เปิด Spec ของ OPPO Reno7 Series 5G ทั้งสามรุ่น สมาร์ทโฟน 5G ที่ไม่ได้มีดีแค่การถ่ายภาพ รุ่นไหนตรงใจคุณ

OPPO Reno7 Series 5G สมาร์ทโฟนสามรุ่นในสามระดับราคา เป็นชุดตัวละครเอกที่น่าสนใจที่สุดในช่วงนี้ของสมาร์ทโฟนจาก OPPO ครับ นำโดย OPPO Reno7 Z 5G ที่ให้สเปคมาครบเครื่องในราคากำลังน่าใช้หมื่นต้น ไม่แพงและมีความแรงพอตัว ตามมาด้วย OPPO Reno7 5G สมาร์ทโฟนสเปคแรง นวัตกรรมเพียบในราคาหมื่นกลาง และสุดท้าย OPPO Reno7 Pro 5G ตัวพี่ใหญ่ที่จัดจ้านในทุกด้านสมกับเป็นเครื่องระดับเรือธงครับ

โดยทั้งสามรุ่นเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G ที่ให้กล้องถ่ายภาพมาในระดับสูงมาก นับเป็นสมาร์ทโฟนสายถ่ายภาพแบบเต็มตัวในทุกรุ่นเลย และมีอะไรให้มากกว่านั้นอีกมากไม่ใช่แค่เรื่องกล้อง ไม่ว่าจะเป็นเกรดงานประกอบและเทคนิคการผลิตตัวเครื่องในระดับสูงของ OPPO ตัวเครื่องสวยงามและบางเบา งานผลิตไม่มีคำว่าธรรมดา เต็มไปด้วยความเป็นแฟนชั่นและการเอาใจใส่ ความน่าสนใจของสมาร์ทโฟน OPPO มันอยู่ตรงนี้แหละครับ สเปคภายในจัดมาดี มีเทคโนโลยีเฉพาะของตัวเองมากมาย ให้กล้องถ่ายภาพคุณภาพสูง และยังมาในมาตรฐานงานผลิตของ OPPO ที่ไม่ว่ารุ่นไหนก็ทำออกมาได้อย่างแน่นหนา แลดูสวยงาม มีความน่าใช้เพราะ “ภายในดีภายนอกหรูหรา” นิยามของสมาร์ทโฟนแบรนด์นี้เลยครับ

ผมจะพามาดูจุดเด่นในแต่ละรุ่นของ  OPPO Reno7 Series 5G กันดีกว่าครับ ว่ารุ่นไหนจะเหมาะสมถูกใจสำหรับเรากันบ้าง โดยจะเริ่มจากรุ่นน่าสนใจในราคาเบา OPPO Reno7 Z 5G กันก่อนเลยครับ ^^

OPPO Reno7 Z 5G 

เริ่มด้วย OPPO Reno7 Z 5G ผมว่านี่คือสมาร์ทโฟนที่เหมาะกับทุกคน ครบเครื่องมากในระดับราคาหมื่นต้นๆ 12,990 บาทเท่านั้นเอง มาพร้อมชิปเซ็ตแบรนด์ดี Qualcomm Snapdragon 695 5G Mobile Platform มีความแรงในขณะที่จะประหยัดพลังงานไปในตัว เป็นชิปเซ็ตที่ผลิตมาในเทคโนโลยีขนาดเพียง 6nm การใช้งานลื่นไหลครับ ไม่ว่าจะใช้ในการเล่นเกม การเรนเดอร์กราฟิก การเข้าเว็บไซต์ การใช้งานด้านความบันเทิงต่างๆ

มาพร้อมกับ ROM 128GB และ RAM 8GB ที่มีเทคโนโลยี RAM Expansion หรือระบบการขยายขนาดแรมของ OPPO สามารถเพิ่ม RAM เดิมจากขนาด 8GB ให้เพิ่มมากขึ้นได้อีก 5GB จากการหยิบหน่วยความจำ ROM มาใช้ชั่วคราว ทำให้สามารถใช้งานได้ลื่นไหลมากขึ้น เทียบเท่ากับเครื่องที่มี RAM มากถึง 13GB เลยทีเดียวครับ

แต่ OPPO เชื่อว่าฮาร์ดแวร์ที่นำมาใช้ จะช่วยรับประกันได้แค่ประสิทธิภาพการใช้งานพื้นฐานขั้นต่ำของสมาร์ทโฟนเอาไว้เท่านั้น แต่ขีดจำกัดขั้นสูงนั้นจะสามารถรีดเอามาใช้งานได้ ก็ต้องผ่านนวัตกรรมของอัลกอริธึมขั้นสูงจากผู้พัฬฒนาระบบเท่านั้นครับ ถ้าระบบจัดสรรได้ยอดเยี่ยม ประสิทธิภาพก็จะยอดเยี่ยมตามไปด้วย ไม่ใช่แค่เรื่องของฮาร์ดแวร์เท่านั้น

OPPO Reno7 Z 5G รันด้วย ColorOS 12 ซึ่งเป็นระบบใหม่ของ OPPO ซอฟท์แวร์มีความเสถียรสูง โดยมี AI System Booster เข้ามาเสริมเพิ่มประสิทธิภาพและดูแลระบบให้มีความเสถียรสูงสุดตลอดเวลาในการใช้งาน ประกอบด้วยเทคโนโลยีและอัลกอริธึมที่สำคัญ  UI First, Super Touch, System Guard และ Idle Time Optimizer ซึ่งทั้งหมดนี้ทำงานเพื่อให้แน่ใจว่าการใช้งานนั้นลื่นไหลตลอดเวลา

ยังไม่เคยเจออาการรีสตาร์ท ค้าง หรือรวนให้เห็น ใช้งานได้ลื่นไหล แม้เปิดใช้งานหลายแอปพลิเคชันพร้อมๆกัน นี้คือความยอดเยี่ยมที่เหนือกว่าแค่การใส่ฮาร์ดแวร์เข้ามาแบบทั่วๆ ไป ซึ่ง OPPO คือหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำด้านมาตรฐานซอฟท์แวร์ที่ดีครับ เครื่องไม่ร้อน ใช้งานไม่มีปัญหา การตอบสนองทำได้ดีเกินเกรดสเปคสินค้าและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

เพราะทั้งซอฟท์แวร์และคุณภาพงานประกอบแต่ละชิ้นที่มาจากความใส่ใจในการผลิต ทำให้ OPPO Reno7 Z 5G เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ได้รับการรับรองจากการทดสอบด้านความลื่นไหล TÜV SÜD (TÜV SÜD 36-month fluency certification test) ในระดับ A อีกด้วย การทดสอบที่การันตีว่า แม้จะใช้งานผ่านไปเป็นเวลา 36 เดือน สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็ยังคงมาตรฐานความลื่นไหลในการใช้งานให้กับเราได้เป็นอย่างดีครับ การันตีกันถึงอนาคตข้างหน้าอีก 3 ปีเลยทีเดียว

ระบบชาร์จไวก็ใส่ใจมากกว่าใคร ด้วยระบบ 33W SUPERVOOC ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 4,500 mAh  ได้ 100% ภายในเวลาเพียง 63 นาทีเท่านั้น หรือในระหว่างวันแค่เรามีเวลาแวะชาร์จเพียง 5 นาที ก็สามารถคุยงานต่อได้นานถึง 3 ชั่วโมง ด้วยความปลอดภัยขั้นสูง ทำให้เราใช้งานได้อย่างมั่นใจไม่ว่าจะการเสียบชาร์จทิ้งไว้ยามเราไม่อยู่ หรือมอบให้ลูกหลาน,พ่อแม่เราใช้งาน

การออกแบบตัวเครื่องของ OPPO Reno7 Z 5G ก็พิเศษมากกว่าใคร โดยเฉพาะการออกแบบด้านหลังตรงบริเวณชุดกล้อง เพราะเป็นรุ่นที่นอกจากจะให้กล้องคุณภาพสูงแล้วยังมีการออกแบบบริเวณกล้องมาเป็นพิเศษอีกด้วย โดยมีการติดตั้งไฟ Dual Orbit Lights หรือไฟวงแหวนรอบเลนส์หลัง ให้เป็นไฟแสดงสถานะการใช้งาน เช่นสว่างเมื่อมีสายเรียกเข้า สว่างขณะเปิดใช้งานการเล่นเกม หรือสว่างในขณะชาร์จแบตเตอรี่ครับ สวยงามและโดดเด่นมาก ^^

ฝาหลังใช้การผลิตแบบ OPPO Glow สวยงาม ^^ ตัดกับไฟ Dual Orbit Lights แม้แต่เครื่องสีดำก็ยังเป็นสีดำตามสไตล์ OPPO Glow มีความระยิบระยับ ผิวด้านแต่สะท้อนเล่นกับแสง ไม่เรียบง่าย และไม่เกิดคราบลายนิ้วมือในขณะใช้งานให้ต้องเช็ดกันบ่อยๆ ครับ

OPPO Reno7 Z 5G เป็นสมาร์ทโฟนสายกล้อง ที่ได้คำนิยามว่า The Portrait Expert  จากความสามารถการถ่ายภาพบุคคลด้วย AI สามกล้องหลัง โดยกล้องหลังเป็นกล้องความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล มีเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล

มีโหมดทีเด็ดสำหรับคนชอบถ่ายภาพพอร์ตเทรต คือ Bokeh Flare Portrait มันเป็นการถ่ายภาพที่จะสร้างผลลัพท์ออกมาได้สวยเกินกล้องสมาร์ทโฟน ด้วยดวงไฟโบเก้ที่เราจะได้ดวงใหญ่ๆ คล้ายการใช้กล้อง DSLR มาถ่ายนั้นเองครับ

ครบครัน คุ้มค่า ประสิทธิสูง ตัวเครื่องสวย กล้องถ่ายภาพยอดเยี่ยม และการันตีคุณภาพการใช้งานได้ยาวนานถึง 36 เดือน นี่คือ OPPO Reno7 Z 5G สมาร์ทโฟนเกรดดี มีดีรอบตัว ในราคา 12,990 บาท ที่ผมหยิบมาแนะนำกันในรุ่นแรกของซีรี่ส์ครับ

อ่านรีวิวเต็มและตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง  OPPO Reno7 Z 5G : Link

OPPO Reno7 5G

OPPO Reno7 5G สมาร์ทโฟนรองรับการเชื่อมต่อ 5G ที่ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตตัวนิยม MediaTek Dimensity 900 5G SoC มีความแรงในการใช้งานที่ดีระดับตลาดบนครับ แต่อยู่ในราคาหมื่นกลางๆ ราคา 16,990 บาท ตัวเครื่องหรูและมีนวัตกรรมเต็มเครื่องครับ

มาพร้อม RAM ขนาด 8GB และก็เทคโนโลยี RAM Expansion หรือระบบขยายแรมโดยการใช้หน่วยความจำที่ยังว่างมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้อีกสูงสุด 5GB ซึ่งไม่ต้องห่วงเรื่องหน่วยความจำเลยด้วย เพราะสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ให้ ROM มาใหญ่มากถึง 256GB ใช้งานกันได้เต็มที่ แถมยังรองรับ micro SD card เพิ่มเติมได้อีกด้วย

รันด้วยระบบ ColorOS 12 ที่มาพร้อม HyperBoost system optimizer แบบอัปเดต ดูแลด้านการใช้พลังงาน ให้ใช้พลังงานได้อย่างเหมาะสม และดูแลความร้อนของตัวเครื่องโดยทำงานควบคู่กับระบบ Multi-cooling System การระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบต่อตัวเครื่องในขณะใช้งานทั้งในระยะสั้นแบบเรียลไทม์และระยะยาว เกิดความร้อนน้อยเครื่องก็เสื่อมช้า ไม่ว่าจะเป้นการเล่นเกมหรือการสตรีมสื่อมีเดียต่างๆ มีความเสถียรสูง มีความลื่นไหลสูง ให้ประสิทธิภาพการใช้งานในระดับ High-End และนี่เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ได้รับการรับรอง TÜV SÜD 36-month fluency rating A หรือการรับรองว่าสมาร์ทโฟนเครื่องนี้จะทำงานได้อย่างราบรื่นหลังจากใช้งานไปแล้ว 36 เดือนอีกด้วย เครื่องเดียวใช้กันยาวๆ ครับ

ระบบ AI System Booster ตัวช่วยตัวเก่งในระบบของ ColorOS 12 นี่คือหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ OPPO Reno7 5G มีอายุการใช้งานที่ยาวนานครับ มันช่วยลดการลดทอนประสิทธิภาพการอ่านและเขียนในระยะยาวน้อยลงกว่า 5% โดยอัตราการเสื่อมสภาพของ Reno7 5G จะถูกควบคุมให้อยู่ที่ในระดับแค่ 2.75% จากการใช้งานทุกวันเป็นเวลา 3 ปี ลดการใช้หน่วยความจำที่ไม่จำเป็นลงไปได้ถึง 30% ลดการใช้พลังงานพื้นหลังลง 20% เป็นการช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่โดยเฉลี่ย 12%

ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ใช้งานได้ยาวนานมากในขนาดแบตเตอรี่ที่มีความจุมากพอสมควรอยู่แล้วครับ และจะสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่รวดเร็วและราบรื่นให้กับผู้ใช้ไปได้ในอีกหลายปีข้างหน้า ได้มาตรฐานของการทดสอบ TÜV SÜD 36-month fluency ในระดับ A นั้นเองครับ

ภายในใส่แบต 4,500mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จไวระดับเรือธง 65W SUPERVOOC ระบบชาร์จที่มีความไวสูงมากและมีความปลอดภัยสูงมากๆๆๆ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100% ในเวลาประมาณแค่ 30 นาที และไม่เกิดความร้อนสะสมใดๆ ขึ้นมาจนให้เราต้องเป็นกังวล มีความอุ่นใจในการใช้งานได้อย่างมากครับ

ตัวเครื่องก็สวยงามมาก บางเบา หน้าจอขนาด 6.4 นิ้ว จอชนิด AMOLED Display 90 Hz Refresh Rate รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอโดยตรง และมีกล้องถ่ายภาพในระดับสุดยอดมาให้ใช้ ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังครับ ครบเครื่อง แรง มีประสิทธิภาพ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ให้กล้องหลังมาเป็น AI 3 กล้องหลัง ความละเอียดกล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล และเลนส์ที่สองเป็นเลนส์มุมกว้าง Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สุดท้ายคือกล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล โดยจะมีนิยามไว้ในชื่อรุ่นของ OPPO Reno7 5G ว่า “The Portrait Expert” เพราะด้วยความสามารถในการถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีการใช้ AI ขั้นสูงที่พัฒนามาใหม่สำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรต ให้เราสามารถกำหนดระยะชัดลึกชัดตื้นได้เองถึง 25 ระดับ ตั้งแต่ F0.95 ไปจนถึง F16 ทำให้ OPPO Reno7 5G สามารถถ่ายภาพบุคคลได้เสมือนใช้กล้อง DSLR โดยในความสามารถนี้รองรับการใช้งานได้ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ ลองดูตัวอย่างความสามารถของกล้องจากคลิปที่เราทดสอบมาให้ดูกันในคลิปนี่นะครับ

อ่านรีวิวเต็มและตัวอย่างภาพถ่าย OPPO Reno7 5G : Link

OPPO Reno7 Pro 5G

OPPO Reno7 Pro 5G สมาร์ทโฟนตัวท็อประดับ High-End ที่ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ้ตตัวท็อปของค่ายอย่าง MediaTek Dimensity 1200-MAX 5G SoC มอบประสิทธิภาพด้านการใช้งานที่เร็วแรงที่สุดของซีรี่ส์ครับ มาพร้อมกับ RAM ที่ใหญ่มากๆ ด้วยขนาด 12GB และยังรองรับระบบขนายแรม RAM Expansion ขยายออกไปได้อีกถึง 7GB รวมเป็นแรมขนาด 19GB จากหน่วยความจำที่ยังไม่ถูกใช้งาน ซึ่งให้หน่วยความจำมาถึง 256GB เหลือกินเหลือใช้ครับชุปประมวลผลของรุ่นนี้

OPPO Reno7 Pro 5G ยังเป็นรุ่นที่มีตัวเครื่องที่สวยงามมากด้วยครับ ดีไซน์บาง Ultra Slim Body ดูเป็นแฟชั่นไม่หนาเทอะทะและพื้นผิวฝาหลังพิเศษจากการผลิต OPPO Glow ไม่เกิดคราบรอยนิ้้วมือในขณะใช้งาน ทนทาน และช่วยลดการเกิดรอยขีดข่วน

มีความเป็นเหลี่ยมมุมดูโฉบเฉี่ยวมาก และบริเวณกล้องหลังจะมีการติดตั้งไฟ Orbit Breathing Light เป็นลูกเล่นแสงไฟที่เราสามารถกำหนดให้ไฟสว่างขึ้นได้ ทั้งในขณะเล่นเกมหรือใช้เป็นไฟสถานะ แจ้งสายเรียกเข้าและในขณะชาร์จแบตครับ ใครที่ชอบแสงสีและการออกแบบที่โฉบเฉี่ยว จะถูกใจตัวจริงรุ่นนี้แน่นอน โดยเฉพาะในสี Startails Blue ลายเส้นสะท้อนแสงเงาเหมือนฝนดาวตกพาดผ่านฝาหลังไม่เหมือนใคร รุ่นนี่ตัวเครื่องสวยงามมากจริงๆ ครับ

หน้าจอขนาดใหญ่ ชนิดจอ AMOLED Display 90 Hz Refresh Rate ขนาด 6.5 นิ้ว ขอบจอแทบไม่มี จอชิดขอบใช้งานเต็มตาเต็มมือมากๆ บวกกับการออกแบบตัวเครื่องที่เป็นขอบตัดเหลี่ยมยิ่งดูกระทัดรัด แม้หน้าจอจะใหญ่แต่จะดูเหมือนด้านหน้าเครื่องมีเพียงแค่หน้าจอเท่านั้นเลยครับ

รันด้วยระบบ Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 12 ใหม่ล่าสุด มีระบบช่วยเสริมทั้ง HyperBoost system optimizer และ AI System Booster และระบบระบายความร้อน Multi-Cooling System ที่ช่วยดูแลรักษาอุณหภูมิเครื่องทั้งด้านฮาร์ดแวร์นและ AI ของระบบ ไม่ต้องกลัวจะเครื่องจะเสื่อมก่อนเวลาอันควรเลยครับ

มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน 4,500 mAh ใช้เทคโนโลยีชาร์จไว 65W SUPERVOOC ชาร์จแบตได้เต็ม 100% ในเวลาแค่ 30 นาที ระบบชาร์จตัวเก่งที่ให้ทั้งความไวและความปลอดภัย OPPO Reno7 Pro 5G จึงเป็นสมาร์ทโฟนที่ตัวเดียวจบ ทั้งในเรื่องความแรง กล้องถ่ายภาพ ความสวยงามตัวเครื่อง และความปลอดภัยในการใช้งาน ครบเครื่องที่สุดในซีรี่ส์ ราคาก็จะอยู่ที่ 22,990 บาท ครับ

 

ข้อมูลราคาและสถานที่จัดจำหน่าย

OPPO Reno7 Series 5G เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในไทยทั้งสามรุ่น สามารถเป็นเจ้าของและลองสัมผัสตัวจริงได้แล้วที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศครับ

• OPPO Reno7 Z 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีรุ้ง Rainbow Spectrum และสีดำ Cosmic Black ราคา 12,990 บาท
• OPPO Reno7 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Startrails Blue และสีดำ Starry Black ราคา 16,990 บาท
• OPPO Reno7 Pro 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Startrails Blue และสีดำ Starlight Black ราคา 22,990 บาท

 

ข่าว: เปิด Spec ของ OPPO Reno7 Series 5G ทั้งสามรุ่น สมาร์ทโฟน 5G ที่ไม่ได้มีดีแค่การถ่ายภาพ รุ่นไหนตรงใจคุณ มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/oppo-reno7-series-5g-info-spec/

สรุปความต่าง 3 รุ่นของ OPPO Reno7 Series 5G รุ่นไหนเหมาะกับคุณ?

รวบตึงม้วนเดียวจบ! สรุปความต่าง 3 รุ่นของ OPPO Reno7 Series 5G สมาร์ทโฟนสายพอร์ตเทรตตัวจริง รุ่นไหนเหมาะกับคุณ? กับเทรนด์ที่ต้องพูดถึงในปี 2022 นี้คือเทรนด์ “ถ่ายภาพและวิดีโอพอร์ตเทรต” สายโซเชียลที่เสพติดการไถ Instagram และ TikTok จะต้องหยุดไถและรัวไลก์ให้กับภาพและวิดีโอพอร์ตเทรตที่สวยงามและโดดเด่น ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ออปโป้ในฐานะผู้นำตลาดสมาร์ทโฟน ไม่รอช้า ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนตระกูล OPPO Reno7 Series 5G ถึง 3 รุ่น ได้แก่ OPPO Reno7 5G และ OPPO Reno7 Pro 5G ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตามมาด้วย OPPO Reno7 Z 5G ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนมีนาคม โดยทั้ง 3 รุ่นพัฒนาภายใต้แนวคิด “The Portrait Expert” สมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพและวิดีโอพอร์ตเทรตได้ดีที่สุด สวยที่สุด ให้เป็นตัวเองได้ไม่จำกัด ด้วยพอร์ตเทรต ก็ได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาดทั้งยอดจองและยอดขาย หลายคนอาจจะยังคิดไม่ตกว่าจะซื้อรุ่นไหนดี บทความนี้มัดรวมมาให้ พร้อมสรุปความต่างของสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพและวิดีโอพอร์ตเทรตทั้ง 3 รุ่น ของ OPPO Reno7 Series 5G ว่ารุ่นไหนเหมาะกับคุณที่สุด?

สมาร์ทโฟนขวัญใจชาวโซเชียล เน้นโพสต์ภาพนิ่งพอร์ตเทรต ดีไซน์สีรุ้งสดใส ในราคาน่ารัก 

OPPO Reno7 Z 5G ราคา 12,990 บาท 

อยากได้ภาพพอร์ตเทรตหน้าชัด-หลังละลายแบบปังๆ ไม่ต้องถามหากล้อง DSLR อีกต่อไป เพราะ OPPO Reno7 Z 5G ที่เพิ่งเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ ตอบโจทย์ชาวโซเชียลที่มีงบน่ารัก แต่ได้สมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้สวยที่สุดพร้อมแจ้งเกิดบนโลกโซเชียล เครื่องเดียวจบมีฟีเจอร์เด็ด Bokeh Flare Portrait ที่เบลอพื้นหลังเป็นดวงไฟโบเก้สวยฟุ้งละมุนแบบอัตโนมัติ หน้าเด้งสวยธรรมชาติด้วยฟีเจอร์ Portrait Retouching พร้อมให้ถ่ายพอร์ตเทรตด้วยกล้องหน้าได้สว่างคมชัดด้วยฟีเจอร์ Selfie HDR จับถือแล้วโลกสดใสในดีไซน์สุดปัง Ultra-Slim Retro Design ขอบเหลี่ยมแบบใหม่ บางเบา มาด้วยเทคนิค OPPO Glow มอบฝาหลังในผิวสัมผัสแบบด้านสีรุ้ง Rainbow Spectrum อันระยิบระยับมีชีวิตชีวา แต่ถ้าอยากปรับมู้ดให้ดูคลาสสิคก็มีฝาหลังสีดำ Cosmic Black ให้เลือก ล้ำไปกว่านั้นกับเทคโนโลยีล่าสุด Dual Orbit Lights แบบใหม่ที่ดีไซน์ไว้บนกล้องหลักที่จะกะพริบหรือส่องแสงเป็นสีต่างๆ ตามสถานการณ์ เช่น ตอนเปิดเครื่อง ขณะชาร์จ รับสายเรียกเข้า เปิดเกม หรือแจ้งเตือนข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน เป็นต้น 

วิดีโอครีเอเตอร์อันดับหนึ่งแห่ง TikTok ถ่ายวิดีโอพอร์ตเทรตสวยที่สุด ในดีไซน์ฝนดาวตก 

OPPO Reno7 5G ราคา 16,990 บาท 

ไม่ขอตาม แต่ขอนำ! เทรนด์ภาพและวิดีโอพอร์ตเทรตหน้าชัด-หลังเบลอแบบเรียลไทม์โพสต์ทีโซเชียลต้องแตก แนะนำ OPPO Reno7 5G อัปเกรดภาพและวิดีโอพอร์ตเทรตไปอีกขั้นด้วยฟีเจอร์ Bokeh Flare Portrait Video มอบเอฟเฟ็กต์ระยะชัดลึกในการถ่ายวิดีโอได้อย่างละมุนเสมือนกล้อง DSLR ที่มีรูรับแสงขนาดใหญ่ และ Portrait Mode ใหม่ที่ทำงานร่วมกับอัลกอริธึม AI แบบอัปเดตช่วยมอบดวงไฟโบเก้สวยงามและเสถียรมากขึ้น ช่วยคงพื้นผิวและโทนสีผิวทำให้ตัวบุคคลโดดเด่น พร้อมทั้งปฏิวัติดีไซน์ตัวเครื่องด้วยเทคโนโลยี OPPO Glow โดยตัวเครื่องสีฟ้า Startrails Blue ได้ใช้เทคโนโลยี Laser Direct Imaging (LDI) เป็นครั้งแรกในการแกะสลักฝาหลังตัวเครื่องเลียนแบบเส้นแสงของฝนดาวตก มอบเอฟเฟ็กต์ระยิบระยับเปล่งประกายด้วยสีสันไม่หยุดนิ่ง ในขณะที่ตัวเครื่องสีดำ Starry Black ให้สีเกรเดียนท์ไล่ระดับสีดำ-น้ำเงิน มาพร้อมกับดีไซน์ Ultra Slim Body บางเบา สุดพรีเมี่ยม 

ใช้ชีวิตอย่างโปร จัดเต็มกล้องและประสิทธิภาพระดับแฟล็กชิพ ดีไซน์ขอบเหลี่ยม เรียบหรูเกินต้าน

OPPO Reno7 Pro 5G ราคา 22,990 บาท 

สำหรับผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างโปร ทั้งกล้องถ่ายภาพและวิดีโอพอร์ตเทรต เล่นเกม ดูหนัง ทุกวันต้องไปให้สุด ต้องจัด OPPO Reno7 Pro 5G ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ภาพระดับแฟล็กชิพถึง 2 ตัวทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ได้แก่ Sony IMX709 และ Sony IMX766 เพื่อมอบประสบการณ์การถ่ายภาพและวิดีโอพอร์ตเทรตที่สมบูรณ์แบบ พ่วงด้วยฟีเจอร์ Bokeh Flare Portrait Video และ Portrait Mode ให้ทุกการถ่ายภาพและวิดีโอพอร์ตเทรตสวยงามเสมือนถ่ายด้วยกล้องระดับมืออาชีพ ด้านดีไซน์ก็ไปสุดด้วยเทคโนโลยี OPPO Glow และ Laser Direct Imaging (LDI) แกะสลักฝาหลังจากแรงบันดาลใจของฝนดาวตกในตัวเครื่องสีฟ้า Startrails Blue ส่วนสีดำ Starlight Black ที่ตระการตาไปด้วยคริสตัลนับล้านสะท้อนตัวตนคลาสสิคและพรีเมี่ยมของผู้ใช้ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Orbit Breathing Light แสงรูปแบบวงกลม 3 มิติล้อมรอบบริเวณกล้องหลังที่จะเปล่งแสงเมื่อมีสายเรียกเข้า แจ้งเตือน หรือในระหว่างการชาร์จให้ความสวยงามไม่เหมือนใคร จับถือเพื่อใช้งานได้อย่างเบามือด้วยดีไซน์ Ultra Slim Body ขอบเหลี่ยม 

ใครชอบรุ่นไหน จะเน้นสายถ่ายภาพหรือวิดีโอพอร์ตเทรต หรือชอบดีไซน์ฝาหลังสายรุ้งหรือฝนดาวตกก็เลือกได้ตามความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ตัวเองได้เลย แต่ถึงแม้จะมีสเปคต่างกัน แต่ OPPO Reno7 Series 5G ทั้ง 3 รุ่นนี้ก็มีใจเดียวกันคือ “The Portrait Expert” สมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพและวิดีโอพอร์ตเทรตได้ดีที่สุด สวยที่สุด ให้เป็นตัวเองได้ไม่จำกัด ด้วยพอร์ตเทรต เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

สามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3oMVNSp 

ข่าว: สรุปความต่าง 3 รุ่นของ OPPO Reno7 Series 5G รุ่นไหนเหมาะกับคุณ? มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/summary-of-differences-3-models-of-oppo-reno7-series-5g-which-model-is-right-for-you/

เจาะลึกเทคโนโลยีกล้อง OPPO Reno7 Series 5G การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ จนมาเป็น The Portrait Expert

OPPO Reno7 Z 5G, OPPO Reno7 5G และ OPPO Reno7 Pro 5G มีจุดเด่นร่วมกันคือ ความเป็น The Portrait Expert หรือผู้เชี่ยวชาญการถ่ายพอร์เทรต ซึ่งเกิดได้จากการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างฮาร์ดแวร์กล้องและอัลกอริทึมที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องของ OPPO จนทำให้ภาพออกมาสวยเนียน เรนเดอร์โบเก้ได้เป็นธรรมชาติ ราวกับถ่ายด้วยกล้อง DSLR พร้อมฟีเจอร์เจ๋ง ๆ หลายอย่าง เช่น Bokeh Flare Portrait, Portrait Mode และ AI Color Portrait ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับใครที่เน้นการถ่ายพอร์เทรตและเซลฟี่เป็นหลัก

ขนาดและน้ำหนัก เป็นข้อจำกัดที่ทำให้พัฒนากล้องสมาร์ทโฟนได้ยาก

เซนเซอร์ภาพ ใหญ่กว่าย่อมดีกว่า แต่ในสมาร์ทโฟนมีพื้นที่จำกัด

แสง ถือเป็นปัจจัยหลักให้ภาพถ่ายออกมาดูดี โดยจะเห็นได้ว่า บรรดาผู้ผลิตสมาร์ทโฟนต่างพยายามหาวิธีในการเพิ่มการรับแสงให้กับระบบกล้อง ซึ่งหลัก ๆ แล้วทำได้ 2 วิธี ได้แก่

• เพิ่มรูรับแสงของเลนส์ ยิ่งรูรับแสงกว้างเท่าไหร่ แสงยิ่งส่งผ่านไปยังเซนเซอร์ภาพได้มากเท่านั้น
• ใช้เซนเซอร์ภาพขนาดใหญ่ ขนาดพิกเซลย่อยจะใหญ่ตาม ส่งผลต่อการรับแสงโดยตรงเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 วิธีดังกล่าวมีข้อจำกัดเมื่อมาอยู่บนสมาร์ทโฟน โดยอาจถือเป็นหนึ่งในอุปสรรคใหญ่ที่สุดในการพัฒนา นั่นก็คือ “พื้นที่ที่จำกัด” และ “น้ำหนัก” เมื่อใช้เซนเซอร์ภาพใหญ่ เลนส์ก็ต้องใหญ่ตาม ซึ่งคงไม่ดีแน่ ๆ กับอุปกรณ์ประเภทสมาร์ทโฟนที่ควรจะพกพาสะดวกและมีความคล่องตัวในการใช้งาน

เซนเซอร์ RGBW รับแสงดีขึ้นในขนาดเท่าเดิม

ทำลายข้อจำกัดด้วยเซนเซอร์ภาพ RGBW

OPPO ได้มองหาหนทางใหม่ ๆ ในการเพิ่มการรับแสง โดยเปลี่ยนจากเซนเซอร์ RGGB ตามที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย มาเป็น RGBW โดยแทนที่พิกเซลย่อยเขียว (R: Red) ด้วยสีขาว (W: White) ใน OPPO R7 Plus ที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2558 ส่งผลให้มีนอยส์น้อยลงและไวแสงขึ้นอย่างมาก แต่ยังมีปัญหาอยู่บ้าง เกี่ยวกับความคลาดเคลื่อนของแสง ทำให้สีเพี้ยนในบางสถานการณ์

อัลกอริทึมในเซนเซอร์ภาพ ครั้งแรกในอุตสาหกรรม

ฮาร์ดแวร์แจ๋วอย่างเดียวไม่พอ ซอฟต์แวร์ต้องแจ่มด้วย

สิ่งที่ OPPO ทำต่อไปก็คือ สร้างอัลกอริทึมเฉพาะทางขึ้นมา ชื่อว่า Quadra Binning Algorithm ถือเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนที่มีการนำมาใช้งานร่วมกับเซนเซอร์ภาพ จากนั้นได้พัฒนาต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ จนถึง IMX709 ที่เป็นเซนเซอร์กล้องเซลฟี่ของ OPPO Reno7 Pro 5G ในปัจจุบัน ซึ่งไวแสงกว่า IMX615 อยู่ 60% และนอยส์น้อยลง 35%

นอกจากนี้ ในเบื้องหลัง OPPO ยังได้ร่วมมือกับ Qualcomm และ MediaTek เพื่อให้มั่นใจได้ว่า IMX709 จะเข้ากันได้กับชิปเซตและทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

DOL-HDR อีกระดับของ HDR ถ่ายย้อนแสงไม่ต้องกลัวภาพมืด

DOL-HDR สามารถใช้งานได้แบบเรียลไทม์

ประเด็นน่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้องเซลฟี่ของ OPPO Reno7 Pro 5G คือ มันรองรับฟีเจอร์ Digital Overlap HDR หรือเรียกย่อ ๆ ว่า DOL-HDR เป็นการถ่ายภาพด้วยการเปิดชัตเตอร์รับแสง สั้น กลาง และยาว พร้อมกันในคราวเดียว จากนั้นค่อยนำมาประมวลผลรวมเป็น 1 รูป ทำให้ได้เฉดสีที่กว้าง เก็บรายละเอียดได้ดีทั้งในส่วนมืดและส่วนสว่าง แตกต่างจาก HDR ทั่วไปที่ใช้หลักการถ่ายภาพรัว ๆ แล้วค่อยนำมาซ้อนกัน ซึ่งอาจเกิดปัญหาการเหลื่อมกันจนภาพออกมาดูเพี้ยน ๆ ได้

เซนเซอร์ระดับเรือธง ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

ทางด้านกล้องหลัง OPPO Reno7 Pro 5G ใช้เซนเซอร์ IMX766 ความละเอียด 50MP บนขนาด 1/1.56 นิ้ว มีพิกเซล 1μm และสามารถขยายเป็น 2μm ได้ด้วยอัลกอริทึม Quadra Binning Algorithm

OPPO Reno7 Pro 5G จัดเต็ม เซนเซอร์ภาพระดับไฮเอนด์

ยิ่งไปกว่านั้น ทุกพิกเซลย่อยของ IMX766 สามารถทำหน้าที่เป็นตัวจับโฟกัสได้ จึงสามารถโฟกัสได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ รวมถึงรองรับคุณสมบัติ DOL-HDR เช่นเดียวกับในกล้องหน้า

ถ่ายพอร์เทรตสวย เหมือนกล้อง DSLR พร้อมฟีเจอร์ให้เลือกมากมาย

กล่าวถึงในส่วนของฮาร์ดแวร์และระบบกล้องไปเยอะพอสมควรแล้ว ทีนี้ข้ามฟากมาดูฝั่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจกันบ้าง

OPPO Reno7 Z 5G มีฟีเจอร์พอร์เทรตให้ใช้งานเพียบ

อย่างที่ทราบกันดีว่า OPPO Reno7 Series 5G ได้ชื่อเป็น The Portrait Expert ฟีเจอร์ที่โดดเด่นส่วนมากจึงเกี่ยวกับการถ่ายพอร์เทรตอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่ง OPPO ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจหลายอย่าง

Bokeh Flare Portrait : มีให้ใช้งานใน OPPO Reno 7 5G และ OPPO Reno7 Z 5G เป็นการทำงานร่วมกันของ 3 สิ่ง เพื่อสร้างโบเก้ให้ออกมาสมจริงที่สุด ประกอบด้วย ระบบกล้อง อัลกอริทึม และปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งมีการคำนวณเกิดขึ้นในเบื้องหลังนับพันครั้ง ก่อนที่จะเรนเดอร์ออกมาเป็นภาพ 1 ใบ โหมดนี้ใช้งานได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอแบบเรียลไทม์

Portrait Mode : สร้างระยะชัดตื้นให้กับภาพของ OPPO Reno7 Pro 5G และ OPPO Reno7 5G ละลายฉากหลังเป็นโบเก้สวยงาม เพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวแบบ ปรับได้ 25 ระดับ ไล่ตั้งแต่ f/0.95 ไปจนถึง f/16 เหมือนกับปรับรูรับแสงบนเลนส์กล้อง DSLR ครอบคลุมการใช้งานทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

จะเห็นได้ว่า โหมด HDR ดึงรายละเอียดขึ้นมาได้ทั้งส่วนมืดและส่วนสว่าง

Selfie HDR : แม้ว่า OPPO Reno 7 5G และ OPPO Reno7 Z 5G จะใช้เซนเซอร์กล้องหน้าคนละตัวกับ OPPO Reno7 Pro 5G แต่ก็ถ่าย HDR ได้เหมือนกัน ทาง OPPO เคลมว่า ฟีเจอร์นี้จะปรับภาพให้สว่างมากขึ้นโดยไม่กระทบกันโทนสีผิวแม้แต่น้อย

ดูดสีฉากหลังออก สร้างความโดดเด่นให้กับตัวแบบ

AI Color Portrait : เป็นการดูดสีของฉากหลังออก เพื่อให้ตัวแบบดูสะดุดตาขึ้นมา ฟีเจอร์นี้แฟน ๆ OPPO คงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เพราะมีให้ใช้งานมาตั้งแต่สมัย OPPO Reno4 เลย

ปรับแต่งสีผิวและโครงหน้าได้ละเอียด แยกกันอย่างอิสระ

Portrait Retouching : การรีทัชภาพพอร์เทรตในสมัยก่อนค่อนข้างซับซ้อนวุ่นวายพอสมควร ต้องใช้โปรแกรมเฉพาะทางบนพีซีและอาศัยทักษะในการแต่งรูป แต่ด้วย Portrait Retouching สิ่งเหล่านั้นจะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป โดยปัญญาประดิษฐ์ของ OPPO สามารถรับรู้และเข้าใจจุดต่าง ๆ บนใบหน้าของคนได้ 193 จุด แยกแยะได้แม้กระทั่งอายุและเชื้อชาติ ปรับแต่งได้สวยถูกใจทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังแน่นอน

OPPO Reno7 5G วางขายแล้ว พร้อมกับ OPPO Reno7 Z 5G และ OPPO Reno7 Pro 5g

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจ OPPO Reno7 Series 5G ตอนนี้ก็มีวางจำหน่ายครบแล้วทั้ง 3 รุ่น โดยมีราคาดังนี้

• OPPO Reno7 Z 5G : ราคา 12,990 บาท
  • จองสินค้าได้แล้ววันนี้ถึงวันที่ 3 – 16 มีนาคม 2565 ของมูลค่ารวม 7,499 บาท โดยผู้จองจะได้รับ E-VIP CARD ประกันจอแตกและประกันตัวเครื่อง OPPO SPORTS BAG
• OPPO Reno7 5G : ราคา 16,990 บาท
• OPPO Reno7 Pro 5G : ราคา 22,990 บาท

from:https://droidsans.com/oppo-reno7-series-5g-hardware-algorithm-combination/

OPPO จับมือ Shopee จัดโปรพิเศษ 10 มีนาคมนี้ ซื้อ Reno7 Pro 5G ใช้โค้ดรับ Coin สูงสุด 3,300 บาท

มือถือ OPPO Reno7 5G Series พึ่งจะเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยมือถือซีรีส์นี้มีจุดเด่นอยู่ที่กล้องหลังระดับท็อปถ่ายภาพออกมาได้งาม ๆ ในระดับโปรเลยทีเดียว…หากว่าใครที่กำลังเล็ง ๆ อยากเป็นเจ้าของมือถือรุ่นท็อป Reno7 Pro 5G อยู่ล่ะก็ ทาง OPPO เค้าได้ไปจับมือกับ Shopee เพื่อจัดโปรพิเศษในวันที่ 10 มีนาคมนี้ สามารถกดรับโค้ดเพื่อใช้แลก Coin คืนได้ถึง 3,300 บาท กันไปเลยจ้า

สำหรับโปรโมชั่นดังกล่าวเป็นแคมเปญ Super Brand Day ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 10 มีนาคม 2565 ผ่านแพลตฟอร์ม Shopee ซึ่งได้จับมือกับ OPPO จัดโปรพิเศษสำหรับคนชอบของคุ้ม ๆ ด้วยโค้ด OPPOREP10 เพื่อรับ Coin คืนถึง 3,300 บาท เมื่อซื้อมือถือ OPPO Reno7 Pro 5G ในวันดังกล่าว (ราคาปกติ 22,990 บาท)

 

ไม่หมดแค่รับ Coin คืนเท่านั้นนะ แต่หากซื้อ Reno7 Pro 5G แล้ว ยังจะได้รับของแถมไปแบบจุก ๆ รวมมูลค่ากว่า 5,398 บาท ไปด้วยเลยฟรี ๆ

 

นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป ทาง OPPO ยังแจกโค้ดสำหรับใช้รับทั้งส่วนลด หรือรับเงินคืนเป็น Coin เมื่อซื้อมือถือรุ่นอื่น ๆ, อุปกรณ์ IoT หรืออุปกรณ์เสริมต่าง ๆ แถมยังมีโค้ดลดเพิ่มอีก 1,200 บาท ให้เก็บได้ในวันที่ 10 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 00.00 – 21.00 น. ด้วย

 

 

สเปค OPPO Reno7 5G | Reno7 Pro 5G

	OPPO Reno7 5G	OPPO Reno7 Pro 5G
หน้าจอ	AMOLED 6.4″ FHD+ 90Hz	AMOLED 6.5″ FHD+ 90Hz
CPU	Dimensity 900	Dimensity 1200-MAX
RAM	8GB (LPDDR4X)	12GB (LPDDR4X)
ความจุ	256GB (UFS 2.2) รองรับ microSD Card	256GB (UFS 3.1)
กล้องหลัง	กล้องหลัก 64MP + กล้อง Ultrawide 8MP +  กล้อง Macro 2MP	4 ตัว เซ็นเซอร์หลัก 50MP + กล้อง Ultrawide 8MP + กล้อง Macro 2MP + Color Temperature Sensor
กล้องหน้า	32MP
เซ็นเซอร์	Fingerprint (ใต้จอ), accelerometer, gyro, proximity, compass
การเชื่อมต่อ	Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, BT 5.2, NFC
แบตเตอรี่	4500 mAh
ระบบชาร์จไว	65W SuperVOOC
ระบบปฏิบัติการ	Android 11 ครอบด้วย ColorOS 12
ขนาด / น้ำหนัก	160.6 x 73.2 x 7.8 มม. / 173 กรัม	158.2 x 73.2 x 7.5 มม. / 180 กรัม

 

ยัง…ยังไม่หมด (อีกรอบ) เพราะภายในวันที่ 10 มีนาคม ผู้ที่ซื้อมือถือ Reno7 5G หรือ Reno7 Pro 5G ที่อยู่ใน 40 ออร์เดอร์ แรก จะได้รับ OPPO Band มูลค่า 1,199 บาท ไปอีกต่างหาก

OPPO Band สายรัดข้อมืออัจฉริยะจอ AMOLED พร้อมฟีเจอร์วัด SpO2 และโหมดออกกำลังเพียบ เคาะราคาไทย 1,199 บาท

ใครสนใจโปรโมชั่นเด็ด ๆ แบบนี้ก็เข้าไปเก็บโค้ดพร้อมติดตามข้อมูลใน OPPO Official Store บน Shopee Mall กันต่อได้เลย แล้วเตรียมกดสินค้าใส่ตะกร้ารอสอยพร้อมโปรในวันที่ 10 มีนาคม 2565 นี้เลยจ้า

from:https://droidsans.com/shopee-super-brand-day-sale-reno7-pro-5g/

OPPO Reno7 Series 5G ยอดจองพุ่ง และพร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคาเริ่มต้น 16,990 บาท

OPPO Reno7 Series 5G ที่มาภายใต้คอนเซปต์ “The Portrait Expert” สมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายภาพและวิดีโอพอร์ตเทรตได้ดีที่สุด  หลังจากที่ได้เปิดจองกันไปแล้วอย่างเป็นทางการกับกระแสดีเกินคาด! สำหรับ OPPO Reno7 Pro 5G กวาดยอดจองทะลุถึง 164% ตั้งแต่วันแรกที่เปิดจอง เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า สะท้อนความแรงแบบสุดๆ ในฐานะสมาร์ทโฟนที่เกิดมาเพื่อคนที่หลงใหลการถ่ายวิดีโอพอร์ตเทรตและถ่ายภาพพอร์ตเทรตตัวจริง ห้ามพลาด! พร้อมให้เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ในราคาเริ่มต้น 16,990 บาท ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

OPPO Reno7 Series 5G ตอกย้ำความเป็น “The Portrait Expert” ตัวจริง ด้วยการมาพร้อมฟีเจอร์ถ่ายวิดีโอและภาพพอร์ตเทรตที่ได้รับการอัปเกรดไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็น Bokeh Flare Portrait Video มอบเอฟเฟ็กต์โบเก้สวย มีระยะชัดลึกในการถ่ายวิดีโอ เสมือนถ่ายด้วยกล้อง DSLR ที่มีรูรับแสงขนาดใหญ่ และ Portrait Mode ใหม่ที่สามารถปรับรูรับแสงได้ถึง 25 ระดับ ทำงานร่วมกับอัลกอริธึม AI แบบอัปเดต มอบดวงไฟโบเก้ที่มีความสวยงามและเสถียรมากกว่าเดิม สร้างสรรค์วิดีโอพอร์ตเทรตที่สวยงามได้ในระดับมืออาชีพ มอบวิดีโอและภาพพอร์ตเทรตที่ปลดปล่อยตัวตนของผู้ที่ถูกถ่ายไว้ได้อย่างโดดเด่น

OPPO Reno7 5G มาพร้อม AI 3 กล้องหลัง ความละเอียด 64MP+8MP+2MP และกล้องหน้าความละเอียด 32MP ส่วน OPPO Reno7 Pro 5G มาพร้อมเซ็นเซอร์ภาพระดับแฟล็กชิพถึง 2 ตัวทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ได้แก่ Sony IMX709 และ Sony IMX766 โดยกล้องหลังมีความละเอียด 50MP+8MP+2MP และกล้องหน้าความละเอียด 32MP

โดยมาพร้อมดีไซน์โดดเด่น บางเฉียบ และสวยสะดุดตาด้วยเทคนิค OPPO Glow และได้รับการต่อยอดความงดงามไปอีกขั้น ด้วยตัวเครื่อง สีฟ้า Startrails Blue ที่มีการใช้เทคโนโลยี Laser Direct Imaging (LDI) บนดีไซน์ภายนอกของสมาร์ทโฟน มอบเอฟเฟ็กต์ฝนดาวตกนับล้านดวงเปล่งประกายบนฝาหลัง ในขณะที่ตัวเครื่อง สีดำ Starry Black ใน OPPO Reno7 5G ให้สีเกรเดียนท์ไล่ระดับสีดำ-น้ำเงินโดดเด่นไม่เหมือนใคร ผสานไปกับความระยิบระยับเปล่งประกาย หรือ สีดำ Starlight Black ใน OPPO Reno7 Pro 5G ดีไซน์ตัวเครื่องแบบขอบเหลี่ยม ที่ให้ความรู้สึกคลาสสิคและพรีเมี่ยม นอกจากนี้ยังเสริมด้วยเทคโนโลยี Orbit Breathing Light บน OPPO Reno7 Pro 5G มอบแสงรูปแบบวงกลม 3 มิติล้อมรอบบริเวณกล้องหลัง ที่จะเปล่งแสงอย่างนุ่มนวลเมื่อมีสายเรียกเข้า แจ้งเตือน หรือในระหว่างการชาร์จ

นอกจากนี้ OPPO Reno7 5G ยังอัดแน่นไปด้วยความเร็วแรง ลื่นไหล ไม่มีสะดุด มอบการเชื่อมต่อที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วยขุมพลัง MediaTek Dimensity 900 5G SoC มาพร้อม RAM 8GB และ ROM 256GB และ RAM Expansion เพิ่ม RAM ได้สูงสุด 5GB ในขณะที่ OPPO Reno7 Pro 5G มาพร้อมขุมพลังระดับแฟล็กชิพรุ่นล่าสุด MediaTek Dimensity 1200-MAX พร้อม 5G SoC มอบประสบการณ์ 5G ที่ล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบัน พร้อมทั้ง RAM 12GB และ ROM 256GB และ RAM Expansion เพิ่ม RAM ได้สูงสุดถึง 7GB  และทั้งสองรุ่นยังใช้งานได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4,500mAh พร้อม 65W SUPERVOOCTM ชาร์จเพียง 31 นาที สามารถชาร์จได้เต็ม 100%

เป็นเจ้าของ OPPO Reno7 Series 5G ได้แล้ววันนี้ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ OPPO Reno7 5G ในราคา 16,990 บาท และ OPPO Reno7 Pro 5G ในราคา 22,990 บาท พร้อมรับฟรีของสมนาคุณ มูลค่ารวมสูงสุด 4,698 บาท เมื่อซื้อ OPPO Reno7 Pro 5G รับฟรี OPPO Sports bag มูลค่า 2,499 บาท และ OPPO Bluetooth Speaker มูลค่า 2,199 บาท และเมื่อซื้อ OPPO Reno7 5G รับฟรี OPPO Sports Bag มูลค่า 2,499 บาท สามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ณ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายมากขึ้นเมื่อซื้อ OPPO Reno7 5G และ Reno7 Pro 5G ผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย ในราคาเริ่มต้นเพียง 7,490 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 2 มีนาคม 2565 โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

ดูข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่  https://bit.ly/3uFOzDB

ข่าว: OPPO Reno7 Series 5G ยอดจองพุ่ง และพร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคาเริ่มต้น 16,990 บาท มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/oppo-reno7-series-pro-5g-sale-now-in-thai/

OPPO Reno 7 5G และ Reno 7 Pro 5G เคาะราคาไทย เริ่มต้น 16,990 บาท

เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ OPPO Reno7 5G และ Reno7 Pro 5G มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED รีเฟรชเรท 90Hz ด้วยกันทั้งคู่ เลือกใช้ชิปเซ็ต Dimensity จาก MediaTek แบตเตอรี่ 4500 mAh รองรับชาร์จไว 65W SuperVOOC ชาร์จครึ่งชั่วโมงเต็ม 100% แต่มีขนาดความบางและน้ำหนักเบา โดยจะเคาะราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 16,990 บาท

OPPO Reno7 5G

จุดเด่นของ OPPO Reno7 5G อยู่ที่การถ่ายภาพ โดย OPPO เคลมว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้สามารถถ่าย Portrait Mode ได้แบบ DSLR-Like หรือเหมือนกับกล้องใหญ่เลยทีเดียว เบลอฉากหลังเป็นธรรมชาติ สามารถปรับรูรับแสงได้มากถึง 25 ระดับ เพื่อความสวยและความเนียนของภาพถ่าย

นอกจากจะรองรับการถ่าย Portait Mode แบบ DSLR-Like แล้ว OPPO Reno7 5G ยังมาพร้อมกับความสามารถในการถ่ายวิดีโอแบบ Bokeh Flare Portrait Video หรือการถ่ายวิดีโอโหมดโบเก้เบลอฉากหลัง รองรับทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

OPPO Reno7 5G มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว รองรับรีเฟรชเรทสูงสุด 90Hz บนสัดส่วน 20:9 ผ่านการรับรองสามารถรับชม Netflix และ Amazon Prime Video ได้ที่ความละเอียด HD นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Eye-Care ช่วยกรองแสงสีฟ้า เพื่อช่วยลดความล้าของสายตาอีกด้วย

ตัวเครื่องของ OPPO Reno7 5G มีความบางเพียง 7.81 มม. และน้ำหนักแค่ 173 กรัม แม้ว่าจะใส่แบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh มาให้ โดย OPPO Reno7 5G จะรองรับระบบชาร์จไว 65W SuperVOOC ชาร์จเพียง 31 นาที ได้แบตเต็ม 100%

OPPO Reno7 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Dimensity 900 จาก MediaTek ผลิตบนสถาปัตยกรรม 6 นาโนเมตร รองรับ 5G, WiFi 6 และฟีเจอร์ HyperBoost มี AI Frame Rate Stabilizer เข้ามาช่วยให้เฟรมเรทนิ่ง ไม่แกว่ง และมีระบบระบายความร้อนโบราซอนคุณภาพระดับยานอวกาศ

OPPO Reno7 Pro 5G

จุดเด่นของ OPPO Reno7 Pro 5G ก็อยู่ที่การถ่ายภาพเช่นเดียวกัน เซ็นเซอร์หลักกล้องหลังใช้เป็น Sony IMX766 ความละเอียด 50MP และกล้องหน้าความละเอียด 32MP ใช้เป็นเซ็นเซอร์ IMX709 จาก Sony

OPPO Reno7 Pro 5G สามารถถ่าย Portrait Mode ได้แบบ DSLR-Like เหมือนกับ Reno7 5G รุ่นธรรมดา พร้อมปรับรูรับแสงได้มากถึง 25 ระดับเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังมีโหมด Bokeh Flare Portrait Video เหมือนกันอีกด้วย

หน้าจอของ OPPO Reno7 Pro 5G ใช้เป็น AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ใหญ่กว่า Reno7 5G เล็กน้อย รีเฟรชเรท 90Hz บนสัดส่วน 20:9 มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่ 92.8% และรองรับการแสดงผลแบบ HDR10+

OPPO Reno7 Pro 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Dimensity 1200-MAX ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 6 นาโนเมตร รองรับการใช้งาน 5G มีหน่วยความจำขนาด 256GB และ RAM ความจุ 12GB ที่สามารถยืม ROM มาเพิ่มได้อีก 7GB เป็น 19GB

แบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh รองรับระบบชาร์จไว 65W SuperVOOC ชาร์จเต็ม 100% เพียง 31 นาที และแม้ว่าจะอัดแบตมาให้ขนาดนั้น ตัวเครื่องของ OPPO Reno7 Pro 5G มีความบางเพียง 7.45 มม. และมีน้ำหนักเบา 180 กรัม

ตารางเปรียบเทียบสเปค OPPO Reno7 5G กับ Reno7 Pro 5G

	OPPO Reno7 5G	OPPO Reno7 Pro 5G
หน้าจอ	AMOLED 6.4″ FHD+ 90Hz	AMOLED 6.5″ FHD+ 90Hz
ชิปเซ็ต	Dimensity 900	Dimensity 1200-MAX
RAM	8GB (LPDDR4X)	12GB (LPDDR4X)
ROM	256GB (UFS 2.2) ใส่ microSD Card เพิ่มได้	256GB (UFS 3.1)
กล้องหลัง	3 ตัว เซ็นเซอร์หลัก 64MP + Ultra-Wide + Macro	4 ตัว เซ็นเซอร์หลัก 50MP + Ultra-Wide 8MP + Macro 2MP + Color Temperature Sensor
กล้องหน้า	32MP
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ	ใต้หน้าจอ
การเชื่อมต่อ	WiFi 6 | Bluetooth 5.2
แบตเตอรี่	4500 mAh
ระบบชาร์จไว	65W SuperVOOC
ระบบปฏิบัติการ	ColorOS 12 บนพื้นฐาน Android 11
น้ำหนัก	173 กรัม	180 กรัม

 

ราคาและวันวางจำหน่าย

OPPO จะเริ่มวางจำหน่าย Reno7 5G และ Reno7 Pro 5G อย่างเป็นทางการในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ โดยจะเคาะราคาแบ่งตามรุ่นดังนี้

• OPPO Reno7 5G ราคา 16,990 บาท
• OPPO Reno7 Pro 5G ราคา 22,990 บาท

โดยหากซื้อ OPPO Reno7 5G และ Reno7 Pro 5G พ่วงแพ็กเกจกับ AIS, dtac หรือ truemove H จะเหลือเพียงเริ่มต้นเครื่องละ 6,990 บาทเท่านั้น

SOURCE : OPPO (1) (2)

from:https://droidsans.com/oppo-reno7-5g-reno7-pro-5g-thailand-official-price/