คลังเก็บป้ายกำกับ: HUAWEI_P30_PRO

ปรับราคา Huawei P30 และ P30 Pro ใหม่ ลดรวดเดียว 7,000 เริ่มต้นแค่ 15,990 บาท กลายเป็นรุ่นสุดคุ้มทันที

Huawei ประเทศไทยประกาศปรับราคาเรือธงพลังซูมอย่าง P30 ซีรี่ส์ ทำให้กลายเป็หนึ่งในรุึ่นเรือธงสุดคุ้มไปในทันที โดย P30 นั้นลดจาก 21,990 บาท เหลือเพียง 15990 บาท และ P30 Pro จาก 31,990 บาท เหลือ 24,990 บาท งานนี้ใครที่กำลังจะจอง iPhone 11 ไปมีลังเลแน่นอน

สำหรับ Huawei P30 นั้นมีขนาดตัวเครื่องที่กำลังพอดีมือ 6.1 นิ้ว พกพาง่ายสบายๆ ช่องหูฟัง 3.5 ยังมีให้ใช้งาน กล้องหลัง 3 ตัว 40 ล้านพิกเซล, กล้องมุมกว้าง Ultra Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และกล้องเลนส์ซูม Optical 3x ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มาพร้อม RAM 8GB + ROM 128GB

ส่วน Huawei P30 Pro นั้นคือมือถือกล้องซูมรุ่นแรกที่มีพลังซูม Optical 5 เท่า, Hybrid 10 เท่า และ Digital 50 เท่า พร้อมโหมดถ่ายพระจันทร์อันเลื่องลือ คือไม่ต้องขายเยอะก็รู้ว่ากล้องเด็ด

ส่วนราคาปรับลดจริงไหม งานนี้ขอแปะโพสต์ของ Huawei Mobile ประเทศไทย ยืนยันไปเลยนะครับ

ส่วนใครยังไม่แน่ใจว่าจะเลือก Huawei P30 หรือ Huawei P30 Pro ยังไงลองมาดูคลิปรีวิวเปรียบเทียบความสามารถของทั้ง 2 รุ่นได้นะ ว่าจะเลือกหยิบรุ่นไหนดี หรือจะไปอ่านเทียบสเปคแบบละเอียดดูก็ได้ครับ

 

from:https://droidsans.com/huawei-p30-price-cut-p30-pro-now-available-for-15990-thai-baht/

งานเข้าพบ Huawei P30 Pro บางเครื่องไม่สามารถใช้งาน Google Pay ได้

เรียกว่าเป็นปัญหาของระบบกันอีกครั้ง เมื่อผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนรุ่น Huawei P30 Pro บางราย ได้รายงานว่า P30 Pro ของเขา ไม่สามารถใช้งานการจ่ายเงินด้วย Google Pay ได้ เหตุเพราะว่า SafetyNet ซึ่งเป็นบริการตรวจเช็คเครื่องและซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ของ Google นั้นตรวจให้เครื่อง Huawei P30 Pro ไม่ผ่านเกณฑ์
โดยปัญหาถูกพบครั้งแรกโดยผู้ใช้งานนาม Paul O’Brien ผู้พัฒนา app ในประเทศอังกฤษ โดย Paul O’Brien ได้ตั้งข้อสังเกตว่า“ ” Huawei P30 Pro ของเขาเคยผ่านระบบ SafetyNet มาก่อนโดยไม่มีปัญหา จึงสามารถเรียกใช้ Google Pay ได้ แต่ก็พบปัญหาภายหลัง และมีผู้ใช้ P30 Pro รายอื่นรายงานประสบการณ์ที่คล้ายกันใน Twitter อย่างไรก็ตามปัญหาดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ทุกคน ใน Twitter บางคนรายงานว่าไม่มีปัญหาใด ๆ แม้ว่าพวกเขาจะใช้ซอฟต์แวร์รุ่นเดียวกันกับ O’Brien ก็ตาม
ที่ปรกติแล้ว Huawei P30 Pro จะไม่ได้อยู่ในการโดนแบนจากระบบ Huawei ทำให้เป็นเรื่องไม่ปรกติอย่างแน่นอน ซึ่งทางต้นสังกัดอย่างบริษัท Huawei ก็ออกมายืนยันแล้วว่าได้ทราบปัญหาแล้ว และตอนนี้แจ้งทางทางค่ายได้ Android Authority มาว่าได้ติดต่อประสานงานกับ Google เพื่อหาทางแก้ไขปัญหานี้แล้ว ดังนั้นผู้ใช้งาน Huawei P30 Pro สบายใจได้

ข่าว: งานเข้าพบ Huawei P30 Pro บางเครื่องไม่สามารถใช้งาน Google Pay ได้ มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2019/10/06/huawei-p30-pro-units-are-now-failing-safetynet.html

ทดสอบกล้อง iPhone 11 Pro ดีขึ้นกว่า Xs แค่ไหน เทียบกับ Galaxy Note 10+ หรือ Huawei P30 Pro ได้หรือยัง

มาเจอกันอีกรอบเป็นประจำทุกปี หลังจาก iPhone ตัวใหม่ออกมา ซึ่งรอบนี้ iPhone 11 ก็ได้ใส่เลนส์มุมกว้างมากับเค้าสักที รวมไปถึงโหมดถ่ายภาพแสงน้อย ส่วนเลนส์ซูมก็ยังมีให้เหมือนเดิม (ยกเว้น iPhone 11 ที่ตัดออกไป) ทีนี้เราจะมาดูกันดีกว่า ว่ารอบนี้ iPhone จะทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมขนาดไหน และเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วจะเป็นอย่างไร

ทดสอบกล้อง iPhone 11 Pro เทียบกับตัวอื่น ดีขึ้นขนาดไหน หลายสภาพแสง

ในรอบนี้ เราจะทดสอบกันเฉพาะภาพนิ่งนะครับ ในหลายๆสภาพแสงดังนี้

  • สภาพแสงกลางแจ้ง
  • สภาพแสงในร่ม
  • สภาพแสงน้อย
  • โหมดถ่ายภาพบุคคล (ทั้งกลางแจ้งและแสงน้อย)
  • กล้องหน้า (ทั้งกลางแจ้งและในร่ม)

ทั้งหมดนี้ทางเราจะขึ้นรูปเทียบให้ดู โดยจะไม่ได้ตัดสินใดๆ แต่จะมีชี้จุดให้ดูบางจุด รวมไปถึงบรรยายบรรยากาศของจริงว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้ผู้อ่านตัดสินใจด้วยตัวเองอีกทีครับ ทุกรูปจะเรียงเหมือนกันทั้งหมดนะครับคือ

iPhone 11 Pro Max | Galaxy Note 10+ | Huawei P30 Pro | iPhone XS Max

เอาล่ะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า..

สภาพแสงกลางแจ้ง

รูปที่ 1: รูปนี้เป็นสภาพแสงกลางแจ้ง ตามแสงปกติ รูปนี้ดูความคมชัดของเลนส์ได้ครับ ลองโหลดดูภาพใหญ่แล้วซูมเข้าไปเทียบเลยครับ




เรื่องสี ทำออกมาได้ใกล้เคียงกัน แต่ถ้าจะให้บอกว่ารูปไหนสีตรงจริงกับตาเห็นที่สุด ก็คือ iPhone 11 Pro Max ครับ

 

รูปที่ 2: รูปนี้เป็นแสงกลางแจ้ง แต่ถ่ายจากในร่ม เนื่องจากรูปนี้มีความต่างของแสงค่อนข้างมาก ในร่มกับกลางแจ้ง จึงทำให้รูปนี้มีแนวโน้มว่ากล้องจะใช้ HDR แล้วเราจะดูว่าแต่ละตัวสามารถทำออกมาได้เป็นอย่างไร




จะเห็นได้ว่ารูปจาก iPhone 11 Pro Max มีความธรรมชาติดีที่สุด ส่วน iPhone Xs Max จะติดสีอมฟ้าเขียวนิดๆๆ ส่วนของ P30 Pro จะสดเข้มมาก แต่ Note 10+ จะเห็นว่าขอบๆของรูปปั้นคนทางซ้ายมีอาการขึ้นขอบจะดูเหมือนเป็นรัศมีของแสงรอบๆรูปปั้นครับ

 

รูปที่ 3: รูปนี้เป็นรูปกลางแจ้ง แต่มุมแสงจะกึ่งๆย้อนแสงนิดๆ และมีความเปรียบต่างของแสงอยู่พอสมควร ให้ลองดูสีของภาพดูครับ




จะเห็นว่า iPhone 11 Pro Max จะอมเขียวนิดๆ ส่วน Note 10+ อมแดงนิดๆ ส่วน P30 Pro จะออกฝ้าๆกว่าตัวอื่น เหมือนว่าเป็นผลจากแสงที่ย้อนเข้ามากระทบตัวเลนส์ ส่วน iPhone Xs Max จะอมฟ้านิดๆ แต่โดยรวม iPhone 11 Pro Max ก็สีตรงกับตาเห็นที่สุดครับ

 

รูปที่ 4: รูปนี้เป็นรูปกลางแจ้ง ต้นไม้ใบหญ้า มาดูความคมชัดและดูเรื่องสีกันครับ




รูปนี้สีต้นหญ้าใบไม้จาก P30 Pro จะดูตรงกับตาเห็นที่สุดครับ ถึงจะอมเขียวเกินจริงไปนิดๆก็ตาม ส่วน iPhone จะออกอมเหลืองมากไป เลยทำให้สีใบไม้เหมือนเหมือนจะแห้งเกินไป ส่วน Note 10+ สดเข้มเกินจริงไปครับ

สภาพแสงในร่ม

รูปที่ 5: รูปนี้เป็นสภาพแสงในร่ม ในห้าง รูปนี้มีมุมกว้างให้ดูด้วย ในกลุ่มนี้ จะมีเพียง iPhone Xs Max ตัวเดิมที่ยังไม่มีเลนส์มุมกว้างมาให้







เรื่องสี จุดที่เห็นคือเครื่องความนิ่งของสี ของ P30 Pro สีระหว่างกล้องปกติกับกลัองมุมว้างต่างกันอยู่ แต่กับ iPhone 11 Pro Max และ Note 10+ สีของทั้งสองเลนส์ออกมาใกล้เคียงกัน ส่วนเรื่องความคมชัด จะเห็นว่าเลนส์มุมกว้างของ iPhone 11 Pro Max จะไม่คมชัดเท่ากับเลนส์ปกติ หรือไม่คมชัดเท่ากับเลนส์มุมกว้างของตัวอื่นๆครับ

 

รูปที่ 6: จะมีรูปมุมปกติและมุมกว้างคล้ายๆรูปที่ 5 ครับ







จะเห็นว่าเลนส์มุมกว้างของ iPhone 11 Pro Max จะมีปัญหาเรื่องความคมชัดเล็กนิดหน่อย คือความคมชัดจะสู้เลนส์ช่วงปกติไม่ได้ ส่วน P30 Pro ก็ยืนยันเรื่องสีที่ไม่นิ่งระหว่างเลนส์มุมปกติและเลนส์มุมกว้าง รวมไปถึง P30 Pro ดูเหมือนจะมีปัญหาถ้าเกิดมีแสงมาโดนหน้าเลนส์เต็มๆ จะทำให้สีของภาพมีความเปรียบต่างของภาพ (Contrast) ลดลง

 

รูปที่ 7: รูปนี้เป็นรูปถ่ายในร่ม แต่ว่ามีความสว่างของด้านนอกที่แตกต่างจากได้ในมาก รูปนี้เพื่อจะดูว่าไดนามิกเรนจ์จะดีแค่ไหน หรือพูดง่ายๆก็คือภาพจะเก็บรายละเอียดในส่วนมืดและส่วนสว่างได้ดีแค่ไหน ระบบ HDR จะทำออกไมได้ธรรมชาติหรือไม่




จะเห็นว่าถ้าดูเรื่อง ไดนามิกเรนจ์ ของ iPhone Xs Max จะสู้คนอื่นไม่ได้ ส่วน Note 10+ จะเก็บรายละเอียดได้ดีที่สุด แต่ถ้ามาดูเรื่องความเป็นธรรมชาติ ภาพจาก Note 10+ จะดูผิดธรรมชาติไปนิด แต่ภาพจาก iPhone 11 Pro Max กับ P30 Pro ทำออกมาได้ธรรมชาติกว่า

 

รูปที่ 8: รูปนี้ถ่ายในล็อบบี้โรงแรม เป็นแสงภายในโทนอุ่น มีมุมกว้างเพื่อเปรียบเทียบความคมชัดเพิ่มเติม รวมไปถึงโทนสีเมื่อเทียบกับเลนส์มุมปกติ







มาดูเรื่องโทนสีมุมกว้างกันก่อน จะเห็นว่าโทนสีมุมกว้างของ P30 Pro ไม่เหมือนกับช่วงเลนส์มุมปกติ ส่วนเรื่องความคมชัดมุมกว้างของ iPhone 11 Pro Max ยืนยันได้ว่าไม่คมเท่าช่วงเลนส์ปกติ และเรื่องสุดท้าย ไดนามิกเรนจ์ ถ้ามองดูที่นาฬิกาตรงกลางอันขวา และโคมไฟทางซ้ายสุดแถวๆเค้าเตอร์ และโคมไฟติดเพดานทางขวา จะเห็นว่ามีเพียง iPhone 11 Pro Max และ Note 10+ เท่านั้นที่ยังเห็นรายละเอียดข้างในอยู่

 

รูปที่ 9: รูปนี้รูปถ่ายในห้อง มีแสงส่องลงมาที่รูปปั้นโดยตรง รูปนี้อยากให้ดูความเปรียบต่างของภาพโดยรวม รวมไปถึงรายละเอียดที่ตัวรูปปั้นที่โดนแสงส่องลงมาเต็มๆว่ายังสามารถเก็บรายละเอียดได้อยู่หรือไม่




จะเห็นว่า P30 Pro จะค่อนข้างเร่งความเปรียบต่างของแสงมาก (Contrast จัด) สิ่งที่ตามมาก็คือส่วนมืดจะไม่ค่อยเห็นรายละเอียด และส่วนสว่างบนตัวรูปปั้นมีส่วนที่รายละเอียดหายไปอยู่บ้าง ซึ่งตัวอื่นๆไม่เป็น

สภาพแสงน้อย

รูปที่ 10: เริ่มรูปสภาพแสงน้อยกันล่ะครับ รูปนี้จะมีทั้งถ่ายปกติและโหมดแสงน้อย รวมไปถึงมีมุมกว้างด้วย มาดูกันเลย

ภาพจะเรียงเป็น [Auto > Night > Wide] ของแต่ละรุ่นก่อนนะครับ












อย่างแรกก็คือ iPhone ในเลนส์มุมกว้าง จะไม่มีโหมดถ่ายภาพกลางคืน ส่วนเรื่องภาพ ก็ต้องบอกว่าโหมดกลางคืนทำออกมาได้ตามมาตรฐาน ส่วนเรื่องเลนส์มุมกว้างของ iPhone 11 Pro Max ก็ไม่คมชัดเหมือนกับรูปอื่นๆที่ผ่านมา และถ้ามาดูเรื่องสี จะเห็นว่า iPhone 11 Pro Max ออกจะอมเหลืองกว่าที่ตาเห็นไปนิด ทีนี้มาดูภาพของ P30 Pro กลายเป็นว่าโหมดถ่ายภาพกลางคืน ออกมาสว่างจะผิดธรรมชาติเกินไปนิด กลับกลายเป็นว่าถ่ายโหมดปกติออกมาดูดีกว่า แล้วจุดที่สังเกตคือ โหมดถ่ายภาพกลางคืนของ iPhone 11 Pro Max และ Note 10+ จะเปิดชัตเตอร์น้อยกว่า P30 Pro ประมาณ 3 เท่า นั่นก็คือ iPhone 11 Pro Max กับ Note 10+ ใช้เวลาเปิดชัดเตอร์ประมาณ 2 วินาที เทียบกับ P30 Pro ที่เปิดชัตเตอร์ประมาณ 6 วินาที

 

รูปที่ 11: รูปนี้จะถ่ายผ่านกระจก โดยแปะโทรศัพท์ติดกระจกไว้ ซึ่งจะทำให้โทรศัพท์อยุ่นิ่งมากๆ ไม่มีการสั่น มาดูกันเลย

ภาพจะเรียงเป็น [Auto > Night] ของแต่ละรุ่นครับ







ภาพนี้ลองดูความคมชัดและ Noise แต่จุดที่อยากให้สังเกตอีกที คือ iPhone และ Note 10+ ในโหมดกลางคืน เปิดชัดเตอร์ประมาณ 5 วินาที แต่ของ P30 Pro เปิดชัตเตอร์นานนึง 16 วินาที อาจะเป็นเพราะจับได้ว่ากล้องไม่มีการสั่นใดๆ เลยเปิดชัตเตอร์นานขนาดนั้น

ภาพถ่ายบุคคล

รูปที่ 12: มาดูภาพถ่ายบุคคล ในโหมดปกติ (ไม่ใช้โหมดภ่ายภาพบุคคล) โดยภาพนี้ เด็กจะอยู่ในส่วนร่มของตัวบ้าน แต่สนามด้านหลังจะโดนแดดเต็มๆ ซึ่งจะดูว่าการทำให้ภาพสมดุลระหว่างบุคคลในส่วนร่มเงา และสนามในส่วนกลางแดดทำออกมาได้ดีขนาดไหน




ภาพนี้ถือว่าท้าทายพอสมควร มาดูกันทีละภาพเลยละกันครับ ของ iPhone Xs Max ก่อน ภาพจะออกมาแทบจะตรงกับที่ตาเห็น โดยแทบจะไม่มีการปรับภาพเด็กให้สว่างขึ้น แต่กับ iPhone 11 Pro Max ก็ตรงกับที่ตาเห็น แต่เหมือนว่าตัวเด็กจะมีการปรับให้สว่างขึ้นนิดๆ ซึ่งยังดูธรรมชาติสมจริงตามสภาพแสงอยู่ แต่พอมาดู Note 10+ จะเห็นได้ชัดว่าตัวเด็กมีการเร่งความสว่างขึ้นมามากพอสมควร ซึ่งหลายๆคนอาจจะชอบ เพราะเด็กไม่มืด แต่ก็ผิดธรรมชาติแสงไปนิด ส่วน P30 Pro มีการปรับภาพอย่างมากโดยการเร่งคอนทราสและปรับสีพอสมควร ซึ่งอาจจะถูกใจหลายๆคน แต่ความธรรมชาติอาจจะไม่เหลืออยู่เท่าไหร่ครับ

 

รูปที่ 13: เป็นภาพถ่ายคล้ายๆรูปที่ผ่านมา แต่ถ่ายในสภาพแสงน้อยในอาคาร




ถ้าเทียบกันระหว่าง iPhone Xs Max กับ iPhone 11 Pro Max ก่อน จะเห็นว่า iPhone 11 Pro Max ก็ทำได้ดีกว่าเดิมนิดหน่อย ส่วน Note 10+ ก็จะออกอมแดงไปนิดๆ ส่วนเรื่อง Noise ของ iPhone จะมี Noise มากกว่า แต่ก็มีรายละเอียดที่มากกว่าเช่นกัน ลองดูที่คิ้วของนายแบบสุดหล่อของเราได้ ภาพจาก Note 10+ และ P30 Pro จะไม่เหลือรายละเอียดหลงเหลืออยู่เลย เพราะโดนเกลี่ย Noise จนหลายเกลี้ยง ทีนี้ก็แล้วแต่ว่าใครจะชอบแบบไหนกันล่ะครับ

 

รูปที่ 14: เป็นภาพถ่ายบุคคลในสภาพแสงน้อยสุดๆ โดนถ่ายในโหมดปกติและโหมดถ่ายภาพกลางคืนเทียบกันด้วย

ภาพเรียงเป็น [Auto > Night] นะครับ ส่วนของ iPhone Xs Max จะไม่มีโหมด Night เลยจะมีอยู่แค่ภาพเดียว







ภาพนี้ยืนยันได้ว่าในสภาพแสงน้อยสุดๆแบบนี้ P30 Pro ทำออกได้ดีมาก โดยที่ไม่ต้องเปิดโหมดถ่ายภาพกลางคืนเลยด้วยซ้ำ ส่วนภาพในโหมดกลางคืน P30 Pro รายละเอียดและความธรรมชาติก็ออกมาดีที่สุดเช่นกัน ถึงสีจะออกอมเหลืองเขียวนิดๆก็ตาม แต่สภาพแสงจริงๆก็อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ (แสงน้อยจนตามองไม่เห็นสีแล้ว) ส่วนสีจาก iPhone ในโหมดถ่ายภาพกลางคืนรูปนี้ ดูธรรมชาติกว่าของ Note 10+ ครับ

 

รูปที่ 15: ทีนี้มาดูโหมดถ่ายภาพบุคคลบ้าง (หน้าชัดหลังเบลอ) รูปนี้เป็นรูปถ่ายตามแสง (ไม่ย้อนแสง) แต่แสงที่ฉากหลังจะสว่างกว่าด้านหน้านิดหน่อยเท่านั้น รูปถ่ายภาพบุคคลทั้งหมดจาก P30 Pro จำเป็นจะต้องถ่ายโดยใช้โหมดซูม 2 เท่า เพื่อต้องการถ่ายจากตำแหน่งเดียวกันนะครับ เลยจะให้ดูเรื่องสีและการละลายฉากหลังมากกว่าดูความคมชัดนะครับ




จุดที่ดูอย่างแรกคือความเนียนในการละลายฉากหลัง ซึ่ง iPhone ยังไม่สามารถละลายฉากหลังตรงช่องว่างระหว่างมือขวาบนแก้มกับฉากหลังได้เนียนเท่าไหร่ แต่ข้อดีคือการละลายฉากหลังมีเอกลักษณ์เฉพาะ คือจะดูละลายเป็นวงๆ คล้ายๆกับเลนส์ดีๆ ส่วน Note 10+ ข้อดีการการละลายฉากหลังทำได้เนียน โดยลองดูจากการไล่ละดับการละลายฉากหลังบนพื้นหลังตัวแบบ ซึ่งจะมีการไล่ละดับการเบลอด้วย ถือว่าทำได้เนียนที่สุด แล้วเราสามารถเลือกเอกลักษณ์การละลายฉากหลังได้ตอนถ่ายว่าจะเอาแบบไหนอีกด้วย ส่วน P30 Pro ก็ถือว่าทำได้เนียนกว่า iPhone แต่ยังไม่เท่า Note 10+

ทีนี้มาดูเรื่องสีบ้าง ของ iPhone ออกมาธรรมชาติตรงจริงสุด แต่ของ Note 10 มีการเร่งสีแดงไปหน่อย ส่วน P30 Pro มีการปรับทั้งโทนสีแดงของเสื้อให้ออกแดงชืดๆ แล้วปรับสีผิวให้อมเลืองแดง และปรับโทรสีใบไม้ให้เข้ม และเร่งคอนทราสทั้งภาพให้จัดขึ้นมา จนความเป็นธรรมชาติแทบไม่เหลืออยู่ในภาพเลยครับ

 

รูปที่ 16: รูปนี้มาลองดูความเนียนของการละลายฉากหลังกันครับ




จะเห็นว่า iPhone จะมีปัญหากับช่องว่างระหว่างตัวแบบกับฉากหลัง ให้สังเกตรางช่องว่างใต้แขน จะเห็นว่าของ iPhone จะมองว่าตรงนั้นเป็นเสื้ออยู่ เลยไม่ละลายให้ แต่กับของ Note 10+ และ P30 Pro ยังสามารถละลายฉากหลังตรงช่องว่างตรงนั้นได้ถูกต้องอยู่ครับ แต่ของ Note 10+ ยังดีกว่า P30 Pro อีกก็คือตรงราวรั้วกั้นหลังแบบ ซึ่ง P30 Pro จะละลายออกไปด้วย แต่ Note 10+ รู้ว่าราวตรงนั้นอยู่ติดกับแบบ เลยไม่ละลายให้ แต่ละลายเฉพาะฉากหลังที่อยู่ไกลออกไป

 

รูปที่ 17: เป็นภาพถ่ายบุคคลในสภาพแสงน้อย




รูปนี้ถือว่าท้าทายเช่นกัน เพราะแสงน้อย ลองดูสีและ Noise ดูครับ จะกลายเป็นว่า iPhone 11 Pro Max ภาพออกมีดูธรรมชาติที่สุดครับ และก็ดีกว่า iPhone Xs Max ขึ้นมาอีกประมาณนึงครับ

 

รูปที่ 18: เป็นภาพถ่ายบุคคลในสภาพแสงน้อยเช่นกัน




รูปนี้ก็จะคล้ายๆภาพที่แล้ว แต่ของ P30 Pro ทำได้ดีขึ้น ส่วนภาพจาก Note 10+ ออกมาค่อนข้างเบลอทุกรูปครับ

 

รูปที่ 19: จะเป็นการถ่ายภาพจากกล้องหน้าแล้วนะครับ เริ่มที่สภาพแสงกลางแจ้งกันก่อนเลย




ทั้งหมดจะปิดโหมดบิวตี้ทั้งหมดนะครับ จุดที่จะให้ดูจะเป็นเรื่องความถูกต้องของสี เสื้อคือสีม่วง ซึ่งม่วงจาก iPhone 11 Pro Max ออกมาตรงจริงที่สุดครับ ส่วนของ Note 10+ จะอมแดงอมชมพูขึ้นอีกนิด ส่วนของ P30 Pro กลายเป็นสีผสมกันไปเลย เสื้อสีม่วงกลายเป็นน้ำเงินอมม่วงไปเลย ส่วนเรื่องรายละเอียดตัดสินตามความชอบได้เลยครับ

 

รูปที่ 20: จะเปลี่ยนสภาพแสงเป็นอยู่ในร่มแต่มีแสงจากข้างนอกเข้ามาพอประมาณ




มาดูที่สีกันก่อน ภาพจาก iPhone จะอมเหลืองนิดๆ ส่วน Note 10+ จะอมแดง ส่วนของ P30 Pro สีออกมาธรรมชาติที่สุดครับ

 

รูปที่ 21: สภาพแสงจะน้อยลงไปอีก คืออยู่ในอาคาร แต่มีแสงจากด้านนอกเช้ามานิดเดียว




ก็ยังเหมือนรูปที่แล้ว คือ iPhone อมเหลืองนิดๆ Note 10+ อมแดงแต่น้อยมาก น้อยกว่ารูปที่แล้วพอสมควร ส่วน P30 Pro ตรงที่สุดครับ

 

สรุป เปรียบเทียบกล้อง iPhone 11 Pro Max

เมื่อเทียบกับ Galaxy Note 10+ และ Huawei P30 Pro และ iPhone Xs แล้ว ต้องบอกว่าเมื่อเทียบ iPhone 11 Pro Max กับ iPhone Xs Max ก่อน ซึ่งไม่มีจุดไหนเลยที่แย่ลง (แน่นอนล่ะ ไม่ควรแย่ลงอยู่แล้ว) แต่โดยรวมยังถือว่ายังคล้ายๆเดิมอยู่ แต่สิ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิมมีดังนี้

  • มีโหมดถ่ายภาพมุมกว้างแล้ว
  • มีโหมดถ่ายภาพกลางคืนแล้ว ซึ่งจุดนี้ทำได้ดีกว่าเดิมมากและชัดเจนที่สุด และทำให้สู้กับคู่แข่งเจ้าอื่นๆได้ซะที
  • ปรับปรุงการถ่ายภาพในที่แสงน้อยให้ดีขึ้น ถึงไม่ใช้โหมดถ่ายภาพกลางคืนก็ตาม (ดีขึ้นประมาณ 10%)
  • ปรับปรุงไดนามิกเรนจ์ให้ดีขึ้น (ดีขึ้นประมาณ 5%)
  • ปรับปรุงเรื่องความถูกต้องของสีให้ดีขึ้น (ดีขึ้นประมาณ 5%)

และเมื่อเทียบ iPhone 11 Pro Max กับ Note 10+ และ P30 Pro

  • เลนส์มุมกว้าง ความคมชัดต่ำกว่าคู่แข่งแบบชัดเจน และไม่สามารถ่ายมุมกว้างแบบ Night mode ได้
  • การเบลอฉากหลังยังไม่เนียนเท่าคู่แข่ง โดยเฉพาะปัญหาช่องว่างภายในตัวแบบ มักจะมีปัญหาไม่เบลอไปด้วย
  • แต่โดยรวม ถือว่าทำเรื่องความถูกต้องของสีได้ดีกว่าคู่แข่ง

แล้วผู้อ่านคิดยังไงกันบ้างครับ ชอบหรือไม่ชอบตัวไหนยังไง คอมเมนท์มากันได้นะครับ อยากรู้ว่าคิดยังไงกันบ้างครับ

from:https://droidsans.com/camera-comparison-iphone-11-pro-max-galaxy-note-10-plus-huawei-p30-pro-iphone-xs-max/

Huawei P30 Pro มียอดจัดส่ง 16.5 ล้านเครื่อง ในช่วงเวลา 6 เดือน แต่ยังน้อยกว่า iPhone XR

Huawei ประกาศว่าสมาร์ทโฟนระดับเรือธง Huawei P30 Pro มียอดจัดส่ง 16.5 ล้านเครื่อง ในช่วงเวลา 6 เดือน โดยไม่ได้นับรวมกับรุ่น P30 และ P30 Lite ที่ทีราคาถูกกว่า นับเป็นยอดจัดส่งที่ดีที่สุดของ P series เท่าที่เคยมีมา และยังช่วยให้ยอดขายทั่วโลกเติบโตขึ้น 53%

อย่างไรก็ตาม ยอดจัดส่ง 16.5 ล้านเครื่อง ของ Huawei P30 Pro ยังเทียบไม่ได้กับ iPhone XR ตามรายงานของ IHS Markit พบว่า iPhone XR มียอดจัดส่ง 26.9 ล้านเครื่อง ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ โดยแบ่งเป็น 13.6 ล้านเครื่อง ในไตรมาสแรก และ 13.3 ล้านเครื่อง ในไตรมาสที่สอง

ในโอกาสนี้ Huawei ยังพยายามกระตุ้นยอดขาย Huawei P30 Pro ด้วยการออกสีสันใหม่เพิ่มอีก 2 สี คือ Mystic Blue และ Misty Lavender และมาพร้อม EMUI 10 ซึ่งทำงานบนพื้นฐาน Android 10 แต่น่าแปลกใจที่ Huawei ไม่ได้นำยอดจัดส่งรุ่น P30 และ P30 Lite มานับรวมด้วย

ที่มา – Wccftech
https://www.flashfly.net/wp/266224

from:https://www.flashfly.net/wp/266224

Huawei P30 Pro เปิดตัวสีสันใหม่ Mystic Blue และ Misty Lavender มาพร้อม EMUI 10

Huawei เปิดตัวสีสันใหม่ของสมาร์ทโฟนเรือธง Huawei P30 Pro โดยมีสีสันแบบทูโทน คล้ายกับ Pixel 3 ของ Google พื้นผิวส่วนบนมีความมันเงาเหมือนทำมาจากกระจก และส่วนล่างเป็นพื้นผิวด้าน มีให้เลือก 2 สี คือ Mystic Blue และ Misty Lavender

นอกจากสีสันใหม่แล้ว แหล่งข่าวยังพบว่า Huawei P30 Pro สี Mystic Blue และ Misty Lavender ยังมาพร้อมระบบปฏิบัติการ EMUI 10 ที่ทำงานบนพื้นฐาน Android 10

ทั้งนี้ แหล่งข่าวไม่ได้เปิดเผยว่า Huawei P30 Pro สี Mystic Blue และ Misty Lavender จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงเวลาใด

ที่มา – Gsmarena
https://www.flashfly.net/wp/266032

from:https://www.flashfly.net/wp/266032

Huawei เตรียมเปิดตัว P30 Pro สีใหม่สไตล์ Two-tone ในงาน IFA 2019 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 10

ในงานโชว์เครื่องใช้ไฟฟ้าและเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างงาน IFA 2019 ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เห็นมือถือใหม่ซีรีส์ Mate 30 มาเปิดในงานนี้ แต่เราก็จะได้เห็นหูฟังไร้สายพร้อมชิป Kirin ที่ Huawei ปล่อยคลิปออกมาสั้นๆ ก่อนหน้า แถมยังมี Huawei P30 Pro สีใหม่สไตล์ Two-tone พร้อมระบบ Android 10 มาโชว์ในงานนี้ด้วย

มือถือกล้องเทพซีรีส์ Huawei P30 เปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมีจุดเด่นสุดๆ อยู่ที่กล้องหลัง 4 ตัว คุณภาพสูง พร้อมระบบซูมที่ดันระยะออกไปได้ไกลถึง 50 เท่า แถมยังมีสีสันให้เลือกมากมายถึง 5 สี ทั้ง Black, Pearl White, Aurora, Amber Sunrise และ Breathing Crystal

แต่ถ้าใครคิดว่าทั้ง 5 สีนั้น ยังไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ ก็เตรียมรอ Huawei P30 Pro สีใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในงาน IFA 2019 กันได้เลย โดยคราวนี้จะเพิ่มขึ้นมาอีก 2 สี ก็คือสีชมพู Misty Lavender และสีฟ้า Mystic Blue ซึ่งทั้ง 2 สี จะใช้สไตล์แบบ Two-tone แบ่งสีออกเป็น 2 เฉด บน-ล่าง

นอกจากนี้บนป้ายโปสเตอร์ของ P30 Pro สีใหม่ยังบอกเอาไว้อีกด้วยว่า With Android 10 หมายความว่า P30 Pro สีใหม่จะมาพร้อมกับระบบ Android 10 ด้วยนั่นเอง ส่วนข้อมูลที่มีดอกจันบอกว่าไว้ว่าอาจจะมีเวลาในการปล่อยอัพเดท Android 10 ของมือถือแต่ละรุ่นและแต่ละโซนที่แตกต่างกันออกไป ส่วนนี้น่าจะหมายถึงรุ่น P30, P30 Pro และรุ่นอื่นๆ ที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้ามากกว่า

คาดว่า Huawei P30 และ P30 Pro ทั้ง 2 สี จะเริ่มวางจำหน่ายหลังจากนี้อีกราวๆ 2 – 3 สัปดาห์ และราคาก็น่าจะเท่ากับ P30 Pro ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน

 

ที่มา : Androidcentral, Roland Quandt

from:https://droidsans.com/huawei-p30-pro-new-color-ifa-2019/

ชมภาพชัดๆของ Huawei P30 Pro สองสีใหม่ ในงาน IFA 2019

ก่อนหน้านี้มีภาพหลุดงานออกแบบของ Huawei P30 ทีมาพร้อมกับสองสี แบบทูโทน ที่มีความล้ายกับสี ของ Google Pixel 2 XL ออกมาให้ชม แต่เป็นภาพงานออกแบบไม่ใช่ภาพอย่างเป็นทางการ

แต่ล่าสุด ในงาน IFA 2019 ได้มีการเปิดตัวภาพสองสีใหม่ ของสมาร์ทโฟนเรือธงกล้องเทพอย่าง Huawei P30 Pro โดยทั้งสองสีใหม่เรียกว่า สีฟ้า Mystic Blue และและสีชมพู Misty Lavender โดยมีการถ่ายภาพเครื่องจริงๆมาให้ชม และมาแนวสีทูโทน ตามข่าวที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ แต่มีความแตกต่างที่โทนสี ที่แตกต่างจากจากภาพหลุดที่ออกมาก่อนหน้านี้ เพราะไม่ได้คล้ายกับ Google Pixel 2 XL แล้วเพราะมีโทนสีเดียวกับทั้งคู่ แต่จะเล่นระดับของความมันเงาที่ดูแตกต่าง

อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันออกมาว่าทาง Huawei จะนำ P30 Pro สองสีใหม่เข้ามาวางขายในไทยด้วยหรือไม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้เพราะรุ่นเดิมก็มีการเพิ่มสีเข้ามาวางขายในภายหลังเช่นกัน แฟนๆชาวไทยก็รอลุ้นกัน

ข่าว: ชมภาพชัดๆของ Huawei P30 Pro สองสีใหม่ ในงาน IFA 2019 มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2019/09/06/new-dual-tone-designs-huawei-p30-pro.html

ภาพหลุด Huawei P30 Pro สีสันใหม่ Mystic Lavender และ Mystic Blue

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า Huawei P30 จะได้รับ 2 สีใหม่แบบทูโทน และล่าสุด Huawei P30 Pro ก็ถูกลือในลักษณะเดียวกัน และยังถูกเปิดเผยภาพเรนเดอร์ออกมาด้วย

แหล่งข่าวระบุว่า สีสันใหม่ของ Huawei P30 Pro จะถูกเรียกว่าสีม่วง Mystic Lavender และสีน้ำเงิน Mystic Blue โดยมีลักษณะทูโทน คือ มีเฉดสีเข้มกับเฉดสีอ่อน และคาดว่าจะเปิดตัวทางการที่งาน IFA 2019

ทั้งนี้ Huawei P30 Pro ได้รับการเปิดตัวพร้อมกับ P30 ในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีจุดเด่นที่ระบบกล้องหลัง Leica Quad Camera รองรับการซูมแบบ 10x Hybrid Zoom และ 50x Digital Zoom ใช้ชิปประมวลผล Kirin 980 ความจุแบตเตอรี่ 4200mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 40W SuperCharge

ที่มา – WinFuture
https://www.flashfly.net/wp/265742

from:https://www.flashfly.net/wp/265742

ชมภาพงานออกแบบสีแบบทูโทนสำหรับ Huawei P30 ที่คล้ายกับ Google Pixel

สำนักงานสิทธิบัตรยุโรปได้รับการจดทะเบียน ทางเลือกสีใหม่สองรุ่นสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่น Huawei P30 ทีมาพร้อมกับสองสี แบบทูโทน ที่มีความล้ายกับสี ของ Google Pixel 2 XL ที่ดูแตกต่างจากรุ่นหลัก

ส่วนสีที่สอง จะเป็นการไล่ระดับสีเป็นรูปแบบที่แตกต่างกันของ Breathing Crystal ของ P30 ถึงแม้ว่าอาจจะต้องมองใกล้ๆ คุณจะเห็นว่ามันใช้การออกแบบโทนสีคู่

โดย การจดทะเบียนครั้งนี้ ระบุว่า Huawei อาจเปิดตัวสีใหม่อย่างเป็นทางการที่งาน IFA หรือการประกาศเปิดตัว Huawei Mate 30 ก็อาจจะมีการเปิดตัว Huawei P30 Pro สีใหม่ด้วย ส่วนจะมาจริงหรือไม่ก็รอลุ้น แต่ส่วนตัวแล้วถือว่าเป็นอีกโทนสีที่น่าสนใจมากเพราะมีความแตกต่างจากรุ่นเดิมพอสมควร

ข่าว: ชมภาพงานออกแบบสีแบบทูโทนสำหรับ Huawei P30 ที่คล้ายกับ Google Pixel มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2019/08/28/dual-tone-designs-huawei-p30.html

HUAWEI P30 Pro คว้ารางวัล “สมาร์ทโฟนยอดเยี่ยมประจำปี 2019-2020” จาก EISA ,HUAWEI P Series ครองรางวัลหมวดนี้ติดต่อกันสองปีซ้อน

หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป รับรางวัลใหญ่จากสมาคมภาพและเสียงแห่งยุโรป(European Image and Sound Association – EISA) ซึ่งสมาคมฯ ดังกล่าว เป็นการรวมกลุ่ม
ของนิตยสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคที่ได้รับการยอมรับสูงที่สุดในโลก
 55 ฉบับ ในปีนี้ HUAWEI P30 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงของหัวเว่ยได้รับเลือกให้เป็น “สมาร์ทโฟนยอดเยี่ยมประจำปี 2019-2020 ของ EISA (EISA Best Smartphone 2019-2020)” ซึ่งปีนี้นับเป็นปีที่สองติดต่อกันที่หัวเว่ยได้รับรางวัลในสาขานี้

EISA ได้ระบุว่าความสามารถของ HUAWEI P30 Pro ในการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย ถือว่า  “มีคุณภาพดีที่สุดเท่าที่จะหาได้จากสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน” นอกจากนี้ยังได้ยกย่องเลนส์
อัลตร้าไวด์ (Ultra-wide Lens), โหมดถ่ายภาพบุคคล (Portrait mode) และเลนส์เทเลโฟโต้แบบเพอริสโคปพร้อมพลังซูม 5เท่า (The periscopic 5X telephoto Lens) โดยกล่าวว่า “ก้าวล้ำหน้าสมาร์ทโฟนคู่แข่งทุกรุ่น”

“หัวเว่ยรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับรางวัลจาก EISA และปลาบปลื้มกับคำชื่นชมที่ HUAWEI P30 Pro ได้รับในครั้งนี้ เพราะการสร้างสรรค์อุปกรณ์ทุกๆ รุ่นสำหรับหัวเว่ยนั้น ตั้งอยู่บนแนวคิดและความมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ดียิ่งขึ้นในการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนให้แก่ผู้บริโภค จึงส่งผลให้เรามีความพยายามอย่างยิ่งที่จะพัฒนาศักยภาพ เพื่อขยายขีดความสามารถของกล้องถ่ายภาพในสมาร์ทโฟน ด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเสมอ” Li Changzhu, Vice President of the Handset Business, Huawei Consumer Business Group (หลี่ ฉางจู รองประธานธุรกิจโทรศัพท์มือถือหัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป) กล่าว

นอกจากนี้ EISA ยังแนะนำ HUAWEI P30 Pro ในฐานะเพื่อนคู่กายที่ดีเยี่ยมของช่างภาพระดับมืออาชีพอีกด้วย โดยให้ความเห็นว่า HUAWEI P30 Pro คือความก้าวล้ำอีกขั้นในโลกของการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน

HUAWEI P30 Pro ได้สร้างนวัตกรรมอันน่าทึ่งให้กับการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน ด้วยการนำเซ็นเซอร์ HUAWEI SuperSpectrum ที่มาพร้อมกับเลนส์ซูมออพติคัล SuperZoom ตลอดจนเทคโนโลยีใหม่ๆ ของหัวเว่ย อาทิ HUAWEI Time of Flight (ToF) และระบบลดการสั่นไหวของภาพด้วยเทคโนโลยี AI มาใช้อย่างเต็มที่

ระบบ Leica Quad Camera อันเหนือชั้นของหัวเว่ย ประกอบไปด้วยกล้องหลัก 40 ล้านพิกเซล กล้องอัลตร้าไวด์ 20ล้านพิกเซล กล้องเทเลโฟโต้ 8 ล้านพิกเซล มีเทคโนโลยี HUAWEI ToF Camera ซึ่งเป็นกล้องสำหรับการวัดระยะวัตถุด้วยแสง ทำให้ได้ภาพโบเก้สวยงามมีมิติเหมือนมืออาชีพ รวมถึงกล้องหน้าที่พัฒนาไปอีกขั้นบนความละเอียด 32 ล้านพิกเซล

สำหรับเลนส์เทเลโฟโต้แบบเพอริสโคปนั้น มีความสามารถในการซูมแบบออพติคัลได้มากยิ่งขึ้น ในตัวเครื่องขนาดกระทัดรัด โดยไม่สูญเสียคุณภาพของภาพถ่าย เมื่อผสานกับความอิ่มสีที่ได้จากกล้องหลัก 40 ล้านพิกเซล เข้ากับความนิ่งจากระบบลดการสั่นไหว OIS , AIS และเลนส์ SuperZoom ระบบดังกล่าวจึงมอบพลังการซูม 5 เท่าในแบบออพติคัล 10 เท่าในแบบไฮบริด และ 50 เท่าในแบบดิจิทัล โดยให้ความละเอียดสูงและเก็บรายละเอียดของภาพถ่ายไว้ได้อย่างดีเยี่ยม เติมเต็มทุกๆ จินตนาการด้านการถ่ายภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ตัวเครื่องที่งดงามด้วยดีไซน์กระจกโค้ง 3 มิติทั้งสองฝั่ง และหน้าจอ OLED Dewdrop ขนาด 6.47 นิ้ว ของ HUAWEI P30 Pro สามารถป้องกันฝุ่นและน้ำได้เป็นอย่างดี และชิพเซ็ต Kirin 980 
ซึ่งเป็นชิพเซ็ตของอุปกรณ์มือถือแบบ 7nm รุ่นแรกในโลก HUAWEI P30 Pro ยังมาพร้อม แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงถึง4,200 mAh สามารถรองรับการใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 2 วันในการใช้งานโทรศัพท์โดยทั่วไป

สมาชิก EISA ประกอบด้วยสื่อมวลชนจากกว่า 30 ประเทศ ซึ่งเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคทุกประเภท โดยสมาชิกแต่ละรายต่างมีส่วนร่วมในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญของ EISA อย่างน้อย 1 กลุ่มจากจำนวนทั้งหมด6 กลุ่ม ได้แก่ อุปกรณ์ถ่ายภาพ อุปกรณ์สมาร์ทโฟน เครื่องเสียงไฮ-ไฟ    ระบบเสียงโฮมเธียเตอร์ จอภาพและวีดีโอโฮมเธียเตอร์ และเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์

ในแต่ละปี สมาชิกของ EISA จะเสนอรายชื่อผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาเห็นว่ามีประสิทธิภาพโดดเด่น  โดยแบ่งสาขาตามกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ จากนั้นจึงนำเสนอรายชื่อดังกล่าวในการประชุมสามัญประจำปีของ EISA เพื่อให้สมาชิกได้ร่วมกันพิจารณาโดยละเอียด ก่อนจะลงคะแนนเพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลในแต่ละสาขา

การมอบรางวัล “สมาร์ทโฟน ยอดเยี่ยมประจำปี 2019-2020 ของ EISA” ให้กับหัวเว่ย อย่างเป็นทางการ จะมีขึ้นในวันที่ 6 กันยายนนี้ โดยพิธีมอบรางวัล EISA จัดพร้อมพิธีเปิดงานแสดงนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก IFA 2019 (Internationale Funkausstellung 2019) ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี

ข้อมูลสำหรับกองบรรณาธิการ

คำประกาศรางวัลสมาร์ทโฟนยอดเยี่ยมปี 2019 ของ EISA อย่างเป็นทางการ – HUAWEI P30 Pro

“หัวเว่ยได้สร้างความรุดหน้าทางด้านการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนได้อย่างน่าประทับใจอีกครั้ง ด้วยระบบการถ่ายภาพจากกล้อง 4 ตัว ให้ภาพถ่ายในสภาพแสงน้อยมีคุณภาพดีที่สุดเท่าที่คุณจะหาได้จากสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ในขณะที่เลนส์อัลตร้าไวด์ โหมดถ่ายภาพบุคคล และเลนส์เทเลโฟโต้แบบเพอริสโคปพร้อมพลังซูม 5 เท่า เป็นพัฒนาการที่ก้าวล้ำหน้าสมาร์ทโฟนคู่แข่งทุกรุ่น นอกจากนี้ HUAWEI P30 Pro ยังน่าประทับใจด้วยงานประกอบอุปกรณ์ที่สามารถกันน้ำได้อย่างน่าที่ง ตลอดจนหน้าจอที่ดีเยี่ยม ระบบอ่านลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอที่ทำงานได้รวดเร็ว และอายุการใช้งานที่ยาวนานอย่างดียิ่งของแบตเตอรี่ รองรับการชาร์จทั้งแบบใช้สายและแบบไร้สาย เมื่อรวมกับความสามารถในการบันทึกภาพในแบบ RAW พร้อมด้วยพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มีมากถึง 512 กิกะไบต์ ทำให้ HUAWEI P30 Pro เป็นเพื่อนคู่กายที่ดีเยี่ยมของผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพอย่างจริงจัง”

ก่อนหน้านี้ EISA ได้เคยมอบรางวัล “สมาร์ทโฟนยอดเยี่ยมปี 2018 ของ EISA” ให้กับ HUAWEI P20, รางวัล “กล้องสมาร์ทโฟนแห่งปี2017-2018 ของ EISA” ให้กับ HUAWEI P10, รางวัล “อุปกรณ์สวมใส่แห่งปี 2017-2018 ของ EISA” ให้กับ HUAWEI Watch 2 และรางวัล “สมาร์ทโฟนยอดนิยมของผู้บริโภคยุโรปปี 2016-2017 ให้กับ HUAWEI P9

from:https://www.flashfly.net/wp/264024