HandyGame ค่ายผู้พัฒนาที่คอยนำเกมสนุก ๆ มาให้ผู้เล่นกันอย่างยาวนาน ล่าสุดได้เปิดตัวเกมดังจาก PC ให้ลงทะเบียนสำหรับ Wreckfest บนมือถือแล้วเป็นแนว Racing เกมแข่งรถที่มีการสร้างแบบจำลองความเสียหายให้ผู้เล่นได้สวมบทบาทบู๊ล้างผลาญไปกับตัวเกม เพราะมันมีแอคชั่นการแข่งรถที่ไร้กฎเกณฑ์ไม่ว่าจะชนกันพังยับเยินแค่ไหน ทุกคนก็สามารถปลดปล่อยกลยุทธ์ในการเล่นมาจัดการกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นได้อย่างเพลิดเพลิน สามารถดาวน์โหลดได้แล้วผ่าน Google Play, App Store, รวมไปถึงเวอร์ชัน PC
Forza หนึ่งในซีรีส์เกมแข่งรถระดับ AAA ของค่าย Microsoft ที่เปิดตัวมาแล้วหลายภาคทั้งบน Windows และ Xbox รวมถึงภาค Forza Street (เป็นเกมแบบ Freemium โหลดฟรี เล่นฟรี แต่มี IAP) ที่เปิดให้เล่นบน Windows ไปเมื่อเดือนเมษายนปี 2019 ซึ่งล่าสุดเกมนี้ก็ได้ถูกพอร์ทมาให้เล่นกันบน Android และ iOS แล้ววันนี้
ปกติแล้วเกม Forza ภาคอื่นๆ จะเป็นเกมแนวแข่งรถแบบปกติที่ต้องใชการควบคุมทั้งพวงมาลัย เหยียบคันเร่ง เบรค เบรคมือ ไนตรัส ฯลฯ แต่สำหรับ Forza Street จะเปลี่ยนเป็นเกมแนวกึ่งๆ Casual ที่เล่นง่ายกว่า เพราะการบังคับไม่มีอะไรซับซ้อน แค่กดปุ่มคันเร่งค้างเอาไว้ให้รถวิ่ง เมื่อถึงทางโค้งก็จะมีระยะบอก เป็นแถบสีแดงบนถนนให้ปล่อยคันเร่งแล้วรถจะเบรคพร้อมกับดริฟท์อัตโนมัติจนพ้นแถบสีเหลือง และเข้าแถบสีแดงอีกรอบก็ให้เหยียบคันเร่งอีกที
Forza Street เกมแนว Freemium ก็จะต้องมีการอัพเกรดรถ ซื้อรถคันใหม่ๆ เข้ามาเติมในคอลเลคชั่น เพื่อหารถแรงๆ มาใช้แข่งในระดับที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่ารถแต่ละคันจะไม่ได้มาง่ายๆ เพราะจะต้องมีการหมุนล็อตเตอรี่เสี่ยงดวงว่าจะได้รถคันไหน ด้วยการใช้ค่าเงินในเกม หรือจะใช้เงินจริงก็ได้ โดยรถก็จะแบ่งออกเป็นคลาส Modern, Classic, Supercar ฯลฯ
กราฟฟิคเกมนี้ถือว่าสวยงามตามประสาเกม 3 มิติ สมัยนี้ โดยมุมมองของเกมจะไม่ใช่มุมมองจากตัวรถเหมือนเกมแข่งรถทั่วไป แต่จะใช้มุมกล้องแบบ Cinematic ตัดไปมาเหมือนดูหนัง และจะตัดภาพกลับมาที่หน้ารถเมื่อถึงทางโค้งเพื่อให้เราเหยีบเบรค หรือคันเร่งต่อ น่าเสียดายที่ตอนนี้ Forza Street ยังไม่มีโหมดแข่งขันกับผู้เล่นคนอื่น (มีแต่โหมดเนื้อเรื่อง) แต่คาดว่าน่าจะมีอัพเดท Multiplayer ตามออกมาเร็วๆ นี้แหละ
Forza Street ถือเป็นเกมแนวแข่งรถที่เล่นได้แบบง่ายๆ ไม่ต้องซีเรียสกับการบังคับรถมากนัก แค่รอจังหวะเบรคตอนเข้าโค้ง เหยียบคันเร่งเมื่อพ้นโค้ง และคอยกดไนตรัสเมื่อเกจเต็มเท่านั้น แต่ถ้าคนที่ชอบเกมแข่งรถแบบจริงจังแล้วซีรีส์ Real Racing, Need for Speed และ Asphalt ดูจะตอบโจทย์กว่า เพราะได้บังคับรถเองตลอดเวลาที่แข่งนั่นเองครับ