คลังเก็บป้ายกำกับ: START_INVEST

เปิดศึก 2 แอปพลิเคชันซื้อกองทุน FinVest กับ TrueMoney ที่ใช้ “ความง่าย” เป็นจุดขาย

ในยุคนี้คนไทยหันมาให้ความสนใจกับการลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งเกิดจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่น้อยลงทุกวัน การเก็บเงินไว้ในบัญชีเงินฝาก ไม่ได้ทำให้เงินที่มีงอกเงยขึ้นมา

แต่อย่าลืมว่าการลงทุนก็ยังคงไม่ใช่สิ่งที่คนไทยคุ้นเคย จากข้อมูลจำนวนนักลงทุนในประเทศไทย พบว่า ประเทศไทยมีผู้ที่เคยลงทุนเพียง 2% จากประชากรเกือบ 70 ล้านคน หรือคิดเป็นเพียง 3 ล้านคนเท่านั้น

ส่วนสาเหตุที่คนไทยไม่ลงทุน มีหลายประการ ส่วนใหญ่เป็นความเชื่อ หรือทัศนะคติที่มีต่อการลงทุน ที่ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ

    • เข้าใจว่าการลงทุนเป็นเรื่องยาก ต้องใช้เวลานานในการลงทุน
    • ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน ไม่รู้ว่าจะหาข้อมูลจากที่ไหน ไม่กล้าถามคนรู้จัก
    • คิดว่าการลงทุนเป็นเรื่องของคนที่มีเงินเท่านั้น หรือคิดว่าหากจะลงทุนต้องใช้เงินจำนวนมากๆ
    • ไม่มีเงิน ที่จะนำมาใช้เพื่อการลงทุน

ความจริงแล้วเหตุผล 3 ประการแรก เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเข้าใจ และทัศนคติที่มีต่อการลงทุน หากสร้างความเข้าใจใหม่ ก็จะมีทัศนคติที่ดีต่อการลงทุนได้ เพราะอย่าลืมว่าในปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทั่วๆ ไป อยู่ที่ราว 0.25% เท่านั้น ซึ่งไม่สามารถสร้างผลตอบแทนให้งอกเงยได้เลย ไม่ว่าจะมีเงินเก็บมาแค่ไหนก็ตาม

แต่กระแสความต้องการในการลงทุนของคนไทยมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีแอปพลิเคชันที่ใช้สำหรับการลงทุนในกองทุนเปิดตัวในช่วงเวลาที่ใกล้กัน คือ FinVest และ TrueMoney Wallet

FinVest เป็นแพลตฟอร์มการลงทุนที่เกิดจากความร่วมมือของ ธนาคารกสิกรไทย ลู อินเตอร์เนชันแนล และ โรโบเวลธ์ โดยมีจุดเด่น คือ การแก้ Pain Point ของการลงทุน

    • คอนเทนต์ที่เกี่ยวกับการลงทุน ใช้ภาษาที่อ่านง่าย ใครๆ ก็อ่านแล้วเข้าใจ
    • มีการจัดกองทุนแนะนำโดยคณะกรรมการ ที่จะมีการประชุมสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
    • สามารถลงทุนได้ใน 16 บลจ. ภายในประเทศ
    • ลงทุนในกองทุนต่างประเทศได้โดยตรงเป็นครั้งแรก ผ่านแพลตฟอร์มที่เรียกว่า Open Architecture
Start Invest บน TrueMoney Wallet

ส่วน TrueMoney Wallet ก็เป็นอีกแอปพลิเคชันที่สามารถซื้อกองทุนได้ โดยใช้ชื่อฟีเจอร์การซื้อกองทุนนี้ว่า Start Invest ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง Ascend Wealth บริษัทในเครือของ Ascend Money ที่มี Ant Financial เป็นเจ้าของ โดยจุดเด่นของการลงทุนผ่าน TrueMoney Wallet คือ

    • ความง่ายในการลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet
    • มีกองทุนแนะนำที่คัดเลือกตามความสนใจ และช่วงเวลา
    • มีคอนเทนต์เรื่องการลงทุนให้ศึกษา สร้างความคุ้นเคยก่อนการลงทุน โดยยังไม่ต้องเปิดบัญชีกองทุนก็ได้
    • สามารถลงทุนได้ใน 10 บลจ. ในประเทศ รวม 600 กองทุน

FinVest ปะทะ TrueMoney Wallet ใครได้เปรียบกว่ากัน

จะสังเกตได้ว่าทั้ง FinVest และ TrueMoney Wallet ใช้ความง่ายในการลงทุน เป็นจุดขายเหมือนกันทั้งคู่ โดยเฉพาะการมีคอนเทนต์เรื่องการลงทุนให้อ่าน มีการแนะนำกองทุนที่น่าสนใจมาให้เหมือนๆ กัน คำถามที่เกิดขึ้นคือ สองแอปพลิเคชันลงทุนนี้ ใครเป็นฝ่ายได้เปรียบมากกว่ากัน

ความจริงแล้วทั้ง FinVest และ TrueMoney Wallet มีจุดเด่นเป็นของตัวเองนอกเหนือจากความง่าย FinVest ได้เปรียบตรงที่เป็นแพลต์ฟอร์มที่เป็น Open Architecture คือ สามารถลงทุนในกองทุนต่างประเทศได้โดยตรงเป็นครั้งแรก โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง หรือการซื้อกองทุน ที่มีวัตถุประสงค์ลงทุนในต่างประเทศแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่ TrueMoney Wallet ยังทำไม่ได้

นอกจากนี้ FinVest ยังมีกองทุนให้เลือกจาก 16 บลจ. มากกว่า TrueMoney Wallet ที่ลงทุนได้เพียง 10 บลจ. เท่านั้น

แต่ในขณะเดียวกันอย่าลืมว่า TrueMoney Wallet อาจตอบโจทย์เรื่องความคุ้นเคยกับตัวแอปพลิเคชันมากกว่า เพราะเป็นแอปพลิเคชันที่ทำได้หลายอย่าง ทั้งจ่ายบิล เติมเงิน ชำระค่าสินค้าในร้านสะดวกซื้อ หรือจะเติมเงินบัตรรถไฟฟ้า MRT ก็ยังทำได้

ดังนั้นแล้วความคุ้นเคยของผู้ใช้งานจึงมีมากกว่า รวมถึงฐานผู้ใช้งานเดิมของ TrueMoney Wallet ก็มีมากถึง 15 ล้านคน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องไม่น่ายาก ที่จะดึงดูดคนกลุ่มนี้ให้เริ่มลงทุนกับ Start Invest บน TrueMoney Wallet ได้

นอกจากนี้กลุ่มผู้ใช้งาน TrueMoney Wallet เดิม เป็นกลุ่มนักเรียนนักศึกษา หรือคนรุ่นใหม่มีจำนวนมาก ดังนั้นการดึงดูดให้คนกลุ่มนี้หันมาเริ่มลงทุน อาจง่ายกว่าก็เป็นไปได้

ความง่าย คือสิ่งที่คนไม่เคยลงทุน จะได้ประโยชน์มากที่สุด

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในทางธุรกิจการแข่งขันคือสิ่งที่ทั้งสองแอปพลิเคชันต้องการทำ เพื่อดึงดูดนักลงทุนทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ให้เข้ามาใช้แอปพลิเคชันของตัวเองในการเปิดบัญชีเพื่อลงทุน แต่ความจริงแล้วในอีกมุมหนึ่ง ความง่าย คือสิ่งที่คนทั่วไปจะได้ประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะคนที่ยังไม่เคยลงทุนมาก่อน ซึ่งการลงทุนนี้อาจช่วยสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า มากกว่าการเก็บเงินไว้ในบัญชีเพียงอย่างเดียว แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่อย่าลืมว่า การไม่คิดที่จะลงทุนเลย คือความเสี่ยงที่มากที่สุดเช่นกัน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/finvest-vs-truemoney-wallet-invest-war/

TrueMoney Wallet ไม่ได้มีไว้แค่เติมเกม: เปิดตัว Start Invest ซื้อกองทุนผ่านแอปฯ ได้แล้ว

ทรูมันนี่ ขยายแพลตฟอร์มบริการทางการเงิน ร่วมกับบริษัทในเครือ บลน. แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนภายใต้บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด เปิดตัว Start Invest บริการเปิดบัญชี และชำระเงินซื้อขายกองทุนรวมผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet จับกลุ่มลูกค้าทรูมันนี่กว่า 15 ล้านราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่ยังไม่เคยลงทุนมาก่อน

ธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด

ธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด เล่าว่า “ทรูมันนี่ได้ทำให้ Financial Inclusion ในประเทศไทยมีความหลากหลาย และครอบคลุมบริการทางการเงินมากขึ้น โดยได้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทรูมันนี่เป็นประจำ 15 ล้านราย ที่ส่วนใหญ่ยังไม่เคยลงทุน ให้เริ่มลงทุนเป็นครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet”

ข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการทางการเงินของคนไทยอย่างหนึ่งที่ธัญญพงศ์ ยกตัวอย่าง คือ การไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อภายในระบบได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องการออมเงิน ที่คนไทยไม่ได้มีการออมเงินเพื่อเตรียมพร้อมหลังการเกษียณอายุ ซึ่งในปัจจุบัน มีคนไทยเพียง 4% หรือราว 2 ล้านคน จากประชากรทั้งหมดเกือบ 70 ล้านคนเท่านั้น ที่เคยลงทุน

ณัฐวดี แซ่เอี้ย ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมทางธุรกิจ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด เล่าถึงสาเหตุที่ทำให้คนไทยเข้าไม่ถึงการลงทุนว่า คนไทยมองว่าการลงทุนเป็นเรื่องยาก ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ต้องใช้เวลาในการไปธนาคารเพื่อเปิดบัญชี ต้องจำชื่อกองทุนยากๆ ไม่รู้ความแตกต่างของแต่ละกองทุน ซึ่งหากจะถามคนอื่นก็อาย เพราะต้องการลงทุนด้วยเงินจำนวนเพียง 500-1,000 บาท เท่านั้น

ณัฐวดี จึงต้องการเปลี่ยนความเชื่อเรื่องการลงทุน ว่าการลงทุนเป็นเรื่องง่ายๆ และสามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet

ชูจุดเด่นความง่าย ในการลงทุน

สำหรับบริการ Start Invest บนแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet ผู้ใช้งานสามารถเปิดบัญชีลงทุนได้โดยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที และสามารถเข้าถึงกองทุนรวม 600 กองทุน จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนในประเทศไทย จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ บลจ.พรินซิเพิล, บลจ.ทาลิส, บลจ.แลนด์ แอนเฮ้าส์, บลจ.ไทยพาณิชย์, บลจ.กรุงศรี, บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด, บลจ. วรรณ จำกัด, บลจ.เกียรตินาคินภัทร จำกัด, บลจ. วี จำกัด และ บลจ. ทหารไทย

โดยบริการ Start Invest บนแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปเพื่อศึกษาข้อมูล และสร้างความคุ้นเคยกับการลงทุนก่อน โดยไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีกองทุนก็ได้ โดยจะมีการแนะนำกองทุนจัดเรียงตามความต้องการในช่วงเวลานั้น เช่น ในช่วงปลายปี จะแนะนำกองทุนที่ใช้สำหรับลดหย่อนภาษี หรือลูกค้าคนใดสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี ก็จะแนะนำกองทุนที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีให้ ตัดปัญหาการไม่รู้ความแตกต่างของแต่ละกองทุน

สำหรับเป้าหมายของในอนาคต คาดว่า Start Invest จะสามารถดึงดูดนักลงทุนทั้งรายเก่า และรายใหม่ให้เปิดบัญชีได้ไม่น้อยกว่า 600,000 ราย และสร้างมูลค่าการลงทุนรวม 15,000 ล้านบาท ในปี 2564

แต่อย่างไรก็ตาม ธัญญพงศ์ เล่าว่า เป้าหมายหลักๆ ไม่ได้ต้องการสร้างมูลค่าการลงทุนเป็นสำคัญ แต่อยากให้คนไทยสามารถเข้าถึงการลงทุนได้เป็นครั้งแรกมากกว่า

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/truemoney-wallet-buy-mutual-fund/