คลังเก็บป้ายกำกับ: TQPR

[PR] เวสเทิร์น ดิจิตอล เปิดตัวโซลิดสเตตไดรฟ์ตัวแรกของโลกที่มาพร้อมเทคโนโลยีชิป 3D NAND แบบ 64 เลเยอร์

พร้อมทำการเปิดตัว WD Blue™ 3D NAND SATA SSD และ SanDisk Ultra™ 3D SSD ในประเทศไทย

กรุงเทพฯ ประเทศไทย 31 สิงหาคม 2560 – เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ปอเรชั่น (หรือเรียกว่า “เวสเทิร์น ดิจิตอล”) (NASDAQ: WDC) ผู้นำด้านเทคโนโลยีและโซลูชั่นการเก็บข้อมูลระดับโลก ประกาศเปิดตัว WD Blue™ 3D NAND SATA SSD และ SanDisk Ultra™ 3D SSD ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นโซลิดสเตตไดรฟ์ (SSD) ตัวแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีชิป 3D NAND ที่จัดเก็บข้อมูลได้แบบแนวตั้ง 64 เลเยอร์ ของเวสเทิร์น ดิจิตอล โดย SSD รุ่นใหม่นี้ให้ในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ประสิทธิภาพในการทำงาน ความทนทาน ประสิทธิภาพความจุที่สูงขึ้น

“ไม่ว่าจะใช้สำหรับเล่นเกม ตัดต่อรูปภาพและวิดีโอ หรือแม้กระทั่ง การเก็บ ประมวลผล และเรียกใช้ข้อมูลจากที่ไหนและเมื่อไหร่ก็ได้ที่มีคุณภาพสูง (computing applications) ปัจจุบันลูกค้าคาดหวังให้คอมพิวเตอร์พีซีและแล็ปท็อปของพวกเขาให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า พร้อมความทนทานที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ต้องใช้พลังงานที่น้อยลง” คุณมากาเร็ต โค้ว ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ประจำภูมิภาคเอเชียใต้ บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ปอเรชั่น กล่าวและเสริมว่า “SSD ที่ใช้เทคโนโลยีชิป 3D NAND ที่จัดเก็บข้อมูลแบบแนวตั้ง 64 เลเยอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการต่างๆ เหล่านั้น โดยนำเสนอภายใต้แบรนด์ Sandisk และ WD ซึ่งเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งทั้งสองของเรา โดยที่จะดึงความสนใจจากผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในวงกว้างที่กำลังมองหาประโยชน์ต่างๆ จากเทคโนโลยีล่าสุดที่มีอยู่ในยุคปัจจุบัน”

WD Blue™ 3D NAND SATA SSD เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบประกอบคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเอง ผู้ค้าปลีก และผู้สร้างระบบ ซึ่งมีค่าเวลาเฉลี่ย MTTF เป็น 1,750,000 ชั่วโมงที่ยาวนานที่สุดในอุตสาหกรรม และผ่านการรับรองมาตรฐานของ WD Functional Integrity Testing Lab (F.I.T. Lab™) และในส่วนของ SanDisk Ultra® 3D SSD เหมาะสำหรับใช้เพื่อเล่นเกมและกลุ่มครีเอทีฟที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพคอมพิวเตอร์พีซีของตน โดยจะให้ความทนทานและความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้น ไม่ต้องรอเครื่องบูต เวลาในการโหลดแอปพลิเคชั่นที่สั้นลง และการถ่ายโอนข้อมูลที่เร็วขึ้น

การจัดจำหน่ายและราคาจำหน่าย

WD Blue 3D NAND SATA SSDs มีขนาดความจุตั้งแต่ 250GB 500GB 1TB และ 2TB ในขนาดมาตรฐาน 2.5 นิ้ว/7 มม. และแบบ M.2 ที่มีความกว้าง 22 มม. ยาว 80 มม. ที่มาจากโรงงาน ส่วน SanDisk Ultra 3D SSDs ขนาดความจุตั้งแต่ 250GB 500GB 1TB และ 2TB ที่ใช้งานได้กับช่องติดตั้งมาตรฐานขนาด 2.5 นิ้ว ที่มาจากโรงงาน

WD Blue™ 3D NAND SATA SSD และ SanDisk Ultra™ 3D SSD มีการรับประกันเป็นระยะเวลา 3 ปี และพร้อมวางจำหน่ายแล้วที่ในร้านค้าชั้นนำทั่วไป สำหรับราคาจัดจำหน่าย WD Blue 3D NAND SATA SSD และ SanDisk Ultra 3D SSDs ขนาด 2.5 นิ้ว/7 มม. จำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 4,290 บาท และสำหรับ WD Blue รุ่น M.2 ขนาด 2280 มม. จำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 4,390 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ WD Blue 3D NAND SATA SSD สามารถดูได้ที่ https://www.wdc.com/wd-blue-3d.htm และข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SanDisk Ultra 3D SSD สามารถดูได้ที่ https://ww.sandisk.com/home/ssd/ultra-3d-ssd

###

เกี่ยวกับ เวสเทิร์น ดิจิตอล

เวสเทิร์น ดิจิตอล (NASDAQ: WDC) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชั่นด้านการจัดเก็บข้อมูลชั้นนำของอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นบริการที่ให้อำนาจแก่ผู้ใช้ในการสร้าง ใช้ประโยชน์ สัมผัสประสบการณ์ และเก็บรักษาข้อมูลเอาไว้ บริษัทให้การตอบรับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาด้วยการนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าสนใจอย่างครบวงจร โซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลคุณภาพสูงด้วยนวัตกรรมที่มุ่งเน้นสนองตอบลูกค้าทั้งในด้าน ประสิทธิภาพสูง ความยืดหยุ่น และความเร็ว ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของบริษัทวางจำหน่ายภายใต้แบรนด์ HGST, SanDisk และ WD ตลอดจนการรับจ้างผลิต (OEM) ให้แก่ตัวแทนจำหน่ายหลัก ร้านค้าปลีก รวมถึงผู้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบคลาวด์ และผู้บริโภคทั่วไป

แถลงการณ์การคาดการณ์ ในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีแถลงการณ์การคาดการณ์ในอนาคตบางประการ ซึ่งรวมถึงแถลงการณ์เกี่ยวกับการพัฒนา ประสิทธิภาพการทำงาน และความจุ ขีดความสามารถ แอปพลิเคชั่น และการจัดจำหน่ายของ WD Blue 3D NAND SATA SSDs และ SanDisk Ultra 3D SSDs และความคาดหวังต่อการเร่งความเร็วของการโอนถ่ายของชิป 3D NAND แบบ 64 เลเยอร์ ซึ่งขึ้นอยู่กับความคาดหวังในปัจจุบัน ความเสี่ยงที่อาจทำให้ข้อความเชิงคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ไม่ถูกต้อง ซึ่งรวมไปถึงสิ่งอื่นๆ ด้วย เช่น การนำเสนอผลิตภัณฑ์ของเราอาจไม่ได้จำหน่ายในราคาและเวลาตามที่กำหนด การโอนของชิป 3D NAND แบบ 64 เลเยอร์ อาจไม่เป็นไปตามคาดได้ และปัจจัยด้านความเสี่ยงอื่นๆ ที่ระบุรายละเอียดไว้ในรายงานตามช่วงเวลาล่าสุดของเวสเทิร์น ดิจิตอล ตามรายงานจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึง และไม่จำกัดอยู่เพียงข้อมูลในรายงานประจำไตรมาสล่าสุด ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยข้อมูลจากบุคคลที่สาม ซึ่งสะท้อนการคาดการณ์ของพวกเขา ณ วันที่ออกแถลงการณ์ แถลงการณ์ทั้งหมดที่ทำขึ้นในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้จัดทำเฉพาะวันที่เผยแพร่นี้เท่านั้น เวสเทิร์น ดิจิตอล ไม่มีภาระผูกพันธ์ในการปรับปรุงความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ในกรณีที่เหตุการณ์ หรือสถานการณ์เปลี่ยนไปหลังจากวันที่เผยแพร่นี้

from:https://www.techtalkthai.com/wd-3d-nand-64-layers-solid-state/

[PR] เวสเทิร์น ดิจิตอล เปิดตัวเทคโนโลยี 4 บิตต่อเซลล์บนชิป 3D NAND

ตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมการจัดเก็บข้อมูลในเซลล์แบบหลายชั้น
ซึ่งพัฒนาต่อยอดจากชิป 2D NAND ที่ใช้เทคโนโลยี 4 บิตต่อเซลล์

กรุงเทพฯ 1 สิงหาคม 2560 – เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ปอเรชั่น (NASDAQ: WDC) ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาโครงสร้างหน่วยความจำแฟลชแบบ 4 บิตต่อเซลล์ (X4) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม 3D NAND ที่รองรับได้ถึง 64 เลเยอร์ หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า BiCS3 การพัฒนาดังกล่าวต่อยอดจากนวัตกรรม X4 สำหรับเทคโนโลยีชิป 2D NAND และมุ่งสานต่อความสำเร็จในการจัดจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ปัจจุบัน เวสเทิร์น ดิจิตอล พัฒนาเทคโนโลยี X4 เพื่อชิป 3D NAND ด้วยการใช้ประโยชน์จากการควบรวมกิจการที่มีศักยภาพสูง ทั้งกระบวนการผลิตแผ่นซิลิกอนเวเฟอร์ การพัฒนาวิศวกรรมเพื่อสร้างข้อมูล 16 ชั้นในทุกเครือข่ายการจัดเก็บข้อมูลและความเชี่ยวชาญด้านการจัดการระบบหน่วยความจำแฟลชในภาพรวม เทคโนโลยีชิป BiCS3 X4 มอบศักยภาพการเก็บข้อมูลระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรมที่ 768 กิกะบิตต่อชิปหนึ่งตัว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับชิป 512 กิกะบิตรุ่นก่อนหน้าซึ่งใช้สถาปัตยการรมแบบ 3 บิตต่อเซลล์ (X3) ทั้งนี้ทาง เวสเทิร์น ดิจิตอล จะทำการโชว์ผลิตภัณฑ์แบบต่อพ่วงและฮาร์ดดิสก์แบบโซลิดสเตท (Solid-state drive) ที่ผลิตด้วยชิป BiCS3 X4 พร้อมกับศักยภาพต่างๆ ของระบบเหล่านี้ที่งาน “แฟลช เมมโมรี่ ซัมมิต (Flash Memory Summit)” ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองซานตา คลาร่า รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาในเดือนสิงหาคมนี้

“การนำสถาปัตยกรรม X4 มาใช้บน BiCS3 ถือว่าเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญของเวสเทิร์น ดิจิตอล เนื่องจากเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในเทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช NAND และยังช่วยให้เราสามารถเพิ่มทางเลือกด้านโซลูชั่นส์การจัดเก็บข้อมูลให้แก่ลูกค้าของเราได้” ดร.ศิวะ ศิวะราม รองประธานบริหาร ฝ่ายเทคโนโลยีหน่วยความจำของบริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล กล่าวและเสริมว่า “สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของการประกาศความสำเร็จในวันนี้คือการใช้เทคนิคที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในสถาปัตยกรรม X4 ซึ่งเอื้อให้เทคโนโลยีชิป BiCS3 X4 ของเรามีประสิทธิภาพเทียบเท่าชิป BiCS3 X3 การลดช่องว่างด้านประสิทธิภาพระหว่างสถาปัตกรรม X4 และ X3 ถือเป็นคุณสมบัติที่ช่วยสร้างความแตกต่างและมีความสำคัญสำหรับเรา พร้อมกับจะช่วยให้ตลาดเกิดการยอมรับเทคโนโลยี X4 อย่างกว้างขวางมากขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้า”

ความสำเร็จครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นจากมรดกแห่งความเชี่ยวชาญเกือบ 3 ทศวรรษในการเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมแฟลช รวมถึงเทคโนโลยีแฟลชแบบเซลล์หลายชั้น (MLC) ซึ่งใช้เทคโนโลยีสองบิตต่อเซลล์ (X2) และสามบิตต่อเซลล์ (X3)

บริษัทฯ คาดการณ์ว่าจะเริ่มผลิตเทคโนโลยีชิป 3D NAND X4 เพื่อตอบสนองการใช้งานหลากหลายรูปแบบที่จะได้ประโยชน์จากศักยภาพที่สูงขึ้นของ X4 ทั้งนี้ เทคโนโลยีชิป 3D NAND รุ่นใหม่ในอนาคต รวมถึงชิป BiCS4 แบบ 96 เลเยอร์ ยังถูกคาดหมายว่าจะใช้โครงสร้างแบบ X4 ที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยเช่นกัน

###

เกี่ยวกับ เวสเทิร์น ดิจิตอล

เวสเทิร์น ดิจิตอล ผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชั่นด้านการจัดเก็บข้อมูลชั้นนำของอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นบริการที่ให้อำนาจแก่ผู้ใช้ในการสร้าง ใช้ประโยชน์ สัมผัสประสบการณ์ และเก็บรักษาข้อมูลเอาไว้ บริษัทสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ครบรูปแบบซึ่งเต็มไปด้วยความน่าสนใจ โซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลคุณภาพสูงด้วยนวัตกรรมที่มุ่งเน้นสนองตอบลูกค้าทั้งในด้าน ประสิทธิภาพสูง ความยืดหยุ่น และความเร็ว ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของบริษัทวางจำหน่ายภายใต้แบรนด์ HGST, SanDisk และ WD ตลอดจนการรับจ้างผลิต (OEM) ให้แก่ตัวแทนจำหน่ายหลัก ร้านค้าปลีก รวมถึงผู้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบคลาวด์ และผู้บริโภคทั่วไป สำหรับข้อมูลด้านการเงินและนักลงทุนสามารถดูได้ที่หน้านักลงทุนสัมพันธ์บนเว็บไซต์ของบริษัทที่ investor.wdc.com

from:https://www.techtalkthai.com/western-digital-launches-3d-nand-4-bits-per-chip/

[PR] การประชุม CSR Asia Summit 2017: การวิเคราะห์และรับมือกับอนาคตเพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน การประชุมในกรุงเทพฯ มุ่งใช้นวัตกรรมและการบริหารความเสี่ยง ในการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อให้มั่นใจเรื่องความอยู่รอดในระยะยาว

กรุงเทพมหานคร, 3 กรกฎาคม 2560 – ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปี CSR Asia Summit 2017 การประชุมชั้นนำเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมในภูมิภาคเอเชีย โดยจะจัดขึ้นในเดือนกันยายน  ในปีนี้การประชุมจะเน้นเรื่องการวิเคราะห์และรับมือกับอนาคตเพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน – ซึ่งนับเป็นประเด็นสำคัญสำหรับธุรกิจต่างๆ มากมายในโลกยุคปัจจุบันที่ไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ได้ โดยส่วนสำคัญของการอภิปรายจะประกอบด้วยเรื่องนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน ซึ่งเป็นที่มักจะถูกหยิบยกมากล่าวถึงกันอย่างสม่ำเสมอในสังคมไทย รวมทั้งเรื่องความได้เปรียบทางการแข่งขัน

งานประชุม CSR Asia Summit 2017 จะจัดขึ้นในวันที่ 26 – 27 กันยายน 2560 ณ โรงแรมเดอะอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ โดยเชิญวิทยากรมากกว่า 80 คน ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงสุด (C-suite executives) จากองค์กรเอกชนหน่วยงานของรัฐ, สถาบันการศึกษา และสถาบันวิจัยเพื่อกำหนดนโยบายสาธารณะ โดยมีอดิดาส, แคร์, สิงเทล, ซีแอลพีโฮลดิ้ง, โอเชี่ยน รีโคฟเวอรี่ อัลไลแอนซ์, โกลเบิล ไชล์ด ฟอรั่ม, ซีดีแอล, เอช แอนด์ เอ็ม, ไอบีเอ็ม, เชลล์, ยูนิลีเวอร์, ยูนิเซฟ, วีซ่า และ จีอาร์ไอ จะอยู่ในรายชื่อวิทยากร

การวิเคราะห์และรับมือกับอนาคตเพื่อธุรกิจที่ยั่งยืนในเอเชีย

โลกกำลังเปลี่ยนไป ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยเช่นกัน ช่วงเวลาของเศรษฐกิจที่ท้าทาย, สถานการณ์โลกที่ผันผวน, สิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรมลง, สังคมที่มีการแบ่งฝ่ายกันมากขึ้น และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจมีความเปราะบางมากขึ้น ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่ธุรกิจจะต้องปรับตัวพร้อมรับความเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งเราสามารถคาดเดาได้ยาก

การวิเคราะห์และรับมือกับอนาคต คือ กระบวนการในการคาดการณ์ถึงอนาคตและพัฒนาแนวทางการแก้ปัญหาเพื่อลดผลกระทบด้านลบ ในขณะที่ใช้ประโยชน์จากผลกระทบด้านบวกจากภาวะช็อกและภาวะกดดัน อันเกิดจากสถานการณ์ในอนาคต โดยหัวใจของกลยุทธ์ของการวิเคราะห์และรับมือกับอนาคตคือความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาโลกของเราได้อย่างยั่งยืน

ดร. ริชาร์ด เวลฟอร์ด ประธานและผู้ก่อตั้ง CSR Asia กล่าวว่า “กุญแจของการดำเนินธุรกิจในระยะยาวคือนวัตกรรมและการบริหารความเสี่ยง องค์กรหลายแห่งมีองค์ประกอบในการจัดการความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลอยู่แล้ว แต่ส่วนมากยังไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควรเนื่องจากยังต้องประสบกับความเสี่ยงที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ หลายๆ กลยุทธ์มักเน้นพิจารณาความเสี่ยงที่ผ่านมา มากกว่าวิเคราะห์คาดการณ์ถึงความเสี่ยงในอนาคต”

เพื่อแก้ปัญหานี้ ดร.ริชาร์ด เวลฟอร์ด ได้ย้ำเตือนให้บริษัทต่าง ๆ ขยายมุมมองในการพิจารณาความเสี่ยงให้กว้างขึ้น และปรับเปลี่ยนจากแนวทางการตั้งรับและปฏิบัติตามกฎไปเป็นการคิดริ่เริ่มและการทำนายอนาคต  “เพื่อให้สามารถวิเคราะห์และรับมือกับอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ องค์กรจำเป็นที่ต้องมีวิธีการที่สามารถคาดการณ์ความเสี่ยงจากสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการสร้างโครงสร้างด้านนวัตกรรม”

การประชุมสองวัน ภายใต้หัวข้อการวิเคราะห์และรับมือกับอนาคต ประกอบไปด้วยกลุ่มอภิปรายย่อย 20 กลุ่ม  โดยครอบคลุมประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก การพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีเพื่อการลงทุนในชุมชน การปลดล็อคคุณค่าของความยั่งยืนขององค์กร และการค้ามนุษย์และสิทธิเด็ก ทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของหัวข้อของการประชุมในปีนี้

หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุม CSR Asia Summit 2017 สามารถเยี่ยมชมที่

http://www.csr-asia.com/summit2017/index.html

หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CSR Asia สามารถเยี่ยมชมที่

http://www.csr-asia.com/

ามารถติดตาม CSR Asia ที่ทวิตเตอร์ (Twitter): @CSR_Asia

สามารถติดตาม CSR Asia ที่ลิงค์อิน (Linkedin): https://www.linkedin.com/company/482974

###

เกี่ยวกับ CSR Asia Summit

CSR Asia Summit คือการประชุมประจำปีระดับชั้นนำทางด้านความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรในเอเชีย ตั้งแต่ พ.ศ. 2550 CSR Asia ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญและผู้นำทางความคิดด้านความยั่งยืนกว่าร้อยคน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ที่ล้ำยุค

การประชุมสองวันประกอบไปด้วยการบรรยายและการอภิปรายที่ครอบคลุมประเด็นที่เกี่ยวข้องมากมาย และยังคงให้โอกาสในการสร้างเครือข่ายที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ CSR Asia ยังจัดอบรมหนึ่งวันก่อนการประชุมในหลักสูตรเกี่ยวกับการสร้างศักยภาพแบบทางเลือก

การประชุม CSR Asia Summit มีผู้เข้าร่วมและสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำระดับโลกหลายแห่ง, เอ็นจีโอ และสถาบันการศึกษา นอกจากนี้ การประชุมยังจัดขึ้นในประเทศต่างๆ ในเอเชียในแต่ละปี เพื่อให้บริษัทและองค์กรท้องถิ่นมีเวทีในการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับความท้าทายและโอกาสที่เฉพาะเจาะจงสำหรับประเทศนั้นๆ

from:https://www.techtalkthai.com/csr-asia-summit-2017/

[PR] เวสเทิร์น ดิจิตอล เปิดตัวเทคโนโลยีชิป 3D NAND แบบ 96 เลเยอร์ เป็นรายแรกในอุตสาหกรรม

ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีหน่วยความจำ 3D NAND
รวมถึงการดำเนินงานและการพัฒนาเทคโนโลยีที่ยังคงแข็งแกร่ง

กรุงเทพฯ 3 กรกฎาคม 2560 – เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ปอเรชั่น (NASDAQ: WDC) ผู้นำด้านเทคโนโลยีและโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลระดับโลก แถลงถึงความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีหน่วยความจำชิป NAND แบบสามมิติ (3D NAND) รุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งใช้ชื่อว่า “BiCS4” มาพร้อมศักยภาพการเก็บข้อมูลแนวตั้งแบบ 96 เลเยอร์ โดยคาดว่าลูกค้าที่รับจ้างผลิต (OEM) จะได้ทดสอบใช้งานเทคโนโลยีหน่วยความจำล่าสุดนี้ในช่วงครึ่งปีหลังตามปฏิทินพ.ศ. 2560 และเริ่มเดินสายการผลิตในปีตามปฏิทิน พ.ศ.2561 ทั้งนี้ “BiCS4” เกิดจากการพัฒนาร่วมกันระหว่าง บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล และบริษัทคู่ค้า โตชิบา คอร์ปอเรชั่น โดยเบื้องต้นจะเริ่มใช้งานชิปขนาด 256 กิกกะไบต์ก่อนและจะขยายศักยภาพของหน่วยความจำให้มีมากขึ้น โดยครอบคลุมไปถึงระดับเทระบิตบนชิปเดี่ยว

“ความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีชิป 3D NAND แบบ 96 เลเยอร์ เป็นรายแรกในอุตสาหกรรมของเรานั้นได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำของ เวสเทิร์น ดิจิตอล ในการพัฒนาหน่วยความจำแฟลช NAND และประสิทธิภาพการดำเนินการอย่างยอดเยี่ยมตามแผนเทคโนโลยีของเรา” ดร.ศิวะ ศิวะราม รองประธานบริหาร ฝ่ายเทคโนโลยีหน่วยความจำของบริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล กล่าวและเสริมว่า “BiCS4 สามารถจัดเก็บข้อมูลภายใต้โครงสร้าง 3 บิตต่อเซลล์ และ 4 บิตต่อเซลล์ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตเพื่อให้ชิป 3D NAND ได้มอบศักยภาพการเก็บข้อมูลได้อย่างสูงสุด ประสิทธิภาพการทำงาน และความน่าเชื่อถือในระดับสูงสุดด้วยราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับลูกค้าของเรา ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม 3D NAND ของเวสเทิร์น ดิจิตอล นั้นถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่หลากหลาย อุปกรณ์เคลื่อนที่ การประมวลผล และศูนย์ข้อมูล”

เวสเทิร์น ดิจิตอล ยังเน้นในเรื่องการดำเนินงานของศูนย์การผลิตที่เกิดจากการร่วมทุนในญี่ปุ่นที่มีความแข็งแกร่งอยู่อย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ย้ำว่าในปี พ.ศ.2560 ผลผลิตหน่วยความจำเทคโนโลยีชิป 3D NAND แบบ 64 เลเยอร์จะมีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 75 ของการผลิต 3D NAND ทั้งหมด บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการผนึกกำลังกับบริษัทคู่ค้า โตชิบา คอร์ปอเรชั่นจะทำให้ผลผลิตชิป 3D NAND แบบ 64 เลเยอร์ของบริษัทร่วมทุนทั้งหมดในปีปฏิทิน พ.ศ.2560 จะสูงกว่าผลผลิตของบริษัทผู้ผลิตทุกรายในอุตสาหกรรมภายในปีปฏิทิน พ.ศ. 2560

เกี่ยวกับ เวสเทิร์น ดิจิตอล

เวสเทิร์น ดิจิตอล ผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชั่นด้านการจัดเก็บข้อมูลชั้นนำของอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นบริการที่ให้อำนาจแก่ผู้ใช้ในการสร้าง ใช้ประโยชน์ สัมผัสประสบการณ์ และเก็บรักษาข้อมูลเอาไว้ บริษัทสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ครบรูปแบบซึ่งเต็มไปด้วยความน่าสนใจ โซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลคุณภาพสูงด้วยนวัตกรรมที่มุ่งเน้นสนองตอบลูกค้าทั้งในด้าน ประสิทธิภาพสูง ความยืดหยุ่น และความเร็ว ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของบริษัทวางจำหน่ายภายใต้แบรนด์ HGST, SanDisk และ WD ตลอดจนการรับจ้างผลิต (OEM) ให้แก่ตัวแทนจำหน่ายหลัก ร้านค้าปลีก รวมถึงผู้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบคลาวด์ และผู้บริโภคทั่วไป สำหรับข้อมูลด้านการเงินและนักลงทุนสามารถดูได้ที่หน้านักลงทุนสัมพันธ์บนเว็บไซต์ของบริษัทที่ investor.wdc.com

แถลงการณ์การคาดการณ์ ในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีแถลงการณ์การคาดการณ์ในอนาคตบางประการ ซึ่งรวมถึงแถลงการณ์เกี่ยวกับการคาดการณ์การจัดจำหน่าย ราคา และ ประสิทธิภาพการทำงานของเทคโนโลยีชิป 3D NAND รวมไปถึงการพัฒนา ระยะเวลาการตอบสนองของค่าเริ่มต้น ปริมาณการผลิตเชิงพาณิชย์ การสุ่มตัวอย่างและการจัดส่งผลิตภัณฑ์ ประสิทธิภาพ การพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน แอพพลิเคชัน ขนาดความจุ ลูกค้า ตำแหน่งของเววสเทิร์น ดิจิตอลในกลุ่มชิป 3D NAND และการดำเนินการตามแผนเทคโนโลยี การการดำเนินงานของศูนย์การผลิตที่เกิดจากการร่วมทุนในญี่ปุ่นและการผลิต BiCS3 ซึ่งอิงกับความคาดหวังในปัจจุบัน มีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวกับการแถลงการณ์และทำให้การคาดการณ์ ในอนาคตนี้เกิดความคลาดเคลื่อนขึ้น ปัจจัยด้านความเสี่ยงอาจจะทำให้แถลงการณ์การคาดการณ์ในอนาคตอื่นๆ มีความคลาดเคลื่อนเกิดขึ้นได้ เช่น ความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจโลก สภาพธุรกิจและการเติบโตในระบบนิเวศของระบบจัดเก็บข้อมูล ผลกระทบจากราคาและสินค้าคู่แข่ง การยอมรับในตลาดและราคาวัตถุดิบของสินค้าโภคภัณฑ์และชิ้นส่วนเฉพาะของสินค้า การกระทำจากคู่แข่งทางการค้า การแข่งขันทางด้านเทคโนโลยีที่ไม่คาดคิด การพัฒนาของเราและการแนะนำผลิตภัณฑ์ซึ่งใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และการขยายตัวเพื่อเข้าสู่ตลาดด้านการจัดเก็บใหม่ๆ การควบกิจการและการร่วมทุน ความยุ่งยากหรือความล่าช้าด้านการผลิต ปัจจัยด้านความเสี่ยงอื่นๆ และความไม่แน่นอน ตามรายงานจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ที่เรียกว่า “SEC”) รวมถึงรายงานตามช่วงเวลาล่าสุด และไม่จำกัดอยู่เพียงข้อมูลในรายงานประจำไตรมาสล่าสุด เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2560 ที่ระบุใน แบบฟอร์ม 10-Q ซึ่งคุณต้องการศึกษา คุณไม่ควรเชื่อมั่นในแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ ซึ่งได้กล่าวไว้ ณ วันที่ออกแถลงการณ์ เวสเทิร์น ดิจิตอล ไม่มีภาระผูกพันธ์ในการปรับปรุงความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ในกรณีที่เหตุการณ์ หรือสถานการณ์เปลี่ยนไปหลังจากวันที่เผยแพร่นี้

###

from:https://www.techtalkthai.com/western-digital-launches-first-96-layers-3d-nand-chip/

[PR] งานวิจัยฉบับใหม่ของเอวีพีเอ็นชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่ยิ่งใหญ่เพื่อการลงทุนทางสังคมในแถบเอเชีย

ประเทศไทยแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังคงมีช่องว่างด้านการศึกษา สุขภาพ และความเสมอภาค

28 มิถุนายน พ.ศ. 2560 กรุงเทพฯ – จากงานประชุมเอวีพีเอ็นที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ โดยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพล่าสุด อันเป็นงานที่รวมเอานักลงทุนเพื่อสังคมของเอเชียมาไว้ด้วยกันที่ใหญ่ที่สุด ทั้งนี้เอวีพีเอ็นได้เปิดตัวงานวิจัยล่าสุดที่ว่าด้วยเรื่อง “ภาพรวมการลงทุนเพื่อสังคมในเอเชีย” รายงานที่ทำขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อเป็นแนวทางสำหรับนักลงทุนทางสังคม ไม่ว่าจะเป็น นักการกุศล นักลงทุนเพื่อสร้างผลกระทบ หรือบริษัทที่ต้องการทำซีเอสอาร์ (CSR) ให้สามารถสร้างประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

งานวิจัยฉบับนี้เป็นการศึกษาที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการทำการกุศลและการลงทุนเพื่อสังคมในระบบนิเวศทางสังคมทั่วทั้ง 14 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ผลงานวิจัยได้รับการเปิดตัวไปในวันประชุมเมื่อเดือนก่อนหน้านี้ แสดงถึงความต้องการทางสังคมทั่วทั้งภูมิภาคทั้งเปรียบเทียบและแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของเศรษฐกิจสังคมที่หลากหลาย รวมถึงวิธีการรับมือกับความขาดแคลนในปัจจุบัน งานวิจัยชี้ให้เห็นถึงช่องว่างของการพัฒนาที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals หรือ SDGs) และแนวทางสำหรับรัฐบาลในการดำเนินการของแต่ละประเทศ โดยทำการวิเคราะห์ภาพรวมการลงทุนทางสังคม ซึ่งประกอบด้วยสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวกับกฎหมายและระบบนิเวศทางสังคมที่มีรูปแบบเฉพาะที่แสดงให้เห็นถึงบุคคลหรือองค์กรที่ทำงานเกี่ยวกับการลงทุนทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นด้านอุปสงค์ อุปทาน หรือ ฝ่ายสนับสนุน จากทั้งมูลนิธิ กองทุนเพื่อสร้างผลกระทบ และบริษัท ที่เป็นแพลตฟอร์มด้านการระดมทุนและผู้ริเริ่มโครงการ โดยในแต่ละส่วนสรุปผลด้วยโอกาส ความท้าทาย และข้อเสนอแนะสำหรับนักลงทุนทางสังคม ไม่ว่าพวกเขาจะต้องการระดมทุนหรือการลงทุนที่อ้างอิงจากมูลค่าตลาดเพื่อสร้างผลกระทบที่มากขึ้น     

“วัฒนธรรมในการช่วยเหลือและบริจาคอยู่คู่กับสังคมเอเชียมาอย่างยาวนาน แต่โอกาสให้การบริจาคอันที่จะสร้างประโยชน์นั้นมีมากขึ้น ผ่านกลยุทธ์และความร่วมมือที่มีมากขึ้น” นางนัยนา ซูบเบอร์วัล บัตตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอวีพีเอ็น กล่าว “รายงานฉบับนี้ได้ให้แนวทางที่จำเป็นเพื่อช่วยให้นักการกุศลเอเชียเข้าถึงพื้นที่ที่มีความต้องการมากที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถระบุบุคคลหรือองค์กรที่ควรจะร่วมงานด้วย”

ผลงานวิจัย “ภาพรวมการลงทุนทางสังคมในเอเชีย” ชี้ชัดถึงเรื่องความหลากหลายของการเติบโตทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งข้อมูลนี้จะช่วยให้นักลงทุนเพื่อสังคมสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างประโยชน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในด้านที่ประเทศนั้นๆ ต้องการ  ยกตัวอย่างเช่น ในขณะที่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย กัมพูชา พม่า อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และเวียดนามต้องเผชิญกับความท้าทายทางสังคมที่เร่งด่วนในด้านสุขอนามัย การสุขาภิบาล การศึกษาและปัญหาเกี่ยวกับน้ำ   ประเทศเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวันและฮ่องกง ต้องต่อสู้กับความชราภาพ ความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มขึ้น แรงงานที่ลดลง ผลผลิตด้านแรงงานและความเท่าเทียมทางเพศ นอกจากนี้ รายงานยังชี้ให้เห็นถึงความต้องการทั่วทั้งภูมิภาคเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ในด้านการเข้าถึงพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ จนถึงการลดความเสี่ยงจากภาวะโลกร้อน  และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติของประเทศหมู่เกาะในเอเชีย

ข้อมูลเชิงลึกจากรายงานในประเทศไทยเผยตัวชี้วัดด้านสวัสดิการสังคมที่น่าสนใจ โดยในปีพ.ศ. 2558 เด็กไทยทุกคนได้เข้าศึกษาในระดับประถม รวมถึงคนไทยทุกคนได้รับประกันสุขภาพที่ได้มาจากโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของรัฐบาลไทย เมื่อพิจารณาภาพรวมของงานวิจัย จะเห็นได้ว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในสามประเทศในภูมิภาคที่มีการจัดการกับความยากจนได้เป็นอย่างดีรองจากประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย สำหรับอีกประเด็นหนึ่งที่ประเทศไทยมีการจัดการที่ดีอันดับต้น ๆ คือ เป้าหมายที่ 14 คือเรื่องการดูแลทรัพยากรทางน้ำ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่ทำการศึกษาซึ่งดูเหมือนจะมีความคืบหน้าทางด้านนี้

อย่างไรก็ตาม รายงานนี้ยังชี้ให้เห็นถึงปัญหาต่าง ๆ เช่น การแบ่งแยกระหว่างเมืองและชนบท คุณภาพที่แตกต่างกันในระบบการศึกษาของรัฐบาล ความเสื่อมโทรมของสภาพสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ ซึ่งประเด็นเหล่านี้เป็นประเด็นที่ต้องให้ความสนใจ

กิจกรรมทางเศรษฐกิจเชิงสังคมยังคงเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย และยังมีเพียงราว 400 กิจการและจากการสำรวจระหว่างมูลนิธิที่ก่อตั้งโดยครอบครัวและบริษัทพบว่ามีความไม่ไว้วางใจระหว่างเอ็นจีโอ (NGO) และนักกิจการทางสังคม ซึ่งทำให้การระดมทุนส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้สำหรับครอบครัวเจ้าของมูลนิธิมากกว่าเพื่อการกุศล อย่างไรก็ตาม ความสนใจของรัฐบาลที่สำคัญและการสนับสนุนเศรษฐกิจสังคมเตรียมแนวทางเพื่อรวบรวมผู้มีส่วนได้เสียต่าง ๆ เช่น บริษัท นักลงทุนทางสังคม และกิจการทางสังคมเพื่อส่งเสริมความร่วมมือและการลงทุน

“มีการพูดถึงผู้ประกอบการทางสังคมเป็นอย่างมากในประเทศไทย ในฐานะเอ็นจีโอที่เคยได้รับทุนอุดหนุนแบบดั้งเดิม เราจึงได้เรียนรู้มากมายจากการลงทุนทางสังคม สิ่งนี้ช่วยเราในเรื่องการวัดผลกระทบ เข้าใจผลตอบแทนทางสังคมในการลงทุน และอื่น ๆ อีกมากมาย” นิชา ออนตา องค์กรสตรีเพื่อการจัดการเปลี่ยนแปลงทางเกษตรกรรมและทรัพยากรธรรมชาติ (WOCAN) กล่าว

งานวิจัยสรุปได้ว่าการทำให้เกิดผลกระทบในระดับสูงต่อเศรษฐกิจเชิงสังคมนั้นจำเป็นต้องมีองค์ประกอบหลัก 5 องค์ประกอบ ดังนี้ 1) นักลงทุนทางสังคมที่มีส่วนร่วมมากกว่าการเขียนเช็ค 2) การยอมรับของรัฐบาลและการสนับสนุนผ่านนโยบายเป็นไปได้ 3) เพิ่มความรับผิดชอบในการลงทุนและกลยุทธ์ในการกุศล 4) กระบวนการที่นำไปสู่การทำซีเอสอาร์ที่มีความทันสมัยมากขึ้น 5) ตัวกลางของระบบนิเวศทางสังคม เช่น คนกลาง ผู้ริเริ่มโครงการ และเครือข่ายที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียหลายฝ่าย

###

เอวีพีเอ็น

เป็นเครือข่ายของผู้ให้บริจาคที่ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างการบริจาคให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชนการลงทุนเพื่อสังคมทั่วทั้งเอเชีย ภารกิจของเอวีพีเอ็นคือ การกระตุ้นการเคลื่อนไหวไปสู่แนวทางเชิงกลยุทธ์ให้มากยิ่งขึ้น สนับสนุนแนวทางที่เป็นการทำงานร่วมกันและเน้นผลลัพธ์ของการกุศลและการลงทุนเพื่อสังคม รวมทั้งดำเนินการเพื่อให้มั่นใจได้ว่าทรัพยากรต่างๆจะถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อรับมือกับความท้าทายทางสังคมที่สำคัญ ที่เอเชียกำลังเผชิญอยู่ ในปัจจุบันและที่จะเกิดขึ้นในอนาคต www.AVPN.asia

from:https://www.techtalkthai.com/new-avpn-researches-show-opportunity-in-sustainable-devlopment-invest/

[PR] เวสเทิร์น ดิจิตอล เปิดตัวโซลิดสเตตขนาดพกพาแบรนด์ WD® ตัวแรก

my passport® SSD ฮาร์ดดิสก์แบบพกพาที่ให้ความเร็วสูงสุดกว่าที่เคยมีมา
พร้อมการทำงานที่เต็มประสิทธิภาพภายใต้ดีไซน์ที่ทันสมัยและพกพาสะดวก

กรุงเทพฯ 21 มิถุนายน 2560 เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ปอเรชั่น (NASDAQ: WDC) ผู้นำด้านเทคโนโลยีและโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลระดับโลก เปิดตัว My Passport™ SSD ฮาร์ดดิสก์แบบพกพาที่มีความเร็วที่สุดของแบรนด์ WD ในตอนนี้ ด้วยการทำงานที่มีความรวดเร็วและการออกแบบที่การันตีด้วยรางวัล My Passport SSD ตัวใหม่นี้ ยิ่งตอกย้ำการเป็นผู้นำของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลขนาดพกพาเท่าฝ่ามืออย่าง My Passport ของบริษัท ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อผู้ชอบสรรสร้างผลงานและผู้ที่หลงไหลในเทคโนโลยีเป็นพิเศษ My Passport SSD ใหม่นี้ มีการผสมผสานทั้งประสิทธิภาพในเรื่องความเร็วที่เกินคาดและขนาดที่พกพาสะดวก เข้าไว้ด้วยกันเพื่อรองรับการจัดการไฟล์ขนนาดใหญ่ได้ในระหว่างการเดินทาง

“WD เป็นแบรนด์ที่มุ่งมั่นที่จะนำเสนอความใหม่ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลส่วนตัวใหม่นี้ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีเยี่ยมควบคู่ไปกับการดีไซน์ที่สวยงาม ตลอดจนความทนทาน” นาย ชเวน ราธเย่น (Sven Rathjen) รองประธานฝ่ายการตลาด ของเวสเทิร์น ดิจิตอล กล่าว “My Passport SSD เป็นฮาร์ดดิสก์ขนาดพกพาของเราที่มีความเร็วที่สุด ณ ตอนนี้และยังเป็นโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพสำหรับคนที่ต้องการย้ายข้อมูลอย่างรวดเร็วและง่ายดายไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดก็ตาม”

การจัดเก็บแบบใหม่ที่ทันสมัย

My Passport SSD มาพร้อมกับความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดถึง 515 MB/s* ซึ่งเป็น My Passport ที่มีความเร็วสูงสุดของแบรนด์ WD  ไดรฟ์ตัวใหม่นี้ถูกออกแบบขึ้นเพื่อรองรับคอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบันนี้ที่มีการใช้พอร์ต USB Type-C™ และพอร์ต USB 3.1 เจเนอเรชั่น 2 (10Gb/s) พร้อมกับหัวเชื่อมต่อแบบ USB Type-C ไปจนถึงสายแบบ Type-C และยังมีอะแดปเตอร์ที่สามารถใช้ร่วมกับพอร์ตแบบ USB Type-A ที่ยังมีใช้อยู่แพร่หลายในเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป My Passport SSD สามารถทำใช้งานร่วมกันได้กับทั้ง MAC และคอมพิวเตอร์พีซี ซึ่งมอบประสบการณ์ทำงานที่ราบรื่น ที่มีระบบล็อกการใช้งานแบบ 256-bit AES และมีการป้องกันอีกขั้นด้วยการใส่รหัสผ่าน รวมทั้งผ่านการทดสอบการกันกระแทกการตกหล่นในระดับ 6.5 ฟุต ซึ่งเปรียบเทียบได้กับความแรงในระดับ 1500G จึงรับรองได้แน่นอนว่าข้อมูลที่มีค่าของคุณจะถูกจัดเก็บไว้อย่างปลอดภัยแน่นอน

My Passport SSD เป็นโซลูชั่นในการจัดเก็บข้อมูลที่สมบูรณ์แบบซึ่งสามารถจัดการไฟล์รูปภาพและวิดีโอที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว มีความรวดเร็วในการสำรองข้อมูลและรวมถึงการจัดเก็บเอกสารที่สำคัญต่างๆ มีการจำลองเครื่องมือหรือขยาย หน่วยความจำ SSD ของคอมพิวเตอร์และสามารถพกพาไปในทุกๆ ที่ที่คุณเอาคอมพิวเตอร์ไปด้วย ไดร์ฟตัวใหม่ล่าสุดนี้พร้อมขนาดความจุที่มีตั้งแต่ 1 เทราไบต์ 512 กิกะไบต์ และ 256 กิกะไบต์** และมาพร้อมกับซอร์ฟแวร์ WD Backup™ ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถทำการสำรองข้อมูลได้แบบอัตโนมัติ

ราคาและการจัดจำหน่าย

My Passport SSD มีการรับประกันเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยจะวางจำหน่ายในร้านค้าชั้นนำทั่วไปช่วงไตรมาสนี้ สำหรับราคาจัดหน่ายแนะนำในขนาดความจุที่ 1 เทราไบต์ราคา 15,900 บาท 512 กิกะไบต์ ราคา 7,990 บาทและ 256 กิกะไบต์ ราคา 3,990 บาท ตามลำดับ

เกี่ยวกับ เวสเทิร์น ดิจิตอล

เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ปอเรชั่น (NASDAQ: WDC) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชั่นด้านการจัดเก็บข้อมูลชั้นนำของอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นบริการที่ให้อำนาจแก่ผู้ใช้ในการสร้าง ใช้ประโยชน์ สัมผัสประสบการณ์ และเก็บรักษาข้อมูลเอาไว้ บริษัทสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ครบรูปแบบซึ่งเต็มไปด้วยความน่าสนใจ โซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลคุณภาพสูงด้วยนวัตกรรมที่มุ่งเน้นสนองตอบลูกค้าทั้งในด้าน ประสิทธิภาพสูง ความยืดหยุ่น และความเร็ว ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของบริษัทวางจำหน่ายภายใต้แบรนด์ HGST, SanDisk และ WD ตลอดจนการรับจ้างผลิต (OEM) ให้แก่ตัวแทนจำหน่ายหลัก ร้านค้าปลีก รวมถึงผู้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบคลาวด์ และผู้บริโภคทั่วไป สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์ WD สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.wd.com

แถลงการณ์การคาดการณ์ ในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีแถลงการณ์การคาดการณ์ในอนาคตบางประการ ซึ่งรวมถึงแถลงการณ์เกี่ยวกับการคาดการณ์การจัดจำหน่าย ราคา และ ประสิทธิภาพการทำงานของ My Passport SSD และคุณสมบัติรวมไปถึงประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ มีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวกับการแถลงการณ์และทำให้การคาดการณ์ ในอนาคตนี้เกิดความคลาดเคลื่อนขึ้น ปัจจัยด้านความเสี่ยงอาจจะทำให้แถลงการณ์การคาดการณ์ในอนาคตอื่นๆ มีความคลาดเคลื่อนเกิดขึ้นได้ เช่น ความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจโลก สภาพธุรกิจและการเติบโตในระบบนิเวศของระบบจัดเก็บข้อมูล ผลกระทบจากราคาและสินค้าคู่แข่ง การยอมรับในตลาดและราคาวัตถุดิบของสินค้าโภคภัณฑ์และชิ้นส่วนเฉพาะของสินค้า  การกระทำจากคู่แข่งทางการค้า การแข่งขันทางด้านเทคโนโลยีที่ไม่คาดคิด  การพัฒนาของเราและการแนะนำผลิตภัณฑ์ซึ่งใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และการขยายตัวเพื่อเข้าสู่ตลาดด้านการจัดเก็บใหม่ๆ  การควบกิจการ และการร่วมทุน ความยุ่งยากหรือความล่าช้าด้านการผลิต ปัจจัยด้านความเสี่ยงอื่นๆ และความไม่แน่นอน ตามรายงานจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงรายงานตามช่วงเวลาล่าสุดซึ่งต้องการให้คุณได้ศึกษา เวสเทิร์น ดิจิตอล ไม่มีความตั้งใจใดๆ ในการปรับปรุงข้อมูลที่ปรากฏในข่าวประชาสัมพันธ์นี้

###

from:https://www.techtalkthai.com/western-digital-launches-first-pocket-solid-state/

[PR] เวสเทิร์น ดิจิตอล เปิดตัว SSD ตัวแรกของโลกที่มาพร้อมเทคโนโลยีชิป NAND แบบ 3D 64 เลเยอร์

บริษัทฯ เดินหน้านำเสนอความก้าวล้ำของหน่วยความจำแฟลชด้วยการเปิดตัวโซลิดสเตทไดร์ฟใหม่แบบสามมิติอย่างต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ, 30 พฤษภาคม 2560 – เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ปอเรชั่น (“เวสเทิร์น ดิจิตอล”) (NASDAQ: WDC)

ผู้นำด้านเทคโนโลยีและโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลระดับโลก ประกาศเปิดตัวโซลิดสเตทไดร์ฟ (SSD) ที่มาพร้อมเทคโนโลยีชิป NAND สามมิติ ที่จัดเก็บข้อมูลแบบแนวตั้ง 64 เลเยอร์ การพัฒนาที่สำคัญของเทคโนโลยีนี้ช่วยให้บริษัทฯ สามารถส่งมอบโซลิดสเตทไดร์ฟที่มีทั้งนวัตกรรมและความใหม่ที่ใช้พลังงานน้อยลง แต่ให้ประสิทธิภาพได้อย่างสูงสุด ทนทาน และมีความจุที่มากขึ้น นี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งล่าสุดในอุตสาหกรรมหน่วยความจำแฟลช (Flash memory) ที่มีมานานเกือบสามทศวรรษที่เกิดขึ้นครั้งแรกของบริษัท

“การนำโซลิดสเตทไดร์ฟที่ใช้ชิป NAND สามมิติ แบบ 64 เลเยอร์ ไปยังกลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพีซีนับเป็นอีกก้าวสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีใหม่นี้ของเรา รวมถึงผลประโยชน์ระยะยาวสำหรับลูกค้าของเรา” มร. ไมค์ โคดาโน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ของ เวสเทิร์น ดิจิตอล กล่าวและเสริมว่า “ความแข็งแกร่งที่มีอยู่ในแบรนด์ SanDisk และ WD ของเรา รวมถึงฐานลูกค้าที่มีความชื่นชอบในแบรนด์ทั้งสองและช่องทางการกระจายสินค้า สำหรับโซลิดสเตทไดร์ฟใหม่ที่ก้าวล้ำนี้จะดึงดูดความสนใจของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในวงกว้างที่กำลังหาประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่มีในปัจจุบัน”    

WD Blue® 3D NAND SATA SSD – ระบบปฏิบัติการที่ขับเคลื่อนโดย Western Digital® 3D NAND

เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกับในการประกอบเองทุกอย่างด้วยตัวเอง ผู้ค้าปลีก และผู้สร้างระบบ WD Blue ฮาร์ดดิสก์โซลิดสเตทไดร์ฟที่ใช้เทคโนโลยีชิป NAND สามมิติ แบบ SATA มีค่าเวลาเฉลี่ย MTTF เป็น 1,750,000 ชั่วโมงที่ยาวนานที่สุดในอุตสาหกรรม และผ่านการรับรองมาตรฐานของ WD Functional Integrity Testing Lab (F.I.T. Lab™) นอกจากนี้ผู้บริโภคยังสามารถดาวน์โหลดเครื่องมือฟรีได้เช่นซอฟต์แวร์โคลน Acronis® True Image™ WD Edition และซอฟต์แวร์  WD® SSD Dashboard ซึ่งช่วยให้สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานและการตรวจสอบกำลังความจุและการอัพเดตเฟิร์มแวร์ได้อย่างต่อเนื่อง

SanDisk® Ultra 3D SSDเพิ่มประสิทธิภาพในความเร็วในการเล่นเกมและกราฟิก

เหมาะสำหรับนักเล่นเกมและผู้ที่กระตือรือร้นที่อยากจะเพิ่มประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์พีซีของตน SanDisk Ultra® 3D SSD เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการอัพเกรดระบบที่มีอยู่เดิม สำหรับผู้บริโภคที่กำลังมองหาหนทางที่ง่ายต่อการอัพเกรดคอมพิวเตอร์พีซีของตน SanDisk Ultra 3D SSD จะให้ความทนทาน ความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้น ไม่ต้องรอเครื่องบูต เวลาในการโหลดแอปพลิเคชั่นที่สั้นลง และการถ่ายโอนข้อมูลที่เร็วขึ้น นอกเหนือจากการประมวลผลที่เย็นลงและเงียบขึ้นของเครื่อง SanDisk Ultra 3D SSD ยังมีคุณสมบัติป้องกันแรงสั่นสะเทือนที่พิสูจน์แล้วเพื่อป้องดิสก์ของคุณ

การจัดจำหน่ายและราคาจำหน่าย

WD Blue ฮาร์ดดิสก์โซลิดสเตทไดร์ฟที่ใช้เทคโนโลยีชิป NAND สามมิติ แบบ SATA มีขนาดความจุให้เลือกตั้งแต่ 250 กิกะไบต์ 500 กิกะไบต์ 1 เทราไบต์ และ 2 เทราไบต์ ในเคสใส่ดิสก์แบบดั้งเดิมทั้งขนาด 2.5 นิ้ว/7 มม. และแบบ M.2 ที่มีความกว้าง 22 มม. ยาว 80 มม. ที่มาจากโรงงาน ทั้ง WD SSDs และ WD Blue 3D NAND SATA SSD ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานของ WD Functional Integrity Testing Lab (F.I.T. Lab™) เพื่อการทำงานเข้ากันได้กับแพลตฟอร์มชั้นนำอื่นๆ ได้

SanDisk Ultra 3D SSDs มีขนาดความจุให้เลือกตั้งแต่ 250 กิกะไบต์ 500 กิกะไบต์ 1 เทราไบต์ และ 2 เทราไบต์ ในเคสใส่ดิสก์ทั้งแบบดั้งเดิม ขนาด 2.5 นิ้ว/ 7 มม. ที่มาจากโรงงาน

ผลิตภัณฑ์ทั้งสองตัวมีความเร็วในการอ่านสูงสุดถึง 560 เมกะไบต์ต่อวินาที และมีความเร็วในการเขียนสูงสุดถึง 530 เมกะไบต์ต่อวินาที พร้อมทั้งรับประกันสูงสุดถึง 3 ปี พร้อมวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ สำหรับ WD Blue 3D NAND SATA SSD และ SanDisk Ultra 3D SSDs แบบขนาด 2.5 นิ้ว/7 มม. จำหน่ายในราคา 99.99 ดอลลาร์สหรัฐ และ WD Blue รุ่น M.2 ขนาด 2280 มม. จำหน่ายในราคา 99.99 ดอลลาร์สหรัฐ

     

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ WD Blue 3D NAND SATA SSD สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.wdc.com/wd-blue-3d.html และข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SanDisk Ultra 3D SSDs สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ https://ww.sandisk.com/home/ssd/ultra-3d-ssd

###

เกี่ยวกับ เวสเทิร์น ดิจิตอล

เวสเทิร์น ดิจิตอล ผู้ให้บริการเทคโนโลยี (NASDAQ: WDC)  และโซลูชั่นด้านการจัดเก็บข้อมูลชั้นนำของอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นบริการที่ให้อำนาจแก่ผู้ใช้ในการสร้าง ใช้ประโยชน์ สัมผัสประสบการณ์ และเก็บรักษาข้อมูลเอาไว้ บริษัทสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ครบรูปแบบซึ่งเต็มไปด้วยความน่าสนใจ โซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลคุณภาพสูง ด้วยนวัตกรรมที่มุ่งเน้นสนองตอบลูกค้าทั้งในด้าน ประสิทธิภาพสูง ความยืดหยุ่น และความเร็ว ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของบริษัทวางจำหน่ายภายใต้แบรนด์ HGST, SanDisk และ WD ตลอดจนการรับจ้างผลิต (OEMs) ให้แก่ตัวแทนจำหน่ายหลัก ร้านค้าปลีก รวมถึงผู้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบคลาวด์ และผู้บริโภคทั่วไป

แถลงการณ์การคาดการณ์ ในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีแถลงการณ์การคาดการณ์ในอนาคตบางประการ ซึ่งรวมถึงแถลงการณ์เกี่ยวกับการพัฒนา ประสิทธิภาพการทำงาน และความจุ ขีดความสามารถ แอปพลิเคชั่น และการจัดจำหน่ายของ WD Blue 3D NAND SATA SSDs   และ SanDisk Ultra 3D SSDs ที่มีพื้นฐานปัจจัยความเสี่ยง และ ความไม่แน่นอนหลายอย่างที่อาจเกิดความคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการแถลงการณ์ในอนาคตนี้ ซึ่งรวมไปถึงสิ่งอื่นๆ ด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์ที่เรานำเสนออาจมีราคา และเวลาการวางจำหน่ายคลาดเคลื่อนจากที่กำหนด การโอนของชิป 3D NAND แบบ 64 เลเยอร์ อาจไม่เป็นไปตามคาดได้ และปัจจัยด้านความเสี่ยงอื่นๆ และความไม่แน่นอน ตามรายงานจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงรายงานตามช่วงเวลาล่าสุด และไม่จำกัดอยู่เพียงข้อมูลในรายงานประจำไตรมาสล่าสุด เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2560 ที่ระบุใน แบบฟอร์ม 10-Q ซึ่งต้องการให้คุณได้ศึกษา ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยข้อมูลจากบุคคลที่สาม ซึ่งสะท้อนการคาดการณ์ของพวกเขา ณ วันที่ออกแถลงการณ์ แถลงการณ์ทั้งหมดที่ทำขึ้นในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้จัดทำเฉพาะวันที่เผยแพร่นี้เท่านั้น เวสเทิร์น ดิจิตอล ไม่มีภาระผูกพันธ์ในการปรับปรุงความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ในกรณีที่เหตุการณ์ หรือสถานการณ์เปลี่ยนไปหลังจากวันที่เผยแพร่นี้

from:https://www.techtalkthai.com/western-digital-first-world-ssd-with-64-layer-3d-nand-technology-solid-state-drives/

[PR] เอเรียนสเปซ ผู้นำด้านการให้บริการปล่อยดาวเทียมของโลกเริ่มต้นปี พ.ศ. 2560 ด้วยความสำเร็จในเอเชีย และมองไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ

เอเรียนสเปซยังคงมีการดำเนินงานอย่างมั่นคงในเอเชียแปซิฟิคด้วยการปล่อยดาวเทียมให้แก่ลูกค้าในออสเตรเลีย อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่นและเกาหลี ใน 12 เดือนที่ผ่านมา และตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2560 เอเรียนสเปซได้ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียม เทลคอม-3เอส ของเทลคอม อินโดนีเซีย และโคเรียแซท 7 ของ เคที คอร์ป โดยจะมีการปล่อยดาวเทียมอีกสองดวงของอินเดียและญี่ปุ่นในปีนี้ ทั้งหมดนั้นจะใช้จรวดเอเรียน 5 เอเรียนสเปซได้วางแผนที่จะปล่อยดาวเทียมทั้งสิ้น  12  ดวงในปีนี้ โดยเจ็ดดวงจะใช้จรวดเอเรียน 5 อีกสามดวงใช้จรวดเวกา และอีกสองดวงโดยจรวดโซยุซ ผู้นำด้านการให้บริการปล่อยดาวเทียมเชิงพาณิชย์ของโลกอย่างเอเรียนสเปซนั้นยังมองไปในอนาคตอย่างมั่นใจด้วยการมุ่งเน้นในตลาดกลุ่มดาวเทียม ประเทศไทยซึ่งเป็นลูกค้ารายแรกของเอเรียนสเปซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ยังคงเป็นส่วนสำคัญของแผนการในภูมิภาคนี้

เอเรียนสเปซยืนยันการเป็นผู้นำในตลาดเอเชีย แปซิฟิค

ตั้งแต่เอเรียนสเปซได้ปล่อยดาวเทียมดวงแรกให้แก่ลูกค้าจากเอเชียในปี พ.ศ. 2524 เอเรียนสเปซก็ได้ปล่อยดาวเทียมไปแล้วกว่า 78 ดวงแก่ลูกค้า 17 รายในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ซึ่งมีการตั้งสำนักงานระดับภูมิภาคทั้งสองแห่งโดยมีการดำเนินงานในสิงคโปร์ตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 และโตเกียวตั้งแต่ พ.ศ.2529 ภูมิภาคนี้เป็นตลาดที่สำคัญของบริษัท โดยมีส่วนแบ่งตลาดอย่างมีนัยสำคัญถึงร้อยละ 60 ของการปล่อยดาวเทียมเชิงพาณิชย์ทั่วโลก นี่คิดเป็นประมาณร้อยละ 25 ของธุรกิจของเอเรียนสเปซทั่วโลก เอเรียนสเปซนั้นเป็นผู้ให้บริการปล่อยดาวเทียมที่เป็นตัวเลือกของผู้ประกอบการรายใหม่ในภูมิภาค ด้วยการปล่อยดาวเทียมดวงแรกให้กับลูกค้าในออสเตรเลีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์และเวียดนาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ลูกค้ารายแรกของเอเรียนสเปซในภูมิภาคนี้นั้นมาจากประเทศอินเดีย ให้บริการใน พ.ศ. 2524 ด้วยการปล่อยดาวเทียมครั้งแรกให้กับองค์การวิจัยอวกาศแห่งอินเดีย ออสแซทของประเทศออสเตรเลียนั้นเป็นลูกค้ารายที่สองในภูมิภาคด้วยการปล่อยดาวเทียม เค3 ใน พ.ศ. 2530 ต่อมาบริษัทนั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของซิงเทล ออปตัส เอเรียนสเปซยังได้ปล่อยดาวเทียมอีก 5 ดวงให้แก่ออปตัส และดาวเทียมของซิงเทลอีก 2 ดวงตั้งแต่ พ.ศ. 2541 ถึง 2554 ชินแซทเทลไลท์จากประเทศไทยนั้นกลายเป็นลูกค้ารายแรกของเอเรียนสเปซจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใน พ.ศ. 2534 ด้วยสัญญาว่าจ้างให้ปล่อยดาวเทียมไทยคม1 และในเวลาต่อมายังได้ปล่อยดาวเทียมไทยคมอีก 4 ดวง ซึ่งรวมถึงไทยคม5 ใน พ.ศ. 2549 ส่วนลูกค้าที่สำคัญรายอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นได้แก่ พีที เทลคอม และบีอาร์ไอแซท จากอินโดนีเซีย มีแซทจากมาเลเซีย   เอบีเอสฮ่องกง และวินาแซทจากเวียดนาม เครือข่าย บรอดแบนด์แห่งชาติ หรือ เอ็นบีเอ็น ของออสเตรเลีย และในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ เจซีแซทของญี่ปุ่น โคเรียแซทและสถาบันวิจัยอวกาศแห่งเกาหลี จากประเทศเกาหลี

ปี พ.ศ.2560 นี้เป็นปีที่ดีมากอย่างต่อเนื่องของเอเรียนสเปซในการปล่อยดาวเทียมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค หลังจากประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียมสองครั้งด้วยจรวดเอเรียน5 ให้แก่เทลคอมอินโดนีเซีย (ดาวเทียมเทลคอม 3เอส เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์) และเคแซท (ดาวเทียมโคเรียแซท-7 ในวันที่ 4 พฤษภาคม) ยังมีภารกิจอีก 3 ครั้งที่วางแผนไว้ว่าจะมีการปล่อยดาวเทียมในปีนี้ โดยสองครั้งนั้นจะเป็นขององค์การวิจัยอวกาศแห่งอินเดีย (ดาวเทียมจีแซท-17และจีแซท-11) และอีกครั้งเป็นของบีแซท (ดาวเทียมบีแซท-4เอ)

โซยุส – โอกาสในอนาคต

หลังจากการประกาศในวันที่ 20 เมษายน ว่ามีการลงนามในสัญญาปล่อยดาวเทียมฮอริซอน 3อี (ซึ่งดำเนินการโดยสกาย เพอร์เฟค เจแซท และอินเทลแซท ซึ่งเป็นการร่วมทุนกัน) โดยในปัจจุบันเอเรียนสเปซได้รับสัญญาว่าจ้างให้ปล่อยดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรอีก 51 ครั้ง (19 ครั้งโดยเอเรียน 25 ครั้งโดยโซยุส และ 7 ครั้งโดยเวกา) แก่ลูกค้า 28 รายทั่วโลก โดยคิดเป็นมูลค่ารวม 4.9 พันล้านยูโร (หรือประมาณ 1.9 แสนล้านบาท)

เมื่อมองไปข้างหน้า เอเรียนสเปซนั้นจะไม่เพียงแต่ให้บริการการปล่อยดาวเทียมที่มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือสูงสำหรับดาวเทียมสื่อสารขนาดใหญ่ในวงโคจรประจำที่โดยใช้จรวด เอเรียน 5 แต่ยังมีความพร้อมสำหรับตลาดดาวเทียมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเมื่อลูกค้านั้นมองหาการปล่อยดาวเทียมสำหรับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงและดาวเทียมสังเกตการณ์ของโลกไปยังวงโคจรระดับต่ำและระดับกลางของโลกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  ด้วยจรวดอวกาศในโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบันและจรวจอวกาศแนะนำของ เอเรียน 6 และเวกา ซี ที่จะให้บริการภายในทศวรรษหน้านั้นทำให้เอเรียนสเปซสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างเหมาะสมที่สุด

การบริหารจัดการใหม่ของเอเรียนสเปซที่ส่งผลดีต่อลูกค้า

เอเรียนสเปซได้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสองประการตั้งแต่สิ้นปี พ.ศ.2559

  • ในเดือนธันวาคม พ.ศ.2559 แอร์บัส ซาฟราน ลอนเชอร์ ได้กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของเอเรียนสเปซ ด้วยการถือหุ้นร้อยละ 74 หลังจากรับโอนหุ้นจากองค์การอวกาศของฝรั่งเศสหรือซีเอ็นอีเอส สัดส่วนของหุ้นของเอเรียนสเปซที่ถือโดยบริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรมการปล่อยดาวเทียมของยุโรปนั้นไม่เปลี่ยนแปลง โดยที่บริษัทลูกของแอร์บัส ซาฟราน ลอนเชอร์ อย่างเอเรียนสเปซนั้นยังคงมีสถานะเป็นบริษัทที่แตกต่างด้วยท่าทีที่เป็นกลางในความสัมพันธ์กับบริษัทผู้ผลิตดาวเทียมต่างๆและยังคงเป็นผู้เดียวที่จะติดต่อกับลูกค้า
  • ในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2560 ได้มีการลงคะแนนของผู้ถือหุ้นของเอเรียนสเปซอย่างเป็นเอกฉันทน์ที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางกฎหมายของผู้ให้บริการปล่อยดาวเทียมรายนี้รวมไปถึงหลักการบริหารจัดการ โดยสเตฟาเน่ อิสราเอล นั้นได้รับการยืนยันให้เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอเรียนสเปซและยังคงเข้าร่วมคณะกรรมการบริหารของแอร์บัส ซาฟราน ลอนเชอร์ ในตำแหน่ง รองประธานบริหาร ซึ่งจะดูแลด้านโครงการจรวดปล่อยยานพลเรือน

การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้แอเรียนสเปซและพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพิ่มความคล่องแคล่วในด้านการแข่งขัน เพื่อจะก้าวให้ทันตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนั้นก็เพื่อประโยชน์ที่ดีกว่าสำหรับลูกค้า นอกเหนือจากนั้นยังจะช่วยให้เอเรียนสเปซมีรากฐานที่มั่นคงขึ้นสำหรับอนาคตด้วยจรวดเอเรียน 6 และเวก้า ซี

###

เกี่ยวกับ เอเรียนสเปซ

เอเรียนสเปซใช้อวกาศเพื่อชีวิตที่ดีกว่าบนโลก โดยมอบบริการปล่อยดาวเทียมทุกประเภท ไปยังวงโคจรทุกรูปแบบ ตั้งแต่ พ.ศ. 2523 เอเรียนสเปซได้ปฏิบัติภารกิจพาดาวเทียมกว่า 550 ดวงเข้าสู่วงโคจรด้วยจรวด 3 ประเภท เอเรียน โซยุซ และเวกา จากฐานปล่อยในเฟรนช์กายนา(อเมริกาใต้) และไบคอนอร์ ประเทศคาซัคสาน เอเรียนสเปซนั้นมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ อีฟครี ใกล้กรุงปารีสในฝรั่งเศส และมีฐานด้านเทคนิคที่ศูนย์อวกาศกายนา ท่าอวกาศยานของยุโรปในเฟรนช์กายนา และมีสำนักงานในวอชิงตัน ดี.ซี. โตเกียวและสิงคโปร์ เอเรียนสเปซเป็นบริษัทลูกของแอร์บัส ซาฟราน ลอนเชอร์ ซึ่งถือหุ้นอยู่ร้อยละ74 โดยมีการถือหุ้นจากผู้ถือหุ้นอื่นอีก17รายจากอุตสหกรรมจรวดปล่อยดาวเทียมอื่น ๆของยุโรป

from:https://www.techtalkthai.com/arianesspace-starts-2017-with-confidence/

[PR] G-TECHNOLOGY® ตอบรับความต้องการแอปพลิเคชันโซลูชันเวิร์กโฟลว์สำหรับกลุ่มนักสร้างสรรค์ผลงานมืออาชีพที่เพิ่มมากขึ้นด้วยโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

G-DRIVE® G-RAID® และ G-SPEED® กลุ่มสินค้าที่การันตีคุณภาพด้วยรางวัลเปิดตัวเทคโนโลยี Thunderbolt™ 3 ที่เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพสินค้า โดยจะแสดงที่งาน BroadcastAsia2017

กรุงเทพฯ 22 พฤษภาคม 2560 – เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ปอเรชั่น (NASDAQ: WDC) ผู้นำด้านเทคโนโลยีและโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลระดับโลก ประกาศยกระดับประสิทธิภาพสินค้าในกลุ่ม G-Technology® ซึ่งเป็นสินค้าที่การันตีคุณภาพด้วยรางวัล และการเข้ามาของเทคโนโลยีเชื่อมต่ออุปกรณ์กับคอมพิวเตอร์อย่าง Thunderbolt™ 3 และพอร์ต USB-C™ โดยจะจัดแสดงเป็นครั้งแรกในงาน BroadcastAsia2017 การอัพเกรดด้านความเร็วและการประสิทธิภาพทำงานของไดรฟ์พวกนี้ก็เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มนักสร้างสรรค์ผลงานมืออาชีพที่กำลังจับภาพข้อมูลและถ่ายโอนเนื้อหาข้อมูลที่มีความละเอียดสูงจำนวนมหาศาล     

G-Technology ตระหนักถึงความต้องการที่มีต่อโซลูชั่นเวิร์กโฟลว์ (Workflow) สำหรับสร้างลำดับการทำงาน ที่สมบูรณ์แบบซึ่งใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพของ Thunderbolt 3 และ USB-C มร. ชเวน ราธเย่น (Sven Rathjen) ประธานฝ่ายการตลาดธุรกิจกลุ่มสินค้า Content Solutions ของเวสเทิร์น ดิจิตอลผลที่ได้คือการอัพเกรดที่มากมายที่เกิดในกลุ่มสินค้าหลายตัวเพื่อส่งมอบโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลที่มีความความน่าเชื่อถือ รวดเร็ว และใช้งานง่ายที่ตรงต่อความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันและอนาคต

สินค้านี้ทำขึ้นมาเพื่อกลุ่มนักสร้างสรรค์ผลงานมืออาชีพ รวมถึงช่างถ่ายภาพวิดีโอและช่างถ่ายภาพดิจิตอลที่มีความต้องการในเรื่องของโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลเพื่อให้ทันกับความต้องการใช้ข้อมูลจำนวนมากและแอปพลิเคชันด้านงานครีเอทีฟ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ได้รับการอัพเกรดของ G-Technology นั้นมอบความสมบูรณ์แบบ โซลูชั่นเวิร์กโฟลว์ที่มีความจุสูงที่ทำงานประสานเข้ากับระบบนิเวศของ Thunderbolt 3 ที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างไร้รอยต่อ

นักสร้างสรรค์ผลงานมืออาชีพในปัจจุบันต้องการทางเลือกในการจัดเก็บข้อมูลที่ไม่ได้มีเพียงแค่ขนาดความจุที่สูง แต่ต้องมีความก้าวล้ำในแง่ของเทคโนโลยี ในฐานะที่คนทำภาพยนตร์ที่ต้องไปมาระหว่างห้องตัดต่อหนังและหน้ากองถ่ายทำ ผมต้องการเครื่องมือที่ทำงานได้รวดเร็ว ง่ายต่อการติดตั้งและเชื่อถือได้ มร. คลินตัน ฮาร์น นักถ่ายทำภาพยนตร์และผู้ผลิตเนื้อหา กล่าวและเพิ่มเติมว่า ผมพบว่า G-Technology สามารถตอบสนองความต้องการในเรื่องพื้นที่เก็บข้อมูลได้แบบเต็มรูปแบบ ด้วยประสิทธิภาพและคุณภาพระดับองค์กร ไดรฟ์ของ G-Technology ผลิตมาเพื่อมอบให้สำหรับการใช้งานระดับมืออาชีพ และนำสิ่งที่น่าตื่นเต้นกลับมายังการจัดเก็บข้อมูลและการจัดการสื่อมีเดีย

เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ปอเรชั่น จะทำการจัดแสดงกลุ่มสินค้าที่การันตีคุณภาพด้วยรางวัลของ G-Technology® ได้แก่ G-DRIVE® G-RAID® และ G-SPEED® ที่งาน BroadcastAsia2017 ระหว่างวันที่ 23-25 พฤษภาคม 2560 ที่บูธหมายเลข 6Q2-01 ที่ Suntec Singapore ชั้น 6

ในงาน มร. คลินตัน ฮาร์น จะร่วมพบปะทักทายที่บูธ G-Technology หมายเลข 6Q2-01 ในวันที่ 23 และ 24 พฤษภาคม 2560 เวลา 15.00 – 16.00 . นอกจากนี้เขาจะร่วมพูดคุยในหัวข้อเกี่ยวกับ คำแนะนำในการซื้อและดูแลเวิร์กโฟลว์ของสื่อ ที่ BroadcastAsia 2017 Innovation Hub ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2560 เวลา 14.10 – 14.30 .

คุณสมบัติและข้อมูลจำเพาะ

G-DRIVE® พร้อมเทคโนโลยี Thunderbolt 3

G-DRIVE® ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Thunderbolt 3 (ขนาด 12 เทราไบต์ จำหน่ายในราคา 28,799 บาท และขนาด 10 เทราไบต์ ราคา 25,199 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ที่ออกแบบมาเพื่อกลุ่มนักสร้างสรรค์ผลงานมืออาชีพ โซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลประสิทธิภาพสูงที่มาพร้อมกับพอร์ต Thunderbolt 3 และ USB-C (ที่รองรับพอร์ต USB 3.1 เจเนอเรชั่น 1) ผู้ใช้สามารถทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ถึง 5 ตัว สามารถเชื่อมต่อกับไดรฟ์ได้หลายตัวและสามารถทำการย้ายวิดีโอแบบความละเอียดสูงและฟุตเทจแบบ 4K ผ่านการเชื่อมต่อหัวเดียวได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความจุที่มีมากถึง 12 เทราไบต์ เวิร์คโหลดงานที่หนักและข้อมูลที่มีความสำคัญของผู้ใช้งานสามารถวางใจได้ด้วยความน่าเชื่อถือที่มีอย่างยาวนานของ Ultrastar® แบรนด์ HGST ฮาร์ดดิสก์ระดับองค์กรที่ติดตั้งอยู่ข้างใน ด้วยระดับความเร็วในการอ่านและเขียนอยู่ที่ 7200RPM

G-RAID® ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Thunderbolt 3

G-RAID® ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Thunderbolt 3 (ขนาด 24 เทราไบต์ จำหน่ายในราคา 71,999 บาท และขนาด 10 เทราไบต์ ราคา 25,199 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ฮาร์ดดิสก์ 2 ลูกที่มีประสิทธิภาพสูงและสามารถถอดออกได้ ที่ทำงานแบบ RAID 0 RAID 1 หรือระบบจัดเก็บข้อมูลแบบ JBOD ที่มาพร้อมกับพอร์ต Thunderbolt 3 พอร์ต USB 3.1 เจเนอเรชั่น 2 หัวต่อ HDMI® 2.0 ที่สามารถใช้ต่อกับจอแสดงผลแบบ 4K แบบ 60 HDR และอุปกรณ์ตัดต่อ ช่วยให้นักสร้างสรรค์ผลงานมืออาชีพสามารถเข้าถึง เรียกดู แก้ไข และทำการสำรองคลังภาพดิจิตอลได้อย่างรวดเร็ว ด้วย Ultrastar® แบรนด์ HGST ความเร็วในการอ่าน 7200RPM ฮาร์ดดิสก์ระดับองค์กรที่สามารถทำการถอดออกมาได้นั้นช้วยให้เกิดความยืดหยุ่นและความน่าเชื่อถือซึ่งเหมาะสำหรับโปรเจ็คงานครีเอทีฟที่ต้องมีความต้องการสูง ซึ่งรวมถึงเวิร์คโฟลว์ของวิดีโอแบบหลายๆ สตรีมทั้งแบบ HD 2K 4K และ HDR

G-SPEED® Shuttle XL

G-SPEED Shuttle XL พร้อมเทคโนโลยี Thunderbolt 3 (ขนาด 96 เทราไบต์ จำหน่ายในราคา 367,199 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สามารถจัดการกับวิร์คโฟลว์แบบหลายสตรีมของ ตั้งแต่ 4K ขึ้นไป ทั้งในสถานที่อื่นและในสตูดิโอ G-SPEED Shuttle XL และ Thunderbolt 3 มาพร้อมฮาร์ดแวร์ RAID 0, 1, 5, 6, และ 50 คอนฟิค ในโซลูชั่นที่สามารถเครื่องย้ายได้ 8 ช่อง มาพร้อมกับฮาร์ดดิสก์ Ultrastar ระดับองค์กรซึ่งยกระดับความน่าเชื่อถือและอัตราการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดถึง 2000MB/s* ทำให้นักสร้างสรรค์ผลงานมืออาชีพมีโซลูชั่นสำหรับการเก็บข้อมูลที่ดีที่สุดสำหรับวิดีโอและการจัดเก็บข้อมูลที่มีความจุสูง

G-SPEED Shuttle XL พร้อมอแดปเตอร์รุ่น ev Series Bay (ขนาด 72 เทราไบต์ จำหน่ายในราคา 280,799 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งคล้ายกับ G-SPEED Shuttle XL เทคโนโลยีแบบ Thunderbolt 3 ตัวอแดปเตอร์รุ่น ev Series Bay ช่วยเพิ่มทางเลือกในการทำงานและเพิ่มผลิตภาพโดยเปิดใช้งานฟังค์ชั่นกับไดรฟ์รุ่น ev Series ทั้งหมด ได้รับการออกแบบโดยใช้อแดปเตอร์ที่มี 2 ช่องสำหรับ ev Series สำหรับการใช้กับชุดไดรฟ์ ev Series และเครื่องอ่าน ev Series ทำให้ผู้ใช้สามารถสัมผัสกับความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้นพร้อมกับอัตราการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็วถึง 1500 MB/s*  

โซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลของ G-Technology ตามที่กล่างมาข้าต้นนั้นใช้ฮาร์ดดิสก์ Ultrastar ระดับองค์กรและมาพร้อมกับการรับประกันจากอุตสาหกรรมชั้นนำ 5 ปี โซลูชั่นการเก็บข้อมูลของ G-Technology มีการจัดรูปแบบไว้ล่วงหน้าสำหรับคอมพิวเตอร์ของ Mac® และสามารถจัดรูปแบบใหม่สำหรับคอมพิวเตอร์ที่แบบ Windows® ด้วย G-Technology Windows Format Wizard

สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าทุกตัวของ G-Technology สามารถติดตามได้ที่ www.g-technology.com

ติดตาม G-Technology ได้ที่
เว็บไซต์: www.g-technology.com
เฟสบุ๊ค®: G-Technology
ทวิตเตอร์®: @GTechStorage
อินสตาแกรม®:  GTechnology
ยูทูป®: GTechnologyStorage

###

เกี่ยวกับ เวสเทิร์น ดิจิตอล

เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ปอเรชั่น (NASDAQ: WDC)  เป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลและโซลูชั่นที่ให้อำนาจแก่ผู้ใช้ในการสร้าง ใช้ประโยชน์ สัมผัสประสบการณ์ และเก็บรักษาข้อมูลเอาไว้ บริษัทสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ครบรูปแบบซึ่งเต็มไปด้วยความน่าสนใจ โซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลคุณภาพสูงด้วยนวัตกรรมที่มุ่งเน้นเพื่อตอบสนองลูกค้าทั้งในด้าน ประสิทธิภาพสูง ความยืดหยุ่น และความเร็ว ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของบริษัทวางจำหน่ายภายใต้แบรนด์ HGST, SanDisk และ WD ตลอดจนการรับจ้างผลิต (OEM) ให้แก่ตัวแทนจำหน่ายหลัก ร้านค้าปลีก รวมถึงผู้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบคลาวด์ และผู้บริโภคทั่วไป

แถลงการณ์การคาดการณ์ ในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีแถลงการณ์การคาดการณ์ในอนาคตบางประการ ซึ่งรวมถึงการประมาณคร่าวๆ ของวันวางจำหน่าย ราคาและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ G-DRIVE หัวต่อแบบ Thunderbolt 3, G-RAID หัวต่อแบบ Thunderbolt 3, G-SPEED Shuttle XL หัวต่อแบบ Thunderbolt 3 และ G-SPEED Shuttle XLพร้อมอะแดปเตอร์แบบ ev Series bay และคุณสมบัติรวมไปถึงประโยชน์อื่นๆ ที่ลูกค้าจะได้รับ มีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวกับการแถลงการณ์ ในอนาคตนี้ที่อาจเกิดความคลาดเคลื่อนขึ้น ยกตัวอย่างเช่น อุปกรณ์ G-DRIVE USB-C อาจจะไม่มีวางจำหน่ายตามที่คาดการณ์ไว้ ปัจจัยด้านความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจโลก ปัจจัยด้านธุรกิจและความเติบโตทางระบบนิเวศในการจัดเก็บ ผลกระทบจากราคาและผลิตภัณฑ์คู่แข่ง การยอมรับในตลาดและราคาวัตถุดิบของสินค้าโภคภัณฑ์และชิ้นส่วนเฉพาะของผลิตภัณฑ์  การกระทำจากคู่แข่งทางการค้า การแข่งขันทางด้านเทคโนโลยีที่ไม่คาดคิด  การพัฒนาของเราและการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และการขยายตัวเพื่อเข้าสู่ตลาดด้านการจัดเก็บใหม่ๆ  การควบกิจการและการร่วมทุน ความยุ่งยากหรือความล่าช้าด้านการผลิต ปัจจัยด้านความเสี่ยงอื่นๆ และความไม่แน่นอน ตามรายงานจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของเวสเทิร์น ดิจิตอล รวมถึงรายงานตามช่วงเวลาล่าสุดซึ่งต้องการให้คุณได้ศึกษา เวสเทิร์น ดิจิตอล ไม่มีความตั้งใจใดๆ ในการปรับปรุงข้อมูลที่ปรากฏในข่าวประชาสัมพันธ์นี้

from:https://www.techtalkthai.com/g-technology-addresses-increasing-application-workflow-demands/

[PR] เวสเทิร์น ดิจิตอล ขยายความจุให้กับ WD Red และ WD Red Pro ฮาร์ดดิสก์สำหรับ NAS ที่ใช้เทคโนโลยีก๊าซฮีเลียม ที่ระดับ 10TB

กลุ่มสินค้าที่การันตีด้วยรางวัลพร้อมมอบประสิทธิภาพการทำงาน หน่วยความจุที่สูง
และความน่าเชื่อถือสำหรับระบบ
NAS ที่เปิดใช้งานตลอดเวลา

กรุงเทพฯ 18 พฤษภาคม 2560 – เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ปอเรชั่น (NASDAQ: WDC) ผู้นำด้านเทคโนโลยีและโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลระดับโลก ประกาศการเติบโตของสินค้ากลุ่มฮาร์ดดิสก์สำหรับเก็บข้อมูลบนเครือข่ายหรือระบบ NAS ที่ได้รับรางวัลอย่าง WD Red® และ WD Red Pro ด้วยการแนะนำสินค้ารุ่นที่มีขนาดความจุที่ระดับ 10 เทราไบต์ ที่เหมาะสำหรับการใช้งานแบบส่วนตัว ใช้ในบ้าน หรือระบบ NAS ที่ใช้กับธรุกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง เวสเทิร์น ดิจิตอล ได้ทำการส่งไดรฟ์ขนาดความจุสูงที่ใช้เทคโนโลยีที่ใช้ก๊าซฮีเลียมไปยังแอพพลิเคชั่นหลายตัว รวมถึงระบบ NAS ไปกว่า 15 ล้านชิ้นแล้ว และในปัจจุบันก็ยังคงให้การรองรับลูกค้าด้วยประสิทธิภาพความจุที่สูงขึ้นและความน่าเชื่อถือที่โดดเด่น กลุ่มสินค้า WD Red ซึ่งเป็นฮาร์ดดิสก์สำหรับระบบ NAS จะยอมให้ลูกค้าทำการเพิ่มขนาดความจุให้มากขึ้นหรือลดลงได้เพื่อให้ตรงกับตามความต้องการในการเปลี่ยนพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนระบบ NAS

เมื่อกรกฎาคม ปี 2555 เราได้เปิดตัวแนะนำกลุ่มสินค้า WD Red ที่พูดถึงในเรื่องประสิทธิภาพการทำงานที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ความสามารถในการทำงานเข้ากันได้ และความสามารถในการปรับขนาดความจุได้ที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ใช้งานที่บ้านและกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดเล็กที่ใช้ระบบ NAS คุณเบรนแดน คอลลินส์ รองประธานกลุ่มธุรกิจสินค้าประเภทอุปกรณ์ บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล กล่าวและเพิ่มเติมว่าเป็นเวลายาวนานกว่า 5 ปีที่มีฮาร์ดดิสก์ตระกูล WD Red มากกว่า 16 ล้านตัว และเรายังคงพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง โดย การนำแพลตฟอร์มเฮลิโอซีล (HelioSeal) ที่ซึ่งเป็นนวัตกรรมของเราและเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ตอบโจทย์ความต้องการที่จะพัฒนาระบบคลาวด์แบบส่วนตัวของลูกค้าเอง

ฮาร์ดดิสก์ WD Red สำหรับระบบ NAS ขนาด 10 เทราไบต์

ฮาร์ดดิสก์ WD Red เปิดตัวในปี 2555 เป็นฮาร์ดดิสก์ที่รองรับสภาพแวดล้อมเฉพาะเจาะจงของระบบ NAS และตอบรับความต้องการอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีราคาที่สามารถเข้าถึงได้ น่าเชื่อถือและทำงานเข้ากันได้ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยลดต้นทุนในการเป็นเจ้าของให้กับลูกค้า ฮาร์ดดิสก์ WD Red ขนาดความจุ 10 เทราไบต์ ออกแบบด้วยเทคโนโลยี HelioSeal® ที่ใช้ก๊าซฮีเลียมของเวสเทิร์น ดิจิตอล ที่มอบความจุที่เพิ่มมากขึ้นและประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการในการจัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นของระบบที่ใช้งานตลอดเวลา ระบบ NAS ที่มีช่องเสียบไดร์ฟตั้งแต่ 1 ถึง 8 ช่อง ด้วยการออกแบบที่ใช้ก๊าซฮีเลียมจึงช่วยเพิ่มความสามารถในการจุมากกว่า WD Red ขนาด 8 เทราไบต์ได้ถึง 25% รองรับฮาร์ดดิสก์ได้ถึง 16 ช่องในโครงสร้างแบบทาวเวอร์ (Tower) และตู้แร็ค (Rack) สำหรับ WD Red Pro ขนาด 10 เทราไบต์ เป็นฮาร์ดดิสก์ ที่มอบในเรื่องประสิทธิภาพที่สูง ความน่าเชื่อถือ และความจุที่รองรับการทำงานของระบบ NAS ได้สูงสุดถึง 16 ช่องเช่นกัน

คุณสมบัติและข้อมูลจำเพาะ

WD Red / WD Red Pro ขนาด 10 เทราไบต์

  • เฮลิโอซีล: เทคโนโลยีเฮลิโอซีล ขนาดความจุ 10 เทราไบต์ ที่รองรับตลาดจัดเก็บข้อมูลแบบ NAS จะนำไปสู่ยุคที่ 4 ของเวสเทิร์น ดิจิตอล
  • 3D Active Balance Plus ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการควบคุมความสมดุลที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือโดยรวมของไดรฟ์
  • การผสมผสานที่ไร้รอยต่อด้วย My Cloud® Pro Series และ My Cloud Expert Series ของเวสเทิร์น ดิจิตอล ระบบ NAS ออกแบบมาเฉพาะเพื่อคอมมูนิตี้ของนักสร้างสรรค์ผลงานเพื่อให้สามารถโอนถ่ายเนื้อหาข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างราบรื่นไม่ว่าไปยังที่ใดก็ตาม ไม่ว่าผู้ใช้งานจะถ่ายภาพจากระยะไกลหรือแก้ไขที่บ้านก็ตาม
  • NASware® 3.0 เป็นเวอร์ชั่นปรับปรุงของเทคโนโลยี NASware รุ่นเดิมของเวสเทิร์น ดิจิตอล ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของระบบ ช่วยลดระยะเวลาที่ระบบเกิดขัดข้องทำให้ลูกค้าไม่สามารถทำงานต่อไปได้และทำให้กระบวนการรวมทำงานรวมกันนั้นง่ายขึ้น
  • ระดับประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ระดับความเร็วในการอ่านและเขียนอยู่ที่ 5400 RPM สำหรับ SOHO และระดับ 7200 RPM สำหรับระบบ NAS ที่มีช่องเสียบไดรฟ์ 16 ช่อง

WD Red และ WD Red Pro ขนาด 10 เทราไบต์ ได้ทำการทดสอบความเข้ากันได้กับผู้ให้บริการระบบ NAS ชั้นนำของหลายราย ทั้งนี้ เวสเทิร์น ดิจิตอล ได้จัดทำรายชื่อของผลิตภัณฑ์และผู้ผลิตที่ผ่านการรับรองจาก WD Red ว่าสามารถทำงานเข้ากันได้ ซึ่งสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ https://www.wdc.com/products/internal-storage/wd-red.html.

การจัดจำหน่าย

ฮาร์ดดิสก์ WD Red และ WD Red Pro วางจำหน่ายเป็นที่ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการคัดเลือกในสหรัฐอเมริกาแล้ว ซึ่ง WD Red สำหรับ NAS ขนาด 10 เทราไบต์ มาพร้อมการรับประกันเป็นเวลา 3 ปี จำหน่ายในราคา 17,900 บาท (รุ่น #: WD100EFAX) และ WD Red Pro ขนาด 10 เทราไบต์ มาพร้อมการรับประกันเป็นเวลา 5 ปี จำหน่ายในราคา 19,900 บาท (รุ่น #: WD101KFBX) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ WD Red รวมถึงรายละเอียดการรับประกันสินค้า สามารถติดตามได้ที่ https://www.wdc.com/products/internal-storage/wd-red.html.

###

เกี่ยวกับ เวสเทิร์น ดิจิตอล

เวสเทิร์น ดิจิตอล ผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชั่นด้านการจัดเก็บข้อมูลชั้นนำของอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นบริการที่ให้อำนาจแก่ผู้ใช้ในการสร้าง ใช้ประโยชน์ สัมผัสประสบการณ์ และเก็บรักษาข้อมูลเอาไว้ บริษัทสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ครบรูปแบบซึ่งเต็มไปด้วยความน่าสนใจ โซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลคุณภาพสูงด้วยนวัตกรรมที่มุ่งเน้นสนองตอบลูกค้าทั้งในด้าน ประสิทธิภาพสูง ความยืดหยุ่น และความเร็ว ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของบริษัทวางจำหน่ายภายใต้แบรนด์ HGST, SanDisk และ WD ตลอดจนการรับจ้างผลิต (OEMs) ให้แก่ตัวแทนจำหน่ายหลัก ร้านค้าปลีก รวมถึงผู้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบคลาวด์ และผู้บริโภคทั่วไป  ข้อมูลทางการเงินและนักลงทุนสามารถดูได้ที่หน้า นักลงทุนสัมพันธ์ (Investor Relations) บนหน้าเว็บไซต์ของบริษัท ที่ investor.wdc.com/

แถลงการณ์การคาดการณ์ ในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีแถลงการณ์การคาดการณ์ในอนาคตบางประการ ซึ่งรวมถึงแถลงการณ์เกี่ยวกับการพัฒนา ประสิทธิภาพการทำงาน และความจุ ขีดความสามารถ แอพพลิเคชั่น และการจัดจำหน่าย ของฮาร์ดไดร์ฟ WD Red และ WD Red Pro 10 เทราไบต์ HDDs และแพลตฟอร์มการทำงานของเฮลิโอซีล (HelioSeal platform) มีปัจจัยความเสี่ยง และ ความไม่แน่นอนหลายอย่างที่อาจเกิดความคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการแถลงการณ์ในอนาคตนี้ ซึ่งรวมไปถึงสิ่งอื่นๆ ด้วย เช่น ความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจโลก สภาพธุรกิจและการเติบโตในระบบนิเวศของระบบจัดเก็บข้อมูล ผลกระทบจากราคาและสินค้าคู่แข่ง การยอมรับในตลาดและราคาวัตถุดิบของสินค้าโภคภัณฑ์และชิ้นส่วนเฉพาะของสินค้า  การกระทำจากคู่แข่งทางการค้า การแข่งขันทางด้านเทคโนโลยีที่ไม่คาดคิด  การพัฒนาของเราและการแนะนำผลิตภัณฑ์ซึ่งใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และการขยายตัวเพื่อเข้าสู่ตลาดด้านการจัดเก็บใหม่ๆ  การควบกิจการ และการร่วมทุน ความยุ่งยากหรือความล่าช้าด้านการผลิต ปัจจัยด้านความเสี่ยงอื่นๆ และความไม่แน่นอน ตามรายงานจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงรายงานตามช่วงเวลาล่าสุดซึ่งต้องการให้คุณได้ศึกษา เวสเทิร์น ดิจิตอล ไม่มีความตั้งใจใดๆ ในการปรับปรุงข้อมูลที่ปรากฏในข่าวประชาสัมพันธ์นี้

from:https://www.techtalkthai.com/western-digital-expanded-capacity-for-wd-red-and-wd-red-pro-helium-technology-harddisk-for-nas-at-10-tb/