คลังเก็บป้ายกำกับ: HMD_GLOBAL

เปิดตัว Nokia C110 และ C300 สมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น ราคาประหยัด เริ่มต้นเพียง 3,400 บาท

HMD Global ประกาศเปิดตัว Nokia C110 และ Nokia C300 สมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นรุ่นใหม่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มาพร้อมจอความละอียด HD+ และใช้ชิปเซ็ท MediaTek Helio P22 และ Snapdragon 662 SoC ตามลำดับ

สเปก Nokia C110

Nokia C110

ตัวเครื่องมีขนาด 160.8 x 74 x 8.5 มม. และน้ำหนัก 172 กรัม มาพร้อมหน้าจอแสดงผลทรงหยดน้ำแบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1560 พิกเซล ขนาด 6.3 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 และความสว่าง 400nits

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.0GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek MT6762 Helio P22 (12 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก PowerVR GE8320, RAM 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 12

ติดตั้งกล้องหลัง พร้อมไฟแฟลช LED ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ AF ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

รวมทั้งรองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 b/g/n/ac, dual-band, hotspot, Bluetooth 5.0, GPS, วิทยุ FM, ช่องหูฟัง 3.5 มม., พอร์ต USB Type-C และแบตเตอรี่ความจุ 3,000mAh

ทั้งนี้ Nokia C110 มีสีเดียวคือ สีเทา ราคาเริ่มต้นที่ 99 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3,445 บาท โดยจะวางจำหน่ายในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ผ่านผู้ให้บริการอย่าง Consumer Cellular และ Tracfone รวมถึงร้านค้าปลีกที่เป็นพันธมิตรอย่าง Walmart, Target, Best Buy และ Amazon

สเปก Nokia C300

ตัวเครื่องมีขนาด 166.7 x 76.6 x 8.6 มม. และน้ำหนัก 190 กรัม มาพร้อมหน้าจอแสดงผลทรงหยดน้ำแบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1600 พิกเซล ขนาด 6.52 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และความสว่าง 400nits

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.0GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM6115 Snapdragon 662 (11 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 610, RAM 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 12

ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัส พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วยกล้องหลัก ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ AF, กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องตัวที่ 3 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

รวมทั้งรองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 b/g/n/ac, dual-band, hotspot, Bluetooth 5.0, GPS, วิทยุ FM, ช่องหูฟัง 3.5 มม., พอร์ต USB Type-C และแบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh

ทั้งนี้ Nokia C300 มีสีเดียวคือ สีน้ำเงิน ราคาเริ่มต้นที่ 139 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4,840 บาท โดยจะวางจำหน่ายในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ผ่านผู้ให้บริการอย่าง Consumer Cellular และ Tracfone รวมถึงร้านค้าปลีกที่เป็นพันธมิตรอย่าง Walmart, Target, Best Buy และ Amazon

ที่มา : Gsmarena

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/nokia-c110-and-c300-announced/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=nokia-c110-and-c300-announced

Nokia กลับมาฮิตอีกครั้งหลังกระแส Y2K มาแรง ทำให้ยอดขาย ‘‘ฟีเจอร์โฟนและมือถือฝาพับ’’ สำหรับ Gen Z ในอเมริกาสูงขึ้น

ในช่วงที่ผ่านมาใครหลายคนอาจกำลังอินกับ สมาร์ทโฟน ล้ำ ๆ หรือเทคโน โลยีแบบใหม่ แต่กลับกันสำหรับวัยรุ่น Gen Z  ในอเมริกาคงจะไม่ใช่อีกต่อไป เพราะกระแส Y2K ที่มาแรงทำให้ ‘ฟีเจอร์โฟนและมือถือฝาพับ’ เป็นที่ต้องมากขึ้น เหตุนั้นเองทำให้ Motorola Razr หรือ Nokia คืนชีพอีกครั้ง นอกจากนี้ยังชวยลดการติดสมาร์ทโฟนอีกด้วย

HMD Global ผู้ผลิต Nokia เผยว่ายอดขายโทรศัพท์ ‘ฟีเจอร์โฟนและมือถือฝาพับ’ ในปี 2022 สามารถขายได้มากกว่าหมื่นเครื่องต่อเดือนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งฟังดูย้อนแย้งกลับฟีเจอร์โฟนในตลาดโลกที่กำลังทยอยลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยกลุ่มเป้าหมายเป็น Gen Z ที่อยู่ในช่วงปี 2000 

Gen Z กับกระแส Y2K ที่มาแรงจนหยุดไม่อยู่

เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแส Y2K นั้นมาแรงแค่ไหน ตามข้อมูลจาก Counterpoint ระบุว่ายอดขายฟีเจอร์โฟนส่วนใหญ่คิดเป็น 80% ในปี 2022 มาจากประเทศในแถบตะวันออกกลาง แอฟริกา และอินเดีย โดยคนหนุ่มสาวในอเมริกายังนิยมใช้มือถือเหล่านี้มากขึ้น ไม่ว่าจะนำไปใช้ให้เป็นเทรนด์ หรือเพื่อการบำบัดการเสพติดเทคโนโลยีหรือสื่อสังคมออนไลน์ด้วยการใช้โซเชียลมีเดียให้น้อยลง อย่าง Social Detoxification ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย เพราะที่ผ่านมาเราต่างเห็นความคิดในแง่ลบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการได้รับความคิดเห็นคำวิจารณ์ที่ไม่ดี รวมถึงพฤติกรรมการเสพติดโซเชียลมากจนเกินไป ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งด้านร่างกายและด้านจิตใจค่ะ

โดยฟีเจอร์โฟนมีฟังก์ชันการทำงานพื้นฐานแค่รับส่งข้อความ, ฟีเจอร์กล้องหลัง, GPS หรือฮอตสปอต อีกทั้งยังเป็นเพียงช่องทางให้ผู้ติดต่อที่สนิทที่สุดเท่านั้นถึงจะติดต่อได้ นอกเหนือจากนั้นไม่มีทั้งอีเมลที่ทำงาน การอัปเดต Instagram หรือ feed Facebook และ TikTok มารบกวน สำหรับรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือโทรศัพท์ฝาผับสไลด์หน้าจอ Nokia กับ Motorola Razr

 

 

ที่มา : The Wall Street Journal

from:https://droidsans.com/nokia-phones-are-on-the-rise-in-the-us-as-gen-z-limits-screen-time/

หลุดภาพเรนเดอร์ Nokia XR30 มือถือ 5G พันธุ์อึด สำหรับสายลุย คาดเปิดตัวราว 17,000 บาท

Nokia เปิดตัวมือถือพันธุ์แกร่งอย่าง Nokia XR20 ไปตั้งแต่ช่วงกลางปี 2021 ตอนนี้ใกล้ครบรอบ 2 ปี แล้ว ก็เลยมีข่าวคราวของรุ่นภาคต่ออย่าง Nokia XR30 หลุดออกมาบ้าง คราวนี้มีทั้งข้อมูลสเปคคร่าว ๆ และภาพเรนเดอร์ตัวเครื่องแบบชัด ๆ ที่เผยดีไซน์ต่างไปจากรุ่นก่อนนิดหน่อยด้วย

รูปร่างหน้าตาของ Nokia XR30 เริ่มจากตรงหน้าจอจะยังคงดีไซน์เดิมด้วยรูกล้องตรงกลางด้านบน และมีขอบจอทั้ง 4 ด้านที่ค่อนข้างหนา นอกจากนี้ทั้งปุ่ม Power และปุ่มปรับเสียงยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม

ด้านหลังที่เปลี่ยนไปก็แค่โมดูลกล้องที่ย้ายไปอยู่ทางด้านซ้าย และเปลี่ยนจากสี่เหลี่ยมจัตุรัสเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเพราะเรียงกล้องเป็นแนวตั้งแทน บริเวณฝาหลังดูแล้วยังเป็นผิวแบบด้าน + ขอบเครื่องโค้งมน และมีโลโก้ NOKIA แปะไว้ตรงกลางเหมือนเดิม ตัวเครื่องมี 2 สี คือ สีดำและสีเขียว


 

สเปคคร่าว ๆ ที่หลุดออกมาก่อนหน้าบอกว่า XR30 จะมากับ RAM 6GB ความจุ 128GB แบตเตอรี่ขนาด 4600 mAh รองรับชาร์จไว 33W กล้องหลังคู่ 64MP + กล้อง Ultrawide 8MP และกล้องเซลฟี่ 16MP แต่ยังไม่มีข้อมูลของชิป และหน้าจอว่าจะขนาดเท่าไหร่

ส่วนมาตรฐานความอึดต่าง ๆ คาดว่าน่าจะเท่ากับ XR20 ทั้งมาตรฐานทางทหาร MIL-STD 810H กันน้ำที่ระดับ IP68 และหน้าจอที่ครอบด้วย Gorilla Glass Victus


 

มีการคาดการณ์ว่ Nokia XR30 อาจเปิดตัวมาในราคาเริ่มต้นที่ 499 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 17,000 บาท และอาจเผยโฉมภายในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ส่วนจะขายประเทศอะไรบ้างต้องรอติดตามกันครับ

 

ที่มา : Nokiamob

from:https://droidsans.com/rugged-phone-nokia-xr30-renders-leaked/

HMD เปิดตัว Nokia G22 มากับจุดเด่นซ่อมด้วยตัวเองได้พร้อมอะไหล่ หน้าจอ 90Hz ชิป Unisoc T606 แบตยาวนานถึง 3 วัน

HMD Global เปิดตัว Nokia G22 โทรศัพท์รุ่นใหม่มีจุดขายซ่อมด้วยตัวเองได้ เพื่อยืดอายุการใช้งานและลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ลง โดยมาพร้อมอะไหล่ชิ้นสำคัญผ่านความร่วมมือกับ iFixit ขายแยกมาให้ตั้งแต่วันแรกที่วางขาย ทั้งหน้าจอ, ฝาหลัง, แบตเตอรี่, และพอร์ตชาร์จ ที่ผู้ใช้งานสามารถซ่อมได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องไปศูนย์ และมากับสเปค Unisoc T606 หน้าจอขนาด 6.52 นิ้ว และอัตรารีเฟรช 90Hz ภายในงาน Mobile World Congress 2023

เป็นมือถืออีกรุ่นที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันเท่าไหร่ในช่วงเวลานี้ โดยร่วมมือกับ iFixit โชว์ จุดขายมากับการซ่อมเครื่องด้วยตัวเองได้ แถมมีอะไหร่ให้ครบ ไม่จำเป็นต้องเข้าศูนย์ให้เสียเวลา เพื่อมุ่งเน้นความยั่งยืนในการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้วัสดุฝาหลังที่ใช้เป็นพลาสติกรีไซเคิล 100% ควบคู่กับการรับประกันและการอัปเดตนานถึง 3 ปี มาพร้อมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 3 วัน ตัวเครื่องจะใช้เวลาประมาณ 5 นาทีในการเปลี่ยนแบต และเปลี่ยนหน้าจอจะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเท่านั้น

มาต่อกันที่สเปคภายใน ตัวโทรศัพท์เป็นเครื่องหน้าจอ 6.52 นิ้ว ความละเอียด HD+  720×1200 พิกเซล อัตราการรีเฟรช 90Hz มีการป้องกัน Gorilla Glass 3 ส่วนกล้องหน้าความละเอียด  8MP มาคู่กับการสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้าง พร้อมกับชิป Unisoc T606 ระดับเริ่มต้น ประกบคู่มากับ Cortex A75 2 คอร์ , Cortex A55 2 คอร์ และ RAM 4GB  ความจุสูงสุด 64GB

ซึ่ง Nokia G22 มีกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล และกล้องหลัก 50MP ประกอบไปด้วยกล้องหลัง 3 ตัว , กล้องมาโคร 2MP ,  เซนเซอร์กล้องจับความลึก 2MP , รองรับ NFC มีช่องหูฟัง ใส่ microSD ได้ กันน้ำระดับ IP52 น้ำหนักเครื่อง 195 กรัม ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 12  ออกแพตช์ความปลอดภัยให้ 3 ปีกับอีก 2 เวอร์ชั่น แบตเตอรี่ 5,050mAh รองรับการชาร์จแบบมีสาย 20W

ราคาและการวางจำหน่าย

จะเริ่มขายในสหราชอาณาจักรตั้งแต่ 8 มีนาคมนี้ ราคา 149.99 ปอนด์ หรือประมาณ 6,300 บาท และวางขายแถบยุโรปบางประเทศ ที่ราคา 179 ยูโร แต่ในประเทศอื่น ๆ ยังไม่ได้มีการระบุชัดเจน และราคาอะไหล่ตอนนี้ นี้ พอร์ตชาร์จ 19.95 ยูโร, จอภาพ 49.95 ยูโร, แบตเตอรี่ 24.95 ยูโร และฝาหลัง 24.95 ยูโร มีด้วยกัน 3 สีได้แก่ชาร์โคล , สีเขียว และสีชมพู ถ้าเข้ามาในบ้านเราเมื่อไหร่จะรีบมาอัปเดตให้เพิ่มเติมทันที

 

ที่มา : Nokia G22

 

 

from:https://droidsans.com/hmd-nokia-g22-repairable-smartphone-ifixit-sustainability/

Nokia C12 ตระกูล C ซีรีส์ พร้อมขาย 2 ก.พ.นี้ เพียง 2,990 บาท ฟังก์ชันครบ ดีไซส์ทันสมัยเกินราคา

เอชเอ็มดี โกลบอล ประเทศไทย เร่งเครื่องเดินหน้าผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน ฟีเจอร์โฟน และแท็บเล็ต ส่ง Nokia C12 ตระกูล C ซีรีส์ พร้อมวางขายทั่วประเทศ 2 ก.พ.นี้ หวังเพิ่มโอกาสเข้าถึงสมาร์ทโฟนฟังก์ชันครบกับคนทุกกลุ่ม ในราคาเพียง 2,990 บาท

ด้วยสเปคที่ดีขึ้น มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ 6.3 นิ้ว คมชัด ความละเอียด HD+ ตอบโจทย์การทำงานและความบันเทิง พกพาสะดวก มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เก่งทั้งภาพที่มีแสงน้อย และโหมดถ่ายภาพบุคคล บนระบบปฏิบัติการ AndroidTM 12 (Go Edition) 

ทั้งนี้ ยังมีเทคโนโลยีใหม่อย่าง Virtual RAM ทำให้คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์การใช้งานระดับสูงได้  ตั้งเป้ากระตุ้นกำลังจับจ่ายสมาร์ทโฟนคึกคัก

Nokia

นายภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เอชเอ็มดี โกลบอล (HMD) เปิดเผยว่า เพื่อขานรับพฤติกรรม และความต้องการผู้บริโภคในตลาด ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวปี 2566 ส่งผลให้สัญญาณตลาดสมาร์ทโฟนเริ่มฟื้นตัว

และปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคนี้สมาร์ทโฟนยังรักษาแชมป์ปัจจัยที่ 5 ที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้เป็นที่ต้องการกลุ่มผู้ใช้ฟีเจอร์โฟนที่ต้องการเปลี่ยนไปใช้สมาร์ทโฟน และกลุ่มที่มีสมาร์ทโฟนอยู่แล้วแต่ต้องการเปลี่ยนเครื่องใหม่

รวมไปถึงในกลุ่มผู้บริโภคทั้งในกลุ่มผู้เริ่มใช้สมาร์ทโฟน เช่น นักเรียน และผู้สูงอายุ ที่ปัจจุบันเพิ่มสัดส่วนมากขึ้น แต่ด้วยราคาสมาร์ทโฟนที่ฟังก์ชันการใช้งานครบ และมีคุณภาพนั้น มาพร้อมกับราคาที่สูง ในขณะที่ผู้บริโภคบางส่วนยังมองหาสมาร์ทโฟนราคาสมเหตุสมผล และมีความคงทน

ล่าสุด HMD ได้นำ Nokia C12 ตระกูล C ซีรีส์ เข้ามาจำหน่ายในตลาดสมาร์ทโฟนประเทศไทย ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 พร้อมกันทั่วประเทศ ผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ในราคาเพียง 2,990 บาท เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกและเป็นการสนับสนุนให้ผู้บริโภคเข้าถึงสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่า คุ้มราคา และใช้งานได้นาน ภายใต้แนวคิด Love it. Trust it. Keep it. 

ทั้งนี้ สมาร์ทโฟน Nokia C12 เป็นน้องเล็ก ตระกูล C ซีรีส์  พกพาสะดวก แต่สเปคเกินราคาตามแบบฉบับของโนเกีย  มาพร้อมหน้าจอที่ตอบโจทย์ในทุกมิติของการใช้งานด้วย LCD ขนาด 6.3 นิ้ว ให้ความคมชัดด้วยความละเอียด HD+ 

ด้านฟังก์ชันการถ่ายภาพ กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส พร้อมโหมด Night Mode และ Portrait Mode เก็บภาพทุกความประทับใจแม้อยู่ในที่แสงน้อย บนระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด AndroidTM 12 (Go Edition) 

พร้อมการติดตั้งชิปเซต Unisoc SC9863A1 ระดับ 8 คอร์ (4x 1.6 GHz + 4x 1.2 GHz) และชิปกราฟิกPowerVR IMG 8322 ด้วยกันนี้เรายังให้ลูกค้าได้ใช้งานแบบเหนือระดับด้วยเทคโนโลยีใหม่อย่าง Virtual RAM ให้คุณสามารถดึงหน่วย ความจำ 2GB มาใช้งานควบคู่กับ RAM บนตัวเครื่องที่มีมาให้แล้ว 3GB ทำให้การเปิดแอปโปรดของคุณเร็วยิ่งขึ้น และ หน่วยความจำภายใน แบบ eMMC 5.1 ขนาด 64GB C12 รองรับการเชื่อม 4G, Wi-Fi b/g/n และBluetooth 5.2 อีกทั้งยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.

ในขณะที่ตัวเครื่องยังคงเน้นดีไซน์เรียบหรู ผลิตด้วยวัสดุโพลีคาร์บอเนต ให้ลวดลายบนพื้นผิวตัวเครื่อง เพิ่มสัมผัสที่ช่วยให้ผู้ใช้จับได้กระชับมือ ขนาดตัวเครื่อง 160.6 x 74.3 x 8.75 มม. และมีน้ำหนักเพียง 177.4 กรัม  สวยหรู เกินราคา พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAhใช้งานได้ยาวนาน ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

และยังมีมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP52 โดย Nokia C12 รองรับการอัปเดตความปลอดภัยต่อเนื่อง 2 ปี  มั่นใจในความปลอดภัย จากการคุกคามข้อมูลไวรัส หรือมัลแวร์ตลอดระยะเวลาการใช้งาน 

Nokia C12 มีให้เลือก 2 สี คือ สีเทาดำ(Charcoal) และสีเขียวมิ้นท์ (Light Mint) เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป ผ่านที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และ Nokia Official Store ช่องทางออนไลน์

อาทิ Shopee : https://shopee.co.th/product/76502199/20471872594/ / Lazada : https://www.lazada.co.th/products/i4381781418.html?spm=a1zawg.24863640.table_online_product.1.61aa4edffBShaS และ JD Central: https://www.jd.co.th/product/69079030.html 

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “Nokia C12” ใหม่ https://www.nokia.com/phones/th_th  

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/nokia-c12-%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b9%e0%b8%a5-c-%e0%b8%8b%e0%b8%b5%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%aa%e0%b9%8c-%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b8%82%e0%b8%b2/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=nokia-c12-%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b9%25e0%25b8%25a5-c-%25e0%25b8%258b%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25aa%25e0%25b9%258c-%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b2

สเปค Nokia C12 มือถือรุ่นเล็กบนระบบ Android 12 Go กันน้ำฝุ่นได้ ราคาราว 4,300 บาท

มือถือ Nokia รุ่นล่าสุด ของปี 2023 คือ C12 ราคาประหยัด จอเล็กเพียง 6.3 นิ้ว แต่เรื่องดีไซน์บอดี้เค้าทำมาอย่างดี ประกอบด้วยชิ้นส่วนทำจากวัสดุ polycarbonate กันการทำตกหรือกระแทก และยังได้มาตรฐานกันน้ำฝุ่น IP52 ที่หาได้ค่อนข้างยากในเรทราคานี้ ส่วนสเปคภายในก็เพียงพอการใช้งานด้วยความจุ RAM 2GB + ROM 64GB และสเปคอื่น ๆ อีกครับ

Nokia C12 design

แบรนด์สมาร์ทโฟน โนเกีย โดย HMD Global ออกมือถือรุ่นใหม่ Nokia C12 ที่มาพร้อมกับจอ LCD ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด HD+ ตัวเครื่องขนาด 160.6 x 74.3 x 8.8 มม. และน้ำหนักไม่มากเพียง 177.4 กรัม

Nokia C12 Screen

ภายในใช้ชิป Unisoc SC9863A1 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 28 นาโนเมตร ประกอบไปด้วยแกน Cortex-A55 จำนวน 8 แกน (4x 1.6GHz + 4x 1.2GHz) และใช้ GPU เป็นตัว PowerVR IMG 8322

Nokia C12 UI software

ด้านหน่วยความจำ Nokia C12 มาพร้อมกับ RAM 2GB ที่สามารถเปิดเพิ่ม Virtual RAM ได้อีก 2GB และความจุ ROM อีก 64GB (eMMC 5.1) แต่น่าเสียดายที่ดูไม่มีที่ใส่ microSD เพื่อเพิ่มความจุได้ครับ

Nokia C12 Side button

รุ่นนี้มีกล้องแค่ 2 ตัว กล้องหลัง 8MP มี Autofocus และแฟลช LED ส่วนกล้องหน้าให้มา 5MP เป็นทรงนอชหยดน้ำ กล้องสเปคเริ่มต้นแต่ก็ยังดีที่มีโหมด Portrait และ Night Mode ถ่ายภาพตอนกลางคืนได้ด้วยนะ

Nokia C12 Camera

C12 รองรับเชื่อมต่อเครือข่าย 4G, Wi-Fi b/g/n, และ Bluetooth 5.2 ตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. แต่ช่องชาร์จเป็น microUSB อยู่ ส่วนความจุแบตไม่เยอะมากมีเพียง 3,000mAh และชาร์จผ่านสายได้ไวสุด 5W ครับ

ดีไซน์เครื่องประกอบด้วยชิ้นส่วน polycarbonate ที่มีเทกซ์เจอร์ช่วยให้จับถือติดมือ กระจกหน้าจอแข็งแกร่งรับกระแทกได้ระดับนึง และที่สำคัญคือได้มาตรฐาน IP52 กันน้ำทนฝุ่นได้ระดับนึง (ฝุ่นเล็ดลอดเข้าไปในอุปกรณ์ได้เล็กน้อย และป้องกันหยดน้ำเบา ๆ)



สเปค Nokia C12

  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด HD+ 720 x 1600
  • CPU : Unisoc SC9863A1
  • RAM : 2GB
  • ROM : 64GB
  • กล้องหลัง : 8MP
  • กล้องหน้า : 5MP
  • การเชื่อมต่อ :  4G, Wi-Fi 802.11 b/g/n, BT 5.2, microUSB 2.0
  • เซนเซอร์ : Accelerometer, proximity, GPS
  • ระบบเสียง : ลำโพง, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • ระบบ Android 12 (Go edition)
  • แบตเตอรี่ : 3000mAh รองรับชาร์จ 5W
  • ขนาด/ น้ำหนัก : 160.6 x 74.3 x 8.8 มม. / 177.4 กรัม

ราคาและการวางจำหน่าย

Nokia C12 มีตัวเลือกสี Charcoal, Dark Cyan, และ Light Mint จะเริ่มวางขายในเยอรมันนีและออสเตรียก่อนในราคา 120 ยูโร หรือราว ๆ 4,300 บาท และคาดว่าจะทยอยนำออกมาวางขายในโซนอื่นด้วยเร็ว ๆ นี้ครับ

 

ที่มา : gsmarena

from:https://droidsans.com/nokia-c12-eu-official-launch/

Nokia T10 แท็บเล็ตจอ 8 นิ้ว รองรับ 4G ใช้โทรได้ เคาะราคาเพียง 5,990 บาท พร้อมวางขาย 16 พ.ย.นี้

หลังจากที่ HMD ในไทยได้เคยนำร่องเปิดตัวแท็บเล็ต Nokia T20 ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาแล้วมีกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด ล่าสุด HMD จึงได้เตรียมส่งแท็บเล็ตรุ่นน้องราคาประหยัดอย่าง Nokia T10 ลงสู่ตลาดเพื่อเจาะกลุ่มคนวัยเรียน และวัยทำงาน มาพร้อมกับสเปคครบครัน จอแสดงผล 8 นิ้ว ใช้ชิปเซ็ต Unisoc T606 พร้อม RAM และ ROM ขนาด 4GB + 64GB ในราคา 5,990 บาทเท่านั้น

Nokia T10 ใช้วัสดุบอดี้แบบพลาสติกโพลีคาร์บอเนตงานประกอบแน่นหนา ทนทาน มีฝาหลังแบบลายเส้นช่วยลดรอยนิ้วมือ และช่วยให้จับถนัดมือไม่ลื่นง่าย ๆ มาในดีไซน์ที่ดูเรียบหรู และพกพาสะดวกเพราะมีน้ำหนักเพียง 375 กรัม บนตัวเครื่องขนาด 208.0 x 123.2 x 9.00 มม. แถมยังได้รับการรับรองมาตรฐาน IPX2 ที่สามารถป้องกันละอองน้ำและเหงื่อด้วย

มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาดกะทัดรัดเพียง 8 นิ้ว ความละเอียด HD (1200 x 800 พิกเซล) รองรับ Widevine L1 ทำให้สามารถรับชม Netflix ได้ในระดับ HD มีลำโพงสเตอริโอพร้อมเทคโนโลยี OZO Playback 360 ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังรองรับฟีเจอร์ Second Screen ที่สามารถต่อกับคอมพิวเตอร์ PC เพื่อใช้เป็นหน้าจอเสริมได้

ด้านประสิทธิภาพ Nokia T10 มาพร้อมกับชิปเซ็ตประมวลผล Unisoc T606 Octa-core ที่ใช้งานทั่วไปได้ดี และประหยัดพลังงาน พ่วงมาด้วยหน่วยความจำ RAM และ ROM ขนาด 4GB + 64GB รองรับการเพิ่มหน่วยความจำผ่าน microSD card สูงสุด 512GB และยังให้แบตเตอรี่ขนาดจุใจมาที่ 5,250mAh สามารถชาร์จที่กำลังไฟสูงสุด 10W ผ่านพอร์ต USB Type C

Nokia T10 ยังสามารถใส่ซิมการ์ดรองรับ 4G ใช้โทรเข้าออกและรับส่งข้อความ SMS ได้เหมือนโทรศัพท์ อีกทั้งรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5.0 (802.11 a/b/g/n/ac), Bluetooth 5.0 และพอร์ตเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มีกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซลที่สามารถสแกนเพื่อปลดล็อกตัวเครื่องขณะใส่หน้ากากอนามัยได้ และยังมีกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED

Nokia T10 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่การันตีการอัปเกรดระบบปฏิบัติการ 2 ปี และอัปเดตด้านความปลอดภัยเป็นจำนวน 3 ปี และรองรับโหมดสำหรับเด็กอย่าง Google Kids Space ด้วย

สเปค Nokia T10

  • จอภาพ : ขนาด 8 นิ้ว
    – สัดส่วน 16:10
    – ความละเอียด HD (1200 x 800 พิกเซล)
  • ชิป : Unisoc T606
  • RAM 4GB
  • ROM 64GB รองรับ microSD card สูงสุด 512GB
  • กล้องหลัง : 8MP รองรับ Auto Focus
    – แฟลช LED
  • กล้องหน้า : 2MP
  • ลำโพง : 2 ตัว, รองรับ OZO Playback
  • การเชื่อมต่อ :
    – 4G ผ่าน Micro Sim
    – Wi-Fi 5.0 (802.11a/b/g/n/ac)
    – Bluetooth 5.0
    – USB Type-C 2.0
    – พอร์ตเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มม.
  • เซนเซอร์ :
    – Accelerometer
    – Ambient light sensor
    – Proximity sensor
  • แบตเตอรี่ : 5250mAh
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 12, รับประกันอัปเดต 2 เวอร์ชัน
    – รองรับ Google Kids Space
    – รองรับ Google Entertainment Space
  • ความทนทาน : ทนละอองน้ำ IPX2
  • ขนาด : 208 x 123.2 x 9 มม.
  • น้ำหนัก : 375 กรัม

แท็บเล็ต Nokia T10 ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยจะเป็นสีน้ำเงิน Ocean Blue ราคา 5,990 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ผ่านร้านค้า Nokia ช่องทางออนไลน์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

 

ที่มา : อีเมลประชาสัมพันธ์

from:https://droidsans.com/nokia-t10-thai-price/

เปิดตัว Nokia 2780 Flip มือถือฝาพับที่มาพร้อมวิทยุ FM ในตัว

HMD Global ประกาศเปิดตัว Nokia 2780 Flip โทรศัพท์มือถือฝาพับรุ่นล่าสุด ในดีไซน์สุดคลาสสิก พร้อมแผงปุ่มกดคีย์บอร์ด T9 และไม่มีหน้าจอสัมผัส ในราคาไม่ถึง 4 พันบาท

สเปก Nokia 2780 Flip

Nokia 2780 Flip

ตัวเครื่องมีขนาด 202.1 x 58 x 11.5 มม. และน้ำหนัก 131.2 กรัม หน้าจอแสดงผลหลักแบบ TFT LCD ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล ขนาด 2.7 นิ้ว ส่วนหน้าจอรองขาวดำขนาด 1.77 นิ้ว

ใช้หน่วยประมวลซีพียูแบบ Quad Core ความเร็ว 1,3GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm QM215 Snapdragon 215 (28 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 308, RAM 4GB, หน่วยความจำภายใน 512MB, โมเด็ม X5 LTE ที่มีความเร็ว downlink สูงสุดที่ 150 Mbps และรันบนระบบปฎิบัติการ Kai OS 3.1

ติดตั้งกล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED รวมทั้งรองรับ 4G LTE with VoLTE และ RTT ซึ่งเป็นการส่งข้อความแบบเรียลไทม์ที่ช่วยให้สามารถส่งข้อความขณะโทรได้, Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.2, วิทยุ FM, ช่องหูฟัง 3.5 มม., พอร์ต USB Type-C 2.0 และแบตเตอรี่ความจุ 1,450mAh

ทั้งนี้ Nokia 2780 Flip มีให้เลือก 2 สีคือ สีแดง และสีน้ำเงิน ราคา 89.99 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 3,400 บาท และจะวางจำหน่ายที่ประเทศสหรัฐอเมริการในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้

ที่มา : Gsmarena

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/nokia-2780-flip-is-a-new-flip-phone-with-fm-radio/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=nokia-2780-flip-is-a-new-flip-phone-with-fm-radio

เปิดตัว Nokia 2780 Flip ฟีเจอร์โฟนฝาพับสุดจี๊ด รองรับ 4G ฟังวิทยุ FM ในตัว ราคาราว 3,400 บาท

หากใครที่ยังคงคิดถึงดีไซน์ฝาพับสุดคลาสสิก กับแป้นตัวเลขแบบ T9 ที่ให้ความรู้สึกหวนคิดถึงวันวานแล้วล่ะก็ HMD Global ไม่เคยทำให้ผิดหวังเพราะล่าสุดพึ่งเปิดตัว Nokia 2780 Flip ฟีเจอร์โฟนรุ่นปรับปรุงจาก Nokia 2760 Flip โดยเพิ่มสเปค และฟีเจอร์นิดหน่อย เช่นรองรับวิทยุภายในตัว ลำโพงดังขึ้น และเพิ่มสีสันสวยงาม 2 สี


 

Nokia 2780 Flip มาพร้อมกับหน้าจอ TFT ขนาด 2.7 นิ้ว ความละเอียด QVGA และจอแสดงผลรองด้านนอกขนาด 1.77 นิ้ว มีแป้นปุ่มกด T9 ขนาดใหญ่ รองรับอุปกรณ์ช่วยฟัง และมีฟีเจอร์ Real Time Text เมื่อพูดสายโทรศัพท์ ระบบก็จะเปลี่ยนเป็นข้อความตัวอักษรให้เลยทันที เรียกได้เอาใจผู้สูงอายุสุด ๆ อีกทั้งยังมีกล้องหลัง Fixed Focus ความละเอียด 5 ล้านพร้อมไฟแฟลช LED ให้ได้ใช้งานด้วย

Nokia 2780 Flip ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm 215 Mobile Platform พ่วงด้วยหน่วยความจำภายใน ROM 512MB และ RAM 4GB ซึ่งไม่แน่ใจว่าจริงมั้ย แต่ตามข้อมูลบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการระบุไว้แบบนี้ ติดตั้งมากับระบบปฏิบัติการ KaiOS 3.1 เหมือนเช่นเคย

แบตเตอรี่มีขนาด 1,450 mAh สแตนด์บายได้นานสูงสุด 18 วัน แถมยังถอดเปลี่ยนแบตได้ และรองรับการเชื่อมต่อแบบ 4G VoLTE คุยเสียงชัด HD Voice , Wi-Fi 2.4GHz, Bluetooth 4.2 และรองรับช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. ด้วย

ฟีเจอร์เด่น ๆ ที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้คือ รองรับวิทยุ FM ในตัว ฟังเพลง MP3 ได้จากตัวเครื่อง ลำโพงเสียงดังขึ้นจากในรุ่นก่อน เปลี่ยนจากพอร์ต Micro-USB เป็น USB-Type C ให้ทันกระแสโลก มาพร้อมตัวเครื่องให้เลือก 2 สีได้แก่ สีเขียว และสีแดง

สเปค Nokia 2780 Flip

  • หน้าจอหลัก : TFT 2.7 นิ้ว ความละเอียด QVGA 320 x 240 พิกเซล
  • หน้าจอรอง : 1.77 นิ้ว ความละเอียด QQVGA 160 x 128 พิกเซล
  • ระบบปฏิบัติการ : KaiOS 3.1
  • CPU : Qualcomm 215 Mobile Platform
  • RAM : 4 GB
  • ความจุ : 512GB
  • กล้อง : 5 MP Fixed Focus + LED Flash
  • การเชื่อมต่อ :
    – Bluetooth 4.2
    – Wi-Fi 802.11 b/g/n (2.4 GHz)
    – GPS/AGPS
    – HAC M4/T4 (รองรับอุปกรณ์ช่วยฟัง)
    – แจ็กหูฟัง 3.5 มม
    – USB Type-C
  • แบตเตอรี่ : 1,450 mAh ถอดเปลี่ยนได้

Nokia 2780 Flip เปิดราคามาที่ 89.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3,400 บาท โดยจะวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นที่แรก ส่วนในไทยไม่มีข้อมูลว่าจะนำเข้ามาขายหรือไม่ แต่ถ้านำเข้ามาขายจริง ๆ ก็ถือเป็นมือถือที่ดีสำหรับผู้สูงอายุเลยทีเดียว

 

ที่มา: GSMArena, Nokia

from:https://droidsans.com/nokia-2780-flip/

Nokia X30 5G มือถือจอ AMOLED 90Hz กล้อง 50MP มี OIS รับประกันอัปเดต Android 3 รุ่น

Nokia เปิดตัวมือถือ 5G รุ่นใหม่สเปคน่าสนใจ นั่นคือ Nokia X30 5G มากับจุดเด่นที่หน้าจอแบบ AMOLED รีเฟรชเรท 90Hz พร้อมชิป Snapdragon 695 และกล้องหลังคู่ 50MP กับระบบชาร์จไวทันใจ แถมยังรับประกันอัปเดต Android ให้ 3 รุ่นด้วย เริ่มวางขายแล้วในประเทศโซนยุโรปและสหราชอาณาจักร โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 519 ยูโร หรือราว ๆ 19,200 บาท

Nokia X30 5G ใช้หน้าจอพาเนลแบบ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2400) รีเฟรชเรท 90Hz อัตราส่วน 20:9 ความสว่างสูงสุด 700 nits แถมยังแกร่งสุด ๆ ด้วยกระจก Gorilla Glass Victus ใช้ดีไซน์แบบเจาะรูตรงกลางด้านบนสำหรับวางกล้องเซลฟี่

สเปคลื่นใช้งานสบายด้วยชิป Snapdragon 695 5G มี RAM ให้เลือกทั้งหมด 2 ขนาด 6GB / 8GB และความจุ 128GB / 256GB (ไม่รองรับ microSD) แบตเตอรี่ให้มาที่ 4200 mAh รองรับชาร์จไว 33W ใช้ระบบ Android 12 ตั้งแต่ออกจากกล่องเลย และยังรับประกันว่าจะได้รับการอัปเดตยาว ๆ ไปอีก 3 รุ่นด้วย

กล้องหลังให้มา 2 ตัว คือกล้องหลักความละเอียด 50MP (f/1.9) มีระบบกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide ความละเอียด 13MP (f/2.4) มุมกว้าง 123° และกล้องเซลฟี่ความละเอียด 16MP (f/2.4)

สเปค Nokia X30 5G

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2400) รีเฟรชเรท 90Hz ครอบด้วย Gorilla Glass Victus
  • CPU : Snapdragon 695 5G
  • RAM : 6GB / 8GB
  • ความจุ : 128GB / 256GB (ไม่รองรับ microSD)
  • กล้องหลังคู่
    – กล้องหลักความละเอียด 50MP (f/1.9) มีระบบกันสั่น OIS
    – กล้อง Ultrawide ความละเอียด 13MP (f/2.4) มุมกว้าง 123°
  • กล้องหน้า : 16MP (f/2.4)
  • การเชื่อมต่อ : 5G, WiFi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, BT 5.1, NFC
  • มีวิทยุ FM ในตัว
  • สแกนนิ้วใต้จอ
  • มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น : IP67
  • แบตเตอรี่ 4300 mAh รองรับชาร์จไว 33W
  • ระบบ Android 12
  • ขนาด / น้ำหนัก : 7.99 x 158.9 x 73.9 มม. / 185 กรัม

Nokia X30 5G เริ่มวางจำหน่ายแล้วในโซนยุโรป ราคาเริ่มต้นที่ 519 ยูโร หรือประมาณ 19,200 บาท (อาจจะดูแพงไปหน่อย แต่ถ้าเทียบกับบ้านเราแล้วภาษีบ้านเค้าจะแพงกว่าประมาณ 20-30% ครับ) ส่วนจะวางขายที่ประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้รึเปล่า ต้องรอติดตามกันต่อไป

 

ที่มา : Nokia

from:https://droidsans.com/nokia-x30-5g-europe-unveiled/