คลังเก็บป้ายกำกับ: ROBOTIC_ARM

OBI แขนกลช่วยตัก+ป้อนอาหารผู้พิการ

obi-feeding-robot-7

Obi เป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกของบริษัท Desin หน้าตาออกแนวเครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยใหม่ภายในครัว Obi จะเข้ามาช่วยให้ผู้พิการด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคสมองพิการ โรคปลอกหุ้มประสาทอักเสบ โรคพาร์คินสัน และผู้ที่ได้บาดเจ็บทางสมองหรือไขสันหลังได้มีชีวิตที่ดีขึ้น

หน้าที่หลักของ Obi คือ ป้อนอาหารให้กับผู้พิการ วิธีการใช้งานนั้นง่ายมาก มีปุ่มควบคุมเพียงแค่ 2 ปุ่ม คือ ปุ่มเลือกอาหาร เลือกวนไปเรื่อย ๆ ครบ 4 ตัวเลือก (ถาดอาหารมี 4 หลุม) และปุ่มป้อนอาหาร ที่เมื่อกดแล้วหุ่นยนต์จะตักอาหารจากถาดไปป้อนให้กับผู้พิการ

obi-feeding-robot-1

แล้วคนป่วย/ผู้พิการที่กดปุ่มเองไม่ได้จะควบคุม Obi อย่างไร? นอกจากการควบคุมโดยการกดปุ่มแล้ว ยังมีตัวเลือกแป้นควบคุมที่เท้า และ หมอนที่รับคำสั่งควบคุมด้วยการโยกศีรษะ การขยับแก้ม และการขยับริมฝีปากได้ด้วย (ขายแยกต่างหากเป็นอุปกรณ์เสริม)

อีกคำถามหนึ่งคือ Obi จะรู้ได้อย่างไรว่าตำแหน่งปากของผู้พิการอยู่ตรงไหน จะได้ป้อนอาหารได้ถูกตำแหน่ง คำตอบคือ Obi มีโหมด “TEACH” รับการสอนจากมนุษย์ ผู้ที่ดูแลผู้ป่วยสามารถตั้งค่าตำแหน่งป้อนอาหารให้กับผู้ป่วยได้ใหม่ทุกครั้งตามต้องการ นอกจากนี้ Obi ยังมาพร้อมกับระบบตรวจจับว่าระหว่างที่ป้อนอาหาร มีมือคนหรือสิ่งแปลกปลอมมาขัดขวางการตักอาหารไปป้อนให้ผู้พิการด้วยหรือไม่ ในส่วนของแบตเตอรี่ ชาร์จไฟ 1 ครั้ง ทำงานได้ 2-4 ชั่วโมง

Obi เปิดตัวมาที่ราคาประมาณ 157,000 บาท ไม่รวมอุปกรณ์เสริม

ที่มาและภาพ New Atlas


LINE it!

from:https://www.thairobotics.com/2016/08/05/obi-robot-arm/

[PR] เก็บเกี่ยวประโยชน์ของการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างชาญฉลาด

เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา ประเทศในอาเซียน 10 ประเทศได้รวมตัวกันเป็น “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” หรือ เออีซี ที่มีประชากรรวมถึง 600 ล้านคน และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( GDP ) มูลค่า 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ที่กลายมาเป็นตลาดเดียวระดับภูมิภาครองรับการไหลเวียนของสินค้า บริการ การลงทุน แรงงานฝีมือ และเงินทุนหมุนเวียนต่าง ๆ [1] ได้อย่างเสรีและเป็นแหล่งดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลก

universal-robot-asian-industry

ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศไทยใหญ่เป็นอันดับสองในอาเซียนรองจากอินโดนิเซีย แต่ก็เป็นเรื่องน่าห่วงที่คนไทยจำนวนไม่น้อยเลยที่ไม่เข้าใจโอกาสและความท้าทายที่มากับเออีซี สำหรับประเทศไทยแล้ว นอกจากขนาดเศรษฐกิจ ภูมิศาสตร์ที่ตั้งของประเทศยังเป็นศูนย์กลางเส้นทางเศรษฐกิจสายเอเซียนตะวันออก-ตะวันตก ( East-West Economic Corridor ) ที่ครอบคลุมเวียตนามถึงเมียนมาร์ เป็นความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์การค้า หนุนให้มีสถานภาพเป็นสมาชิกหลักของเออีซีได้เลยทีเดียว หากแรงงานมีความรู้และเท่าทันที่จะปรับตัวรับโอกาสอย่างเหมาะสม

ความหมายต่อธุรกิจ

สภาพตลาดของเออีซี คือ ตลาดเดียวและมีฐานการผลิตร่วมกันระดับภูมิภาค ที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบ และสิทธิประโยชน์จากค่าใช้จ่ายการผลิตที่ต่ำลง อย่างไรก็ตาม จะมีอัตราการแข่งขันสูงขึ้น ธุรกิจที่ไม่สามารถชิงความได้เปรียบของสถานการณ์ก็จะล้าหลัง ต้องนั่งมองคู่แข่งที่รู้จักประยุกต์ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีกับธุรกิจรักษาฐานการเติบโตธุรกิจแซงหน้าไป

ตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากไทย-เยอรมันที่มีมูลค่าการลงทุน 1.2 พันล้านบาทเพื่อพัฒนาโรงงานขนาดสองหมื่นตารางเมตร ติดตั้งหุ่นยนต์ช่วยงาน เพื่อให้รับกับการสร้างโอกาสจากตลาดเกิดใหม่ที่เป็นผลจากความร่วมมือระดับภูมิภาคอาเซียน[2] การลงทุนกับหุ่นยนต์ใช้งานไม่เพียงแต่เป็นองค์ประกอบหลักของกลยุทธ์การเติบโตธุรกิจเท่านั้น แต่เป็นการยกความสามารถในการผลิตและศักยภาพของแรงงาน หุ่นยนต์สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด ดังนั้นจึงรองรับปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้ แม้ในรูปแบบการผลิต High Mix Low Volume คือ เน้นสินค้าในเชิงคุณภาพความหลากหลายมากกว่าปริมาณก็ตาม

ในสภาวการณ์เช่นนี้ เจ้าของธุรกิจต้องก้าวให้ทันพัฒนาการใหม่ ๆ ในประเทศ และภูมิภาค เพื่อก้าวผ่านการแข่งขันธุรกิจที่ดุเดือดนี้ไปให้ได้ เออีซีจะกลายเป็นสนามแข่งที่ทุกธุรกิจ ทุกบริษัทจะลงแข่งอย่างเท่าเทียม และสร้างโอกาสการขยายตัวและนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอกาสสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม ( SMEs ) ที่เมื่อแข่งกับบริษัทขนาดใหญ่แล้วมักมีสายป่านทางการเงินต่ำกว่ามาก

ความหมายต่อบุคคล

มีรายงานการสำรวจว่าเออีซีจะสามารถสร้างตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นได้ถึง 14 ล้านตำแหน่งภายในปี พ.ศ. 2586[3] หมายความว่าจะมีโอกาสในการเติบโตมากขึ้นแม้ในอุณหภูมิการแข่งขันสูงเช่นนี้ เน้นการอัพเกรดทักษะฝีมืออย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศไทย ประเด็นสำคัญคือการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษที่ภาครัฐได้พยายามหาทางในการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น

ส่วนของการเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ หรือการเข้าการฝึกอบรมหรือเรียนรู้การแก้ปัญหาขั้นต้นเกี่ยวกับหุ่นยนต์ที่จำเป็นนั้น ความรู้เบื้องต้นทางภาษาอังกฤษถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยลดการเสียเวลาได้ แต่ก็ยังดีที่ว่า หุ่นยนต์ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้ ในยุคปัจจุบัน มีความคล่องตัวและเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานมาก ผู้ปฏิบัติงานสามารถเรียนรู้การใช้งานได้โดยง่าย ลดปัญหาจากความไม่เข้าใจภาษาลงได้ ยิ่งไปกว่านั้น การที่มนุษย์และหุ่นยนต์สามารถทำงานอยู่ข้างกันในที่จำกัดได้เป็นประจำทุกวัน ช่วยบ่มเพาะความคุ้นเคยและความเชือมั่นต่อการใช้หุ่นยนต์ และยังยกระดับความสามารถของแรงงานขององค์กรได้อีกด้วย

วิทยาการด้านหุ่นยนต์คือกุญแจหลัก

ประเทศไทยเป็นแหล่งตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ และเป็นผู้เล่นแถวหน้าในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ของภูมิภาคนี้ ซึ่งจัดเป็นองค์ประกอบหลักสองประการที่ดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในประเทศ และการมีฐานแรงงานที่มีความคล่องตัว มีประสบการณ์และศักยภาพในการทำงานด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เช่น หุ่นยนต์ที่สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้ ก็จะถือเป็นองค์ประกอบที่สาม เออีซีได้เปิดเวทีการทดลองตลาดเชิงกลยุทธ์และการขยายธุรกิจ แต่ที่สำคัญที่สุดของการยกระดับทักษะศักยภาพก็ยังอยู่ในมือขององค์กรธุรกิจและพนักงานนั่นเอง

universal-robot-asian-food-industry

สำหรับผู้ผลิตวงการยานยนต์ที่ใช้หุ่นยนต์ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ในสายการผลิตนั้นจะได้รับประโยชน์สองต่อ ต่อที่หนึ่ง บริษัทมีความยืดหยุ่นคล่องตัวในกระบวนการผลิตเนื่องจากผลกระทบจากหุ่นยนต์มีเพียงน้อยนิด และต่อที่สอง สร้างโอกาสให้แก่พนักงานในการเติบโตด้วยความรู้และความเชี่ยวชาญ

ดังที่ได้กล่าวไปแล้วเมื่อตอนต้น ประเทศไทยมีศักยภาพพร้อมที่จะเล่นบทบาทตัวเชื่อมสำคัญของเออีซี ดังนั้น ผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจจะต้องจดจำไว้เสมอว่าตนมีความรับผิดชอบในการชี้นำ พัฒนาพนักงานกลุ่มแรงงานของตน ด้วยการวางนโยบายธุรกิจระยะยาวที่นำเอาเทคโนโลยีมาเป็นตัวเสริม เช่น หุ่นยนต์ที่สามารถร่วมกับมนุษย์ได้นั้น จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กลายมาเป็นตัวดึงดูดแรงงงานฝีมือ รวมทั้งนักลงทุน

 

บทความโดย

เชอร์มีน ก็อตเฟรดเซ็น ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Universal Robots
Universal Robots

 

เกี่ยวกับยูนิเวอร์แซล โรบอทส์

ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์เป็นผลแห่งความสำเร็จในการวิจัยค้นคว้าด้านหุ่นยนต์อย่างหนักหน่วงติดต่อกันหลายปี ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัทประกอบด้วย หุ่นยนต์ทำงานร่วมกับมนุษย์ UR3 UR5 และ UR10 หุ่นยนต์แขนกลเหล่านี้ตั้งชื่อรุ่นตามน้ำหนักที่รับในหน่วยกิโลกรัม\

ตั้งแต่ UR ตัวแรกก้าวเข้าสู่ตลาดเมื่อเดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2551 บริษัทก็ได้เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง และสามารถทำตลาดได้ในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 50 ประเทศทั่วโลกที่ให้ความสนใจในการนำหุ่นยนต์มาใช้งาน ระยะเวลาในการคืนทุนโดยเฉลี่ยสำหรับหุ่นยนต์ UR นี้เพียง 195 วันเท่านั้นถือเป็นอัตราที่เร็วที่สุดในอุตสาหกรรม บริษัทยูนิเวอร์แซล โรบอทส์มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองโอเดนส์ ประเทศเดนมาร์ก พร้อมด้วยงานพัฒนาวิจัยและผลิต เป้าหมายการจำหน่ายทั่วโลกอยู่ที่ การเติบโตยอดรายได้เท่าตัวทุกปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 ถึง พ.ศ. 2560 สนใจเยี่ยมชมเว็บไซต์ ได้ที่ www.universal-robots.com

[1] http://aseanup.com/benefits-asean-economic-community-aec/

[2] http://www.nationmultimedia.com/business/Thai-German-Meat-Product-eyes-AEC-30262684.html

[3] http://www.straitstimes.com/business/6-things-you-need-to-know-about-asean-economic-community

from:https://www.techtalkthai.com/universal-robots-asian-industry/

[PR] ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์: ผู้ผลิตหุ่นยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของเดนมาร์ก มีรายรับเติบโตถึง 91%

กรุงเทพฯ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559 – เป็นเรื่องที่สร้างความฮือฮาอย่างมากเมื่ออเมริกัน เทราไดน์ ( American Teradyne ) ยอมจ่ายมากกว่า 285 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นค่าหุ้นทั้งหมดในบริษัทยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ที่มีสำนักงานตั้งอยู่ที่เมืองโอเดนส์ ประเทศเดนมาร์ก เมื่อฤดูสปริงปี พ.ศ. 2558 ราคาของบริษัทธุรกิจที่มีพนักงาน 150 คนในเดนมาร์กนี้สะท้อนให้เห็นถึงความคาดหวังต่ออัตราการเติบโตขยายตัวอย่างมีนัยยะสำคัญของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตลาดนวัตกรรมหุ่นยนต์ที่อุบัติขึ้นใหม่ที่เรียกว่า หุ่นยนต์ที่สามารถปฏิบัติงานร่วมกับมนุษย์ ( collaborative robots ) หรือ cobots ซึ่งมีสนนราคาต่ำ ใช้งานง่าย และเป็นหุ่นยนต์ที่ตั้งโปรแกรมใช้งานได้ง่ายไม่ซับซ้อนยุ่งยาก สามารถที่จะปฏิบัติงานเคียงข้างคนงานในสายการผลิต เพื่อปรับปรุงคุณภาพ รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนวัตกรรมคิดค้นสร้างสรรค์หุ่นยนต์ cobot ตัวแรกของโลก

universal-robot-manufacture-industry3

หุ่นยนต์ cobot ตัวแรกของโลกวางตลาดเมื่อธันวาคม 2008 และในปี 2015 ประมาณมูลค่าตลาดที่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาด cobot นี้น่าที่จะมีมูลค่าขึ้นไปได้ถึง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐจากประมาณการณ์ของนักวิเคราะห์ ภายในปี 2020 ดังนั้นผู้คิดค้นบุกเบิกแถวหน้าอย่างบริษัทจากเดนมาร์กนี้จึงถือว่าได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้แก่เทราไดน์ ด้วยภาคส่วนธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด

รายรับในปี 2015 ของยูนิเวอร์แซล โรบอทส์อยู่ที่ 418 ล้านโครนเดนมาร์ก ( ประมาณ 61.65 ล้านเหรียญสหรัฐ ) เติบโต 91 เปอร์เซ็นต์เทียบกับปี 2014 และ 223 เปอร์เซ็นต์เทียบกับปี 2013 ผลกำไรก่อนหักภาษีอยู่ที่ 65.4 ล้านโครนเดนมาร์ก ( ประมาณ 9.65 ล้านเหรียญสหรัฐ ) เพิ่มขึ้น 122เปอร์เซ็นต์เทียบกับปี 2014 นั่นหมายความว่าผู้ผลิตหุ่นยนต์มีอัตรารายได้เพิ่มขึ้นและลดค่าใช้จ่ายต่อการผลิตหุ่นยนต์หนึ่งยูนิต – และดังนั้นจึงได้รับประสิทธิภาพสูงขึ้นในปี 2015 จากผลกำไรที่เติบโตแซงหน้ายอดรายรับที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา ยอดขายรายปีของยูนิเวอร์แซล โรบอทส์เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ การผลิตแขนหุ่นยนต์ทั้งหมดอยู่ที่เมืองโอเดนส์ และจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย 200 ราย ด้วยยอดขาย 45 เปอร์เซ็นต์จากยุโรป 30 เปอร์เซ็นต์จากอเมริกา และ 25 เปอร์เซ็นต์ในเอเชียในปี 2015

ภาวะการเงินที่แข็งแกร่งของเทราไดน์ที่ได้เข้าซื้อยูนิเวอร์แซล โรบอทส์นั้นจะเตรียมความพร้อมในการลงทุนเพื่อรักษาความเป็นผู้นำของยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ในด้านหุ่นยนต์ที่สามารถปฏิบัติงานร่วมกับมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ทีมงานนักพัฒนาหุ่นยนต์ที่ได้เติบโตขึ้นเมื่อปี 2015 ปัจจุบันได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในแผนกพัฒนาที่เมืองโอเดนส์

“ในปีต่อ ๆ ไปข้างหน้า เราคาดว่าตลาดสำหรับหุ่นยนต์ที่สามารถปฏิบัติงานร่วมกับมนุษย์ได้นั้น จะเติบโตขยายตัวขึ้นอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ในแต่ละปี จากความสามารถในการคืนทุนที่รวดเร็ว โดยปกติแล้วภายในระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน” เอ็นริโก ครอก ไอเวอร์เซน ซีอีโอ ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ กล่าว “เราเป็นผู้นำตลาดอย่างไม่ต้องสงสัย และเพิ่มอัตราการลงทุนด้านวิศวกรรม การจำหน่าย และการดูแลลูกค้าเพื่อต่อยอดตลาดของเรา แม้ว่าผมจะมิได้เป็น แม้ว่าผมจะละจากตำแหน่งซีอีโอมาเป็นที่ปรึกษาของยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ซึ่งจะมีผลภายในปีนี้ก็ตาม ผมมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่ายูนิเวอร์แซล โรบอทส์จะพัฒนาแข็งแกร่งต่อไปภายใต้นโยบายที่ชัดเจนด้วยคำสั้น ๆ สามคำดังนี้: มุ่งมั่น เรียบง่าย และไม่ย่อท้อต่อการสร้างผลงาน”

เอ็นริโก ครอก ไอเวอร์เซน ซีอีโอ ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์
เอ็นริโก ครอก ไอเวอร์เซน ซีอีโอ ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์

 

เกี่ยวกับยูนิเวอร์แซล โรบอทส์

ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์เป็นผู้บุกเบิกด้านหุ่นยนต์ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ ( collaborative robotics ) รายแรก รวมทั้งเป็นผู้นำตลาดและผู้ผลักดันหลักของเทคโนโลยีด้านนี้เป็นรายแรก ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัทประกอบด้วย หุ่นยนต์ทำงานร่วมกับมนุษย์ UR3 UR5 และ UR10 หุ่นยนต์แขนกลเหล่านี้ตั้งชื่อรุ่นตามน้ำหนักที่รับในหน่วยกิโลกรัม ตั้งแต่ UR ตัวแรกก้าวเข้าสู่ตลาดเมื่อเดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2551 บริษัทก็ได้เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง และสามารถทำตลาดได้ในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 50 ประเทศทั่วโลกที่ให้ความสนใจในการนำหุ่นยนต์มาใช้งาน ระยะเวลาในการคืนทุนโดยเฉลี่ยสำหรับหุ่นยนต์ UR นี้เพียง 195 วันเท่านั้นถือเป็นอัตราที่เร็วที่สุดในอุตสาหกรรม บริษัทยูนิเวอร์แซล โรบอทส์มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองโอเดนส์ ประเทศเดนมาร์ก พร้อมด้วยงานพัฒนาวิจัยและผลิต บริษัทมีสาขาและสำนักงานภูมิภาคในประเทศสหรัฐอเมริกา สเปน เยอรมนี สิงคโปร์ และจีน มีพนักงานมากกว่า 200 คนทั่วโลก สนใจเยี่ยมชมเว็บไซต์ ได้ที่ www.universal-robots.com

from:https://www.techtalkthai.com/universal-robots-91-percent-business-growth/

[PR] ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ก้าวไกลระดับโลกได้ด้วยหุ่นยนต์อุตสาหกรรม เสริมคุณภาพและความยืดหยุ่นคล่องตัวในการรับงาน

บทความโดย เชอร์มีน ก็อตเฟรดเซ็น ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

เฟอร์นิเจอร์ไม้และโลหะ ชิ้นส่วนประกอบเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งเตียงนอนล้วนเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าหลากหลายที่ผู้ผลิตเพื่อส่งออกชาวไทยได้ส่วนแบ่งตลาดที่สวยงามในตลาดต่างประเทศ เฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากไทยในช่วงปีที่ผ่านมาเป็นที่รู้จักยอมรับในฝีมือด้าน “นวัตกรรม” หรือ “ความคิดสร้างสรรค์” จนมาวันนี้ นักออกแบบหน้าใหม่และช่างฝีมือที่รุ่มรวยทักษะก็ยังเป็นกลจักรสำคัญที่ทำให้สินค้าส่งออกจากไทยนั้นโดดเด่นได้รับความสนใจเหรือสินค้าจากคู่แข่งอื่น ๆ ในตลาด

universal-robot-furniture-industry

ภาพรวมการส่งออกเฟอร์นิเจอร์ของไทยมีอนาคตที่แจ่มใส คาดการณ์อัตราการเติบโตเชิงบวก[1] ด้วยเป็นภาคส่วนที่แข็งแกร่งของสินค้าส่งออกของไทยมาโดยตลอด นำโดยธุรกิจที่มีการวางแผนการขยายงานเชิงกลยุทธ์ และรองรับด้วยโรงงานผลิตที่พรั่งพร้อมด้วยเครื่องจักรอุปกรณ์ครบครัน อย่างไรก็ตาม ตลาดเฟอรนิเจอร์เองก็นับว่ามีความท้าทายเพิ่มขึ้นท่ามกลางอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราที่ผันผวนและกฎระเบียบข้อบังคับที่บีบรัดยิ่งขึ้นทุกวัน[2]

ตัวอย่างหนึ่งได้แก่ คลื่นการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จากยุโรปเพิ่มขึ้นทันทีการที่ค่าเงินสกุลดอลล่าร์อ่อนตัวลง เบียดแย่งการแข่งขันส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศอย่างเข้มข้น ค่าใช้จ่ายในการผลิตสำหรับผู้ผลิตภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น เป็นผลจากการบังคับใช้ระบบคุ้มครองไม้ของสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา ผู้ผลิตถูกบีบให้รับรองแหล่งวัตถุดิบที่ได้มาอย่างถูกกฎหมายของสินค้าส่งออก ยังผลให้มีการควบคุมที่แน่นหนาขึ้นด้านไม้ ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ผู้ผลิตภายในประเทศเหล่านี้ถูกบีบให้ปรับแผลงานกลยุทธ์การตลาดเพื่อรับมือการเติบโตในระยะยาว

หุ่นยนต์ที่เป็นได้มากกว่าหุ่นยนต์

ความก้าวหน้าขั้นหลุดพ้นของเทคโนโลยีที่เป็นที่ฮือฮากันทุกวันนี้มักจะเกี่ยวกับหุ่นยนต์และการทำออโตเมชั่นเชิงอุตสาหกรรม ด้วยการค้นพบวัสดุน้ำหนักเบา พัฒนาการของซอฟต์แวร์ที่ตั้งโปรแกรมได้ง่ายรวมทั้งฮาร์ดแวร์อื่น ๆ หุ่นยนต์อุตสาหกรรมได้วิวัฒนาการมาไกลมาก จนถึงจุดที่ทุกวันนี้เราเรียกว่า – การทำงานร่วมกันของมนุษย์และหุ่นยนต์ ( collaborative ) ซึ่งหุ่นยนต์ที่มีศักยภาพเช่นนี้ หรือ เรียกสั้น ๆ ว่า co-bots นั้นเอื้อประโยชน์ให้ผู้โอเปอเรเตอร์สามารถทำงานเคียงข้างหุ่นยนต์ได้อย่างปลอดภัยในสถานที่แคบ ๆ ซึ่งต้องมีการประเมินความเสี่ยงในการทำงาน เมื่อผนวกกับความสามารถที่จะช่วยผู้ผลิตปรับปรุงประสิทธิภาพปฏิบัติการของโรงงานด้วยกรทำชิ้นงาน เช่น บรรจุหีบห่อและจัดเรียงเพื่อความสะดวกในการขนย้าย เป็นต้น และ co-bots ก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นทุกวัน

universal-robot-furniture-industry-2

ปลดล็อคเพื่อก้าวสู่ความเป็นไปได้ทั้งมวลเชิงการผลิต

ศักยภาพการผลิต ( Scale of production ) คือจุดได้เปรียบของคู่แข่งที่ผลิตเพื่อค้าส่งปริมาณมากในต่างแดน เนื่องจากมี economies of scale จึงสามารถตั้งราคาสินค้าให้ซื้อหาได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง น่าจะเป็นประโยน์มากกว่าที่จะพุ่งเป้าการปรับปรุงไปที่การสร้างมาตรฐานคุรภาพ และความยืดหยุ่นในการผลิตด้วยการอาศัย co-bots เป็นตัวช่วย

นอกจากการออกแบบ คุณภาพของเฟอร์นิเจอร์ก็เป็นประเด็นสำคัญ รวมทั้งการประกอบและการตกแต่งขั้นสุดท้าย ทุกวันนี้ แม้แต่มือสมัครเล่นก็สามารถบอกความแตกต่างระหว่าง งั้น ๆ กับ ยอดเยี่ยม ได้เมื่อเห็นจุดบกพร่องที่พบจากการใช้งาน หรือผิวแตก รอยเม็ดข้าวเล็ก ๆ บนพื้นผิวไม้ เป็นต้น เพื่อรักษาชื่อเสียงที่ดี ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ของไทยจำเป็นต้องมีวิธีการที่สร้างความมั่นใจได้ว่าสินค้าจะมีมาตรฐานสูง คงคุณภาพสม่ำเสมอ และการผลิตที่มีคุณภาพเยี่ยม ทั้งนี้ Co-bots สามารถที่จะช่วยได้ในจุดนี้ด้วยการเคลื่อนไหวที่ตั้งโปรแกรมด้วยความแม่นยำ เคลื่อนไหวเที่ยงตรงทุกกระเบียด จึงลดความผิดพลาดในกระบวนการผลิต ลดเวลาที่สูญเสียไป และลดวัสดุทิ้งเปล่า

universal-robot-furniture-industry-3

เนื่องจากบริษัทส่วนมากจะออกแบบสินค้าของตนให้ดึงดูดใจผู้ซื้อตลาดต่างประเทศ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องผลิตให้ได้ตามรายละเอียดการสั่งซื้อ การที่หุ่นยนต์สามารถรับการตั้งค่าโปรแกรมใหม่ได้โดยง่าย และยังเคลื่อนย้ายสะดวกจะช่วยให้โรงงานผลิตรองรับสายการผลิตหลากหลายรูปแบบได้ดี สามารถนำมาติดตั้งยังที่ ๆ ต้องการเพื่อลดการกระจุกตัวของงานผลิตในจุดใดก็ตามที่เกิดขึ้น ช่วยผู้ผลิตให้ส่งงานได้ตรงเวลาโดยไม่ไปสะดุดตารางเวลาการตลาดที่วางไว้เลย

ศักยภาพในการแข่งขันในตลาดระดับโลก

การแข่งขันเชิงพานิชย์ในตลาดโลกนั้นมีความบอบบาง และย่อมจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนเพื่อสร้างความได้เปรียบเหนือผู้เล่นอื่น ๆ การนำ co-bots มาใช้งาน ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไทยก็น่าที่จะสร้างความโดดเด่นชัดเจนในตลาดที่หลากสีสัน ผ่านฝีมือการผลิตและการจัดส่งสินค้าที่ทรงคุณค่าเชิงนวัตกรรม คุณภาพสูง ได้ตรงตามกำหนดเวลา

เชอร์มีน ก็อตเฟรดเซ็น ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
เชอร์มีน ก็อตเฟรดเซ็น ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

 

 

เกี่ยวกับยูนิเวอร์แซล โรบอทส์

ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์เป็นผลแห่งความสำเร็จในการวิจัยค้นคว้าด้านหุ่นยนต์อย่างหนักหน่วงติดต่อกันหลายปี ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัทประกอบด้วย หุ่นยนต์ทำงานร่วมกับมนุษย์ UR3 UR5 และ UR10 หุ่นยนต์แขนกลเหล่านี้ตั้งชื่อรุ่นตามน้ำหนักที่รับในหน่วยกิโลกรัม

ตั้งแต่ UR ตัวแรกก้าวเข้าสู่ตลาดเมื่อเดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2551 บริษัทก็ได้เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง และสามารถทำตลาดได้ในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 50 ประเทศทั่วโลกที่ให้ความสนใจในการนำหุ่นยนต์มาใช้งาน ระยะเวลาในการคืนทุนโดยเฉลี่ยสำหรับหุ่นยนต์ UR นี้เพียง 195 วันเท่านั้นถือเป็นอัตราที่เร็วที่สุดในอุตสาหกรรม บริษัทยูนิเวอร์แซล โรบอทส์มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองโอเดนส์ ประเทศเดนมาร์ก พร้อมด้วยงานพัฒนาวิจัยและผลิต เป้าหมายการจำหน่ายทั่วโลกอยู่ที่ การเติบโตยอดรายได้เท่าตัวทุกปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 ถึง พ.ศ. 2560 สนใจเยี่ยมชมเว็บไซต์ ได้ที่ www.universal-robots.com

[1] The Nation, January 2016 http://www.nationmultimedia.com/business/Thai-exports-will-return-to-growth-this-year-30276048.html

[2] Bangkok Post, February 2015 http://m.bangkokpost.com/business/478810

from:https://www.techtalkthai.com/universal-robot-furniture-industry/

[PR] ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์เพื่อหนุนธุรกิจสู่ตำแหน่งผู้นำอุตสาหกรรมยา โดย เชอร์มีน ก็อตเฟรดเซ็น ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

อุปสงค์ของหุ่นยนต์อุตสาหกรรม

ประเทศไทยรวมไปถึงเพื่อนบ้าน เช่น สิงคโปร์และมาเลย์เซีย อัตราการเติบโตของการยอมรับการลงทุนหุ่นยนต์อุตสาหกรรมต่างเพิ่มขึ้น ดังข้อมูลของสมาพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติ ( IFR ) ปรากฎว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วในแถบเอเชียด้วยตัวเลขประเมินจำนวนหุ่นยนต์อุตสาหกรรมในสต็อกที่เพิ่มขึ้นทุกปี อย่างน้อย 4,000 ยูนิตนับแต่ปี พ.ศ. 2556 ถึง 2560[1] ผู้ผลิตต่างสนใจลงทุนกับเทคโนโลยีนี้เพราะมีข้อได้เปรียบเชิงธุรกิจหลายประการ เช่น เพิ่มศักยภาพการผลิต และลดค่าใช้จ่าย

Universal Robots

ภาคส่วนสาธารณสุขของไทยเติบโต

เมื่อปีพ.ศ. 2545 ที่ไทยเปิดตัวโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประชากรไทยได้รับการประกันสุขภาพ ปลุกเร้าการเติบโตธุรกิจเภสัชกรรม ให้กลายมาเป็นตลาดขนาดใหญ่เป็นที่สองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบัน คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องมีขนาดเป็นสองเท่าภายในปี พ.ศ. 2563 เวลานี้ อุตสาหกรรมยา และเภสัชกรรมเติบโตรับความต้องการภายในประเทศและการส่งออก

การส่งออกเภสัชกรรมมีมูลค่าประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยส่งไปยังประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เวียตนามและกัมพูชา ภายในปี พ.ศ. 2563 จะมีผู้มีอายุ 60ปี เป็น 18% ของจำนวนประชากรในประเทศ เทียบอัตราส่วนกับประชากรวัยทำงาน 6:1[2] ดังนั้น จากจำนวนประชากรสูงอายุของประเทศที่เพิ่มขึ้นคาดได้ว่าส่งผลต่อการเติบโตในภาคส่วนสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง

ภาครัฐฯ ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมศักยภาพของอุตสาหกรรมสาธารณสุข เห็นได้จากงบประมาณสนับสนุนการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาเพื่อยกระดับห่วงโซ่คุณภาพ ( value chain )[3] มุ่งหวังให้ก้าวทันความต้องการที่ขยายตัว ดังนั้น ผู้ผลิตทั้งหลายจึงมีความจำเป็นต้องเร่งเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตด้วยเช่นกัน ซึ่งถือว่าหุ่นยนต์อุตสาหกรรมเป็นกุญแจสำคัญสำหรับผู้ผลิตในการเข้าโค้งสู่เส้นชัย

พัฒนาการของหุ่นยนต์

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีหุ่นยนต์ได้ปลดลูกตุ้มน้ำหนัก รวมทั้งลดอัตราก๊าซคาร์บอนของหุ่นยนต์ แขนกลหุ่นยนต์ที่รับน้ำหนักได้ ( payload ) 3 ก.ก. มีน้ำหนักเพียง 11 ก.ก. เท่านั้น และปริมาณก๊าซคาร์บอนเพียง 5 นิ้ว เรื่องของความปลอดภัยก็เป็นอีกประเด็นที่ไม่ต้องกังวลเลย ด้วยฟีเจอร์ที่ฝังมากับในแขนกลที่สามารถรับสัมผัสแรงกระแทก ซึ่งหุ่นยนต์จะหยุดการเคลื่อนไหวเมื่อสัมผัสสิ่งสัมผัสกีดขวางเส้นทางการเคลื่อนที่ ทำให้รั้วกั้นเพื่อความปลอดภัยก็จะไม่ใช่เรื่องจำเป็นอีกต่อไป หลังจากการประเมินความเสี่ยงแล้ว

ประโยชน์ที่โดดเด่นเช่นนี้ทำให้หุ่นยนต์เหมาะอย่างยิ่งต่อการใช้งานในการผลิตทางเภสัชกรรม ภายในพื้นที่การผลิตที่มีความหนาแน่นของคนต่อตารางฟุตสูง เพราะอาศัยคนเกี่ยวข้องในการปฏิบัติงาน ดังนั้น ความท้าทายเช่นนี้สามารถจัดการได้ด้วยหุ่นยนต์ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้ ทำงานคู่ไปกับคนผู้ควบคุมเครื่องจักรกล หุ่นยนต์จึงเป็นตัวผลักดันกำลังการผลิต เพิ่มความคล่องตัวในโรงงานในส่วนต่าง ๆ เช่น การประกอบชิ้นส่วนและบรรจุภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์ การเตรียมใบสั่งจ่ายเภสัชการสำหรับร้านขายยาและโรงพยาบาล

หุ่นยนต์เพื่อการผลิตในภาคส่วนงานสาธารณสุข

ศักยภาพและคุณภาพของการผลิตจะเกิดประโยชน์เมื่อติดตั้งหุ่นยนต์ในจุดต่าง ๆ อย่างมีกลยุทธ์บนสายพานการผลิตซึ่งต้องใช้ความเที่ยงตรงแม่นยำ เช่น งานผลิตเครื่องช่วยฟัง ซึ่งขนาดของคอมโพเน้นท์ที่จำเป็นต้องใช้มีขนาดเล็กมาก ท้าทายศักยภาพการผลิตที่ต้องรับมือให้ได้ ซึ่งเป็นจุดที่หุ่นยนต์สามารถเข้ามาช่วยจัดการกับชิ้นส่วนที่มีขนาดเป็นเพียงมิลิเมตรเท่านั้นได้ด้วยความแม่นยำ ไม่ก่อความเสียหายต่อองค์ประกอบสำคัญ ๆ อื่นที่เกี่ยวข้อง วิธีนี้ไม่ลดคุณภาพและยังเร่งอัตราความเร็วในการผลิตได้อีกด้วย หุ่นยนต์ทำงานได้เร็วเพียงไม่กี่วินาทีต่อรอบเท่านั้น ขึ้นอยู่กับการบริหารสายการผลิตและคอมโพเน้นท์ที่ใช้งาน

นอกจากนี้ หุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ติดตั้งใช้ในโรงงานนั้นสามารถทำการตั้งโปรแกรมได้ง่าย คล่องตัวและยืดหยุ่นในการใช้งาน เคลื่อนย้ายสะดวก ปล่อยก๊าซคาร์บอนน้อย มีฟีเจอร์และอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายแบบบิลท์อิน ทำให้ผู้ผลิตได้เปรียบอย่างยิ่งยามต้องตัดสินใจเชิงธุรกิจ สามารถก้าวกระโดดได้รวดเร็ว รองรับวิศวกรรมการแพทย์ และหมายถึงวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ที่สั้นลง กระบวนการผลิตต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ตอบสนองทั้งคอมโพเน้นท์ใหม่ที่เกิดขึ้นในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนา และรับขนาดที่แตกต่างกันมาก ตั้งแต่ยาปริมาณเพียงเล็กน้อย จนถึงแคปซูลขนาดใหญ่ เป็นการช่วยลดเวลาในการวางสินค้าออกสู่ตลาด และกำจัดค่าใช้จ่ายที่จะต้องลงไปกับการปรับปรุงยกเครื่องสายพานการผลิต

universal-robot-pharmaceutical-industry-2

อนาคตสดใส

ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมด้านสาธารณสุขที่กำลังขยายตัว ส่งสัญญานมายังภาคส่วนเภสัชกรรมให้เร่งพัฒนาเพิ่มศักยภาพในการผลิต และความสามารถในการแข่งขัน ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น และรักษาตำแหน่งผู้นำในการส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมให้ดี อัตราการเติบโตและตำแหน่งทางเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมสาธารณสุขของประเทศในทศวรรษต่อไปน่าจะขึ้นอยู่กับว่าผู้ผลิตเลือกที่จะประยุกต์ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ในธุรกิจของตนเองหรือไม่นั่นเอง

universal-robot-pharmaceutical-industry

 

เกี่ยวกับยูนิเวอร์แซล โรบอทส์

UR Logotype

ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์เป็นผลแห่งความสำเร็จในการวิจัยค้นคว้าด้านหุ่นยนต์อย่างหนักหน่วงติดต่อกันหลายปี ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัทประกอบด้วย หุ่นยนต์ทำงานร่วมกับมนุษย์ UR3, UR5 และ UR10 หุ่นยนต์แขนกลเหล่านี้ตั้งชื่อรุ่นตามน้ำหนักที่รับในหน่วยกิโลกรัม

ตั้งแต่ UR ตัวแรกก้าวเข้าสู่ตลาดเมื่อเดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2551 บริษัทก็ได้เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง และสามารถทำตลาดได้ในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 50 ประเทศทั่วโลกที่ให้ความสนใจในการนำหุ่นยนต์มาใช้งาน ระยะเวลาในการคืนทุนโดยเฉลี่ยสำหรับหุ่นยนต์ UR นี้เพียง 195 วันเท่านั้นถือเป็นอัตราที่เร็วที่สุดในอุตสาหกรรม บริษัทยูนิเวอร์แซล โรบอทส์มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองโอเดนส์ ประเทศเดนมาร์ก พร้อมด้วยงานพัฒนาวิจัยและผลิต เป้าหมายการจำหน่ายทั่วโลกอยู่ที่ การเติบโตยอดรายได้เท่าตัวทุกปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 ถึง พ.ศ. 2560 สนใจเยี่ยมชมเว็บไซต์ ได้ที่ www.universal-robots.com

[1] International Federation of Robotics, 2014 http://www.ifr.org/industrial-robots/statistics/)

[2] Bangkok Post, April 2013 http://www.bangkokpost.com/tech/local-news/346542/thailand-robot-revolution-is-rising

[3] Pharmaphorum, April 2014 http://www.pharmaphorum.com/articles/thailand-pharmaceutical-market-update-2014

from:https://www.techtalkthai.com/universal-robot-pharmaceutical-industry/