คลังเก็บป้ายกำกับ: TRUE_WIRELESS_HEADPHONE

เผยข้อมูล AirPods Studio หูฟังไร้สายระดับ High-end อาจเปิดตัวพร้อม iPhone 12 และจะเริ่มวางขายพฤจิกายนเป็นต้นไป

ก่อนหน้านี้ได้มีข้อมูลว่าทาง Apple Store ในต่างประเทศเริ่มทยอยหยุดขายหูฟังของแบรนด์อื่น ๆ เช่น Bose หรือ Sony ทำให้สื่อหลาย ๆ เจ้าก็ต่างคาดคะเนกันว่า Apple กำลังเตรียมตัวตีตลาดหูฟังระดับ High-end ที่จะมาในชื่อ AirPods Studio โดยคาดว่าอาจจะเปิดตัวพร้อม ๆ กับ iPhone 12 ในวันที่ 13 ตุลาคม 2563 นี้ และอาจจะเริมวางจำหน่ายในช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

ทวิตเตอร์ของแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถืออย่าง Jon Prosser ที่เคยออกมาให้ข้อมูลเรื่องงานเปิดตัว Apple iPad Air เมื่อเดือนก่อนก็ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหูฟัง AirPods Studio ตัวนี้ว่า ขั้นตอนการผลิตของหูฟังตัวนี้จะยังไม่เสร็จสิ้นไปจนกว่าจะถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2563 เพราะฉะนั้นหูฟังดังกล่าว ก็จะไม่พร้อมวางจำหน่ายจนกว่าจะถึงช่วงต้นเดือน พฤศจิกายน ช่วงหลังจากงานเปิดตัว iPhone 12 ซึ่งตอนนี้ถูกกำหนดเอาไว้เป็นวันที่ 13 ตุลาคม 2563

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลออกมาอีกว่า Apple Studio จะเป็นหูฟังสวมหัว Over-ear แบบไร้สายที่จะเอามาสู้กับแบรนด์ตัวเต็งของวงการอย่าง Bose Comfort และ Sony WH-1000XM4 ได้อย่างสูสี แถมยังมีความได้เปรียบเรื่อง Eco-system ของ Apple ที่จะทำให้ AirPods Studio คู่นี้สามารถใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ กับ iPhone ได้อย่างสบาย ๆ เลย

ในส่วนของฟีเจอร์ก็มีลือมาว่าหูฟัง AirPods Studio จะมาพร้อมกับระบบกำจัดเสียงรบกวน ANC เหมือนกับที่ใส่มาใน AirPods Pro แถมยังมีระบบ Wear-detection เหมือนกับในตัว Sony WH-1000XM4 อีกทั้งยังมีอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ไม่เคยเจอในหูฟังไหนมาก่อนอย่างระบบตรวจจับหูฟังซ้ายขวาที่จะสลับข้างเสียงให้อัตโนมัติไม่ว่าจะใส่ทางไหน ทำให้ตัวผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องหาว่าหูฟังฝั่งไหนคือซ้ายหรือขวา ส่วนวัสดุประกอบจะใช้โลหะ กับหนังคุณภาพสูง และชาร์จด้วยพอร์ต USB-C

ราคาของ AirPods Studio ตามที่มีข้อมูลหลุดออกมาก็จะอยู่ที่ 349 ดอลล่าร์สหรัฐฯ (ราว ๆ 10,900 บาท) ซึ่งก็ถือว่าเป็นหูฟังในระดับ Premium ที่มีราคาไม่แรงเกินไปนัก หากเทียบกับเจ้าตลาดรุ่นอื่น ๆ…หลังจากนี้ก็ต้องมารอดูกันต่อไปครับ ว่าตัวจริงของมันจะเปิดมาด้วยความว้าวขนาดไหน 😆

 

Source: Cnet, AppleInsider

from:https://droidsans.com/airpods-studio-postponed-to-november/

หูฟังไร้สาย realme Buds Q มาพร้อมฟีเจอร์ Game Mode, ไดรฟ์เวอร์ 10 มม., แบต 4.5 ชม. เปิดราคา 1,199 บาท

นอกจาก realme จะเปิดตัวมือถือเรือธง realme X50 Pro 5G ไปแล้ว ก็ยังมีการเปิดตัวหูฟังไร้สาย realme Buds Q ตามมาด้วย โดยหูฟังรุ่นนี้มีฟีเจอร์เด็ดๆ มาให้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ Game Mode ลดความหน่วงของเสียง, ไดรฟ์เวอร์ทรงพลังขนาด 10 มม., แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 4.5 ชม. แถมยังได้ดีไซน์เนอร์ชื่อดังมาร่วมออกแบบหูฟังรุ่นนี้อีกด้วย ส่วนราคาก็เปิดมาได้น่าสนใจสุดๆ อยู่ที่ 1,199 บาท เท่านั้น

หูฟัง realme Buds Q ได้นักออกแบบอย่าง José Lévy ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมนักออกแบบจากแบรนด์แฟชั่นระดับโลกอย่าง Hermès โดยการออกแบบของหูฟังรุ่นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากก้อนกรวดที่โดนทั้งคลื่นซัด และโดนลมกัดกร่อนจนมีความกลมมน นวลเนียน และจากการที่ใช้วัสดุโพลีเมอร์ PC + ABS ทำให้มันมีน้ำหนักที่เบามากๆ แค่ 3.6 กรัมเท่านั้น (เบากว่ากระดาษ A4 แผ่นนึงซะอีก) ทำให้สามารถใส่ติดหูไว้ได้นานโดยที่ไม่รู้สึกล้าหู

realme Buds Q มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือสีเหลือง สีดำ และสีขาว

พลังเสียงของ realme Buds Q ก็ไม่ใช่เล่นๆ เพราะมากับไดรฟ์เวอร์ Dynamic Bass Boost ขนาดใหญ่ถึง 10 มม. ทำให้เสียงที่ออกมามีทั้งความใส และยังให้เสียงเบสที่ทรงพลังตึ้บสะใจอีกด้วย

หูฟังรุ่นนี้แม้ว่าจะมีดีไซน์สวยงาม เล็กจิ๋ว แถมเบาสุดๆ แต่มันก็สามารถอัดแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 4.5 ชม., ใช้เล่นเกมต่อเนื่องได้ 5 ชม., ใช้ดูหนังต่อเนื่องได้ 6 ชม., ใช้คุยโทรศัพท์ต่อเนื่องได้ 3 ชม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และหากเอาไปชาร์จกับเคสก็จะสามารถใช้งานรวมๆ กันได้กว่า 20 ชม. เลยทีเดียว

realme Buds Q มากับฟีเจอร์ Super Low Latency Gaming Mode ที่จะลดความหน่วงของเสียงกับภาพลงไปเหลือแค่ 119 มิลลิวินาทีเท่านั้น ทำให้การเล่นเกม หรือดูหนัง ไม่สังเกตถึงความหน่วงเลย เรียกว่าเสียงกับปากออกมาตรงกันแทบจะเป๊ะๆ

สำหรับสายสปอร์ตก็หมดห่วง เพราะหูฟังรุ่นนี้ได้รับมาตรฐานกันน้ำ IPX4 ทำให้หมดห่วงไปเลยถ้าหากว่าต้องออกกำลังจนเหงื่อท่วม หรือจะใช้งานตอนฝนตกพรำๆ

หูฟัง realme Buds Q เปิดราคามาที่ 1,199 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป แต่จะมีโปรโมชั่น Flash Sale กับตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ทั้ง Lazada, Shopee และ This Shop ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เวลา 18.00 – 23.59 น. ราคาพิเศษเหลือเพียง 999 บาท เท่านั้น

from:https://droidsans.com/true-wireless-headphone-realme-buds-q/

Sony พร้อมวางจำหน่ายหูฟังไร้สาย WF-SP800N, WF-XB700, WH-CH710N และ WI-SP510 ในไทยอย่างเป็นทางการ

Sony เอาใจคอเพลงด้วยการเปิดตัวหูฟังไร้สาย 4 รุ่น WF-SP800N, WF-XB700, WH-CH710N และ WI-SP510 ซึ่งแต่ละรุ่นล้วนได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพให้สูงขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ที่อึดขึ้น, เทคโนโลยี Bluetooth 5.0 ที่ช่วยให้สัญญาณเสถียรกว่าเดิม แถมยังได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นแบบ IP55 และ IPX4 อีกด้วย ส่วนแต่ละรุ่นจะมีหน้าตา และฟีเจอร์อะไรเด็ดๆ บ้าง มาดูกันครับ

WF-SP800N : หูฟัง True Wireless อินเอียร์สายสปอร์ต พร้อมแบตสุดอึด

หูฟังไร้สายแบบ True Wireless ที่เหมาะทั้งการใช้งานทั่วไป และการใช้งานเวลาออกกำลังกาย ด้วยดีไซน์เล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา และใส่ได้กระชับ ทำให้ตัวหูฟังไม่กระเด็นหลุด เมื่อใช้งานอย่างหนักหน่วงไม่ว่าจะวิ่ง จะปั่นจักรยาน กระโดดเชือก ฯลฯ นอกจากนี้ยังได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP55 หมดห่วงแม้ว่าจะออกกำลังกายจนเหงื่อท่วม หรือจะวิ่งจ๊อกกิ้งกลางสายฝนก็ตาม

สำหรับคุณภาพเสียงก็หายห่วงด้วยระบบ 360 Reality Audio เพิ่มมิติ ความสมจริงให้กับเพลงต่างๆ และยังเข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัวได้ด้วยระบบ Active Noise Cancellation ที่จะตัดเสียงรบกวนรอบข้างออกได้อย่างเงียบกริบ แต่ถ้าใครกลัวว่าจะไม่ได้ยินอะไรเลยจนเกิดอันตรายเวลาออกกำลัง ก็ยังมีโมหด Ambient Sound สำหรับรับเสียงข้างนอกเข้ามาที่หูฟังได้โดยที่ไม่ต้องถอดออกด้วย แบตเตอรี่ของ WF-SP800N เรียกว่าอึดจนหายห่วง เพราะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 18 ชม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง และสามารถยืดออกไปได้ถึง 26 ชม. หากปิดระบบ Noise Cancellation

Sony WF-SP800N มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ สีดำ สีขาว สีน้ำเงิน และสีส้ม มีราคาอยู่ที่ 6,490 บาท โดยพร้อมวางจำหน่ายภายในเดือนมิถุนายนนี้

WF-XB700 : หูฟัง True Wireless อินเอียร์ตระกูล Extra Bass

อีกหนึ่งหูฟัง True Wireless จาก Sony ที่คราวนี้อยู่ในตระกูล Extra Bass ซะด้วย ทำให้มั่นใจได้กับความกระหึ่ม และทรงพลังของเบส ไม่ว่าจะใส่ฟังเพลง หรือใส่ดูหนังก็ได้อารมณ์สุดๆ หูฟังรุ่นนี้ยังมาพร้อมแบตเตอรี่อึดๆ ที่ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 18 ชม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และยังมีระบบ Quick Charge ชาร์จไฟจากเคสแค่ 10 นาที ก็ใช้ต่อได้ถึง 60 นาที

WF-XB700 ยังเหมาะกับการใส่ออกกำลังกาย ด้วยมาตรฐานกันน้ำ IPX4 เจอทั้งเหงื่อทั้งฝนปรอยๆ ก็ไม่มีปัญหา หูฟังรุ่นนี้มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และสีน้ำเงิน มีราคาอยู่ที่ 3,990 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายกลางเดือนมิถุนายน 2563 นี้

WI-SP510 : หูฟังไร้สายสไตล์สปอร์ตแบบคล้องคอ ตระกูล Extra Bass

ต่อด้วยหูฟังสไตล์สปอร์ตแบบคล้องคอรุ่น WI-SP510 ที่ออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ด้วยหูฟังที่มีรูปแบบอินเอียร์ ที่มีตะขอยางสำหรับยึดกับรูหู ทำให้สามารถใส่ออกกำลังได้อย่างมั่นใจไม่มีหลุดแน่นอน (ถ้าสายไม่ไปเกี่ยวกับอะไรเข้า) นอกจากนี้ยังได้รับมาตรฐานกันน้ำ IPX5 อีกด้วย WI-SP510 ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 15 ชม. จากการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง และใช้เทคโนโลยี Bluetooth 5.0 ที่มีความเสถียรของการเชื่อมต่อมากกว่าเดิม ไม่ต้องหงุดหงิดใจกับเสียงขาดๆ หายๆ อีกต่อไป

WI-SP510 มีทั้งหมด 4 สี คือ สีดำ สีขาว สีน้ำเงิน และสีส้ม เริ่มวางจำหน่ายกลางเดือนมิถุนายน 2563 ในราคา 2,990 บาท

WH-CH710N : หูฟังไร้สายแบบ Full Size พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน

ใครที่ไม่ชอบหูฟังประเภทอินเอียร์ ก็ยังมีตัวเลือกแบบ Full Size มาให้ด้วย กับ WH-CH710N ที่มากับเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนอัตโนมัติ Dual Noise Sensor แบบ Artificial Intelligence (AINC) ซึ่งจะช่วยกรองเสียงรับกวนจากภายนอกได้ดีกว่าเดิม พร้อมไดร์เวอร์ขนาด 30 มม. ให้เสียงทรงพลัง ใสปิ๊ง เหมาะทั้งดูหนัง และฟังเพลง แบตเตอรี่อึดๆ ที่ใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 35 ชม. และมีระบบ Quick Charge ใช้งานต่อได้ 60 นาที จากการชาร์จแค่ 10 นาที

WH-CH710N มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และสีน้ำเงิน เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 4,990 บาท

ใครที่สนใจหูฟังรุ่นไหน ก็สามารถไปทดลองใช้งานกันได้ที่ Sony Store, Sony Center หรือร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายกันได้เลย

from:https://droidsans.com/introducing-4-new-sony-wireless-headphones-wf-sp800n-wf-xb700-wh-ch710n-wi-sp510/

Samsung เตรียมส่งออกชิปหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ให้ผู้ผลิตรายอื่น ช่วยแบตเตอรี่อึดขึ้น ในขนาดที่เล็กลง

ตอนนี้เหล่าหูฟังไร้สายแบบ True Wireless เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ (ส่วนนึงเพราะชอบตัดรูหูฟัง 3.5 มม. ทิ้งนั่นแหละ) เนื่องจากมันมีความสะดวกสบายในการใช้งานนั่นเอง แต่ข้อเสียของมันก็คืออายุของแบตเตอรี่ที่มักจะใช้งานติดต่อกันได้แค่ราวๆ 4 – 6 ชม. เท่านั้น…ซึ่งอีกไม่นานนี้ ปัญหาดังกล่าวอาจจะได้รับการแก้ไขด้วยชิปหูฟังไร้สายรุ่นใหม่จาก Samsung ที่สามารถเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ออกไปได้เป็นเท่าตัว

ถ้าใครที่ได้เป็นเจ้าของหูฟังไร้สายรุ่นใหม่จาก Samsung อย่าง Galaxy Buds+ มาแล้ว ก็จะรู้ว่ามันมีอายุการใช้งานต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง แบบน่าประทับใจสุดๆ อยู่ที่ราว 10 – 11 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุที่ทำให้หูฟังรุ่นนี้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานขนาดนี้ ก็เป็นเพราะชิปรุ่นใหม่ MUA01 และ MUB01

โดยชิปดังกล่าวยังมากับเทคโนโลยี Power Management Intergrated Circuits (PMICs) ซึ่งนอกจากมันจะจัดการการใช้พลังงานได้ดีขึ้นแล้ว ชิปดังกล่าวยังมีขนาดที่เล็กลงกว่าเดิม ทำให้เหลือพื้นที่สำหรับใส่แบตเตอรี่ที่ขนาดใหญ่กว่าเดิมได้ โดยที่ตัวหูฟังยังคงมีขนาดเล็กเท่าเดิม นอกจากนี้มันยังรองรับทั้งการชาร์จแบบไร้สาย และแบบมีสายอีกด้วย

ตอนนี้ทาง Samsung ได้เริ่มส่งออกชิปรุ่นดังกล่าวให้กับผู้ผลิตหูฟังรายอื่นๆ ที่ต้องการแล้ว ทำให้หลังจากนี้เราน่าจะได้เห็นเหล่าหูฟังไร้สายแบบ True Wireless รุ่นใหม่ๆ ที่มีแบตเตอรี่อึดกว่าเดิม จนสามารถใช้งานได้ยาวๆ เป็น 10 ชม. แล้วล่ะครับ

 

ที่มา : MobileSyrup

from:https://droidsans.com/samsung-new-wireless-headphones-chip-longer-battery-life/

Jabra เปิดตัวหูฟัง True Wireless สไตล์สปอร์ต Elite 75t, Elite Active 75t และ Elite 45h

Jabra เปิดตัวหูฟังไร้สายระดับเรือธงใหม่ถึง 3 รุ่น ทั้งหูฟังแบบ On ear รุ่น Jabra Elite 45h ที่ใช้งานได้ยาว 40 ชม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และหูฟัง True Wireless ซีรีส์ Elite 75t และ Elite Active 75t ที่เหมาะสุดๆ สำหรับสายสุขภาพ เพราะมากับความสามารถในการกันน้ำกันฝุ่นได้ แถมยังใช้งานได้ยาวถึง 7.5 ชม.

Jabra Elite 75t

หูฟังไร้สายแบบ True wireless ภาคต่อจากรุ่น 65t ที่ได้รับการปรับปรุงทั้งการเชื่อมต่อให้เสถียรขึ้น, คุณภาพเสียงที่ดีกว่า ตึ้บกว่า, แบตเตอรี่ที่อึดขึ้นอีก 50% แต่มาในขนาดที่เล็กลงกว่าเดิมถึง 20%

นอกจากนี้ยังได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP55 หมดห่วงเรื่องเหงื่อ เรื่องฝน ระหว่างออกกำลังไปได้เลย แถมยังสวมใส่ได้แน่นปึ้ก ไม่มีการหลุดระหว่างออกกำลัง เพราะมีการดีไซน์ให้เข้ากับผู้ใช้ชาวเอเชีย

แบตเตอรี่ของ Jabra Elite 75t ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวๆ ถึง 7.5 ชม. บวกกับชาร์จแบตจากเคสได้อีก รวมๆ แล้วได้ถึง 28 ชม. เลยทีเดียว หรือถ้าใครรีบจัดก็มีระบบชาร์จไว 15 นาที ใช้งานได้ 60 นาที อีกต่างหาก

Jabra Elite Active 75t

สำหรับหูฟังรุ่นนี้จะได้รับการอัพเกรดขึ้นมาอีกนิด ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP57 ทำให้มันลงน้ำลึกได้ถึง 1 เมตร ในเวลาไม่เกินครึ่งชม. (แต่ไม่แนะนำให้ใส่ว่ายน้ำนะครับ) และเคลือบผิวแบบพิเศษ ทำให้หูฟังยึดกับหูผู้ใช้ได้ดีขึ้น

Jabra Elite 45h

แต่ถ้าใครไม่ชอบหูฟังแบบ True Wireless ก็มีตัวเลือกอย่าง Elite 45h ซึ่งเป็นหูฟังแบบ On Ear ที่มากับไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 40 มม. และยังมีไมโครโฟนสนทนาอีก 2 ตัว ช่วยให้การพูดคุยโทรศัพท์ ชัดเจนกว่าที่เคย

ตัวหูฟังมีดีไซน์เรียบหรู ดูดี มีราคา ใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา แค่ 170 กรัม ฟองน้ำรองหูใส่แล้วนุ่มสบายดี ไม่หนีบจนเจ็บหรือแน่นเกินไปจนใส่ไม่สบาย นอกจากนี้ยังมีปุ่มกดเรียกผู้ช่วยอย่าง Google Assistant หรือ Siri เพื่อสั่งงานด้วยเสียงได้ง่ายๆ อีกด้วย

Jabra Elite 75t เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 6,290 บาท ส่วน Jabra Elite Active 75t และ Elite 45h จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นไปในราคา 6,990 บาท และ 3,490 บาท ตามลำดับ

from:https://droidsans.com/jabra-new-wireless-headphones-elite-series/

Harman Kardon เปิดตัวหูฟัง 3 รุ่น 3 สไตล์ TWS, Over-Ear และ In-Ear ราคาเริ่มต้นราว 3,000 บาท

งาน CES 2020 คึกคักมากเลยทีเดียว หลังจาก Samsung, NVIDIA, ASUS หรือ Sony ที่ขนเซอร์ไพรส์แอบมาเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ากันถึงงาน ล่าสุดก็เป็นคิวของแบรนด์เครื่องเสียงระดับโลกอย่าง Harman Kardon แล้ว รอบนี้นำหูฟัง 3 รุ่น 3 สไตล์มาเปิดตัว ทั้งแบบ True Wireless, Over-Ear และแบบ In-Ear ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

มาเริ่มกันที่รุ่น Fly TWS กันก่อนเลยดีกว่าครับ หูฟังรุ่นนี้เป็นหูฟังแบบไร้สาย True Wireless มาพร้อมกับฟีเจอร์ตรวจจับว่าสวมใส่อยู่หรือเปล่า และ Touch Controls ควบคุมการใช้งานต่างๆ ผ่านการสัมผัส และแตะ นอกจากนี้เจ้า Fly TWS ยังใช้งานแบบต่อเนื่องได้นานถึง 5 ชั่วโมง และชาร์จไฟกับตัวเคสได้ รวมๆ แล้วฟังได้นานถึง 15 ชั่วโมง สำหรับสายออกกำลังกายหรือสายลุย ก็ไม่ต้องกังวล เพราะว่า Fly TWS สามารถกันเหงื่อและละอองฝนได้ระดับหนึ่งเลยล่ะ

ตัวที่สอง Fly ANC เป็นแบบ Over-Ear หรือแบบครอบหู รุ่นนี้พิเศษกว่ารุ่นก่อนหน้าตรงที่มีฟีเจอร์ Active Noise Cancellation หรือระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก มาพร้อมไดร์เวอร์ขนาด 40 มิลลิเมตร แถมผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งเสียงให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองผ่านแอป Harman Kardon Headphones อีกด้วย แบตเตอรี่ขนาด 700 มิลลิแอมป์ ชาร์จ 2 ชั่วโมงเต็ม โดยเจ้า Fly ANC สามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 30 ชั่วโมงเลยทีเดียว (แต่ถ้าเปิดระบบตัดเสียงด้วยจะเหลือแค่ 20 ชั่วโมง)

ปิดท้ายด้วย Fly BT หูฟังทรง Neckband มาพร้อมกับปุ่ม 3 ปุ่ม สำหรับเพิ่มลดเสียง หรือควบคุมการใช้งานต่างๆ น้ำหนักของหูฟังก็เบามากๆ เพียงแค่ 17.1 กรัมเท่านั้น สำหรับไดร์เวอร์ใส่มาให้เป็นตัวขนาด 8.6 มิลลิเมตร ใช้ได้นานต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง ชาร์จเพียงแค่ 10 นาที สามารถฟังเพลงได้ 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังรองรับมาตรฐานกันน้ำ IPX5 อีกด้วย ใส่ออกกำลังกายได้หายห่วง

สำหรับราคาและวันวางจำหน่าย หูฟังรุ่น Fly TWS และ Fly ANC จะเริ่มเบิกร่องวางขายก่อน ราคาเริ่มต้น $150 (4,500 บาท) และ $250 (4,500 บาท) ตามลำดับ ขณะที่ Fly BT เริ่มเปิดให้จองวันนี้ แต่จะทยอยส่งสินค้าในวันที่ 21 มกราคมที่จะถึงนี้ครับ เคาะราคามาน่ารักสบายกระเป๋าสุด เพียงแค่ $100 หรือราวๆ 3,000 บาทเท่านั้นเอง

ที่มา: gsmarena 

from:https://droidsans.com/harman-kardon-launched-3-headphones-ces-2020/