หวนรำลึก Nokia N-Gage เกมมิ่งสมาร์ทโฟนยุคแรก ที่แจ้งเกิดในเวลาที่ผิด

เว็บไซต์ Gsmarena พาผู้อ่านย้อนเวลากลับไปเมื่อ 16 ปีที่แล้ว เพื่อทำความรู้จักกับ Nokia N-Gage เกมมิ่งสมาร์ทโฟนยุคแรก ที่ได้รับการเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2003 ถือเป็นโทรศัพท์มือถือที่มีความโดดเด่นในยุคนั้น เพราะมีดีไซน์เหมือนเครื่องเล่นเกมพกพา

Nokia N-Gage ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นคู่แข่งของ Game Boy Advance จาก Nintendo ที่เปิดตัวในปี 2001 แต่มีราคาแพงกว่า 200 ดอลล่าร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม Nokia N-Gage ไม่ได้มีจุดขายแค่เป็นเครื่องเล่นเกมพกพา แต่มาพร้อมฮาร์ดแวร์แบบเดียวกับ Nokia 3650 ที่เปิดตัวในปีเดียวกัน ในราคา 399 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ขณะที่ Nokia N-Gage เปิดตัวที่ 299 ดอลล่าร์สหรัฐฯ แต่ไม่มีกล้องดิจิตอลเหมือนกับ Nokia 3650

ในด้านเครื่องเล่นเกม Nokia N-Gage มีชิปประมวลผลที่เร็วกว่า Game Boy Advance แต่จอแสดงผลที่ขนาดเล็กกว่าและมีความละเอียดต่ำกว่า ที่สำคัญ Game Boy Advance ควบคุมเกมได้สบายกว่า

ในด้านการโทร Nokia N-Gage กลับมีวิธีการถือเพื่อสนทนาที่ไม่เหมือนใคร เพราะถูกออกแบบมาให้หันส่วนขอบแนบกับใบหู จึงสร้างความอึดอัดให้กับผู้ใช้ส่วนมาก

Nokia N-Gage รองรับโหมด Multiplayer สามารถเชื่อมต่อกับผู้เล่นคนอื่นที่อยู่ใกล้กันผ่าน Bluetooth โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม ขณะที่ Game Boy Advance สามารถเชื่อมต่อกับอีกเครื่องผ่านสายเคเบิล GameLink หรือต้องใช้ Adapter เพิ่มเติมถ้าหากต้องการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานไม่ได้รับความสะดวก

Nokia N-Gage ยังรองรับโหมด Multiplayer ผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งมี Pocket Kingdom: Own the World เป็นเกมออนไลน์ที่รองรับผู้เล่นหลายคนและขายดีที่สุด ก่อนที่เกม World of Warcraft จะออกมาทำลายสถิติด้วยยอดขาย 240,000 ก๊อปปี้ ภายใน 24 ชั่วโมงแรก (เฉพาะในสหรัฐฯ)

นอกจากสมาร์ทโฟน Nokia ยังพยายามขายเกมสำหรับ N-Gage โดย The Finns คาดการณ์ว่า Nokia จะขายเกม N-Gage ได้ 6 ล้านก๊อปปี้ ในระยะเวลา 3 ปี ต่ความจริงกบัยขายได้เพียงครึ่งเดียวจากที่คาดการณ์ ขณะที่ Nokia N-Gage ขายได้ 3 ล้านเครื่อง เมื่อคิดเป็นค่าเฉลี่ยแล้ว เท่ากับเจ้าของ Nokia N-Gage 1 คน ซื้อเกมมาเล่นเพียง 1 เกม เท่านั้น (ไม่นับรวมเกมฟรี)

เมื่อเทียบยอดขายกับ Game Boy Advance พบว่าเครื่องเล่นเกมพกพาของ Nintendo ขายดีกว่า Nokia N-Gage ถึง 100 ต่อ 1 เครื่อง ในช่วงสัปดาห์แรกที่เปิดตัว ส่วนยอดขายตลอดกาลอยู่ที่ 27 ต่อ 1 เครื่อง

ถึงแม้ Nokia N-Gage อาจจะประสบความล้มเหลวเมื่อมองย้อนกลับไป แต่ปัจจุบันตลาดเกมมิ่งสมาร์ทโฟนกำลังเติบโตขึ้น จะเรียกว่า Nokia N-Gage แจ้งเกิดเร็วไปหลายสิบปีก็เป็นได้ แต่ก็ยังไม่สายถ้าหาก HMD Global จะนำแบรนด์ N-Gage กลับมาสู้ศึกอีกครั้งในยุคนี้

ที่มา – Gsmarena
https://www.flashfly.net/wp/263419

from:https://www.flashfly.net/wp/263419

รวมโทรศัพท์มือถือคลาสสิคจาก Nokia ที่ HMD Global ควรนำกลับมาปัดฝุ่นใหม่

HMD Global ได้นำโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าของ Nokia ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ตั้งแต่ปีที่แล้ว ด้วยการเปิดตัว Nokia 3310 ที่งาน Mobile World Congress 2017 และล่าสุดได้แนะนำ Nokia 8110 ที่งาน Mobile World Congress 2018 โดยทั้ง 2 รุ่น เป็นโทรศัพท์มือถือที่ได้รับความนิยมมาแล้วในอดีต Nokia 3310 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2000 และ Nokia 8810 เปิดตัวครั้งแรกในปี 1996

Nokia 3310 ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น หลังจากนำกลับมาวางจำหน่ายอีกครั้งในปี 2017 จนต้องออกเวอร์ชั่น 3G และ 4G ตามออกมา และ Nokia 8810 ที่เปิดตัวเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็มีกระแสตอบรับที่ดีเช่นกัน จึงเป็นไปได้ที่ในอนาคต HMD Global จะเลือกโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าของ Nokia มาอัพเกรดใหม่เพื่อทำตลาดอีกครั้ง และเว็บไซต์ Gizmochina ได้คาดเดาว่าจะมีอย่างน้อย 8 รุ่น ที่น่าสนใจ

Nokia 1100

Nokia 1100 เปิดตัวในปี 2003 ขายได้มากกว่า 250 ล้านเครื่อง ถึงแม้จะมีฟีเจอร์พื้นฐานสำหรับการโทร รับ-ส่งข้อความ ใช้จอแสดงผลขาว-ดำ รองรับเฉพาะเครือข่าย 2G และมีจุดเด่นที่ไฟฉาย ติดตั้งอยู่ที่ด้านบน

Nokia Ringo

Nokia Ringo อาจไม่คุ้นสำหรับคนไทย เพราะเป็นโทรศัพท์มือถือที่ทำตลาดในประเทศนอร์เวย์, สวีเดน, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์ และยังเป็นโทรศัพท์มือถือระบบเติมเงินในอังกฤษ เปิดตัวในปี 1995

Nokia N90

Nokia N90 เปิดตัวในปี 2005 ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมและผู้คนยังคงจดจำได้ มากับดีไซน์ฝาพับแต่สามารถบิดหมุนหน้าจอได้ รวมถึงกล้องดิจิตอลก็ปรับหมุนได้เช่นกัน

Nokia N-Gage

Nokia N-Gage ผลิตออกมา 2 รุ่น โดยรุ่นแรกเปิดตัวในปี 2003 (รุ่นที่ 2 เรียกว่า N-Gage QD) ดีไซน์ออกมาเพื่อเน้นเล่นเกมเป็นพิเศษ ในขณะที่ปัจจุบัน Razer Phone มีกระแสตอบรับที่ดี ดังนั้น HMD Global ก็ไม่ควรรอช้าที่จะนำ N-Gage กลับมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง

Nokia 6630

Nokia 6630 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องคมชัดในยุค 2004 แต่บางคนก็ไม่ค่อยชอบรูปทรงที่อ้วนประหลาด และไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนบ่นเรื่องการพกพาไว้ในกระเป๋า ทั้งที่สมาร์ทโฟนในปัจจุบันนี้มีขนาดใหญ่กว่ามาก

Nokia 5300 XpressMusic

Nokia 5300 XpressMusic เกิดมาในปี 2007 ในยุคที่เครื่องเล่นเพลงพกพากำลังได้รับความนิยม ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือในยุคนั้นจึงแข่งขันกันสร้างมิวสิคโฟนหรือมัลติมีเดียโฟนออกมาทำตลาด และ Nokia 5300 XpressMusic ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยมีขนาดเล็กเพราะใช้ดีไซน์สไลด์ และมาพร้อมปุ่มควบคุมเพลงที่ข้างหน้าจอ

Nokia N95

Nokia N95 เป็นสมาร์ทโฟนแบบเดียวกับ N90 ใช้ระบบปฏิบัติการ Symbian ออกมาในปี 2007 ดีไซน์สไลด์ 2 ทาง คือ เลื่อนขึ้นเพื่อใช้งานแผงปุ่มกดตัวเลข และเลื่อนลง เพื่อใช้งานปุ่มควบคุมเพลง รองรับการเชื่อมต่อครบครันในยุคนั้น ทั้ง 3G, Wi-Fi, GPS, Bluetooth และ Infrared

Nokia Lumia 1020

Nokia Lumia 1020 เป็นสมาร์ทโฟนอย่างเต็มรูปแบบ และหลายคนคงยังจำกันได้ เพราะเปิดตัวในปี 2013 โดยมีจุดเด่นที่กล้องดิจิตอล 41 ล้านพิกเซล ใช้เลนส์ Carl Zeiss มีระบบลดภาพสั่นไหว OIS พร้อมแฟลช Xenon + LED เรียกได้ว่าสเปกกล้องยังสามารถแข่งขันกับสมาร์ทโฟนในปัจจุบันได้ ถึงแม้จะมีอายุ 5 ปีแล้วก็ตาม Lumia 1020 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 แต่ถ้า HMD Global นำมาอัพเกรดใหม่ ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ก็มีโอกาสที่จะชิงตำแหน่งผู้นำสมาร์ทโฟนที่มีความโดดเด่นในเรื่องกล้องดิจิตอล

ที่มา – Gizmochina

from:http://www.flashfly.net/wp/210704

AppDisqus ย้อนอดีต: 10 มือถือระบบ Symbian จาก Nokia ที่ชวนคิดถึง!

Symbian เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับโทรศัพท์มือถือที่พัฒนาโดยบริษัท Symbian ออกแบบให้ทำงานบนหน่วยประมวลผล ARM เปิดตัวครั้งแรกในปี 2001 ในยุคนั้นมีบริษัทผู้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือหลายค่ายเลือกใช้ ซึ่งค่ายที่ใช้มากที่สุดและแทบจะเป็นสัญลักษณ์ของ Symbian ก็คือ Nokia ซึ่งโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกที่มาพร้อมระบบ Symbian ก็คือ Nokia 7650 ในปี 2002 และรุ่นสุดท้ายก็คือ Nokia 808 PureView ในปี 2012 ซึ่งแฟนๆรุ่นผมหลายคนก็คงยังคิดถึงระบบ Symbian กันไม่หาย วันนี้นึกครึ้มใจก็เลยจะหยิบยกรุ่นที่ชวนให้คิดถึงของ Symbian จาก Nokia มาฝากกันนะครับ ซึ่งถ้าไม่ตรงใจเพื่อนๆก็หยิบยกรุ่นที่ชื่นชอบมาแสดงความเห็นได้ที่ท้ายบทความนี้ได้เลย หรือจะในแฟนเพจก็ได้นะครับ

Nokia 7650 (2002) เริ่มอันดับแรกก็ต้องรุ่นนี้เลยครับ เพราะเป็นรุ่นแรกของระบบ Symbian ซึ่งหลายๆคนน่าจะเคยเป็นเจ้าของกัน แถมเป็นมือถือที่มาพร้อมกล้องเป็นรุ่นแรกของ Nokia ด้วยและมาพร้อมรูปทรงสไลด์สุดฮิต รูปร่างก็แสนจะสวยงามมีเอกลักษณ์ รองรับ GSM 900 / 1800, ขนาดตัวเครื่อง 114 x 56 x 26 มม. น้ำหนัก 154 กรัม, หน้าจอ TFT ขนาด 2.1 นิ้วความละเอียด 176 x 208 pixels (130ppi), CPU ARM 9 104 MHz, หน่วยความจำภายใน 4MB, กล้องความละเอียด VGA, Bluetooth, Infrared port, แบตเตอรี่ความจุ 750 mAh

Nokia 3660 (2003) เป็นรุ่นที่ปรับปรุงมาจาก Nokia 3650 โดยแป้นตัวเลขวางเรียงแบบมาตราฐานทำให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น หน้าตาเหมือนรีโมทแอร์ ซึ่งผมว่ามันก็สวยดีนะ แต่ตอนนั้นคนชอบแซวกันแบบนั้นนะครับ รองรับ GSM 900 / 1800 / 1900, ขนาดตัวเครื่อง 130 x 57 x 26 มม. น้ำหนัก 130 กรัม, หน้าจอ TFT ขนาด 2.1 นิ้วความละเอียด 176 x 208 pixels (130ppi), CPU ARM 920T 104 MHz, หน่วยความจำภายใน 3.4MB และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ด้วย MMC, กล้องความละเอียด VGA และสามารถบันทึกวีดีโอได้, Bluetooth, Infrared port, แบตเตอรี่ความจุ 850 mAh

Nokia N-GAGE (2003) และ Nokia N-GAGE QD (2004) โดดเด่นเพราะหน้าตาเหมือนเครื่องเล่นเกมพกพา หน้าตาหล่อมากๆ แต่วิธีสนทนาต้องใช้สันเครื่อง ซึ่งมีการแก้ไขในรุ่น QD (แต่ลำโพงแย่ลงและตัดวิทยุออก รวมทั้งวัสดุเสื่อมสภาพได้ง่ายขึ้น แต่แบตเตอรี่ความจุสูงขึ้นและ Design สวยงามกว่ารุ่นเดิม) Nokia N-GAGE รองรับ GSM 900 / 1800 / 1900, ขนาดตัวเครื่อง 134 x 70 x 20 มม. น้ำหนัก 137 กรัม, หน้าจอ TFT ขนาด 2.1 นิ้วความละเอียด 176 x 208 pixels (130ppi), CPU ARM 920T 104 MHz, หน่วยความจำภายใน 3.4MB และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ด้วย MMC, Bluetooth, ลำโพงคู่, วิทยุในตัว, แบตเตอรี่ความจุ 850 mAh

Nokia N-GAGE QD รองรับ GSM 900 / 1800, ขนาดตัวเครื่อง 118 x 68 x 22 มม. น้ำหนัก 143 กรัม, หน้าจอ TFT ขนาด 2.1 นิ้วความละเอียด 176 x 208 pixels (130ppi), CPU ARM 920T 104 MHz, หน่วยความจำภายใน 3.4MB และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ด้วย MMC, Bluetooth, แบตเตอรี่ความจุ 1070 mAh

Nokia 6600 (2003) ในสมัยนั้นหล่อเกินห้ามใจจริงๆครับ ฉายาอ้วนดำ5555 เป็นรุ่นที่ผมซื้อมาอย่างแพง แต่ขายอย่างถูกเพราะเสียงเรียกเข้าและเสียงสนทนาเบาสุดๆเลย เหอ เหอ แต่มันหล่อจริงๆนะ เป็นรุ่นยอดนิยมใช่เล่นเลยครับ รองรับ GSM 900 / 1800 / 1900, ขนาดตัวเครื่อง 109 x 58 x 24 มม. น้ำหนัก 122 กรัม, หน้าจอ TFT ขนาด 2.1 นิ้วความละเอียด 176 x 208 pixels (130ppi), CPU ARM 9 104 MHz, หน่วยความจำภายใน 6MB และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ด้วย MMC, กล้องความละเอียด VGA และสามารถบันทึกวีดีโอได้, Bluetooth, Infrared port, แบตเตอรี่ความจุ 850 mAh

Nokia 7610 (2004) สุดฮิตเลยครับ เพราะหน้าตามันหล่อขั้นเทพ สีสันก็จับใจจริงๆ แถมเปลี่ยนกรอบง่ายสุดๆ กรอบแท้ก็ราคาไม่แพง ตอนนั้นผมมีหลายกรอบเลย ใช้นานหลายเดือนเลยครับ รองรับ GSM 900 / 1800 / 1900, ขนาดตัวเครื่อง 109 x 53 x 19 มม. น้ำหนัก 118 กรัม, หน้าจอ TFT ขนาด 2.1 นิ้วความละเอียด 176 x 208 pixels (130ppi), CPU TI OMAP 1510 ARM925T 123 MHz, หน่วยความจำภายใน 8MB และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ด้วย RS-MMC, กล้องความละเอียด 1MP และสามารถบันทึกวีดีโอได้, Bluetooth, แบตเตอรี่ความจุ 900 mAh

Nokia 6630 (2004) ตอนเปิดตัวแพงใช้ได้เลยครับ ได้ลองเล่นของผู้ใหญ่ท่านนึงแล้วก็แอบถูกใจ ปุ่มนุ่มนิ้วดีจริงๆ อิอิ รองรับไตรแบนด์ และ 3G ซะด้วยเป็นจุดขายในตอนนั้นเลย (ทั้งๆที่ในตอนนั้นบ้านเรายังไม่มี 3G หึ หึ) รวมทั้งเรื่องกล้อง 1.3MP ซึ่งดูโดดเด่นในช่วงนั้น (รุ่นนี้การ์ตูนเรื่อง Death Note เคยวาดออกมาในฉากๆนึงด้วยนะ เป็นที่พูดถึงพอสมควรครับในตอนนั้น) รองรับ GSM 900 / 1800 / 1900, 3G 2100, ขนาดตัวเครื่อง 110 x 60 x 21 มม. น้ำหนัก 127 กรัม, หน้าจอ TFT ขนาด 2.1 นิ้วความละเอียด 176 x 208 pixels (130ppi), CPU TI OMAP 1710 ARM926EJ-S 220 MHz, หน่วยความจำภายใน 10MB และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ด้วย RS-DV-MMC, กล้องความละเอียด 1.3MP และสามารถบันทึกวีดีโอได้, Bluetooth, แบตเตอรี่ความจุ 900 mAh

Nokia 6680 และ Nokia 6681 (2005) ตอนนั้นออกมาเป็นคู่ครับ ความแตกต่างก็คือมีกล้องหหน้าและไม่มีกล้องหน้า (และหน่วยความจำภายในน้อยกว่ากันนิดหน่อย) รุ่นนี้หลายคนบ่นกันว่าไม่ค่อยหล่อ และโครเมี่ยมลอกง่าย แต่รวมๆกระแสดีนะครับ รองรับ GSM 900 / 1800 / 1900, 3G 2100, ขนาดตัวเครื่อง 108.6 x 55.2 x 20.5 มม. น้ำหนัก 133 กรัม, หน้าจอ TFT ขนาด 2.1 นิ้วความละเอียด 176 x 208 pixels (130ppi), CPU TI OMAP 1710 ARM926EJ-S 220 MHz, หน่วยความจำภายใน 10MB และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ด้วย RS-DV-MMC, กล้องความละเอียด 1.3MP และสามารถบันทึกวีดีโอได้, กล้องหน้าความละเอียด VGA, Bluetooth, แบตเตอรี่ความจุ 900 mAh

Nokia N70 (2005) ฮิตระเบิดครับ ร้านขายเครื่องมือ 2 สมัยก่อนนี่เกลื่อนเลย บ่งบอกว่ามันเป็นที่นิยมมากๆ ราคาก็จับต้องได้ไม่ยากนัก ด้านหลังสไลด์เปิดปิดกล้องเท่สุดๆ แถมมาพร้อมกล้องความละเอียด 2MP และไฟแฟลช LED ซะด้วย รองรับ GSM 900 / 1800 / 1900, 3G 2100, ขนาดตัวเครื่อง 108.8 x 53 x 21.8 มม. น้ำหนัก 126 กรัม, หน้าจอ TFT ขนาด 2.1 นิ้วความละเอียด 176 x 208 pixels (130ppi), CPU TI OMAP 1710 ARM926EJ-S 220 MHz, หน่วยความจำภายใน 22MB และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ด้วย RS-DV-MMC, กล้องความละเอียด 2MP และไฟแฟลช LED สามารถบันทึกวีดีโอได้, กล้องหน้าความละเอียด VGA, Bluetooth, วิทยุในตัว, แบตเตอรี่ความจุ 970 mAh

Nokia N93i (2007) เป็นรุ่นต่อยอกมาจาก Nokia N90 และ N93 เป็นรุ่นที่ผมชอบมากเลยครับ เพราะหน้าตาสวยเหมือนกล้องวีดีโอ จัดเต็มมากมี OPtical Zoom ซะด้วย วัสดุหรูหราน่าใช้ (แต่เสียงสนทนาเบาชวนสลด….) และแบตหมดเร็วปานจรวด รองรับ GSM 900 / 1800 / 1900, 3G 2100, ขนาดตัวเครื่อง 108 x 58 x 25 มม. น้ำหนัก 163 กรัม, หน้าจอ OLED ขนาด 2.4 นิ้วความละเอียด 240 x 320 pixels (167ppi), CPU Dual ARM 11 332 MHz, GPU 3D Graphics HW Accelerator, RAM 64MB, หน่วยความจำภายใน 50MB และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ด้วย miniSD, กล้องความละเอียด 3.15MP, 3x optical zoom, Carl Zeiss optics, autofocus, LED flash, บันทึกวีดีโอความละเอียด 480p@30fps, กล้องหน้าความละเอียด qHD, Wi-Fi 802.11b/g, Bluetooth 2.0 (A2DP), วิทยุในตัว, แบตเตอรี่ความจุ 950 mAh

Nokia N8 (2010) พรีเมี่ยมมากครับ เป็นที่นิยมมากๆ สวยสุดๆ แถมกล้องยังแจ่มแจ๋ว เป็นอีกรุ่นที่ชวนคิดถึงจริงๆ รองรับ GSM 850 / 900 / 1800 / 1900, 3G HSDPA 850 / 900 / 1700 / 1900 / 2100, ขนาดตัวเครื่อง 113.5 x 59.1 x 12.9 มม. น้ำหนัก 135 กรัม, หน้าจอ AMOLED ขนาด 3.5 นิ้วความละเอียด 360 x 640 pixels (210ppi), กระจก Corning Gorilla Glass, CPU ARM 11 680 MHz, GPU Broadcom BCM2727, RAM 512MB, หน่วยความจำภายใน 16GB เพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 32GB, กล้องความละเอียด 12MP, Carl Zeiss optics, autofocus, Xenon flash, 1/1.83″ sensor size, ND filter, geo-tagging, face detectio, บันทึกวีดีโอความละเอียด 720p@30fps, กล้องหน้าความละเอียด VGA, Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 3.0, A2DP, GPS, วิทยุในตัว, พอร์ทหูฟังขนาด 3.5 มม., Micro USB 2.0, แบตเตอรี่ความจุ 1200 mAh

อา….ครบ 10 อันดับซะแล้ว เหมือนจะไม่พอนะครับ5555 เพราะ Nokia Symbian ครองความยิ่งใหญ่มายาวนานจริงๆ มีรุ่นที่น่าประทับใจเพียบ ซึ่งน่าเอามาระลึกถึงมากมาย ถ้ามีโอกาศจะมาต่อภาค 2 ให้อ่านกันเพื่อย้อนอดีตนึกถึงความหลังกันใหม่นะครับ

from:https://www.appdisqus.com/2016/07/25/nokia-symbian.html

AppDisqus ย้อนอดีต: Nokia N-GAGE ความพยายามที่ไปไม่ถึงฝัน

Nokia N-GAGE เป็นสมาร์ทโฟนระบบ Symbian OS รุ่นแรกที่ออกแบบให้ดูเหมือนเครื่องเล่นเกมพกพา จุดแข็งคือการบังคับเกมทำได้เหมือนเครื่องเกมจริงๆ แถมมีเกมออกมารองรับมากมาย โดยเปิดตัวไปเมื่อปี 2003 หรือเมื่อ 13 ปีที่แล้วซึ่งมันเป็นจุดเริ่มต้นของการคลั่งโทรศัพท์มือถือของผมเลยละครับ มันเป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องที่ 2 ของผมละเป็นเครื่องแรกที่ผมซื้อมาด้วยเงินของตัวเอง ซื้อครั้งแรกก็ที่ MBK ครับและโดนเครื่องย้อมแมวเข้าเต็มๆ5555 คิดแล้วก็น่าเจ็บใจดีจัง โดยในตอนนั้นมันมีราคาเปิดตัวที่ประมาณ 12900 บาท เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนมือถือเล่นแบบโคตรบ้าเลือดของผม

ซึ่งเจ้า Nokia N-GAGE นั้นไม่ใช่รุ่นแรกที่มีหน้าตาแบบนี้เพราะมีมือถืออีกรุ่นที่เน้นการฟังเพลงอย่าง Nokia 3300 ซึ่งรุ่นนี้มีหน้าตาเหมือน Nokia N-GAGE มากๆแต่ว่ามีขนาดเล็กกว่าและเป็นโทรศัพท์มือถือระบบ Nokia Serie 40 ธรรมดาๆไม่ใช่ระบบ Symbian OS แถมมีราคาแพงกว่าด้วย ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดน่าจะราคา 15900 บาทนะครับ สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ (MMC) และโดเด่นเรื่องฟังเพลง คนส่วนใหญ่ในตอนนั้นบอกว่ามันเสียงดีกว่า Nokia N-GAGE แต่ผมว่าไม่เห็นจะต่างเลย แพงด้วย เล็กกว่าด้วย ไม่เห็นจะคุ้ม และมันก็เป็นรุ่นที่แอบแป๊กครับแม้จะโฆษณาเยอะในตอนนั้นเพราะ Nokia N-GAGE น่าสนใจกว่ามาก แม้ว่าบางคนจะบอกว่า Symbian ใช้ยากก็ตาม (ตอนนั้นยังไม่มีคำว่าสมาร์ทโฟนนะครับ)

Nokia N-GAGE มาพร้อมสเปคที่เรียกว่าน่าสนใจมากในยุคนั้นหน้าจอ TFT ความละเอียด 176 x 208 pixels, ทำงานบน Symbian 6.1, CPU ARM 104 MHz, หน่วยความจำภายใน 4MB, สามารถเพิ่ม MMC, รองรับ Bluetooth, มีเครื่องเล่น MP3 และวิทยุในตัว รวมทั้งลำโพงคู่, แบตเตอรี่ความจุ 850 mAh หน้าตาหล่อมากๆในตอนนั้นรูปแบบเครื่องเกม แต่ที่ทำให้หลายคนไม่ชอบก็คือมันจะใช้สันเครื่องในการคุย ซึ่งหลายๆคนเรียกมันว่าปังตอ5555 ซึ่งผมไม่มีปัญหานะผมว่าเด่ดีออก ที่จะบ่นก็ตรงเสียงลำโพงสนทนาเบามากนี่ละครับ (ในตอนนั้นมือถือ Nokia ระบบ Symbian เสียงเบากันเยอะหลายรุ่นเลย ที่น่าด่ามากๆก็ Nokia 6600 ผมใช้ได้แค่ไม่กี่วันก็ขายทิ้งขาดทุนไป 5000 ก็เพราะปัญหานี้แหละ)

ในตอนนั้นก็มีเกมที่รองรับ Nokia N-GAGE ออกมาเยอะพอสมควรแถมเป็นเกมที่ดีๆซะด้วยที่เด่นๆก็ Bomberman, Call of Duty, Crash Nitro Kart, SonicN, Tomb Raider ประมาณนี้ครับ ซึ่งจริงๆเกมเยอะนะ แต่มันไปไม่ถึงฝั่งฝันก็เพราะคนไม่ยอมซื้อเกมกันครับ แต่ดาวน์โหลดมาเล่นฟรีๆกัน แถมไม่มีระบบป้องกันทำให้ Nokia N-GAGE ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจ (จะเห็นว่าปลิงนี่มีมาตั้งนมนานแล้วนะครับ ยอมรับครับผมเองก็เป็นปลิงอีกตัวนึงเหมือนกัน5555)

ทาง Nokia ก็ดูไม่ยอมแพ้ครับเพราะ Nokia N-GAGE กระแสดีมากจึงได้มีรุ่นปรับปรุงชื่อว่า Nokia N-GAGE QD ออกมาในปี 2014 โดยมีการปรับปรุงรูปร่างให้สวยงามมากยิ่งขึ้น มีขนาดเล็กลงแต่หน้าจอมีขนาดเท่าเดิม แต่สีสันสวยงามมากยิ่งขึ้น แต่น่าเสียดายที่ Nokia ดันกั๊กครับไม่ใส่วิทยุมาให้ใน Nokia N-GAGE QD รวมทั้งไม่มีเครื่องเล่นเพลง MP3 มาให้ด้วย (แต่ก็สามารถทำให้ฟังได้อยู่ดี) รวมทั้งรุ่นนี้ลำโพง Mono ครับไม่ใช่ลำโพงคู่แบบรุ่นแรก แต่ด้วยความน่ารักน่าใช้รุ่นนี้ก็ขายดีอยู่ แต่คนก็มองหารุ่นแรกกันเยอะเลยครับในตอนนั้น

แต่ส่วนตัวผมก็เล่น Nokia N-GAGE ไม่นานครับ เพราะปีศาจแห่งโทรศัพท์มือถือเข้าสิงผมแล้ว หลังจากซื้อมือถือเครื่องแรกด้วยเงินตัวเอง ผมก็เสียนิสัยเปลี่ยนมือถือแหลกลาญ จนจำแทบไม่ได้ว่าใช้รุ่นอะไรผ่านมือไปบ้างเพราะมันเกิน 200 เครื่องครับ5555 จนมาเป็น Blogger นี่แหละที่ทำให้ผมสงบลงได้ (รีวิวจนเบื่อ5555 แต่ก็ยังรักมากและชอบมากกว่าสิ่งอื่นๆ) ผมเป็นคนขี้เบื่อนะครับ

from:https://www.appdisqus.com/2016/07/02/nokia-n-gage.html