Anonymous ประกาศก้อง พร้อมจัดการตำรวจไทย กรณีสองแรงงานพม่าแห่งเกาะเต่า

เป็นเรื่องจนได้เมื่อ Anonymous เริ่มสงครามกับตำรวจไทยด้วยการแฮ็กเว็บไซต์ตำรวจไทยจำนวน 15 เว็บไซต์เพื่อหวังแสดงพลังความไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินคดีสองแรงงานพม่าฆาตกรรม-ข่มขืนโหดนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่าหลังจากศาลไทยได้พิจารณาตัดสินคดีไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยได้ทำการโพสวิดีโอความยาว 37 นาทีลงบน Facebook เพื่อระดมกำลังจากผู้ติดตามให้ช่วยกันแฮ็กเว็บไซต์ตำรวจไทย โดยรวมไปถึงเว็บไซต์ที่ดูแลโดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล (Bangkok Metropolitan Police Bureau) และจนถึงตอนนี้ จากรายงานของ The Guardian ระบุว่ามีเว็บไซต์ที่ถูกแฮ็กแล้วทั้งสิ้นจำนวน 7 เว็บไซต์ ซึ่งมีการแสดงข้อความ “Failed Law. We want Justice. #BoycottThailand” หรือ “กฎหมายที่ล้มเหลว เราต้องการความยุติธรรม #คว่ำบาตรประเทศไทย” แผ่หลาบนหน้าเว็บไซต์ที่ถูกแฮ็กไป นอกจากนี้กลุ่ม Anonymous ยังได้เปิดเผยรายชื่ออีเมลที่อ้างว่าเป็นอีเมลที่เป็นของตำรวจไทยอีกบางรายอีกด้วย

โดยในวิดีโอเฟซบุ๊ค ชาย (?) ภายใต้หน้ากาก Anonymous ได้กล่าว่า “ตำรวจไทยเลือกที่จะโยนความผิดให้กับชาวต่างชาติหรือต่างด้าวในอาชกรรมแบบนี้เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเสียมากกว่าจะยอมตัดสินให้ผู้กระทำความผิดเป็นชาวไทย” ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้ “ประเทศไทยจะกลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของพวกผู้ก่อการร้ายได้”

 

 

ทั้งนี้คงต้องรอดูกันต่อไปว่าท้ายที่สุดแล้วผลจากการโจมตีของกลุ่ม Anonymous ในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร หากมีความคืบหน้าเราจะเร่งนำมารายงานให้ได้รับทราบกันในทันที

from:https://www.appdisqus.com/2016/01/07/anonymous-cyberattack-thai-police-burmese-migrant.html

ไม่คุยกันก่อน? รมว.ไอซีที ลั่นไม่เห็นด้วยกับ ปอท. จะตรวจสอบข้อมูลการแชต ‘LINE’ ของผู้ใช้ไทย

เป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างมากสำหรับกรณีที่  กองบังคับการปราบปราม การกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี (ปอท.) จะตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้แอพพลิเคชั่น Line บางคนที่มีเข้าข่ายสร้างผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ (อ่านข่าวเก่า )ล่าสุดทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ICT) ได้กล่าวถึงข่าวดังกล่าว ว่า

ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว เนื่องจาก Line ถือเป็นแอพพลิเคชั่นที่ใช้กันทั่วโลกและเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลที่ไม่ควรถูกละเมิด ซึ่ง ปอท.ไม่จำเป็นต้องเข้าไปตรวจสอบการใช้งานใดๆ และเซิร์ฟเวอร์หลักที่ใช้เก็บข้อมูลการใช้งานทั้งหมดก็เป็นของบริษัทผู้ผลิตที่ประเทศญี่ปุ่น ส่วนสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลก็ขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ผลิตไลน์จะอนุญาตหรือไม่ด้วย “กระทรวงไอซีที  ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จาก ปอท. และไม่ได้ร่วมมือที่จะเข้าไปดำเนินการ เพราะ กระทรวงไอซีที ไม่เห็นด้วยกับ นโยบาย ปอท.ในครั้งนี้   ขณะเดียวกันรัฐไม่มีนโยบายปิดกั้น หรือล่วงละเมิด สิทธิเสรีภาพของประชาชน”

ที่มา : ไทยรัฐ ออนไลน์

from:http://mobiledista.com/mict-deprecate-thai-police-to-censor-line-app/