 บาท พร้อมของแถมเครื่องฟอกอากาศ และ VIP Card ประกันหน้าจอแตก 1 ปี มูลค่ารวม 9,999 บาท วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ realme Brand Shop, Banana, BKK, KingKongPhone, TG FONE, Jaymart, IT City และ CSC

สัมผัส realme X50 Pro 5G ที่แรกก่อนใครในงาน Thailand Mobile Expo ระหว่างวันที่ 2 – 5 กรกฏาคม ในราคาเพียง 28,990 บาท พร้อมของแถมเครื่องฟอกอากาศ และ VIP Card ประกันหน้าจอแตก 1 ปี  พิเศษ! เฉพาะลูกค้าที่ซื้อในงาน Thailand Mobile Expo เท่านั้น รับเพิ่มทันทีกระเป๋าเดินทางมูลค่า 1,590 รวมมูลค่าของแถมทั้งหมด 11,589 บาท

สำหรับช่องทางออนไลน์วางจำหน่ายในวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ realme Official Store ใน Lazada ,Shopee, และ Thisshop ในราคาเพียง 28,990 บาท พร้อมของแถมเครื่องฟอกอากาศ และ VIP Card ประกันหน้าจอแตก 1 ปี มูลค่ารวม 9,999 บาท

ช่องทางการสั่งซื้อ

Lazada: https://bit.ly/rmx50p-green-lzd

Shopee:  https://bit.ly/rmx50p-shpp

พิเศษสุดสำหรับลูกค้า AIS และ TruemoveH สามารถเป็นเจ้าของ realme X50 Pro 5G ในวันที่ 2 กรกฎาคมในราคาเริ่มต้นเพียง 19,990 บาท  พร้อมรับของแถมกับเครื่องฟอกอากาศและ VIP Card มูลค่า ประกันหน้าจอแตก 1 ปี 9,999 บาท

นอกจากนี้ realme ยังมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าสามารถผ่อนชำระ 0% ได้นานสูงสุด 24 เดือน สำหรับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

realme Buds Q วางจำหน่ายในราคาเพียง 1,199 บาท ในวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

สำหรับช่องทางออนไลน์ realme Buds Q วางจำหน่ายที่ realme Official Store ใน Lazada ,Shopee, และ Thisshop พร้อมโปรโมชั่น Flash Sale ในวันที่ 1 กรกฎาคม ตั้งแต่เวลา 18.00 – 23.59 น. ในราคาพิเศษเพียง 999 บาท จากราคาปกติ 1,199 บาท

คลิกช้อปสมาร์ทโฟน realme ได้ที่นี่ >>> http://bit.ly/2Uk8hju

from:https://www.mobileocta.com/realme-x50-pro-5g-launches-with-buds-q-realme-in-thailand-officially/

Samsung เริ่มวางจำหน่ายหูฟังไร้สาย Galaxy Buds+ ครบทุกสี ราคา 4,990 บาท

หลังจากที่ Samsung ได้เปิดตัวหูฟังรุ่นอัพเกรดอย่าง Galaxy Buds+ ไปพร้อมๆ กับมือถือซีรีส์เรือธง Galaxy S20 ซึ่งหูฟังดังกล่าวได้วางจำหน่ายไปเมื่อ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยจะมีเฉพาะสีขาวเท่านั้น แต่ถ้าใครที่ต้องการ Galaxy Buds+ สีอื่นๆ ตอนนี้ ก็สามารถหาซื้อได้แล้วตามร้านค้าที่ร่วมรายการ หรือทาง Samsung Online Shop ส่วนสีแดงแรงฤทธิ์ก็กำลังจะตามมาในเร็วๆ นี้ด้วย

Galaxy Buds+ ได้รับการอัพเดทในเรื่องของคุณภาพเสียง ด้วยการเพิ่มลำโพงมาให้อีกข้างละ 2 ตัว เพื่อเน้น Bass และ Treble แถมยังได้แบรนด์เครื่องเสียงระดับโลกอย่าง AKG มาช่วยจูนเสียงให้ดีขึ้น และมีมิติยิ่งขึ้น แถมไดรเวอร์ยังมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 38% อีกด้วย

แบตเตอรี่ก็ได้รับการอัพเกรดให้อึดกว่าเดิม โดยรอบนี้ใส่มาให้มากถึง 85 มิลลิแอมป์ สามารถใช้งานต่อเนื่องได้แบบยาวๆ 11 ชั่วโมง แถมหากชาร์จกับเคส ก็จะสามารถใช้งานได้รวมๆ ถึง 22 ชั่วโมง เรียกได้ว่าใช้งานได้ยาวนานเกือบ 1 วันเลยทีเดียว อีกทั้งเคสของ Galaxy Buds+ ยังมากับระบบชาร์จไว ใช้เวลาชาร์จ 3 นาที ได้แบตมาฟังต่อเนื่องแล้ว 1 ชั่วโมง

Google Buds+ สีขาว สีดำ สีฟ้า (Sky Blue) เริ่มวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปทาง Samsung Online Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ ส่วน Galaxy Buds+ สีแดง จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป เฉพาะ Samsung Online Shop เท่านั้น โดย Galaxy Buds+ ทุกสีมีราคาเท่ากันที่ 4,990 บาท

from:https://droidsans.com/samsung-galaxy-buds-plus-all-colors/