ปิดคดี LG โดนฟ้องร้องกรณีมือถือติด Bootloop เลือกรับเงินคืนหรือส่วนลดซื้อรุ่นใหม่

ปัญหาใหญ่เรื่องนึงที่ผู้ใช้มือถือแบรนด์ดังอย่าง LG ได้ประสบพบเจอกันทั่วโลกในมือถือของ LG แทบจะทุกรุ่นเลยก็คือเรื่องของ Bootloop นั่นเอง ซึ่งอาการดังกล่าวจะทำให้มือถือไม่สามารถใช้งานได้อีกเลย กลายเป็นที่ทับกระดาษราคาแพงไปซะ… สุดท้ายเหล่าลูกค้าที่ได้เจอปัญหาดังกล่าวก็หมดความอดทน รวมตัวกันเพื่อฟ้องบริษัท LG ในรูปแบบ Class Action จนล่าสุดทาง LG ก็ต้องยอมชดใช้ให้กับลูกค้า

การฟ้องบริษัทมือถือ LG ครั้งนี้ เกิดจากการรวมตัวของผู้ใช้งานมือถือ LG ในสหรัฐอเมริกา ที่ประสบปัญหา Bootloop ในมือถือหลายๆ รุ่นของ LG อย่างเช่น LG G4, G5, V10, V20 หรือแม้แต่ Google Nexus 5X ที่จ้าง LG ในการผลิตเครื่อง โดยผู้ที่ร่วมกันฟ้องร้องบอกว่า ถึงแม้จะเอาเครื่องที่มีปัญหาไปเคลมแล้วได้เครื่องใหม่มา พอใช้งานไปได้ซักพักก็เจอปัญหา Bootloop อีก

และจากการตรวจสอบก็พบว่าปัญหา Bootloop ดังกล่าว เกิดขึ้นจากการเชื่อมวงจรของ CPU ไม่แน่น จนเกิดอาการเครื่องค้าง เมื่อปิดและเปิดใหม่หน้าจอก็จะติดอยู่ตรงโลโก้ LG และไม่ไปไหนต่ออีกเลย หรือที่เรียกว่าอาการ Bootloop นี่แหละ

แผงวงจรในรุ่น LG G4 ที่สมาชิกเว็บไซท์ XDA-developers ช่วยกันตรวจสอบและพบว่าเกิดจากการเชื่อม CPU

โดยผู้ที่รวมกลุ่มกันฟ้อง LG ในครั้งนี้ จะได้รับการเยียวยาเป็นเงินสดจำนวน 425 ดอลลาร์ (ประมาณ 13,332 บาท) หรือจะเลือกรับเป็นส่วนลด 700 ดอลลาร์ (ประมาณ 21,960 บาท) สำหรับซื้อมือถือ LG รุ่นใหม่… แต่ยังจะมีผู้ฟ้องร้องคนไหนอยากกลับไปเสี่ยงใช้มือถือ LG อีกรอบมั้ย อันนี้ไม่รู้นะ

 

ที่มา : Phonearena, Androidauthority

from:https://droidsans.com/lg-settles-suit-over-bootlooping/

เผยราคา LG V30 ในสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นที่ 749 ดอลลาร์ (ประมาณ 26,XXX บาท)

พึ่งเปิดตัวไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วกับมือถือเรือธงรุ่นล่าสุดจากแบรนด์เกาหลี กับ LG V30 ซึ่งคราวนี้สามารถเรียกได้เต็มปากเต็มคำแล้วว่าเป็นเรือธงของปี 2017 จริงๆ เพราะได้รับการอัพเกรด CPU เป็น Snapdragon 835 แล้ว (จากที่รุ่น G6 ดันใช้ชิป Snapdragon 821 ของปีที่แล้ว) แถมด้วยฟีเจอร์กล้องที่คราวนี้จัดเต็มทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ ทำให้หลายๆ คนต้องสงสัยกันแน่นอนว่าสเปคจัดเต็มขนาดนี้ค่าตัวของ V30 จะอยู่ที่เท่าไหร่

โดยในงานเปิดตัวของ LG V30 นั้น ยังไม่มีการกำหนดวันวางจำหน่ายของประเทศอื่นๆเลย มีบอกแค่วันวางจำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น ว่าเป็นวันที่ 21 กันยายนที่จะถึงนี้ ส่วนราคาก็ยังไม่มีเล็ดรอดออกมาอีกเช่นกัน จนกระทั่ง LG ได้จัดกิจกรรมแจกเครื่อง LG V30 ขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยในข้อกำหนดและกติกาของการร่วมกิจกรรมดังกล่าว ได้มีรายละเอียดบอกเอาไว้ว่าจะแจก LG V30 ให้แก่ผู้โชคดีจำนวน 3 รางวัล  มูลค่ารางวัลละ 749 ดอลลาร์ หรือประมาณ 26,215 บาท (โดยระบุว่าเป็นราคาโดยประมาณของสินค้า) ซึ่งแน่นอนว่าราคาดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลงไปตามรุ่น ตัวแทนจำหน่าย และประเทศที่วางจำหน่าย แต่ก็ไม่น่าจะห่างจากราคานี้ซักเท่าไหร่

ถ้า LG V30 วางจำหน่ายในราคานี้จริงๆ ก็ถือว่ามีราคาเปิดตัวที่ถูกกว่าเมื่อตอนเปิดตัว LG V20 (799 ดอลลาร์ หรือประมาณ 27,965 บาท) อยู่พันกว่าบาทเลยทีเดียว ส่วนในบ้านเรานั้นจะมีโอกาสได้สัมผัส V30 กันรึเปล่าต้องรอลุ้นกันอีกทีครับ

 

ที่มา : 9to5google

from:https://droidsans.com/lg-v30-price-us-leaked/

เปิดตัว LG Q8 ในยุโรป มาพร้อมจอ QHD ขนาด 5.2 นิ้ว กันน้ำกันฝุ่น สเปคเหมือนเป็น V20 mini

อยู่ๆก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ กับ LG Q8 ที่พึ่งเปิดตัวและเตรียมวางจำหน่ายในแถบยุโรปเดือนนี้เลย สำหรับแฟนๆของมือถือ LG อาจจะสังเกตว่า เอ…รูปร่างหน้าตามันเหมือนกับ LG V20 เรือธงของปีที่แล้วที่ลดขนาดหน้าจอลงเหลือ 5.2 นิ้ว และใส่ฟีเจอร์กันน้ำระดับ IP68 มาให้ด้วยนั่นเอง

หลังจาก LG เปิดตัวมือถือระดับกลางของซีรี่ย์ Q6 ทั้ง 3 รุ่นไปได้ไม่นาน ตอนนี้ก็มีซีรี่ย์ Q8 โผล่มาอีกแล้ว แถมคราวนี้มาเงียบๆ แบบไม่มีการโปรโมทหรือโฆษณาให้เห็นเลยด้วย โดย LG Q8 ตัวนี้จะต่างกับซีรี่ย์ Q6 ตรงที่สเปคค่อนข้างจะเป็นระดับไฮเอนด์ (ของปีที่แล้ว) อย่างรุ่น LG V20 นั่นเอง และ Q8 ยังมีหน้าจอที่สองสำหรับใส่ปุ่มลัด หรือโชว์ Notification ต่างๆ ให้มาเหมือน V20 อีกเช่นกัน

• หน้าจอ IPS ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด QHD
• หน้าจอที่สอง ความละเอียด 160 x 1,040
• CPU : Snapdragon 820
• GPU : Adreno 530
• RAM : 4GB
• ความจุ : 32GB เพิ่ม MicroSD Card ได้ถึง 256GB
• กล้องหลังคู่ : 13MP (f/1.8) + 8MP (f/2.4) laser autofocus / แฟลช LED 2 ดวง
• กล้องหน้า : 5MP (f/1.9)
• เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง
• วิทยุ FM
• IR Blaster
• ระบบเสียง : Quad DAC 32-bit
• แบตเตอรี่ 3000 mAh (ถอดเปลี่ยนไม่ได้)
• กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68
• ตัวเครื่องโลหะ
• ขนาดและน้ำหนัก : 149 x 71.9 x 8 มม. / 146 กรัม
• ระบบ : Android 7.0

LG Q8 จะวางจำหน่ายในทวีปยุโรปภายในเดือนนี้กับค่าตัว 599 ยูโร (ประมาณ 23,340 บาท) และตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า LG Q8 จะวางจำหน่ายในทวีปอื่นด้วยรึเปล่า

 

ที่มา : Theverge, Androidauthority

from:https://droidsans.com/lg-quietly-launched-q8-europe/

ลือกำหนดเปิดตัวเรือธงรุ่นใหม่ LG V30 กันยายนนี้ พบกันในงาน IFA 2017 ที่เบอร์ลิน เยอรมนี

มืข่าวลือออกมาว่าทาง LG อาจจะขยับวันเปิดตัวเรือธงซีรี่ย์ V ภาคต่อให้เร็วขึ้น โดยอาจจะเปิดตัว LG V30 อย่างเป็นทางการในวันที่ 30 สิงหาคม 2017 ในช่วงงาน IFA 2017 ที่จะจัดขึ้น ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ค่ายเกาหลีจะเปิดคตัวมือถือในช่วงนี้ เรียกว่าห่างจากกำหนดเปิดตัว Galaxy Note 8 แค่ไม่กี่วันเท่านั้น

จากข้อมูลที่ได้มา LG V30 จะเปิดให้สั่งจองภายในประเทศเกาหลีใต้หลังจากการเปิดตัว และจะเริ่มวางจำหน่ายจริงภายในเดือนกันยายน โดยมีราคาจำหน่ายที่ 800,000 วอน (ประมาณ 23,943 บาท) ส่วนประเทศอื่นๆจะเริ่มวางจำหน่ายหลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วางจำหน่าย V20 ปีที่แล้ว

และจากข้อมูลที่หลุดออกมา บอกว่าสเปคและการดีไซน์ของ LG V30 นั้น น่าจะมีดีไซน์คล้ายๆกับ LG G6, ใช้หน้าจอ OLED, ชิป Snapdragon 835, กล้องหลังคู่, ชิปเสียง ESS Quad DAC รุ่นใหม่, มีความจุให้เลือกทั้ง 32GB / 64GB / 128GB, มีหน้าจอที่สองตรงด้านบนเหมือนซีรี่ย์ V รุ่นก่อนๆ นอกจากนี้ LG V30 จะเพิ่มความสามารถในการกันน้ำเข้ามาด้วย (ก็เลยถอดแบตไม่ได้เหมือน V20)

การที่ LG เลือกวันเปิดตัว V30 ใกล้ๆ กับ Galaxy Note 8 นั้น ก็ไม่แน่ว่าอาจจะตั้งใจเปิดมาชนกับ Samsung เลยรึเปล่า แต่ในช่วงนั้นปกติจะมีทั้ง Huawei และ Apple ด้วยนี่สิ งานนี้น่าจะเป็นศึกหนักช่วงปลายปีกันอีกครั้ง

 

ที่มา : Androidauthority

from:https://droidsans.com/lg-v30-announce-on-ifa-2017/

LG V30 อาจเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ LG ที่ใช้ชิป Snapdragon 835 มาพร้อมกล้องเซลฟี่เลนส์คู่

LG G6 กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ แต่มีข่าวร้ายว่า อาจไม่ได้มาพร้อมชิปรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Qualcomm เนื่องจากปริมาณการผลิตส่วนใหญ่จะถูกนำไปใข้กับ Samsung Galaxy S8 ที่กำลังจะเปิดตัวในเดือนถัดไป ส่งผลให้ LG G6 ต้องเลือกใช้ชิป Snapdragon 821 แทนไปก่อน หากยืนยันที่จะวางจำหน่ายภายในเดือนมีนาคมนี้

อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดอ้างว่า LG มีแผนนำชิป Snapdragon 835 มาใช้กับสมาร์ทโฟนเรือธงที่จะออกมาในช่วงครึ่งปีหลัง นั่นก็คือ LG V30 คาดว่าจะใช้ความจำ RAM 6GB ระบบเสียง Quad DAC แบบเดียวกับ V20 กล้องดิจิตอลเลนส์คู่ ทั้งด้านหลังและด้านหน้า

ทั้งนี้ LG V20 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat เปิดตัวทางการเมื่อต้นเดือนกันยายน 2016 มากับชิป Qualcomm Snapdragon 820 ความจำ RAM 4GB จอแสดงผล IPS Quantum Display (2560 x 1440 พิกเซล) กว้าง 5.7 นิ้ว พร้อมจอที่สอง (160 x 1040 พิกเซล) ติดตั้งเหนือจอหลัก และก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่า V30 อาจไม่มีจอแสดงผลที่สองแล้ว

ที่มา – AndroidPure

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=174480

ผลประกอบการกลุ่มโทรศัพท์มือถือ LG ไตรมาสที่ 4 ปี 2559 เพิ่มขึ้น 15.4% ราว 8.79 หมื่นล้านบาทรุ่น LG V20 ขายดี

แอลจีเผยผลประกอบการปี 2559 พร้อมไตรมาสที่ 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศและกลุ่มผลิตภัณฑ์ โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์มีผลกำไรจากการดำเนินงานสูงสุดในปี 2559

แอลจี อีเลคทรอนิคส์ อิงค์ (แอลจี) เผยผลกำไรจากการดำเนินงานประจำปี 2559 อยู่ที่ 1.16 พันเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.06 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปี 2558 อยู่ที่ 12.2 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากผลประกอบการที่โดดเด่นจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศ รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ สำหรับรายได้ตลอดปี 2559 อยู่ที่ 47.92 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.68 ล้านล้านบาท) และมีรายได้สุทธิอยู่ที่ 109.31 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.83 พันล้านบาท)

ยอดขายประจำไตรมาสที่ 4 ในปี 2559 อยู่ที่ 12.79 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.48 แสนล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 11.7 เปอร์เซ็นต์และสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 ที่ 1.5 เปอร์เซ็นต์ ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศ และกลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์มีกำไรจากการดำเนินงานสูงสุดในรอบปี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากงบขาดทุนจากกลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือและกลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ แอลจีได้รายงานงบขาดทุนสุทธิประจำไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 223.98 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7.84 พันล้านบาท)

สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศ รายงานรายได้ตลอดปี 2559 อยู่ที่ 14.92 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5.22 แสนล้านบาท) และรายได้สำหรับไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 12.3 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 5.6 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งได้รับแรงผลักดันจากยอดขายที่โดดเด่นในตลาดเกาหลีและอเมริกาเหนือซึ่งเป็นตลาดที่สินค้า เช่น เครื่องซักผ้า LG Twin Wash และตู้เย็น LG Door-in-Door ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ รายได้จากการประกอบการจำนวน 1.15 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.03 หมื่นล้านบาท) ในปี 2559 เพิ่มขึ้น 36 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปี 2558 และยังเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดในบรรดากลุ่มผลิตภัณฑ์แอลจีทั้งหมด

กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เผยรายได้ประจำไตรมาสที่ 4 ที่ 4.15 พันล้านเหรียญสหรัฐ(ประมาณ 1.45 แสนล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้น 15.7 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส โดยเป็นผลจากยอดขายที่โดดเด่นจากทีวีระดับพรีเมี่ยม LG OLED TV และ LG 4K Ultra HD TV ในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรปและเอเชีย ผลกำไรจากผลประกอบการตลอดทั้งปีอยู่ที่ 1.07 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.75 หมื่นล้านบาท) ซึ่งนับว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และรายได้ประจำปี 2559 ที่ 15.08 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือราว 5.28 แสนล้านบาทซึ่งเป็นรายได้ที่มากที่สุดในบรรดากลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของแอลจี คาดการณ์ว่า LG SIGNATURE OLED TV ซีรี่ย์ W7 ที่ได้รับรางวัลและไลน์อัพที่เพิ่มขึ้นของ LG OLED TV ซึ่งเปิดตัวภายในงาน CES 2017 จะช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำของแอลจีในอุตสาหกรรมทีวีระดับพรีเมี่ยม ในขณะที่บริษัทอื่นๆ จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ OLED TV ภายหลังในปี 2560 นี้

กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ รายงานรายได้ประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2559 อยู่ที่ 2.51 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 8.79 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 15.4 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส เป็นผลจากยอดขายที่โดดเด่นของสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่น V20 อย่างไรก็ตาม ผลกำไรสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ต้องหยุดชะงักลงจากยอดขายที่ไม่ค่อยดีนักของสมาร์ทโฟนรุ่น G5 และการลงทุนทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น คาดว่าการเปิดตัวสมาร์ทโฟน ซีรี่ย์ G และอุปกรณ์มือถือในราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ในไตรมาสที่ 2 หลังจากงานโมบายเวิลด์คองเกรสจะช่วยให้กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือเติบโตในตลาดได้ในปี 2560

กลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ ปิดท้ายปีด้วยยอดขายจำนวน 2.40 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8.40 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 51 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว และมีรายได้ประจำไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 749.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2.62 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 66.4 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตที่โดดเด่นของชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าและระบบอินโฟเทนเมนต์ ยอดขายในแต่ละไตรมาสของปี 2559 เติบโตอย่างมั่นคง แต่การลงทุนด้านการวิจัยและการพัฒนาได้ส่งผลต่อกำไร คาดว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ของแอลจีจะช่วยเสริมศักยภาพการแข่งขันด้านผลิตภัณฑ์ในปี 2560 ได้จากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเชฟโรเลตซึ่งร่วมกับแอลจี รวมถึงความต้องการในตลาดที่สูงขึ้นสำหรับชิ้นส่วนไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับระบบอินโฟเทนเมนต์ในรถยนต์และระบบความปลอดภัย

ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในไตรมาสที่ 4 ของปี 2559
รายได้ที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบด้านบัญชีประจำไตรมาสของแอลจี อีเลคทรอนิคส์เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ IFRS (International Financial Reporting Standards) สำหรับช่วงสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐจะเท่ากับอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยของสามเดือนในไตรมาสเดียวกัน โดยอัตราแลกเปลี่ยน ณ ไตรมาสที่ 3 ปี 2559 อยู่ที่ 35 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐ (ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของธนาคารแห่งประเทศไทย)

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=172270

LG G6 จะถอดแบตไม่ได้ เพราะถูกเพิ่มความสามารถในการกันน้ำ แต่ยังคงมีรูแจ็ค 3.5 มม. อยู่ และรวมทุกข่าวหลุดล่าสุดของ G6 ครบ จบในที่เดียว

ข่าวด่วนเลยพี่น้อง ตอนนี้ LG G6 ว่าที่สมาร์ทโฟนตัวท็อปรุ่นต่อไป ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตได้แล้วล่ะ นั่นก็เพราะว่า G6 จะถูกออกแบบมาให้สามารถกันน้ำได้ พร้อมมาตรฐาน IP (แต่ยังไม่เปิดเผยว่าได้เท่าไร) ในขณะที่ยังคงมีรูแจ็ค 3.5 มม. ไว้เสียบหูฟังได้กับไม้เซลฟี่ได้อยู่ ไม่เหมือนกับ iPhone 7 กับ 7 Plus ไม่ก็อาจจะเป็น Samsung Galaxy S8 ที่ข่าวแว่วๆมาว่าจะตัดรูแจ็ค เช่นกัน

ทางเว็บ Cnet ยังได้บอกอีกว่า LG G6 จะใช้ Snapdragon 821 ซึ่งไม่ใช่ Snapdragon 835 รุ่นล่าสุดที่ข่าวอีกว่า ถูก Samsung เหมาซื้อไปจนหมด

ส่วน Google Assistant กับ หน้าจอ QHD+ ขนาด 5.7 นิ้ว (1440 x 2880 พิกเซล) ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วน 9:18 ซึ่งกินพลังงานน้อยกว่ารุ่นที่ผ่านมาถึง 30% ก็จะใส่มาใน LG G6 ด้วย เมื่อเทียบระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่อง ที่ถือว่ามีขนาดใหญ่กว่าของ LG V20, V10, และ LG G5 ที่มีอัตราส่วน 9:16 แต่ขนาดหน้าจอ 5.7 นิ้วเท่ากันครับ

และ LG G6 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเดือนหน้าในงาน MWC 2017 วันที่ 26 กุมภาพันธ์ และจะวางจำหน่ายในตลาดอเมริกาตอนเริ่มเดือนมีนา

และสุดท้ายจริงๆก็คือ ภาพหลุดอีกภาพที่เพิ่งปล่อยมาสดๆร้อนๆ แบบเรียกได้ว่า เอามือจับไม่ได้เพราะจะโดนลวกมือเอา ก็จะเป็นภาพตรงมุมด้านบนเครื่องครับ ที่แสดงให้เห็นถึงตำแหน่งของ น่าจะเป็นไม่ถาดใส่ซิมก็ถาดใส่เมมโมรี่การ์ด , ลำโพงหน้า , เซ็นเซอร์ และกล้องหน้าครับ ที่ว่ามาทั้งหมด เพื่อนๆคิดว่ารุ่นนี้ ถ้าเข้าไทยมาขอแก้มือให้ LG G5 เมื่อปีที่แล้ว เพื่อนๆยังสนใจจะซื้อ G6 มาเป็นเจ้าของอยู่มั้ย? เชิญแสดงความเห็นไว้ใต้ข่าวได้เลยจ้า

from:https://www.appdisqus.com/2017/01/27/everything-about-leaked-news-about-lg-g6.html

LG เผยผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายของปี 2016 โดยรวมดูดีขึ้น ยกเว้นในส่วนธุรกิจมือถือ

LG Electronics รายงานผลประกอบการบริษัทในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว ตัวเลขโดยรวมอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ยกเว้นกลุ่มธุรกิจสมาร์ทโฟน ที่ยังต้องฝากความหวังไว้กับเรือธงรุ่นถัดไป

ไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา LG ทำรายได้ 14.78 ล้านล้านวอน หรือราว 4.46 แสนล้านบาท ผลกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 1.34 ล้านล้านวอน หรือราว 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า และความบันเทิงภายในบ้าน ขณะที่กลุ่มธุรกิจสมาร์ทโฟนค่อนข้างผิดหวังกับ LG G5

ในส่วนของธุรกิจ Mobile Communications (MC) มีอัตราการเติบโตขึ้น 15% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว ซึ่งต้องขอขอบคุณ LG V20 ที่ขายดีในช่วงฤดูกาลวันหยุด สร้างยอดจำหน่ายได้ทั้งสิ้น 14.1 ล้านเครื่อง เติบโตขึ้น 4% เมื่อเทียบแบบไตรมาสต่อไตรมาส แต่ยังลดลง 8% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี อัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 2.9 ล้านล้านวอน หรือราว 8.76 หมื่นล้านบาท

LG ฝากความหวังไว้กับเรือธงรุ่นใหม่ LG G6 โดยมีกำหนดการเปิดตัวในงาน Mobile World Congress 2017 ปลายเดือนหน้า ก่อนจะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2017 และหวังว่าจะนำตำแหน่งพรีเมี่ยมสมาร์ทโฟนแห่งปีกลับคืนมาให้ได้

ที่มา – Gsmarena

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=171946

AirPods อาจเป็นหูฟังไร้สาย ที่ดีที่สุดสำหรับ Android

หูฟังบลูทูธ AirPods ของ Apple ใช้กับอุปกรณ์ Android ได้หรือไม่? เป็นคำถามที่หลายคนคลางแคลงใจ และในวันนี้มีคำตอบที่ชัดเจนแล้ว คือ ทำได้ AirPods สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Android ได้เหมือนกับหูฟังบลูทูธทั่วไป แต่มันมีอะไรที่ประทับใจมากกว่านั้น ตามรายงานของเว็บไซต์ Android Central ที่ปกติจะเน้นข่าวสารของ Android ยังแนะนำผู้อ่านว่าควรซื้อมาใช้ หลังจากได้ทดลองนำมาใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน LG V20 เป็นส่วนใหญ่ และสลับกับ Google Pixel

การจับคู่ AirPods กับ iPhone ทำได้ง่ายมากๆ แต่เปิดฝากล่องชาร์จแล้วถือให้ใกล้กับ iPhone แต่สำหรับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android มันแตกต่างออกไป เพราะใช้วิธีการเหมือนจับคู่กับหูฟังบลูทูธทั่วไป โดยเปิดการเชื่อมต่อ Bluetooth บนสมาร์ทโฟน จากนั้นกดปุ่มบนกล่องชาร์จ AirPods ค้างไว้จนแสงไฟ LED เปลี่ยนเป็นสีขาว ในสมาร์ทโฟนก็จะแสดงชื่ออุปกรณ์ AirPods ขึ้นมา ซึ่งแหล่งข่าวบอกว่าสมาร์ทโฟนกับ AirPods สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างรวดเร็วกว่าทุกครั้ง

หลังจากทดลองใช้งาน AirPods เว็บไซต์ Android Central พบว่า AirPods ให้รัศมีการเชื่อมต่อที่ไกลกว่าหูฟังบลูทูธทั่วไป หมายถึงสามารถใช้งานเมื่ออยู่ห่างจากสมาร์ทโฟนได้ไกลกว่าหูฟังบลูทูธตัวอื่นๆ ที่เคยใช้งาน

เซ็นเซอร์ Accelerometer ในหูฟังแต่ละข้าง ยังสนับสนุน Gesture บนอุปกรณ์ Android ด้วย สำหรับการใช้งานกับ iPhone เมื่อแตะที่ AirPods สองครั้ง จะเป็นการเปิดใช้งาน Siri แต่สำหรับ Android จะเป็นการกดปุ่ม Play/Pause

AirPods ยังมีจุดเด่นในเรื่องแบตเตอรี่ ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 5 ชั่วโมง หรือ 24 ชั่วโมง เมื่อเก็บไว้ในกล่องชาร์จ และเมื่อนำ AirPods เก็บไว้ในกล่องชาร์จเพียง 10 นาที ก็จะได้รับพลังงานเพิ่มอีก 1 ชั่วโมง

ด้านคุณภาพเสียง Android Central ให้ความเห็นว่า Apple ควรขายมันในราคา 100 ดอลล่าร์สหรัฐ มากกว่า 160 ดอลล่าร์สหรัฐ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันไม่คุ้มค่าที่จะซื้อ ถึงแม้ AirPods อาจจะมีราคาสูงกว่าหูฟังบลูทูธตัวอื่น แต่มันก็มีข้อดีหลายอย่าง โดยเฉพาะความสะดวกสบายในระหว่างสวมใส่ และคุณไม่ควรส่ายหน้าจนกว่าจะได้ลองใช้มัน

ที่มา – Android Central

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=169153

ผลสำรวจล่าสุดพบว่ายังมีผู้ใช้งาน Galaxy Note 7 อยู่ แถมยังมีมากกว่าคนใช้ LG V20 ซะอีก!

ถึงแม้ว่า Samsung ได้ทำการเรียกคืน Galaxy Note 7 จากทั่วโลก และได้หยุดการผลิตโดยถาวรไปเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ แต่ผลการสำรวจล่าสุดจาก Apteligent (บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ) พบว่า ยังคงมีแฟนๆ ที่เหนียวแน่นของ Galaxy Note 7 ดื้อดึงไม่ยอมเอาไปคืน และยังใช้มือถือรุ่นนี้อยู่ในชีวิตประจำวัน

จากการเก็บข้อมูลจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนแบรนด์ต่างๆ โดย Aptelligent ในช่วงครึ่งหลังของปี 2016 พบว่าผู้ใช้ Galaxy Note 7 นั้นยังมีจำนวนมากกว่าผู้ใช้งานเหล่าเรือธงที่เปิดตัวในช่วงปลายปีอย่าง LG V20, HTC Bolt และ OnePlus 3T ซะอีก 

แต่ถ้าเทียบกับมือถือที่เปิดตัวในช่วงเดียวกันอย่าง Google Pixel, Pixel XL และ Sony Xperia XZ ทั้ง 3 รุ่นเรือธงนี้มีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า Note 7 แล้ว (เพราะสาเหตุจากการเรียกคืนนั่นแหละ)

ในช่วงนี้ Samsung ก็จะพยายามลดจำนวนผู้ใช้ Note 7 ลงอีกเรื่อยๆ จนกว่าจะเก็บคืนได้หมด โดยการปล่อยอัพเดทให้เครื่องในประเทศแคนาดา นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ไม่สามารถใช้ Wi-Fi และสัญญาณมือถือได้ และอัพเดทให้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ได้เพียง 30% ในฝั่งยุโรป ส่วนฝั่งอเมริกาจะโดนหนักสุดคืออัพเดทให้เครื่องไม่สามารถชาร์จแบตได้อีกเลย เพื่อให้คนที่ยังทนใชงานอยู่นำเครื่องมาคืนทาง Samsung ซะที

 

ที่มา : Androidauthority 

from:http://droidsans.com/number-of-galaxy-note-7-still-exist-and-higher-than-lg-v20-and-htc-bolt